ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ]… Mushi Man …[Okamoto Keito x Nakajima Yuto]

    ลำดับตอนที่ #4 : Part 3

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 54


     

                                 [3]

     

    .

    .

     

    นายกลับมาทำไม... ต้องการอะไรหลังจากที่ถูกเพื่อนทิ้งซึ่งๆหน้าไปแล้ว ผมก็หมดทางจะหลีกหนี จึงได้แต่ร้องถามไปอย่างที่คิด

    ฉันติดสัญญาไว้กับเด็กคนนึงแต่คำตอบที่ได้รับมันทำให้ผมโมโหจริงๆ

    ....แล้วเจอรึยังล่ะเด็กคนนั้นน่ะ

    เจอแล้ว...แต่ว่าเด็กคนนั้นไม่ยอมคุยกับฉัน

    แสดงว่านายไปทำเรื่องเลวร้ายไว้กับเขาน่ะสิ เขาถึงไม่คุยด้วย เหมือนผมไง....  

     

    ร่างหนามองใบหน้าหวานงอง้ำ จมูกโด่งรั้นบ่งบอกถึงความเอาแต่ใจเชิดขึ้น แขนยาวกอดอกนิ่ง ไม่ยอมมองแม้แต่ไรผมของคู่สนทนา .... เหมือนเดิมเลย งอนท่าเดียวกับเมื่อก่อนเด้ะ จริงๆแล้วก็น่ารักอยู่หรอกนะแต่ว่าอดที่จะขำออกมาไม่ได้ .... กาลเวลาไม่ทำให้นายเปลี่ยนไปเลยจริงๆ

    ขำอะไร

    นายยังขี้งอนเหมือนเดิมเลย

    ใครขี้งอนกัน ไอ้หัวเม่น อ้ะ... หลุดพูดชื่อนี้อีกแล้ว

     

    นายเคยคิดไหมล่ะว่าทำไมฉันถึงกลับมาเรียนที่เมืองนี้แทนที่จะไปโตเกียว ฉันต้องรบกับพ่อแทบตายกว่าท่านจะยอมให้มาเรียนม.ปลายต่อที่นี่

    จะย้ายไปอยู่ที่ไหนก็เรื่องของนายสิ

    ถ้าฉันไปขึ้นมาจริงๆแล้ว กลัวว่าเด็กขี้งอนแถวนี้จะร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกน่ะสิ

    ใครจะไปร้องไห้ให้นายกัน

    ใครก็ไม่รู้ล่ะ แต่ฉันก็อยากจะบอกเหมือนกันว่ามีเด็กหัวเม่นคนนึงที่น้ำตาไหลไม่หยุดตั้งแต่หน้าประตูบ้านจนถึงนาริตะ ตั้งแต่ที่รู้ว่าจะต้องย้ายกลับอังกฤษกะทันหันโดยที่ไม่มีเวลาแม้แต่จะไปบอกลาใคร

     

    .................

    เลิกงอนฉันได้หรือยัง ยูโตะริน ...ฉันคิดถึงนายนะ

     

    แล้วเรื่องเด็กคนนั้นของนายล่ะ

    เด็กคนไหนอีกล่ะ ฉันก็รู้จักแต่เด็กดื้อ เด็กขี้งอนคนนี้คนเดียวเนี่ยแหละ

     

    ยูโตะยังคงทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

    แล้วทำไมไม่ติดต่อมาเลย

    ตอนนั้นฉันยังเด็ก ที่อยู่ เบอร์โทรฉันก็ยังจำไม่ได้ แถมวันนั้นที่ไปก็มัวแต่ร้องไห้ ไม่ทันได้นึก รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนถึงลอนดอนแล้ว ฉันถึงได้รู้ว่าพลาดอะไรหลายๆอย่างไป สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ก็มีแต่ชื่อแล้วก็หน้านายเท่านั้นแหละ

     

     

