คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Lovely Complex 03
Title : Lovely Complex
Cast : Nakajima Kento x Sato Shori
Rate : PG 13
Author : I-PrA
03
วันต่อๆมา
โชริกำลังขะมักเขม้นทำขนมอยู่ในห้องแม้ว่าจะหมดเวลาของกิจกรรมชมรมแล้วก็ตาม พวกรุ่นพี่ต่างก็จัดการเก็บข้าวของอุปกรณ์เข้าที่และแยกย้ายกันกลับบ้านไปหมดแล้ว... เหลือเพียงแต่โชริที่ขออนุญาตใช้ห้องในการฝึกทำขนมต่อ มือเรียวก็กำลังวุ่นวายกับการตวงส่วนผสมต่างๆ ในขณะที่สายตาก็เพ่งไปที่ตำราขนมหวานที่เปิดกางอยู่อ่านประกอบไปด้วยแบบกะไม่ให้พลาดซักบรรทัด
การทำขนมหรือของหวานน่ะ ไม่เหมือนของคาว....ส่วนผสมมันต้องมีการตักการตวงกันแบบเป้ะๆ จะมาใช้ความรู้สึกในการกะเกณฑ์ปริมาณโดยอาศัยความเคยชินในแบบที่เคยทำเป็นปกติ สำหรับมือใหม่ในวงการขนมหวานอย่างเขาคงยังทำไม่ได้ .....
Tululu Tululu
ร่างบางที่กำลังทุ่มเทสมาธิให้กับการทำขนมอย่างจริงจัง สะดุ้งจนตวงแป้งพลาดเพราะตกใจกับเสียงโทรศัพท์ของตัวเอง ....แม้เขาจะเป็นคนตั้งเสียงเองกับมือแท้ๆ
โชริรีบเช็ดมืออย่างลวกๆและรีบวิ่งไปควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า .... หน้าจอโชว์ชื่อพี่ยูมะเป็นสายโทรเข้าทำให้เขาต้องรีบรับสายโดยเร็วที่สุด
ถ้าเปรียบแล้ว การที่สายเข้าเป็นพี่ยูมะก็เหมือนเป็นการเตือนภัยล่วงหน้า ...มีความสำคัญระดับด่วนมากที่ต้องรีบรับให้เร็วที่สุด แต่ถ้าสายเข้าเป็นชื่อพี่ยูยะเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ เตรียมตัวได้เลย ....อันตรายมาเยือนชีวิตแล้วละถ้าไม่รีบรับสายก่อนที่พี่ชายจะอารมณ์ไม่ดี ...มีความสำคัญเปรียบได้กับการประทับตราสีแดงๆว่าด่วนมากที่สุดไว้บนหน้าเอกสารเลยทีเดียว
///โชริ วันนี้พี่ต้องรีบไปต่อแถวชิงบัตรเข้าไลฟ์ยามะจังน่ะ ...อา น้องกลับบ้านคนเดียวได้ใช่มั้ย///
ปลายสายเหมือนอยู่ในแหล่งชุมชนที่คนมารวมตัวกันเยอะๆ ทำให้การได้ยินไม่ชัดเจนจนโชริต้องเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจยิ่งขึ้น
“ผมโตแล้วแล้วนะ พี่ยูมะไม่ต้องเป็นห่วงน่า”
///บอกให้เจ้าจินกูจินั่นกลับเป็นเพื่อนก็ได้ ไม่งั้นก็โทรบอกให้พี่ยูยะมารับที่สถานีด้วยละกัน///
“ผมกลับคนเดียวได้จริงๆนะ”
///เอางั้นเหรอ งั้นก็เดินระวังรถด้วย แล้วตอนขึ้นรถไฟก็พยายามอยู่ใกล้ประตูไว้จะได้ไม่ถูกคลื่นมนุษย์พัดพาจนเลยสถานีที่จะลงอีก///
“ครับๆ...แต่ว่าพี่ยูมะ วันนี้ผมจะขออยู่เย็นซักหน่อยนะ”
///ห้ะ เปิดให้เข้าแถวแล้วเหรอ...โอเค ...งั้นเดี๋ยวพี่จะโทรหาน้องเป็นระยะๆนะ///
“พี่ยูมะ..พี่ยูมะ!!”
