ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    >Prince O fKilller มหาสงครามเจ้าชายนักฆ่ากำมะลอ<

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่3[Chapter 3] มนุษย์ผู้ไร้เทพ

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 51


    บทที่3[Chapter 3] มนุษย์ผู้ไร้เทพ

     

    ไง เทพแสงเฟริส หวังว่าข้าคงได้รับข่าวดี เสียงชายวัยกลางคนพูดทักเทพหนุ่มหน้าสวย

     

    เขาเป็นชายวัยอย่างเข้าชรา มีริ้วรอยที่บ่งบอกว่าผ่านประสบการณ์ต่างๆมาอย่างดี ดูแล้วสมัยที่ยังหนุ่มกว่านี้(เรียกวัยละอ่อน)เขาจะเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาเอาการเลยที่เดียว

    ชายผู้นี้มีผมสีทอง ไว้เคราที่ตัดแต่งอย่างงดงาม ดวงตาสีฟ้าสดใสแต่แววตาดูเจ้าเล่ห์เพทุบาย ตอนนี้เขานั่งอยู่บนบันลังค์ทองเหลืองอร่าม งดงามกระจับตา เบื้องหน้าเขา เทพเฟริสกำลังคุกเขาข้างหนึ่งและเอามืออีกข้างพาดเข่าอีกข้างถือเป็นการเคารพสูงสุด ปีกสีขาวที่ปกติยาวเหยียดออกกว้าง บัดนี้กลายเป็นปีกค้างคาวสีดำสนิท แสงระยิบระยับออกมาจากปีกสีขาวตลอดเวลากลับกลายหายเป็นขี้เถ้าสีดำ ดวงหน้างดงามคล้ายสตรีกลายเป็นดวงหน้าคมสันหล่อเหลา ไม่ว่ามองมุมไหนก็คือบุรุษ ตอนนี้เทพแห่งแสงที่ชื่อเฟริสได้หายไปแล้ว เหลือเพียงชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำ ผิวขาวละเอียดดุจหิมะ ผมและตาสีดำไม่ต่างกับถ่าน ใบหน้าหล่อเหลาและที่สำคัญ ปีกค้างคาวสีดำที่ออกมาจากแผ่นหลังกว้าง!!!

     

    โอ้ คงจะเรียกเทพแห่งแสงไม่ได้สินะ ต้องเรียกว่าปีศาจเทพคิลราสินะ ชายชรากล่าวพลางกลั้วหัวเราะ

    แล้วเป็นอย่างไรบ้าง จัดการเรียบร้อยนะ ชายชราถามต่อ

     

    ไม่มีปัญหาด้านรัชทายาท และข้าได้กำจัดสวะเรียบร้อยแล้วคิลราตอบเสียงเยือกเย็น ตอนนี้เทพเฟริสและคิลราต่างกันราวสวรรค์กับนรก

     

    เยี่ยม ถ้าเจ้าทำงานนี้สำเร็จ เจ้าจะได้สิ่งที่เจ้าต้องการทุกอย่างตามสัญญา ชายชราพูดก่อนจะดีดนิ้ว 1 ครั้งเป็นการให้สัญญาณ

     

    พลันเทพปีศาจคิลราที่คุยกันเมื่อครู่กลายเป็นเทพแห่งแสงเฟริสอีกครั้ง ดวงตาสีทองประกายเจิดจรัสแฝงแววก้าวร้าว ลุกขึ้นหมายจะทำร้ายชายผู้นั่งบนบันลังค์แต่...

     

    นิ้วของชายชรากลับยาวยืดออกรัดคอของเทพเฟริส ดวงหน้าสวยแฝงแววอัดอันแต่ก็พยายามฝืนไว้ มือเรียวดึงนิ้วที่รัดคอตนออกแต่มันช่างแข็งแกร่งราวกับหิน

     

    เฟริส ถ้ายอมร่วมมือแต่แรกก็หมดเรื่อง

     

    ทำไมคิลราถึงกลายเป็นเฟริสไปได้ แล้วชายชรานี่คือใคร มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!!!

     

    ********************************

     

                    ด้านบนเหนือแดนมนุษย์ ดินแดนสีขาวที่ชาวโลกผู้ดับไปแล้วต้องการจะขึ้นมา ดินแดนแห่งความดีที่ทุกๆคนฝันถึงและอยากจะสัมผัสมัน ดินแดนที่มีแต่ความสุข ความดีและความรัก ที่ที่เรียกว่าสวรรค์

                    แดนแห่งเทพหรือที่ใครๆเรียกว่าสวรรค์เกิดจากพระเจ้าเกิดอยากจะแยกความดีออกจากความเลว ดังนั้น เขาจึงสร้าง 2 ดินแดนที่อยู่คนละภพ คือสวรรค์และนรก

