คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : พุ่งชน
-3-
"มาหาเรียวจังหรือจ้ะ ..."
หญิงวัยกลางคนที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่ของยามะจัง โผล่หน้าออกมาทักทาย.. เมื่อร่างสูงเพรียวนายหนึ่งมายืนยิ้มปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่หน้าบ้าน
"อ่ะครับ สวัสดีครับ ผม.. นากายามะ ยูมะ เป็น..เพื่อนยามะจังน่ะฮะ "
"งั้นเข้ามารอข้างในมา ข้างนอกมันหนาว ... เดี๋ยวแม่ขึ้นไปปลุกเรียวจังให้" คุณแม่ของเรียวสุเกะยิ้มอย่างใจดี ชักชวนชายหนุ่มให้เข้ามาในบ้าน... ซึ่ง.. มันก็เป็นโอกาสที่ดี ... จริงม้ะ...
"งั้น...รบกวนด้วยครับ"
ผมรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกแฮะ ที่ตัดสินใจสารภาพไปเมื่อวาน ... ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านยามะจังล่ะ
เหตุผลที่ผมมานั่งเด๋อด๋าอยู่ที่นี่ ก็เพราะว่าวันนี้ผมอาสามารับเขา และเราจะไปโรงเรียนพร้อมกันเป็นครั้งแรก^^
... จะว่าไป แม้สถานะเราจะเปลี่ยนไปแล้ว ผมก็ยังอดรู้สึกเขินๆไม่ได้แฮะ...
ผมนั่งสำรวจอะไรต่อมิอะไรในบ้านไปเรื่อยเปื่อยระหว่างการรอคอย ... มองดูรูปที่ตั้งโชว์ไว้ตามที่ต่างๆอย่างเพลินตา .. แหม่... ยามะจังตอนเด็กๆนี่น่ารักจริงๆ ...
"อ้อ นากายามะคุงจ้ะ ตามสบายนะ เดี๋ยวเรียวจังก็คงลงมาน่ะ"
"ขอบคุณครับ^^"
แต่รอจนแล้วจนเล่า ร่างบางที่ปรารถนาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลงมาให้พบหน้า หรือว่าเราจะมาเช้าเกินไป.... ก็มันตื่นเต้น จนนอนไม่หลับนี่น้า ...
"เอ้.. ป่านนี้เรียวจังยังไม่ลงมาอีก สงสัยแอบหลับต่อแน่เลย ... นากายามะคุง ขึ้นไปปลุกเองเลยล่ะกันนะ แม่ต้องไปซื้อของ คงอีกนานกว่าจะกลับ .. ฝากบอกเรียวสุเกะล็อคประตูบ้านก่อนไปโรงเรียนด้วยนะจ้ะ"
เอ๋~~~~ เอ๋~~~~~เอ๋ ...... ปลุกยามะจัง .... ก็ต้องขึ้นห้องยามะจัง .... สมองเบลอๆ สั่งการให้ผมพยักหน้าตอบรับทั้งหน้าแดงๆอย่างนั้นแหละ..... แล้วคุณแม่ผู้น่ารักก็ออกจากบ้านไปบัดเดี๋ยวนั้น
..... เหอๆ เอาล่ะสิ... บ้านทั้งหลัง มีกันอยู่ 2 คน .... แค่คิดก็เขินจนแก้มแดงปลั่งแล้ว
...... แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็เดินอาดๆขึ้นมายืนเก้อๆอยู่หน้าห้องของยามะจังจนได้ ....
ผมเคาะประตูอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ก็ไม่มีวี่แววถึงสิ่งมีชีวิตในนั้น จึงตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้าไป ...มือเรียวสั่นด้วยความตื่นเต้นที่แทบระงับไว้ไม่อยู่ ...
เป็นดังคาด ... ร่างบางหลับใหลอย่างเป็นสุขใต้ผ้าห่มผืนใหญ่... เป็นภาพที่ทำให้เห็นแล้วเกิดอาการอิจฉาผ้าห่มขึ้นมาตงิดๆ ...
