ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ]… Mushi Man …[Okamoto Keito x Nakajima Yuto]

    ลำดับตอนที่ #1 : intro

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 54


     คนเราน่ะ...  ถ้าลองไม่ได้สูญเสีย ก็มักจะไม่เห็นถึงความสำคัญ ....
    ปล่อยให้เวลามันผ่านไปเฉยๆโดยไม่คิดจะทำอะไรให้ชัดเจน

    ท้ายที่สุดแล้วก็ได้แต่มานั่งเสียใจทีหลัง

    เพราะไม่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้  อดีต..ก็ไม่มีวันย้อนคืนกลับมาอีก

    ที่ทำได้ก็เพียงแค่... เราต้องต้อนรับวันใหม่  ณ สุดขอบฟ้าที่แยกจากกัน  
     

     

    ........ 3 ปีก่อน.......

    .......สนามเด็กเล่น........

     

                    “เอ.... อยู่ไหนน้า”

     

                    เด็กชายตัวเล็กกำลังตั้งใจเดินเสาะหาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ที่บ้างก็บินได้ บ้างก็บินไม่ได้ อยู่ตามสุมพุ่มไม้...... ในมือของเด็กน้อยถือไม้ที่มีตาข่ายไว้จับแมลงอยู่ตรงปลายไม้สีสดใสไว้หนึ่งอัน และกระป๋องตักทรายพร้อมอุปกรณ์ขุดดินลายกระต่ายเข้าชุดกัน

     

    “อ้ะ ได้แล้ว” เด็กชายจับตัวด้วงได้หนึ่งตัว... ด้วยความปลาบปลื้มปิติดีใจเป็นล้นพ้นและต้องการให้ใครสักคนชื่นชมหรือร่วมรับรู้ด้วย จึงวิ่งกระเตงถังปุเลงๆ มือหนึ่งถือตัวด้วงสีดำมะเมื่อมไปให้เพื่อนดู หวังจะอวดด้วยความภาคภูมิใจ

     

    “ยามะจัง ไดจัง ดูสิๆๆ แมลงล่ะแมลง”เด็กชายยื่นตัวด้วงไปให้เพื่อนทั้งสองคนที่กำลังเล่นหุ่นยนต์กันดั้มกันอยู่ให้ดูในระยะประชิด พร้อมทั้งยิ้มปากกว้างอย่างบริสุทธิ์ใจ

    “อ๊ากกกกก เอาไปไกลๆนะ” เด็กชายตากลมแก้มป่องที่ชื่อไดจัง กระโดดหนีออกห่าง10 เมตรด้วยความไวแสงอย่างอัตโนมัติ ปากเล็กๆก็ร้องลั่นด้วยความตื่นกลัว

    “ทำไมล่ะไดจัง นี่ไงๆ”

    “อ๊า หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ ยูโตะ” ไดจังทำหน้าเบ้ เหมือนพร้อมที่จะร้องไห้ได้ภายในไม่กี่วินาที ถ้าเพื่อนตัวดียังไม่ยอมเอาเจ้าสัตว์ประหลาดขนาดจิ๋ว (ในความคิดไดจัง) ออกไปให้พ้นบริเวณนี้

    “ทำไมต้องไปแกล้งไดจังด้วย ไดจังเกลียดแมลง” ร่างอวบๆขาวๆของยามะจังออกตัวมาปกป้องเพื่อนทันที เมื่อเห็นว่าเพื่อนใกล้จะร้องไห้เต็มที

    “แล้วยามะจังล่ะ” เด็กชายยูโตะทำหน้าเศร้า พลางยื่นด้วงตัวน้อยที่น่ารัก (ในความคิดยูโตะ) ไปให้ยามะจังดูใกล้ๆอีกครั้ง

    “แอร๊ยยย อย่าเอามาใกล้นะ... เค้าไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้ชอบด้วย”

     แล้วสุดท้ายยามะจังก็วิ่งตามไดจังที่หอบหุ่นกันดั้มวิ่งหนีกลับบ้านไป

     

    เด็กชายยูโตะรู้สึกสลดหดหู่อยู่ครู่หนึ่งก็เรียกแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง

    ........ คงไม่ใช่ทุกคนหรอกมั้งที่จะเกลียดแมลงพวกนี้ เราเอาไปให้ทุกๆคนดูดีกว่า ......

