คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ขอโทษ
04
.
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น
เรียวสุเกะตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่กลางห้องนั่งเล่น.... และไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ทุกคนในบ้านก็นอนเรี่ยราดกองกันอยู่ในห้องนั่งเล่นนี้ทั้งหมดในสภาพที่ไม่ดูนัก .... ขาขวาของอิโนะคุงพาดอยู่บนหลังของฮิคารุคุงที่นอนคว่ำอยู่ ในขณะเดียวกันก็มีหัวของยูโตะเกยอยู่บนนั้นด้วย ....ส่วนทาคาคิคุงนอนกอดหมอนแน่นเหมือนเด็กเลยทีเดียว สงสัยจะนึกว่าเป็นคุซาป๊งล่ะมั้ง .....ในบรรดาคนทั้งหมดนี่ดูเหมือนจะมีเคโตะคุงที่นอนได้เป็นผู้เป็นคนที่สุดแล้ว
เขารู้สึกหนักหัวเอามากๆ จำได้ว่าเมื่อคืนซัดแอลกอฮอล์เข้าไปพอสมควร เลยลุกขึ้นมา ตั้งใจจะหาอะไรดื่มให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง .... แต่ขาเจ้ากรรมดันไปสะดุดกับท่อนขาเรียวยาวของใครสักคนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
“ขอกาแฟแก้วนึงสิ” ฮิคารุเดินหัวยุ่งตามเข้ามาในครัว ตายังปรือแบบคนยังไม่ตื่นดี
“เมื่อคืนนี่เล่นเอาเหนื่อยเลยนะยามะจัง” เคย์เดินตามหลังฮิคารุโผล่เข้ามาอีกคน
“เหนื่อย?...เหนื่อยอะไรกันเหรอ”
“อ้าว ยามะจังลืมหรือว่าซึนกันแน่ เมื่อคืนนี้ใครล่ะไปเมาหัวทิ่มอยู่บนดาดฟ้า นี่ถ้าเคโตะไม่ไปเจอจะเป็นยังไงนะ” เคย์ที่กำลังเล่าเพลินๆ หันไปมองหน้าเรียวสุเกะอีกที ก็พบว่ามีเครื่องหมายเควชชั่นมาร์กอยู่เต็มหน้า
“จำไม่ได้เลยเหรอ”
“.......” เรียวสุเกะส่ายหัวตอบอย่างจนปัญญา
“สงสารยูยะจังเลยน้า โดนเข้าไปขนาดนั้นลืมไม่ลงแน่ๆ” ฮิคารุหยิบถ้วยกาแฟที่เพิ่งชงเสร็จ แล้วเดินออกไป ทิ้งปมปริศนาเอาไว้
“เอ๋....”
“อย่าลืมไปขอโทษมันด้วยล่ะ” เคย์อาศัยจังหวะที่เรียวสุเกะกำลังใช้ความคิดและหันไปทางฮิคารุ คว้ากาแฟถ้วยที่สองได้แล้วเดินจากไปพร้อมทิ้งท้ายเอาไว้ให้คิดตามเช่นเดียวกัน
“นั่นมัน...ของผม” ไม่มีประโยชน์ที่จะทักท้วงสินะ... นี่เขาควรจะเตรียมกาแฟไว้เผื่อคนที่เหลือดีมั้ยนี่ จะได้ไม่มีมือสามสี่ห้ามาฉกไปอีก... -_-;
.......ขอโทษอะไรกันล่ะ ในเมื่อยังไม่รู้เลยว่าตัวเองทำอะไรลงไป.........
.......แต่ฟังแล้วมันดูเลวร้ายมากแน่ๆ.......
แง..... ทำไงดี
เรียวสุเกะเดินวนไปวนมาพลาง ทึ้งหัวตัวเองไปพลางอยู่บนระเบียงชั้น2 ของบ้านด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน ..... เขาพยายามคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่คิดให้หัวแตกตายยังไงก็คิดไม่ออก
..........เมื่อคืนเขาทำอะไรลงไปกันนะ!!..............
