คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Aki] .....Jyougen no tsuki ...... Part 2 ...[Yuma x Ryosuke feat. Keito x Yuto]
.
.
"ยูโตะ~!! นายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน"
เสียงโวยวายของใครบางคนที่ดังมาก่อนที่จะเห็นตัวเจ้าของเสียงเสียอีก ยังไม่ทันพ้นวันดีเลย ดาวเด่นจากชมรมฟุตบอลลงทุนเดินมาเอาเรื่องกับยูโตะถึงที่เสียแล้ว
"จะไปรู้ได้ไงเล่า ไอ้นี่หนิ"
"สาวๆที่เคยตามกรี๊ดฉันตอนแข่งบอลหายไปเกือบหมดเลย"
"แล้วไง จะให้ฉันไปตามกลับมาให้เรอะ"
"ก็เป็นเพราะ ฉันมีข่าวกับนาย
"สมน้ำหน้า อยากเล่นบ้าๆดีนัก"
"อะไร ก็แล้วนายเล่นด้วยทำไมเล่า"
"ก็เล่นเอาฮาเฉยๆไม่ได้คิดอะไรนี่หว่า เพราะฉันไม่มีแฟนคลับที่ต้องมาเดือดร้อนเหมือนนาย"
"......"
"แล้วถ้าจะโทษให้ถูกคนล่ะก็นะ ไปโทษเจ้าคู่หูนรกนู่นสิ มันเป็นคนเริ่มกุเรื่องนี้ขึ้นมานี่หว่า"
.... จริงๆแล้ว ผลกระทบที่นายได้รับ มันไม่น่าจะเกี่ยวกับฉันเลยด้วยซ้ำนะ โอคาโมโต้~
"ยูโตะ~! ทำอะไรอยู่อะ" เสียงเรียกของยูมะ เพื่อนสนิททำให้ยูโตะทำท่าจะเดินผละจากไป
"เออๆ ไปแล้วๆ"
"เดี๋ยว...ฟังก่อน" แต่ไม่ทันได้ไปถึงไหนก็โดนดึงกลับมายืนที่เดิม
"อะไรอีกอ่ะ เร็วๆ รีบ เพื่อนรออยู่" ถามแบบไม่ใส่ใจซักเท่าไหร่
.... ไม่อยากจะฟังหรอกนะ แต่ถ้าดื้อไม่ฟังมันอีก คงได้ทู่ซี้ตื้อกันอยู่พักใหญ่แน่ๆ
"ช่วงนี้ นายอยู่ห่างๆฉันไว้นะ จนกว่าข่าวมันจะซาไป"
.... แล้วไอ้อย่างงี้มันเป็นประโยคขอร้อง ขอบอก หรือว่าคำสั่งกันแน่ล่ะเนี่ย
"แค่นี้ใช่ป่ะ ไปล่ะ"
แน่นอน นั่นไม่ใช่การตอบรับคำสั่ง หรือคำบอกเล่าอะไรเมื่อครู่นี้ เหมือนเป็นการตัดบทสนทนามากกว่า .... เจ้าตัวปัญหาก็เหมือนจะพอใจที่เขายอมรับฟัง ......... แต่ก็แค่ฟังนี่นา ไม่ได้บอกว่าจะทำตามเสียหน่อย
ระหว่างทางกลับบ้าน ยูมะก็ได้แอบเดินตามเรียวสุเกะไปด้วย ตอนแรกก็ว่าจะมาแอบดูเสียหน่อยว่าบ้านอยู่โซนแถวไหนแค่นั้น แต่ไปๆมาๆ ดั้นมากลับทางเดียวกันซะนี่ ออกไปให้เห็นหน้าหน่อยจะเป็นไร เผลอๆอาจได้สานสัมพันธไมตรีแบบไม่คาดคิดก็เป็นได้
"อ้าว นายก็อยู่แถวนี้หรอเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าเลยนะ"
"อือ เพิ่งย้ายมาไม่นานนี้เอง"
"งั้นก็ดีเลย เรากลับบ้านด้วยกันไหม" ร่างสูงนิ่ง คิดไม่ถึงว่านางฟ้าน้อยๆจะมีไมตรีจิตให้เขาถึงขนาดนั้น แต่ก็พยักหน้าตอบรับไป ..... เรียวสุเกะเห็นแบบนั้นก็ยิ้มหวานออกมา
... ยิ้มที่วันนี้ทั้งวันแทบจะไม่มีใครได้เห็นรอยยิ้มสวยๆบนใบหน้าหวานแบบเต็มๆซักคน
.... เฮ้อ พระเจ้าช่างเข้าข้างอะไรเช่นนี้
"เป็นเพื่อนกันนะ ฉันยามาดะ เรียวสุเกะ" พร้อมกับยื่นมือมาให้จับ
ยูมะถึงกับเคลิ้มไปในสัมผัสนุ่มนวลที่ยามะจังมีให้
"อืม ได้สิ ฉันนากายามะ ยูมะ"
"เดินไปสถานีด้วยกันเนอะ"
"อือ ก็ได้" ยามะจังยิ้มหลั่นล้าขึ้นมาทันที
...อิอิ มีของเล่นใหม่มาแก้เซ็งแล้ว หวังว่ารายนี้คงจะทนทายาท อยู่ให้เล่นได้นานๆนะ ...
