คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พี่ชายของยามะจัง
02
“โอ้โห กว้างชะมัด”
เรียวสุเกะเดินสำรวจไปรอบๆบ้าน และตื่นตาในทุกๆตารางเมตร..... ห้องกว้างขวางสะอาดสะอ้านสบายตา เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น พร้อมเครื่องใช้สารพัน ที่มองไปก็ยังหาจุดบกพร่องไม่ได้ .... เรียวสุเกะหยิบจับเครื่องใช้ไฮเทคดูอย่างสนใจ ดวงหน้าหวานยิ้มแย้มอย่างชอบใจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งนั้นจะทำให้ใครบางคนรำคาญตาเอาได้
“หึ...อย่างกับหนูตกถังข้าวสาร” ยูยะเดินมาเบียดร่างเล็กของเรียวสุเกะจนเซแซ่ดๆ พร้อมพ่นวาจาเหน็บแนมอย่างใจร้ายยกยิ้มมุมปากอย่างทุกทีแล้วเดินเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป เสียงงับบานประตูปิดท้ายนั่นดังสนั่นจนคนอื่นๆที่เดินตามเข้ามาสะดุ้งไปตามๆกัน
“อย่าไปถือสาเลยนะ ยูยังน่ะ ปากไม่ตรงกับใจ” ยูโตะเดินตามมาตบหลังเรียวสุเกะเป็นเชิงเห็นใจแล้วก็แยกตัวขึ้นบันไดชั้น2ไป
.
.
“ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วนะว่า ห้องมันเต็ม”
เคโตะพูดประโยคคล้ายๆเดิมขึ้นมาอีกครั้งกลางที่ประชุม เพียงแต่คราวนี้ลดความเป็นทางการลงโดยสถานที่หารือก็คือห้องนั่งเล่นรวมในบ้านพักของพวกเขาเอง และมียามะพีที่กำลังนั่งขัดสมาธิ เอามือกอดหมอนในมือแน่น และบู้ปากอยู่บนโซฟาหน้าทีวีด้วยท่าทางเหมือนเด็กถูกขัดใจเป็นประธานในที่ประชุม
“ใครอยู่ห้องชั้นล่างนะ” ยามะพีถามขึ้น
“ผมเอง” ยูยะตอบแบบไม่เต็มปากนัก สังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับตัวเอง
“ยูยะเองเหรอ ฉันจำได้ว่ามีห้องว่างเล็กๆในห้องนายนี่” นั่นไง มันมาแล้ว .... รอยยิ้มหวานบนใบหน้าน่ารักของท่านประธาน ......แอ๊ปเปิ้ลอาบยาพิษชัดๆ.......
“อืม...มันเคยว่าง แต่ตอนนี้...”
“ดีเลย ยามะจังไปอยู่ในห้องนั้นละกัน” ยามะพีไม่แม้แต่จะฟังให้จบประโยคก็ตัดสินใจฉับพลันไปอีกแล้ว
“นี่..ฟังกันก่อนสิ ผมบอกว่าตอนนี้มันไม่ว่างแล้ว!!” ยูยะตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห
“ยังไงก็ตาม ยามะจังจะใช้ห้องนั้นแหละ ...ไม่เป็นไรใช่มั้ย ถ้ามันจะเล็กไปนิด” ยามะพีหันไปถามเรียวสุเกะด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ที่ไหนก็ได้... จริงๆแล้วให้ผมกลับไปนอนที่บ้านก็...”
