[SF HSJ] IN THE BOX [Arioka Daiki]
อยู่ๆก็มีกล่องปริศนามาตั้งอยู่หน้าห้อง .........ข้างในนั้น มันคืออะไรกันแน่นะ??
ผู้เข้าชมรวม
279
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
In the box
cr- rrr_roooll
Title: In the box
Cast: Arioka Daiki
Genre: Fantasy Comedy
Author: I-PrA
Rate : ฉ.ฉิ่ง
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คืนนี้เป็นคืนฮัลโลวีน วันปล่อยผีครับ .....สำหรับผม อาริโอกะ ไดกิ ที่มีชีวิตอยู่มาได้ 22 ปี โดยที่ไม่เคยกลัวสิ่งเร้นลับๆใดทั้งปวงบนโลกนี้ และก็ไม่ได้เห็นว่ามันเป็นวันสำคัญอะไรที่ต้องให้ความสำคัญ
........มันก็แค่วันๆนึงที่กำลังจะผ่านไปเท่านั้นเอง......
ผมใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดามาตลอด ตื่นเช้ามา ไปทำงาน แล้วก็กลับบ้าน เป็นซาลารี่แมนในบริษัทธรรมดาๆที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
แต่แล้วเรื่องมันก็เกิดในช่วงหัวค่ำที่ผมกลับมาถึงแมนชั่นของตัวเองเพื่อพักผ่อนนั่นแหละครับ
“นี่มันกล่องอะไร?!!”
ผมเจอลังกระดาษแปลกๆตั้งอยู่หน้าห้องของตัวเอง.... มันเป็นกล่องเล็กๆที่ปิดฝาพับไว้อย่างลวกๆ ไม่ได้ปิดเทปอย่างแน่นหนาอะไร ไม่มีแม้แต่โน๊ตหรือตัวอักษรเขียนจ่าหน้าถึงใคร......
.......แล้วทำไม...ถึงต้องมาอยู่หน้าห้องผมด้วยล่ะ .....
.......ถัดไปอีกสักสองห้องมันจะตายมั้ยห้ะ!!......
.......เปิดดูดีมั้ยอะ........
ผมสองจิตสองใจลังเลว่าจะเปิดดูดีรึไม่ดีอยู่เป็นนานสองนาน ..คือจะทำเป็นไม่สนใจแล้วเข้าห้องไปก็ไม่ได้ เพราะกลัวว่าของข้างในจะเป็นของอันตราย อย่างพวกระเบิดอะไรเทือกๆนี้ ...ถ้าเกิดมันระเบิดตูมตามขึ้นมาผมคงจะตายอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ซึ่งผมคงยอมไม่ได้
........ยุ่งยากจริง.......
สุดท้ายก็กลั้นใจยกตีนยื่นไปเขี่ยๆเปิดกล่องเข้าจนได้ ......แล้วก็มีอันต้องสะด้งสุดตัวเมื่อกล่องใบเล็กนั้นสั่นเล็กน้อยให้คนใจกล้าได้ใจเสียเล่น
......คิดในแง่ดี บางทีมันอาจจะเป็นพวกสัตว์ตัวเล็กๆ หมา แมวที่ถูกทิ้งเสียล่ะมั้ง
..... แต่ว่า แมนชั่นที่เขาอยู่ตอนนี้มันมีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์นี่นา .....ใครมือบอนเอามาทิ้งไว้กันนะ
ผมค่อยๆชะโงกหน้าไปดูว่า ‘อะไร’ กันแน่ที่อยู่ในกล่องบ้านี่
“นี่มันตัวอะไรน่ะ?!!”
......สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตัวสีฟ้าสดใส บนตัวสวมห่วงยางว่ายน้ำสีแดงสลับขาว ห้อยนกหวีดไว้ที่คอ บนหัวกลมๆนั่นสวมแว่นดำน้ำไว้ด้วย......
......ตอนนี้มันดำลังจะเข้าหน้าหนาวแล้วไม่ใช่รึไง ไอ้พร็อบแห่งฤดูร้อนนี่มันอะไรกัน!! ….