ไม่ทันแล้ว...อีกฝ่ายตัดสายไปแล้ว ....ไม่รู้ว่าพี่ชายหันไปพูดกับใคร แต่เขาได้ยินคำว่าโอเคหลังจากประโยคคำขอของเขา งั้นโชริจะถือว่าได้บอกพี่ชายและได้รับคำอนุญาตแล้วก็แล้วกันนะ
.
.
ครืดดดดดดดด
เสียงประตูที่ถูกเปิดแบบกะทันหันเรียกให้หนุ่มน้อยร่างบางที่ง่วนอยู่กับการร่อนแป้งจนหน้าตาเปรอะเปื้อนไปด้วยผงแป้งสีขาวหันไปมองตามต้นเสียง ....แล้วก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นเจ้าชายเร่ร่อนที่ชอบกินขนมเป็นชีวิตจิตใจนี่เอง
“โชริจริงๆด้วย.... วันนี้กลับบ้านมืดจังนะ” เคนโตะเองพอเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นโชริก็เดินเข้ามาในห้องแบบไม่รอคำอนุญาตใดๆ
“เคนโตะคุงเพิ่งเลิกซ้อมหรือครับ” โชริก็ยังมีกะจิตกะใจชวนคุยตามมารยาท..... แม้ว่าร่างบางจะไม่ได้มองหน้าคู่สนทนาเลยก็ตาม
“อืม กำลังจะกลับบ้านแล้วแหละ แต่เห็นว่าไฟห้องนี้เปิดอยู่ เลยเดินตามกลิ่นหอมๆมาน่ะ... ว่าแต่กำลังทำอะไรน่ะ” ร่างสูงชะโงกหน้าไปดูสิ่งที่โชริกำลังตั้งใจทำอยู่….. แค่ดูจากสภาพการร่อนแป้งจนเลอะเทอะไปทั้งตัวของร่างบางแล้ว เคนโตะก็จินตนาการถึงสิ่งที่โชริพยายามจะทำไม่ออกแล้ว -*-
“เมนูของพรุ่งนี้เป็นคัพเค้กน่ะฮะ แล้วผมก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องของหวาน ก็เลยคิดว่าจะลองฝึกทำสักหน่อย...แต่ว่า มันก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ร่างบางยิ้มแห้งอย่างเหนื่อยใจ ....ยิ่งเดิมทีเขาเป็นคนซุ่มซ่ามระดับโลกอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอของไม่ถนัด เขาก็พลาดจนเละเทะเข้าไปใหญ่ เผลอจามจนใส่น้ำตาลเยอะไปบ้าง ทำกระปุกเกลือตกลงไประหว่างเตรียมแป้งบ้าง และท้ายสุดก็ร่อนแป้งจนคลุ้งไปทั้งตัวแบบนี้แหละ...
เหตุผลที่ทำให้โชริต้องมาฝึกฝนด้วยตัวเองแบบนี้ ส่วนนึงก็เป็นเพราะเขาถูกละเลยจากรุ่นพี่ในชมรม ต้นเหตุก็ไม่ต้องพูดถึงน่าจะรู้กันอยู่แล้ว และอีกส่วนก็เป็นเพราะว่าเขาไม่กล้าเอ่ยปากขอรบกวนให้ใครมาช่วยสอนให้นอกเวลาแบบนี้ ....ส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีครูพักลักจำเอาในห้องตอนที่เรียนซะมากกว่า
“นายโดนพวกรุ่นพี่เมินใส่ใช่มั้ยล่ะ”
เคนโตะเองก็แอบสังเกตอยู่ห่างๆมาสักพักแล้ว เรื่องพฤติกรรมของพวกผู้หญิงในชมรมที่ชอบทำท่ากีดกันโชริ ทำเหมือนร่างบางไม่ได้เป็นสมาชิกในชมรมด้วย ...เวลามีกิจกรรมอื่นๆที่นอกเหนือจากการทำอาหารในชมรมปกติก็ไม่มีใครบอก หรือคอยช่วยเหลือ.... โดยส่วนตัวแล้วเขาคิดว่าพวกนั้นคงตั้งใจทำให้โชริทนอยู่ไม่ได้แล้วลาออกไปเอง
แต่เจ้าตัวเล็กนั่นกลับไม่เคยมีทีท่าว่าจะเดือดเนื้อร้อนใจกับการกระทำของพวกเธอเลยแม้แต่น้อย โชริยังคงยิ้มแย้ม พูดคุยกับเขา ทำขนมส่วนของเขาให้ทุกวัน ....จะเรียกว่าความรู้สึกช้าหรือว่าเป็นคนมองโลกในแง่ดีจนเกินไปก็ไม่รู้นะ
.........แต่แบบนี้ก็น่ารักดี.......
