คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ครั้งสุดท้าย & ตอนที่ 10 หนทางสู่อนาคต
“มีย่าเธอทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ”
“ใช่เราเคยเป็นเพื่อนรักกันนะ”
“เรื่องนั้นฉันไม่ได้รับรู้ไปด้วย ฉันอยู่ในร่างนี้เท่านั้น แต่ไม่ได้รับความรู้สึกของร่างนี้เลย”
“มีย่า ตื่นเหอะ พวกเรากลับมาเป็นเพื่อนกันอย่างเดิมเถอะนะ”
“ฮึ กลับมาเป็นอย่างเดิมงั้นเหรอ..........กลับไปเป็นมีย่าที่แสนอ่อนแอนั้นแล้วมันจะได้อะไรล่ะ”
แล้วมีย่าก็ใช้ดาบของตนเองเข้ามาทำร้ายฉัน
“อ๊ะ”
ฉันยกคันธนูขึ้นตั้งรับดาบ
“กลับไปเป็นมีย่าที่แสนอ่อนแอให้คนอื่นกดขี่ดูถูกและข่มเหงแล้วมันจะได้อะไรล่ะ สู้เป็นฮาซาเนะอะริอย่างนี้จะดีกว่าตั้งเยอะ”
“แต่เธอไม่ใช่ฮาซาเนะอะรินะ เธอเป็นมีย่าเป็นเพื่อนของพวกเรา”
“ใช่มีย่าเธอเป็นเพื่อนของเรานะ”
“คำว่าเพื่อนมีความหมายอะไรนอกจากทำให้ฉันเจ็บปวด บอกว่ามาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ พอรู้เรื่องจริงว่าฉันไม่ได้กำเนิดมาจากเผ่าราเนียแต่เป็นโรซาก็หนีออกจากฉันและทำท่าทางขยะแขยงกันทั้งนั้น”
มีย่าทำท่าทางจะร้องไห้
“แต่พวกเราไม่ใช่ เธอก็รู้ว่าฉันก็กำเนิดมาจากที่เดียวกับเธอ”
“พวกเธอกำเนิดมาจากที่เดียวเหมือนกันกับฉันก็จริง แต่สำหรับเธอยังมีคนคอยดูแลเอาใจใส่ เป็นคนสำคัญแต่ฉันต้องดิ้นร้นกว่าจะมาถึงจุดนี้”
แล้วมีย่าก็ตวัดดาบมาโดนที่เราสองคนจนล้มลงไปเพราะความเจ็บ แล้วมีย่าก็ก้าวย่างสุขุมเข้ามาแล้วทำท่าจะทำร้ายฉันและริว
“เธอต้องดิ้นร้นฉันก็ต้องดิ้นร้นเหมือนกันมีย่า”
ริวตะโกนขึ้นมาทำให้มีย่าชะงักนิดนึง
“ผม ๆ ต้องหาทางที่จะทำตัวเองให้มีพลัง ต้องทำตังแข็งแกร่งถึงแม้ว่าการดิ้นร้นของเรามันต่างกันแต่ฉันก็เข้าใจว่าการดิ้นร้นของเราสองคนเหมือนกัน มีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการเป็นที่สนใจและเป็นที่รักของคนที่เรารัก แต่ไม่ใช่ว่าเรียกร้องด้วยความรุนแรงแบบนี้นะมีย่า.......กลับมาเป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใสในแบบของมีย่าเถอะ”
ริวยื่นมืออกไปเพื่อให้มีย่าคิดได้และมีย่าก็หยุดชะงักไปอีกชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะยื่นมือมาทางพวกเราและพูดขึ้นว่า
“ฉันจะกลับไปเป็นมีย่า.....”
คำพูดนั้นทำให้พวกเรายิ้มออก
“แต่หลังจากที่ฉันได้ฆ่าพวกเธอนะ”
แล้วมีย่าก็กวัดดาบไปทางมือของริวจนมีเลือดออก
“ริว.!!!!!!!!!!!!!!!!”
