ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Taeny x Taengsic] Waiting Forขอชั้นรักคุณได้มั๊ย…..

    ลำดับตอนที่ #9 : ความบังเอิญ…….

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 56


    Chapter  8    ความบังเอิญ…….

     

     

    “โอเค  คัทค่า….ดีมากเลยน้องฟานี่”    เสียงผู้กำกับหนุ่มใจสาวตะโกนขึ้นในฉากสุดท้ายของวัน ที่กว่าจะถ่ายทำเสร็จก็แทบจะค่ำทำให้นางเอกสาวที่ต้องตื่นมาถ่ายละครตั้งแต่เช้าแทบจะหมดแรงยืนเสียให้ได้

     

    “แสดงดีมากเลยค่ะน้องฟานี่  แบบนี้รางวัลนางเอกยอดนิยมของปีนี้คงหนีไม่พ้นน้องฟานี่แน่ๆค่ะพี่รับรอง”     ผู้กำกับ (สาว)หนุ่มยังจีบปากจีบคอพูดไม่หยุดด้วยความพออกพอใจในความเป็นมืออาชีพของนางเอกสาวสวยซึ่งตอนนี้กำลังนั่งพักเหนื่อยจากการถ่ายละครที่ค่อนข้างใช้เวลายาวนาน

     

    “ขอบคุณค่ะพี่ฮีชอล”     นางเอกสาวยิ้มรับก่อนที่ใบหน้าสวยจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นดอกไม้ช่อโตยื่นมาตรงหน้าของตนเอง

     

    “ดอกไม้เป็นกำลังใจสำหรับการทำงานในวันนี้ครับ”  

    เสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยขึ้นตรงหน้าทำให้นางเอกสาวสวยที่กำลังมองดอกไม้ช่อโตต้องเงยหน้าขึ้นก่อนจะส่งยิ้มจนตาปิดเมื่อเห็นว่าผู้ที่กำลังยื่นช่อดอกไม้พร้อมส่งยิ้มเขินๆให้ตนเองเป็นใคร  

     

    “ขอบคุณคะคุณนี่”   ริมฝีปากสวยส่งยิ้มอีกครั้งก่อนจะรับดอกไม้ช่อโตมาไว้ในอ้อมแขน

     

    “แต่ไม่เห็นต้องเอามาให้ฟานี่เลยนี่คะ เปลืองออก”   เจ้าของใบหน้าสวยกล่าวยิ้มๆพร้อมทั้งก้มลงสูดกลิ่นดอกไม้นั้นเบาๆ

     

    “แค่นี้เองครับ มากกว่านี้ผมก็ให้ฟานี่ได้….ถ้าฟานี่ต้องการ”   นิชคุณชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้บริหาร  NT  ent. บริษัทผู้ผลิตสื่อยักษ์ใหญ่ของเกาหลีเอ่ยพร้อมรอยยิ้มจริงใจให้กับนางเอกสาวสวยตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังส่งยิ้มน้อยๆคืนมาให้กับเค้า

     

    ……ภาพนางเอกสวยกับผู้บริหารหนุ่มหล่อที่กำลังพูดจาหยอกเย้ากันเรียกรอยยิ้มพร้อมความอิจฉาเล็กๆให้กับคนทั้งกองถ่ายละคร  ใครก็ตามที่ได้พบเห็นคนทั้งคู่ต่างก็จะที่อดยอมรับไม่ได้ว่าหนุ่มหล่อและสาวสวยคู่นี้มีความเหมาะสมกันแทบจะทุกด้านทั้งหน้าตา การศึกษา  และฐานะครอบครัว….การผู้บริหารหนุ่มที่มักจะโผล่มาที่กองถ่ายละครที่บริษัทของเค้าเป็นผู้ออกทุนสร้างทุกครั้งที่มีเวลาว่างไม่ได้สร้างความสงสัยให้แก่คนในกองถ่ายเพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้บริหารหนุ่มนั้นคืออะไร แถมการที่บรรดาสื่อบันเทิงสำนักต่างๆพร้อมใจกันให้ข่าวทำนองว่าทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกันก็เป็นเครื่องยืนยันถึงสถานะของหนุ่มหล่อและสาวสวยทั้งคู่ได้เป็นอย่างดีแม้เจ้าตัวจะไม่เคยออกมาพูดอย่างขัดเจนเลยก็ตาม

     

    “แหมๆๆ  น่าอิจฉาน้องฟานี่นะคะที่มีคนหนุ่มหล่อแสนดีและเพอร์เฟคอย่างคุณนิชคุณเป็นแฟน”    เสียงผู้กำกับที่เอ่ยแซวทั้งคู่ด้วยความเอ็นดูปนหมั่นไส้ทำให้ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ถูกเอ่ยชื่ออดยิ้มออกมาด้วยความเขินอายไม่ได้

