คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Super Star 06 [end]
06
ยูมะนั่งอยู่ที่ระเบียงห้องของเขา โดยมีซุปตาร์หนุ่มหน้าสวยอย่างเรียวสุเกะเข้ามาหย่อนขานั่งลงข้างๆ เว้นระยะห่างเอาไว้นิดนึงพอไม่ให้น่าเกลียด
....ทั้งสองคนต่างนั่งชื่นชมธรรมชาติยามค่ำคืน ปล่อยให้ความเงียบครอบงำอยู่พักใหญ่........ แต่บรรยากาศในห้องแลจะดูเกร็งเกินไปจนยูมะทนไม่ได้ต้องเป็นฝ่ายเปิดประเด็นชวนคุย คลายความอึดอัดที่มองไม่เห็นนั่นออกไปซะ
“ยามะจังรู้มั้ย... ผมน่ะไม่เคยได้มาเที่ยวต่างจังหวัดค้างคืนแบบนี้สักครั้งเลยนะ” ยูมะเปิดเรื่องพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา
“โกหกน่า” ....เรียวสุเกะหันมาสนใจทันทีเพราะเรื่องที่พูดมันไม่น่าเชื่อมากเกินไป
“ว้า~ ไม่เชื่อหน่อยเหรอ” ....ยิ่งไอ้คนพูดหันมาทำหน้าทะเล้นใส่แบบนี้ยิ่งไม่น่าเชื่อถือไปกันใหญ่....
“นายมันน่าเชื่อตายละ!” แล้วร่างเล็กก็ไม่รั้งรอที่จะพูดในสิ่งที่คิดทันที….
.....ไม่บ่อยนักหรอก ที่เรียวสุเกะจะรู้สึกว่าตัวเองสามารถพูดในสิ่งที่คิดอย่างสบายอกสบายใจอย่างในตอนนี้..... การทำงานในฐานะคนของประชาชนเขายิ่งต้องใช้สมองไตร่ตรองก่อนทำก่อนพูดเสมอ ...บางครั้งก็จำใจต้องพูดในสิ่งที่ไม่ได้คิดจริงๆ หรือสิ่งที่คิดมันพูดออกสื่อไม่ได้
“โอเคๆอันนั้นจะไม่เชื่อก็ได้.... แต่บอกเลยว่าการได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่ชอบแบบเนี้ย...ครั้งแรกเลยนะ!” ...ยูมะพูดไปพลางจ้องดวงตาสีอ่อนของเรียวสุเกะไปด้วย....
......เค้าว่ากันว่าคนเราจะมองหาความจริงใจได้ในดวงตา .....ยูมะก็จะเปิดโอกาสให้มองได้อย่างเต็มที่เลยล่ะ!
“เลิกจีบสักทีเถอะน่า” ....เรียวสุเกะรู้สึกใจเต้นแปลกๆยามที่มองสบนัยน์ตาคมคู่นั้น มันเหมือนกับว่าซ่อนพลังทำลายล้างที่รุนแรงเอาไว้มากเสียจนเขาต้องเป็นฝ่ายหลบตามาในที่สุด...
“ผมจริงจังนะ....ผมชอบยามะจัง ชอบมาก...ชอบมาตลอด” ...คำสารภาพเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวันนี้ ... แต่ยูมะก็ยังพูดได้แบบไม่มีเบื่อ .....เรียวสุเกะช้อนสายตาขึ้นมองสบตาครั้งหนึ่งแล้วก็ต้องเบือนหนีอีกครั้ง
“รู้แล้ว...มันเขียนอยู่บนหน้านายน่ะ”
.... ไม่ใช่ว่าไม่อยากมอง ไม่อยากฟัง แต่เขาเขินจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วเนี่ยสิ.....
“หว๋าย~ ผมแสดงออกชัดไปเหรอ” ยูมะเอามือแนบข้างแก้ม ทำหน้าเหมือนตกใจ
....ร่างเล็กจึงหันไปค้อนขวับ ทำสีหน้าเหมือนกับจะตะโกนด่าเป็นคำพูดว่า...... ‘ยังมีหน้ามาถามอยู่อีกนะ!!!’