    เมื่อคิดได้ดังนั้น เด็กชายยูโตะก็วิ่งโร่เอาแมลงไปให้คนนั้นคนนี้ที่วิ่งเล่นอยู่รอบบริเวณดูด้วยความไม่ย่อท้อ

     

    “ทุกคนนนนน.....แมลงล่ะแมลง ฉันจับแมลงได้”

    “กรี๊ดดดดดดดดดด”

    “นี่ๆ แมลงพวกนี้หายากนะ มันน่ารักดีออก”

    “เอามันไปไกลๆน๊ะ”

     

    สุดท้าย....ก็เหลือเพียงเด็กชายกับแมลงอีกหนึ่งตัว อยู่ท่ามกลางสนามเด็กเล่นอันเวิ้งว้างไร้ผู้คน...... มีเพียงเศษใบไม้แห้งสีแสดเท่านั้นที่เคลื่อนไหวตามกระแสลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง

     

    ............มันผิดตรงไหนล่ะ ที่ผมชอบแมลง............

     

    ................................................

    ..............................

    .............

     

    ผมนากาจิม่า ยูโตะ วุฒิภาวะ ป.3 ...... ผมชอบแมลง งานอดิเรกของผมคือ การทัวร์จับแมลงตามสถานที่ต่างๆ.... ที่บ้านผมเคยมีคอลเลคชั่นแมลงที่ผมสะสมไว้เรียงเต็มชั้นหนังสือไปหมด  แต่ที่ใช้คำว่าเคยก็เพราะว่าตอนนี้มันไม่มีแล้วน่ะสิ .... คอลเลคชั่นของผมถูกแม่ขนไปปล่อยตามป่าเขาลำเนาไพรหมดแล้ว ผมร้องไห้ตะกายฝาบ้าน สะเทือนใจอยู่สามวันสามคืนเชียวนะอย่าทำเป็นเล่นไป ..... แต่อีกสองวันให้หลังผมก็ถือถังถือไม้ไปไล่จับแมลงหน้าตาแปลกๆกลับบ้านมาอีกเหมือนเดิม ฮี่ๆ

     

    “โห ยามะจัง วันนี้ก็โดนอีกแล้วเหรอ”

    “ก็หม่ามี้อะ ...บอกว่าจะมาเตะบอลๆ ก็ยังจะให้ใส่ชุดนี้ให้ได้ มันวิ่งลำบากไม่รู้รึไง”

     


    ยามาดะ เรียวสุเกะ... เพื่อนบ้านตัวกลมๆขาวๆ หน้าตาน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง และเพราะแบบนั้นแหละที่เป็นเหตุผลให้ยามะจังมักจะถูกจับไปแต่งตัวเป็นตุ๊กตาของคุณหม่ามี๊อยู่บ่อยๆ .....วันนี้มาในชุดระบาย กระโปรงฟูฟ่องเป็นเจ้าหญิง น่ารักทีเดียว.... แต่ถ้ารวมกับไอ้อาการหน้าบูดๆ พร้อมกับท่าเดินอาดๆมาอย่างมาดนักเลงน้อยนี่น่ะ มันก็ดูขัดๆกันอยู่ชอบกล


     

    “ยามะจังงงงง มาเล่นบอลกันเถอะ อ้ะ... ยูโตะ ในถังนายมีอะไรแล้วรึยัง”

     


    อาริโอกะ ไดกิ เพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งที่ตัวขาวๆตากลมๆ แก้มป่องๆที่มักจะมีรอยยิ้มน่ารักอยู่เสมอ .... เสียดายที่ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นมัน เพราะตั้งแต่ที่ผมแกล้งเขา(แบบไม่ได้ตั้งใจ)วันนั้น ไดจังก็ไม่กล้าเข้าใกล้ผมเกิน 3เมตรอีกเลย


     


    “ไม่มี....ไดจังเข้ามาพูดใกล้ๆก็ได้ ไม่ต้องโก่งคอตะโกนซะ”

    “จริงนะ” ไดจังค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆผมอย่างไม่ไว้วางใจนัก พอสบโอกาสแล้วก็ดึงมือยามะจังไปยืนข้างกันโดยเว้นระยะห่างกับผมไว้ประมาณ 3 เมตรเหมือนเดิม

     

    “ยามะจังน่ารักจังเลย..... ไว้โตแล้วนายมาเป็นเจ้าสาวของฉันนะ”

    “ไม่เอา เค้าจะเป็นเจ้าบ่าว ไดจังก็น่ารักออก ...ไดจังเป็นเจ้าสาวสิ”

     

    .......สองคนนี้เป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมากๆ และก็เพราะสนิทกันมากๆถึงได้ชอบเถียงกันในเรื่องแปลกๆอยู่เรื่อย ...