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับทาคาคิคุงด้วยล่ะ!!!!
..
อ๋า...... คิดไม่ออกโว้ยยยยยย!!!!!!!!!!
เคโตะเดินถือถ้วยชาออกมาที่ระเบียง หวังจะสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า แต่เห็นเรียวสุเกะเดินไปเดินมาเหมือนกำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่จึงทักออกไป
“ทำอะไรอยู่น่ะ ยามะจัง”
“เคโตะคุง.....” เรียวสุเกะหันหลังขวับ ทำหน้าซาบซึ้งเหมือนเจอพระมาโปรดอย่างไรอย่างนั้น
“อะไร ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้น”
“เคโตะคุงอยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ใช่ไหม? เล่าให้ผมฟังหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรลงไปเหรอ?” ร่างเล็กพุ่งเข้าไปจู่โจมคำถามใส่เคโตะไม่ยั้ง จนร่างสูงตกใจเดินถอยหลังหนีพลางประคองแก้วไว้ไม่ให้ตกแตก
“ใจเย็นๆสิ นั่งก่อน .....นายจำไม่ได้เลยเหรอ” เคโตะพาร่างเล็กมานั่งบนม้านั่งริมระเบียงด้วยกัน
“ฮื่อออ” เรียวสุเกะพยักหน้ารับด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“... คืองี้นะ.........”
แล้วเคโตะก็เล่าเรื่องเมื่อวานตั้งแต่ที่ร่างเล็กเมาไม่รู้เรื่อง แล้วเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า จนเจอเข้ากับยูยะ .... เรียวสุเกะหลับตาและคิดภาพตามไปด้วย ความทรงจำที่ขาดๆหายๆไปในตอนแรกก็ค่อยๆถูกรื้อฟื้นขึ้นมา เหมือนมีใครมาฉายเทปรีรันให้ดูเป็นฉากๆ
หลังจากเจอกับยูยะที่นอนอยู่แล้วอะไรต่อนะ ....เหมือนอยากจะถามอะไรซักอย่าง แต่ลมในท้องมันตีสวนขึ้นมาทำให้เกิดอาการอยากอาเจียร แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนเราก็เสียหลักล้มลงไปจูบพื้นแล้วก็สำรอกออกมาชุดใหญ่สินะ หลังจากนั้นก็รู้สึกโล่งสบายแล้วก็หลับไป.......
.....เอ้ะ! เดี๋ยวนะ.... จูบพื้นเหรอ? จำได้ว่ามันนิ่มนวลกว่านั้นนี่นา....
.......ถ้ามันไม่ใช่พื้น แล้วมันจะเป็นอะไรไปได้ นอกเสียจาก...
“รุ่นพี่ยูยะ!!!!”
“จำได้แล้วเหรอ” เคโตะถึงกับสะดุ้งในพลังเสียงของคนตัวเล็ก
“แฮ่..คิดว่านะฮะ” เรียวสุเกะยิ้มเขินๆ เมื่อนึกออกแล้วว่าตัวเองทำอะไรน่าอับอายลงไปบ้าง
“อืม ก็ดีแล้ว รีบๆไปขอโทษมันซะ ....เมื่อวานท่าทางจะช็อคน่าดูเจอคนอ้วกใส่ขนาดนั้น”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
...............................
...................
.........
เรียวสุเกะกลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้งก็พบว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นแล้ว....