    ฟังคำตอบแต่ละข้อดูเอาเถิด ยาวลากไส้แถมยังกระชากใจคนฟังทุกช็อตอีกต่างหาก ยูโตะรู้สึกว่าตัวเองตัวลีบเล็กลงๆไปทุกที

     

    แล้วสัญญาที่ว่า คือสัญญาอะไร หน่วยตาคมของเคโตะฉายแววเศร้าลงไปเล็กน้อย แต่ยังใจเด็ด ทิ้งเป็นปมปริศนาให้คนหัวช้าได้กลับไปขบคิดเล่นๆว่า

     

    เรื่องนั้น รอให้เจ้าของคำสัญญาเป็นคนนึกได้เองดีกว่า

     

    .

    .

     

     

    ((((22:30 PM))))

     

     

    ตุ้บ..ตุ้บ......ตุ้บ

     

    เสียงของอะไรสักอย่างกระแทกเข้ากับประตูกระจกตรงระเบียงอยู่พักใหญ่ ทำให้เรียวสุเกะอดที่จะลุกไปดูด้วยความสงสัยไม่ได้

    เมื่อเปิดประตูระเบียงออก ก็พบกับไดกิในชุดนอนลายจุดสีชมพูอ่อนที่ยืนยิ้มหวานอยู่อีกฟากหนึ่งของระเบียงกำลังจะปากระดาษที่พับเป็นจรวดส่งมาให้อีกลำหนึ่ง .... เจ้าของเสียงรบกวนยามวิกาลนี้ส่งเสียงหัวเราะเหอะๆออกมา เมื่อสายตาผมไปหยุดอยู่ที่ขยะกระดาษอีกจำนวนหนึ่งที่กองอยู่เกลื่อนระเบียงจากเสียงที่ได้ยินก่อนหน้านี้ ....

     

    บ้านผมกับไดจังอยู่ติดกัน นอกจากนี้แล้วระเบียงห้องของเรายังหันหน้าเข้าหากันแบบที่สามารถใช้เป็นทางลัดข้ามไปมาหากันได้ (แต่เราก็ไม่ใช้มันบ่อยๆหรอกนะ นอกเสียจากมีเหตุจำเป็นจริงๆ ...เพราะว่ามันสูงงงง และเราทั้งสองคนก็ไม่โปรดที่สูงกันสักเท่าไหร่)... และนั่นก็อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เค้ากับผมสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ

     

    ไดกิก้มลงไปเขียนอะไรสักอย่างบนจรวด ก่อนจะส่งมันข้ามฝั่งมาให้ผม

     

    เนื้อความเขียนด้วยตัวหนังสือแบบเด็กอนุบาลสั้นๆง่ายๆได้ใจความว่า

     

     

    //คืนนี้ขอนอนด้วยคนนะ//

     

     

     

    จนแล้วจนรอด สุดท้ายไดกิก็ได้หอบหมอน ปีนระเบียง เสี่ยงชีวิตข้ามมาทางห้องผมจนได้ ...

     

    จะมาค้างก็บอกกันดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องสร้างงานสร้างอาชีพให้กันดึกๆอย่างนี้เลย เรียวสุเกะบ่นออกมา ขณะที่ตัวเองกำลังเก็บกวาดเศษกระดาษที่ระเบียงลงถังขยะให้เป็นที่เป็นทาง.... ส่วนเจ้าคนสร้างเรื่องน่ะเหรอ กำลังจัดที่นอนให้ตัวเองอย่างไม่อนาทรร้อนใจใดๆ

     

    หลังจากจัดการกับขยะบนระบียงเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินกลับเข้ามาในห้อง ปิดประตูล็อกกลอนระเบียงเรียบร้อย... เห็นว่าไดจังยังวุ่นวายเลือกตุ๊กตาบนเตียงผมมาเล่นก็เลยล้อเลียนไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น

    ไง..พ่อหนุ่มเนื้อหอม วันนี้นึกครื้มอะไรล่ะถึงอยากปีนระเบียงมาตอนดึกๆเนี่ย

    ก็...อยากนอนกอดยามะจัง ไดกิพูดไปก็กอดรัดตุ๊กตาแพนด้าในมือแน่น ...เพิ่มความน่าเชื่อถือ