“นี่ๆ ยามะจังคิดจะมีแฟนมั้ยอ่ะ”
“ใจจริงก็คงจะอยากบ้างล่ะมั้ง.... แต่สถานะของฉันตอนนี้น่ะ ....เป็นไปไม่ได้หรอก” เรียวสุเกะตอบแบบยิ้มๆเชือดนิ่มๆให้คนฟังพาลจะหัวใจสลาย
“โหย..ตัดความหวังกันสุดๆ” ร่างสูงทำท่าเสียอกเสียใจอย่างชัดเจนทั้งสีหน้าและท่าทางซะจนเรียวสุเกะหลุดขำออกมา
“...ถามจริง เคยมีใครบอกมั้ย ว่านายมันพูดตรงเกินไปน่ะ”
“โอ้ย..เยอะเลยล่ะ เพื่อนไม่ค่อยคบก็เพราะแบบนี้ล่ะ ฮ่าๆ” ...เจ้าตัวพูดไปขำๆแบบนั้น แล้วก็ไม่ได้มีทีท่าจะเดือดร้อนอะไรเลยสักนิด ....
หลังจากนั้นยูมะก็ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระรอบตัวไปเรื่อยๆตั้งแต่ต้นไม้ใบหญ้าในสวนจนถึงหมู่ดาวบนท้องฟ้า จนเจ้าตัวเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพูดมากจนคอแห้ง ....บรรยากาศของทั้งสองคนก็เป็นไปอย่างสบายๆเรื่อยๆ ....จนยูมะเริ่มที่จะเลื้อยตัวนอนลงไปกับพื้นเพราะความปวดเมื่อยจากการนั่งนานๆ
“ง่วงแล้วเหรอ?”
เรียวสุเกะที่ยังนั่งแกว่งขาอยู่บนระเบียงเห็นยูมะเริ่มเปลี่ยนอิริยาบถก็เท้าแขนทั้งสองข้างไว้ด้านหลังแล้วหันมาถามด้วยสีหน้าอ้อนหน่อยๆแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว....
“อือ...ถ้าจะนอนไปด้วยคุยไปด้วยเป็นไรมั้ย” …ร่างสูงผงกหัวขึ้นมาขออนุญาต ตาคมบอกกล่าวอย่างจริงจังด้วยเกรงว่าเขาจะทำให้ยามะจังไม่พอใจอีก...แค่วันนี้ทำให้โกรธไปไม่รู้กี่เรื่อง เขาก็อยากจะร้องไห้มากพอแล้ว
“ตามใจสิ...”
พอได้รับคำอนุญาตแล้ว ยูมะก็ทิ้งตัวนอนแผ่สองสลึงอย่างสบายอกสบายใจ ....กางแขนกางขายาวๆนั้นขึ้นๆลงๆอย่างมีความสุขราวกับเด็กน้อย
“เน่...ยามะจัง~”
“หืม..”