                    สวรรค์ ที่กักเก็บความดี เป็นดินแดนสีขาวที่ใครๆก็ฝันถึง แม้แต่พวกความมืด สิ่งที่สวรรค์มีคือความสงบ สวรรค์มีหน้าที่กำหนดชะตาชีวิตของคนบนโลกมนุษย์ เทพหรือทูตสวรรค์ 1 ตนจะกำหนดชะตาชีวิตมนุษย์  12 คน ซึ่งถือเป็นภาระที่เทพทุกคนต้องทำ ถ้าวันใดเทพคนหนึ่งเกิดไม่อยากทำแล้วและปล่อยละเลยมนุษย์ไปซักคนเดียว จะโดนปลดจากความเป็นเทพและไปรับโทษทัณฑ์ในนรกทันทีโดยที่จะลบความทรงจำทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับสวรรค์ทั้งหมดและใส่ความจำว่าตนเป็นนักโทษในนรกมานานเป็นร้อยๆปีแทน

                    แดนปีศาจหรือที่มนุษย์เรียกว่านรก  ก็เกิดเช่นเดียวกับสวรรค์แต่ภารกิจของนรกช่างแตกต่างกับเทพโดยสิ้นเชิง คือต้องขัดขวางการทำงานของเทพและทูตสวรรค์ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ปีศาจตัวหนึ่งต้องจัดการเทพให้ได้อย่างน้อย3วันต้องได้ 1 ตน ถ้าทำไม่ได้ต้องโดนจับเสียบไม้กางเขนลงเวทล้างมลทิน

              เวทย์ล้างมลทิน คือเวทย์ที่ใช้ทดสอบพวกที่จะขึ้นมายังแดนสวรรค์ว่าผ่านหรือไม่ พวกที่ผ่านคือผู้มีบุญและพลังสูง ทำแต่ความดี ความชั่วทำแต่น้อยดังนั้นเวทย์ล้างมลทินจึงเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าปีศาจ เพราถ้าพวกปีศาจนั้นโดนสักเพียงระดับขั้นเดียว วิญญาณจะถูกสาปส่งให้เน่าเฟอะ ทุกอย่างของร่างกายจะป่นปี้ น้ำเหลืองจะไหลเยิ้มจนไม่สามารถทนดูได้ ผู้พิพากษาจะใช้เวทย์มลทินหรือคือเทพ เพราะมีแต่เทพที่สามารถใช้ได้

     

                    อืม มนุษย์คนนี้ทำแต่สิ่งดีๆ เดี๋ยวส่งผลตอบแทนไปดีกว่า เสียงหญิงสาวพูดกับตัวเอง เธอกำลังมองไปในลูกแก้วสีฟ้าที่ปรากฏรูปมนุษย์ที่เธอรับผิดชอบอยู่ทั้ง 12 คน

     

    ทำอะไรอยู่ ริส บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเดินมาหาหญิงสาวที่กำลังนั่งมองลูกแก้วอย่างอารมณ์ดี

     

    เทพอย่างเราจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากช่วยเหลือมนุษย์น่ะ เธอตอบอย่างร่าเริง ผมสีทองสะบัดไปมาเมื่อเธอโยกตัว เทพหนุ่มข้างตัวยิ้ม

     

    ริส เธอรู้เรื่องมนุษย์คนนึงที่ไม่มีเทพคุ้มครองไหม? เทพหนุ่มข้างตัวถาม เดินอ้อมมาอีกข้างพลางนั่งข้างหญิงสาว

     

    เอ จริงหรือเครก ข้าไม่เห็นรู้เรื่องแล้วมันไปไม่ได้หรอกมนุษย์ต้องมีเทพคุ้มครองสิ ไม่จริงหรอก เธอเถียงอารมณ์ดีๆเมื่อกี้หายไปหมด

     

    จริงนะ ไม่เชื่อไปถามวาสสิ เทพหนุ่มบอก เธอคงไม่คิดว่าฉันจะกล้าหลอกเทพแห่งความงามอย่างเธอหรอกนะ เธอมีจิตเทพไม่ใช่เหรอไง เขายิ้ม แต่เอาเถอะ เธอไม่เชื่อก็ตามใจ ฉันไปนะต้องไปประชุมอีก

     

    พอพูดจบก็เดินตัวปลิวไปเลย ทำไมไม่พูดให้เคลียร์นะ ชิ

     

    ริสบ่นอย่างโมโห เธอไม่ชอบให้คนมาพูดให้ฟังแล้วยังไม่ทันจบก็เดินตัวปลิวไปแบบนั้น ริสคิดในใจก่อนจะหันไปมองเครกที่กำลังจะลับสายตามไป

     

    อย่าลืมเอามาเล่าให้ฟังอีกนะ ท่านเทพแห่งดวงดาว เธอตะโกนบอก เขาโบกมือเป็นเชิงว่าได้ยินแล้ว

     

    เทพสองคนนี้จะไม่รู้เลยว่า อนาคตอันใกล้นี้ เขาทั้งสองแล้วเหล่าเทพจะเข้าไปพัวพันกับมนุษย์ผู้หนึ่งที่ไม่มีเทพคุ้มครอง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×