คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Lovely Complex 02
Title : Lovely Complex
Cast : Nakajima Kento x Sato Shori
Rate : PG 13
Author : I-PrA
02
วันต่อมา
ที่ชมรมคหกรรมเขียนบนกระดานตัวโตๆว่า เมนูวันนี้ คือทาโกะยากิ
โชริยิ้มร่าเริงขณะที่กำลังตั้งใจหมุนลูกทาโกะยากิให้กลมมนสวยงาม
....ถ้าเป็นของพื้นบ้านๆแบบที่ทำกินกันในครอบครัวแบบนี้น่ะ ของถนัดเขาเลยล่ะ....
“ว้าย พวกชมรมกีฬาเลิกซ้อมแล้ว”
โอ้ะ... จะมากันแล้วเหรอ
“โชริ...” ยังไม่ทันไร กรอบร่างสูงของรุ่นพี่คนเดียวกับเมื่อวานก็มายืนโบกมือเรียกแล้ว ....โชริกำลังจะเดินเข้าไปขอบคุณเรื่องที่ให้คำแนะนำเมื่อวาน แต่ก็โดนกลุ่มเด็กผู้หญิงตัดหน้าเข้าไปเสียก่อน
“รุ่นพี่คะ ช่วยทานของฉันด้วยนะคะ”
“ของฉันด้วยนะคะ”
“ว้า เยอะขนาดนี้ผมกินไม่หมดหรอก ....อีกอย่างเด็กคนนั้นเค้าทำให้ผมแล้ว ขอโทษด้วยนะครับ” ร่างสูงพูดปฏิเสธอย่างสุภาพพร้อมกับส่งรอยยิ้มละลายใจให้สาวๆยอมถอยกลับไปแต่โดยดีเพราะไม่กล้าขัดใจ “เจ้าชาย”
เมื่อกลุ่มเด็กผู้หญิงล่าถอยไป ร่างสูงก็กวักมือเรียกโชริอีกครั้ง
“ผมบอกเมื่อไหร่ว่าจะทำให้รุ่นพี่กินน่ะ” โชริจำใจเดินจ้ำเข้ามาหาด้วยหน้างอๆ ไม่ค่อยพอใจในคำตอบของร่างสูงที่บอกไปเมื่อครู่เท่าไรนัก
“แล้วในมือนั่นอะไรล่ะ”
“ผะ..ผมแค่จะขอบคุณเรื่องเมื่อวานเท่านั้นแหละ”
“นายตั้งใจทำให้ฉันจริงๆด้วย” ร่างสูงทำหน้าตื่นเต้นดีใจได้โอเวอร์จริงๆ
“แค่ครั้งเดียวเท่านั้นล่ะครับ”
“ใจร้าย... ฉันอยากกินฝีมือนายนี่นา”
“แล้วทำไมต้องเป็นผมล่ะ” พอเจ้าชายทำหน้าอ้อนเอากับเขาอีกแล้ว ร่างบางก็เลยถามอย่างสงสัย
“อืม เพราะ............................ ไม่รู้สิ” ร่างสูงพูดเกริ่นค้างไว้เสียนานให้คนฟังพลอยลุ้นตาม สุดท้ายแล้วก็หมุนตัวเฟดตัวเองหนีไปพร้อมกับคว้าเอาทาโกยากิที่โชริถือมาให้อย่างลอยนวล
......โอเค เขาผิดเองแหละที่ไปถามคนแบบนั้น......
