ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ].... You are beautiful ....[Hey!Say!JUMP version]

    ลำดับตอนที่ #16 : Battle

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 225
      0
      30 เม.ย. 55

     

     

     
    16

     

                            “กุนตะ บ่ายนี้มีงานที่ไหนอีกรึเปล่า”

     

    ยูริถามผู้จัดการส่วนตัวขึ้นมาขณะที่นั่งหมุนเก้าอี้ไปมาอยู่หน้ากระจกที่ห้องแต่งตัว หลังจากเพิ่งเสร็จสิ้นงานในสตูดิโอไปเมื่อครู่นี้

     

    “ไม่มีแล้วครับ จิเน็นซังจะกลับเลยหรือไปไหนต่อครับ”  หลังจากที่โดนพายุถล่มไปเมื่อครั้งที่พลาดให้เบอร์ของยูริไปกับเด็กตาแบ้วคนนั้น  กุนตะก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว ระวังคำพูดยิ่งกว่าแต่ก่อนจนแทบจะกลายเป็นทาสรับใช้ประจำตัวยูริแทนหน้าที่ผู้จัดการเสียด้วยซ้ำ

     

    ....มือบางถือนิตยสารปกที่เขาถ่ายร่วมกับ A.N.JUMP และซาโต้ โชริ... เด็กที่เขาไม่ถูกชะตาด้วยเลยแม้แต่น้อย ยิ่งมองภาพที่ไอ้เด็กนี่มันกอดยูยะยิ้มหวานหน้าตาชื่นมื่นแล้วมันก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ ยูริแทบจะเขวี้ยงหนังสือทิ้งอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าในนั้นยังมีรูปคู่ของเขากับยูยะด้วยเหมือนกัน..... จะว่าไปนอกเหนือจากเรื่องงานแล้วก็ยังไม่เคยได้ถ่ายรูปด้วยกันเลยนี่นา

     

                    ยูริปิดหนังสือลงอย่างแรง วางมันไว้บนโต๊ะเสียงดังปัง แล้วผุดลุกขึ้นยืน

     

     ....มาดหมายไว้กับตัวเอง ว่าถ้าวันนี้ไม่ได้รูปคู่ของเขากับยูยะ ไม่ใช่จิเน็น ยูริ!!!.....

     

                    “ไปเซอร์ไพร์สที่บ้านดีกว่า” ว่าแล้วร่างบางก็ยิ้มน้อยๆพลางเก็บของของตัวเองใส่กระเป๋า

     

                            ปะ...จะไปไหนครับฟังแล้วมันแลดูแปร่งหู กุนตะจึงต้องถามย้ำอีกรอบ

     

                    บ้านA.N.JUMP” คราวนี้ได้คำตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่กุนตะเห็นแล้วอดจะขนลุกไม่ได้ ..มันเหมือนกับว่าแผ่รังสีอะบางอย่างออกมามากจนน่ากลัวน่ะ....

     

                    .

                    .

     

                    ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย

     

                    การปรากฏตัวถึงบ้านของจิเน็น ยูริไม่ได้เป็นไปตามแผนที่คิดไว้ เพราะยูยะไม่อยู่บ้านเนื่องจากถูกยามะพีเรียกตัวเข้าบริษัทเพื่อคุยเรื่องคอนเสิร์ตที่วางแพลนว่าจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี นอกจากนี้สองพี่น้องก็ไปโรงพยาบาลตามนัดหมอของไดกิ ที่แม้ว่าจริงๆแล้วตอนเช้าจะวุ่นวายบ้านแทบแตก เพราะเคย์งอแงอยากไปส่งไดกิด้วยตัวเอง จะด้วยความเป็นห่วงหรืออะไรก็ตามแต่ แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมก็เลยต้องยืนเถียงกันอยู่เป็นนาน สุดท้ายน้องชายในสายเลือดอย่างเรียวสุเกะก็ตัดปัญหาด้วยการออกตัวไปส่งพี่ชายเองจนเคย์ต้องยอมลงให้ ....ดังนั้นคนที่อยู่ในบ้านจึงเหลือแค่เคโตะ ยูโตะ ฮิคารุ แล้วก็เคย์เท่านั้น