“พอนอนมองฟ้าแบบนี้ ดาวสวยมากเลยล่ะ...มาดูด้วยกันสิ”
ถึงมันจะเป็นคำชวนง่ายๆ ละม้ายคล้ายคำพูดลอยๆ ....แต่เรียวสุเกะที่กำลังอารมณ์ดีก็บ้าจี้เอนตัวลงนอนข้างๆตามคำยุยงซะอย่างนั้น
“จริงด้วย!! สวยมากๆเลย”
สำหรับเรียวสุเกะแล้ว ตั้งแต่ตัดสินใจเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง แล้วจับพลัดจับผลูดังตูมตามมีงานเข้าไม่หยุดไม่หย่อน.... เขาก็ไม่ค่อยจะมีโอกาสได้พักผ่อนตากอากาศแบบนี้เท่าไรนัก
จริงๆนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหลักอย่างหนึ่งที่เขาตกลงรับงานนี้... เพราะคิดว่าจะถือโอกาสเที่ยวและก็พักผ่อนไปด้วยในตัว
ร่างเล็กนอนอาบไล้แสงจันทร์ซึมซับความสวยงามตามธรรมชาติอย่างเพลิดเพลินและเผลอยิ้มชอบใจออกมาโดยไม่รู้ตัว.... ทำให้อีกคนที่คอยเฝ้ามองอย่างหลงใหลนั้นพลอยจะยิ้มตามไปด้วย
“ยามะจังอยากรู้มั้ย ว่าผมชอบยามะจังเพราะอะไร”
“หืม...ไม่รู้สิ จะว่าไปฉันก็อยากรู้เหมือนกันนะ” ร่างเล็กเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงข้างหันหน้าไปตั้งใจฟัง
“ตรงนี้ไง” ยูมะเอื้อมมือมาแตะที่มุมปากของเรียวสุเกะเบาๆ “ผมชอบเวลายามะจังยิ้ม.. แล้วก็อยากเป็นคนทำให้ยามะจังมีแต่รอยยิ้มตลอดเลย ....รอยยิ้มของยามะจังสวยมากนะ สวยกว่าอะไรทั้งหมดเลย”
เรียวสุเกะได้ฟังคำบอกรักตรงๆเข้าไปอีกระลอก โดยที่คราวนี้เขาได้มองเข้าไปในดวงตาจริงจังของอีกฝ่ายราวกับต้องมนต์...... นัยน์ตาสีเข้มที่สะท้อนแต่เพียงใบหน้าของเขาแต่เพียงผู้เดียว มันทำให้ร่างเล็กต้องเม้มปากตัวเองแน่นแล้วก็หลุดยิ้มเขินอย่างน่ารักออกมาไม่ได้
“โอ้ย น่ารักอ้ะ♥!! ..อยากกอดแน่นๆจัง”
“นี่มันไม่ใช่แค่อยากแล้วนะ” เรียวสุเกะที่ถูกดึงเข้าไปกอดอย่างรวดเร็วก็ถือโอกาสซุกซบกับอกยูมะ หลบสายตาคมๆที่แสดงออกถึงความรู้สึกในใจอย่างไม่คิดจะปิดบังแบบเขินๆ
“ก็ยามะจังไม่เห็นว่าอะไรเลยนี่” ...เจอคำตอบแบบโยนความรับผิดชอบมาให้เขาเต็มๆ เรียวสุเกะก็เลยตบเข้าที่แขนอย่างแรงทันทีให้ยูมะร้องโอดครวญอย่างน่าหมันไส้ .....แต่ก็ไม่มีใครคลายอ้อมกอดนั้นเลย สองคนนอนกอดหวันกันจนท้ายที่สุดร่างเล็กก็ไหลไปนอนหนุนท่อนแขนของยูมะที่รองอยู่อย่างพอดิบพอดี
ยูมะแกล้งจิ้มนั่นจิ้มนี่บนเนื้อนิ่มๆของเรียวสุเกะ หยอกให้ร่างเล็กโวยวายไล่ตามมือซนๆจนเหนื่อยแล้วก็เผลอหลับไปในอ้อมแขนเขาทั้งๆอย่างนั้น
........คืนนี้.........
.....คงเป็นคืนที่ยูมะจะข่มตาหลับไม่ลงเพราะเขาอยากจะตักตวงช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนี้ไว้ตราบนานเท่านาน....
.......ให้เขาได้เก็บความทรงจำดีๆทุกอย่างไว้ให้ลึก......สุดใจ
......อย่างน้อยพรุ่งนี้...ถ้าต้องกลายเป็นคนแปลกหน้ากันอีกครั้ง.....
......เขาก็ยังพอมีอะไรหลงเหลือไว้ให้จดจำ.......
.
.
เรียวสุเกะตื่นเช้ามาแบบมึนๆงงๆ ....เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงพร้อมห่มผ้าเสร็จสรรพ ..... เมื่อคืนเขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ แต่มันรู้สึกสบายมากๆจนไม่อยากจะตื่น ....ว่าแต่เขาเดินมานอนที่เตียงด้วยเหรอ?