"ยามะจัง...ตื่นได้แล้วครับ"
สะกิดๆปลุก .. ยามะจังยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ... ร่างเล็กยังคงหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวต่อไป
"ยามะจัง~ ตื่นเถอะ" ผมเริ่มส่งเสียงดังขึ้น และเขย่าตัวเรียวสุเกะจนโยกไปทั้งตัว
..... ได้ผล ตื่นจนได้ ... หน้าตาตอนตื่นเหมือนเด็กประถมเลย ให้ตาย... ดวงตาปรือๆ หัวชี้โด่ชี้เด่ ยุ่งฟูไปหมด ... สะลืมสะลือลุกขึ้นมานั่งอยู่นิ่งๆ ... รู้ตัวรึเปล่าน่ะว่าตื่นแล้ว ...
"อรุณสวัสดิ์...ยามะจัง"
เขาหันมามองหน้าผมงงๆ ... ขมวดคิ้วยุ่ง ทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนจะชี้หน้าผม แล้วร้องออกมาเสียงดัง ...
"นาย!!!!"
"นากายามะครับ" แนะนำตัวเสียหน่อย เผื่อคนสวยเขาจะลืมชื่อ
"มาได้ยังไงน่ะ" ตากลมโตเปล่งประกายสุกใส จ้องมองมาที่ผมอย่างสงสัย ..... คงจะตื่นเต็มตาแล้วล่ะสิ ผมล่ะไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆ ...
"ก็.. ที่บอกว่า.. จะมารับ"
อ้อมแอ้มบอกเหตุผลไปด้วยความประหม่า และยิ่งเก้อเขินหนักขึ้นไปอีกเมื่อตระหนักได้ว่า ช่วงเวลานี้มีแค่เรา 2 คน เท่านั้น .... โฮกกกฮากกกก~!!!!!!!
"อ้อ นั่นสิ โทษทีลืมไป.... มันยังไม่ชิน ..ไม่โกรธนะ"
"อืม ..งะ..งั้นผมไปรอข้างล่างนะ"
"อืม ตามสบายนะ รอแป๊บนึง.."
เฮ้อ ... เหนื่อย.... หัวใจ..หัวใจ... หัวใจผ๊มม.... มันเต้นแรงจนน่ากลัวเกินไปแล้วววว .....
................................
..................
.........
อากาศยามเช้า แสนสดใส แต่ก็เย็นสบายน่านอนต่อเป็นบ้า ..... ร่างสูงโปร่งเดินเข้าห้องเรียนมาด้วยอาการหาว เหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ........ แต่ก็นะ จะให้นอนได้ไงล่ะ เมื่อวาน อยู่เล่นเกมส์กับเจ้าไดกิถึงตี 1 ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นสนุกอะไรนักหนา ถึงมีความรู้สึกว่า อยากให้ความรู้สึกแบบนั้นอยู่ไปตลอด.....
"เบื่อจังเลยเนอะ.. "
"ขวัญใจของพวกเรา มีเจ้าของไปหมดแล้วว"
"ที่สำคัญ ทำไมคนหน้าตาดี 2 คน ต้องไปกิ๊กกันเองด้วยยย โฮ~!!"
"เฮ้ย เค้าอาจไม่ได้เป็นแฟนกันก็ได้"
"โหย .. ใกล้ชิดหนิดหนมกันซะขนาดนั้น ... ถ้าไม่คิดอะไรเลยมันคงจะแปลกไปหน่อยล่ะ"
เสียงแหลมๆน่ารำคาญหูของสาวๆในห้องคงจะไม่สะดุดหูร่างสูงเท่าไร่นัก ถ้าเนื้อความมันไม่อ้างอิงมาถึงเค้า ... ซึ่งอย่างที่รู้ๆ ถึงไม่ต้องเอ่อชื่อก็น่าจะพอเดาออก .....