     

    และเมื่อยูริชูถุงใส่ของสดมาเต็มสองมือแล้วบอกว่าจะทำอาหารให้ทาน ทุกคนก็มีสีหน้าไม่ดีทันที จริงๆแล้วทั้งเคโตะ ฮิคารุยูโตะหรือแม้แต่เคย์ก็รู้สึกไม่ชอบใจตั้งแต่เมื่อครั้งที่เห็นตัวตนที่แท้จริงของแฟรี่น้อยจิเน็น ยูริไปในวันนั้น  

     

    แม้ยูยะจะไม่อยู่ แต่ทุกคนก็ถูกบังคับให้ทำสปาเกตตี้มีทซอสตามคำสั่งยูริ เพราะความจริงที่สุดของที่สุดก็คือยูริทำอาหารไม่เป็น ....ทุกคนก็เลยจับพลัดจับผลูคาดผ้ากันเปื้อนเข้าครัวกันแบบซังกะตาย และไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับยูรินัก ...ยูโตะต้มเส้นแบบเอื่อยๆ ไม่สนใจว่าใส่เส้นไปทีละเส้นแบบนั้นชาติไหนจะได้กิน ....เคย์หันผักแบบเซ็งๆ เล็กบ้างใหญ่บ้างแล้วแต่อารมณ์ แล้ววันนี้ยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยดีหนักเพราะโดนสุดที่รักขัดใจ.... เคโตะคนซอสแบบขอไปที .....ฮิคารุก็หั่นไส้กรอกจนแทบไม่เป็นรูปเป็นร่าง

     

    ทุกคนตั้งใจทำกันหน่อยสิ ยูริเห็นสภาพแบบนั้นแล้วก็อดจะตักเตือนออกมาไม่ได้

    ฮิคารุเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง สายตาเหมือนจะถามว่า .... แล้วตัวเองล่ะทำอะไรอยู่..... ยูริก็เลยสะบัดหน้าหนีไปดูความคืบหน้าทางฝั่งเคโตะแทน

     

     

    “กลับมาแล้วคร้าบ”

     

    เสียงนี้เปรียบดังเสียงสวรรค์ เมื่อเรียวสุเกะกับไดกิกลับมาจากโรงพยาบาลพอดี และดูเหมือนว่าก่อนกลับจะแวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาด้วย เพราะสองหนุ่มหอบหิ้วถุงของสดกันมาเต็มไม้เต็มมือ .....พวกฮิคารุ ยูโตะ เคโตะและเคย์ต่างพร้อมใจกันวางมือจากงานที่ทำแล้วแห่กันไปเข้าช่วยถือของมาเก็บในครัวทันที และร้ายที่สุดคือฮิคารุที่เสือกไสกองขยะหรืออะไรสักอย่างที่พวกเขาหั่นเล่นอยู่เมื่อครู่ไปให้พ้นทางอย่างไม่ใยดี แล้ววางของที่ได้จากไดกิและเรียวสุเกะแทนอย่างระมัดระวัง

     

    “วันนี้ทำอะไรกินน่ะไดจัง” ยูโตะถามขึ้นหลังจากสอดส่องดูวัตถุดิบครบทุกถุงแล้ว

    “ซาบะย่าง..วันนี้จะย่างเกลือหรือซีอิ้วดี” ไดกิยังมีใจหันไปถามความเห็นจากทุกคนอย่างใจดีอีกด้วย

    “ย่างเกลือดีที่สุด” ยูโตะตอบเสียงลั่นอยู่คนเดียว ไดกิขำเล็กๆขณะมองหน้าคนอื่นๆที่พยักเพยิดให้เอาตามที่ยูโตะว่า ไม่งั้นเดี๋ยวเรื่องจะยาว… นี่ดีนะว่ายูยะไม่อยู่บ้าน ไม่เช่นนั้นเรื่องเล็กๆนี้อาจจะกลายเป็นบานปลายใหญ่โตได้

     

