คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Super Star 02
02
หลังจากเหตุการณ์วันที่เจ้าชายได้ขี่ม้าขาวเข้ามาปกป้องโชริจนเป็นที่โจษจันเล่าขานไปทั้งโรงเรียนในเวลาอันรวดเร็วนั้น ....โชริไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองรึเปล่า แต่เขารู้สึกว่าเวลาเดินไปไหนถึงมีแต่คนทักทาย หรือไม่ก็ยิ้มๆให้แล้วหันไปซุบซิบๆกันต่อหน้าต่อตา หรือบางทีก็มีการกลั่นแกล้งเล็กๆน้อยๆแต่ไม่ร้ายแรง ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทที่โยนหน้าที่และความรับผิดชอบให้
.....จริงๆมันก็ไม่ทำให้โชริเดือดร้อนอะไรมากหรอก เพียงแต่ว่าเขาต่อต้านอะไรไม่ได้สักคำเพราะทุกคนรวมหัวกันจนเป็นมติเอกฉันท์ .... แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างจินกูจิก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย .....ก็เท่านั้นเอง
อย่างเช่นในตอนนี้ .....โชริถูกผลักภาระให้เป็นคณะกรรมการห้องไปแล้วเรียบร้อย และพอเรื่องนี้รู้ถึงหูเคนโตะเข้า เจ้าชายมันก็เดินเข้าห้องสภานักเรียนแล้วบอกว่าจะมาช่วยงานสภา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ โฮคุโตะที่เป็นประธานนักเรียนคนปัจจุบันไปขอร้องแทบเป็นแทบตายให้เคนโตะเข้าสภามาช่วยงาน เจ้าชายมันก็ไม่สะเทือนสักนิด
แล้วพอข่าวเจ้าชายที่ตามเข้าสภาเพราะโชริเป็นกรรมการนักเรียนนั้นแพร่สะพัดออกไป โชริก็ตกเป็นเป้าในทันที
......เพราะไม่ว่าใคร หรือชมรมไหนก็อยากได้ตัวเจ้าชายแสนเพอร์เฟคทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ และความสามารถมาประดับชมรมกันทั้งนั้น........
“โชริคุง ช่วยมาเข้าชมรมชงชาหน่อยได้มั้ยจ้ะ”
ประโยคคำถามคล้ายๆกันนี้ถูกส่งมาหาโชรินับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เค้าก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียนแล้ว ...ยังดีที่ตอนเช้ามีพี่ยูมะช่วยกันไว้ให้อยู่ แต่ไม่ใช่ในตอนนี้แน่ๆ ...แค่โชริออกมาเข้าห้องน้ำคนเดียวในเวลาพักเที่ยงก็โดนคนมากมายเข้ามารุมล้อมแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว
“แต่ผมมีชมรมแล้ว” ร่างบางพยายามตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ ...ทว่าไม่ได้มีความน่าเกรงขามให้ใครรู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“โชริซัง ช่วยชมรมเราหน่อยเถอะนะ”
“โชริซัง ชมรมผมด้วย”
“โชริซัง”
เสียงเรียกชื่อโชริดังอื้ออึง จนเขาเริ่มรู้สึกว่าไม่ควรยืนนิ่งอยู่ให้คนจำนวนมากวิ่งเข้าใส่แบบนี้ ร่างจ้อยเริ่มก้าวถอยหลังแล้วตั้งท่าวิ่งหนีสุดกำลังโดยที่ทุกคนต่างก็วิ่งกรูตามกันไป
....หลายคนคงไม่รู้ว่าโชริเป็นนักกีฬามาก่อน เคยเป็นนักวิ่งที่นอกจากวิ่งเร็วแล้วยังวิ่งอึดถึงขนาดที่ว่า โชริรู้สึกตัวอีกทีหันกลับไปมองข้างหลังก็ไม่เจอใครที่เหลือรอดวิ่งตามขึ้นมาได้ทันสักคน
ร่างบางค่อยๆชะลอฝีเท้าและหยุดหอบหายใจอย่างเชื่องช้า... ปรับสมดุลในร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติ
“ห้องดนตรีเหรอ”
โชริเงยหน้าอ่านป้ายหน้าห้องที่ตัวเองมาหยุดยืนอยู่ ..... นี่เขาวิ่งเตลิดมาได้ไกลถึงขนาดนี้เลย.....