.....แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด .....นี่ไม่ใช่ห้องเขา.......
“อรุณสวัสดิ์ยามะจัง”
ร่างสูงของยูมะที่เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำนั้นตอบคำถามที่เขากำลังสงสัยได้เป็นอย่างดี ....ความทรงจำเมื่อคืนวานค่อยๆไหลมาทีละฉากๆ ....เรียวสุเกะมองตามใบหน้าเนื้อตัวที่พราวด้วยหยดน้ำแล้วก็ลอบหน้าแดงอยู่คนเดียว
....เมื่อคืนเขาเผลอทำตามใจตัวเองไปตั้งเยอะ พอคิดถึงแล้วก็อายขึ้นมา.....
.....เขาหนีความจริงไม่พ้นแล้วจริงๆ.....
“อะ..อรุณสวัสดิ์ เมื่อคืนนาย.....”
“อ๋อ ผมเห็นยามะจังทำท่าหนาวๆน่ะ ข้างนอกอากาศมันเย็นแถมน้ำค้างลงอีก.... ผมเลยอุ้มเข้ามานอนข้างใน”
“แล้วนาย....”
“เฮ้ย..ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่ได้ทำอะไรล่วงเกินสักติ้ดดด”
“อืม..ขอบคุณ”
“เดี๋ยวนะ ยามะจังดูแปลกๆไปรึเปล่า หรือว่าไม่สบาย!!” ยูมะทำหน้าเดือดร้อนประหนึ่งว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างเล็กป่วย แล้วก็รีบประโจนเข้ามาประชิดตัวหมายจะวัดไข้ให้ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเหลือคณานับ
“ไม่ๆ ฉันไม่ได้เป็นอะไร” เรียวสุเกะเบี่ยงหนีร่างสูงที่พยายามจะใช้ทั้งมือและหน้าผากตัวเองในการวัดไข้ให้เขาอย่างใกล้ชิด
“แต่ยามะจังหน้าแดง.... อย่าบอกนะว่าเขินผมน่ะ!!” ....จะว่าไปเรียวสุเกะก็อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเขินอยู่ไม่น้อย.... ก็ยูมะเล่นมาใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัว จนเขาแทบจะโดนกดจมที่นอนอยู่มะรอมมะร่อ ใจคอจะไม่ให้ใจสั่นหวั่นไหวเลยได้ยังไง
....เรียวสุเกะก้มหน้างุดๆ ...เขาไม่เคยต้องรู้สึกทำตัวไม่ถูกขนาดนี้มาก่อนในชีวิตจนไม่รู้จะทำยังไงต่อไป เลยได้แต่นั่งเงียบทั้งหน้าแดงๆแบบนั้น
“จริงเหรอเนี่ย!!!!!” ยูมะผงะออกอย่างแรง
“จะตะโกนหาอะไรนักเล่า!” เรียวสุเกะตวาดกลับเสียงดังทั้งหน้าแดงๆ เล่นเอายูมะรีบตะครุบปากตัวเองอย่างรวดเร็วแล้วนั่งลงข้างๆเตียงอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่สายตาคมคมยังคงจ้องหน้าเรียวสุเกะอย่างสงสัย
“ยามะจัง...บอกผมมาตามตรงนะ .......หลงรักผมแล้วใช่ป่ะ”
คำพูดที่ดูเหมือนคนหลงตัวเอง แต่กลับทำให้เรียวสุเกะถึงกับหายใจสะดุดไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะคว้าเอาหมอนนุ่มใกล้มือมาฟาดใส่หน้าหล่อๆไม่ยั้งพร้อมกับด่าเสียงดัง
“ไอ้บ้าๆๆๆ เพราะนายคนเดียวเลย”
“โอ้ย เดี๋ยวๆๆ ผมไปทำอะไรเหรอ” ร่างสูงสะบัดหัวมึนๆเพราะถูกตีไปหลายที ..สมงสมองยังไม่ค่อยเข้าที่ดีนัก..