    “งั้นเดี๋ยวฉันไปเตรียมเตาให้” เคโตะว่าแล้วก็ไปจัดการตามที่พูด

    “คนญี่ปุ่นยังไงก็ต้องคู่กับข้าวนั่นล่ะนะ ฮึ่ม” เคย์พูดไปยิ้มไป ช่วยรื้อของจัดเก็บเข้าที่ทางของมัน แสนจะอารมณ์ดีมีความสุข

    ทุกคนมะรุมมะตุ้มช่วยไดกิเตรียมข้าวเย็นกันอยู่ในครัว โดยไม่สนใจแขกคนเดียวของบ้านที่ถูกทิ้งละเลยให้ยืนนิ่งอยู่ด้านนอกโซนรับแขกคนเดียว ด้วยสีหน้าที่เหมือนจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

     

     

     “เดี๋ยว ...นั่นใคร” ในที่สุดยูริก็จับตัวใครสักคนที่สามารถให้คำตอบในสิ่งที่เขาข้องใจได้ ด้วยเป็นจังหวะที่ฮิคารุเดินออกมาหยิบของข้างนอกพอดี ยูริจึงดึงเสื้อมาถามหน้าเครียดๆ

     

    “พี่ชายของยามะจัง เขาเพิ่งมาอยู่กับพวกเราไม่นานมานี้เอง” ตอบยิ้มๆ ไม่ปกปิดสักนิดว่าพวกเขามีความสุขสนุกสนานแค่ไหนที่สองพี่น้องยามาดะมาอยู่ในบ้าน ....แล้วฮิคารุก็ลั้ลลาเข้าครัวไปอีกคน

     

     

     

    “น่ารังเกียจที่สุด มากันทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ ....หวังจะจับให้ได้สักคนล่ะสิ ร้ายกาจทั้งพี่ทั้งน้องเลย”

     

    ยูริหาจังหวะที่ทุกคนวุ่นวาย ฉุดตัวเรียวสุเกะที่เหมือนจะถูกกีดกันให้มีบทบาทในครัวน้อยที่สุดออกมาจากครัวโดยไม่มีใครรู้ แล้วออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ขึงขังจริงจัง

     

    “พาฉันไปที่ห้องนาย” บรรยากาศดาร์กๆที่รายล้อมรอบตัวยูรินั้น ทำให้เขาคิดว่าเวลานี้ไม่สมควรแก่การขัดใจเลยแม้แต่น้อย

    “เอ่อ...”

    “เดี๋ยวนี้” หน้าตายูริแลดูน่ากลัวมากขึ้นทุกขณะหากเขาไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่เหลือเค้าของความน่ารักสวยหวานอย่างที่ได้รับการขนานนามในวงการว่าแฟร์รี่ เทพตัวน้อยอันเป็นที่รักของประชาชนเลยสักนิด รวมถึงน้ำเสียงที่กดดันข่มขู่จนเรียวสุเกะไม่กล้าที่จะค้านอะไรออกไป .....เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงแฟนออกหน้าออกตาของยูยะที่เป็นลีดเดอร์ของวง เขาก็คงจะมีสิทธิที่จะมาเดินเพ่นพ่านอยู่ในบ้านของแฟนได้ล่ะมั้ง สุดท้ายแล้วร่างเล็กจึงยอมเดินนำไปที่ห้องของตัวเองแบบกล้าๆกลัวๆ

     

    ...... จะไม่ให้กลัวได้ไง ก็ห้องที่เขาอยู่ทุกวันนี้มันก็เป็นห้องของยูยะด้วย.......

    ......แล้วคนที่เป็นแฟนจะรู้สึกยังไง ถ้ารู้ว่ามีคนอื่นอาศัยร่วมห้องร่วมเตียงกับแฟนตัวเองทุกๆวันแบบนี้น่ะ.....

     

     

    .........ตายแน่ เรียวสุเกะเอ๋ยย.......