.
.
"ไอ้ยูมะ!!!!! มันอะไรกันวะ"
"เออ ทำไมเมื่อวานแกถึงเดินเทียบเคียงมากับยามะจังได้ฟะ~!!!"
"แกแอบไปกิ๊กกับยามะจังที่เป็นคนของประชาชนมาใช่ม้ายยยยยย ห๊าาาาาา"
"บอกมานะ ว่าไปทำเสน่ห์ใส่ยามะจังมาใช่ไม๊"
ทันทีที่เดินเหยียบเข้ามาในห้องเรียนในวันถัดมา ยูมะก็โดนสมาคมคนรักยามะจัง หรือยามะจังเอฟซี รุมล้อมเข้ามา พร้อมกับยิงคำถามต่างๆนานา จนไม่รู้จะฟังจะตอบคำถามใครก่อนดี
"เฮ้ยย! หยุดก่อน หูจะแตกตาย อะไรนักหนาเนี่ย”
"ไม่หนักหนาหรอกเว้ย ถ้าคนที่แกกำลังคิดยุ่ง ไม่ใช่คนสวยของประชาชน" ประธานของกลุ่มเอฟซีถูกส่งเป็นตัวแทนถ่ายทอดคำพูด ที่มาจากใจของสมาชิกทุกคน...
...ไอ้หมอนี่ มันหยามกันนัก อยู่ดีๆมาข้ามหน้าข้ามตากันไปได้ยังไง เค้าเป็นถึงประธานคลับ กลับเคยได้คุยกับยามะจังนับครั้งได้ แล้วก็คุยกันแค่ 2-3 ประโยคสั้นๆแบบทักทายทั่วไปเท่านั้น
"ก็แค่บังเอิญบ้านอยู่ทางเดียวกัน ก็เลยเดินกลับด้วยกันแค่นั้น" ยูมะตอบไปแบบไม่ใส่ใจนัก
.... น่ารำคาญจริงเชียว เจ้าพวกหมาวัดที่ได้แต่มองดอกฟ้า~ แต่ไม่มีปัญญาจะไปเด็ดดอมลงมาชื่นชม ชิ!!
"บุคคลต้องห้ามเว้ย! รายนั้น ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ห้ามยุ่ง เข้าใจไม๊!!" คนที่ท่าทางจะเป็นหัวหน้ากองกำลังยามะจังเอฟซี ก็เถียงกลับมาหน้าดำคร่ำเครียด อารมณ์ที่ไม่เข้าที่อยู่เป็นทุนเดิมมาถูกกวนซะได้ อารมณ์เสียแล้วนะเฟ้ย!
"ไม่เข้าใจ! ทำไมเราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ถึงยามะจังจะเป็นไอดอลของพวกนาย แต่เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะคบหากับใครก็ได้!!"
"........." ประธานยามะจังเอฟซี โมโหเป็นฟืนเป็นไฟที่ ยูมะเถียงกลับไฟแลบทุกประโยคแบบนี้ จึงหันหลังเดินนำกองทัพยามะจังเอฟซีจากไปจากจุดที่เกิดเหตุ
"ทุกคนโปรดทราบ ข้อความจากประธานยามะจังเอฟซี ขอให้ทุกคนรับทราบโดยทั่วกันว่า เราจะจัดการมาตรการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่บังอาจรุกล้ำ เข้ามามั่วนิ่มตีซี้กับยามะจัง อันเป็นที่รักของเราทุกคน"
"ปฏิบัติการ แบนนากายามะ ยูมะ!! ในทุกกรณี!!!"
.
.
ถือเป็นเรื่องปกติที่ว่า พอมีข่าวเรื่องคู่รักใหม่ๆแปลกๆบังเกิดขึ้นมา ข่าวย่อมกระจายได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง และจากการที่ทั้งคู่แสร้งเล่นเป็นคู่รักจริงๆให้ประจักษ์แก่สายตาเพื่อนๆส่วนหนึ่งแล้ว ถึงจะเผลอทำไปเพื่อความสนุกสนานของเพื่อนๆก็ตาม ก็ยิ่งเสริมให้หลายๆคนเริ่มเชื่อจริงๆจังๆแล้วว่า 2 คนนี้มีนอกมีในกันจริงๆ!!
"อ้าว ยูริ วันนี้ลมอะไรหอบมาเนี่ย ทุกทีไม่เคยเห็นจะมาหากันมั่ง" เคโตะที่ซ้อมเตะบอลอยู่ในสนาม รีบวิ่งออกมาทันทีที่เห็นเพื่อนคุ้นหน้าคุ้นตา มายืนด้อมๆมองๆ เหมือนหาของไม่เจออยู่ริมขอบสนาม
"นี่ เคโตะ ขอถามหน่อยเหอะ ตกลงนายชอบกับนายยูโตะอะไรนั่นจริงๆเหรอ?"