     

    “แต่ฉันเป็นพี่นะ ฉันจะเป็นเจ้าบ่าวให้เอง”

    “แต่เค้าไม่อยากใส่กระโปรงฟูๆแล้วนี่นา”

     

    .....ยังครับ ยังเถียงกันไม่จบ ... ทั้งๆที่หน้าตาก็น่ารักทั้งคู่ขนาดนั้นนี่น้า มาเป็นเจ้าสาวให้ผมยังจะดีซะกว่า.........

     


    “ทั้งสองคนน่ะ มาเป็นเจ้าสาวให้เราดีกว่าอีก”

     

     ไวเท่าความคิด ผมหลุดปากพูดในสิ่งที่คิดออกมา ... แต่ผลที่ได้กลับมาก็คือ ความเงียบ... สีหน้าลำบากใจเหลือแสนของไดจัง(ที่คงกำลังนึกภาพตัวเองอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยแมลง) และคิ้วขมวดเป็นปมบนใบหน้าของยามะจัง ( คงกำลังคิดภาพตัวเองกำลังขุดดิน สร้างแปลงดอกไม้และมียูโตะวิ่งจับแมลงเป็นแบ็กกราวน์)

     

    นับเป็นการตอบรับที่ชวนเจ็บปวดมากทีเดียว.....

     

    “นี่...ยูโตะ ไปเล่นบอลด้วยกันมั้ย” ไดจังเปิดยิ้มและชวนไปเล่นอย่างอื่นหน้าตาเฉย

    “วันนี้ฉันตั้งใจจะหาผีเสื้อสวยๆน่ะ”

    “ไว้ยูโตะเลิกเล่นแมลงเมื่อไหร่แล้วเรามาเล่นด้วยกันนะ” ไดจังทำหน้าแหยไปนิดนึงก่อนจะจับมือยามะจังวิ่งไปยังสนามบอลเล็กๆในสวนสาธารณะแห่งนี้

     

    สุดท้ายก็มีไม่มีใครอยู่เล่นกับผมเหมือนเดิม ...... ทำไมทุกคนถึงไม่ชอบแมลง ทุกคนไปวิ่งเตะบอลกันกับไดจังกันหมด ขนาดยามะจังที่ถูกจับใส่กระโปรงเจ้าหญิงมาก็ยังก๋ากั๋นพอที่จะถกกระโปรงลงไปฟาดแข้งแย่งลูกกับเขา

     

    ในขณะที่ผมเลาะตามแปลงดอกไม้ และพุ่มไม้เพื่อตามหาผีเสื้อแสนสวยอยู่นั้นเอง ผมก็ได้สังเกตเห็นรถยนต์คันใหญ่ที่ผมไม่คุ้นตามาจอดหน้าสนามเด็กเล่นนี้ ... ตามด้วยร่างของเด็กผู้ชายหัวฟูๆตั้งๆที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่แต่เพียงผู้เดียว.... แล้วรถยนต์คันนั้นก็แล่นไป

     

    ในหัวผมนั้นมีแต่คำถามๆ แล้วก็คำถาม เขาเป็นใคร มาจากไหน หน้าตาก็เหมือนจะไม่ใช่คนแถวนี้ แล้วทำไมเขาถึงต้องมาที่นี่คนเดียว

     

    เด็กหัวตั้งคนนั้นเดินตรงมาที่ผม.... เดินตรงมาอย่างตั้งใจ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ...... แต่ก่อนที่จะมาประจันหน้ากับผมเขาก็มาเลี้ยวเอานาทีสุดท้าย เฉไฉไปเล่นชิงช้าคนเดียวเฉย

     

    ผมก็คิดว่าจะไม่ให้ความสนใจเด็กนั่นเท่าไหร่หรอกนะ ..... แต่ไอ้เจ้า PSP รุ่นใหม่ล่าสุดที่ต่อให้ผมจะลงไปชักดิ้นชักงอร้องจะเอาๆให้ตายยังไงแม่ก็ไม่ซื้อให้ผมเนี่ย กลับมีอยู่ในมือของหมอนั่น แล้วมันก็เรียกร้องให้ผมเข้าไปทำความรู้จักกันมันเหลือเกิน.....