     

                            “เราเป็นเพื่อนกันคะ พี่ฮีชอลไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย”   นางเอกสาวเอ่ยแก้ต่างด้วยรอยยิ้มตาปิดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

     

                “ค่า….เพื่อนก็เพื่อน แหมถ้าพี่มีเพื่อนหล่อๆแสนดีๆแบบนี้พี่ไม่ปล่อยให้เป็นแค่เพื่อนหรอกคะพี่จะจับทำ….…..เอ๊ยแฟนทันทีเลย  ”   เสียงผู้กำกับที่ขัดขึ้นเรียกเสียงหัวเราะให้คนทั้งกองถ่ายไม่เว้นแม้กระทั่งหนุ่มหล่อและสาวสวยที่กำลังถูกผู้กำกับแซวอย่างสนุกปาก  เว้นเสียแต่ผู้จัดการสาวร่างเล็กที่กำลังมองภาพตรงก่อนจะถอนหายใจหน้าพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ 

     

    …….เป็นแบบนี้คงได้ชวดคุณหมอแทยอนจริงๆแน่  ยัยฟานี่……

    .

    .

    .

    .

    .        

    ภาพหนุ่มหล่อและสาวสวยที่มีดีกรีเป็นถึงผู้บริหารบริษัทผลิตสื่อยักษ์ใหญ่ของเกาหลีและนางเอกสาวดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังเดินเคียงคู่กันพร้อมรอยยิ้มเข้ามาภายในร้านอาหารอิตาเลี่ยนสุดหรูของโรงแรมชื่อดังเรียกสายตาของคนทั้งร้านให้หันไปมองทั้งคู่ด้วยความสนใจได้ไม่ยาก….ทั้งสองหยุดยืนที่กลางร้านชั่วครู่ก่อนที่บริกรสาวจะเข้ามาเชิญไปยังโต๊ะพิเศษที่ฝ่ายชายได้จองไว้

    …..โต๊ะพิเศษติดริมหน้าต่างที่ทำจากกระจกของห้องอาหารอิตาเลี่ยนสุดหรูชั้นบนสุดของโรงแรมทำให้จากมุมที่หนุ่มสาวทั้งคู่นั่งอยู่สามารถมองออกไปเห็นวิวยามค่ำคืนในมุมสูงของกรุงโซลที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟได้เป็นอย่างดี  อาหารจานหรูถูกเสริฟพร้อมเสียงไวโอลินที่บรรเลงเพลงคลาสสิคเบาๆ  เป็นผลให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารอบอวนไปด้วยความโรแมนติกและรอยยิ้ม

     

    “ฟานี่ทานนี่สิครับ  รับรองว่าอร่อย ทานแล้วคุณจะติดใจจนร้องให้ผมพามาทานอีก”  ชายหนุ่มรูปหล่อพูดพร้อมกับตักอาหารน่าตาหน้าทานตรงหน้าให้นางเอกสาวสวยพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มอย่างคนขี้เล่นที่ทำให้ริมฝีปากสวยของนางเอกสาวต้องยิ้มตาม

     

    “คุณนี่ตักให้ฟานี่เยอะขนาดนี้เดี๋ยวฟานี่ก็อ้วนกันพอดีหรอกคะ”  นางเอกสาวมองค้อนพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มกลับคืนให้คนตรงหน้า

     

    “ถึงฟานี่จะอ้วนจนเป็นหมูตัวน้อยๆผมก็ยังรักนะครับ”   คำพูดและรอยยิ้มล้อเลียนจากชายหนุ่มตรงหน้าเรียกค้อนวงโตจากนางเอกสาวได้เป็นอย่างดี

     

    “อย่ามาทำพูดดีไปคะคุณนี่ถ้าฟานี่เป็นหมูจริงคงไม่มีใครรับได้หรอกคะ แม้แต่ตัวฟานี่เอง”   

    นางเอกพูดพร้อมกับยู่ปากก่อนทำท่าคิดแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย  ท่าทางน่ารักที่แสดงออกมานั้นเรียกเสียงหัวเราะด้วยความขบขันปนเอ็นดูจากชายหนุ่มตรงหน้าได้เป็นอย่างดี….ไม่นานบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็อบอวนไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากคนทั้งคู่…..