ข่าวมันไวขนาดไหนก็ดูเอาเถิด ถึงขนาด จิเน็น ยูริ ที่เคยอยู่ห้องเดียวกันกับเคโตะตอนอยู่ ม.ต้น ...แม้ปัจจุบันจะได้เรียนกันคนละห้องแต่ยังคงไปมาหาสู่พูดคุยกันอยู่เสมอ แต่วันนี้อุตส่าห์ลงทุนเดินมาถามถึงที่
"จะบ้าเรอะ"
"เหรอ แต่ฉันเห็นว่าในหมู่สาวๆที่เคยมากรี๊ดนาย
"แล้วนายไปได้ยินมาจากไหนอ่ะ"
"ก็คู่หูนรกนั่นไง มันเที่ยวป่าวประกาศไปทั่วโรงเรียนแล้วล่ะมั้ง"
"......." น่ะ ผิดจากที่เคยคาดคิดไว้ซะที่ไหนล่ะ
"ฉันก็ว่ามันแปลกๆอยู่ เจ้าเคนโตะกับฟูมะ เวลามันรวมหัวกันน่ะ เชื่อได้ที่ไหน ...อีกอย่าง สเป็คนายคงไม่ใช่แบบนี้หรอกมั้ง"
"แสดงว่าแอบไปส่องดูมาเรียบร้อย"
"แน่นอน มือระดับจิเน็น ยูริแล้ว เบอร์ก็ได้มาแล้วด้วย"
"หา! แล้วจะเอาเบอร์เค้าไปทำไม?"
"ก็เผื่อว่าต้องกลายเป็นเพื่อนสะใภ้กัน อะไรๆจะได้สะดวกๆ แน่ะๆ แค่นี้ทำหวงๆ ไหนบอกไม่ชอบไงล่ะ แอบมีใจล่ะซี้~" เพื่อนหน้าสวย แซวออกมาเสียงดัง ไม่เกรงใจคนรอบข้างที่กำลังแอบฟังอยู่ซักนิด
"ไม่ได้ชอบน่า! อย่ามาเซ้าซี้"
"ตกลงว่าข่าวนี้ ไอ้คู่หูนรกนั่นโมเมเอาเองใช่ป่ะ" สรุปเอาเอง ตามทัศนคติที่เคยมีต่อเพื่อนที่เคยเรียนม.ต้นมาด้วยกัน ที่ต่างก็รู้นิสัยกันดีอยู่แล้ว
"ก็ใช่ดิ"
"โอเค หายข้องใจแล้ว ไปล่ะ"
"อะไร มาเพื่อถามแค่นี้เหรอ"
"ใช่สิ คิดว่าฉันจะมาหานายในเวลาแบบนี้ทำไมล่ะ"
"จะรีบไปหาแฟนหรือไง"
"เจ็บใจ ..อย่าพูดคำนี้ออกมานะ"
หลังจากที่เคโตะมองส่งเพื่อนจนลับสายตาไปแล้ว ถ้าเป็นปกติก็คงจะกลับเข้ามาวิ่งซ้อมฟุตบอลในสนามต่อล่ะนะ ถ้าไม่มีเสียงนี้
"เคโตะคุงงงงงงงงงง"
ร่างสูงโย่งของยูโตะ ตะโกนเรียกชื่อเขาอยู่อีกด้านหนึ่งของขอบสนาม พร้อมกับคำสรรพนามที่จำได้ว่าไม่เคยใช้เรียกเขามาก่อนในชีวิต .... แล้วตอนนี้สายตาทุกคนก็เพ่งเป๋งไปที่จุดเดียวกัน ก่อนจะหันมายิ้มล้อเลียนเขาที่ยังยืนนิ่งอยู่
"ไปหาแฟนสิเคโตะ ฉันอนุญาตให้พักแปบหนึ่ง" กัปตันทีมที่เป็นรุ่นพี่ปี3 สุดโหด ยังออกปากเปิดโอกาสให้ นี่มันอะไรกันเนี่ย~
"เฮ่ย มาทำไมวะ" สุดท้ายก็ต้องวิ่งไปหาตัวต้นเหตุที่ยืนยิ้มโลกสดใสได้อย่างน่าหมันไส้ที่สุด เรียกเสียงเป่าปากเชียร์จากเพื่อนนักเตะได้เกรียวกราว
"เหนื่อยไหมเคโตะคุง~"
"ยังไม่เลิกเล่นอีก มานี่เลย มาพูดให้รู้เรื่อง" กระซิบกระซาบตอบกัน 2 คน แล้วก็ลากพากันไปไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คนในชมรมฟุตบอลก็ยิ้มแปลกๆใส่กัน พลางส่งซิกแนวตามไปยังคู่ที่เดินจูงมือหนุงหนิง?(ในสายตาเพื่อนๆ) เลี่ยงออกไปจากสนาม
...มาให้เห็นตัวเป็นๆกันถึงในสนามซ้อมแบบนี้แล้ว ยังจะมาปฏิเสธว่าไม่ใช่แฟนอีกเร้ออ เคโตะคุง~.....
"ท่าทาง เคโตะคุงจะมีแฟนแล้วสินะ"
"นั่นสิ แย่จัง ผู้หญิงอย่างเราสู้ไม่ได้ตรงไหนนะ"
เหล่าแฟนๆที่ตามมาเชียร์ ส่งกำลังใจอยู่ข้างสนามเพื่อหวังพิชิตใจหนุ่มหล่อ มากความสามารถอย่าง โอคาโมโตะ เคโตะ ก็ได้แต่คอตก รับประทานแห้วกันไปตามๆกัน
... เล่นมีตัวจริงมาคอนเฟิร์มข่าวแบบนี้ ก็ยิ่งเชื่อสนิทใจ..