“ฉันอุตส่าห์ตั้งใจจะไม่มีความรักทั้งที่ยังทำงานวงการนี้แท้ๆ”
“เอ้ะ...เอ๋~!!!” คนสมองช้ากำลังประมวลผล
“รับผิดชอบมาเลยนะ” เรียวสุเกะกลั้นใจพูดประโยคนี้ออกมา.... ใบหน้าขาวแดงก่ำแทบจะระเบิดได้
......เกิดความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องชั่วอึดใจหนึ่ง.... ก่อนที่ร่างสูงจะเริ่มต้นอธิบายด้วยเสียงนุ่มๆ......
“ยามะจัง....ผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างที่ผมทำลงไปนะ... แต่เชื่อผมเถอะ เมื่อคืนผมไม่ได้ทำอะไรยามะจังจริงๆนะ”
“ไอ้ซื่อบื้อเอ้ย!!!! ทำไมฉันต้องมาเผลอใจให้ไอ้คนงี่เง่า ซื่อบื้ออย่างนายด้วยเนี่ยยยย บ้าที่สุด!!”
เรียวสุเกะตะโกนระบายอารมณ์ออกมาทั้งหน้าแดงๆ แล้วก็ลงไม้ลงมือฟาดรัวๆใส่ยูมะไม่หยุด จนร่างสูงต้องใช้แรงทั้งหมดในการรวบมือขาวๆนั้นมากุมไว้เสียทั้งสองข้าง
“ล้อเล่นน่า.......ยามะจังก็ยอมรับมาตรงๆซักทีสิ ว่าชอบผมน่ะ”
“หน้าไม่อาย” ขยับปากหมุบหมิบเป็นคำด่าแก้เขิน
“อาย..อายสิ หน้าร้อนหน้าแดงไปหมดแล้วเนี่ยไม่เห็นเหรอ ใจก็เต้นรัวเป็นกลองเลยจับดูสิ” ไม่พูดเปล่า ยูมะดึงมือขาวมาวางที่ตำแหน่งหัวใจ ....แต่ยิ่งเรียวสุเกะสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่มันถี่รัวจนน่ากลัว เขาก็ยิ่งเขิน ทำตัวไม่ถูกเข้าไปกันใหญ่
“ก็เหมือนกันนั่นแหละ!” สุดท้ายเรียวสุเกะก็เลยดึงมืออีกฝ่ายมาแนบกับอกตัวเองบ้าง
.
......
.............
.......รู้สึกเหมือนกันมั้ย..........หัวใจเราเต้นเป็นจังหวะเดียวกันแล้วนะ.......
ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นสบตาในจังหวะเดียวกัน เล่นจ้องตากันสักพักก็หัวเราะเบาๆออกมาพร้อมกัน
“ยามะจัง....” ยูมะเอียงหน้าเล็กน้อยปรับองศาให้พอดิบพอดีก่อนจะค่อยๆโน้มหน้าลงไปหาริมฝีปากบางอย่างช้าๆ..... เรียวสุเกะก็หลงเคลิ้มปรือตา ทอดกายนอนไปตามแรงผลักดันของร่างสูงที่คร่อมตามลงมา ....ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองที่มันควรจะเป็นอย่างธรรมชาติซะจนเรียวสุเกะเกิดหวั่นในใจ ....ร่างเล็กจึงใช้ปลายนิ้วแตะไว้ที่ริมฝีปากยูมะก่อนที่จะได้ทาบทับกลีบปากบาง
“นี่...แค่ฉันชอบนายก็ไม่ได้หมายความว่า นายจะมาทำรุ่มร่ามกับฉันได้ง่ายๆนะ”
ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่สถานการณ์ที่เรียวสุเกะพ่ายแพ้ราบคาบจนได้มานอนหน้าแดงอยู่ใต้ร่างยูมะแบบนี้แล้ว .....ก็เหมือนจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด
ร่างสูงหรี่ตาลงเล็กน้อย...อารมณ์เหมือนเด็กถูกขัดใจ
“ใครสนล่ะ...”
