ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HSJ].... You are beautiful ....[Hey!Say!JUMP version]

    ลำดับตอนที่ #2 : พี่ชายของยามะจัง

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 54


      

     

    02

     

     

    โอ้โห กว้างชะมัด

     

    เรียวสุเกะเดินสำรวจไปรอบๆบ้าน และตื่นตาในทุกๆตารางเมตร..... ห้องกว้างขวางสะอาดสะอ้านสบายตา เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น พร้อมเครื่องใช้สารพัน ที่มองไปก็ยังหาจุดบกพร่องไม่ได้ .... เรียวสุเกะหยิบจับเครื่องใช้ไฮเทคดูอย่างสนใจ ดวงหน้าหวานยิ้มแย้มอย่างชอบใจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งนั้นจะทำให้ใครบางคนรำคาญตาเอาได้

     

    หึ...อย่างกับหนูตกถังข้าวสาร ยูยะเดินมาเบียดร่างเล็กของเรียวสุเกะจนเซแซ่ดๆ พร้อมพ่นวาจาเหน็บแนมอย่างใจร้ายยกยิ้มมุมปากอย่างทุกทีแล้วเดินเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป เสียงงับบานประตูปิดท้ายนั่นดังสนั่นจนคนอื่นๆที่เดินตามเข้ามาสะดุ้งไปตามๆกัน

     

    อย่าไปถือสาเลยนะ ยูยังน่ะ ปากไม่ตรงกับใจ ยูโตะเดินตามมาตบหลังเรียวสุเกะเป็นเชิงเห็นใจแล้วก็แยกตัวขึ้นบันไดชั้น2ไป

     

    .

    .

     

    “ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วนะว่า ห้องมันเต็ม”

     

     เคโตะพูดประโยคคล้ายๆเดิมขึ้นมาอีกครั้งกลางที่ประชุม เพียงแต่คราวนี้ลดความเป็นทางการลงโดยสถานที่หารือก็คือห้องนั่งเล่นรวมในบ้านพักของพวกเขาเอง และมียามะพีที่กำลังนั่งขัดสมาธิ เอามือกอดหมอนในมือแน่น และบู้ปากอยู่บนโซฟาหน้าทีวีด้วยท่าทางเหมือนเด็กถูกขัดใจเป็นประธานในที่ประชุม

     

                    “ใครอยู่ห้องชั้นล่างนะ” ยามะพีถามขึ้น

     

                    “ผมเอง” ยูยะตอบแบบไม่เต็มปากนัก สังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับตัวเอง

     

                    “ยูยะเองเหรอ ฉันจำได้ว่ามีห้องว่างเล็กๆในห้องนายนี่” นั่นไง มันมาแล้ว .... รอยยิ้มหวานบนใบหน้าน่ารักของท่านประธาน ......แอ๊ปเปิ้ลอาบยาพิษชัดๆ.......

     

                    “อืม...มันเคยว่าง แต่ตอนนี้...”

     

    “ดีเลย ยามะจังไปอยู่ในห้องนั้นละกัน” ยามะพีไม่แม้แต่จะฟังให้จบประโยคก็ตัดสินใจฉับพลันไปอีกแล้ว

     

                    “นี่..ฟังกันก่อนสิ ผมบอกว่าตอนนี้มันไม่ว่างแล้ว!! ยูยะตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห

     

                “ยังไงก็ตาม ยามะจังจะใช้ห้องนั้นแหละ ...ไม่เป็นไรใช่มั้ย ถ้ามันจะเล็กไปนิด” ยามะพีหันไปถามเรียวสุเกะด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

     

                    “ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ที่ไหนก็ได้... จริงๆแล้วให้ผมกลับไปนอนที่บ้านก็...”