"เน่..พวกเธอ ไอ้เคโตะหนีไปมีแฟน แต่ผมยังว่างอยู่น้า สนใจไหม?" ทากาดะ โช เพื่อนร่วมทีมของเคโตะที่พักอยู่ข้างสนามได้ยินเข้าพอดีก็เลย แวะมาแหย่สาวๆเล่น
....ที่กล้าเข้ามาคุยเล่นด้วยก็เพราะว่าเห็นกันมานาน ตั้งแต่ที่เค้าเข้าชมรมมาก็จะเจอสาวๆกลุ่มนี้ตลอด แล้วจุดมุ่งหมายของพวกเธอก็ตรงไปที่คนเพียงคนเดียวเสียด้วย
... ทำไมน้า~ ทีมฟุตบอลมันก็เล่นกันตั้ง 11 คน ทำไมถึงไม่มีใครมีแฟนคลับมาตามติดอย่างมันบ้างวะ!! แล้วไอ้อีก 10 คนที่เหลือก็เป็นแค่ไม้ประดับเพื่อทำให้ทีมมันมีผู้เล่นครบหรือยังไง? ไม่เข้าใจเลยจริงๆ...
"ใครจะไปชอบดำๆ ถึกๆอย่างเธอยะ!" เสียงแหลมๆของสาวๆนับสิบแว้ดตอบกลับมาไปทันทีอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาทากาดะหน้าจ๋อยสนิท
"เออๆ ไม่หล่อเหมือนไอ้เคโตะมันให้รู้ไป ว่าคนเรามันวัดกันที่หน้าตา ไม่ใช่ความสามารถ
เออๆ โลกนี้ที่ไม่ยุติธรรม ดำแล้วไง ก็ตากแดดทุกวันนี่หว่า ไม่ได้เป็นนายแบบนะเว้ย ฯลฯ" ยังคงบ่นหงุงหงิงๆระหว่างที่เดินเตะฝุ่นเซ็งๆ กลับเข้าสนามฟุตบอลไป
"ทำอย่างนี้หมายความว่าไงฮะ!"
"ฉันทำอะไร?"
"มาที่นี่ทำไม ทุกคนเค้าเข้าใจผิดกันหมดแล้ว"
"อืม ตอนนี้ก็คงเป็นนั้นแหละ ก็นายเล่นลากฉันมาแบบนั้นนี่"
"แล้วมีอะไร?"
"ไม่มี มาหาไม่ได้หรือไง?" ยียวนกลับไป ไม่มีกลัวที่ถูกไซโคด้วยสายตาที่แทบจะฆ่ากันให้ตายไปข้างเลยทีเดียว ... เคโตะถอนหายใจแรงๆทีหนึ่งด้วยความปลง
"นายจงใจแกล้งฉันใช่ไหม?"
"จะคิดแบบนั้นก็ได้มั้ง"
"จะเอาอย่างนั้นใช่ไหม? ได้ ..ถ้าอยากจะเล่นสงครามกันนัก ...ก็ได้"
"คิดว่ากลัวเหรอ"
"ไม่เลย ในตานายไม่มีคำว่ากลัวเลยซักนิด"
"พูดจาน่าสนุกนี่ แล้วจะคอยดูละกัน" ยูโตะยักคิ้วข้างเดียว กวนประสาทสุดๆทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะเดินหลั่นล้าจากไป
ยูมะตื่นตั้งแต่เช้าตรู่อย่างที่ไม่เคยคิดจะทำ เพื่อมายืนดักรอใครบางคนที่บ้านอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนัก มายืนหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ผลุบเข้าผลุบออก ชะเง้อชะแง่งจนคอยาว เพื่อดูว่าคนที่รอคอยเดินทางมาถึงหรือยัง
"อ้ะ ยามะจัง บังเอิญจังเลยน้า"
แผนเป็นไปอย่างสมบูรณ์ เมื่อเขาแสร้งทำเป็นว่าเพิ่งเดินออกจากบ้านมาเหมือนกัน แล้วก็มาบังเอิญเจอกันตรงทางแยก เนียนเข้าไปเดินตีคู่อย่างอาจหาญ
..... นี่มันพรหมลิขิตชัดๆ ไม่มี้ ไม่มีใครชักใยเบื้องหลังแน่ๆ เป็นความตั้งใจของโชคชะตาโดยแท้!
"จะให้คิดว่าเป็นอย่างนั้นหรือ" แต่ก็เหมือนว่า เรียวสุเกะจะเคยรับมือกับพวกที่มาตามจีบจนชินมุกเสียแล้ว
.... ว้า~ โดนจับได้แบบนี้ ไอ้คำพูดที่คิดเตรียมๆไว้ก็ใช้ไม่ได้อะสิ....
"เปลี่ยนประโยคก็ได้ เอาใหม่ๆ งั้น.. มารอเราเหรอ?"
"ก็ เช้านี้ เรามีเรียนด้วยกัน" ร่างสูงอุบอิบๆบอกอย่างเขินๆ
"อ้ะ รู้ตารางเรียนเราด้วย?"