“โชริ!...ทำไมเอาให้คนอื่นไปล่ะ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้กินฝีมือนายนะ โกรธจริงๆด้วย” ยูตะเดินหน้าตาถมึงทึงเข้ามาเกาะขอบหน้าต่างแทนที่ร่างสูงที่เดินหนีไปแล้ว เพราะเข้าใจว่าโชริเพิ่งยกส่วนของตัวเองให้คนอื่นไป ...งอนไปแล้วประมาณ 50%
“ของจินจังมีสิ ฉันทำไว้ให้จินจังโดยเฉพาะเลยนะ” โชริรีบวิ่งหยิบทาโกยากิอีกกล่องนึงให้เพื่อนที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่
“จริงเหรอ^^” สีหน้ายูตะเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นแทบจะทันที ...นี่ถ้ามีหางเสียหน่อยตอนนี้มันคงกระดิกระริกระรี้น่าดูเชียว
“อ้ะนี่” โชริยื่นกล่องที่บรรจุทาโกยากิให้เพื่อนที่รับไปด้วยความดีใจเป็นล้นพ้น
“ว้าว~ น่ากินไม่เบาเลยนะเนี่ย ...ทานละนะคร้าบ” ยูตะเปิดกล่องและลงมือจิ้มทาโกยากิลูกโตเข้าปากในคำเดียว
“นายใส่ไส้อะไรลงไปบ้างเนี่ย” ยูตะที่พยายามเคี้ยวจนปวดกราม เงยหน้าขึ้นมาถามพ่อครัวคนเก่งที่ยืนยิ้มใสซื่อ
“ก็ลองหลายๆอย่างดูอ่ะ เป็นไงบ้าง” โชริถามอย่างลุ้นๆ ตากลมๆใสๆนั้นรอฟังคำวิจารณ์อย่างใจจดใจจ่อ
“...อย่างกับปลาหมึกย่างแน่ะ” ยูตะเคี้ยวจนหน้าบิดหน้าเบี้ยว
“อ้ะ เก่งจัง ทายถูกด้วย นี่ยังมีไส้ชีส ไส้ชอคโกแลต ไส้แครอท ไส้ปลาแห้ง แล้วก็ไส้บ๊วยดอง”
“บ๊วยดอง!! นี่นายคิดว่ากำลังทำข้าวปั้นอยู่รึไงเนี่ย” ยูตะมองทาโกะร้อนๆที่ส่งกลิ่นหอม แถมหน้าตายังดูน่ากินอย่างสยดสยอง..พลางกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่
“อ้าว ก็ลองสูตรใหม่ๆดูบ้างไง ถ้าอร่อยฉันจะได้กลับไปทำให้พี่ๆกิน”
“เห็นฉันเป็นหนูทดลองว่างั้นเถอะ”
...ใช่เซ่!! เพื่อนตลอดปีตลอดชาติอย่างเขาก็เป็นได้แค่หนูทดลองเท่านั้นแหละ....
“ก็จินจังบอกเองว่าอยากกิน....ก็ได้ๆ ถ้าจินจังไม่เต็มใจก็ไม่ต้องกินก็ได้ เอาคืนมาสิ” โชริหุบยิ้มฉับ ตัดพ้อด้วยวาจา หนำซ้ำยังทำหน้าเฉยชาแล้วยื่นมือมาขอคืนได้แบบทรมานใจกันสุดๆ
......แล้วไอ้แบบนี้เพื่อนรักที่แอบมีใจรักเพื่อนอย่างนายจินกูจิ ยูตะจะไปตอบอะไรอย่างอื่นได้ล่ะคร้าบบ....
“อ๋า..ไม่ใช่อย่างงั้น ฉันอยากกินๆ ....ทำมาเถอะ ฉันจะเป็นหนูทดลองให้ก็ได้”
“ต้องแบบนี้สิถึงจะน่ารักจินจัง อิอิ” โชริเอียงคอยิ้มพอใจอย่างน่ารักแล้วก็เดินเชิดหนีไปเก็บกวาดล้างถ้วยชาม ทิ้งให้ยูตะผจญภัยกับบรรดาทาโกะสอดไส้สัตว์ประหลาดอยู่เพียงลำพัง
“โชริคุง รู้จักกับรุ่นพี่นากาจิม่าด้วยเหรอ”
ขณะที่โชริกำลังยืนเช็ดเตาอยู่นั้น ก็มีเพื่อนสาวร่วมชมรมคนหนึ่งกล้าที่จะเดินเข้ามาถามร่างบางตรงๆ
“รุ่นพี่คนเมื่อกี้ชื่อนากาจิม่าเหรอครับ” โชริถามกลับไปด้วยหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์
....เขาก็เพิ่งเคยได้เห็นหน้ารุ่นพี่ครั้งแรกเนี่ยแหละ ถึงจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าชายมาบ้างแต่ก็ไม่เคยเจอตัวจริง ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่เขาสามารถไปยืนคุยอยู่ด้วยได้ตั้งนานสองนานแบบนี้ ...ดูธรรมดากว่าที่คิดนะ....