“แล้วต้นเหตุก็คือฉันด้วยใช่มั้ย”
โชริเงียบไปอีกเป็นครู่ ก่อนจะแย้มยิ้มน่ารักออกมาให้ร่างสูงรู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะ
“ช่างมันเถอะครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร^^”
......ให้ตายสิ....ก็ถ้าโชริจะน่ารักขนาดนี้ ทำไมพวกนั้นถึงใจร้ายกับเด็กคนนี้ได้ลงคอนะ..... จิตใจทำด้วยอะไรกัน....
“ถ้างั้นฉันจะช่วยสอนนายเอง”
เคนโตะจัดแจงวางกระเป๋านักเรียนที่โต๊ะหน้าห้อง แล้วเดินถกแขนเสื้อเข้ามาหาร่างบางที่อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีหวาน ปักเป็นลายกระต่ายหน้าตาบ้องแบ้ว
...... เหมือนกับที่เจ้าตัวกำลังทำอยู่ในตอนนี้เลย.......
“ฉันมีอะไรอยากจะบอกนายนานแล้วล่ะ”
“ครับ?”
“ผ้ากันเปื้อนน่ารักดี ดูเหมาะกับนายดีนะ”
โชริที่โดนคำชมแอคเทคเข้าแสกหน้าก็ตาโตตกใจแล้วก็ก้มหน้าเขินอยู่คนเดียว ....แต่จากมุมที่เคนโตะเห็น แก้มขาวๆนวลๆของโชริน่ะขึ้นสีแดงจัดเลยล่ะ......
“ผมไม่ได้น่ารักซะหน่อย...”
หลังจากนั้นเคนโตะก็เริ่มลงมือสอนร่างบางทำคัพเค้กอย่างคล่องแคล่ว ร่างสูงหยิบจับ ตักตวงปริมาณของวัตถุดิบได้เหมือนมืออาชีพจนโชริต้องทึ่ง
....ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่า ...เจ้าชายทำได้ทุกอย่างจริงๆ และทำได้ดีเสียด้วย.......
“ไม่คิดเลยนะครับว่าเคนโตะคุงจะทำอาหารเป็นด้วย” โชริชวนคุยขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาเพิ่งเอาเค้กเข้าไปตู้อบไปและต้องใช้เวลาในการรออีกนานทีเดียว
“นายกำลังคิดว่าฉันกินเป็นอย่างเดียวล่ะสิ” เคนโตะหรี่ตามองร่างบางที่กำลังหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว
“ก็เคนโตะคุงชอบมาขอขนมที่ผมทำนี่นา”
..... แต่พูดถึงแล้วก็ไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เคนโตะคุงฝีมือดีขนาดนี้ จะเที่ยวมาขอกินขนม(ที่กว่า 50% เป็นความล้มเหลว)จากมือสมัครเล่นอย่างเขาทำไมกันนะ....
“เออนี่.. ฉันคาใจมานานแล้ว ว่าทำไมเด็กผู้ชายอย่างนายถึงเลือกที่จะเข้าชมรมนี้ล่ะ” ยังไม่ทันได้ถามก็ถูกร่างสูงก็ยิงคำถามกลับมาก่อนซะได้
“ผมก็แค่อยากทำอาหารเก่งๆ เพราะผมอยากให้พี่ชายได้กินแต่ของอร่อยๆทุกวันน่ะครับ” ใบหน้าใสนั้นเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่ชาย... คนที่มารับทุกวันน่ะเหรอ”
แกล้งซึนถามไปอย่างนั้นแหละ... ไม่อยากจะเซดว่าเจ้าชายคนนี้แอบไปสืบประวัติทั่วๆไปของร่างบางมาหมดแล้ว หนำซ้ำยังไปทำตัวเป็นสโตรกเกอร์อย่างลับๆมาแล้วด้วย...