.....ห้องดนตรีที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึกมัธยมปลาย เขาจึงไม่เคยขึ้นมาที่นี่เลยสักครั้ง ....หากว่าไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างวันนี้ล่ะก็นะ.....
“อ้ะ!!!”
เพราะมัวแต่เผลอเหม่อลอย ร่างบางจึงถูกมือดีฉุดลากเข้าไปในห้องแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว
....ประตูถูกปิด เสียงกดล็อคประตูห้องนั้นทำให้โชริรู้สึกตื่นกลัวจนไม่กล้าลืมตาขึ้นมา.....
“ไม่คิดจะร้องขอความช่วยเหลือหน่อยเหรอ” เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นหู ...และสัมผัสที่ค่อยๆคลายแรงกอดรัดจนเหลือไว้เพียงอ้อมกอดหลวมๆ .....กลิ่นอายที่คุ้นเคยทำให้โชริค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละนิด
“เอ้ะ... เคนโตะคุง!” พอโชริลืมตามาเจอหน้าเคนโตะก็เปิดยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“ฉันเอง... แล้วถ้ามันไม่ใช่ฉันนายจะทำยังไงน่ะฮะ” ร่างสูงเก็กหน้าดุใส่โชริจนคนตัวเล็กห่อตัวลีบฟีบไปยิ่งกว่าเดิมอีกเท่าตัว
“แต่... แต่ผมเป็นผู้ชาย มันคงไม่เกิดขึ้นกับผมหรอก”
เคนโตะฟังเหตุผลไร้เดียงสาของเด็กโลกสวยแล้วอยากเอามือก่ายหน้าผากนัก .... นี่ไม่ได้รู้เลยใช่มั้ย ว่าตัวเองก็เป็นที่ต้องการของใครหลายๆคนเหมือนกันน่ะ -_-
“นายเพิ่งจะวิ่งหนีคนมาไม่ใช่หรือไง”
....เจ้าชายก็คือเจ้าชาย เขามีความสามารถพิเศษส่วนตัวอย่างที่เคยได้ประกาศออกสื่อไปแล้วว่า ....ต่อให้ตัวเขาไม่อยู่ ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่เห็นหรือไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆเลย
.......โดยเฉพาะเรื่องใดๆที่เกี่ยวข้องกับเด็กคนนี้........