“ไม่ๆๆ ยามะจังต้องอยู่ที่นี่ นโยบายของฉันคือต้องสร้างความสมานฉันท์ภายในวง เพราะฉะนั้น นาย...ไปขนของออกจากห้องนั้นภายใน 2 วันด้วย” ยามะพีกล่อมเรียวสุเกะด้วยความนุ่มนวลและหันมาสั่งยูยะที่หน้าบูดรับคำสั่งอย่างขัดไม่ได้เสียงแข็งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“แล้วคืนนี้ล่ะครับ” เคโตะเกิดคำถามขึ้นมาอีก
“ช่วยไม่ได้น้า ก็คงต้องเบียดกันซักหน่อยล่ะ”
“เบียด?” ยูยะหันไปทางยามะพีอย่างรวดเร็วคอแทบหัก ตาเรียวรีเบิกโพลงขึ้นอย่างกับเห็นผี
“แต่ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เตียงห้องนายน่ะ คิงไซส์ไม่ใช่หรือ ยามะจังตัวเล็กนิดเดียวคงไม่กินพื้นที่นายนักหรอกนะ”....ไม่ใช่ผีสินะที่ยูยะมองเห็นอยู่ตอนนี้ คงเป็นปีศาจ... ปีศาจเป็ดซะด้วย
“เรื่องอะไรให้หมอนี่มาอยู่ห้องผม ห้องคนอื่นก็มีนี่” ยูยะท้วงเสียงอ่อน ... เพราะรู้ตัวว่าไม่มีเหตุผลที่ดีพอมาคัดค้านได้
“ห้องอื่นเค้ามีรูมเมทกันหมดแล้วนี่ ใจคอนายจะให้เพื่อนนอนอัดกัน 3 คนในห้องเดียวน่ะเหรอ ยูยัง...”
บ้านพักของพวกเขานั้นประกอบไปด้วย 3 ห้องนอนใหญ่ โดยที่ชั้นบนมี 2 ห้องใหญ่ และในแต่ละห้องนั้นก็มีห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง .... หรือพูดง่ายๆว่า ห้องหนึ่งจะอยู่ได้ 2 คน แต่ละคนจะมีห้องนอนเป็นส่วนตัวของตัวเองเพียงแต่ต้องใช้ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานร่วมกันเท่านั้น ในที่นี้ ฮิคารุกับเคย์ และ ยูโตะกับเคโตะ เป็นรูมเมทกันและพักอยู่บนชั้น 2 ทั้งหมด มีแต่ยูยะเท่านั้นที่ใช้อิทธิพลมืดครองห้องใหญ่ชั้นล่างไว้คนเดียว
“พวกมันนอนเตียงเดียวกันซะที่ไหน” แม้จะโดนบังคับให้ยอมรับคำสั่งแต่โดยดี ก็ยังอดไม่ได้แต่จะบ่นกระปอดกระแปดไม่เต็มเสียงนัก
“ยังไงก็รักกันไว้นะ ฝากดูแลยามะจังด้วย...เข้าใจมั้ย ยูยัง” ยามะพีที่คุยธุระเสร็จแล้วเตรียมตัวกลับ ก็ยังอุตส่าห์หันกลับมาย้ำยูยะอีกครั้งให้แน่ใจ
“รู้แล้วน่า..” ยูยะบอกปัดไปอย่างรำคาญ ... สายตาคมจ้องมองไปที่เรียวสุเกะที่ยังคงยิ้มบริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องรู้ราว .... เห็นแล้วมันหงุดหงิดลูกตานัก!
.
.
เย็นวันนั้นเอง
ไดกิ หอบกระเป๋าเป้ใบใหญ่เดินเข้ามาตามที่อยู่ที่ได้มาจากเรียวสุเกะเมื่อตอนกลางวัน และเพราะเป็นหวัดเลยใส่แมสปิดปากไว้ เสื้อแขนยาวและหมวกแก๊ปสีดำบนศีรษะก็ใส่ไว้กันแดด เพราะวันนี้แดดแรงทั้งบ่าย
....เคย์ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน จึงสังเกตเห็นไดกิได้ก่อนใคร ร่างโปร่งเห็นท่าทีลับๆล่อๆแถมยังใส่หมวกใส่แมสแสนน่าสงสัย ก็เกิดวิตกจริต เลยย่องเข้าไปใกล้หลังพุ่มไม้ แล้วใช้สายยางที่รดน้ำต้นไม้อยู่เมื่อครู่ต่างอาวุธ ฉีดน้ำเข้าที่ผู้ต้องสงสัยทันที
“อ้ะ....อะไรเนี่ย...... อ๊า~!!!!! น้ำเย็นๆๆๆๆ หยุดนะ!”