     

    “นี่แหนะ ตักให้แต่ฟานี่..คุณนี่ก็กินบ้างนะคะ จะได้อ้วนๆเหมือนกัน”  นางเอกสาวตักอาหารตรงหน้าไปให้ชายหนุ่มทันที

     

    “อ๊ะฟานี่  แกล้งกันหรอครับตักเยอะขนาดนี้ใครจะกินหมดกันครับนี่”

     

    “ไม่รู้หละค่ะ  ใครเป็นคนสั่งคนนั้นต้องรับผิดชอบ….และต้องรับผิดชอบให้หมดด้วย”   นางเอกสาวสวยส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มพร้อมทั้งตักอาหารคำโตขึ้นมาจ่อปากผู้บริหารหนุ่มด้วยความอารมณ์ดีและอารมณ์ที่อยากแกล้งคนตรงหน้า

     

    “โห  คำขนาดนี้ใครจะกินได้ครับนี่”   ชายหนุ่มตรงหน้าหัวเราะพร้อมกับส่ายหัวก่อนที่จะรีบงับช้อนโดยเร็วเมื่อเห็นสายตาดุๆของหญิงสาวตรงหน้า…..การกระทำนั้นทำให้นางเอกสาวสวยต้องยิ้มก่อนที่จะหัวเราะออกมาทันทีด้วยความพอใจ

     

    ……บรรยากาศบนโต๊ะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของชายหนุ่มและหญิงสาวโดยที่คนทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของตนเองทำให้บุคคลที่กำลังเดินเข้ามาในร้านและเห็นภาพนั้นพอดีต้องชะงักและนิ่งไป………….มือของนางแบบสาวหน้าหวานแตะลงที่แขนคนข้างกายเบาๆพร้อมสายตาห่วงใย  คุณหมอตัวเล็กหันกลับมามองหญิงสาวข้างกายพร้อมทั้งส่ายหัวน้อยๆว่าไม่ต้องเป็นห่วงเค้าไม่ได้เป็นอะไรก่อนที่จะส่งยิ้มอย่างอบอุ่นและอ่อนโยนให้คนข้างๆอีกครั้งพร้อมทั้งกระชับมือของคนข้างกายให้เข้ามาเกาะเกี่ยวที่แขนของตนเองเอาไว้พร้อมวางมือของตนทับบนมือเรียวบางแล้วกุมไว้หลวมๆ เพื่อเป็นการปลอบใจหญิงสาวข้างกายไม่ให้เธอต้องคิดมากกับอาการของตนเอง

    .

    .

    .

    …….เสียงหัวเราะที่เคยมีความสุขพร้อมรอยยิ้มจนตาปิดอันเป็นเอกลักษณ์ของนางเอกสาวหยุดค้างไปทันทีที่สายตามองเห็นบุคคลสองคนที่กำลังเดินเข้ามาภายในร้าน….

    …..คุณหมอคิมแทยอนเดินเข้ามาในร้านพร้อมนางแบบสาวหน้าหวาน  มือของนางแบบสาวคล้องอยู่ที่แขนคุณหมอตัวเล็กอย่างแสดงความเป็นเจ้าของรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของคนทั้งคู่แสดงออกถึงความสุขเมื่อมองสบตากันและกัน  สายตาอบอุ่นอ่อนโยนของคุณหมอตัวเล็กที่มอบให้หญิงสาวข้างกายทำให้หัวใจของนางเอกสาวต้องกระตุกวูบจนรู้สึกเจ็บปวดจนต้องยกมือเรียวสวยข้างหนึ่งขึ้นมากุมไว้ที่หัวใจ

     

    “ฟานี่เป็นอะไรครับ ไม่สบายรึป่าว?”  

     

    เสียงชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับยื่นมือหนามากุมมือเรียวสวยของนางเอกสาวด้วยความเป็นห่วง  เสียงที่ดังขึ้นนั้นไม่เพียงเรียกสติของนางเอกสาวให้กลับคืนมาเท่านั้นแต่ทำให้บุคคลสองคนที่พึ่งเข้ามาใหม่หันมามองยังโต๊ะของทั้งสองคนด้วยเช่นกัน

     

    ……ดวงตาของคุณหมอตัวเล็กสบเข้ากับดวงตาเรียวสวยของนางเอกสาวพอดีดวงตาสองคู่ต่างมองกันนิ่งค้างก่อนที่สายตาของคุณหมอตัวเล็กจะมองไปยังมือของคนทั้งคู่ที่กำลังเกาะกุมกันอยู่….รอยยิ้มน้อยๆที่ปรากฏบนใบหน้าของคุณหมอร่างเล็กและด้วยสายตาที่มองมาทำให้ทิฟฟานี่ต้องรีบชักมือออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่มตรงหน้าทันที

     

    “ สวัสดีค่ะคุณทิฟฟานี่….คุณนิชคุณ”    นางแบบสาวหน้าหวานเอ่ยทักคนทั้งสองด้วยรอยยิ้ม

     

    “สวัสดีครับคุณเจสสิก้า….กับเอ่อคุณ…..