....น่าจะตื่นกันหมดแล้วล่ะนะ
“ยูโตะคุง....เห็นทาคาคิคุงไหม” ร่างเล็กถามยูโตะที่เดินผ่านมาพอดีและกำลังจะขึ้นบันไดไป
“นายจะตามไปทำอะไรยูยะอีกหรือเปล่า” ยูโตะหรี่ตามองเรียวสุเกะด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจ...... เมื่อคืนเขาก็เป็นคนหนึ่งที่เดินตามเคโตะขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้วเห็นเหตุการณ์ ด้วยความตกใจจึงวิ่งลงไปตามฮิคารุกับเคย์ขึ้นมาช่วยแบกร่างแข็งทื่อของยูยะกลับบ้านมา
“ผมจะไปขอโทษเค้าน่ะ”
“ไม่รู้ว่ายูยะมันหายช็อครึยังอะนะ แต่ตอนนี้น่าจะกำลังอาบน้ำอยู่ในห้อง” แม้ยูโตะจะยังคงไม่วางใจแต่ก็มีน้ำใจช่วยบอกทางให้
“ขอบคุณนะยูโตะ”
.
.
เรียวสุเกะเดินหอบถาดสีเงินที่บรรจุถ้วยข้าวต้ม และน้ำผลไม้เข้ามาในห้องยูยะ(หรือที่จริงก็เป็นห้องของเขาด้วย)อย่างระมัดระวัง ..... ได้ยินเสียงน้ำดังออกมาจากทางห้องน้ำ สงสัยคงจะอาบน้ำอยู่อย่างที่ยูโตะบอกไว้ เขายืนลังเลตัดสินใจอยู่ว่าจะเอาไปวางไว้ตำแหน่งไหนถึงจะดี
...... ถ้าจะเอาไปวางบนโต๊ะทำงาน .... กระดาษโน๊ตเพลงทั้งหลายแหล่ที่กองอยู่ระเกะระกะเกลื่อนโต๊ะนั้นจะทำให้เขาโดนด่าซ้ำเอาเสียเปล่าๆ
หรือจะเอาไปวางไว้หน้าห้องน้ำดี พอเปิดประตูออกมาจะได้แปลกใจ .... แต่ไม่ดีกว่า เผื่อยูยะทะเล่อทะล่าเดินออกมาไม่มองทางจะเหยียบชามแตกแถมเท้าพองอีกต่างหาก
อ้ะ...นึกออกแล้ว .....เอาแบบนี้ดีกว่า
.
.
“เฮ่ย!!!!!” ร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเปิดประตูออกมาเจอเรียวสุเกะที่นั่งคุกเข่าอยู่ในท่าเทพบุตร ส่งยิ้มแห้งๆรออยู่หน้าห้องน้ำ พร้อมกับมีถาดอาหารวางอยู่ข้างตัว
“คือว่า.... ผมเอานี่มาให้ แล้วก็อยากจะขอโทษเรื่องเมื่อวานน่ะ” เรียวสุเกะคว้าถาดมาถือแล้วยื่นไปตรงหน้ายูยะแบบกล้าๆกลัวๆ
“เหอ...ไอ้ที่เหมือนอ้วกเด็กนี่อะไร” ยูยะชะโงกดูของที่อยู่ในถ้วยอย่างใคร่รู้
“ข้าวต้มกุ้งฮะ” เรียวสุเกะยิ้มตอบแกนๆ..... ใจร้าย ....เขาอุตส่าห์ลงมือทำให้เองกับมือเลยนะ!
“อ้วกเด็กชัดๆ... นี่นายคิดจะมาขอโทษฉัน หรือจะมากวนอารมณ์ฉันกันแน่ ห๊า!!!!! ออกไป ฉันไม่อยากกิน!”
“แล้วทาคาคิคุงอยากกินอะไรล่ะ” ยูยะชะงักไปนิดแล้วทำท่าคิดก่อนจะโพล่งวลีสั้นๆออกมาภายในเวลาไม่กี่วินาที
“พิซซ่า”
“งั้นก็โทรสั่งเอาละกัน เดี๋ยวผมตามไปจ่ายให้”
ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรไกลไปกว่าอยากจะตามใจเพื่อไถ่บาปที่ทำไว้จริงๆ
.
.
