ผลึกแห่ง อิคาราส

ลำดับตอนที่ #2 : ผลึกแห่งอิคาลาส.. ตอนที่ 2 - เธอเป็นใครกันแน่?

  

อื้ดดดดดดด เสียงบานประตูเลื่อนออกอย่างอัตโนมัติ

หญิงสาวที่ถูกพันธนาการเงยหน้าขึ้นมอง กลุ่มคนที่เดินเข้ามาจากประตูเลื่อนตรงหน้าของเธอ

“เธอเป็นใครกันแน่” สาวแว่นยิงคำถามใส่ สาวน้อยที่ถูกพันธนาการ

“ปล่อยฉันออกไป” เธอตอบแบบไม่ตรงคำถาม

“ชั้นต้องการรู้เกี่ยวกับเจ้าสิ่งนี้” สาวแว่นพูดพลางหยิบหลอดแค๊ปซูนที่ข้างในบรรจุวัตถุบางอย่าง คล้ายเศษอัญมณีเปล่งแสง “เธอเรียกมันว่าอะไรนะ ผลึกแห่ง อิคาราสสินะ”

“ทำไมมันถึงมาอยู่กับเธอ” หญิงสาวถามกลับ

“โอ๊ะ โอ๋ เหมือนเธอจะลืมอะไรไปอย่างนึงนะ ว่าฉันกำลังถามคำถามเธออยู่” สาวแว่นตอบกลับด้วยสีหน้ากวนตีนเล็กน้อย

สาวแว่นเดินเข้าไปตรงหน้าของสาวน้อย และจ้องหน้าด้วยสายตาเชือดเฉือน

“จะไม่บอกจริงๆสินะ งั้นชั้นจะตอบคำถามของเธอให้ก่อนก็แล้วกัน เมื่อ 20 ปีก่อน อดีตหัวหน้าทีมวิจัยของฉัน ได้ค้นพบเจ้าสิ่งนี้ที่โรงเรียนแห่งนี้ จากนั้นทางโรงเรียนของชั้นก็ได้ทำการวิจัยเจ้าสิ่งนี้กันเองโดยปิดข่าวไม่ให้บุคคลภายนอกรับรู้ เพราะ ฮึฮึ คงเหตุผลทางการเมืองงี่เง่านั่นแหละ ใช่ หัวหน้าทีมวิจัยของพวกเราได้ค้นพบพลังงานมากมายที่เอ่อล้นออกมาจากเจ้าสิ่งนี้ ด้วยปริมาณเพียงเศษเสี้ยว แต่พลังงานของมันเทียบเท่า ไม่สิ มากกว่าโรงพลังงานนิวเคลียร์ซะอีก โรงเรียนของเราก็เลยได้ทุ้มทุนเพื่อวิจัยมันมาอย่างต่อเนื่อง สืบต่อกันเป็นรุ่นต่อรุ่น ที่ห้องทดลองใต้ดินนี่ ก็สร้างมาเพื่อวิจัยเจ้านี่ นี่แหละ นี่คือเหตุผลที่มันมาอยู่กับชั้น” สาวแว่นอธิบายแบบกระจ่าง!!?? เมื่ออธิบายจบหลังจากเดินไปอธิบายไปวนไปวนมา เธอก็กลับมาที่หน้าหญิงสาว และเอ่ยถาม

“และตกลงว่ามันคืออะไรล่ะ”

“ผลึกแห่งอิคาราส” หญิงสาวตอบกลับมาเพียง 6 คำ

“และมันคืออะไรเล่า ไอ้ผลึกแห่งอิคาราสที่ว่าเนี่ยะ” สาวแว่นเริ่มขึ้นเสียง

“มันคือปาฏิหาริย์แห่งเทพอิคาราส มันคือพลังที่คอยปกป้องและค้ำจุนอนาจักรลอสไอซิสของพวกเรา ซึ่งราชวงศ์ของชั้นเป็นผู้เก็บรักษามันเอาไว้”

“ลอสไอซิส? งั้นหรอ และไอ้ลอสไอซิสที่ว่านั่นมันที่ไหนล่ะ”

“ไม่ใช่ดาวดวงนี้หรอก”

“เธอจะบอกว่าเธอคือมนุษย์ต่างดาวสินะ”

“……” สาวน้อยนิ่งเงียบ

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆก็ทำให้พอจะเข้าใจแหละนะ เพราะจากการวิจัยเจ้าผลึกนี่มา เราทำได้เพียงแค่หาทางนำพลังงานมันออกมาใช้ ไม่สามารถที่จะสร้างมันขึ้นมา อย่างที่เราตั้งเป้าไว้ได้เลย ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า ส่วนประกอบของเจ้าผลึกนี่น่ะ ไม่ใช่ของที่มีบนโลกของเราสินะ” สาวแว่นพล่ามยาว

“และเธอคิดจะทำยังไงต่อไป” สาวแว่นถามต่อ

“….” แต่สาวน้อยไม่ยอมปริปากเสียแล้ว

ตี๊ดๆๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ ๆ เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น

“หัวหน้าฮิคารุคะ เราตรวจพบพลังงานบางอย่างกำลังมุ่งตรงมาที่นี่ค่ะ” อายะรายงานสถานการณ์

“ว่าไงนะ เกิดอะไรขึ้น”

“ก กล้องจับภาพได้แล้วค่ะ น นี่มัน”

“ดาวตกอีกแล้วหรอ เอ๊ะ ส สองดวง” ฮิคารุเริ่มหน้าถอดสีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

“รีบปล่อยฉันออกไปเร็วเข้า!!” สาวน้อยตะโกนขึ้นมา

“เอ๊ะ!!??”