“นี่แน่ะ....นายเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่”
“หยุดฉีดน้ำก่อนนน”
“ไม่! บอกมาว่านายมายืนทำลับๆล่อๆอะไรที่นี่” เคย์ยืนถือหัวฉีดสายยางต่างปืน ยิงไปที่เป้าหมายด้วยปริมาณน้ำที่รุนแรงและหนักหน่วงกว่าเดิม
ไดกิตกใจร้องลั่นและพยายามวิ่งหนี แต่เคย์ก็ทนทายาทเหลือเกินที่วิ่งตามอย่างไม่ลดละ เสียงที่ดังลั่นทำให้คนในบ้านวิ่งออกมาดู จังหวะนั้นเองที่ไดกิดิ้นหนีน้ำเย็นเฉียบทั้งหมวกและแมสที่สวมใส่มาหลุดออกจากตัว เหลือเพียงใบหน้าน่ารักหวานใสที่ทำให้เคย์ถึงกับยืนนิ่งและปล่อยสายยางลงกระทบพื้น
“ไดจัง...เป็นอะไรหรือเปล่า เปียกน้ำด้วย ยังไม่หายดีเลยนี่นา” เรียวสุเกะรีบวิ่งเข้าไปหาชายแปลกหน้า(ในสายตาของคนในบ้าน)ด้วยความเป็นห่วง
“คะ...คนรู้จักของยามะจังหรือ” เคย์ถึงกับหน้าซีดไปแล้ว
“ใช่...นี่ไดจังพี่ชายผมเอง” เรียวสุเกะเหวี่ยงตาจิกไปที่อิโนโอะ เคย์ที่ยืนสะดุ้งสุดตัวอย่างกลัวความผิดทันที
.......................................
.....................
.........
“บ้านนี้เค้าต้อนรับแขกกันอย่างนี้เหรอ... ฮ้าดด..ชิ้วววว .....ใจร้ายมากเลย” ไดกิที่มีผ้าขนหนูสีขาวห่มคลุมไปทั้งตัวจนเหลือแต่ใบหน้าหวานด้วยฝีมือของเรียวสุเกะตอกย้ำอีกครั้งให้คนทำรู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีก
ใบหน้าหล่อเหลาของเคย์หงอยแล้วหงอยอีก จนฮิคารุต้องลูบหลังปลอบใจ
“ก็ไม่ได้ตั้งใจนี่นา เห็นใส่หมวกใส่แมสมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านก็เลย...เข้าใจผิด”
“ทีหลังก็หัดถามเสียก่อนจะลงมือทำอะไรก็แล้วกัน อิโนะคุง” เรียวสุเกะสั่งสอนเรียบร้อยก็หมดความสนใจในตัวอิโนโอะ เคย์ไปในทันที แล้วหันไปประคบประหงมดูแลพี่ชายเยี่ยงลูกในไส้
“หวัดของเก่ายังไม่ทันหายดี ต้องมาเปียกน้ำอีก ถ้าเป็นไข้ขึ้นมาอีกจะทำยังไงล่ะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงน่า เรียวจัง ฉันดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว สบายมาก!”