     

     

    “นี่ห้องนายเหรอ”

    “ผมอยู่กับไดจัง...” เรียวสุเกะพยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงคีย์เวิร์ดต้องห้าม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเขาเอง

    “แล้วนี่อะไร” ยูริชี้ไปยังคีย์บอร์ด กีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้า รวมทั้งโน๊ตเพลงต่างๆที่วางเรียงเป็นระเบียบอยู่ในอาณาบริเวณโต๊ะทำงานของยูยะ

     “...แล้วก็ทาคาคิคุง” จนมุมด้วยหลักฐานทั้งปวง จึงได้แต่ตอบออกไปเสียงเบาไม่ต่างจากเสียงกระซิบ

     

    “แล้วนายนอนที่ไหน”

    เรียวสุเกะชี้ไปที่เตียงหลังกว้าง ที่ตอนนี้ทั้งคุซาป๊งแล้วก็เจ้าแพนด้าเนโกะนั้นนั่งเคียงกันอยู่บนหัวเตียง เป็นภาพที่น่ารัก เพียงแต่ว่ามันขัดหูขัดตาจิเน็น ยูริ

     

    “แล้วยูยะล่ะ”

     

    เรียวสุเกะหลับตาปี๋แล้วกลั้นใจชี้ไปที่เตียงเดียวกัน

     

     

    “นอนด้วยกันงั้นเหรอ!!!” ยูริหวีดเสียงแหลมเป็ดๆนั้นแทบจะลั่นบ้าน

    “คือ...” เรียวสุเกะตั้งท่าจะอธิบายถึงเหตุผล ที่มาที่ไปทั้งหมด แต่ดูเหมือนว่า ณ อารมณ์นี้ จิเน็น ยูริไม่คิดจะฟังข้อแก้ต่างใดๆจากเขาอีกแล้ว ร่างบางเบิกตาแดงกล่ำด้วยแรงอารมณ์ จ้องไปที่เรียวสุเกะอย่างอาฆาตแค้น

     

    “มันจะมากไปแล้วนะยามาดะ เรียวสุเกะ!!

    เท้าสั้นๆของยูริก้าวรวดเร็วเข้าไปหาเรียวสุเกะด้วยความโมโห ให้ร่างเล็กร่นถอยหนีอย่างตื่นตระหนก

     

                            “นายมันหน้าไม่อาย คิดจะแย่งคนที่มีเจ้าของอยู่แล้วหรือไง”

                    “เปล่านะ” เรียวสุเกะถึงคราจนมุมเมื่อถอยมาเตะเข้ากับขอบเตียงจนทรุดลงไปนั่งปุอยู่บนเตียง หน่วยตาเรียวสวยไหวระริกไปในทันทีเมื่อสบกับดวงตาที่วาวโรจน์ไปด้วยอารมณ์หึงหวงของยูริ

     

                    ร่างบางกวาดสายตาไปทั่วเตียง แล้วกระชากเอาตุ๊กตาหมีบนหัวเตียงมาอย่างรุนแรง เพราะคิดว่าตุ๊กตาพวกนี้เป็นของเรียวสุเกะ อย่างยูยะคงไม่เล่นตุ๊กตาปัญญาอ่อนพวกนี้หรอก...

     

                    “อ่ะ” เรียวสุเกะอยากจะบอกเหลือเกินว่า ตุ๊กตาหมีที่ยูริถือมันแขนขาห้อยร่องแร่งอย่างน่าสงสารอยู่นั้น คือคุซาป๊งสุดรักสุดหวงของยูยะต่างหาก... หากยูริเผลอพลั้งมือรุนแรงใส่คุซาป๊งเขาก็ไม่อยากจะคิดว่าว่ายูยะกลับมาจะอาละวาดบ้านแตกขนาดไหน

                    ...แต่ดูเหมือนว่ายูริจะคิดว่าเขาพยายามปกป้องของรักของตัวเองเสียมากกว่า ร่างบางจึงยกยิ้มมุมปากแล้วตั้งท่าจะทารุณกรรมตุ๊กตาหมีในมือให้สิ้นซาก....

     

                    “ยะ...อย่านะ”

     

                    .

                    .