ท่านว่าแบบนั้นแล้วก็กระโจนโถมน้ำหนักใส่ทั้งตัวเหมือนตั้งใจแกล้ง จมูกโด่งก็เที่ยวซุกซนซุกไซ้ไปตามซอกคอหอม.... เรียวสุเกะรู้สึกเหมือนมีหมาตัวโตอย่างเซนต์เบอนาร์ดกระโดดใส่แล้วเลียหน้ายังไงอย่างนั้น
“นี่ เดี๋ยวก่อนสิ!! แล้วก็....นายก็รู้ใช่มั้ย ว่าฉันไม่ค่อยมีเวลาว่าง ทุกวันนี้แค่มีเวลานอนก็ดีถมแล้ว...แถมยังไปเดทในที่สาธารณะแบบคนทั่วไปก็ไม่ได้ด้วย....ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ...นายยังอยากจะ..อยู่ข้างๆฉันอีกมั้ย?”
...เรียวสุเกะคงไม่รู้ตัว....ว่าตัวเองกำลังพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าแบบไหน
เพราะยูมะคิดว่าตัวเองคงไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆที่ได้เห็นซุปตาร์คนสวยกำลังทำเหมือนอ้อนขอความรักจากเขาแบบนี้
“แค่ยามะจังมองผม รักผม....แค่นี้มันก็มีค่ามากพอสำหรับแฟนบอยธรรมดาๆอย่างผมแล้วล่ะ”
...............................
.....................
...........
“หมายความว่าแกกับยามะจังคนดังนั่นเป็นแฟนกันแล้ว!!! เฮ้ย เรื่องอย่างงี้อย่าพูดไปเรื่อยนะเว้ย”
ยูยะทำท่าไม่เชื่อทันทีที่ได้ฟังเรื่องราวเพ้อฝันคร่าวๆจากน้องชาย หลังจากที่มันหายหัวไปเดทกับซุปตาร์สุดที่รักของมันสองวันเต็มๆ.... พอกลับบ้านมามันก็ไม่ทำอะไรนอกจากนั่งยิ้มเพ้อ ทำท่าเขิน แล้วก็หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ...จนเขากับโชริต้องลากตัวมันมานั่งสัมภาษณ์ด้วยความเป็นห่วง
“ผมพูดจริงๆนะ” ...ยูมะยืนยันหนักแน่นในคำพูดตัวเอง
“จริงเหรอพี่ยูมะ” ....โชริเอียงคอสงสัย.....
“มันจะน้ำเน่าไปรึเปล่า...เฮ้ย พล็อตนี้ฉันขอยืมได้ปะ ท่าทางจะเป็นนิยายขายดี” ส่วนยูยะเอาไปล้อเป็นเรื่องเล่นๆไปแล้วเรียบร้อย... เลยได้ของรางวัลเป็นสายตาเย็นชาจากยูมะกลับมาทันที
“พี่ยูยะเงียบก่อนแปปนึงได้มั้ยครับ” นอกจากยูมะจะเย็นชาใส่แล้วโชริก็ยังมาทำเสียงเย็นใส่คนเป็นพี่อีกซ้ำสอง ....
“โชริอ่า~ โอเคๆไม่แซวละก็ได้ ว่าแต่แกมีหลักฐานอะไรให้ฉันเชื่อบ้างมั้ยล่ะ อย่างพวกเบอร์มือถือ รูปคู่ไรเงี้ย” ยูยะยังคงไม่อยากจะเชื่อ....
..... เขารู้ดีว่ายามะจังคือใคร แล้วน้องเขาเป็นใคร .....
....มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ ที่คนสองคนจะสปาร์คกันได้เร็วขนาดนี้.....
....ความรักมันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ.....
“อุฮิฮิ...ของแบบนั้นก็ต้องมีสิ” ยูมะยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก็ควักไอโฟนในกระเป๋ากางเกงออกมาโชว์ให้ทุกคนดูอย่างภาคภูมิใจ....โชริรับยื่นมือไปรับมาเปิดดูอย่างตื่นเต้นโดยมีพี่ยูยะพยายามยืดคอมาดูด้วยแบบเก็กๆ
“ว้าวว หน้าตอนหลับของยามาดะคุงน่ารักจังเลย....มีหลายรูปด้วย.....เอ้ะ นี่ไงพี่ยูยะ รูปคู่ล่ะ!!”