ผมยืนนิ่งประสานสายตากับตากลมๆแป๋วๆแบ๊วๆของเจ้าตัวนั้นอยู่สักพัก
“อ่าห์...น่ารักจังเลย~”
หน้าตาบ้องแบ๊วของมันดึงดูดให้ผมก้มลงอุ้มเจ้าตัวสีฟ้าขึ้นมากอดไว้เหมือนลูกหมาลูกแมวเกิดใหม่ตัวน้อยๆ
แล้วพอผมลูบหัวกลมของมันเบาๆ
“เซบ้า~” ....เจ้าตัวสีฟ้ามันทำหน้าตาร่าเริง ร้องครางตอบรับอย่างมีความสุข .... ดูท่าจะชอบให้ลูบหัวนะ
“หืม....ร้องว่าอะไรนะ นายคือตัวอะไรน่ะ?”
.....ตัวสีฟ้าๆจิ๋วๆแบบนี้ .......รึมันคือตัวสเมิร์ฟที่หลุดมิติออกมาจากในป่าแบบหนังฮอลลีวูดกันนะ!!
.....ไม่สิ สเมิร์ฟไม่หน้าตาแบบนี้ ...ไอ้ตัวนี้หน้าดูโง่กว่าเยอะเลย แถมพร็อบหน้าร้อนนี่ก็แบบ.....ไร้เซ้นส์สุดๆ
“หลงมาเหรอ หรือจะมาขออยู่ด้วย”
“เซบ้า~” ไอ้ตัวเล็กสีฟ้ามันทำหน้าอ้อนขั้นสุด... ตาใสๆนั่นเริ่มคลอไปด้วยน้ำที่หัวตาแล้ว
….รึว่าเจ้านี่จะรู้นะ ว่าเขาแพ้สิ่งมีชีวิตตัวเล็กน่ารักเสมอ…..
“โอ้ย...ทำไงดี รู้สึกเหมือนตกหลุมรักไปแล้ว~ น่ารักอะไรแบบนี้.....มาอยู่กับฉันนะ”
แล้วผมก็ตัดสินใจเปิดประตูพาเจ้าตัวเล็กเข้าห้อง โดยไม่ลืมเตะหลักฐานลังกล่องกระดาษนั่นเข้าห้องไปด้วย
“อ่ะ....”
มีกระดาษโน้ตแผ่นเล็กกระเด็นออกมาจากกล่องด้วย โน้ตนั่นมีตัวหนังสือเขียนไว้แค่คำเดียว ว่า ‘ยูยะเซบ้า’
“ยูยะเซบ้า.....ชื่อนายเหรอ?” ผมก้มลงถามเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด
“เซบ้า~”
......ใจคอจะร้องเป็นอยู่คำเดียวใช่มั้ยเนี่ย..... แต่มันก็ทำหน้าร่าเริง เหมือนกำลังดีใจที่ถูกเรียกชื่อ... งั้นก็คงเป็นชื่อของเจ้านี่แหละนะ
“คงใช่ล่ะนะ งั้นฉันจะเรียกนายว่าเซบ้าจังนะ”
“เซบ้า~”
นับจากวินาทีที่พาเจ้าตัวเล็กสีฟ้าเข้ามาในห้อง มันก็เหมือนว่าจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมแล้วเรียบร้อย ....ผมเห่อมันยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด....มันทั้งน่ารัก ขี้อ้อน แต่ก็เชื่อฟัง แถมยังชอบแช่น้ำเป็นที่สุด .....
ถามว่าผมรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ..ก็เพราะว่าผมจับเจ้าตัวเล็กแช่น้ำในอ่างใบเล็กแล้ววางไว้ในซิงค์ล้างจานในระหว่างที่ผมผละออกไปเตรียมทำอาหารเย็น......เห็นว่าเจ้านั่นตีขาลอยไปลอยมาลั้ลลาอยู่ในน้ำด้วยห่วงยางสีแดงอันเป็นพร็อบที่ติดมากับตัวมันนั่นแหละ
แต่ชะล่าใจได้ไม่เท่าไหร่ หางตาผมก็เห็นเจ้านั่นปีนขึ้นมาเดินดุ้กดิ้กๆอยู่ขอบซิงค์ แล้วก็พลาดท่าไหลตกลงไปในซิงค์ล้างจาน พอพยายามที่จะปีนขึ้นมาใหม่ ก็ดันไปเปิดโดนคันโยกก๊อกเข้าซะได้......เลยโดนมวลน้ำจำนวนมากกระแทกเข้าโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้ย เซบ้า!!” ผมรีบรุดมาหิ้วเจ้าตัวสีฟ้าออกมาวางไว้บนผ้า เจ้านั่นนั่งตัวสั่นงันงก แถมด้วยฮัดชิ้วเป็นเสียงเล็กๆฟังดูน่ารักน่าเอ็นดูเกินกว่าจะว่ากล่าว
......ถึงจะชอบน้ำแค่ไหน แต่เจอแบบนี้เข้าไปก็ต้องสำลักเป็นธรรมดา สินะ.....