“เคนโตะคุง... รู้ได้ยังไงครับ” ...ดูเอาเถิด..ยังมีหน้ามาทำหน้าแปลกใจ ฉงนฉงายได้อย่างน่าเอ็นดูอีกนะคนเรา
แน่นอนว่าคำบรรยายทั้งหมดนี่มันเกิดจากความพิศวาสส่วนตัวล้วนๆ ...โชริทำหน้าประหลาดยังไง พูดอะไรก็ดูน่าเอ็นดูไปหมดในสายตาเคนโตะนั่นแหละ .... หลงหัวปักหัวปำขนาดนี้ เพิ่งเป็นครั้งแรกกับเด็กคนนี้เลยจริงๆ
“เพราะฉันอีกแล้วสิ” น้ำเสียงเงื่องหงอยหลุดออกจากปากของร่างสูง.... เพราะเขาฟันธงได้เลยว่าเรื่องลำบากๆทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับโชริในช่วงนี้มันเป็นผลจากกระทำของตัวเขาทั้งนั้น
“ไม่ใช่เพราะเคนโตะคุงหรอก”
“ฉันก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆโชริบ้างก็เท่านั้นเอง ฉันทำให้โชริวุ่นวายอีกแล้ว” ร่างสูงก้มหน้าให้หน้าผากทั้งสองชนกัน ส่งสายตาหงอยๆ เศร้าๆไปให้ร่างบางที่ยืนตาแป๋วแก้มแดงเพราะระยะห่างที่มันย่นย่อจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน
“อย่าคิดแบบนั้นเลยฮะ ผมไม่ได้เดือดร้อนหรอก ..ผมน่ะ วิ่งเร็วนะ” เคนโตะอดจะยิ้มออกมาไม่ได้ โชริน่ารักเกินไป มือเล็กๆของโชริพยายามจะกอดตอบเขาเพื่อปลอบใจ รอยยิ้มสดใสของโชริช่วยเยียวยาเขาได้จริงๆ
“ฮื่ออ ฉันรักโชริจังเลย” ร่างสูงรวบร่างบางเข้ามากอดรัดแน่นๆแนบอก
“ผมหายใจไม่ออกแล้วฮะ”
“อยากให้ช่วยผายปอดไหมล่ะ”
โชริเงียบไปครู่นึงเหมือนกำลังใช้ความคิดหนัก
“เอ่อ ไม่ต้องคิดมากก็ได้ ฉันแค่พูดเล่น” เคนโตะหน้าเจื่อนไปนิดนึง เขาคิดว่าอาจจะทำให้โชริกลัวซะแล้ว
“จูบแรกน่ะ สำคัญมากมั้ยครับ”
“สำคัญสิ มันจะกลายเป็นความทรงจำตลอดไป ...แล้วก็ต้องทำกับคนที่รักเท่านั้นถึงจะมีความหมาย”
“แล้วเคนโตะคุงเคยมีรึยังฮะ”
“ฉันอยากเก็บไว้ให้แฟนคนแรกของฉันน่ะ แต่ถ้าโชริไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ฉันรอได้...รอให้โตกว่านี้ก่อนดีกว่า”
“ผมโตแล้วนะ... เคนโตะคุงไม่ต้องอดทนเพื่อผมมากก็ได้”
“พูดอะไรออกมาน่ะ รู้ความหมายรึเปล่า”
“ก็เคนโตะคุงอยากจูบไม่ใช่เหรอ ผมก็อยากให้เคนโตะคุงเป็นจูบแรกของผม”
เคนโตะยอมแพ้จริงๆ ..ตากลมโตใสแป๋วที่มองสบอย่างจริงจัง จมูกโด่งเป็นสันรับกับรูปหน้าเรียวสวย องค์ประกอบทุกอย่างบนใบหน้าร่างบางนั้นช่างจับวางได้ราวกับปั้นแต่ง ความสวยงามที่ราวกับรูปสลัก .... เรียวปากสีแดงระเรื่อนั่นยั่วตาเขาเหลือเกินในเวลาที่ใกล้ชิดกันแบบนี้
ร่างสูงค่อยๆแนบริมฝีปากทาบทับลงไปอย่างเชื่องช้า เนิบนาบ ค่อยเป็นค่อยไป ให้ความหวานนั้นแทรกซึมลงไปในหัวใจทั้งสองดวง ..... บรรยากาศอุ่นๆหวานๆโอบล้อมทั้งสองคนเอาไว้ราวกับช่วงเวลานั้นได้หยุดหมุนลง
โชริหลับตาแน่นด้วยความประหม่า แต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายรุกล้ำตามใจ .....เคนโตะเคล้นคลึงริมฝีปากอิ่มของร่างบางจนมันกลายเป็นสีแดงจัด ....เขาค่อยๆละจูบออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงมือเล็กๆที่บีบขยำเสื้อเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันเล่นเปียโนให้ฟังเอาไหม”
ร่างสูงส่งยิ้มอ่อนโยนเป็นตัวเบิกทาง โชริจึงยอมเงยหน้าสบตาเขาอีกครั้งด้วยแก้มแดงจนเหมือนจะสุกนั่นแหละ .....เคนโตะจูงมือพาโชริไปที่เปียโนสีดำหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องด้วยกัน
“เคนโตะคุงเล่นเป็นด้วยหรือฮะ” .