     

                    “ไม่ๆๆ ยามะจังต้องอยู่ที่นี่ นโยบายของฉันคือต้องสร้างความสมานฉันท์ภายในวง เพราะฉะนั้น นาย...ไปขนของออกจากห้องนั้นภายใน 2 วันด้วย” ยามะพีกล่อมเรียวสุเกะด้วยความนุ่มนวลและหันมาสั่งยูยะที่หน้าบูดรับคำสั่งอย่างขัดไม่ได้เสียงแข็งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

     

                    “แล้วคืนนี้ล่ะครับ” เคโตะเกิดคำถามขึ้นมาอีก

     

                “ช่วยไม่ได้น้า ก็คงต้องเบียดกันซักหน่อยล่ะ”

     

                    “เบียด?” ยูยะหันไปทางยามะพีอย่างรวดเร็วคอแทบหัก ตาเรียวรีเบิกโพลงขึ้นอย่างกับเห็นผี

     

                    “แต่ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เตียงห้องนายน่ะ คิงไซส์ไม่ใช่หรือ ยามะจังตัวเล็กนิดเดียวคงไม่กินพื้นที่นายนักหรอกนะ”....ไม่ใช่ผีสินะที่ยูยะมองเห็นอยู่ตอนนี้  คงเป็นปีศาจ... ปีศาจเป็ดซะด้วย

     

                    “เรื่องอะไรให้หมอนี่มาอยู่ห้องผม ห้องคนอื่นก็มีนี่” ยูยะท้วงเสียงอ่อน ... เพราะรู้ตัวว่าไม่มีเหตุผลที่ดีพอมาคัดค้านได้

     

                    “ห้องอื่นเค้ามีรูมเมทกันหมดแล้วนี่ ใจคอนายจะให้เพื่อนนอนอัดกัน 3 คนในห้องเดียวน่ะเหรอ ยูยัง...”

     

    บ้านพักของพวกเขานั้นประกอบไปด้วย 3 ห้องนอนใหญ่ โดยที่ชั้นบนมี 2 ห้องใหญ่ และในแต่ละห้องนั้นก็มีห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง .... หรือพูดง่ายๆว่า ห้องหนึ่งจะอยู่ได้ 2 คน แต่ละคนจะมีห้องนอนเป็นส่วนตัวของตัวเองเพียงแต่ต้องใช้ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานร่วมกันเท่านั้น ในที่นี้ ฮิคารุกับเคย์ และ ยูโตะกับเคโตะ เป็นรูมเมทกันและพักอยู่บนชั้น 2 ทั้งหมด มีแต่ยูยะเท่านั้นที่ใช้อิทธิพลมืดครองห้องใหญ่ชั้นล่างไว้คนเดียว

     

                    “พวกมันนอนเตียงเดียวกันซะที่ไหน” แม้จะโดนบังคับให้ยอมรับคำสั่งแต่โดยดี ก็ยังอดไม่ได้แต่จะบ่นกระปอดกระแปดไม่เต็มเสียงนัก

     

                    “ยังไงก็รักกันไว้นะ ฝากดูแลยามะจังด้วย...เข้าใจมั้ย ยูยัง” ยามะพีที่คุยธุระเสร็จแล้วเตรียมตัวกลับ ก็ยังอุตส่าห์หันกลับมาย้ำยูยะอีกครั้งให้แน่ใจ

     

                    “รู้แล้วน่า..” ยูยะบอกปัดไปอย่างรำคาญ ... สายตาคมจ้องมองไปที่เรียวสุเกะที่ยังคงยิ้มบริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องรู้ราว .... เห็นแล้วมันหงุดหงิดลูกตานัก!

     

    .

    .

     

    เย็นวันนั้นเอง

     

    ไดกิ หอบกระเป๋าเป้ใบใหญ่เดินเข้ามาตามที่อยู่ที่ได้มาจากเรียวสุเกะเมื่อตอนกลางวัน และเพราะเป็นหวัดเลยใส่แมสปิดปากไว้ เสื้อแขนยาวและหมวกแก๊ปสีดำบนศีรษะก็ใส่ไว้กันแดด เพราะวันนี้แดดแรงทั้งบ่าย

     

    ....เคย์ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน จึงสังเกตเห็นไดกิได้ก่อนใคร ร่างโปร่งเห็นท่าทีลับๆล่อๆแถมยังใส่หมวกใส่แมสแสนน่าสงสัย ก็เกิดวิตกจริต เลยย่องเข้าไปใกล้หลังพุ่มไม้ แล้วใช้สายยางที่รดน้ำต้นไม้อยู่เมื่อครู่ต่างอาวุธ ฉีดน้ำเข้าที่ผู้ต้องสงสัยทันที

     

    อ้ะ....อะไรเนี่ย...... อ๊า~!!!!! น้ำเย็นๆๆๆๆ หยุดนะ!”