    ไม่ให้กอด

    ง่า....ก็กลัวจะมีใครบางคนงอนเพราะต้องเดินกลับบ้านคนเดียวนี่

    กลับคนเดียวอะไร ยูโตะก็อยู่

    แล้วเคโตะก็ตามไป.... นี่อย่าลืมว่าตอนนายนัดแนะกับเจ้านั่นฉันก็อยู่ด้วยนะ คนอย่างเคโตะไม่น่าจะไร้น้ำยาขนาดที่ปล่อยให้ยูโตะกลับบ้านกับนายหรอกมั้ง

    อ้อเหรอออแกล้งลากเสียงยานคางกวนอารมณ์คนพูด ....รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวานอีกครั้ง แน่นอนว่าไดกิรู้ตัวว่ากำลังถูกกวนโมโห จึงคว้าตัวเรียวสุเกะมาฟัดเสียให้หายหมันเขี้ยว

    พอแล้วไดจัง จั๊กกะจี้เรียวสุเกะเบี่ยงตัวหนีออกมาด้วยความบ้าจี้

     

    งั้น...มานอนซุกอกป๋าซะดีๆมา.... ไดกิเก็กเสียงเข้ม วางมาดเป็นอาเสี่ย วางแขน ตบที่นอนรอ ซึ่งไม่ได้เข้ากับหน้าตาน่ารักๆของเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย...... เรียวสุเกะหัวเราะคิกคักแต่ก็ยอมคลานดุ๊กดิ๊กเข้ามานอนซบอกเพื่อนสนิทแต่โดยดี.... ไม่นานนักทั้งสองก็เข้าสู่ห้วงนิทรา

     

     

    ……………………….

    ………………….

    …………

     

     

    เช้าวันต่อมาที่แสนสดใส อบอวลไปด้วยบรรยากาศของเทศกาลแห่งความรัก ..... สำหรับเหล่าเด็กผู้หญิงแล้ว ดูเหมือนพวกเธอจะเห็นมันเป็นวันสำคัญแห่งชาติละมั้ง ถึงได้วิ่งวุ่นวาย ส่งเสียงวี๊ดว้ายกันตั้งแต่เช้า

     

    จริงๆมันก็ทำให้บรรยากาศโรงเรียนดูครึกครื้นดีเหมือนกันนะ

     

     

     อ่ะ..แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์เรียวสุเกะโยนถุงใส่ช็อคโกแลตลายน่ารักแถมยังผูกริบบิ้นสวยงามให้ผมทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะเรียน

    ว้าว ยามะจังทำเองเหรอผมสำรวจสิ่งของที่ได้มาอย่างรวดเร็วด้วยดวงตาเป็นประกาย... ก็นี่เป็นของชิ้นแรกที่ได้รับในปีนี้เลยนี่นา

    อือ... ช่วงนี้ของลดราคาก็เลยซื้อมาทำดูเฉยๆแม้ยามะจังจะทำหน้าเฉยเหมือนให้ไปตามมารยาทก็ตาม แต่ผมเชื่อว่ายามะจังจะต้องตั้งใจและใส่ใจกับมันมากๆ เพื่อจะมอบให้กับคนที่ยามะจังรักทุกคน..... ทุกคน?

     

    ฉันก็ได้นะไดจังชูถุงช็อคโกแลตหน้าตาคล้ายๆกันกับผม เพียงแต่ของไดจังนั้นใหญ่กว่ากัน.....นิดหน่อย

    เอ๋... ทำไมของไดจังได้อันใหญ่กว่าล่ะด้วยความเห็นแก่กิน ทำให้ผมลืมคิดถึงความสัมพันธ์อันคลุมเครือของทั้งสองคนไปเสียสนิท