....โชริก็เหมือนเด็ก พอมีสิ่งที่น่าสนใจใหม่ๆก็ลืมความเขินความอายไปได้ง่ายๆ....
เคนโตะยิ้มไม่ตอบ แต่วางมือลงบนคีย์และเริ่มบรรเลงเพลงพร้อมกับขับร้องเพลงรักไปด้วย โดยที่แทบตลอดเวลาร่างสูงใช้สายตาหวานๆเชื่อมๆจดจ้องแต่ใบหน้าขวยเขินของโชริเพียงอย่างเดียว
....................................
......................
............
หลังเลิกเรียน
“วันนี้ชมรมฟุตบอลมีซ้อมใหญ่นี่ ...ไอ้เจ้าชายคงโดนกักตัวไว้แน่ล่ะ โชริเลิกหวังเหอะ กลับบ้านกัน”
“แต่ว่า....”
เด็กหนุ่มมองเครื่องรางในมือที่เขาสู้อุตส่าห์ตั้งใจทำด้วยตัวเองกับมือให้เคนโตะตามที่ขอไว้เมื่อนานมาแล้ว .... แต่กว่าจะคิดได้ว่าควรจะทำอะไร และกว่าจะทดลองทำจนสำเร็จเสร็จเป็นชิ้นเป็นอันได้ก็เสียเวลาฝึกทำอยู่หลายวันทีเดียว
จริงๆสิ่งที่โชริทำก็แค่เชือกข้อมือถักธรรมดาๆเท่านั้นเอง แต่มันเป็นสิ่งที่เขาใส่ความตั้งใจเข้าไป และหวังจะให้มันช่วยนำพาชัยชนะมาให้
....และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่โชริจะมีโอกาสมอบของขวัญเล็กๆชิ้นนี้ให้กับแฟนหนุ่ม เพราะการแข่งฟุตบอลนัดสำคัญจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว...เขาเกรงว่าถ้ารอถึงวันพรุ่งนี้ เขาจะไม่มีโอกาสเจอเคนโตะก่อนแข่ง แล้วสิ่งที่เขาทำจะไร้ความหมาย.....
......................................................
.....................................
......................
คืนนี้.........
เป็นวันที่เด็กหนุ่มวัยกำลังโตอย่างยูมะรอคอยอย่างตื่นเต้นมาเป็นเวลานาน จนถึงกับกินข้าวเย็นที่โชริทำไม่ลงเลยทีเดียว ...ดวงตาเรียวคมจับจ้องอยู่ที่นาฬิกาที่แขวนติดผนังอย่างใจจดใจจ่ออย่างเดียวเท่านั้น ขนาดว่ายูยะแกล้งคีบเนื้อในชามยูมะเข้าปากตัวเองไปกว่าครึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวสักนิด
.....เพราะว่าคืนนี้เป็นวันประกาศผลผู้โชคดีกิจกรรม “หนึ่งคืนสุขสันต์กับยามาดะ เรียวสุเกะ” น่ะสิ!!!.....