“สำลักเลยสิ สมน้ำหน้าดีมั้ยเนี่ย.....อย่าซนสิ”
ถึงวาจาจะใจร้ายไปอยู่บ้าง แต่ผมก็เอาผ้าผืนขนหนูผืนเล็กที่ลงทุนตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้เป็นสมบัติของเซบ้ามาคลุมแล้วเช็ดตัวให้เบาๆ
เจ้านั่นทำหน้าหงอย ยินยอมแต่โดยดีไม่มีปากมีเสียง ...หรือว่าอาจจะช็อกจากการโดนน้ำราดใส่ก็เป็นได้
“อ่ะ กินนี่สิ”
ผมเห็นแล้วก็อดเอ็นดูมันไม่ได้อีกนั่นแหละ เลยไปหยิบเอาคุกกี้มาหักเป็นชิ้นเล็กๆให้เป็นการปลอบขวัญ….เจ้านั่นน่ะเห็นขนมทีไรล่ะก็ยิ้มร่าเริงได้ทุกทีแหละ ......
.
.
“เซบัาจัง อาบน้ำกันเถอะ”
“เซบ้า~”
......ไม่รู้ว่าเจ้านั่นเข้าใจหรือเปล่า แต่แค่ได้ยิ่งว่าเล่นน้ำหรืออาบน้ำ มันก็ทำหน้าระริกระรี้นำมาก่อนแล้วล่ะ......
ผมก้าวเท้าลงไปนั่งแช่ในโอฟุโระร่วมกับเจ้าเซบ้าที่ตีขาลอยไปลอยมาเล่นกับเป็ดของเล่นตัวสีเหลืองสองสามตัวอยู่ก่อนหน้าแล้ว
“เอ๋...เซบ้าจังพุงป่องขึ้นล่ะ เมื่อกี้กินมากไปล่ะสิ...แถมกินแต่เนื้อด้วยสิ ฮิฮิ”
“อ้ะ หย๋าๆๆๆๆๆ”
...เจ้านั่นยกมือขึ้นปิดหน้าที่ระเรื่อแดงขึ้นมา แล้วก็พยายามตีขารัวๆลอยหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้.... มันก็น่าขำอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
“ฮ่าๆๆ แค่นี้ทำเป็นเขินด้วยอ่ะ เอ้าๆๆ ไม่ต้องมุดน้ำแบบนั้น ตูดโด่งหมดละ ก้นก็ใหญ่..น่าตีชะมัด”
“อ๊า~”
.....เจ้าเซบ้านี่มันน่ารักน่าฟัดชะมัด .....แถมแกล้งก็สนุก......
......ผมไม่เคยรู้สึกมีความสุขจนลืมเวลาแบบนี้มาก่อนเลย .....
.
.
พอตกดึก ....เข้าใกล้เที่ยงคืนมากเท่าไหร่
เซบ้าจังที่นอนซุกอยู่บนอกผมเกิดตัวร้อนราวกับไฟ อาการเหมือนคนไม่สบายเป็นไข้ขึ้นมาซะเฉยๆ
เอาอะไรให้กินก็ไม่ยอมกิน ...เจ้านั่นส่ายหน้าหนีไม่อยากอาหารทั้งๆที่เมื่อเย็นออกจะสวาปามราวกับของชอบแท้ๆ
...... ผมเดินพล่านไปมาอยู่ในห้องอย่างคนคิดไม่ตก โดยที่เจ้านั่นนอนหายใจรวยรินหน้าแดงแจ๋ตัวร้อนจี๋อยู่บนเตียง.....
......ความคิดนึงที่แวบขึ้นมาคือพามันไปส่งโรงพยาบาล .....แต่คิดไปคิดมาแล้วก็ไม่รู้จะบอกคุณหมอว่ามันคือตัวอะไรดี ....แถมยังไม่รู้ที่มาที่ไปที่แท้จริงอีกด้วย ....เกรงว่าแทนที่จะได้รักษา อาจจะโดนจับเข้าห้องทดลองแทนก็เป็นได้
......แบบนั้นไม่ดีแน่ๆล่ะ.....
...ผมเองก็ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงมาก่อน เพราะรู้สึกว่ามันเป็นภาระที่ต้องแบกความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ได้ประโยชน์อันใด ....ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มันหายตัวร้อน แล้วกลับมาน่ารักร่าเริงตามเดิมสักที.....