    แน่สิ ก็ฉันเป็นคนพิเศษของยามะจังนี่นาคนพิเศษแบบไหนอีกล่ะสองคนนี้ ยูโตะรินไม่ไหวจะเก็ท เลยเบี่ยงประเด็นไปสงสัยเจ้าของถุงช็อคโกแลตที่วางเหลืออยู่แทน

     

    แล้วสองอันนี้ของใครล่ะ

    ของเคโตะ ...แล้วก็ของรุ่นพี่อีกคนนึง

    เห.... ยามะจังแอบชอบรุ่นพี่คนไหนหรอ? หรือว่า..... คนที่ให้สตรอเบอร์รี่เมื่อวานแน่ๆเลยใช่มั้ยล่า~”

    อืม...ก็แค่อยากจะขอบคุณเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรเพราะแก้มขาวๆของยามะจังรึเปล่า เขินอะไรนิดหน่อยก็ขึ้นสีเลือดฝาดจางๆเสียแล้ว

     

    แล้วยูโตะล่ะ เตรียมไว้หรือยังอ้าว.... ทำไมไดจังเบี่ยงประเด็นมาหาผมซะเฉยๆงี้ล่ะ

    ทำไมต้องเตรียมด้วยล่ะ ฉันไม่ใช่พวกผู้หญิงนะผมก็พูดไปตามที่คิด

    ฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิง ยามะจังทำเสียงเย็นใส่ผมทันที .....อ่า..ผมลืมคิดถึงตรงนี้ไป

    ฉันหมายถึงว่า ฉันไม่ได้เก่งเรื่องพวกนี้เหมือนยามะจังซะหน่อย

    อา.... สงสารเคโตะจังเลยน้าถึงมันจะคล้ายเป็นประโยคบอกเล่าธรรมดาๆ แต่ผมฟังแล้วมันแลดูเหมือนกำลังโดนกดดันยังไงก็ไม่รู้สิ

    เจ้านั่นป๊อปอยู่แล้ว ไม่เห็นจะน่าสงสารตรงไหนเลย เดี๋ยวก็มีผู้หญิงมาให้ของขวัญเยอะแยะเองนั่นแหละ

     

    ของขวัญมากมาย ต่อให้กองเป็นภูเขาก็ไม่เท่าของที่ได้รับจากคนสำคัญแค่คนเดียวหรอกนะ ยูโตะ

     

    ไดจังพูดทิ้งท้ายไว้ด้วยใบหน้าจริงจัง ก่อนจะแยกตัวขึ้นไปเพราะใกล้เวลาเข้าเรียน .... ยะมะจังเองก็สะบัดหน้าหันกลับไปนั่งหลังตรงเข้าที่อย่างไม่แยแสผมอีกเหมือนกัน....

     

    .....นี่ผม ... ทำอะไรผิดไปเหรอ......

     

    .

    .

     

     

    กรี๊ดดดดด รุ่นพี่ทาคาคิ รุ่นพี่มิอุระ

    รุ่นพี่นี่เท่ห์สมคำร่ำรือจริงๆเลย

    มาทำอะไรที่ตึกปี 1 เนี่ย

     

    เสียงกรีดร้องของเด็กผู้หญิงดังขึ้นเรื่อยๆไปตามทางที่หนุ่มรุ่นพี่คนดังทั้งสองก้าวเดิน

     

     

    น้องยามาดะอยู่ในห้องหรือเปล่า

    ยะ...อยู่ค่ะ

    ขอบใจนะ

     

    ร่างสูงก้าวอาดๆเข้าไปในห้องด้วยท่าทางมั่นใจ รอยยิ้มเท่ห์และสายตาที่แน่วแน่จดจ้องไปยังเป้าหมายเพียงจุดเดียว ท่ามกลางสายตาของคนทั้งห้องที่หยุดการเคลื่อนไหวทุกสิ่งและคอยลุ้นตามจนแทบหยุดหายใจ ....

     

    .....จะเป็นใครกันนะ คนที่รุ่นพี่คนดังลงมาหาถึงห้องขนาดนี้....