“นายไม่รู้จักเหรอเนี่ย... นั่นน่ะนากาจิม่า เคนโตะ รุ่นพี่เค้าดังจะตาย เป็นถึงเจ้าชายของโรงเรียนเชียวนะ”
“ผมไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัวหรอกครับ”
ตอนแรกน่ะโชริไม่รู้จักจริงๆอย่างที่พูดไป แต่นับจากวันนั้นเป็นต้นมา...... “เจ้าชาย” ก็มักจะแวะมาเกาะขอบหน้าต่าง ปากยื่นปากยาวมาร้องขอกินขนมหรืออาหารที่โชริทำทุกๆวัน ... จนเขาต้องทำเตรียมไว้สำหรับสองที่เพื่อรับแขกขาประจำทั้งสองคน
ฟังดูเหมือนจะดีนะ ที่อยู่ดีๆก็มีหนุ่มหล่อจากกชมรมฟุตบอลสองคนมารอทานอาหารฝีมือตัวเองทุกวัน แต่สำหรับเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าชมรมอย่างเขา และหนำซ้ำยังเป็นเด็กผู้ชายแล้วด้วยเนี่ย ....มันคงดูน่าหมันไส้อยู่ไม่น้อย....โชริรู้สึกได้เลยว่าความนิยมของตัวเองตกฮวบฮาบจนตอนนี้ติดลบไปเรียบร้อย ........พวกรุ่นพี่ใจดีในชมรมที่เคยเอ็นดูช่วยสอนนู่นนี่ให้หลายอย่างก็กลายเป็นว่าถูกเมินเฉยใส่ มีหลายคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาไปแล้วด้วยซ้ำ
เฮ้อ... ไม่เข้าใจความคิดของพวกผู้หญิงเลยจริงๆ
.........................................
........................
...........
“เร็วเข้า ยกไปไว้ที่โต๊ะข้างสนามเลย”
วันนี้ที่ห้องคหกรรมออกจะวุ่นวายอยู่สักหน่อย ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าชมรมนี้มีหน้าที่พิเศษในการทำอาหารตามคำขอของชมรมต่างๆ เวลาที่มีการแข่งขันหรืองานสำคัญๆของโรงเรียน อย่างครั้งนี้เป็นต้น ชมรมของเรารับหน้าที่ในการทำอาหารว่างให้กับชมรมฟุตบอลที่เป็นเจ้าบ้านในการแข่งนัดอุ่นเครื่องก่อนแข่งจริงในระดับเขตอาทิตย์หน้า
โชริที่ถือถาดบรรจุโอนิกิริในส่วนที่ตัวเองทำมาไว้ที่โต๊ะข้างสนาม แล้วก็อดจะมองหันไปดูการแข่งขันที่ดุเดือดในสนามไม่ได้
“เอ้ะ เคนโตะคุงนี่.... เป็นผู้รักษาประตูเหรอเนี่ย”
ร่างสูงอยู่ในชุดกีฬาแบบที่เคยเห็นในทุกวัน หากแต่มีแววตาและใบหน้าที่มุ่งมั่นตั้งใจกับเกมในสนามอย่างเต็มที่ ...ดูได้จากเหงื่อที่ไหลโทรมกายจนปอยผมด้านหน้าเปียกลู่แนบกับใบหน้าเรียวอย่างชัดเจน
.....เวลาอยู่ในสนามก็ดูเท่ห์ดีนี่นา ....มิน่าล่ะ สาวๆถึงได้กรี๊ดกันนัก.....