"พูดถึงใครกันเหรอ"
"ก็ทาคาคิคุงกับ อาริ... อ๊าา... ทาคาคิคุงงง"
ร่างสูงของยูยะมายืนยิ้มเหี้ยมอยู่ด้านหลัง โดยที่พวกเธอไม่รู้สึกตัวสักนิด...
"พูดว่าไรนะ~!"
"ป่ะ เปล่าค่ะ!!"
"ถามว่าเมื่อกี้ พูดว่าอะไรนะ!!"
"ขอโทษค่ะ!!"
"ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่ถามว่าคุยอะไรกัน~!"
"พวกเราสงสัยว่า..ง่า ..ทาคาคิคุง กับอาริโอกะคุงเป็นแฟนกันหรือเปล่า..."
สาวดวงซวยรายนั้น จำต้องคายออกมาจนได้
....นับว่าเป็นการนินทาที่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง.... เพราะว่าเจ้าตัวดันจับได้ซะก่อน ......
"อ้อเหรอ~ อยากรู้ใช่มั้ย"
"....โทษที ข้อมูลราชการ ไม่สามารถเปิดเผยได้^^"
ยูยะกระตุกยิ้มมุมปาก พอสยองขวัญพวกชอบนินทา แล้วก็หันหลังเดินกลับที่ตนเองอย่างไม่สนใจ ....
...กับ ไดกิน่ะหรอ เป็นแฟนกัน .... ถ้าเจ้านั่นยอมเป็นก็คงจะดี...
"ยูยัง~!!"
คิดถึงไม่ทันไร เจ้าตัวก็โผล่หน้ามาหาแบบเดลิเวอร์รี่ .... ใบหน้าน่ารักงอง้ำมาแต่ไกล ...
"เป็นอะไรหน้ามุ่ยแต่เช้า หืม"
"วันนี้ค้างบ้านนายนะ~!"
แป๊งง~! (เสียงปากกาจากเพื่อนร่วมห้อง(หน่วยสอดแนมข้อมูลราชการ) หล่นลงกับพื้นทันที
... จะไม่ให้ตกใจได้ไง จู่ๆก็โพล่งขึ้นมาเสียงดังจนแทบจะเป็นสักขีพยานกันได้ทั้งห้อง ... แต่ร่างบางก็หาสนใจไม่ ...
"ไปแก้มือเว้ย เกมส์นี้ฉันเคลียร์ได้ตั้งหลายสิบรอบ กลับมาแพ้นายได้ไง..." ก้มลงกระซิบสารลับใส่หูยูยะ จงใจแกล้งให้คนในห้องปั่นป่วน ... ป่านนี้จะเข้าใจกันไปถึงไหนน้อ....
"ช่วยไม่ได้ .. โปรเฟสชันแนลเฟ้ยย ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ฮะฮะฮะ... ไอ้บ้า.. หลงตัวเองชะมัด!!"
เสียงหัวเราะสอดประสานครื้นเครง จนคนที่เข้ามาทีหลังอดแซวไม่ได้ ...
"ว่าไง คู่รัก... นับวันฉันยิ่งเหมือนก้างของพวกแกเข้าไปทุกทีแล้วนะ"
"ช่วยไม่ได้ ....เฮ้ย แกแล้วเรื่องน้องยามะจังว่าไงอะ~!"
"......."
ยูมะแสร้งก้มหน้าลง ทำซึมๆเซื่องๆ เงื่องๆหงอยเหงา..... แกล้งพวกมันเล่นหน่อยดีกว่า .......
"แห้วอะดิ" มองจากสีหน้าม่อยๆ เหมือนเจียมเนื้อเจียมตัวของเพื่อนแล้วก็พอจะสรุปได้.....
"ตอบรับเว้ย!! ฉันได้เป็นแฟนยามะจังแล้ว ... เมื่อกี้เพิ่งไปส่งที่ห้อง....เมื่อเช้าก็ ... อิอิ"
แต่แล้วยูมะก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มสดชื่นเหมือนดอกไม้แรกแย้ม .... ก็คนมีความรักนี่เน้ออ อะไรๆก็ดูดีมีความสุข
"อะไร!!!!!!" สองเสียงจากเพื่อนสนิทที่ไม่คิดไม่ฝันว่าคนอย่างยูมะจะไวไฟ!!!