     

                    “ยามะจังหายไปไหนน่ะ”

    เคโตะเห็นว่าเรียวสุเกะไม่ได้อยู่ในครัวก็เลยถามขึ้นมาลอยๆ แต่ทั้งไดกิ และลูกมืออย่างยูโตะ เคย์ และฮิคารุที่กำลังช่วยเหลืองานครัวอย่างสนุกมือก็ได้แต่ส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง

     

    “เหมือนจะหายไปสักพักแล้วนะ คงอยู่ที่ห้องล่ะมั้ง” ฮิคารุตอบแบบไม่คิดอะไร ...ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ายังมีอีกคนที่ยังอยู่ในบ้านนี้

    เคโตะรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาแบบไม่รู้สาเหตุ เขารู้สึกถึงกลิ่นอันตรายหรือไม่ก็ลางร้ายอะไรบางอย่างที่บอกให้เขารีบสาวเท้าไปที่ห้องของเรียวสุเกะ และเมื่อเข้าใกล้เท่าไหร่ความเป็นห่วงก็ยิ่งทวีคูณเมื่อเขาได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันในห้อง

     

     

    ปังงงงง~!!!!!!!

     

    เมื่อเคโตะเปิดประตูโจ๊ะโล๊ะเข้ามาโดยไม่บอกกล่าวก็ได้เห็นภาพที่ยูรินั่งทรุดอยู่ที่พื้น คุซาป๊งก็ตกอยู่ข้างตัว โดยที่เรียวสุเกะหยุดอยู่ในท่ายืนและกำลังจะเดินเข้าหายูริ.... ถ้ามองผาดๆก็เหมือนว่าเรียวสุเกะกำลังรังแกยูริตัวเล็กๆที่ไม่มีทางสู้นั่นแหละ

     

                    “ทำไมจะต้องขว้างใส่ด้วยล่ะ ผมแค่ขอดูนิดหน่อยเอง”

     

    เรียวสุเกะตาค้างไปแล้วกับการโกหกหน้าตายแบบขั้นเทพของยูริ ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังเสียงดัง ข่มขู่ แถมยังทึ้งแขนคุซาป๊งจนแทบจะหลุดออกจากกัน แต่พอได้ยินเสียงประตูก็รีบทรุดลงไปนั่งเป็นผู้ถูกกระทำ ตีหน้าเศร้าเรียกคะแนนความสงสาร ไหนจะประโยคใส่ความที่ตามมาอีกระลอกนั้นอีกด้วย.... เขาปรับอารมณ์ไม่ทันจริงๆ....

     

                    “เกิดอะไรขึ้นน่ะ”

     

    เหตุการณ์คล้ายๆกับตอนที่เรียวสุเกะไม่สบายคราวก่อน ...ยูโตะวิ่งตามเข้ามาหน้าตาตื่น เคโตะไม่แสดงสีหน้าใดๆแล้วก็ไม่ตอบคำถามยูโตะด้วย ร่างหนาตรงเข้าไปประคองเรียวสุเกะที่โดนตีสองหน้าใส่ซะจนช็อค ......ยูโตะสองจิตสองใจ ยังงงๆกับเหตุการณ์ ....ใจนึงก็ห่วงเรียวสุเกะ แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเห็นยูรินั่งแปะอยู่บนพื้นก็เลยช่วยพยุงยูริลุกขึ้นมาด้วย แต่สุดท้ายก็ไปรุมประคมประหงมเรียวสุเกะอยู่ดี

     

    “ยามะจังเป็นอะไรรึเปล่า... เจ็บตรงไหนมั้ย หรือว่าโดนทำร้ายที่ไหน” ยูโตะสำรวจร่องรอยความเสียหายบนตัวของร่างเล็กไปทั่ว จนเรียวสุเกะต้องจับมือของยูโตะที่ชักจะซุกซนเกินไปให้อยู่นิ่งๆ “ไม่เป็นไร ผมไม่ได้โดนทำร้ายหรอก”

                   