จริงๆก็แอบไปจิ๊กเอาจากพวก ยามะจังเอฟซี นั่นแหละ พวกนั้นซีร็อกซ์ตารางเรียน เคลือบพลาสติกแข็งอย่างดีพกเก็บไว้ติดตัวไว้เลย แถมยังจำกันได้แม่นยิ่งกว่าตารางเรียนของตัวเองเสียอีก
"อืม ก็ประมาณนั้นแหละ ไปเที่ยวกันไหม? ตอนเย็นยามะจังว่างนี่"
"ทำการบ้านมาดีเชียวนะ คิดจะจีบกันหรือไง" ลองพูดเล่นๆ หยั่งเชิงดูจุดประสงค์ของการที่ร่างสูงเข้ามาตีสนิทแบบนี้
"อืม ก็งั้นแหละ"
"คิกๆ งั้นก็ระวังตัวไว้ดีๆแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน" เพราะว่า สมาคมคนรักยามะจังน่ะ โหดมากกกโดยเฉพาะกับพวกที่คิดไม่ซื่อ ริอาจจะเด็ดดอกฟ้าของประชาชนแบบนี้เนี่ยแหละ
"ตัวแค่เนี้ย จะทำอะไรผมได้"
"ได้ไม่ได้ก็ลองดูสิ" ถ้าผ่านด่านเอฟซีของยามะจังมาได้ก่อนน่ะนะ
"อ้ะ ลืมไป..ยืมมือถือหน่อย" ถึงจะยังสงสัยอยู่ แต่ยูมะก็ยอมยื่นให้แต่โดยดี ยามะจังกดอะไรยุกยิกๆซักพักก็ยื่นกลับคืนมา
"ขอบคุณสำหรับเบอร์นะ ไว้มีอารมณ์อยากเที่ยวเมื่อไหร่จะโทรไปเรียกใช้บริการล่ะกัน"
ทิ้งท้ายด้วยยิ้มหวานๆอีกที ที่สะกดให้ร่างสูงยืนนิ่งอยู่กับที่ จนรถไฟขบวนที่เรียวสุเกะกระโดดแทรกตัวเข้าไปในคลื่นมนุษย์เมื่อครู่ กว่ายูมะจะรู้ตัวอีกทีประตูก็ถูกปิดลงอัตโนมัติและค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป สิ่งสุดท้ายที่เห็นก็คือ ร่างบอบบางของยามะจัง ยิ้มพรายพร้อมกับโบกมือหยอยๆได้อย่างน่าฟัดที่สุด!!
"เฮ้ย ยูโตะ! มีเรื่องดีๆจะเล่าให้ฟังเว้ย"
ทันทีที่มาถึงโรงเรียน แม้จะโดนแบนด้วยสายตาอย่างเห็นได้ชัด มาตลอดทางที่เดินผ่าน แต่ยูมะก็ยังคงมาดร่าเริงไว้ได้ เมื่อเจอหน้าเพื่อนสนิทที่เข้าใจกันที่สุด
"ดีบ้าอะไรของแกอีก รู้บ้างรึเปล่าว่าแกน่ะ โดนคนทั้งห้อง ไม่สิ อาจจะเกือบค่อนโรงเรียนแบนเอาเข้าแล้ว"
"เพราะไอ้ประธานคลับบ้าอะไรนั่นล่ะสิ"
"คงงั้นแหละ เห็นอย่างงั้น แต่กว้างขวางน่าดูเลยนะ ไอ้หมอนั่นน่ะ"
"ไม่สนหรอก แกจะยังอยู่ข้างฉันใช่มั้ยวะยูโตะ"
"เออ งั้นคงไม่คุยกับแกหรอก ไอ้บ้า! ทำเพื่อนเดือดร้อนไปด้วยเลย รู้ไหมเนี่ย!!"
"ขอโทษๆ ก็ไม่รู้นี่หว่า ว่าจะเป็นกันขนาดนี้"
"นี่เพื่อนๆ ก็พาลไม่อยากคุยกับฉันไปด้วยเลย เฮ้อ อกจะแตกตาย ... เนี่ย นั่งน้ำลายบูดมานานแล้วนะเว้ย ไปไหนมาไอ้เพื่อนบ้า!!"
"ก็นี่ไงที่อยากเล่า" ยูมะยิ้มอารมณ์ดี เมื่อนึกถึงเรื่องดีๆเมื่อเช้า อย่างน้อยก็ได้เบอร์มาแล้ว โดยไม่ต้องไปตามสืบหาเอากับพวกยามะจังเอฟซี ที่ป่านนี้คงเหม็นขี้หน้าเขากันไปแล้ว คงไปหลอกถามอะไรไม่ได้อีก หรือจะพูดให้ถูกสุดๆก็คือ ไม่มีใครอยากเห็นขี้หน้าเขาอีกเลยมากกว่า
"เฮ้ย! ไอ้เคโตะ แกให้ปล่อยแฟนแกถือของหนักอย่างนั้นได้ไงวะ"
เคนโตะและฟูมะเจ้าเก่า จอมสร้างเรื่อง ก็แกล้งแหย่อย่างทุกที
.... วันๆหนึ่งต้องได้ยินเสียงตะโกนด่าจากเพื่อนๆ เจ้า2 คนนี้ถึงจะเจริญอาหารหรืออย่างไรไม่ทราบได้ รู้แต่ว่ามันเป็นแบบนี้จนเป็นกิจวัตรแล้วล่ะ .....