"ก็ไปที่บ้าน .. แล้วก็ได้ไปปลุกในห้องด้วย^^"
แต่ไม่ได้บอกนะว่าบังเอิญ คุณแม่ติดธุระ เลยฝากฝังปลาย่างไว้กับแมวเชื่องๆอย่างยูมะ !!!
"เฮ้อ..." ทั้งยูยะและไดกิก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน แล้วก็นอนแผ่ไปกับเก้าอี้เหมือนๆกันโดยไม่ได้นัดหมายอีกด้วย
"อะ..อะไรวะ" สร้างความงุนงงให้กับบุรุษที่สามอย่างมาก .... ไอ้สองคนนี้มันจะกลายเป็นแฝดกันซักวันไหมเนี่ย
"...เห็นแกเป็นฝั่งเป็นฝาซักทีฉันก็ดีใจ..."
ไดกิพูดยิ้มๆ ท่าทางสบายๆเหมือนกับหมดห่วงไปกับเรื่องรักของเพื่อนจอมขี้อายคนนี้....
คราวนี้ล่ะ ถึงตาความรักของตัวเองที่ต้องสะสางเสียที ..... ปล่อยให้มันค้างคาใจมานาน .....
"อืม ถึงจะเฝ้ามองมานานแค่ไหน ... แต่ถ้าไม่แสดงออกให้เค้ารู้ล่ะก็ คงไม่มีทางสมหวัง"
"นั่นสิ"
สองคนมองหน้ากัน เหมือนจะพยายามสื่ออะไรให้อีกฝ่ายได้รู้ คนกลางที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ได้แต่มองหน้าคนนู้นคนนี้สลับกันไปมาแบบมึนๆ ..... แต่แล้วก็ .....
"นาย
ลงอีหรอบเดิม.... เป็นเหมือนทุกที หยอกล้อเล่นกันเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ข้างในใจที่มันเต้นรัวนี่ล่ะ .... นายมองหน้าฉันด้วยสายตาแบบนั้น หมายความว่าไง ไดกิ~
"ไม่มองก็ได้ ไอ้หล่อ!!"
.
.
.
"เน่... นายจะแกล้งๆแพ้ซักตา 2 ตานี่มันจะตายไหม!!"
ไดกิแทบจะเขวี้ยงจอยสติ๊กทิ้งด้วยความไม่พอใจ! ..... ก็เล่นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ลิ้มลองความหอมหวานของการชนะเลยสักครั้ง!!!!
"หึ แน่จริงก็เอาชนะฉันให้ได้เองเซ่~"
"เออๆจำไว้"
ผ่านไป 30 นาที
"ไม่เล่นแล้ววว!!!"
ไดกิล้มตัวลงนอนแผ่ไปกับพื้นห้อง หน้าจอทีวีที่อีรุงตุงนังไปด้วยอุปกรณ์เครื่องเล่นแบบครบครัน รวมไปถึงถุงขนมมากมายที่กินกันตอนเล่นแล้วก็กองๆไว้
"แพ้แล้วพาลนี่หว่า"
"โอ้ย.. ไม่ชนะเลยสักกะตา นี่มันน่าสนุกมากหรือยังไง"
"สนุกสิ~! ฉันสนุก" ยูยะที่นั่งข้างๆ แกล้งโน้มตัวลงมาพูดใกล้ๆ เล่นเอาหัวใจคนโดนแกล้งเต้นไม่เป็นส่ำ ..... การทำงานของเลือดสูบฉีดรุนแรงจนแสดงผลที่ใบหน้าอย่างชัดเจน .....ระยะห่างที่ใกล้... ใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกันขนาดนี้
... อันตรายไปหรือเปล่าหนอ สำหรับหัวใจ ....