เรียวสุเกะนั่งกลืนน้ำลายลงคออย่างสงบบนโซฟานั่งเล่นในห้อง หลังจากที่แทบหลั่งน้ำตาเมื่อตอนควักเงินจ่ายค่าพิซซ่าไปเมื่อครู่..... ในขณะที่ทาคาคิ ยูยะ กำลังสวาปามพิซซ่าหน้าซีฟู้ดชิ้นที่แปด และหัวเราะเอิ๊กอ๊ากดูรายการทีวีอย่างมีความสุข
ตาเรียวจดจ้องไปที่กล่องพาสต้าอบชีสที่วางอยู่ข้างกัน....สลับกับมองยูยะที่ยังจดจ่อกับจอโทรทัศน์ .... พอสบโอกาสก็ยืดมือไปหาพาสต้าอย่างช้าๆเนิบนาบ ..... อ่า.... ชีสไหลเยิ้มน่ากินเป็นที่ซู้ดดดดดดดด ... ขอกินสักนิดคงไม่ว่ากันนะ
เพียะ!!!!!!!!!!
“โอ้ย!!” เรียวสุเกะร้องออกมาด้วยความเจ็บ เพราะถูกตีมืออย่างแรงทันทีที่แตะสัมผัสโดนกล่องพาสต้า
“ฉันเห็นนะว่านายทำอะไร... อย่าคิดจะกินของๆฉันเชียว นายซื้อให้ฉันเป็นการไถ่โทษไม่ใช่เหรอ”
“พาสต้านี่มันแถมมากับโปรโมชั่นไม่ใช่เหรอ...ทาคาคิคุงอยากกินพิซซ่านี่น่า เพราะงั้นกล่องนี้เดี๋ยวผมช่วยกินเอง”
“ไม่ต้อง!...ฉันเป็นคนสั่ง เพราะฉะนั้นฉันต้องรับผิดชอบหมดอยู่แล้ว”
โครกกกกกก~!!
เสียงแปลกประหลาดดังขึ้นขัดบทสนทนา ... เรียวสุเกะยิ้มแห้งๆ เขายังไม่ได้กินอะไรเป็นเรื่องเป็นราวนอกจากกาแฟเมื่อเช้า ไม่สิ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ยังไม่มีอะไรหนักๆตกถึงท้องเลย ... แล้วไหนจะต้องมานั่งดูคนกินของอร่อยๆล่อหน้าล่อตาอีก ...ท้องมันก็เลยร้องประท้วงให้เจ้าของมันอายขายขี้หน้าเอา
“แล้วไอ้อ้วกเด็กของนายล่ะ”
“ตอนที่เดินออกไปก็โดนฮิคารุคุงที่กำลังหิวจัดแย่งไปกินแล้ว”
“ของแบบนั้นมีคนแย่งด้วยเหรอ” เรียวสุเกะมองค้อนอย่างเคืองๆ
....ถึงตอนนั้นจะโดนฮิคารุพูดใส่ว่า
‘รสชาติมันก็ดีอ่ะนะ แต่บางทีหน้าตามันก็สำคัญ... พยายามเข้าล่ะ’ ไอ้คำพูดเชิงเห็นอกเห็นใจนั่นมันอะไรกัน!?
“น้ำลายยืดแล้ว” ร่างสูงพูดขึ้นมาพร้อมกับชี้ไปที่ริมฝีปาก เรียวสุเกะตกใจหลุดออกจากภวังค์รีบเอามือเช็ดตามคำบอก
“ไหน..ไม่เห็นมี”
“ล้อเล่นน่ะ” พูดเรื่องล้อเล่นหน้าตายแบบนั้น ใครจะไปรู้ล่ะ!