“กรี๊ด ลูกเตะรุ่นพี่คิคุจิสุดยอดไปเลย”
“รุ่นพี่นากาจิม่าก็เท่ห์มาก ดูสิ เหงื่อออกเต็มไปหมดเลย อยากเข้าไปช่วยเช็ดเหงื่อให้จัง”
“พวกนักกีฬานี่ดีจังเลยน้า”
“เฮ้อ~”
สาวๆร่วมชมรมของโชริต่างมายืนเอามือทาบอก ตาลอยเคลิ้มฝันถึงเจ้าชายสุดฮอตในดวงใจกันเต็มขอบสนาม ... โชริที่มัวยืนมองร่างสูงในสนามเพลินๆหันมาอีกทีก็ต้องตกใจกับจำนวนสาวๆที่มายืนเพ้ออยู่ขอบสนามกันอย่างมากมาย
เหมือนจะมีคนเคยบอกตอนแรกๆอยู่เหมือนกันว่า ในบรรดาชมรมกีฬาทั้งหมด ชมรมฟุตบอลน่ะ ถือเป็นสวรรค์ชั้นหนึ่งของพวกสาวๆ เพราะหน้าตาของนักกีฬาแต่ละคนนี่อย่างกับคัดไอดอลเข้าวงการเลยก็ว่าได้ .... ซึ่งปกติโชริก็ไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ เขาจำหน้าอยู่แค่ไม่กี่คนที่มาหาของกินที่ชมรมบ่อยๆเท่านั้นเอง
.....แต่มาเห็นกับตาแล้วบอกได้คำเดียวว่า ......
.....ของเขาดีจริงๆ......
เมื่อกรรมการเป่านกหวีดยาวหมดเวลา สาวๆก็พร้อมใจกันหันหลังพรึ่บเพื่อเตรียมขวดน้ำกับผ้าเย็นไว้บริการอย่างรวดเร็วจนร่างบางต้องเหวอไปอีกรอบ
.....นี่ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย......
“มาดูด้วยเหรอโชริ”
ไม่ทันไร เจ้าชายผู้แสนเจิดจ้าแม้ร่างกายจะพร่างพราวไปด้วยเหงื่ออย่างกับเพิ่งไปอาบน้ำก็มาโผล่อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
“เคนโตะคุง?”
“ฮะๆ ฉันเดาว่าทั้งหมดนี่เป็นฝีมือนายใช่มั้ย” ร่างสูงเอื้อมไปหยิบข้าวปั้นก้อนกลมป๊อกเหมือนลูกบอลที่โรยด้วยผงโรยข้าวสีๆ รูปร่างหน้าตาเหมือนของที่ทำกินง่ายๆที่บ้านและมีขนาดใหญ่เกินกว่าปกติไปสองเท่าตัว ....ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับข้าวปั้นในถาดอื่นๆที่บ้างก็ห่อสาหร่ายอย่างสวยงามไร้ที่ติ บ้างก็ตกแต่งข้าวปั้นด้วยสาหร่ายเป็นหน้าตาน่ารักๆ มองแล้วดูน่ากินกว่าของเขาเป็นไหนๆ
โชริทำหน้างอนิดหน่อย... เขาทำแล้วมันทำไมเล่า ถึงจะหน้าตาไม่เอาไหนแต่เขาก็มั่นใจในรสชาตินะ พี่ยูยะเองก็ชอบมากขนาดกินได้ทุกวันเชียวนะ
“อื้ม อร่อย”
....นั่นไงล่ะ....
“เฮ้ นากาจิม่า มายืนกินอยู่คนเดียวได้ไงวะ” รุ่นพี่นักเตะศูนย์หน้า คิคุจิ ฟูมะ ผู้มีพละกำลังเหลือเฟือ
....สองคนนี้เป็นเพื่อนที่สนิทกันพอสมควร แล้วก็ดังในหมู่สาวๆไม่แพ้กันเลย .... ฟูมะคุงเองก็มาที่ชมรมบ่อยๆ แต่รายนี้ไม่เคยปฏิเสธของกินที่สาวๆยื่นให้เลย ต่างกันกับเพื่อนของเขาสุดๆ ที่ไม่ยอมรับของใครเลยนอกจากของผมคนเดียว >///////<
“อยากกินก็หยิบกินสิ ใครจะว่าอะไร” เคนโตะเหล่ตามองเพื่อนเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ให้ความสนใจนัก
“เอ่อ ผมว่าพวกรุ่นพี่ไปล้างมือกันก่อนดีกว่ามั้ยครับ...”