ร่างสูงแนบริมฝีปากกับริมฝีปากอิ่ม ....จูบนุ่มนวลที่ปล่อยให้ใจนำพา ...... ไม่ลึกซึ้ง ทว่าอ่อนหวานเนิ่นนาน .... ไม่มีอาการขัดขืนจากร่างบาง....... ตากลมโตเพียงแต่จ้องมองคนตรงหน้าอย่างตื่นๆเท่านั้น
..... เกิดอะไรขึ้นยูยะ.... นายจูบฉันเพราะอะไร ~?
"ยูยัง~!"
"ขอโทษไดกิ!!...ฉัน..ฉัน~"
ร่างสูงเหมือนเพิ่งจะได้สติกลับมาก็ลนลาน พูดติดๆขัดๆไปหมด......
ทำไงดี .... จูบไปแล้ว .... เผลอไปจนได้ .... แล้วนายจะโกรธจะเกลียด จะเข้าใกล้ฉันเหมือนเดิมไหม~
"ฉันชอบนาย ยูยะ"
ตัดสินใจแล้ว เป็นไงเป็นกัน .... จูบของนายปลุกตัวตนของฉันขึ้นมา .... พุ่งชนไปเลย! จะกลัวอะไร ..... สิ่งล้ำค่าที่ใครๆก็ปรารถนาน่ะ มันก็ต้องแลกมากับความกล้า ....กล้าที่จะคว้ามันมา .... แม้ว่าบางที อาจต้องกลายเป็นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถครอบครองมันได้ก็ตามที.......
"ใช่ ฉันก็ชอบ... เอ้ะ~!!"
"ก็ได้ยินอยู่แล้ว ไม่ต้องให้พูดซ้ำได้ไหม"
ร่างบางแสร้งทำหน้ายุ่ง แต่ก็ทำได้ไม่เนียนนัก แก้มแดงปลั่งกับอาการไม่กล้าสบสายตามันก็ฟ้องอยู่ ยิ่งทำให้ยูยะได้ใจเข้าไปใหญ่ ......
"ฉันรักนายยยย~!!"
ร่างสูงใหญ่โถมเข้าสวมกอดร่างบางตรงหน้า ....รอยยิ้มกว้างขวางอย่างปิดไม่มิด สีหน้าที่แสดงถึงความดีใจออกมาเต็มที่...... ความรู้สึกของเราตรงกันแล้วนะ ........
"พูดให้มันจริงจังหน่อยไม่ได้รึไงฟะ เจ้าบ้านี่!"
"เอาเหอะน่า... หยวนๆหน่อยไม่ได้รึไง ... นะ~.."
"ประสาท!!"
....................................
..................
..........
เสียงออด บอกเวลาพักนั้น ช่างเป็นเสียงสวรรค์สำหรับเด็กนักเรียนยิ่งนัก โดยเฉพาะที่มันมาดังเอาตอนที่อาจารย์กำลังจะอ้าปากสั่งการบ้านพอดิบพอดี ...เด็กนักเรียนผู้แสนน่ารักก็รีบร้อนออกจากห้องกันแบบ ไม่ทันให้อาจารย์ตั้งสติ คิดอะไรได้ทัน ...
"นั่งยิ้มอะไรอยู่ได้ ... ตั้งแต่เช้าแล้วนะ"
ยูริเดินตรงมาที่โต๊ะเพื่อนสนิท หมายจะชวนไปกินข้าวเหมือนทุกวัน ... แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของตนนั้นยังนั่งอมยิ้มมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างมีความสุข ... เหมือนไม่สนใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นซักเท่าไหร่ ...
"อารมณ์ดี^^"
"ทำไม ใครมาบอกรักหรือไง ... ยิ้มยังกะคนบ้า"
ลองเดาสุ่มไปเรื่อยเปื่อย ... วินิจฉัยอาการผิดปกติของเพื่อน เอ... อากาศมันก็ไม่ร้อนจัดนี่หว่า หรือว่าเมื่อวานมันจะโดนหมาบ้ากัดกันแน่!! ....