    นี่แน่ะ....นายเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่

    หยุดฉีดน้ำก่อนนน

    ไม่! บอกมาว่านายมายืนทำลับๆล่อๆอะไรที่นี่เคย์ยืนถือหัวฉีดสายยางต่างปืน ยิงไปที่เป้าหมายด้วยปริมาณน้ำที่รุนแรงและหนักหน่วงกว่าเดิม

     

    ไดกิตกใจร้องลั่นและพยายามวิ่งหนี แต่เคย์ก็ทนทายาทเหลือเกินที่วิ่งตามอย่างไม่ลดละ เสียงที่ดังลั่นทำให้คนในบ้านวิ่งออกมาดู จังหวะนั้นเองที่ไดกิดิ้นหนีน้ำเย็นเฉียบทั้งหมวกและแมสที่สวมใส่มาหลุดออกจากตัว เหลือเพียงใบหน้าน่ารักหวานใสที่ทำให้เคย์ถึงกับยืนนิ่งและปล่อยสายยางลงกระทบพื้น

     

    ไดจัง...เป็นอะไรหรือเปล่า เปียกน้ำด้วย ยังไม่หายดีเลยนี่นาเรียวสุเกะรีบวิ่งเข้าไปหาชายแปลกหน้า(ในสายตาของคนในบ้าน)ด้วยความเป็นห่วง

     

    คะ...คนรู้จักของยามะจังหรือเคย์ถึงกับหน้าซีดไปแล้ว

     

    ใช่...นี่ไดจังพี่ชายผมเอง” เรียวสุเกะเหวี่ยงตาจิกไปที่อิโนโอะ เคย์ที่ยืนสะดุ้งสุดตัวอย่างกลัวความผิดทันที

     

    .......................................

    .....................

    .........

     

     

    บ้านนี้เค้าต้อนรับแขกกันอย่างนี้เหรอ... ฮ้าดด..ชิ้วววว .....ใจร้ายมากเลยไดกิที่มีผ้าขนหนูสีขาวห่มคลุมไปทั้งตัวจนเหลือแต่ใบหน้าหวานด้วยฝีมือของเรียวสุเกะตอกย้ำอีกครั้งให้คนทำรู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีก

    ใบหน้าหล่อเหลาของเคย์หงอยแล้วหงอยอีก จนฮิคารุต้องลูบหลังปลอบใจ

     

    ก็ไม่ได้ตั้งใจนี่นา เห็นใส่หมวกใส่แมสมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านก็เลย...เข้าใจผิด

     

    ทีหลังก็หัดถามเสียก่อนจะลงมือทำอะไรก็แล้วกัน อิโนะคุง” เรียวสุเกะสั่งสอนเรียบร้อยก็หมดความสนใจในตัวอิโนโอะ เคย์ไปในทันที แล้วหันไปประคบประหงมดูแลพี่ชายเยี่ยงลูกในไส้

     

                    “หวัดของเก่ายังไม่ทันหายดี ต้องมาเปียกน้ำอีก ถ้าเป็นไข้ขึ้นมาอีกจะทำยังไงล่ะ”

                    “ไม่ต้องเป็นห่วงน่า เรียวจัง ฉันดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว สบายมาก!

                    “คืนนี้ผมกลับไปอยู่เป็นเพื่อนไดจังดีกว่า เดี๋ยวขออนุญาตพีซังน่าจะได้”

                    “ไม่เอาน่า ฉันไม่อยากให้นายเดือดร้อน ... เพิ่งจะเข้าวงเองไม่ใช่เหรอ อยู่ทำความรู้จักเพื่อนๆสิ”

    “แล้วผมจะปล่อยให้ไดจังกลับบ้านคนเดียวทั้งๆที่ป่วยขนาดนี้ได้ยังไง”

     