“ฉันไม่ได้ทำนะมาเรีย”
มีย่าบอกทั้ง ๆ ที่สายตาของมีย่ากำลังตกตะลึงนั้น ร่างกายของเธอก็ขยับเองโดยที่มีย่าไม่ได้สั่ง
“ช่วยฉันด้วยมาเรีย ทำยังไงดีล่ะ”
“เป็นไปได้ยังไงกัน”
แล้วอยู่ก็มีกระแสจิตของใครบางคนส่งมาถึงฉัน
“คนที่อยู่ในร่างมีย่าและกำลังควบคุมมีย่านั้นคือฮาซาเนะอะริ ลูกน้องของเมดูไวลิ”
“คุณเป็นใครแล้วรู้ได้ยังไง”
ฉันตะโกนถามกลับไปทั้ง ๆ ทีกำลังหลบมีย่าอยู่
“เธอไม่ต้องถามอะไร ฟังฉันปลุกริวขึ้นมาแล้วท่องมนต์โอราเวล่า”
“ฉันท่องไม่ได้ ฉันไม่รู้จักมัน”
“ก็มนต์อาราซิที่เธอเคยใช้ท่องเพื่อปกป้องแม่ของเธอไง”
แล้วกระแสจิตนั้นก็หายไป
“ริว มานี้”
“มีอะไร”
“เราจะช่วยมีย่ากันเราต้องไล่วิญญาณของฮาซาเนะอะริกัน”
“แล้วจะไล่ยังไงล่ะ”
“ท่องมนต์ตามฉันนะ แต่ฉันว่านายรู้จักมนต์นี้ถ้ารู้จักก็ช่วยท่องด้วย”
“ได้”
แล้วเราก็เริ่มท่องมนต์โอราเวล่าซึ่งต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่มีย่าจะสงบ แล้วก็ควันสีดำออกมาจากร่างของเธอแล้วหายไปในโรงยิม
“มีย่า เธอเป็นไงบ้างนะ”
“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ”
“อ้าก !!!!!”
มีเสียงร้องออกมาจากในโรงยิม
“เรารีบเข้าไปดูกันเถอะ”
แล้วพวกเราก็วิ่งเข้าไปดูในโรงยิมสิ่งที่เห็นนั้นก็คือ พวกคุณแม่กำลังเสียท่าให้กับเมดูไวลิ
“ทำไงดีล่ะมาเรีย”
มีย่าถามฉัน
“ฮึ้ย เป็นไงเป็นกันฉันต้องปกป้องทุกคนให้ได้”
แล้วฉันก็ยกคันธนูขึ้นยิงลูกศรไปที่เมดูไวลิอย่างไม่ไว้มือและแล้วลูกศรลูกหนึ่งก็ไปถูกแขนข้างขวาของเมดูไวลิ
“ริวไปดูพวกคุณแม่ก่อนทางนี้ฉันจะรับมือเอง”
“ได้”
“นายทำแม่ฉันนายไม่ได้ตายดีแน่เมดูไวลิ”
“อย่างเธอจะทำอะไรฉันได้ ขนาดพ่อแม่เธอยังทำอะไรฉันไม่ได้เลยแล้วเธอคนเดียวจะทำอะไรได้”
“ถึงแม้ว่านายจะเห็นว่าฉันมีอยู่ตัวคนเดียวความจริงแล้วฉันได้รับพลังที่แข็งแกร่งจากจิตใจของคนทุกคนที่ต้องการที่จะสังหารนาย ถึงแม้ว่าพลังในตัวฉันจะมีไม่มากพอที่จะสู้กับนายได้แต่พลังที่อยู่ในใจที่ต้องการจะสังหารนายมันจะเป็นตัวเพิ่มพลังให้กับฉันเอง”
“งั้นมาลองดูสิ”
แล้วฉันกับเมดูไวลิก็ต่อสู้กันโดยที่ไม่มีใครเพลี่ยงพล่ำให้แก่ใคร
“มาเรีย !!!!!!”
เสียงของใครสักคนที่ฉันได้ยินทำให้ฉันต้องหันไปที่ต้นเสียง
“คุณชินชิ”
“ด้วยอำนาจของ ฉัน พลังแห่งความมืดจงช่วยเกื้อหนุนมาเรีย”
และแล้วความมืดก็เข้าปกคลุมบริเวณนี้ และแล้วฉันก็ได้รู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่
“เมดูไวลิถึงวันตายของนายแล้ว”
แล้วฉันก็หยิบลูกธนูหนึ่งดอกเล็งไปที่หัวใจของเมดูไวลิ ฟิ้ว ฉึก
“สำเร็จแล้ว”
ลูกธนูเข้าเป้าอย่างจัง
“ชนะแล้ว พวกเราชนะแล้ว”
ริวร้องตะโกนอย่างดีใจ ตุ้บ !!!!!