"อืม"
แต่คำตอบที่ได้รับ ทำให้ยูริตาลุกวาว ... หยุดความคิดพิสดารเมื่อครู่นี้ลงทันใด ....
"เรื่องจริงเรอะ!! แล้วทำไมนายถึงไม่บอกท่านยูริคนนี้!! นายยังเห็นฉันเป็นเพื่อนนายอยู่หรือเปล่า ยามะจัง~!!"
"ก็ลืม” เจอคำตอบไร้ความรับผิดชอบเข้าไป ยูริก็เลยโมโหหนักเข้าไปใหญ่ .... รวมทั้งอาการน้อยอกน้อยใจที่เพื่อนไม่เห็นความสำคัญ TOT
"ลืม!! เรื่องสำคัญขนาดนั้น นายบอกว่าลืม~!!!!"
"ก็.. เอาเหอะน่า ตอนนี้นายก็รู้แล้วนี่นา"
"ใคร? เจ้านั่นเป็นใคร" ถามแบบเชิดๆ ยืนกอดอกเบือนหน้าหนีแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ทั้งที่จริงแล้ว อยากรู้ใจแทบขาด .... แต่ไม่ได้หรอก กำลังงอนอยู่ เดี๋ยวเก๊กแตก!!!!!
"ยามะจัง~!"
ร่างสูงที่คุ้นตา ดึงเอาความสนใจของคนทั้งคู่ให้หันไปมอง .... ยูมะโผล่แต่หัวออกมาทำลับๆล่อๆอยู่ตรงประตูพร้อมกับรอยยิ้มซื่อ แบบที่ทำให้คนเห็นอดจะยิ้มตามไม่ได้ ..... แล้วมันก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ .....
น่าแปลก เค้าเริ่มหลงรักรอยยิ้มซื่อๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
"ห้ะ! อย่าบอกนะว่าเจ้านี่" ยูริที่รู้สึกว่ากำลังจะโดนขโมยซีน รีบร้องออกมาก่อน
"อืม.." ถึงปากจะยังตอบคำถามไร้สาระของยูริอยู่ แต่ความสนใจมันไปหยุดที่ร่างสูงหน้าประตูนั่นซะแล้ว
"เฮ้ยย~! เป็นไปไม่ได้... ก็เจ้านั่นออกจะป๊อดขนาดนั้นนี่!!"
"นากายามะ ไม่ใช่เจ้านั่น! นายเลิกเรียกแฟนฉันเสียๆหายๆ ก่อนที่นายจะได้กินข้าวคนเดียว!"
เรียวสุเกะตอบขณะที่รีบเก็บข้าวของบนโต๊ะลงกระเป๋า กลัวว่าใครบางคนจะรอนาน ... ยูริรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกันออกไปทุกทีๆ เพราะนอกจากยามะจังจะไม่สนใจตนแล้ว ยังออกตัวปกป้องเจ้านั่นอีกด้วย!!!
"ไม่~!ฉันยอมไม่ได้ ยามะจัง!!! นายจะทิ้งฉันไปกับเจ้านั่นจริงๆเหรอ!!" ดวงตาใสแจ๋ว เพิ่มจริตมารยาทั้งเกวียนใส่ลงไปเป็นครั้งสุดท้าย ... ช้อนสายตาขึ้นมองอ้อนๆเพื่อเรียกร้องความสนใจกลับคืนมา ..... แต่ทว่า
"ฉันเตือนนายแล้ว ... ไปล่ะนะ โชคดีเพื่อน~" ไม่ได้ผลแฮะ~
"เดี๋ยวเซ่ ยามะจังงงง นายจะทำอย่างงี้กับท่านยูริผู้แสนดีอย่างนี้ไม่ได้นะ!!!!!!" โวยวายไปเท่านั้น เรียวสุเกะไม่มีทีท่าจะหันกลับมาสนใจเพื่อนตัวเล็กคนนี้อีกเลย .....
