คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ความจริงของความรู้สึก ..
Chapter 6 ความจริงของความรู้สึก…..
รถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่หลังจากผู้ที่อยู่ในรถทั้งสองได้ไปทานมื้อค่ำด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขาเรียวเล็กที่กำลังจะก้าวลงจากรถชะงักชั่วครู่ก่อนที่ใบหน้าหวานจะหันมาทางคนที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ ริมฝีบางสวยของนางแบบสาวประทับลงที่แก้มของคุณหมอตัวเล็กเบาๆ
“ขับรถกลับดีๆนะคะ ถึงแล้วโทรบอกสิก้าด้วยหละ อย่าลืมนะ” นางแบบสาวสวยกำชับคุณหมอตัวเล็กก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถไป
“รับทราบค่ะ ” คุณหมอคิมแทยอนเอ่ยรับพร้อมรอยยิ้มแล้วทำท่าวันทยาหัตแบบทหารอย่างแข็งขัน เป็นผลให้คนที่ยืนอยู่นอกรถต้องหัวเราะออกมาด้วยความขบขันปนหมั่นไส้
“กลับได้แล้วค่ะ….เดี๋ยวจะดึกนะ” นางแบบสาวกล่าวเตือนคุณหมออีกครั้งก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานหยดให้
“ง่าๆ กลับก็ได้ค่ะ แล้วพรุ่งนี้แทจะมารับแต่เช้านะคะ” คุณหมอตัวเล็กบอกพร้อมส่งยิ้มหวานให้นางแบบสาวสวยอีกครั้งก่อนจะขับรถออกไปจากบริเวณบ้านหลังใหญ่
…….หลังจากมองคุณหมอตัวเล็กขับรถออกไปจนลับตาใบหน้าสวยที่เคยประดับด้วยรอยยิ้มหวานหยดของนางแบบสาวกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นเศร้าหมองดวงตาเรียวสวยฉายแววเศร้าสร้อยและหวั่นใจในคราวเดียวกัน….เธอกลัวในสิ่งที่เธอเคยคิดว่ามันอาจจะเกิดขึ้นในสักวัน สีหน้าและสายตาที่นางเอกสาวมองมายังคุณหมอร่างเล็กในวันนี้ใช่ว่าเธอจะมองมันไม่ออก สายตาที่แสดงออกมานั้นมีทั้งความคิดถึงอาลัยอาวรณ์ตกใจแปลกใจและเสียใจเมื่อเห็นความสนิทสนมที่เธอและแทยอนแสดงออกซึ่งกันและ…เธอรับรู้มันได้….แต่สิ่งที่ทำให้เธอยังคงเบาใจคือการที่แทยอนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดที่แสดงให้เห็นว่ายังคงอาลัยอาวรณ์ในตัวเธอคนนั้นนอกไปจากการทักทายและพูดคุยดังเช่นคนที่พึ่งรู้จักกัน และสิ่งที่สำคัญคือแทยอนยังคงเป็นคิมแทยอนที่อบอุ่นและอ่อนโยนกับเธอซึ่งเธอสัมผัสมันได้จากทุกการกระทำของเค้า….แต่เธอก็ยังคงกลัวในสิ่งที่เองเคยคิด กลัวว่าในอนาคตข้างหน้าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเพราะการเข้ามาของผู้หญิงคนนั้น หากเป็นเช่นนั้นจริงเธอจะทำอย่าง….ซึ่งคำตอบสำหรับคำถามนี้ตัวของเธอเองก็ยังไม่รู้เลย
ไม่รู้ว่าตนเองยืนอยู่หน้าบ้านนานเท่าใดรู้สึกตัวอีกที่ก็เมื่อมีเสียงเรียกมาจากทางด้านหลังให้นางแบบสาวได้สะดุ้งเล็กน้อย
“สิก้า….ทำไมไม่เข้าบ้านหละลูก แม่เห็นหนูยืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว” จองกาอินเอ่ยทักลูกสาวด้วยความแปลกใจ หลังจากเห็นลูกสาวคนสวยของเธอยืนเหม่อลอยอยู่หน้าบ้านตั้งนานสองนานและไม่มีท่าทีว่าจะเข้าบ้านสักที