     

     

    จนเมื่อร่างสูงเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเรียวสุเกะที่กำลังคุยเล่นอยู่กับเพื่อน

     

    น้องยามะจัง พี่ขอเวลาคุยด้วยแปบนึงสิ

    ครับ?”

     

    .

    .

     

    เอ่อ...พี่ชื่อทาคาคิ ยูยะ อยู่ปี3”

    ผมรู้จักชื่อรุ่นพี่อยู่แล้วครับ ..ก็รุ่นพี่เป็นคนดังของโรงเรียนนี่นา ใครๆก็รู้จักทั้งนั้นล่ะ

    ....พี่ก็ไม่ได้ดังถึงขนาดนั้นหรอก.... คล้ายๆจะโดนชม ร่างสูงก็เลยทำตัวไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้า เกาหัวแก้เขิน... ทำใจอยู่สักครู่ก็เงยหน้าขึ้นมาเกริ่นถึงธุระของวันนี้ คือว่า....ที่เรียกออกมาวันนี้ น้องรู้ใช่ไหมว่ามันหมายถึงอะไร

     

    ครับ แต่ผมอยากฟังจากปากรุ่นพี่มากกว่า

     

    ฟังประโยคก๋ากั่นไม่กลัวคนจากรุ่นน้องแล้ว รุ่นพี่ก็ได้แต่ข่มความเขินอายกลืนมันกลับลงคอไป.... สูดลมหายใจเรียกแรงฮึกเหิมจากส่วนลึกสักส่วนในหัวใจ

     

    .......พี่ชอบน้องยามะจัง

    คบกับพี่ได้มั้ย

     

    ความในใจที่ร่างสูงเอื้อนเอ่ยออกมานั้น เต็มไปด้วยความเคอะเขินที่แฝงแววของความจริงจัง ทำให้เรียวสุเกะที่เผลอไปมองสบหน่วยตาคมใส แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจที่มีให้เข้า ...ใบหน้าขาวก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

     

    แต่ว่าผมยังไม่รู้จักตัวตนของพี่เลย ถ้าจะคบกันเลยเห็นทีว่าคงจะไม่ได้

     

    งั้น...ขอโอกาสให้พี่ได้เอาชนะใจน้องได้มั้ยล่ะ

     

    ถ้าแบบนั้นละก็คงไม่เป็นไรมั้งครับ

    ....คำตอบแบบนี้ ภาษาชาวบ้านคงเรียกว่าให้ความหวัง ...แต่เรียวสุเกะก็พอใจที่จะทำแบบนั้น..... เขาไม่ใช่คนใจแข็ง แล้วก็ไม่ใช่คนที่ปิดโอกาสคนอื่น ....แถมบางทียังอาจจะช่วยให้บางสิ่งที่ยังคลุมเครือ กระจ่างชัดมากขึ้นก็ได้

    กลับกันคำตอบของเรียวสุเกะก็ทำให้ร่างสูงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างจริงใจ ความดีใจแผ่ซ่านออกมาจนสามารถรู้สึกถึงได้ ราวกับว่าร่างสูงมีออร่าวิ๊งๆกระจายอยู่ทั่วร่างเลยทีเดียว

     

     

    ของขวัญเมื่อวาน ชอบมั้ย

    เป็นของรุ่นพี่จริงๆด้วย.... ขอบคุณมากๆนะครับ ผมชอบมากๆเลย.... อ้ะ แล้วก็นี่.... ผมทำมาฝากเป็นการขอบคุณน่ะครับ ....รุ่นพี่อย่าเพิ่งดีใจ ผมให้ตามมารยาทเท่านั้นเอง

    ไม่ต้องห้ามพี่หรอก.... เพราะแค่นี้พี่ก็ดีใจแล้วล่ะ ขอบใจนะร่างสูงของยูยะลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆด้วยความเอ็นดูเป็นล้นพ้น... เรียวสุเกะสะดุ้งไปนิดด้วยความไม่คุ้นเคย แต่ก็อดจะรู้สึกแปลกๆในใจไปด้วยไม่ได้   

     

     

    .