"ยามะจัง~!!!!"
ยูริกระแทกตัวนั่งลงบนโต๊ะเรียน(ของยามะจัง)อย่างขุ่นเคือง ..... เริ่มใช้สมองอันชาญฉลาดคิดแล้วว่า
แต่ก่อนเรามีกันอยู่ 2 คน => พอยามะจังมีแฟน => ยามะจังก็ต้องไปกับแฟน => 2 - 1 = 1 แล้ว 1 นั้นที่เป็นเราล่ะ? เห้ยย!!! หมายความว่า ฉันต้องเป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารักหรอเนี่ยยย~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
"เพื่อนยามะจังไม่เป็นไรหรอ ทิ้งไว้แบบนั้น"
"ให้มันบ้าไปซักพัก เดี๋ยวค่อยกลับไปง้อ.... ตอนนี้พูดอะไรมันก็ไม่ฟัง ตั้งหน้าตั้งตางอนลูกเดียว"
ร่างสูงยิ้มน้อยๆ มองหน้าเรียวสุเกะที่ทำหน้ายุ่ง ไม่ต้องถามก็พอจะรู้ .... ถึงปากจะว่าอย่างงั้น แต่ในใจก็เป็นห่วงเจ้าหนูนั่นไม่ใช่น้อยล่ะ ^^ ยูมะเลยหันไปส่งซิกให้ยูยะกับไดกิที่ยืนรออยู่ไม่ไกลนัก เป็นเชิงว่า จัดการเจ้าตัวเล็กนั่นให้ด้วย ....
.
.
.
ภายในโรงอาหาร ผู้คนมากมายกำลังวุ่นวายกับการเลือกซื้ออาหาร ....บรรยากาศครึกครื้น อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข .....ยูมะพาเรียวสุเกะเดินตรงมาที่โต๊ะๆนึง .... ที่นั่นมีเพื่อนๆรออยู่แล้ว รวมทั้งมีตัวแถมที่ยังนั่งกอดอกทำหน้าบูดไม่เลิกรา
"ชี่จัง~"
"ใครชี่จัง ฉันชื่อ จิเน็น ยูริ!!" บรรยากาศเริ่มมาคุ คนวงนอกเริ่มไซโคกันเอง
.... ไม่มีใครกล้าพูดอะไรขัดขึ้นมา .... นอกเสียจาก ...
"อ่า น้องยามะจ้ะ พี่ชื่อไดกินะ ส่วนเจ้านี่ชื่อยูยะ"
"ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก^^ " ค่อยยังชั่ว ... เรียวสุเกะผละจากการไซโคเพื่อน หันมายิ้มหวานให้คนทั้งสอง ยูมะเห็นเป็นโอกาสดีรีบขอตัวออกมา
"ยามะจัง เดี๋ยวผมไปซื้อข้าวให้นะ"
"อ้ะ ไม่เป็น..." กำลังจะปฏิเสธอยู่แล้วเชียว แต่เห็นร่างสูงพยักเพยิดไปทางยูริที่นั่งหน้าเชิดอยู่ ก็ยิ้มออกมาน้อยๆอุบอิบขอบคุณเบาๆ แต่ถึงจะเล็กๆน้อยๆแค่ไหน ร่างโปร่งก็ยิ้มดีใจได้เหมือนได้เงินล้านเลยทีเดียว .....
"นายก็ไปซื้อข้าวให้ฉันบ้างสิ"
ไดกิหันมาหายูยะที่นั่งนิ่งๆไซโคยูริ ที่ทำตัวน่าหมันไส้นัก(ในสายตายูยะ) ไหนๆก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วนี่นา^^
"จำเป็นป่ะ" ตอบซะไร้อารมณ์ ... ไดกิคิ้วกระตุกนิดหนึ่ง ไอ้นี่หนิ~!