“คืนนี้ผมกลับไปอยู่เป็นเพื่อนไดจังดีกว่า เดี๋ยวขออนุญาตพีซังน่าจะได้”
“ไม่เอาน่า ฉันไม่อยากให้นายเดือดร้อน ... เพิ่งจะเข้าวงเองไม่ใช่เหรอ อยู่ทำความรู้จักเพื่อนๆสิ”
“แล้วผมจะปล่อยให้ไดจังกลับบ้านคนเดียวทั้งๆที่ป่วยขนาดนี้ได้ยังไง”
“เดี๋ยวฉันไปส่งพี่ชายนายที่บ้านเอง!!” เสียงแหลมแหวกอากาศของเคย์ทำให้การถกเถียงของ 2 พี่น้องหยุดชะงัก และหันมาที่คนพูดเป็นตาเดียว
“ไม่เอา ฉันไม่ไว้ใจ” เรียวสุเกะพูดใส่หน้าเคย์อย่างใจร้าย ไม่สนว่าเคย์จะทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้แค่ไหน
“เรียวจัง...อย่าดื้อสิ ฉันยอมให้หมอนี่ไปส่งก็ได้ เรียวจังอยู่ที่นี่เถอะ” ไดกิออกตัว
“นะ เรียวจัง..” เคย์ได้ที เนียนตามไปสนับสนุนทันที
“ใครให้นายเรียกเรียวจัง!” ด้วยความเป็นห่วงพี่ชายที่เหลือล้นทำให้เรียวสุเกะทำเสียงดังใส่ได้แม้กระทั่งรุ่นพี่ที่เพิ่งจะรู้จักกันวันแรก
“โทษที เผลอเรียกตามพี่ชายยามะจัง(ยิ้มแห้ง) ....นะ ให้ฉันได้ไถ่โทษหน่อยเถอะ ฉันจะรับผิดชอบไปส่งพี่นายถึงเตียงเลย” เคย์พูดทุกอย่างได้อย่างแนบเนียน ความเจ้าเล่ห์โดยธรรมชาติที่รังสรรค์มาคู่กับคนหน้าตาหล่อเหลือร้ายปะปนไปกับความหวังดีบนใบหน้าซื่อๆ
“เกินไปล่ะ เกินไป” ไดกิเหล่ตามองอย่างหมั่นไส้
แต่ในที่สุดแล้วไดกิก็เกลี้ยกล่อมน้องชายจนยอมตกลงจนได้ แม้หน้าตาของเรียวสุเกะจะไม่ยินดีนักก็ตาม .... ก่อนจะปล่อยพี่ชายให้ห่างตัวได้ก็สั่งเสียซะชุดใหญ่ แถมยังย้ำกำชับกับเคย์อีกด้วยว่าให้ดูแลดีๆ และห้ามถือโอกาสทำรุ่มร่ามกับไดจังแม้แต่นิดเดียว
“ฉันไว้ใจนายได้ใช่มั้ยเนี่ย” ไดกิพูดขึ้นมาขำๆ ในขณะที่ตัวเองนั่งอยู่บนรถหรูแนวสปอร์ตของเคย์ และกำลังดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาด..... แต่..ทำไมมันฝืดอย่างนี้ล่ะ!
“ผมช่วย” เคย์เอื้อมมาช่วยร่างเล็กดึงสายคาดแบบที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ.... ใบหน้าหล่อที่ซูมเข้ามาจู่โจมไดกิแบบไม่ทันตั้งตัวนั่นทำให้ไดกิแอบใจเต้นผิดจังหวะ หน้าร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“มันไม่ค่อยมีคนใช้ก็เลยฝืดนิดหน่อยน่ะ.... นาย..ไดจังใช่มั้ย”
“อื้อ ไดกิ.... แต่นายจะเรียกไดจังเหมือนเรียวจังก็ได้ ฉันไม่ถือ”
“ผมอิโนโอะ เคย์นะ ขอโทษจริงๆสำหรับเรื่องวันนี้”
“ถ้าไม่ได้เจตนาร้ายก็ช่างมันเถอะ ... แต่อย่าให้รู้ว่าจงใจแกล้งนะ หึ!!” What!?
What does it mean หึ!!? ทำไมฟังแล้วขนลุกเกรียวแปลกๆแฮะ
“แล้วบ้านไดจังอยู่ที่ไหนล่ะ” ไดกิบอกที่อยู่ของตัวเองไป เคย์พยักหน้ารับรู้
“จะหลับไปเลยก็ได้นะ รับรองว่าส่งถึงบ้านปลอดภัยแน่นอน”
“ให้จริง” ไดกิยิ้มๆแล้วก็เบนสายตาออกนอกกระจกเมื่อรถเคลื่อนตัวออกอย่างนิ่มนวล
.................................