กิจกรรมที่คล้ายๆแฟนมีตติ้ง แต่ที่ฟินกว่าคือได้ทำกิจกรรมสุดพิเศษกับยามะจังสองต่อสองตลอดสองวันหนึ่งคืนที่รีสอร์ตสุดหรูบรรยากาศดีๆแบบฟรีๆ ....โอกาสดีแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วสำหรับการเป็นหนึ่งในร้อยในพันในหมื่นคนที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมนี้
ยูมะกำลังนั่งจดจ่ออยู่หน้าโน้ตบุคเครื่องโปรด ...นิ้วเรียวค่อยๆเลื่อนเมาส์ด้วยความตื่นเต้นอย่างสุดแสน ตัวหนังสือขนาดใหญ่สีสันฉูดฉาด ประกอบกับรูปยามะจังยิ้มหวานเชิญชวนให้หลงเคลิ้มมึนเมาไปชั่วขณะ
‘รายชื่อผู้โชคดีที่ได้ไปเดทหนึ่งคืนสุขสันต์กับยามาดะ เรียวสุเกะ’
“สาธุ้ ขอให้ได้ทีเถ้อะ”
ยูมะใช้มือข้างหนึ่งปิดดวงตา แล้วค่อยๆแง้มช่องระหว่างนิ้วเพื่อแอบดู
วุ้ย...ตื่นเต้นอ่ะ
มือเรียวที่พยายามบังคับตัวเองไม่ให้สั่นค่อยๆใช้เมาส์เลื่อนหน้าจอลงมาเรื่อยๆ
โอย..... มันบีบหัวใจเหลือเกิน
‘ทาคาคิ ยูมะ’
หืม?
ทาคาคิ ยูมะ
นั่นมันคันจิชื่อเขานี่หว่า!
นี่เป็นผลจากการที่เขาตะบี้ตะบันส่งเมล์ชิงโชคทุกวัน ทุกชั่วโมง วันละหลายสิบเวลา เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ... เล่นเอานิ้วจะล็อกกันไปข้างนึง ......โอเค ยอมรับก็ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่ไอ้เจ้าชายมันช่วยออกปากขอร้องพวกสาวๆแฟนคลับมันให้ช่วยส่งเมล์ในชื่อ “ทาคาคิ ยูมะ” ก็เถอะ
......ความฝันของผมเกิดขึ้นจริงแล้ว......
“ยัตต้า!!!!!!!!!! สำเร็จแล้ววววววว วู้ววๆๆๆ เย่ๆๆๆ”
ร่างสูงผุดลุกขึ้นกระโดดโลดเต้น ตะโกนเสียงดังโหวกเหวก เต้นออกท่าออกทางเหมือนคนบ้าอยู่ในห้องด้วยอารามดีใจขนาดหนักเหมือนได้เงินล้าน.... วิ่งเข้าไปจูบโปสเตอร์ยามะจังขนาดเท่าตัวจริงที่ติดอยู่ที่ประตูห้องทีนึง ปลายนิ้วลูบแก้มขาวในภาพอย่างเพ้อๆ ซักพักก็วิ่งลงส้นตุ้บๆเสียงดังสนั่นไปเปิดประตูห้องพี่ชายที่นั่งทำงานหลังขดหลังแข็งอยู่
“พี่ยูยะ!!!”
“ว้อยย! ตกใจหมด บอกว่าอย่าเพิ่งมากวนตอนช่วงเดธไลน์ไงเล่ายูมะ” ยูยะตกใจซะจนปลายปากกาที่กำลังตวัดเขียนอยู่อย่างเร่งรีบไหลวืดจนไม่เป็นตัวอักษร
......ถือได้ว่าเป็นกฎของบ้านเลยก็ว่าได้ ถ้าหากถึงเวลาช่วงเดธไลน์งานเขียนนิยายของยูยะแล้ว ห้ามน้องๆเข้าไปวุ่นวายรบกวนสมาธิเด็ดขาด ซึ่งปกติยูมะและโชริจะผลัดกันไปดูแลหาข้าวปลาให้กินบ้าง หาขนม ผลไม้หรือแม้แต่เครื่องดื่มชูกำลังไปให้บ้าง ไม่ให้พี่เป็นลมตายอยู่อย่างโดดเดี่ยวคนเดียวในห้อง
“น่าๆเรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ พี่ยูยะช่วยผมก่อน”
แต่ไอ้คนทำความผิดหาได้มีความรับผิดชอบไม่ ...ยูมะทำตาใสปิ้งเข้าไปเกาะแขนยูยะ ยิ้มหวานซะจนน่าขนลุกในสายตาผู้เป็นพี่
ยูยะหรี่ตามองน้องคนรอง ที่ปกติไม่ค่อยมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาปรึกษาคนเป็นพี่นักหรอก หรือเรียกว่าชีวิตมันค่อนข้างจะไร้แก่นสารก็ว่าได้ ....คราวนี้ก็เลยทำให้ยูยะสนใจขึ้นมา
“ด่วนมากหรือไง”
“ด่วนที่สุด เรื่องสำคัญที่สุดในโลกเลย” นัยน์ตาคู่สวยดั่งปลาทะเลน้ำลึกของยูมะจ้องตาผู้เป็นพี่อย่างจริงจังไม่ยอมลดละ จนอีกฝ่ายต้องยอมแพ้แทน
“เอ้า ว่ามา” ยูยะวางปากกาในมือแล้วหันมานั่งตั้งใจฟังอย่างเต็มที่
“คือว่างี้นะ.....”