"เฮ้อ พวกแกนี่" เคนโตะยิ้มรับหน้าชื่น เมื่อเคโตะเริ่มต้นเกริ่นนำด้วยความรำคาญอย่างทุกที เตรียมพร้อมโกยแน่บเมื่อบางครั้งคำด่ามันไม่ได้ลอยมาแต่วาจาเท่านั้น รองเท้า กระเป๋า หรืออย่างอื่นที่อยู่ใกล้มือ อาจถูกใช้เป็นอาวุธลอบสังหารคู่หู 2 คนนี่ก็เป็นได้
"ไหนวะ?"
แต่คราวนี้มันแปลกไป เมื่อเจ้าตัวไม่มีทีท่าว่าจะนึกกร่นคำด่าอะไรออกมา ซ้ำยังจะรับมุก เล่นตามน้ำ เดินเข้าไปช่วยยูโตะถือของซะอย่างนั้น
.... เฮ้ย มันไปกินอะไรผิดสำแดงมาเปล่าวะ?
"มานี่ ฉันช่วย"
"เอาจริงดิ หนักนะเว้ย"
"อือ ก็ถ้ามันหนักขนาดนั้น นายจะถือคนเดียวไหวได้ไงล่ะ" ไหวไม่ไหวก็ถึกขนาดที่อาจารย์ระบุชื่อเรียกใช้ไปให้ยกสมุดให้เนี่ยแหละ
"เอ้า งั้นก็เอาไปวางโต๊ะอาจารย์ ฝากด้วยนะ" ฝากฝังหน้าที่ต่อเรียบร้อย ยูโตะก็ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องอย่างไม่แยแสอีกต่อไป
"นี่ คำว่าช่วยของฉันน่ะ ช่วยกันถือ ไม่ใช่มาโยนหน้าที่ให้กันอย่างนี้ ....ยูโตะ!!กลับมานะ"
"อะไรนะ ไม่ได้ยินเลยอ่ะ~ " ก็เล่นใช้สองมือปิดหูไว้แบบนั้น มันจะได้ยินไปได้ยังไง ...แบบนี้ก็คิดได้อย่างเดียว จงใจแกล้งเขานี่หว่า
สุดท้ายก็โดนทิ้งให้แบกของหนักอยู่คนเดียว เคโตะก็ได้แต่คำรามฮึ่มฮั่มอยู่ในใจ
... ร้ายจริงนะ ยูโตะ!...
ทุกเหตุการณ์ถูกบันทึกไว้ในตา 4 ข้าง 2 คู่ของ 2 นักสืบหัวเห็ด?
"แกคิดอย่างที่ฉันคิดไหมวะ ฟูมะ"
"นั่นสิ ฉันก็คิดเหมือนกับที่แกคิดนั่นล่ะ เคนโตะ"
"2 คนนั้น กำลังจีบกัน!" 2 หนุ่ม เอ่ยออกมาพร้อมกัน พร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์ ยิ้มแปลกๆใส่กันอย่างมีเลศนัย
"หึหึๆ ใช่แน่ๆ อย่างนี้ต้องประกาศ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ดีเลยๆ เคนโตะ"
วันต่อมา
"วันนี้เอาอะไรมากินวะ ยูมะ"
"ข้าวผัด ด้วยหัวใจ อุ่นไอรัก หุหุหุ"
"แหวะ เลี่ยนชิบเป้ง แค่ชื่อก็อ้วกแล้ว"
"อร่อยล่ะกันน่า โด่ อย่ามาดูถูก"
"แล้วจะทำไงต่อไปวะ ขนาดป้าในโรงอาหารยังแบนแก ไม่ให้ซื้อข้าวเลยนะเว้ย ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะลำบากแค่ไหน ถ้าแกยังไม่ถอนตัวออกมา"
"เออๆ ไม่ต้องห่วงน่า แค่นี้อยู่ได้เว้ย ที่สำคัญ ฉันมีแผนสอง"
"แผนอะไรของแกวะ"
"นี่ไง แต่นแต้น น่ากินใช่ปะ"
"กินจุขึ้นนะ.... เอ้ะ หรือว่าจะเอาไป.."
"ใช่ ฉันจะเอาไปกินกับ ยามะจัง~ ไปนะเว้ย" ยูมะที่ดูจะไม่อนาทรร้อนใจอะไรเลยกับการโดนแบน แถมมันยังกล้าท้าทายอำนาจประธานเอฟซีซะอีกนั่น
... ดูท่า คราวนี้ถ้าเพื่อนเขาไม่ได้ยามะจังเป็นแฟน ก็คงโดนเจ้าพวกยามะจังเอฟซีนั่นจับถ่วงอ่าวโตเกียวแหง
"ประธานครับ สายสืบของเรารายงานว่าพักนี้ไอ้เจ้านากายามะ มันแอบไปกินข้าวกับยามะจัง2 คนทุกวันเลยครับ"
"อะไรนะ!!เป็นไปได้ยังไง! แล้วไดกิเพื่อนสนิทล่ะ"
"อ้อ แฟนมารับไปกินข้าวเที่ยงทุกวันเลยครับ"
"ให้ตายสิ จะอยู่เป็นไม้กันหมากันแมวหน่อยไม่ได้เลยรึไงเนี่ย แย่จริง"
"เราจะทำไงกันดีครับ"
"มันน่าฆ่านัก ไอ้หน้าแมว"
"อะไรนะครับ"
"อ้อ ไม่มีอะไร แค่แบนมันต่อไป แบนให้ถึงที่สุด ให้มันอยู่ที่นี่อย่างสงบสุขไม่ได้อีกต่อไป!!"