“นายอยากกินเหรอ” ยูยะถามเขาอีกครั้ง ขณะที่กำลังเริ่มต้นเปิดกล่องพาสต้า ใช้ส้อมม้วนเส้นขึ้นมาคำใหญ่
“ขอกินนิดเดียวก็ได้...นะ ทาคาคิคุง~” ลงทุนอ้อนเลยนะเอ้า..... ตาเรียวกระพริบปริบๆขอความเห็นใจ
“ฝันไปเหอะ” ร่างสูงอ้าปากกว้างรับม้วนพาสต้าก้อนใหญ่ในมือนั้นด้วยหน้าตายั่วโทสะ ก่อนจะหันกลับมาใช้เท้าเขี่ยรีโมทเข้ามาใกล้เพื่อเปลี่ยนช่องทีวี .... เรียวสุเกะมองดูการกระทำของยูยะด้วยอาการอ้าปากค้าง
..............ไอ้บ้านี่มัน.......กวนประสาทชะมัดเลย!!!!!!!!.....................
..........ขอกันดีๆแล้วไม่ให้ใช่มั้ย.........
.......คอยดูนะ......
เรียวสุเกะนั่งนิ่งรอโอกาสที่ร่างสูงกำลังตั้งใจดูเอเคบีในชุดกะลาสีละลานตาในรายการเพลง...ตาเรียวจับจ้องทุกอิริยาบถของยูยะไม่ว่าจะเอนหลังพิงกับพนัก ขยับไปคว้าหมอนที่วางประดับโซฟามากอดไว้ ยกแข้งขายาวๆขึ้นมาพาดบนโต๊ะ เลื้อยตัวไปตามแนวยาวของโซฟาหรือว่าเอื้อมมือไปหยิบแก้วโค้กขึ้นมาจิบเบาๆดับกระหาย.....
นี่ล่ะโอกาส .....
ยูยะที่กำลังอิ่มหนำสำราญ เพลิดเพลินใจจนพลั้งเผลอและวางใจจนไม่ได้ระแวดระวังอะไรเท่าไหร่นัก ดังคำสุภาษิตกฎหมายที่ว่าไว้ว่า ผู้ประมาทเลินเล่อย่อมเป็นผู้เสียเปรียบ ..... เรียวสุเกะที่คำนวณทางหนีทีไล่ไว้พร้อมแล้วกำลังคิดทำการใหญ่ ......ใช้ความว่องไวและปราดเปรียว คว้ากล่องพาสต้าที่หมายตาไว้มาได้แล้ววิ่งเข้าไปหลบภัยในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
กว่าที่ยูยะจะรู้สึกตัวและตะเกียกตะกายตัวเองขึ้นมาจากท่านอนเกียจคร้านได้นั้น แมวขโมยก็กินจนอิ่มท้องไปแล้ว ..... ร่างสูงโมโหลมออกหู กัดฟันกรอด เค้นชื่อเรียกด้วยเสียงดังราวกับพายุ
“เรียวสุเกะ!!!!!!!!!!!!!!!”
.................................
.....................
.........
To be con
talk : พาร์ตนี้ดูไม่มีอะไรนอกจากทาคายามะจะแย่งของกินกันเนอะ 55+
พูดถึงคอมเม้นตอนก่อนๆ รู้สึกจะมีคนสงสัยเรื่องคุซาป๊ง ...ว่ามันคือแมงอะหยัง55+ ตกลงมันก็คือชื่อของตุ๊กตาหมีที่ทากะจังติดนั่นเอง จริงๆในเรื่องก็บอกไว้นะ ลองย้อนไปอ่านดีๆ ... แต่ไม่เป็นไร สงสัยอะไรถามได้เลยค่ะ ยินดีตอบ
นอกจากนี้แล้ว พีซังยังคงครองใจคนอ่านได้อยู่เสมอ
ปล2. แฮปให้ผู้ชายวันชาติอเมริกาทั้ง 2 คนด้วยค่า ...มีความสุขมากๆนะ
ปล.สุดท้าย เป็นประเด็นฮอต ไม่พูดไม่ได้สินะ... เป็นกำลังใจให้น้องริวนะ ถึงจะทำอะไรไม่ได้นอกจากรอข่าวจากป๋า แต่เราก็เป็นคนนึงที่อยากให้จัมพ์มี 10 คนตลอดไป^^
ความคิดเห็น