แล้วยูมะก็เล่าเรื่องที่ตัวเองได้เป็นผู้โชคดีได้ไปเดทกับคนที่เค้าหลงใหลคลั่งไคล้มานาน โดยเขาเลือกที่จะเล่าข้ามโปรเซสต่างๆเพื่อที่จะได้เป็นหนึ่งเดียวที่มีโอกาสใกล้ชิดดาราดัง อย่างยามาดะ เรียวสุเกะ และเพื่อให้การพบกันครั้งนี้ไม่เป็นการเสียเปล่า เขาก็อยากทำให้เป็นความทรงจำที่น่าจดจำไม่ลืมเลือน อยากที่จะเป็นคนที่เข้าไปอยู่ในความคิด ความทรงจำของยามะจังที่ต้องจดจำไปตลอด
“ทำยังไงให้ดูน่าสนใจน่ะเหรอ” ยูยะเดาะลิ้นขณะที่ใช้ความคิด ใช้ด้ามปากกาจิ้มๆคางอย่างคิดหนัก
“อืม อย่างในนิยายของพี่ก็ได้ เอาแบบที่ตอนจบรักกันแฮปปี้เอนดิ้งนะพี่ ไม่ใช่ตายตอนจบ” ต้องพูดดักไว้ก่อน พี่ยูยะใช่จะกวนโอ้ยไม่เป็น
“ถ้าแบบพล็อตในนิยายขั้นเบสิกเลยน่ะนะ นายจะต้องทำตัวแตกต่างจากแฟนคลับปกติที่เขาเป็นกัน”
“ยังไงล่ะพี่”
“อืมม อย่างเช่นทำตัวต่อต้าน แสดงออกว่าไม่ได้ชอบ ทั้งที่จริงๆแล้วชอบอะไรแบบนี้”
“โห...มุกบอกอายุมากอ่ะพี่”
“เอ้ะ ไอ้นี่ ...ไปคิดเองเลยไป”
ยูยะสะบัดหน้ากอดอก งอนไปแล้วเรียบร้อย....พูดเรื่องอะไรไม่พูด พูดถึงอายุ หาเรื่องตายชัดๆ
“เฮ้ย พี่ยูยะ อย่าขี้น้อยใจน่า หัวยังไม่ล้านซะหน่อย ทำตัวเป็นคนแก่ไปได้”
คำก็แก่ สองคำก็แก่.... เอาเข้าจริงยูยะก็อายุห่างจากยูมะแค่ 3-4 ปีเท่านั้นเอง ไอ้น้องบ้านี่มันช่างหาเรื่องป่วนไม่ดูเวล่ำเวลา ยูยะจึงไม่ทนโปรดสัตว์อีกต่อไป
“โว้ย ไปไกลๆเลยไปไอ้น้องบ้า!!!~”
อันที่จริงแล้วยูมะค่อนข้างจริงจังกับเรื่องนี้เข้าขั้นซีเรียสเลยทีเดียวเชียวแหละ แต่เขาอยากได้ไอเดียที่เข้าท่ากว่านี้ จับใจมากกว่านี้..... ไอ้ที่พี่ยูยะแนะนำมามันก็ดีอยู่หรอก แต่มันก็แค่ทฤษฎีไม่ใช่เหรอ พี่ยูยะมีประสบการณ์เรื่องความรักซะที่ไหน
….บอกไว้เลยว่าพี่ชายผมน่ะ ถึงจะหล่อ เข้ม โฉด สาวๆก็ยังเข้ามาขายขนมจีบไม่เว้นแต่ละวันตอนสมัยเรียน ....แต่อย่างไรก็ตาม พี่ยูยะก็ยังคงครองตัวโสดและเวอร์จิ้นได้อย่างไร้มลทินใดๆจนถึงทุกวันนี้เลยล่ะ........