    .

     

     

    สิ้นเสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนไม่ทันไร สองหนุ่มรุ่นพี่ก็โผล่เข้ามาหารุ่นน้องสุดป๊อปในระยะนี้ถึงห้องเรียน ..... คนหนึ่งเป็นขาประจำที่เทียวรับเทียวส่งกันอยู่ทุกวัน กับอีกคนหนึ่งเป็นขาจรที่ปกติไม่ค่อยมาเดินเตร่โชว์ตัวอยู่แถวนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ดูจากท่าทางแล้ว คงจะได้กลายเป็นแขกขาประจำของห้องไปในวันใดวันหนึ่งซะแล้วล่ะ

     

    ยามะจัง// น้องยามะจังด้วยเหตุอันใดไม่ทราบ ที่ดลบันดาลใจให้สองเสียงที่มีคีย์สูงต่ำต่างกันอย่างชัดเจนร้องเรียกขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

     

    กลับบ้านด้วยกันนะร่างสูงของยูยะ อาศัยความยาวขาที่มากกว่า ก้าวประชิดถึงตัวเรียวสุเกะที่ยืนเบิกตาค้างกับเหตุการณ์รถไฟชนกันเปรี้ยงปร้างได้ก่อน จึงชิงบทพูดไป

    ................ไดกิตามมาหยุดยืนข้างร่างสูง ...มือเรียวกอดอกตัวเองแน่น ใบหน้าน่ารักนั้นมีแววเคร่งขรึมจริงจัง บ่งบอกให้รู้ว่าต้องการคำอธิบายร่ายไปถึงต้นสายปลายเหตุของแขกไม่ได้รับเชิญคนนี้

     

    โทษทีนะ ยังไม่ได้แนะนำเลย .... นี่อาริโอกะ ไดกิ เป็นเพื่อนสนิทผมเอง ส่วนนี่ ทาคาคิ ยูยะ เค้าเป็นรุ่นพี่อยู่ปีสามน่ะ

    เหมือนจะยังตอบไม่ตรงสิ่งที่ไดกิอยากจะรู้ ร่างเล็กจึงยังไม่คลายปมที่หัวคิ้ว

     

    ยินดีที่ได้รู้จักนะ ....ไดจังแต่อีกฝ่ายหาได้สังเกตถึงอารมณ์ของฝ่ายตรงข้ามไม่ ...ยูยะเปิดรอยยิ้มอ่อนโยนสานสัมพันธ์ด้วยทันที

    ครับ... เช่นกันครับ รุ่นพี่ยูยะ หนุ่มรุ่นพี่สะดุ้งไปเล็กๆที่ถูกอีกฝ่ายเอาคืนด้วยการเรียกชื่อ

     

    เอ่อ งั้นเราก็กลับบ้านด้วยกันทั้งสามคนเลยละกันเนอะ ได้ใช่มั้ยครับรุ่นพี่ เนาะไดจัง

    ก็นายว่าอย่างนั้นนี่ไดกิไหวไหล่แบบไม่สนใจ

    ไม่เป็นไรหรอก กลับด้วยกันสามคนก็ได้ ท่าทางจะครื้นเครงดีมิสเตอร์คิดบวกยังคงมองสถานการณ์ไม่ออก จึงยิ้มแย้มชักชวนอย่างเป็นมิตร

     

     

    ครืด ครืด....

    แรงสั่นในกระเป๋ากางเกงที่ดังมาอยู่สักพักทำให้ร่างสูงคว้ามันขึ้นมาเปิดดูหน้าจอ ...เมื่อเห็นว่าเป็นใครโทรมาจึงขอปลีกตัวเองออกไปคุยอย่างเป็นกิจจะ

     

    ..... ฮัลโหล มีอะไร ยูยะใช้คำพูดแบบกันเอง เพราะปลายสายไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นฮารุมะนั่นเอง

     

    ////ยังจะถามอีก ฉันสิต้องเป็นฝ่ายถาม.... ว่าไงล่ะ เรียบร้อยมั้ย////

     

    อื้อ ขอบคุณที่รอ...แต่นายกลับบ้านก่อนได้เลย ฉันจะไปส่งน้องเขา

     

    ////อืม... ให้ฉันตามไปส่งนายมั้ย////

     

    เฮ้ย บ้านตัวเอง กลับถูกที่ถูกทางอยู่หรอกน่า ไม่ต้องเป็นห่วง 

     

    ////งั้น เจอกันพรุ่งนี้////

     

    .