“สิก้าคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คะแม่…คิดเพลินไปหน่อยเลยยังไม่ได้เข้าบ้าน” ลูกสาวคนสวยพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติและส่งยิ้มกลับไปให้ผู้เป็นมารดา
“แล้วนี่ใครมาส่งหละลูก หนูแทยอนรึป่าว แล้วทำไม่ไม่เข้ามาในบ้านก่อนหละ”
“แทมาส่งคะแม่…..ที่แทเค้าไม่เข้าบ้านเพราะแทเห็นว่ามันดึกแล้ว กลัวว่าจะรบกวนคุณพ่อกับคุณแม่หนะค่ะ เค้าเลยจะมาใหม่พรุ่งนี้เช้า” เจสสิก้าตอบพร้อมกับยิ้มหวานอย่างออดอ้อนให้กับผู้เป็นมารดา
“เข้าบ้านกันเถอะค่ะแม่ สิก้าว่าสิก้าเริ่มหนาวแล้ว และอีกอย่างสิก้าง๊วงง่วง วันนี้ทำงานทั้งวัน คิดถึงเตียงนุ่มๆสุดๆไปเลยค่ะ” นางแบบสาวสวยออดอ้อนมารดาด้วยท่าทีน่ารักก่อนที่จะชวนกันเดินเข้าไปภายในบ้าน
“เอ่อลูกจ๊ะ…ถ้าพรุ่งนี้หนูแทยอนมาแล้วก็อย่าลืมชวนทานข้าวเช้าด้วยกันหละ บอกเค้าว่าแม่ทำอาหารเผื่อเยอะเลย” จองกาอินเอ่ยบอกลูกสาวก่อนที่นางแบบสาวสวยจะเดินขึ้นบรรไดหรูเพื่อไปยังห้องของตัวเองที่อยู่บนชั้นสองของตัวบ้าน
“แล้วหนูจะชวนแทให้นะคะ…..ฝันดีค่ะแม่ รักแม่นะคะ ” นางแบบสาวสวยส่งยิ้มพร้อมทั้งเดินเข้ามาหอมแก้มมารดาก่อนจะเดินขึ้นห้องไป
จองกาอินรู้จักกับแทยอนดีเพราะทั้งสองครอบครัวเป็นเพื่อนกัน เจสสิก้าสนิทกับแทยอนมาตั้งแต่เด็กและเจสสิก้าลูกสาวของเธอก็ติดแทยอนมากทีเดียว เมื่อตอนที่แทยอนต้องบินไปเรียนต่อระดับไฮสคูลที่อเมริกาลูกสาวคนสวยของเธอก็มีอาการเศร้าซึมอยู่นานอย่างเห็นได้ชัดตลอดระยะเวลาสามปีทั้งสองแทบจะไม่ได้เจอกันเลยแต่ก็ยังคงติดต่อกันอยู่สม่ำเสมอ จนเมื่อจบไฮสคูลนั่นแหละเจ้าตัวจึงบินไปเรียนต่อที่อเมริกาและได้พบเจอกันอีกครั้ง เธอรู้ว่าตลอดระยะเวลาที่ทั้งสองเรียนอยู่ที่นั่นเด็กสองคนสนิทสนมกันมากแต่จะเป็นความสัมพันธ์แบบใดเธอเองก็ไม่รู้แน่ชัด มารู้ความรู้สึกของลูกสาวจริงๆก็เมื่อตอนที่แทยอนเรียนจบและกลับมาที่เกาหลีแล้ว เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอคิดอย่างไรกับแทยอนเพราะเจสสิก้าเองไม่เคยอ่อนโยนอ่อนหวานเป็นห่วงเป็นใยและใส่ใจใครเท่ากับแทยอนมาก่อน เธอกับสามีเองก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจรังงอนอะไรที่เห็นว่าแทยอนเป็นผู้หญิงในทางตรงกันข้ามกับรู้สึกยินดีและดีใจเสียด้วยซ้ำเพราะรู้ว่าแทยอนเป็นคนเช่นไร แต่ในเรื่องนี้ทั้งเธอเองและสามีก็ไม่ได้ไปก้าวก่ายหรือสนับสนุนอะไรอย่างออกนอกหน้านอกตาคงปล่อยให้เป็นเรื่องในอนาคตของเด็กทั้งสองคนเท่านั้น……
.
.
.
.
.
ประตูห้องถูกปิดลงเบาๆเมื่อร่างบางของนางแบบสาวได้เข้ามาในห้อง หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงสีหวานดวงตาเรียวสวยจับจ้องไปที่รูปถ่ายของคนสองคนถ่ายคู่กันที่ถูกเข้ากรอบไว้เป็นอย่างดีบนโต๊ะหนังสืออย่างเศร้าสร้อย ความคิดล่องลอยย้อนกลับไปถึงที่มาของภาพๆนั้น
.