......ขอโทษที่ต้องพูดขัด แต่เด็กดีอย่างผมเห็นแล้วทนไม่ได้จริงๆ.....
“ฮะๆ เจอเด็กอนามัยจัดเข้าซะแล้ว งั้นฉันไปล้างมือก่อนล่ะ หิวจะแย่” ฟูมะบอกขำๆแล้วก็เดินแยกออกไป
แต่ที่โชริไม่เข้าใจ ก็คือร่างสูงที่ยังยืนยิ้มแป้นแล้นอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหนเลยนี่สิ
“แล้วเคนโตะคุงไม่ไปหรือครับ?”
“ขี้เกียจเดินไป มันไกลนี่นา ...ตอนนี้คนก็เยอะด้วย”
......แล้วเจ้าชายมางอแงอะไรกับผมล่ะ .......
“ไม่ล้างได้ไง เพิ่งลงสนามมาเหงื่อออกขนาดนั้น ถ้าหยิบของกินเข้าไปก็มีแต่เชื้อโรคเท่านั้นแหละครับ”
เด็กอนามัยจัดขมวดคิ้วมุ่นและยังยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยนแปลง... เคนโตะวาดยิ้มแปลกๆแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ร่างบางแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว
“งั้นโชริก็ป้อนหน่อยสิ” ตามด้วยประโยคมุกอ้อนสาวที่ทำให้คนฟังหัวใจเต้นผิดจังหวะ
“ฮะ? ผมน่ะนะ”
“อื้อ ก็โชริน่ะสิ ...นายบอกว่ามือฉันมีแต่เชื้อโรคไม่ใช่เหรอ รับผิดชอบหน่อยสิ”
.....แล้วมันกลายเป็นความผิดเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ ไอ้เจ้าชายมั่วนิ่ม!!!!......
“อ้าปากสิครับ ผมจะป้อนได้ยังไง” สุดท้ายแล้วโชริก็ต้องเป็นฝ่ายยอมให้อย่างทุกที ...เคนโตะยิ้มกว้างแล้วรีบหลับตาอ้าปากให้เต็มที่
....ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งๆที่จะปฏิเสธไปก็ได้ ....อย่างการที่เคนโตะมาขอขนมจากเขาทุกๆวัน จริงๆแล้วโชริจะทำใจแข็งบอกปัดไปเขาก็มีสิทธิ์..... แต่เขาก็ไม่ได้ทำ....
“อ้ะ อันใอ่เอินไออั้ยโออิ (มันใหญ่เกินไปมั้ยโชริ)” เคนโตะพยายามโวยวายทั้งๆที่มีข้าวปั้น(ที่ก้อนใหญ่กว่าปกติสองเท่า)คาปากอยู่ ..... เพราะเมื่อกี้โชริเกิดหมันไส้เลยแกล้งยัดเข้าไปทั้งก้อนแบบที่เห็น
“ฮะๆๆ รีบกินเข้าไปสิครับ” ร่างบางหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีที่ได้แกล้งคนแบบเจ้าชายให้ได้หลุดมาดเสียบ้าง
“หนอย เล่นแบบนี้นะ จำไว้ๆ” เคนโตะทำท่าฟึดฟัดๆ ชี้หน้าโชริเหมือนหงุดหงิดขัดใจ แต่ไม่จริงจังนักเพราะใบหน้าหล่อยังคงวาดเป็นรอยยิ้มอยู่ ....แล้วก็ยอมเดินไปล้างมือที่ก๊อกน้ำข้างโรงยิมแต่โดยดี
“โชริ...”
“หืม... จินจังล้างมือมารึยัง” ร่างบางหันกลับมาอีกทีก็เจอยูตะยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว
“ล้างแล้ว... ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ” ยูตะมีสีหน้าเคร่งขรึมกว่าปกติจนเรียกว่าผิดปกติเลยก็ได้ โชริไม่ได้ตอบคำถามนั้นแต่แสดงออกทางสีหน้าว่ากำลังตั้งใจฟังอยู่...