     

    “แทยอนค่ะ  คิมแทยอน”   คุณหมอร่างเล็กแนะนำตัวกับชายหนุ่มตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแทยอน”   ผู้บริหารหนุ่มทักทายคุณหมอร่างเล็กพร้อมทั้งส่งยิ้มกว้างให้ด้วยความจริงใจ  ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้นางแบบสาวและเอ่ยขึ้นอีกครั้งอีกครั้ง

     

    “ร้านนี้อาหารอร่อย บรรยากาศก็ดีผมรับรองเลยครับ เหมาะที่จะมา….กับ….คนพิเศษ  ว่ามั๊ยครับ”

     

     ผู้บริหารหนุ่มยังคงพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนที่ประโยคสุดท้ายจะหันหน้าและส่งสายตามีความหมายไปทางนางเอกสาวที่อยู่ตรงข้าม การกระทำนั้นทำให้นางเอกสาวนิ่งอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะส่งรอยยิ้มบางๆอย่างฝืนๆไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า  สายตาแอบเหลือบมองไปยังคงตัวเล็กที่มีนางแบบสาวควงแขนอยู่….

    ……จากที่เคยนิ่งค้างในตอนแรกตอนนี้นางเอกสาวแอบหวังในใจว่าจะเห็นปฏิกิริยาตอบกลับจากคนตัวเล็กที่เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเธอและชายหนุ่มตรงหน้าบ้าง  แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาน้อยๆจากริมฝีปากของเค้าเท่านั้น รอยยิ้มของเค้าทำให้เธอรู้สึกเจ็บและจุกจนพูดไม่ออก  เค้าทำเหมือนกับว่าเค้าและเธอไม่เคยรู้จักกันเค้าทำเหมือนกับว่าการที่เห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นเป็นเรื่องปกติที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเค้าหรือทำให้เค้ารู้สึกอะไร….หรือเค้าลืมความรักระหว่างเราและเรื่องของเราไปแล้ว….หรือการที่เราได้พบกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้พบกันนานถึงแปดปีไม่ได้ส่งผลต่อความรู้สึกใดของเค้าเลย…..หรือเพราะมีแค่เธอที่ยังรักยังรอและยังไม่ลืม….

     

    “ฟานี่  ฟานี่ครับ….เป็นอะไรรึป่าว”   เสียงชายหนุ่มตรงหน้าเรียกชื่อด้วยความเป็นห่วงทำให้นางเอกสาวต้องสะดุ้งเล็กน้อยก่อนส่ายหน้าเบาๆ

     

    “ฟานี่ไม่เป็นไรค่ะ”    ริมฝีปากบางเรียวสวยส่งยิ้มน้อยๆให้ชายหนุ่มตรงหน้าก่อนที่ใบหน้าสวยจะหันไปมองคุณหมอตัวเล็กและนางแบบสาวหน้าหวานที่ยืนอยู่ข้างๆโต๊ะอีกครั้ง

     

    “สิก้าคะแทว่าเราไปที่โต๊ะกันเถอะค่ะเราสองคนรบกวนคุณนิชคุณกับคุณทิฟฟานี่นานแล้ว”

      คุณหมอตัวเล็กเอ่ยขึ้นและส่งรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนให้หญิงสาวข้างกายที่กำลังพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มอย่างอ่อนหวานให้กับคุณหมอตัวเล็ก  คุณหมอและนางแบบสาวกล่าวขอตัวกับคนทั้งคู่อีกครั้งก่อนที่จะส่งยิ้มและโค้งน้อยๆแล้วเดินไปยังโต๊ะของตนเอง

     

    “ผมไม่เคยเห็นคุณเจสสิก้ามีข่าวกับใครเลย  สงสัยคุณแทยอนคงจะเป็นคนพิเศษของคุณเจสสิก้าแน่ๆเลยฟานี่ว่ามั๊ยครับ”   ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นยิ้มๆเมื่อมองไปยังคนสองคนตรงหน้าที่พึ่งขอตัวเดินออกไป

     

    “ไม่รู้สิคะ”     นางเอกสาวเอ่ยเรียบๆ แม้พยายามบังคับเต็มที่แล้วแล้วแต่น้ำเสียงหวานยังคงสั่นน้อยๆ

     

    “ผมว่าเค้าสองคนเหมาะสมกันดีนะครับ”     ผู้บริหารหนุ่มยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆด้วยรอยยิ้มโดยไม่ทันได้สังเกตอาการของหญิงสาวตรงหน้า

     

    นางเอกสาวเม้มปากแน่นสนิทดวงเรียวสวยที่มีประกายวูบไหวยังมองไปยังคนสองคนที่ตอนนี้กำลังนั่งหยอกล้อพูดคุยและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข  ก่อนที่ริมฝีปางบางสวยจะเอ่ยออกมาเบาๆ

     

    “งั้นหรือคะ”

     

     

     

     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×