"เว้ย~! เจ้นท์หน่อยดินะๆ ยูยังนะ~"ใบหน้าหวานซุกซบบนท่อนแขนแข็งแรง ตากลมโตใสแจ๋วช้อนขึ้นมองปริบๆ เอาให้ตายๆ ... อยากทำเมินกันดีนัก หึ
"เออๆ อย่าอ้อนนักดิ ไปให้แล้วๆ" และแล้วยูยะก็ทนไม่ได้ ลุกเดินตามเพื่อนไปทั้งยังแก้มแดงเรื่อ..... ขืนอยู่นานกว่านี้สติแตกกันพอดี .... ใครสั่งใครสอนให้อ้อนซะจนน่าฟัดขนาดนั้น!!!!!
"ชี่ แกจะเมินฉันไปถึงเมื่อไหร่"
"ไม่รู้!"
"แกยังเป็นเพื่อนฉันอยู่นะเว้ย ใช่ว่าจะรักแกน้อยลงซะเมื่อไหร่"
"นี่ น้องชี่จัง ... เพื่อนเราน่ะ มีแฟนแล้วนะ จะให้เค้ามาตามสนใจแต่นายคนเดียวมันไม่ได้อีกแล้ว .... ไม่อยากให้เพื่อนเรามีความสุขหรอ" เห็นว่าปล่อยให้คุยกันเอง คงไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ ตราบใดที่เจ้าหนูนั่นยังคงงอนไม่ลืมหูลืมตาอยู่แบบนี้ ..... ไดกิเลยขอยื่นมือยื่นหน้าเข้าไปแทรก หวังว่าคงไม่ทำให้ทะเลาะกันหนักกว่าเดิมนะ
"ก็มันยังทำใจไม่ได้นี่" แต่เสียงอู้อี้ๆที่ตอบรับกลับมา พร้อมอาการก้มหน้างุดๆ เหมือนรู้ว่าตัวเองผิด ไดกิก็นึกเอ็นดูขึ้นมา .... ยังไงก็เด็กล่ะน้า~
"อืม นายเองก็รีบหาแฟนเข้าสิ จะได้ไม่เหงา" สิ้นประโยคนั้น ยูริก็หูตั้งขึ้นมา จ้องไปที่ไดกิด้วยสายตาเยิ้มๆ เปลี่ยนอารมณ์ขึ้นมาทันควัน.... ก็งี้แหละ เด็ก... โกรธง่ายหายเร็ว ....
"งั้นพี่เป็นแฟนผมม้ะล่ะ" น้ำเสียงทีเล่นทีจริง แต่ก็แฝงไปด้วยความหวังนั้น ...ไดกิได้แต่ยิ้มออกมา เพราะพอจะเดาเหตุการณ์หลังจากนี้ได้
"ลามปาม... นั่นแฟนฉัน!!" ยูยะที่เดินมาถึง พร้อมกับยูมะพอดี ก็เลยบรรจงบรรเลงมะเหงกลงบนหัวเหน่งๆของยูริจนเจ้าตัวร้องลั่น...
"โอ้ย! เจ็บ!!!" พอเงยหน้าขึ้นไปมอง คนตัวสูงที่ยืนทำหน้าเหี้ยม ก็ไม่กล้าโวยวายอะไรอีก ได้แต่หดคอกลับเข้ามาเหมือนเดิมอย่างเจี๋ยมเจี้ยม .... ว้า แห้วซะแล้ะ .....
"น้องชี่ พี่ซื้อข้าวมาฝากด้วย มากินด้วยกันนะ" ยูมะวางจานข้าวตรงหน้ายูริพร้อมกับยิ้มใจดีเหมือนเดิม... แต่คราวนี้ยูริแค่เงยหน้าขึ้นเหมือนจะยิ้ม แต่ยังวางฟอร์มอยู่นิดๆ ....
"จะว่าไปแล้ว นายก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรซักเท่าไหร่น่ะนะ เพราะงั้น ฉันจะยกยามะจังให้ก็ได้..."
To be con
ความคิดเห็น