เห็นทีว่าต้องช่วยเหลือตัวเองซะแล้วล่ะนะ
.
.
ผมกำลังยืนมองหลังคาบ้านของคนที่ผมรักที่สุด
แต่ไฟที่ปิดมืดสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่บ้านทำให้หัวใจที่เบ่งบานตั้งแต่ตอนประกาศผลนั่นเหี่ยวแฟบลงไปเล็กน้อย
............ยามะจังไม่อยู่บ้าน...........
ก็อย่างว่าล่ะนะ ซุปเปอร์ไอดอลที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างยามาดะ เรียวสุเกะ ...... ถ้าอยู่ติดบ้านทุกวันก็คงจะน่าแปลกใจแล้วล่ะ
“พี่ยูมะ....”
เสียงใสๆเบาๆที่เรียกอยู่ข้างกายพร้อมแรงกระตุกที่ชายเสื้อทำให้ยูมะละความสนใจจากบ้านหลังข้างๆที่เงียบสนิทนั้น หันมาหาน้องชายที่ขอให้เขาพาออกมาบ้านไอ้เจ้าชายดึกๆดื่นๆ
ไอ้ครั้นจะใจแข็งไม่พามาเพราะเห็นว่ามันดึกแล้ว ....แต่พอเห็นสีหน้ามุ่งมั่นสุดๆของน้อง ยูมะก็ลงความเห็นว่า สู้ให้เขาออกมาเป็นเพื่อนน้องดีกว่าปล่อยให้น้องชายจอมเอ๋อหนีออกไปคนเดียวกลางค่ำกลางคืน
......นั่นยิ่งอันตรายสุดๆ อันตรายยิ่งกว่าอันตราย......
และแน่นอนว่า ภารกิจนี้มีเพียงเขาและโชริที่รู้กันสองคนเท่านั้น โดยที่ก่อนหน้านั้นก็ต้องมีการเล่นละครตบตาพี่ยูยะว่าโชริเข้านอนไปแล้ว แล้วยูมะก็กำลังเพ้อถึงยามะจังจนยูยะคร้านจะใส่ใจ
“........”
โชริเงยหน้าขึ้นทำตาใสใส่ยูมะและทำหน้าขอความช่วยเหลือประมาณว่า ....ควรจะทำยังไงต่อดี....
“น้องโทรเรียกมันออกมาหน้าบ้านสิ”
โชริคลี่ยิ้มเมื่อคิดได้ว่ายังมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการกดออดเสียงดังให้ประเจิดประเจ้อ .... ร่างจ้อยรีบควักมือถือขึ้นมาจิ้มๆอยู่ไม่กี่ที ก็ยกขึ้นกรอกเสียงหวานใส่โทรศัพท์ ชนิดที่ว่าพี่ชายอย่างยูมะที่มองดูอยู่อดจะยิ้มตามออกมาไม่ได้
.......คนเราเวลามีความรักนี่มัน .... สดใสอิ่มเอิบเบิกบานจริงๆเลยน้า.......