คำว่า ตื้อเท่านั้น ที่ครองโลก ก็ยังเป็นคำที่ใช้ได้ดีอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ เพราะนากายามะ ยูมะคนนี้ทดลองมาแล้วกับตัว ด้วยลูกบ้าเที่ยวล่าสุด และรวมด้วยสารพัดวิธีที่เคยลองมา เพื่อจะทำให้ยามะจังคนของประชาชน ตกลงปลงใจไปเที่ยวกับเขาได้ในที่สุด
"รอนานไหม" ร่างเล็กภายใต้โค้ทสีขาววิ่งเหยาะๆเข้ามาหาชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"ไม่...ไม่เลย" ให้รอทั้งชีวิตก็รอได้จ้า(อันนี้แอบเสี่ยวอยู่ในใจ ไม่กล้าพูด)
"จะไปกันหรือยัง"
"เจ้าหญิงอยากไปไหนล่ะคร้าบ" ท่าทางกระตือรือร้นเหมือนเด็กอยากเที่ยวนั้น ช่างน่าเอ็นดูนักในสายตาร่างสูง ทำให้อดใจแซวไม่ไหว
ส่วนคนที่ถูกแซวว่าเป็นเจ้าหญิงยิ้มหวาน และตอบคำถามนั้นด้วยดวงตาวิบวับเป็นประกาย
"โอไดบะ"
"เฮ้ย เคโตะ!! มีญาติมาพบ" เสียงเพื่อนร่วมทีมตะโกนเรียกร่างสูงที่กำลังซ้อมฟุตบอลอยู่ในสนาม
"ว่าไง ยูริ คราวนี้มีเรื่องอะไรข้องใจอีกล่ะ" เคโตะเห็นสีหน้าเก็กซิมของเพื่อนแล้วก็พอจะเดาออกว่า ที่จิเน็น ยูริมาหาเขาด้วยเรื่องอะไร
"ข่าวใหม่ ไอ้คู่หูนั่นบอกว่านาย
"หึ สมกับที่คบกันมานานจริงๆเพื่อน ช่างรู้ใจดีจริงๆ"
"งั้นครั้งนี้เจ้า 2 คนนั่นก็พูดเรื่องจริงน่ะสิ น่าตื่นเต้นเป็นบ้า"
"ภูมิใจไว้อีกอย่างนะ เรื่องนี้นายรู้คนแรก"
"เป็นเกียรติ์อย่างยิ่งเพื่อนฝูง.. ทำหน้าอย่างนี้มีอะไรให้ช่วยไหม" ถามอย่างรู้ใจ
.. ก็เคโตะน่ะ ดูออกง่ายจะตายไป ถ้าเคยสนิทกันมากๆแล้วล่ะก็ แค่มองโค้ดจากสีหน้าออก ก็รู้แล้วว่าเพื่อนต้องการอะไร ...
"มี! เยอะเลย แต่ไปไพรเวทกันดีกว่า ตรงนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญรับฟังเยอะไปหน่อย" ว่าแล้วเคโตะก็ลากเพื่อนออกจากบริเวณสนามไป
“จะดีเหรอ”
นั่นเป็นประโยคแรกที่หลุดออกจากปากของเคโตะ หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนผู้มีประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆมาอย่างโชกโชน(จากนิยายละละครหลังข่าวทั่วไป)
“เออ! ชอบก็บอกเค้าไปเด้ เคลียร์กันไปเลย..ไม่ต้องมาลีลา”
“ก็ไม่ได้ชอบ! มากขนาดนั้น” เสียงแข็งในช่วงแรกแล้วมาค่อยๆอ่อยๆตอนท้าย คล้ายๆคนที่ยังสับสนในชีวิตอยู่
“งั้นก็ตามใจเลย อยากทำอะไรก็ทำ ไม่สนใจแล้ว ไอ้พวกไม่ยอมรับตัวเอง”
“อ่า ยูริ ~”
“แล้วจะบอกอะไรให้อย่างนะ เผื่อนายจะลืม ว่าตั้งแต่ที่ฉันรู้จักเคโตะมาเนี่ย นายเป็นคนที่ ถ้าไม่ชอบก็จะไม่สนใจ รู้ไว้ซะด้วย~”
“เดี๋ยวสิ ยูริ~”
หลังจากที่ยามะจังพาตะลอนไปทั่วพาเล็ต ทาวน์ ซึ่งเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ เครื่องเล่นแต่ละชนิดของที่นี่นั้นเล่นเอาร่างสูงถึงกับร้องหาพ่อแก้วแม่แก้ววันละหลายครั้ง
“ไหวไหม?”
“อืม ไหวๆ” แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ 100% แต่ถ้าเป็นเรื่องความปากไวไปก่อนสมองน่ะยังใช้การได้ดีเชียว
“เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำมาให้ล่ะกัน”
“ไม่ตะ...”