    “เดี๋ยวฉันไปส่งพี่ชายนายที่บ้านเอง!! เสียงแหลมแหวกอากาศของเคย์ทำให้การถกเถียงของ 2 พี่น้องหยุดชะงัก และหันมาที่คนพูดเป็นตาเดียว

     

    “ไม่เอา ฉันไม่ไว้ใจ” เรียวสุเกะพูดใส่หน้าเคย์อย่างใจร้าย ไม่สนว่าเคย์จะทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้แค่ไหน

    “เรียวจัง...อย่าดื้อสิ ฉันยอมให้หมอนี่ไปส่งก็ได้ เรียวจังอยู่ที่นี่เถอะ” ไดกิออกตัว

    “นะ เรียวจัง..” เคย์ได้ที เนียนตามไปสนับสนุนทันที

    “ใครให้นายเรียกเรียวจัง! ด้วยความเป็นห่วงพี่ชายที่เหลือล้นทำให้เรียวสุเกะทำเสียงดังใส่ได้แม้กระทั่งรุ่นพี่ที่เพิ่งจะรู้จักกันวันแรก

     

    “โทษที เผลอเรียกตามพี่ชายยามะจัง(ยิ้มแห้ง) ....นะ ให้ฉันได้ไถ่โทษหน่อยเถอะ ฉันจะรับผิดชอบไปส่งพี่นายถึงเตียงเลย” เคย์พูดทุกอย่างได้อย่างแนบเนียน ความเจ้าเล่ห์โดยธรรมชาติที่รังสรรค์มาคู่กับคนหน้าตาหล่อเหลือร้ายปะปนไปกับความหวังดีบนใบหน้าซื่อๆ

    “เกินไปล่ะ เกินไป” ไดกิเหล่ตามองอย่างหมั่นไส้

     

     

    แต่ในที่สุดแล้วไดกิก็เกลี้ยกล่อมน้องชายจนยอมตกลงจนได้ แม้หน้าตาของเรียวสุเกะจะไม่ยินดีนักก็ตาม .... ก่อนจะปล่อยพี่ชายให้ห่างตัวได้ก็สั่งเสียซะชุดใหญ่ แถมยังย้ำกำชับกับเคย์อีกด้วยว่าให้ดูแลดีๆ และห้ามถือโอกาสทำรุ่มร่ามกับไดจังแม้แต่นิดเดียว

     

     

    “ฉันไว้ใจนายได้ใช่มั้ยเนี่ย” ไดกิพูดขึ้นมาขำๆ ในขณะที่ตัวเองนั่งอยู่บนรถหรูแนวสปอร์ตของเคย์ และกำลังดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาด..... แต่..ทำไมมันฝืดอย่างนี้ล่ะ!

     

    “ผมช่วย” เคย์เอื้อมมาช่วยร่างเล็กดึงสายคาดแบบที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ.... ใบหน้าหล่อที่ซูมเข้ามาจู่โจมไดกิแบบไม่ทันตั้งตัวนั่นทำให้ไดกิแอบใจเต้นผิดจังหวะ หน้าร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

     

    “มันไม่ค่อยมีคนใช้ก็เลยฝืดนิดหน่อยน่ะ.... นาย..ไดจังใช่มั้ย”

    “อื้อ ไดกิ.... แต่นายจะเรียกไดจังเหมือนเรียวจังก็ได้ ฉันไม่ถือ” 

    “ผมอิโนโอะ เคย์นะ ขอโทษจริงๆสำหรับเรื่องวันนี้”

    “ถ้าไม่ได้เจตนาร้ายก็ช่างมันเถอะ ... แต่อย่าให้รู้ว่าจงใจแกล้งนะ หึ!!What!? …What does it mean หึ!!? ทำไมฟังแล้วขนลุกเกรียวแปลกๆแฮะ

     

    “แล้วบ้านไดจังอยู่ที่ไหนล่ะ” ไดกิบอกที่อยู่ของตัวเองไป เคย์พยักหน้ารับรู้

     

    “จะหลับไปเลยก็ได้นะ รับรองว่าส่งถึงบ้านปลอดภัยแน่นอน”

     

    “ให้จริง” ไดกิยิ้มๆแล้วก็เบนสายตาออกนอกกระจกเมื่อรถเคลื่อนตัวออกอย่างนิ่มนวล

     

    .................................