“ห้ะ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางฟ้าก็หันมาแลหมาบ้านอย่างแกด้วย”
ยูมะฟังแต่ละคำของพี่ชายแล้วก็หันไปมองหน้าแบบเย็นชาอีกครั้ง แถมรอบนี้เพิ่มเลเวลด้วยการบึนปากใส่แบบงอนๆซะด้วย
“โชริ...เราไปคุยกันตามประสาคนมีความรักกันดีกว่า ปล่อยให้พี่ยูยะแห้งเหี่ยวคนเดียวอยู่เนี่ยแหละ”
ยูมะหันมาถามความเห็นน้องชายคนเล็กที่จริงๆแล้วมีประสบการณ์ความรักไปแล้วก่อนใครๆ...โดยมีโชริพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยอยู่ข้างๆ
“ไปคุยที่ห้องกันเถอะพี่ยูมะ ...ผมอยากฟังเรื่องทั้งหมดเลยล่ะ” โชริมีท่าทีกระตือรือร้นเป็นพิเศษ มือเล็กเอื้อมไปกระตุกชายเสื้อยูมะ
ในขณะที่สองพี่น้องจูงมือพากันออกจากห้องไป ยูยะที่ถูกกีดกันก็ได้แต่มองตามน้องๆตาละห้อยไปจนลับสายตา
.....นี่มันถึงเวลาที่เขาจะถูกน้องๆขีดเส้นกั้นกลางระหว่างเราแล้วหรือ....
.......เด็กตัวน้อยๆที่เค้าเลี้ยงมากับมือตั้งแต่เล็ก เติบโตมาจนถึงวัยนี้แล้วสินะ .....
.......วัยที่จะมองเห็นแต่ความรักสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด......
.....พี่ชายอย่างเขาคงจะตกกระป๋องแล้ว.....
....หรือมันถึงเวลาแล้ว ที่เขาควรจะหันมาสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆบ้างได้แล้วกันนะ....
....ก็มีชีวิตอยู่จนอายุเลยเลขสองมาเกือบครึ่งทางแล้ว.... แฟนสักคน หรือจูบแค่จูบเดียวเขาก็ไม่เคยมีซะด้วยซ้ำ.....
.......เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันล่ะ.......
.......ความรักคืออะไร? จูบเป็นยังไง?....
THE END “SUPER STAR”
To be con =>=> ONE KISS
I-PrA talk: จบแล้วล่ะ พาร์ทของซุปตาร์กะแฟนบอย.... โปรดอย่าถามว่าตกลงแล้วได้กันมั้ย รึฉากต่อจากนั้นคืออะไร (ฮา).....
เอาเป็นว่า จะมีตอนสเปเชี่ยลให้แบบครบทุกคู่เลยละกันน้าาาา
ตอนนี้ก็...พอจะกระชุ่มกระชวยหัวใจได้บ้างมั้ยจ้ะ ฟัดๆหวันๆกุ๊กกิ้กใสๆกันไปก่อนนะ .. ถ้าทำมากกว่านี้ตอนนี้ยูมะอาจโดนยามะจังฟาดจนสมองกระทบกระเทือน กร๊ากกก .....ขอให้เพลิดเพลินกับการอ่านค่ะ ^_________^
แล้วก็อย่าลืมติดตามเรื่องต่อไปของพี่ใหญ่ของบ้านกันนะจ้ะ ...กระแสทาคาไดกำลังมาแรงช่วงนี้ ต้องรีบตักตวง (กระพืดพัด) 555+
ปล.คอมเม้นได้นะจ้ะทุกคนคอมเม้นได้.... ไม่ว่าไม่หวงไม่ห้ามไม่กัดด้วย ฮ่าๆ
ความคิดเห็น