“อยู่เฉยๆเหอะน่า~” ร่างเล็กของเรียวสุเกะลุกออกไปยังร้านค้าใกล้ๆ แล้วก็ถือขวดน้ำกลับมา 2 ขวด
....แต่ระหว่างทางที่เดินกลับมานั้น
"พี่เคย์~" ร้องเรียกหาทันทีที่แน่ใจว่าร่างสูงโปร่งคุ้นตานั้นเป็นใคร
... ที่แท้ก็ “อิโนะ เคย์” อดีตคนรักที่เพิ่งเลิกกันไปไม่นานนี่เอง
"อ้าว ยามะจัง มาเที่ยวเหรอเรา"
เรียวสุเกะยิ้มแย้มพูดคุยกับกิ๊กเก่าอย่างสนิทสนม อีกฝ่ายเองก็ดูทั้งโอ๋ ทั้งเอ็นดูเรียวสุเกะแบบสุดๆ แถมรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา ขาวใส มาดดี ดูมีสกุลรุนชาติก็ทำเอายูมะแทบจะหมดคุณค่า.... มองๆไปแล้วทั้ง 2 ก็ดูจะเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเสียจนน่าอิจฉา ยูมะที่นั่งมองภาพตรงหน้าอยู่ไม่ไกล
.. เค้ากำลังจะถูกยามะจังลืมอย่างนั้นหรือ?
"ไปก่อนนะ มีธุระต้องไปเคลียร์ แล้วเจอกันน้องชาย" ล่ำลากันเสร็จ เคย์ก็โฉบริมฝีปากประทับบนแก้มใสของเรียวสุเกะอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินจากไป ...ไม่ได้เกรงใจคนที่นั่งหัวโด่อยู่ใกล้ๆ พร้อมคำรามในใจเป็นแมวบ้าด้วยความคับแค้นใจบ้างเลย
.
.
“เฮ้ยๆ วันนี้วันเกิดฉัน!! ไป ไปร้องคาราโอเกะกัน ไปให้หมดทุกคนเลยนะเว้ย ฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงเอะอะโวยวายดังมากจากกลุ่มเจ้าคู่หูนรกนั่นอีกแล้ว
... ช่างเป็นพวกบ้าๆที่ชอบทำอะไรแปลกๆแล้วก็ส่งเสียงดังกันจริงๆ...
“ยามะจัง ไดจัง ไปนะๆ วันเกิดฉันทั้งที ป๋าเลี้ยงเอง ฮ่าฮ่า”เจ้าของวันเกิด รีบรุดเข้ามาชวนแม่เหล็กของงานอย่างรวดเร็ว ... ถ้าลองได้มีอะไรที่ดูเจริญหูเจริญตาไปนั่งยิ้มน่ารักในงาน ร้อยทั้งร้อย ได้ตามไปกันให้พรึ่บ
“ไดจัง ว่าไงอ่ะ” คนสวยของประชาชน หันไปถามความเห็นเพื่อน
... แต่จากดวงตาที่เป็นประกายแห่งความหวัง ยิ้มอ้อนๆอย่างน่ารัก
... ให้ตาย เจอไอ้แบบนี้ไดกิจะทำอะไรได้ นอกจากจะต้องไปนั่งเป็นไม้กันหมา คุมเชิงให้เพื่อนอย่างที่เคย
“เย้.. ยามะจังกับไดจังไปแล้ว .. ใครจะไปบ้างยกมือ”
เป็นไปตามความคาดหมาย เหล่าประชาชาติที่คล้ายรวมเอาเหล่ายามะจังเอฟซี ทั้งสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ที่มีมากขึ้นทุกทีๆ พากันยกมือแสดงตัวกันให้วุ่น
“เฮ้ย! ยูโตะ แกต้องไปกับฉันนะเว้ย”
ยูมะเริ่มร้อนใจเมื่อได้ยินข่าวมาว่า ยามะจังสุดที่รัก อาจจะต้องตกอยู่ในอันตราย เพราะต้องอยู่ท่ามกลางพวกเอฟซีหื่นกระหายพวกนั้น ... อ๊าก! แย่แน่ๆ ต้องไปคอยดูแลปกป้องยามะจังซะแล้ว!
“ไม่ไป” แต่คำตอบของเพื่อนรักที่ลงเสียงหนักแน่นขนาดนั้น เล่นเอายูมะเริ่มกุมขมับเครียด
.... แล้วจะลากมันไปด้วยยังไงดีหว่า.....
“ไปเป็นเพื่อนกันหน่อยดิ”
“ไม่ไป แกก็เห็นว่าพักนี้ไอ้เคโตะ มันทำตัวแปลกๆแค่ไหน ไม่เอาหรอก ยิ่งมีไอ้คู่หูนรกนั่นอยู่ด้วย ไม่ไปเด็ดขาด”
“แกจะทิ้งให้ฉันไปคนเดียวจริงเหรอ ไอ้พวกนั้นมันเป็นพวกเอฟซีทั้งนั้นเลยนะเว้ย แกไม่กลัวเพื่อนแกจะกลับบ้านไม่ครบ 32 หรือวะ” ยูมะยังไม่ละความพยายามที่จะชักแม่น้ำทั้งแปด มาอ้างเป็นเหตุผลที่น่าเชื่อถือพอจะหนีบบังคับเอาเพื่อนตัวยาวพกไปด้วย ...
“นะๆๆ”
“เออๆ ยอมไปให้ก็ได้ แค่คราวนี้นะเว้ย”
“รักแก๊ รักแก ยูโตะ.. เพื่อนรัก”
To be con
ความคิดเห็น