    ...................

    .........

     

                    “ใครอนุญาตให้นายนอนบนเตียงฉัน!! ยูยะในชุดคลุมอาบน้ำตะโกนเสียงดังทันทีที่ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นว่า ยามาดะ เรียวสุเกะ รูมเมทใหม่ของเขากำลังกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงคิงไซส์ของเขาอย่างสนุกสนาน

     

                    “ก็ยามะพี....” เรียวสุเกะกะเด้งตัวขึ้นมานั่งอย่างตกใจ

     

                    “แต่นี่มันห้องฉัน เพราะงั้น....ลงไป” ยูยะปัดมือไล่ด้วยมาดหยิ่งยโส ที่เรียวสุเกะเห็นแล้วอดที่จะหมันไส้ไม่ได้แต่ก็ยอมลากหมอน ลากผ้าห่มบนเตียงลงไปปูนอนบนพื้นข้างเตียงโดยไม่พูดอะไร

     

                    “น้อยๆหน่อย นั่นก็ผ้าห่มฉัน... ของนายไปเอาในตู้ ไป๊!

     

    “เรื่องเยอะอะไรขนาดนี้นะ” เรียวสุเกะบ่นอุบอิบระหว่างที่เปิดตู้ขนเอาชุดเครื่องนอนลงมาอีกชุด

     

    “บ่นอะไร”

     

    “เปล่า...แค่สงสัยว่า นั่นคือชุดนอนของนายเหรอ.. เฮ้ยย ไอ้ลามก!! ยังไม่ทันจบคำถามดี ยูยะก็กระตุกปมชุดคลุมอาบน้ำให้คลายออกและร่วงลงไปกองกับพื้น.... เรียวสุเกะที่คิดว่าร่างสูงไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างในก็ยกมือขึ้นปิดตาหันหน้าหนีด้วยความตกใจทันที

     

    “นายนั่นแหละที่ลามก คิดอะไรน่ะ ยูยะก้มหยิบชุดคลุมบนพื้น แล้วชู้ตลงตะกร้าผ้าอย่างสวยงาม.... จริงๆแล้วร่างสูงใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างในตั้งแต่ต้นแล้ว

     

    “แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อเล่า! เรียวสุเกะกรีดร้องทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ

     

    “ฉันไม่ใส่เสื้อตอนนอน.... ใจจริงฉันอยากแก้ผ้านอนด้วยซ้ำ แต่ฉันเห็นแก่นาย”

     

    “ถ้าจะเห็นแก่ผมทั้งทีก็ช่วยใส่เสื้อนอนด้วยได้มั้ยเล่า!” เรียวสุเกะตะโกนทั้งหน้าแดงๆอีกครั้ง ...ส่วนยูยะเดินไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วจัดแจงเสียบปลั๊กไดร์เป่าผมโดยหาได้มีความสนใจไม่

     

    เรียวสุเกะคร้านจะเถียงด้วยจึงยอมหลับหูหลับตาปูที่นอนข้างเตียงอีกครั้ง แต่ก็ยังแอบเปรี้ยวจิ๊กตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่วางอยู่ตรงหัวเตียงลงมานอนกอดด้วยอีกต่างหาก

     

    “เฮ้ นั่นคุซาป๊งของฉันนะ” ยูยะที่มองตามดูทุกอย่างผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้งโวยขึ้นมาอีกครั้ง

     

    “นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ขอยืมตัวนี้แค่ตัวเดียวไม่ได้หรือ”

     

    “ไม่ได้! ...มันทำให้ฉันนอนไม่หลับ” ยูยะตะเบ็งเสียงดังข่มขู่ในคราแรก แต่บอกเหตุผลด้วยเสียงที่เบาเบ๊าเบาคล้ายจะขลาดเขิน .... แต่ถึงจะเบาแค่ไหนก็ไม่เกินความสามารถของรูหูเรียวสุเกะหรอก^^

     

    “ยูยะคุง.....นาย...ติดน้องเน่าเหรอ” แกล้งแย๊บคำถามออกไป พลางกวาดสายตาหาทางหนีทีไล่เตรียมพร้อม