.
.
.
.
.
…….เมื่อ 4 ปี ก่อน หลังจากจบมัธยมปลายในเกาหลี เจสสิก้าตัดสินใจบินไปเรียนต่อทางด้านบริหารธุรกิจที่สหรัฐอเมริกา เธอเลือกที่จะเรียนต่อที่นั่นเพราะเหตุผลเดียวคือคนๆนั้นเรียนอยู่ที่อเมริกา คนที่ใจดีอบอุ่นอ่อนโยนคนที่เป็นที่พึ่งพาให้เธอได้เสมอและเป็นคนเดียวกันกับคนที่อยู่ในใจเธอตลอดมา….เธอยังจำวันนั้นได้ดีวันที่เจอเค้าครั้งแรกในรอบสามปี….หลังจากที่ทำเรื่องเข้าเรียนเรื่องหอพักและจิปาถะเสร็จแล้วเธอมีเวลาว่างตั้งเดือนกว่าก่อนที่จะเปิดภาคเรียน หลังจากได้ที่อยู่จากพี่สาวและน้องสาวของเค้าคนนั้นเธอตัดสินใจบินจากนิวยอร์กไปฟิลาเดลเฟียเพื่อเซอร์ไพซ์เค้าทันที เธอไม่เคยคิดว่ากลับเป็นเธอที่เจอเรื่องเซอร์ไพซ์นั้นเอง ทันทีที่เราพบกันเธอรู้ว่าเค้าเปลี่ยนไปจากคนอบอุ่นอ่อนโยนที่มีรอยยิ้มอยู่เสมอกลับกลายเป็นคนอ่อนแอซึมเศร้าท้อแท้ปล่อยตัวและหมดหวังถึงแม้แรกเจอกันเค้าจะมีรอยยิ้มและดูแลเธออย่างอ่อนโยนเหมือนเคย แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกได้คือแววตา….หลังจากพยายามสอบถามและขอร้องให้เค้าบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอได้ฟัง
….เธอจำเรื่องราววันนั้นได้ดีวันที่เค้าระบายทุกสิ่งทุกอย่างออกมาพร้อมน้ำตา ระบายความในใจถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เค้ารักมากทำร้ายเค้าอย่างไร เธอยอมรับว่ารู้สึกช๊อคและเสียใจมากเมื่อรู้ว่าเค้ามีคนที่เค้ารักแล้ว แต่สิ่งที่เธอเสียใจที่สุดคือผู้หญิงคนนั้นคนที่ได้ครอบครองหัวใจและความรักของคนที่แสนดีคนนี้แต่เธอกลับทำร้ายเค้าทำร้ายคนแสนดีของเธอให้เจ็บปวดเจียนตาย….เค้ายิ่งเจ็บเท่าไหร่….เธอยิ่งเจ็บกว่า เธอรู้ว่าเค้ารักผู้หญิงคนนั้นมากเค้าจมอยู่แต่กับความเสียใจผิดหวังท้อแท้จนไม่สนใจตัวเอง….เธอเห็นและรับรู้ทุกอย่างด้วยความเจ็บปวดและเสียใจไม่แพ้กัน ตลอดระยะเวลาเดือนกว่าก่อนเปิดเทอมเธอใช้เวลาทุกนาทีทุกชั่วโมงของเธอเพื่อดูแลเค้า
“แทกินนี่หน่อยนะคะ สิก้ารู้ว่าแทไม่กินอะไรมาหลายวันแล้ว สิก้าทำมาให้กินหน่อยนะคะ”
“แทวันนี้ไปเดินเล่นที่พาร์คกันนะ แทจะได้รู้สึกดีขึ้นไงคะ”
“แท…อากาศเริ่มหนาวแล้วนะพันผ้าพันคอหน่อยนะคะจะได้ไม่เป็นหวัด”
“แท ทานข้าวหน่อยนะคะจะได้ทานยา แทจะได้หายเร็วๆไงคะ”
ฯลฯ
เธอรู้ตลอดเวลาเดือนกว่าที่เธอดูแลเค้าถึงแม้ว่าเค้าจะไม่เคยปฏิเสธหรือแสดงท่าทีลำคานใส่เธอเลยแต่การดูแลของเธอก็ไม่ได้ทำให้ความเศร้าเสียใจของเค้าเบาบางลง จนถึงเวลาที่เธอต้องกลับไปเรียนและเค้าก็เริ่มเรียนเช่นกัน เธอรับรู้เรื่องราวว่าเค้ายังคงไม่ดีขึ้นเลยจากพี่สาวของเค้าที่บินไปเยี่ยมเยียนเค้าทุกเดือนและหากเป็นอย่างนั้นต่อไปเค้าคงต้องถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเป็นแน่ เมื่อรู้ดังนั้นเธอตัดสินใจที่จะบินไปดูแลเค้าทุกเดือนและทุกครั้งที่มีเวลาว่างหรือวันหยุดยาวจากเทศกาลต่างๆ เธอหวังเพียงว่าสักวันความรู้สึกทั้งหมดของเธอจะช่วยเยียวยาเค้าให้ดีขึ้นและกลับมาเป็นคิมแทยอนที่อบอุ่นและอ่อนโยนคนเดิมอีกครั้ง………..