    .

    .

     

    มาแล้วๆ ยามะจัง ไดจัง รอฉันนานมะ...อะ

     

    ว่างเปล่า ..... ห้องเรียนที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน

    หมายความว่าไงอ่า .... ยูโตะรินโดนทิ้งงั้นเหรอ

     

    .....ยามะจังใจร้ายที่สุด ... แค่ไปเข้าห้องน้ำแค่นี้ทิ้งกันได้ เห้อะ.....

    ยูโตะสะบัดบ็อบเชิดคองอนดินฟ้าอากาศไปเรียบร้อย ... ตั้งใจเดินไปหยิบกระเป๋าเตรียมกลับบ้านอย่างเดียว ก็เลยไม่สังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตอีกร่างหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างประตูตั้งแต่ทีแรก

     

    ยูโตะริน

    เอ้ะ นายหัวเม่น ยังไม่กลับเหรอผมถามกลับไปด้วยความแปลกใจ

    ก็รอนายอยู่นั่นแหละ” …. เอ้ะ รอผมน่ะเหรอ .....

    เห รอฉันทำไม

    ฉันเห็นยามะจังมีรุ่นพี่สูงๆหน้าหล่อๆมารับไปพร้อมกับไดจังน่ะ แล้วยามะจังก็เดินมาฝากฝังนายไว้กับฉัน...อุตส่าห์หลงดีใจว่านายเม่นมารอกลับบ้านพร้อมกันเพราะเห้นว่าโดนเพื่อนทิ้ง ที่ไหนได้...เพราะยามะจังฝากไว้เองน่ะเหรอ ... น่าน้อยใจได้อีกเหอะ

     

    ฝากอะไร ทำไมต้องฝาก ...ฉันกลับบ้านคนเดียวได้รู้น่า...ว่าทำตัวเด็ก แต่มันอดไม่ได้จริงๆนี่นา

    แต่ถึงยามะจังจะไม่ฝาก ฉันก็ตั้งใจจะไปส่งนายที่บ้านอยู่แล้ววันนี้.... เอ้ะ ว่ายังไงนะ...

    เอ๋....

    กลับได้แล้ว  ป่ะเหมือนนายเม่นจะเขินนิดๆนะที่พูดออกไป

    เดี๋ยวสิ คือ...

    หรือนายจะต้องไปจับแมลงที่ไหนอีก

    บ้า...อย่ามาล้อนะ ฉันโตแล้วเลิกเล่นแมลงแล้วเหอะ…..วันนี้ฉันตั้งใจจะไปซื้อของต่างหาก

    ....งั้นฉันไปเป็นเพื่อน

     

    ......ตอนนี้ผมไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้อีกแล้ว......

     

    .........ผมไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มได้........

     

    ..........ผมกำลังมีความสุขมากเกินไป ^^.........

     

     

     

    To be con  

     

    Talk :  โอคาจิม่าดูเหมือนจะมีความสุขเกินหน้าเกินตาคู่อื่นนะ 5555+  ส่วนฝั่งเธอกับเขาและรักของเรา(?)ก็ดูวุ่นวายหนอ …… ถ้ายังไม่ลืมกันไปก็ช่วยติดตามฟิกเรื่องนี้ต่อไปด้วยนะค้าาาาาาาา ....ขอโทษที่อัพช้า (และคงจะช้าต่อไป) แต่มาต่อแน่ๆ รับรองว่าจะเข็นให้จบน๊ะ

    ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านหรือให้ความสนใจน้า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×