คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่3[Chapter 3] มนุษย์ผู้ไร้เทพ
บทที่3[Chapter 3] มนุษย์ผู้ไร้เทพ
“ไง เทพแสงเฟริส หวังว่าข้าคงได้รับข่าวดี” เสียงชายวัยกลางคนพูดทักเทพหนุ่มหน้าสวย
เขาเป็นชายวัยอย่างเข้าชรา มีริ้วรอยที่บ่งบอกว่าผ่านประสบการณ์ต่างๆมาอย่างดี ดูแล้วสมัยที่ยังหนุ่มกว่านี้(เรียกวัยละอ่อน)เขาจะเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาเอาการเลยที่เดียว
ชายผู้นี้มีผมสีทอง ไว้เคราที่ตัดแต่งอย่างงดงาม ดวงตาสีฟ้าสดใสแต่แววตาดูเจ้าเล่ห์เพทุบาย ตอนนี้เขานั่งอยู่บนบันลังค์ทองเหลืองอร่าม งดงามกระจับตา เบื้องหน้าเขา เทพเฟริสกำลังคุกเขาข้างหนึ่งและเอามืออีกข้างพาดเข่าอีกข้างถือเป็นการเคารพสูงสุด ปีกสีขาวที่ปกติยาวเหยียดออกกว้าง บัดนี้กลายเป็นปีกค้างคาวสีดำสนิท แสงระยิบระยับออกมาจากปีกสีขาวตลอดเวลากลับกลายหายเป็นขี้เถ้าสีดำ ดวงหน้างดงามคล้ายสตรีกลายเป็นดวงหน้าคมสันหล่อเหลา ไม่ว่ามองมุมไหนก็คือบุรุษ ตอนนี้เทพแห่งแสงที่ชื่อเฟริสได้หายไปแล้ว เหลือเพียงชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำ ผิวขาวละเอียดดุจหิมะ ผมและตาสีดำไม่ต่างกับถ่าน ใบหน้าหล่อเหลาและที่สำคัญ ปีกค้างคาวสีดำที่ออกมาจากแผ่นหลังกว้าง!!!
“โอ้ คงจะเรียกเทพแห่งแสงไม่ได้สินะ ต้องเรียกว่า ‘ปีศาจเทพคิลรา’ สินะ” ชายชรากล่าวพลางกลั้วหัวเราะ
“แล้วเป็นอย่างไรบ้าง จัดการเรียบร้อยนะ” ชายชราถามต่อ
“ไม่มีปัญหาด้านรัชทายาท และข้าได้กำจัดสวะเรียบร้อยแล้ว” คิลราตอบเสียงเยือกเย็น ตอนนี้เทพเฟริสและคิลราต่างกันราวสวรรค์กับนรก
“เยี่ยม ถ้าเจ้าทำงานนี้สำเร็จ เจ้าจะได้สิ่งที่เจ้าต้องการทุกอย่างตามสัญญา” ชายชราพูดก่อนจะดีดนิ้ว 1 ครั้งเป็นการให้สัญญาณ
พลันเทพปีศาจคิลราที่คุยกันเมื่อครู่กลายเป็นเทพแห่งแสงเฟริสอีกครั้ง ดวงตาสีทองประกายเจิดจรัสแฝงแววก้าวร้าว ลุกขึ้นหมายจะทำร้ายชายผู้นั่งบนบันลังค์แต่...
นิ้วของชายชรากลับยาวยืดออกรัดคอของเทพเฟริส ดวงหน้าสวยแฝงแววอัดอันแต่ก็พยายามฝืนไว้ มือเรียวดึงนิ้วที่รัดคอตนออกแต่มันช่างแข็งแกร่งราวกับหิน
“เฟริส ถ้ายอมร่วมมือแต่แรกก็หมดเรื่อง”
ทำไมคิลราถึงกลายเป็นเฟริสไปได้ แล้วชายชรานี่คือใคร มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!!!