“คุณชินชิ”
“แฮ่ก !!! เก่งมากลูกรัก”
แล้วคุณชินชิก็สลบไป
“ทำไงดีล่ะค่ะทุกคน”
“มานี่ เดี๋ยวน้าช่วยเอง”
แล้วคุณน้าโมอาร์ก็ร่ายเวทย์มนต์บางอยางใส่คุณชินชิ
“เป็นไงมั้งชินชิ”
“ไม่เป็นไรมากแค่เหนื่อย”
“คงต้องเป็นอย่างนั้นเพราะ เธอเล่นใช้พลังเรียกความมืดมานี่น่า แต่มันก็ทำให้เราได้โลกของเรากลับคืนมานะ”
แล้วคุณน้าโมอาร์ก็หันไปทางนอกโรงเรียน
สิ่งที่เห็นคือรอยยิ้มที่สดใสของทุกคนความสดใส ความสุขที่สัมผัสได้
.........................................................................................................................................................................................
ตอนที่ 10 หนทางสู่อนาคต (ขอโทษนะครับดันกดปิดเรื่องไปก่อน อภัยจริงๆ >/\<)
อีกหลายวันต่อมา
“รีบไปเถอะ ทุกคนรอเราอยู่”
ทุกคนก็ออกเดินทางไปที่ป่าไอซ์หรดี
“มาทำไมกันค่ะ”
“พวกเราต้องกลับไปยังเผ่าของพวกเราแล้ว”
“แล้วผมล่ะครับคุณแม่”
“อยู่ที่นี้ล่ะดีแล้ว”
“ทำไมล่ะครับ”
“อยู่กับคนที่ลูกรักไง”
แล้วน้าโมอาร์ก็หันมาทางฉัน
“น้าฝากริวด้วยนะ”
แล้วน้าโมอาร์ก็หายไปในประตูมิติ
“คุณชินชิ จะไปแล้วเหรอค่ะ”
“ใช่ฉันอยู่ที่นี้ไม่ได้ มาเรีย จำไว้นะไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน พ่อจะอยู่กับลูกเสมอ แต่ถ้าคิดถึงให้เรียกพ่อนะไม่ต้องทะลุประตูนี่มาหาพ่อเหมือนตอนเด็ก ๆ นะ”
“เอ๊ะ ตอนเด็ก ๆ”
“สงสัยจะจำไม่ได้แล้วมั้งค่ะคุณ”
“ใช่ ก็ตอน 5 ขวบ แม่พาลูกมาที่นี้แล้วอยู่ลูกก็ซนมาที่เผ่าพันธุ์ที่พ่ออยู่ตอนนั้นนะพ่อตกใจใหญ่เลย เอาล่ะได้เวลาแล้วไปก่อนนะ แล้วจะได้พบกันใหม่มาเรีย”
“ค่ะ คุณพ่อ”
“แล้วทุกคนก็ออกเดินทางไปยังเผ่าพันธุ์ของตนเอง”
“แม่ไปทำอาหารคอยนะ”
แล้วแม่ก็เดินไป
“มาเรีย ฉันมีเรื่องจะบอก”
“อึก อะ....อะไรเหรอริว”
“คะ...คือ ว่าฉันระ..ระ....”
“ริว มาเรีย มาอยู่ที่นี้นะเอง”
เสียงตะโกนของมีย่าดังมาพร้อมกับเพื่อนอีก 5-6 คน
“เอ๊ะ ทำไมมาอยู่ที่นี้กันสองคนล่ะ”
“ปะ.....เปล่า เปล่า”
“งั้นเหรอ”
“เออ มีย่าแล้วทำไมพาคนพวกนี้มาล่ะ”
คนพวกนี้ที่ฉันพูดถึงคือคนที่เคยดูถูกฉัน
“คือพวกเราจะมาขอโทษเธอทีทำไม่ดีกับเธอ แต่เธอก็ยังช่วยพวกเราขอโทษนะ แล้วก็ขอบคุณด้วย ตั้งแต่นี้ไปเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ”
“ไม่เป็นไรหรอกฉันไม่ถือ แต่ฉันก็ขอบคุณพวกเธอเหมือนกันนะ”
“ระ...เรื่องอะไรล่ะ”
“เรื่องที่เธอทำไม่ดีกับฉันนั้นแหละ”
“ขอบคุณทำไมเธอเพี้ยนรึเปล่า”
“ไม่ใช่เพี้ยน แต่ที่พวกเธอทำ มันทำให้ฉันรู้สึกว่ามีตัวตนนะ”
“งั้นเหรอ”
“งั้นมาจัดปาร์ตี้กันเถอะ”
แล้วมีย่าก็พาพวกเขาออกไป แล้วจู่ ๆ ก็หันมากระพริบตาใส่เรา
“เฮ้อ หมดตัวกวนแล้ว”
“นายมีอะไรริว”
“คือฉันจะบอกว่า ฉันรักเธอ”
“กึก ///// ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“นานพอดู”
“ถ้าฉันบอกว่าไม่.....”