...................
.........
“ใครอนุญาตให้นายนอนบนเตียงฉัน!!” ยูยะในชุดคลุมอาบน้ำตะโกนเสียงดังทันทีที่ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นว่า ยามาดะ เรียวสุเกะ รูมเมทใหม่ของเขากำลังกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงคิงไซส์ของเขาอย่างสนุกสนาน
“ก็ยามะพี....” เรียวสุเกะกะเด้งตัวขึ้นมานั่งอย่างตกใจ
“แต่นี่มันห้องฉัน เพราะงั้น....ลงไป” ยูยะปัดมือไล่ด้วยมาดหยิ่งยโส ที่เรียวสุเกะเห็นแล้วอดที่จะหมันไส้ไม่ได้
แต่ก็ยอมลากหมอน ลากผ้าห่มบนเตียงลงไปปูนอนบนพื้นข้างเตียงโดยไม่พูดอะไร
“น้อยๆหน่อย นั่นก็ผ้าห่มฉัน... ของนายไปเอาในตู้ ไป๊!”
“เรื่องเยอะอะไรขนาดนี้นะ” เรียวสุเกะบ่นอุบอิบระหว่างที่เปิดตู้ขนเอาชุดเครื่องนอนลงมาอีกชุด
“บ่นอะไร”
“เปล่า...แค่สงสัยว่า นั่นคือชุดนอนของนายเหรอ.. เฮ้ยย ไอ้ลามก!!” ยังไม่ทันจบคำถามดี ยูยะก็กระตุกปมชุดคลุมอาบน้ำให้คลายออกและร่วงลงไปกองกับพื้น.... เรียวสุเกะที่คิดว่าร่างสูงไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างในก็ยกมือขึ้นปิดตาหันหน้าหนีด้วยความตกใจทันที
“นาย
“แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อเล่า!” เรียวสุเกะกรีดร้องทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ
“ฉันไม่ใส่เสื้อตอนนอน.... ใจจริงฉันอยากแก้ผ้านอนด้วยซ้ำ แต่ฉันเห็นแก่นาย”
“ถ้าจะเห็นแก่ผมทั้งทีก็ช่วยใส่เสื้อนอนด้วยได้มั้ยเล่า!” เรียวสุเกะตะโกนทั้งหน้าแดงๆอีกครั้ง ...ส่วนยูยะเดินไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วจัดแจงเสียบปลั๊กไดร์เป่าผมโดยหาได้มีความสนใจไม่
เรียวสุเกะคร้านจะเถียงด้วยจึงยอมหลับหูหลับตาปูที่นอนข้างเตียงอีกครั้ง แต่ก็ยังแอบเปรี้ยวจิ๊กตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่วางอยู่ตรงหัวเตียงลงมานอนกอดด้วยอีกต่างหาก
“เฮ้ นั่นคุซาป๊งของฉันนะ” ยูยะที่มองตามดูทุกอย่างผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้งโวยขึ้นมาอีกครั้ง
“นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ขอยืมตัวนี้แค่ตัวเดียวไม่ได้หรือ”
“ไม่ได้! ...มันทำให้ฉันนอนไม่หลับ” ยูยะตะเบ็งเสียงดังข่มขู่ในคราแรก แต่บอกเหตุผลด้วยเสียงที่เบาเบ๊าเบาคล้ายจะขลาดเขิน .... แต่ถึงจะเบาแค่ไหนก็ไม่เกินความสามารถของรูหูเรียวสุเกะหรอก^^
“ยูยะคุง.....นาย...ติดน้องเน่าเหรอ” แกล้งแย๊บคำถามออกไป พลางกวาดสายตาหาทางหนีทีไล่เตรียมพร้อม