.
.
.
.
“แท….ถ้าแทยังเป็นแบบนี้แล้วอนาคตของแทจะอยู่ที่ไหน แททำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนที่รักแทเป็นห่วงแทเพื่อผู้หญิงคนเดียวอย่างนั้นหรอ ผลคะแนนออกมาแล้วถ้าแทยังเป็นแบบนี้ต่อไปแทโดนมหาวิทยาลัยไล่ออกแน่ แล้วครอบครัวแทหละพวกเค้าจะคิดยังไง คิดถึงตัวเองให้มากๆสิ คิมแทยอนคนเดิมหายไปไหน!!!”
วันนั้นหลังจากประกาศผลคะแนนของเค้าเธอยอมรับว่าเธอโมโหมาก โมโหทั้งเค้าและผู้หญิงคนนั้น จากที่ไม่เคยอารมณ์เสียและใส่อารมณ์กับเค้าเลยสักครั้งตั้งแต่รู้จักกันมา วันนั้นเธอระเบิดมันออกไปพร้อมทั้งตะโกนใส่หน้าเค้า คิมแทยอนมองหน้าเธอด้วยสายตานิ่งค้างและเงียบไปนานและนานมากจนเธอคิดว่าต้องโดนเค้าเกลียดแน่แล้วไม่มีคำพูดใดๆระหว่างเราสองคนมีแต่ความเงียบงันนานนับชั่วโมง แต่แล้วเค้าก็พูดออกมาคำพูดที่ทำให้เธอร้องไห้และยิ้มไปในคราวเดียวกัน
“สิก้า…..แทขอโทษและขอบคุณสิก้ามากนะ….แท….คิดได้แล้ว….แทจะไม่เป็นคิมแทยอนคนเดิมอีกแล้ว….ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงมาตลอดนะ” คิมแทยอนพูดและยิ้มทั้งน้ำตา รอยยิ้มของเค้าทำให้เธอพุ่งเข้าไปกอดเค้าทันทีน้ำตาแห่งความดีใจไหลอาบแก้ม เราสองคนกอดกันอยู่นาน….ก่อนที่ริมฝีปากเรียวสวยจะเอ่ยคำพูดให้อีกคนได้ฟังด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“แทรู้ใช่มั๊ยคะ….ว่าต่อให้แทไม่เหลือใคร…แต่แทจะมีสิก้าอยู่ข้างๆแทเสมอ…”
นั่นคือคำพูดที่เธอบอกกับเค้าในวันนั้น……….
.
.