..........เขาเองก็อยากมีช่วงเวลาแบบนี้กับคนที่รักเหมือนกัน..........
หูอันทรงประสิทธิภาพของยูมะนั้นได้ยินเสียงวิ่งลงส้นโครมครามดังมาจากในบ้าน ....แค่ไม่กี่อึดใจ ไอ้เจ้าชายก็เปิดประตูออกมาต้อนรับแขกยามวิกาลด้วยหน้าตาตื่นๆระคนประหลาดใจ ชุดที่ใส่ยังเป็นชุดที่ใช้ซ้อม และสภาพโชกเหงื่อนั้นบอกได้เป็นอย่างดีว่าเพิ่งกลับถึงบ้านได้ไม่นาน
“โชริ......มีอะไรด่วนรึเปล่า ทำไมมาดึกๆแบบนี้ล่ะ... แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ”
....เฮ่ย...ไอ้เจ้าชาย ให้มันน้อยๆหน่อย นอกจากมันจะเนียนลามปามลวนลามจับมือถือแขนโชริแล้ว ......ยังมาทำเป็นมองไม่เห็นคนหล่อๆ(?)ที่ยืนอยู่ทั้งคน ....อย่ามาทำตัวสร้างบาเรียสีชมพูกันอยู่สองคนแบบนั้นนะ!!!!
ยูมะแกล้งกระแอมไอเสียงดังด้วยความหมันไส้ ไอ้เจ้าชายที่ออกจะเกินหน้าเกินตาไปหน่อย ..... ที่รับปากว่าจะช่วยดันเรื่องโชริแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่หวงน้องนะโว้ยยยย
“ผมมากับพี่ยูมะ” โชริหันมาทางพี่ชายที่ยืนกอดอกคิ้วขมวดแน่นแล้วแอบสะดุ้งตกใจที่พี่ชายทำหน้าตาน่ากลัวอีกแล้ว ....เคนโตะเลยละสายตาจาหน้าโชริมาหาเขาแวบนึง แวบเดียวเท่านั้น แล้วก็หันกลับไปกางบาเรียสีชมพูกับโชริอย่างไม่สนใจต่อ .... โอ้ย มันแค้นยิ่งนัก ......
“ทีหลังอย่าออกนอกบ้านตอนดึกๆแบบนี้นะ มันอันตราย .....โทรเรียกฉันก็ได้ ฉันจะไปหาโชริเอง”
“ผมแค่เอานี่มาให้”
.... แค่โชริยื่นของขวัญให้ ไอ้เจ้าชายก็ทำหน้าดีใจเหมือนได้เงินล้านมากองตรงหน้า ....
ยูมะคร้านจะยืนดูไอ้เจ้าชายมันส่งเสียงออดอ้อนให้ต่อมอิจฉามันลุกโชน เลยเบี่ยงหน้าหนีมาเสีย.....
.....และก็เป็นอีกครั้งที่เขาใช้เวลาในการยืนทอดอารณ์มองห้องที่ปิดมืดบนชั้นสองของบ้านหลังข้างๆอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย......
............วันเสาร์นี้แล้วสินะ ที่เราจะได้เจอกัน...... ยามะจัง................
To be con
I-PrA Talk: ค้างล่ะสิ 555+ โกเมนเนะแฟนๆยูยามะ .....ซุปตาร์ยามะจังค่าตัวแพงน่ะ เลยหายไปทั้งตอนเลย (ฮา)
….แล้วแบบว่าพาร์ทของเคนโชริมันยาว แล้วจำเป้นนนจำเป็นต้องแทรกมาในตอนนี้เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อปายยยย
เจอกันตอนหน้าค่า ยูยามะจัดเต็มแน่นอนๆ หลังสงกรานต์นะ^^
เอนจอยปี๋ใหม่เมืองค่าาาา
ความคิดเห็น