“หยุดพูดนะ!!! แล้วใครอนุญาตให้เรียกชื่อฉัน” ชัดเลยทีนี้.... ใบหน้าร่างสูงแดงเถือก ไม่สู้สายตา และพยายามเบี่ยงประเด็น
“เจอจุดอ่อนแล้ว...” เรียวสุเกะยิ้มล้อร่างสูงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ กวนประสาทให้ร่างสูงอารมณ์บูด
แม่เจ้าโว้ยยยยย ใครเล่าจะรู้ ว่าสุดหล่อ ขี้เก๊ก หน้านิ่งตลอดเวลาของประชาชน จะมีเบื้องหลังน่าเหลือเชื่ออะไรจะปานนี้
“จะเอาอะไร” ยูยะกัดฟันถามเสียงเหวี่ยงๆ
“ข้างล่างพื้นมันเย็นเนอะ”
“ฮึ้ยยย ขึ้นมานอนนี่เลยมา” ทันทีที่ได้รับคำอนุญาต เรียวสุเกะก็ยิ้มแฉ่ง กระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งจัดสรรปันส่วนแบ่งเขตแดนที่นอนให้เสร็จสรรพ
“อ่ะ เอาคืนไปเด็กน้อย” เรียวสุเกะส่งคุซาป๊งกลับสู่อ้อมอกเจ้าของหน้าเกร็งๆ เพราะต้องกลั้นหัวเราะกับตัวตนอันไม่คาดคิดของเสือยิ้มยาก ทาคาคิ ยูยะ
ก็มีมุมน่ารักๆกะเค้าเหมือนกันนี่นา
นึกว่าจะทำเป็นแต่หน้าดุๆอย่างเดียวซะอีก
..............................
..................
............
“ถึงแล้วครับ องค์หญิง..... อ้าว หลับไปแล้วจริงๆแฮะ”
เคย์ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะปลุกดีหรืออุ้มเข้าไปส่งถึงเตียงอย่างที่พูดเล่นไว้จริงๆดี... แต่แล้วความคิดฝ่ายดีก็รั้งให้เคย์ลองปลุกด้วยวิธีการนิ่มนวลดูเสียก่อน
“ไดจัง...ถึงบ้านแล้วนะ ไม่ตื่นเหรอ.... ไดจัง เอ้ะ ตัวร้อนจี๋เลย” จังหวะที่เคย์พยายามเขย่าตัวไดกิเพื่อปลุกให้ตื่นนั้น อุณหภูมิผิวกายที่ร้อนราวกับไฟของร่างบางทำให้เคย์ตาเหลือก รีบรุดลงจากรถมาเปิดประตูฝั่งที่ไดกินั่ง
“กุญแจบ้านๆๆ ขออนุญาตเถอะนะไดจัง มันเป็นเรื่องฉุกเฉิน” เคย์ยกมือไหว้ปะหลกๆ พูดจบแล้วก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของไดกิทันทีด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน .... ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอดใจที่จะคิดอกุศลหน่อยๆไม่ได้จริงๆ
.
.
.
To be con
Talk : เหมือนจะจบค้างเบาๆ ..เหะๆๆ และไม่รู้ว่าจะได้ลงตอนๆไปเมื่อไหร่ เพราะประเริ่มเปิดเรียนแล้ว... แต่จะพยายามมาต่อเรื่อยๆนะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน หรือให้ความสนใจนะคะ ยังไงก็ช่วยตามกันต่อไปด้วยเน้อ แวะมาเม้นบ้างไม่ว่ากัน แค่อยากรู้ฟีตแบคบ้างเฉยๆ จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป
ปล. คุณ ryosuki ...เจเรฮิกผมสีนี้ทรงนี้หล่อจริงอะไรจริง บัลลังค์พระเอกเริ่มสั่นคลอน 555+
อยากดูพีวีแล้วเนาะ ออกมาแต่พรีวิว ใจจะขาดดดดด
ความคิดเห็น