“พวกมันตามมาแล้ว”

ตูมมมมมมมมมมมมมมม

เกิดเสียงระเบิดขึ้นดังก้อง ดาวตกทั้งสอง ตกลงมาทะลุพื้นสนามบาส และทะลุเข้ามาภายในชั้นใต้ดิน เกิดฝุ่นตลบอบอวนไปหมด หลังจากฝุ่นเริ่มจางลง เผยให้เห็นร่างชายสองคน มีชายร่างเล็กรูปร่างผมบางผมยาวถึงหลัง และชายร่างใหญ่ผิวคล้ำรูปร่างบึกบึน ยืนอยู่ตรงนั้น

“โอ้วววว มาไกลเหมือนกันนะเนี่ย เน๊ เซเบลอส มั่นใจนะว่าที่นี่” ชายร่างเล็กเอ่ยถาม

“ไม่ผิดแน่ เจ้าก้อนใหญ่ และยัยนั่นอยู่ที่นี่” ชายร่างใหญ่ตอบในขณะที่ในมือขวากำลังถือเครื่องมืออะไรบางอย่างขนาดพอๆกับโทรศัพท์มือถืออยู่

“พวกแกเป็นใครกัน” สาวแว่นหยิบปืนสั้นขึ้นมาชูใส่ชายทั้งสอง

“โอ๊ะโอ๋ ~ มีคนอื่นอยู่ด้วยแหะ ต้อนรับกันได้ห่วยแตกชะมัดเลย” ชายร่างเล็กยังคงพูดจากวนประสาท

“นั่นไง เราเจอยัยนั่นแล้ว” ชายร่างใหญ่พูดขณะที่ดวงตาจ้องไปยังสาวน้อย ที่หลุดจากพันธนาการแล้ว

ในทันใดนั้นเองเคียวอันเดิมก็ปรากฏขึ้นที่มือของสาวน้อย และพุ่งเข้าไปโจมตีชายร่างเล็กอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกดาบที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นมาจากมือของชายร่างเล็ก หยุดเอาไว้ได้

“โอ้ๆๆ แหมๆๆ นี่คิดจะต่อต้านไปอีกเท่าไหร่กันครับ” ชายร่างเล็กยังคงพูดด้วยท่าทางกวนประสาท และจากนั้นเค้าก็ทำหน้าโหดและพูดขึ้นว่า “สงสัยจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดซะแล้วซิ”

เช้ง ชิ้ง เช้งๆๆๆๆๆ

การต่อสู้ระหว่างสองคนจึงเริ่มต้นขึ้น เหล่าผู้คนในห้องใต้ดินต่างได้แต่หลบเฝ้าดูสถานการณ์ในที่ปลอดภัย

ชายร่างใหญ่ถือเครื่องมือประหลาดและเดินไปที่หน้าประตูห้องหนึ่ง และเอ่ยขึ้นมาว่า

“อีกก้อนนึงอยู่ในนี้สินะ”

จากนั้นก็เกิดแสงปรากฏขึ้นเหนือ มือของเค้า หลังจากแสงจางหายไป ก็มีขวานอันใหญ่เหมาะมือ โผล่ขึ้นมาบนมือของเค้า

“เอาล่ะ ฮึ๊บ” เค้าจามขวานลงที่ประตูอย่างรุนแรง จนประตูเปิดออก เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มที่ถูกมัดอยู่ และทำยังคงหน้าตามึนงงกับสถานการณ์เช่นเคย

“อ๊ะ  สวัสดีครับ” ชายหนุ่มพยายามยิ้มหวานให้ ชายร่างยักษ์ที่อาวุธครบมือ

ชายร่างยักษ์หยิบเครื่องมือประหลาดอันเดิมขึ้นมาดูอีกครั้ง และมองไปที่ชายหนุ่ม และพูดขึ้นว่า “อยู่กับแกสินะ”

ชายหนุ่ม ที่ยังคงมึนงงกับสถานการณ์ แต่ก็พอรู้ว่า ท่าทางไม่ดีแน่ เริ่มหน้าถอดสี เพราะชายร่างยักษ์กำลังเดินเข้ามาหาทีละก้าว

“คงต้องฆ่าสินะ” ชายร่างยักษ์เอ่ยขึ้น และชูขวานขึ้นเหนือหัว เตรียมฟาดฟัน อย่างเต็มแรง

“เห้ย ระวัง!!!” เสียงของชายหนุ่มผมยาวดังขึ้นเพื่อเตือนเพื่อนของเค้า แต่ไม่ทันซะแล้ว

ในจังหวะนั้นสาวน้อยก็พุ่งมาถีบชายร่างยักษ์จนกระเด็นจากด้านหลัง จนเค้าทำเครื่องมือประหลาดที่เค้าถืออยู่ตลอด หลุดมือไป

“โอ้ยย แกปล่อยมันหลุดมาได้ยังไงเนี่ยะ” ชายร่างยักษ์หันกลับไปตะคอกใส่เพื่อนของเค้า

“โทดที ยัยนี่มันร้ายกว่าที่คิด” ชายผมยาวตอบกลับมา

ในขณะ ที่ทั้งสองคนกำลังเถียงกัน สาวน้อยรีบตรงไปที่เครื่องมือประหลาด และทำลายมันทิ้งทันที

“ชิบ หาย ละ” ชายหนุ่มสองคนหน้าถอดสี

จากนั้นเธอจึงยกตัวชายหนุ่มขึ้นบ่า และบินพุ่งเข้าใส่ชายสองคนนั้นจนกระเด็นกันไปคนละทาง  

“โอ้ยยยยยย”

จากนั้นเธอจึงบินตรงไปยังรูที่ ทั้งสองคนนั้นได้เจาะเอาไว้ และบินขึ้นฟ้าไป