                    “เดี๋ยวยูยะก็คงกลับมาแล้ว ช่วยออกไปรอข้างนอกด้วย” เคโตะที่นิ่งเงียบมาตั้งแต่แรกเอ่ยปากขึ้นมาเป็นประโยคแรก ถึงจะโง่แค่ไหนก็คงเข้าใจนัยของเจ้าบ้านที่กำลังตำหนิยูริซึ่งเป็นคนนอกที่เข้ามาวุ่นวายในห้องส่วนตัวของคนในบ้าน และต่อให้เขาเป็นฝ่ายถูกทำร้ายก็จะไม่เข้าข้างเพราะเป็นถือว่าฝ่ายเข้ามาบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของเรียวสุเกะอยู่ดี

    สุดท้ายก็ยอมกระแทกเท้าออกมาจากห้องแต่โดยดี ....ยูริเหลือบมองภาพที่ยูโตะดูแลใส่ใจตัวเรียวสุเกะมากเกินกว่าเหตุก็รู้สึกหมันไส้

     

    ....จะเอาใจอะไรกันนักกันหนานะ ....

    .....ยามาดะ เรียวสุเกะ มีดีที่อะไร ทุกคนถึงได้รุมรักกันขนาดนี้!......

     

    .

    .

     

    คืนนั้นเอง

     

    เคโตะเข้ามาหายูยะที่ห้อง ตอนที่เรียวสุเกะกับคนอื่นๆกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น

     

    “มีอะไรรึเปล่า” ยูยะร้องถามออกไปด้วยความแปลกใจ ...ไม่บ่อยนักที่เคโตะจะเข้ามาคุยกับเขาตามลำพังด้วยหน้าเครียดๆแบบนี้ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงหรือว่าสำคัญจริงๆ...

     

                    “เรื่องจิเน็น ยูริ”

    ยูยะกระตุกไปนิดหนึ่ง ก่อนจะวางท่าเป็นปกติ พยักหน้าให้เคโตะพูดธุระต่อ

     

    “ฉันแค่จะมาบอกว่า ถ้าคนของนายยังมารังแกยามะจังอีก ฉันจะไม่ปล่อยเอาไว้แน่ๆ” เคโตะพูดพลางจ้องหน้ายูยะไม่มีหลบตาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เหมือนตั้งใจจะทำตามที่พูดเอาไว้จริงๆ

    “ไม่ใช่คนของฉัน”

    “หรือนายจะบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกับจิเน็น ยูริ”

    “......” เถียงไม่ออก... ณ จุดนี้ ยูยะจึงทำได้แค่ยืนฟังเงียบๆเท่านั้น

     

    “พรุ่งนี้ฉันจะสารภาพรักกับยามะจัง”

     

    “.....” ยูยะเงยหน้ามองเคโตะด้วยความตกใจ และยิ่งได้เห็นจากสีหน้าเพื่อนว่าดูจริงจังกว่าทุกครั้ง ไม่มีท่าทางเหมือนเล่นๆ เขาก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก

     

    “ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้สวย นายก็ช่วยเลิกยุ่งกับยามะจังโดยไม่จำเป็นได้แล้ว ฉันไม่อยากให้เขาเป็นเป้านิ่งของจิเน็น ยิ่งนายไปวนเวียนอยู่รอบๆยามะจัง เขาก็ยิ่งจะถูกจิเน็นเล่นงาน”

     

    ยูยะรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นใบ้ เขาไม่สามารถพูดอะไรโต้ตอบกลับไปได้แม้แต้คำเดียว

     

     

    ......หัวใจมันเต้นเป็นจังหวะหนักหน่วงจนรู้สึกเจ็บ เหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบไม่หยุดเลย......

     

    .....เพียงแค่คิดว่าของสำคัญกำลังจะถูกพรากไป.....

     

     

     

    To be con

    Talk : ขอโทษสำหรับความล่าช้าค่ะ ยอมรับผิดทุกประการ(โค้ง) .... มันก็ใกล้จะจบแล้วละนะ อีกไม่กี่ตอนล่ะคิดว่า....

    ช่วงนี้เพลินกับเด็กซ้ำชั้นในบากาดะเหลือเกิน จนอยากจะลองแต่งแนวแยงกี้ดูบ้าง 55+

    ขอให้เพลิดเพลินค่ะ.... อ่านฟิกแก้ร้อนกันเนอะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×