....นอกจากอ้อมกอดอุ่นๆแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรให้เจ้านั่นได้อีก.....
สุดท้ายก็เผลอหลับไปจนได้ แล้วพอสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองกำลังนอนกอดกับผู้ชายตัวโตคนหนึ่ง .....เป็นคนที่ผมไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย แต่กลับให้ความรู้สึกคุ้นเคย
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอตั้งสติได้ผมก็รีบกระถดตัวหนีห่างออกมาให้ไกลสุดขอบเตียง ....จ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตาด้วยความหวาดระแวง
“นะ...นายเป็นใครน่ะ”
ร่างใหญ่ที่มีผมสีน้ำตาลอ่อน และผิวสีน้ำผึ้งค่อยๆกระพริบตาเปิดขึ้นมาอย่างช้าๆ หน้าตาง่วงงุน...ใบหน้าแดงก่ำราวกับคนไม่สบาย เป็นไข้ตัวร้อน
.....เอ้ะ!! เป็นไข้ตัวร้อน.....
........เซบ้าจัง~!!!!!!........
“เซบ้าจัง...........................หายไปไหน”
.......จำได้ว่าก่อนที่จะหลับไป เขายังกอดเซบ้าจังเอาไว้อยู่เลย .....แล้วทำไม.....
......ไม่เอาน่า..อย่าบอกนะว่า.....
“นายชื่ออะไร”
.....ผมจ้องตาอีกฝ่ายอย่างจริงจัง......
.....พอดูชัดๆแล้วหมอนี่หน้าตาหล่อร้ายในแบบที่สาวๆชอบกันนักเชียวล่ะ.....
......ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าตัวจิ๋วสีฟ้าหน้าโง่ๆนี่มันจะหล่อได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ.......
“ยูยะ....”
.....เสียงของผู้ชายคนนี้ทุ้มและนุ่มลึกกว่า ต่างจากเสียงแจ๋วๆที่ร้องได้แต่คำว่า เซบ้า~ เซบ้า~ ได้ทั้งวันค่ำคืนหุ้ง .....
.....ทั้งที่หน้าตาออกไปในทางวายร้ายแท้ๆ หากแต่สิ่งที่ผู้ชายคนนี้มีเหมือนกันกับเซบ้าจังคือแววตา........
........เหมือนกันเลย.....
.....นัยน์ตาใสที่ดูบริสุทธิ์......
“เซบ้าจังใช่มั้ย...”
“อืม”
“นายยังไม่ตาย....โฮ~”
ผมดีใจ..... ที่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่มีความสำคัญมากกับผมยังมีชีวิตอยู่....ก็เลยโผเข้าไปกอดร่างใหญ่อย่างลืมตัว และจากขนาดตัวของยูยะที่ใหญ่โตกว่าเยอะเลยกลายเป็นว่าผมหายเข้าไปในอกอุ่นนั่นซะแทน
“จริงสิ...นายไม่สบายอยู่นี่นา เฮ้ย!! นายไม่ได้ใส่เสื้อผ้า”
สายตาที่เลื่อนลงต่ำโฟกัสเข้ากับบางสิ่งที่ทำให้ต้องสะดุ้งแล้วรีบผละตัวออกจากกอดนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้าผ้าห่มโยนไปปกปิดของสงวนที่กำลังเปิดเผยอย่างสง่า ..... ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้อยากเห็นของคนอื่นไปเรื่อยนะ!
“ฉันดีขึ้นแล้ว”
“ก็...เมื่อกี้นายตัวร้อน”
“หายแล้ว เชื่อสิ....วัดไข้ดูก็ได้”
ผมลองใช้หลังมือแตะเข้ากับหน้าผากของยูยะแล้วมาเทียบกับของผม
.....อืม ไข้ลดแล้วจริงๆด้วย ...เป็นไปได้ยังไงกัน?....
“แตะแค่นั้นจะไปรู้ได้ยังไง มานี่สิ”
“เฮ้ย~!”
.....ผมถูกยูยะกระชากตัวเข้าไปใกล้ซะจนชิด....และบังคับโน้มหน้ามาสัมผัสไอร้อนที่หน้าผากของกันและกัน......
.....แต่ด้วยระยะห่างที่ใกล้กันถึงขนาดนี้ ทั้งโครงหน้าได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากอิ่มที่คลอเคลียอยู่ในระยะน่าลิ้มลอง ......ไม่ยากเลยที่จะเผลอไผลไปกับอารมณ์ชั่ววูบที่คิดอยากจะสัมผัสอีกฝ่ายให้มากกว่านี้....