หลังจากเหตุการณ์นั้นเป็นต้นมาแทยอนก็เปลี่ยนไปเค้ากลายเป็นคนใหม่เธอรู้ว่าเค้ายังไม่ลืมเรื่องราวและความเจ็บปวดที่ได้รับแต่เธอก็หวังว่าสักวันมันคงจะจางไปคิมแทยอนคนที่อบอุ่นอ่อนโยนเริ่มกลับมา….ตลอดเวลาที่เราสองคนเรียนที่อเมริกาเราใช้เวลาว่างอยู่ด้วยกันเสมอไม่เธอบินไปหาเค้าก็บินมาหาเธอจากเดือนเป็นปีจากปีเป็นหลายปี……
…..เราสองคนไม่เคยคุยกันถึงเรื่องของสถานะที่เราเป็นอยู่ไม่เคยจำกัดคำนิยามหรือขีดเส้นกำกับเราอาจเป็นเพียงเพื่อนดังเราบอกใครต่อใครเมื่อมีใครถามถึงสถานะระหว่างเราสองคน แต่เธอมั่นใจในความรู้สึกของเธอพอๆกับไม่มั่นใจในความรู้สึกของเค้า และเธอไม่เคยพูดมันออกมาพอๆกับที่ไม่เคยถามมันออกไป เหมือนเราสองคนพอใจที่จะให้เป็นเช่นนี้…ให้การกระทำแสดงออกแทนคำพูด…..จนวันนั้นวันก่อนวันคริสมาสต์ปีสุดท้ายในการเรียนมหาวิทยาลัยของเธอ แทยอนบินมาหาเธอที่นิวยอร์ก คืนนั้นเราสองคนไปเดินเล่นกันที่ริมแม่น้ำเพื่อชื่นชมความงามของอนุสาวรีย์ “เทพีเสรีภาพ” และความสวยงามจากไฟและแสงสีต่างๆที่ประดับประดาเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ถึงชั่วโมง
“สิก้าคะ….มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน เดี๋ยวปีหน้าถ้าสิก้ากลับเกาหลีแล้วสิก้าก็คงไม่มีเวลาว่างมา ฉลองคริสมาสต์กับแทอีก นะคะ…นะคะ มาถ่ายรูปกัน แล้วเก็บไว้คนละใบจะได้เอาไว้ดูเวลาที่เราคิดถึงกันไง”
วันนั้นแทยอนยิ้มแล้วลากแขนของเธอเพื่อไปถ่ายรูปคู่ซึ่งมีฉากหลังเป็นอนุเสาวรีย์เทพีเสรีภาพที่ถูกประดับประดาด้วยไฟหลากสีอย่างดงาม จริงๆแล้วเราก็มีรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กันมากมายแต่รูปคู่ใบนั้นทำให้เธอคิดถึงช่วงเวลาดีๆที่เรามีร่วมกันในคืนวันคริสมาสต์อีฟ……
….. บึ้มมมมม เสียงของการจุดพลุเพื่อเฉลิมฉลองดังขึ้นพร้อมกับพลุที่ถูกจุดขึ้นสว่างไสวเต็มท้องฟ้าในค่ำคืนของวันคริสมาสต์ คืนนั้นอากาศหนาวเย็นแต่คนสองคนที่ยืนมองพลุที่ถูกจุดขึ้นกลับอบอุ่นเพราะมือสองคู่ที่เกาะกุมกัน….สายตาสองคู่ที่เคยมองดูพลุที่กำลังกระจายเต็มท้องฟ้าค่อยๆหันกลับมาสบตากันและกัน….ใบหน้าเรียวสวยค่อยๆโน้มเข้ามาหากันอย่างเชื่องช้า…ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจซึ่งกันและกัน….พร้อมๆกับที่พลุชุดสุดท้ายได้ถูกจุดขึ้น…..
……..ริมฝีปากเรียวสวยของคนสองคนก็ประกบแนบสนิทพร้อมกับดวงตาที่ค่อยปิดลงพร้อมกันเพื่อซึมซับบรรยากาศในค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองของเทศกาลคริสมาสต์……..
.
.
.
.
.
หลังจากวันนั้นสถานะของเราสองคนก็คงเดิมและเธอเองก็เต็มใจให้มันเป็นเช่นนี้ เธอรู้ว่าความเจ็บปวดครั้งนั้นได้สร้างบาดแผลใดไว้ให้กับเค้าเธอไม่อยากเร่งรีบหรือบีบคั้นอะไร เธอหวังว่าเวลาและทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำจะสามารถเยียวยาและปลดปล่อยความกลัวที่อยู่ภายในใจของเค้าได้ในสักวัน…..และเมื่อถึงวันนั้นเธอจะบอกทุกความรู้สึกของเธอให้เค้าได้รับรู้…..แต่จากเหตุการณ์ในวันนี้เธอกลัวเหลือเกินว่าทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไปและสายไปเธอกลัวเหลือเกินว่าเธอจะไม่ได้บอกเค้าให้ได้รับรู้ถึงความรู้สึกนั้นที่เก็บอยู่ภายในใจตลอดมา…….
………ชั้นรักคุณนะ แทยอน………
TBC.
อ่าเหอะๆ ใครอ่านจบแล้วไปต้มมาม่ากินพร้อมกับไรท์เตอร์ก็ได้นะ
แม่ยกแทนี่ แม่ยกแทงสิก ก็ใจเย็นๆก่อนนะอย่าพึ่งใจร้อน ^^
อ่านแล้วอย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น