“ใช่ฮะ พี่ยูมะก็ด้วย แต่ผมมีพี่ชายอีกคนนึง ...ครอบครัวผมก็เหลืออยู่แค่พี่ชายสองคนนี่แหละครับที่คอยดูแลผมมาตั้งแต่เด็กๆ พี่ยูยะน่ะต้องออกจากโรงเรียนกลางคันมาแล้วมาทำงานหาเงินเลี้ยงพวกผมแทน พี่ยูมะก็ต้องดูแลเรื่องอื่นๆในบ้าน... ผมน่ะมีหน้าที่แค่เรียนกับทำอาหารให้พี่ๆ ก็เลยอยากทำให้ดีที่สุดน่ะฮะ” โชริพูดถึงครอบครัวไปก็ยิ้มไปด้วยอย่างมีความสุข .... ถึงจะมีกันแค่สามพี่น้องแต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นหรือว่าขาดความรักไปสักนิด
เคนโตะมองเด็กตรงหน้าอย่างซาบซึ้งใจ เขายิ้มบางๆก่อนจะเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร่างบางที่กำลังเงยหน้าใช้ดวงตาใสแป๋วช้อนมองเขาอยู่อย่างสงสัย
“โชริ..... ฉันว่าฉันแย่แล้วล่ะ” ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาขยี้กลุ่มผมดำสนิทของโชริเบาๆ
“เอ้ะ?” ร่างบางเพิ่มดีกรีความสงสัยขึ้นอีกเท่าตัวด้วยการเอียงคอแบบไม่เข้าใจเรื่องที่เคนโตะกำลังพูดอยู่
“ฉันว่าฉันหลงรักนายเข้าแล้ว” คำสารภาพที่หลุดออกจากปากเจ้าชายทำเอาโชริได้แต่กระพริบตาปริบๆแบบงงๆ สมองเบลอๆค่อยๆประมวลผลอย่างช้าๆ
“เอ๋???” พอแปลผลได้แล้วก็ต้องร้องอุทานด้วยความแปลกใจออกมาอีกรอบนึง ....ร่างสูงแอบขำกับท่าทางของโชริ
“ทีแรกฉันก็แค่นึกสนใจเด็กผู้ชายคนเดียวที่เข้ามาอยู่ในที่ๆแวดล้อมไปด้วยผู้หญิง เพราะอยากจะรู้ว่าเด็กคนนั้นรู้สึกยังไงน้า กำลังคิดอะไรอยู่.... รู้สึกตัวอีกทีฉันก็มาอยู่ตรงหน้านายแล้ว”
“...................”
“แล้วยิ่งได้มารู้จักนาย ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าถอนตัวไม่ขึ้นมากขึ้นทุกที”
“................”
“ฉันชอบนาย .....คบกับฉันนะโชริ”
ร่างสูงไล่ต้อนโชริไปจนแผ่นหลังบางแนบไปกับตู้เย็น ....เคนโตะท้าวมือข้างนึงไว้ตรงช่วงเอวคอด ส่วนมืออีกข้างนั้นคลอเคลียอยู่แถวใบหน้าหวานที่ร้อนจัดด้วยความขัดเขิน
หมดทางหนีอย่างสมบูรณ์แบบ เคนโตะตั้งใจล็อคร่างบางเอาไว้กับตัวจนกว่าจะเขาได้คำตอบออกมาจากปากเล็กๆนั่น
“ผม...ผมไม่รู้” สีหน้าของร่างบางดูตกใจและตื่นกลัวเหมือนสัตว์เล็กๆ นัยน์ตาใสกรอกไปมาด้วยความสับสนกระวนกระวายใจ
“งั้นเปลี่ยนคำถาม... นายเกลียดฉันรึเปล่า” ร่างสูงจ้องเข้าไปในตากลมใสของโชริราวกับจะบอกว่า อย่าได้คิดพูดโกหกหรือบ่ายเบี่ยงแม้แต่นิดเดียว
“ก็ไม่ได้เกลียด”
“งั้นนายก็รักฉัน” ร่างสูงยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ...ถ้ามีสติครบสมบูรณ์คิดซะหน่อย จะเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นคำถามที่บังคับชักนำคำตอบไปแล้วกว่า90%
“.....ก็นิดนึง” โชริก้มหน้างุดๆตอบออกไปเสียงเบา
....นาทีนี้ต่อให้โชริพูดเบากว่านี้ เสียงค่อยกว่านี้ เขาก็จะหูทิพย์ได้ยินทุกคำพูดทุกประโยคอยู่ดีนั่นแหละ......