“ก็ไม่เป็นไร ฉันรับได้”
“ไม่......ไม่ปฏิเสธ”
แล้วริวก็อุ้มฉันหมุนไปทั่วเลย
“ริว ปล่อยฉันลงนะ ฉันเวียนหัว”
“ไม่เอา ฉันจะจับเธอแบบนี้แหละ เธอจะได้ไม่หนีไปจากฉันอีก”
“ถ้านายไม่ปล่อยฉันนายโดนดีแน่”
แล้วฉันก็ง้างคันธนูเตรียมยิง
“ครับ”
แล้วริวก็ปล่อยฉันลงมา
“ขอบใจนะที่ยังเป็นเพื่อนกับฉันเสมอ”
แล้วริวก็เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ๆ กับฉันลมหายใจอุ่น ๆ อยู่ใกล้กับปลาบจมูกขึ้นทุกที แล้วริมฝีปากเราก็ประกบเป็นเวลาที่เนิ่นนานและลึกซึ้ง เหมือนกันกับว่าทุกสิ่งจะหยุดอยู่เพียงตรงนี้หลังจากนั้นริวก็ถอนริมฝีปากออกไปและอุ้มฉันขึ้นอีกรอบแล้วพูดขึ้นว่า
“แต่งงานกันเถอะ”
แล้วริวก็อุ้มฉันวิ่งออกไปจากตรงนั้น
“อีตาบ้า”
แล้วฉันก็ยอมให้ริวอุ้มไป ภาพที่มองจากที่ตรงนี้สวยที่สุด และไม่มีภาพใดที่จะสวยไปกว่าภาพที่เราได้เห็นกับคนที่เรารักอีกแล้ว
บทส่งท้าย
วันต่อมา
“อรุณสวัส มีย่า”
“จ้ะ เมื่อวานทำอะไรกันกับริวนะ”
“เปล่า”
“ขึ้นเสียงสูงแปลว่าโกหก”
“เปล่าจริง”
“จริงเหรอเมื่อวานฉันเห็นหมดเลยนะ”
“มีย่า !!!!”
“หนีก่อนดีกว่าเดี๋ยวเจ้าบ่าวของมาเรียจะโกธร”
แล้วมีย่าก็วิ่งไปชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่ง โครม
“โอ๊ย !!!!”
“เจ็บมากไหมครับ”
“แล้วคิดว่าเจ็บไหมล่ะ”
“ผมขอโทษจริงครับ”
แล้วมีย่าก็เงยหน้ามองขึ้นไปเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่ถูกใจเธออย่างจัง
“ขอโทษครับ เราเคยพบกันมาก่อนรึเปล่า”
“อาจจะนะค่ะ อาจเป็นพรหมลิขิตก็ได้”
“แหม คิดเหมือนผมเลยนะครับ”
แล้วทั้งสองคนก็เดินไปด้วยกันโดยไม่หันมามองฉันเลย
“เห็นฉันเป็นอะไรกันเนี่ย ฉันไม่ได้เป็นหัวหลักหัวตอนะ สงสัยเพื่อนฉันจะได้สละโสดแล้วซิ”
“งั้นมั้ง คร้าบ”
“ริวทำไมมาอยู่นี่”
“สงสัยมีย่าจะถูกใจ มิกซ์”
“ใครกัน”
“ก็คนเมื่อกี้นี้ไงเขาเป็นเพื่อนที่เผ่าราเนียนะ เขาอยากมาเที่ยวที่นี้สักสองสามวัน แต่ดูท่าจะได้อยู่ระยะยาวแล้วล่ะ”
“สงสัยจะได้เพิ่มอีกคู่แล้ว”
“ใช่ จะได้จัดงานแต่งพร้อมกันเลย มาเรียกับริว มีย่ากับมิกซ์ สมกันดีออก”
“ใครจะแต่งกับนาย”
แล้วฉันก็วิ่งไล่เตะนายนี่ไปเหมือนทุก ๆ เช้า แต่สำหรับเช้าวันนี้มันสดใสกว่าทุกวันเพราะมันเป็นวันที่พึ่งผ่านจากเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมา มันทำให้ฉันได้พบกับสิ่งดี ๆ สิ่งใหม่ ดังคำกล่าวว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ คงเป็นจริงสำหรับฉัน
(Happy end จบลงอย่างสวยงาม) ^V^1.2.3 Love
ความคิดเห็น