********************************
ด้านบนเหนือแดนมนุษย์ ดินแดนสีขาวที่ชาวโลกผู้ดับไปแล้วต้องการจะขึ้นมา ดินแดนแห่งความดีที่ทุกๆคนฝันถึงและอยากจะสัมผัสมัน ดินแดนที่มีแต่ความสุข ความดีและความรัก ที่ที่เรียกว่าสวรรค์
แดนแห่งเทพหรือที่ใครๆเรียกว่าสวรรค์เกิดจากพระเจ้าเกิดอยากจะแยกความดีออกจากความเลว ดังนั้น เขาจึงสร้าง 2 ดินแดนที่อยู่คนละภพ คือสวรรค์และนรก
สวรรค์ ที่กักเก็บความดี เป็นดินแดนสีขาวที่ใครๆก็ฝันถึง แม้แต่พวกความมืด สิ่งที่สวรรค์มีคือความสงบ สวรรค์มีหน้าที่กำหนดชะตาชีวิตของคนบนโลกมนุษย์ เทพหรือทูตสวรรค์ 1 ตนจะกำหนดชะตาชีวิตมนุษย์ 12 คน ซึ่งถือเป็นภาระที่เทพทุกคนต้องทำ ถ้าวันใดเทพคนหนึ่งเกิดไม่อยากทำแล้วและปล่อยละเลยมนุษย์ไปซักคนเดียว จะโดนปลดจากความเป็นเทพและไปรับโทษทัณฑ์ในนรกทันทีโดยที่จะลบความทรงจำทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับสวรรค์ทั้งหมดและใส่ความจำว่าตนเป็นนักโทษในนรกมานานเป็นร้อยๆปีแทน
แดนปีศาจหรือที่มนุษย์เรียกว่านรก ก็เกิดเช่นเดียวกับสวรรค์แต่ภารกิจของนรกช่างแตกต่างกับเทพโดยสิ้นเชิง คือต้องขัดขวางการทำงานของเทพและทูตสวรรค์ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ปีศาจตัวหนึ่งต้องจัดการเทพให้ได้อย่างน้อย3วันต้องได้ 1 ตน ถ้าทำไม่ได้ต้องโดนจับเสียบไม้กางเขนลงเวทล้างมลทิน
เวทย์ล้างมลทิน คือเวทย์ที่ใช้ทดสอบพวกที่จะขึ้นมายังแดนสวรรค์ว่าผ่านหรือไม่ พวกที่ผ่านคือผู้มีบุญและพลังสูง ทำแต่ความดี ความชั่วทำแต่น้อยดังนั้นเวทย์ล้างมลทินจึงเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าปีศาจ เพราถ้าพวกปีศาจนั้นโดนสักเพียงระดับขั้นเดียว วิญญาณจะถูกสาปส่งให้เน่าเฟอะ ทุกอย่างของร่างกายจะป่นปี้ น้ำเหลืองจะไหลเยิ้มจนไม่สามารถทนดูได้ ผู้พิพากษาจะใช้เวทย์มลทินหรือคือเทพ เพราะมีแต่เทพที่สามารถใช้ได้
“อืม มนุษย์คนนี้ทำแต่สิ่งดีๆ เดี๋ยวส่งผลตอบแทนไปดีกว่า” เสียงหญิงสาวพูดกับตัวเอง เธอกำลังมองไปในลูกแก้วสีฟ้าที่ปรากฏรูปมนุษย์ที่เธอรับผิดชอบอยู่ทั้ง 12 คน
“ทำอะไรอยู่ ริส” บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเดินมาหาหญิงสาวที่กำลังนั่งมองลูกแก้วอย่างอารมณ์ดี
“เทพอย่างเราจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากช่วยเหลือมนุษย์น่ะ” เธอตอบอย่างร่าเริง ผมสีทองสะบัดไปมาเมื่อเธอโยกตัว เทพหนุ่มข้างตัวยิ้ม
“ริส เธอรู้เรื่องมนุษย์คนนึงที่ไม่มีเทพคุ้มครองไหม?” เทพหนุ่มข้างตัวถาม เดินอ้อมมาอีกข้างพลางนั่งข้างหญิงสาว
“เอ จริงหรือเครก ข้าไม่เห็นรู้เรื่องแล้วมันไปไม่ได้หรอกมนุษย์ต้องมีเทพคุ้มครองสิ ไม่จริงหรอก” เธอเถียงอารมณ์ดีๆเมื่อกี้หายไปหมด
“จริงนะ ไม่เชื่อไปถามวาสสิ” เทพหนุ่มบอก “เธอคงไม่คิดว่าฉันจะกล้าหลอกเทพแห่งความงามอย่างเธอหรอกนะ เธอมีจิตเทพไม่ใช่เหรอไง” เขายิ้ม “แต่เอาเถอะ เธอไม่เชื่อก็ตามใจ ฉันไปนะต้องไปประชุมอีก”
พอพูดจบก็เดินตัวปลิวไปเลย ทำไมไม่พูดให้เคลียร์นะ ชิ
ริสบ่นอย่างโมโห เธอไม่ชอบให้คนมาพูดให้ฟังแล้วยังไม่ทันจบก็เดินตัวปลิวไปแบบนั้น ริสคิดในใจก่อนจะหันไปมองเครกที่กำลังจะลับสายตามไป
“อย่าลืมเอามาเล่าให้ฟังอีกนะ ท่านเทพแห่งดวงดาว” เธอตะโกนบอก เขาโบกมือเป็นเชิงว่าได้ยินแล้ว
เทพสองคนนี้จะไม่รู้เลยว่า อนาคตอันใกล้นี้ เขาทั้งสองแล้วเหล่าเทพจะเข้าไปพัวพันกับมนุษย์ผู้หนึ่งที่ไม่มีเทพคุ้มครอง...
ความคิดเห็น