“นิดนึงก็ถือว่ารักแล้ว เป็นแฟนฉันนะ” เคนโตะแย้มยิ้มอย่างพอใจ ...แล้วรุกคืบต่อด้วยการโน้มใบหน้าตามเข้าไปกระซิบกระซาบใกล้ใบหูเล็ก... โชริรู้สึกว่าตัวเองแก้มร้อนจนแทบจะระเบิด ร่างบางพยายามเอียงหน้าหนีการรุกรานของร่างสูงด้วยความขวยเขิน ...ตอนนี้โชริไม่สามารถมองสบนัยน์ตาหวานเชื่อมราวกับจะสามารถตกผลึกเป็นน้ำตาลก้อนอย่างที่เคนโตะกำลังใช้มองเขาอยู่ได้เลย
“ผม...ไม่ถนัดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง” แต่ที่แน่ๆ ความใกล้ชิดอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ทำให้อัตราการเต้นหัวใจของโชริห่างไกลคำว่าปกติไปลิบเลยทีเดียว
“นายก็ทำตัวเหมือนเดิมเนี่ยแหละ แล้วฉันจะค่อยๆสอนนายเอง” เคนโตะลูบหัวร่างบางด้วยความเอ็นดูแล้วยิ้มใจดี...
“อื้อ” ร่างบางเงยหน้าแล้วยิ้มหวานเป็นการตอบรับ ...ผลของมันนั้นทำให้ร่างสูงอดใจไม่ไหว ทิ้งสัมผัสบางเบาที่หน้าผากเนียน ....โชริหลับตาพริ้มรับสัมผัสอย่างเต็มใจ
.
.
“....ข้างนอกมืดขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”
“แย่ล่ะ...” โชริหยิบมือถือขึ้นมาดู แล้วก็ต้องตกใจที่พบว่ามือถือแบตหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ...เขาก็คิดอยู่ว่าพี่ยูมะไม่เห็นจะโทรมาอย่างที่บอก
....ป่านนี้พวกพี่จะตามหาเขาจนวุ่นวายแล้วหรือเปล่านะ...
“หืม... ลืมอะไรรึเปล่าโชริ” ร่างสูงหันมาถามอย่างเป็นห่วง เพราะเห็นว่าร่างบางดูรุกลี้รุกรนแปลกๆไป
“คือ...อ้ะ!!” จู่ๆโชริก็รู้สึกเย็นวูบไปทั้งแผ่นหลังอย่างบอกไม่ถูก
.........ความรู้สึกแบบนี้มันคุ้นๆนะ.....
“แก.....จะทำอะไรน้องสุดที่รักของฉัน!!”
ร่างสูงใหญ่ดูน่าเกรงขามคำรามกร้าวเสียงดังราวกับฟ้าผ่าอยู่ที่หัวมุมถนนด้านหลังที่ทั้งสองคนยืนอยู่ ...แล้วก็วิ่งหน้าตาเอาเรื่องมาหาโชริทันทีที่เห็นว่าน้องเล็กของบ้านกำลังเดินอยู่กับผู้ชายแปลกหน้า!
“พี่ยูยะ!!” โชริเองก็ตกใจที่เห็นพี่ชายกลับไปอยู่ในมาดหัวหน้าแก๊งค์ของโรงเรียนที่เขาไม่ได้เห็นมานาน
....พี่ยูยะมักจะควบคุมตัวเองไม่ได้และกลายร่างกลับเป็นแยงกี้ไปซะทุกครั้งที่เห็นโชริหรือพี่ยูมะอยู่ในอันตราย.....
ตอนเด็กๆเวลาที่ถูกใครแกล้ง เขายังไม่ทันได้ร้องไห้ พี่ยูยะก็จะแยกเขี้ยวกลายร่างเป็นยักษ์มารตามมาไล่เด็กพวกนั้นไปไปซะทุกครั้ง ...ไม่ว่าจะเป็นตอนอนุบาลกับเด็กแถวบ้านที่เล่นด้วยกันที่สวนสาธารณะ หรือตอนประถมกับรุ่นพี่ชั้นโตกว่าที่ชอบแกล้งคนไม่มีทางสู้ที่โรงเรียน กระทั่งคุณป้าแม่บ้านที่เจอระหว่างที่ซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต..... จนถึงตอนนี้เขาขึ้นมัธยมปลายแล้ว
......พี่ชายก็มักจะคอยปกป้องเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม.........