     

                    “หวัดดีนายหัวเม่น” ....แหม ร่างกายผมนี่ช่างซื่อตรงต่อความรู้สึกเสียจริงๆ

                    “หวัดดี” แต่อีกฝ่ายกลับตอบมาสั้นๆพร้อมกับพยักหน้านิดๆเท่านั้น ....นี่ยังไม่นับสายตาที่มองมาคล้ายกับจะถามว่า ใคร? อย่างไม่ปิดบังอีกนะ

     


    .....คนอะไรไม่มีมารยาท .. คนเค้าอุตส่าห์เข้ามาทักก่อน เล่นตอบซะสั้นกุด จนคนทักไปต่อแทบไม่เป็น.... แล้วจะหาเรื่องขอเล่นเกมส์ซักตาสองตาได้ยังไงเนี่ยเห้อะ!!....


     


    “นายมาจากซอยไหนน่ะ ไม่เคยเห็นหน้าเลย” เขาว่าเด็กมักจะขี้สงสัย


    “เราเพิ่งย้ายมาเมื่อวาน”

    “อ้าว หน้าตาก็ดี มาจากบ้านนอกเหรอเนี่ย จังหวัดไหนล่ะ” และผมก็เป็นประเภทที่ไม่เก็บความสงสัยนั้นไว้กับตัวเสียด้วย

    “อังกฤษ”

    “อังกฤษ... อยู่ส่วนไหนของญี่ปุ่นอะ ไม่เห็นรู้จักเลย เมืองไม่ดังใช่มั้ยเนี่ย ขนมขึ้นชื่อของเมืองล่ะ มีมั้ย”

    “เราก็ไม่รู้เหมือนกัน” ผมไม่ได้สังเกตสักนิดว่า ทำไมเขาถึงพูดทีละคำๆอย่างช้าๆ และทำหน้างงๆเมื่อผมพ่นประโยคยาวๆเป็นคำถามออกไป

    “โห อะไรอะ บ้านเกิดตัวเองแท้ๆไม่รู้อะไรซักอย่าง”

    “.................”

    “อ่ะๆ ช่างมันเถอะ ว่าแต่นายชื่ออะไร ฉันชื่อ นากาจิม่า ยูโตะ” ด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดีเป็นเลิศ ผมจึงไม่ได้สนใจดีเทลเหล่านั้นนัก ....ผมเปิดรอยยิ้มให้พร้อมแนะนำตัวด้วยความจริงใจ

    “โอคาโมโต้ เคโตะ.... Nice to meet you” จบประโยค ไอ้หัวเม่นมันยื่นมือมาให้ผมข้างหนึ่งแล้วยิ้มเท่ห์.... ถึงจะน่าหมันไส้แค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับล่ะว่าไอ้หัวเม่นมันหน้าตาดีจริงๆ!

    “จับมือเหรอ ได้....” แต่ด้วยความซุกซน ผมจึงแอบเอาแมลงที่จับได้ระหว่างตามหาผีเสื้อในถังคู่ใจใส่มือแล้วยื่นไปจับด้วย

    “โอ้ะ....” ทว่าปฏิกิริยาที่ได้กลับมากลับแตกต่างจากคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง จนผมอดสงสัยไม่ได้

    “นายไม่กลัวเหรอ”

    “ไม่นี่ มันก็แค่แมลงตัวเล็กๆ”โอ้ว ความคิดเห็นโดนใจ

     

    ผมไม่รู้ตัวหรอกว่าได้ทำตาเป็นประกายวิบวับเหมือนในการ์ตูนใส่เพื่อนใหม่ไปตอนไหนบ้าง แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ ผมรู้สึกดีใจอย่างสุดๆไปเลยยยย

    “ใช่ม้ะ แมลงน่ารักจะตาย ทำไมทุกคนถึงต้องกลัวกันก็ไม่รู้”

     

    นั่นคือจุดเริ่มต้นประหลาดๆของความสัมพันธ์ฉันมิตรสนิทยิ่งของผมกับเคโตะ เจ้าเด็กบ้านนอก หน้าตาดี เสียแต่ว่าหัวเหมือนเม่นคนหนึ่ง

     

    To be con
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×