“พักนี้นายดูสนิทกับรุ่นพี่นากาจิม่าจังเลยนะ” ยูตะพยายามเก็บปลายเสียงไม่ให้มันดูสะบัดสะบิ้งแสนงอนเหมือนนางเอกละครมากเกินไป...เพื่อรักษาความมาดแมน!
..... ต่อหน้าคนที่ชอบน่ะ ยังไงก็ต้องดูดีเอาไว้ก่อนแหละนะ.....
“เคนโตะคุง?” โชริขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“ถึงขั้นเรียกชื่อด้วยอ้ะ! ขนาดชื่อต้นฉันนายยังไม่เคยเรียกเลยนะ!!” ยูตะลืมตัวเผลอวีนออกมาเต็มที่ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ .....เขาเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของโชริตั้งแต่ประถมเชียวนะ!!
“ก็เคนโตะคุงบอกให้เรียกแบบนั้น”
..... เพราะเจ้าตัวให้เหตุผลว่า นามสกุลนากาจิม่าน่ะมันโหล ในโรงเรียนนี้ก็มีตั้งเยอะแยะ เพราะฉะนั้นก็เรียกชื่อซะเถอะ .... ทำอย่างกับว่าชื่อเคนโตะนี่มันเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครซะงั้นล่ะ... ทั้งๆที่มันโหลไม่แพ้กันเลยแท้ๆ
“งั้นฉันจะให้นายเรียกชื่อฉันบ้าง” ยูตะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แขนแห้งๆนั่นก็ยกมือขึ้นกอดอกแบบไว้เชิงซะด้วย
“ยูตะ? ก็ชื่อนายซ้ำกับคิชิคุงนี่นา เดี๋ยวก็ได้สับสนกันพอดีหรอก”
.... โชริหมายถึงเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อ คิชิ ยูตะ ที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆกับพวกเขา แล้วทั้งสองยูตะนี้ก็คุยกันบ่อยซะด้วย ...ถ้ามีใครสักคนลองเรียกชื่อยูตะขึ้นมา ทั้งสองยูตะก็จะหันมาทำหน้าสงสัยพร้อมกันโดยอัตโนมัติ กลายเป็นเรื่องโจ๊กของห้องไปเลย...
“นายเรียกหมอนั่นว่าคิชิอยู่แล้ว... เรียกฉันว่ายูตะคนเดียวก็พอ” ยูตะเก๊กทำเสียงเสียงเข้มด้วยมาดพระเอกละคร หวังจะให้โชริเขินแก้มแดงเพราะเขาบ้าง
“เอ๋..ไม่เห็นน่ารักเลย จินจังน่ารักกว่าตั้งเยอะ ไม่เอาหรอก ฉันจะเรียกจินจังว่าจินจังเหมือนเดิมเนี่ยแหละ”
แต่นอกจากโชริจะไม่เขินอย่างที่หวังแล้ว ยังออกฤทธิ์เอาแต่ใจตามประสาน้องคนสุดท้องที่พี่ๆรักและเอ็นดูเป็นพิเศษแทนอีกด้วย ......ยูตะเองก็อยากจะลงไปนอนดิ้นเอาแต่ใจให้โชริทำตามใจเขาบ้าง แต่เขารู้ตัวเองว่าไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นได้ เผลอๆจะโดนด่าว่าปัญญาอ่อนกลับมาอีก... ได้ไม่คุ้มเสียครับ ไม่ควรเสี่ยง
.....แต่จากใจผู้ชายอกยังไม่ถึงสามศอกดีอย่างจินกูจิ ยูตะ.....
.....บอกได้คำเดียวว่า....
..... โลกนี้ไม่มีความยุติธรรมหรอกครับ .....
…………………………………….
……………………..
…………
to be con
สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะพี่น้องงงงงงงง
ดูคอนเคาน์ดาวน์กันรึยังงงงงงง เคนโชริกิ๊บกิ๊วมาก ♥
แต่ประกำลังสะเทือนใจเรื่องลืมสั่งของหน้าคอนซซซ.ล่ะ T_T
ใครสั่งเกิน หรืออยากขายต่อ พัดโชรินะคะ ยกมือแจ้งความจำนงว่าคนตรงนี้อยากได้ค่ะ ^^
ความคิดเห็น