นั่นมันก็ทำให้คนเป็นน้องซึ้งใจอยู่หรอก....แต่คราวนี้โชริไม่ได้ถูกรังแกนี่นา
“พี่ยูยะ..อย่าทำเคนโตะคุงนะ เค้าแค่มาส่งผมเท่านั้น!”
โชริพยายามยื้อแขนพี่ชายที่ตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อเคนโตะจนลอยหวือหน้าดำหน้าแดงอย่างสุดกำลัง
“จริงเหรอ....” คำพูดของโชริมีผลกับร่างหนาไม่น้อย เพราะยูยะปล่อยมือที่กำคอเสื้อเคนโตะอย่างแรงจนร่างสูงแทบสำลักลมหายใจ แล้วยูยะก็หันมาไต่สวนกับน้องชายแทน “หลังเลิกเรียนน้องไปไหนมา ทำไมไม่โทรบอกพี่”
“มือถือผมแบตหมดน่ะ ผมเพิ่งเห็นว่าแบตมันหมดเมื่อกี้นี้เอง”
ยูยะหรี่ตามองน้องชายอย่างเคลือบแคลงใจนิดๆ แต่ด้วยนิสัยโก๊ะๆของโชริตามปกติแล้วก็มีความเป็นไปได้อยู่ว่าจะเป็นอย่างนั้น ร่างหนาจึงค่อยอารมณ์เย็นลงและพูดด้วยเสียงปกติหน้าตาปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“งั้นก็กลับบ้านกัน.......ส่วนนาย!!!!!” ประโยคแรกคุยกับโชริด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ประโยคหลังยูยะหันไปชี้ตัวผู้ต้องหาด้วยอารมณ์และสีหน้ามาเต็มจนเคนโตะหน้าตื่นไปอีกรอบ
“ถ้านายยังไม่สามารถปกป้องโชริได้...ก็อย่าเสนอหน้ามาจีบน้องฉัน” ร่างหนาชี้หน้าพูดคำปรามาศ กีดกันไว้อย่างเต็มที่ ก่อนจะดึงแขนบางๆของโชริให้เดินกลับบ้านด้วยกัน
“ขอโทษนะ เคนโตะคุง” แม้แขนข้างนึงของโชริจะถูกยูยะลากเอาไว้ ร่างบางก็ยังสู้อุตส่าห์หันไปขอโทษกับชายหนุ่มที่ถูกทิ้งให้ยืนอยู่เพียงลำพัง
“จะขอโทษมันทำไม!!!!” ยูยะเดือดขึ้นมาทันที
“ก็พี่ยูยะทำตัวไม่ดีกับเขาก่อน” คราวนี้โชริก็ไม่ยอมแพ้.... ปกติโชริก็เป็นเด็กดี เรียบร้อย ว่าง่าย อยู่ในโอวาสของพี่ชายหรอกนะ.... แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่ร่างบางจะดื้อ จะเถียงแล้วก็เอาแต่ใจ โดยเฉพาะเรื่องที่ตัวเองเห็นว่าไม่ถูกไม่ควร...อย่างเหตุการณ์เมื่อครู่นี้เป็นต้น
“ห๋า....น้องเข้าข้างมันมากกว่าพี่เหรอ”
“ผมแค่พูดตามความจริง”
เคนโตะยืนมองสองพี่น้องทุ่มเถียงกันไปมาค่อยลับสายตาไปทีละน้อย แล้วก็ต้องหัวเราะกับตัวเองเบาๆ
“คิดจะมีแฟนทั้งที ต้องเจอกับอุปสรรคชิ้นเบ้งเลยนะเนี่ย”
..........................................
.......................
..........
To be con
I-PrA Talk : รู้สึกกันไหมว่า เรื่องนี้จะอัพเร็วกว่าเรื่องที่ผ่านๆมา ฮ่าๆๆ ทำไมกันนะ
เพราะเมื่อวานแต่งเพิ่มได้ตั้งย่อหน้านึง (สมควรดีใจ?)
วันนี้วันศุกร์หรรษา พรุ่งนี้วันเด็กแล้ว....ไงก็เอนจอยกะการอ่านนะค้า แวะเข้ามาคุยกันก็ได้เน้อ ^___________^
ความคิดเห็น