......อย่างที่ผมกำลังเป็นอยู่.......
........ผมจูบกับยูยะ........
สัมผัสของยูยะอุ่น....หวานจนแทบหลอมละลาย
....... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ......
กายกำยำที่เปลือยเปล่าของยูยะพลิกตัวขึ้นคร่อมอยู่เหนือร่างผม
....... แต่ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งรู้สึกถลำลึกเข้าไปทุกที .......
“ไดกิ......”
นัยน์ตาสีน้ำผึ้งไหม้ที่มีแต่ใบหน้าของผมสะท้อนอยู่ในนั้น
.......ทำไมในแววตาของยูยะถึงแสดงออกมาว่ารักมากมายได้ขนาดนั้น......
“....เป็นของฉันนะ”
“ยูยะ”
...... ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว .........
.
.
“นี่ยูยะ ถามหน่อยสิ.... นายเป็นใครกันแน่หรือ”
....ผมที่เปลือยเปล่าได้แต่เบียดซุกเข้าหาไออุ่นจากร่างใหญ่ที่โอบกอดเขาไว้ทั้งตัว .....ถามไปมือก็ซุกซนลูบไล้เล่นไปบนแผงอกสมส่วนนั้นอย่างหมันเขี้ยว....
“มาถามเอาตอนนี้น่ะนะ”
.....ยูยะอาจจะหมายถึง ..ทำไมเขาถึงเพิ่งจะคิดมาถามเอาตอนที่อะไรๆมันเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วละมั้ง....
“ก็ฉันอยากรู้นี่”
.......ถ้าคิดว่าตัวเองตอนที่เป็นเซบ้าจังตัวจิ๋วจะอ้อนได้คนเดียวล่ะก็ ...คิดใหม่ได้นะยูยะ .....
“ยูยะ...ก็คือเซบ้าจังของนายไง”
“แล้วทำไมถึงกลายมาเป็นสภาพนี้ได้ล่ะ”
“....พระจันทร์น่ะ”
“หา...อ่ะ..พระจันทร์เต็มดวงนี่นา....หรือหมายความว่านายจะกลายร่างเป็นมนุษย์ทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวงน่ะหรือ”
“...ก็ประมาณนั้น”
“แล้วที่ตัวร้อนก็เพราะกำลังจะกลายร่างใช่มั้ย”
“...คงงั้น”
“แล้วถ้าพ้นคืนพระจันทร์เต็มดวงไปแล้ว นายจะกลับมาเป็นเซบ้าจังใช่มั้ย”
“ใช่...”
“เฮ้อ..ค่อยยังชั่วหน่อย”
“เป็นฉันแล้วมันแย่มากเลยเหรอ”
....ยูยะเสียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ....ดูท่าว่าผมจะเผลอทำร้ายจิตใจเข้าเสียแล้วล่ะ....
“ก็...เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น”
“นายรักแต่เซบ้าจัง...”
“ไม่ใช่สักหน่อย...ฉันแค่ยังไม่ชินกับ...ร่างนี้ของนายน่ะ”
“.........”
“ไม่ว่าจะอยู่ในร่างไหน ข้างในนี้ก็คือนายไม่ใช่หรือยูยะ...นายเป็นคนสำคัญของฉันทั้งคู่นะ”
“นายก็สำคัญที่สุดสำหรับฉันเหมือนกันนะไดกิ”
........ให้ตาย... ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยใจสั่นหวั่นไหวกับใครได้มากเท่านี้เท่าก่อนเลย......
.......นายเป็นคนแรกนะยูยะ......
.......ผมกับยูยะ ......
.......เราจูบกัน.......
ในเมื่อผมจะมีโอกาสเจอกับยูยะในร่างนี้อีกก็ต่อเมื่อวันที่พระจันทร์เต็มดวง ...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน
ผมจึงขยับไปกระซิบข้างหูยูยะเบาๆ
“อีกรอบกันเถอะยูยะ”
THE END
I-PrA Talk : จริงๆแล้วฟิกสั้นเรื่องนี้ลงในบล็อกตั้งแต่ฮาโลวีนปีที่แล้ว แต่ลืมลงที่นี่ แหะๆ
ก็ลงไว้เผื่อๆคนที่ยังไม่ได้อ่านแล้วกันค่า~ เอนจอยรีดดิ้ง
ผลงานอื่นๆ ของ I-PrA ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ I-PrA
ความคิดเห็น