     

    “หยุดพูดนะ!!! แล้วใครอนุญาตให้เรียกชื่อฉัน” ชัดเลยทีนี้.... ใบหน้าร่างสูงแดงเถือก ไม่สู้สายตา และพยายามเบี่ยงประเด็น

     

    “เจอจุดอ่อนแล้ว...” เรียวสุเกะยิ้มล้อร่างสูงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ กวนประสาทให้ร่างสูงอารมณ์บูด

     

    แม่เจ้าโว้ยยยยย ใครเล่าจะรู้ ว่าสุดหล่อ ขี้เก๊ก หน้านิ่งตลอดเวลาของประชาชน จะมีเบื้องหลังน่าเหลือเชื่ออะไรจะปานนี้

     

    “จะเอาอะไร” ยูยะกัดฟันถามเสียงเหวี่ยงๆ

     

    “ข้างล่างพื้นมันเย็นเนอะ”

     

    “ฮึ้ยยย ขึ้นมานอนนี่เลยมา” ทันทีที่ได้รับคำอนุญาต เรียวสุเกะก็ยิ้มแฉ่ง กระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งจัดสรรปันส่วนแบ่งเขตแดนที่นอนให้เสร็จสรรพ

     

    “อ่ะ เอาคืนไปเด็กน้อย” เรียวสุเกะส่งคุซาป๊งกลับสู่อ้อมอกเจ้าของหน้าเกร็งๆ เพราะต้องกลั้นหัวเราะกับตัวตนอันไม่คาดคิดของเสือยิ้มยาก ทาคาคิ ยูยะ

     

    ก็มีมุมน่ารักๆกะเค้าเหมือนกันนี่นา

    นึกว่าจะทำเป็นแต่หน้าดุๆอย่างเดียวซะอีก

     

    ..............................

    ..................

    ............

     

    “ถึงแล้วครับ องค์หญิง..... อ้าว หลับไปแล้วจริงๆแฮะ”

    เคย์ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะปลุกดีหรืออุ้มเข้าไปส่งถึงเตียงอย่างที่พูดเล่นไว้จริงๆดี... แต่แล้วความคิดฝ่ายดีก็รั้งให้เคย์ลองปลุกด้วยวิธีการนิ่มนวลดูเสียก่อน

     

    “ไดจัง...ถึงบ้านแล้วนะ ไม่ตื่นเหรอ.... ไดจัง เอ้ะ ตัวร้อนจี๋เลย” จังหวะที่เคย์พยายามเขย่าตัวไดกิเพื่อปลุกให้ตื่นนั้น อุณหภูมิผิวกายที่ร้อนราวกับไฟของร่างบางทำให้เคย์ตาเหลือก รีบรุดลงจากรถมาเปิดประตูฝั่งที่ไดกินั่ง

     

    “กุญแจบ้านๆๆ ขออนุญาตเถอะนะไดจัง มันเป็นเรื่องฉุกเฉิน” เคย์ยกมือไหว้ปะหลกๆ พูดจบแล้วก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของไดกิทันทีด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน .... ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอดใจที่จะคิดอกุศลหน่อยๆไม่ได้จริงๆ

     

    .

    .

    .

     

    To be con

     

    Talk : เหมือนจะจบค้างเบาๆ ..เหะๆๆ และไม่รู้ว่าจะได้ลงตอนๆไปเมื่อไหร่ เพราะประเริ่มเปิดเรียนแล้ว... แต่จะพยายามมาต่อเรื่อยๆนะ

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน หรือให้ความสนใจนะคะ ยังไงก็ช่วยตามกันต่อไปด้วยเน้อ แวะมาเม้นบ้างไม่ว่ากัน แค่อยากรู้ฟีตแบคบ้างเฉยๆ จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป

    ปล. คุณ  ryosuki ...เจเรฮิกผมสีนี้ทรงนี้หล่อจริงอะไรจริง บัลลังค์พระเอกเริ่มสั่นคลอน 555+ 
    อยากดูพีวีแล้วเนาะ ออกมาแต่พรีวิว ใจจะขาดดดดด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×