ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Taeny x Taengsic] Waiting Forขอชั้นรักคุณได้มั๊ย…..

    ลำดับตอนที่ #11 : ....................

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 56


    Chapter  10

     

     

    “เฮ้ย จริงดิ!!!”     เจ้าของร้านคอฟฟี่ช็อปร่างสูงร้องขึ้นอย่าตกใจหลังจากได้ฟังเรื่องราวที่สองพี่น้องตัวแสบได้เล่าให้ฟัง

     

    “จริงที่สุด ชั้นยังงงเลยเนี่ยแต่พอถามเจ้าตัวก็บอกไม่มีไรๆ พอซักไซ้มากเข้าก็หงุดหงิดซะงั้น”   ยูริพูดพร้อมกับคว้าเฟรนช์ฟรายส์ชิ้นโตขึ้นมากัดแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ

     

    “เนี่ย แค่ยุนแซวว่ากิ๊กนางแบบแล้วยังกิ๊กนางเอกด้วยหรอ แค่เนี๊ยพี่แทส่งสายตายังกับจะฆ่ายุนให้ตายเลยหละ”    ยุนอาพูดพร้อมกับทำท่าขุนลุกแล้วลูบแขนตัวเองไปมา

     

    “อืม……อย่างนี้มันต้องมีซัมติงชัวร์ ชั้นคอนเฟริม”   ซูยองพูดพร้อมกับทำท่าทางมั่นอกมั่นใจในความคิดของตัวเอง

     แต่ก่อนที่จะได้มีคนพูดอะไรขึ้นมาเสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น สามสหายหันไปมองที่ประตูพร้อมกันด้วยความแปลกใจเพราะเวลานี้ร้านได้ปิดแล้วคนที่เข้ามาใหม่คงจะไม่ใช่ลูกค้าเป็นแน่  เมื่อเห็นว่าผู้ที่เข้ามาใหม่เป็นใครทั้งสามก็ฉีกยิ้มรับทันทีโดยเฉพาะคุณหมอหัวเหม่งที่ฉีกยิ้มกว้างเป็นพิเศษทั้งหมดกล่าวทักทายกันด้วยความสนิทสนมคุ้นเคยก่อนที่ผู้มาใหม่ทั้งสองจะนั่งลงที่โต๊ะเดียวกัน

     

    “พี่ฮโย น้องซอ มาเหนื่อยๆดื่มไรก่อนมั๊ยเดี๋ยวชั้นไปทำมาให้”    ซูยองถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นผู้มาใหม่ทั้งสองนั่งลงเรียบร้อยแล้ว

     

    “ชั้นขอลาเต้เย็นแล้วกันนะ”   ฮโยยอนผู้ซึ่งเป็นพี่สาวของแทยอนและซอฮยอนเอ่ยขึ้น 

     

    “ซอขอชาเขียวเย็นแล้วกันคะพี่ซู”    หญิงสาวเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ  ทำให้คุณหมอหัวเหม่งซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามต้องนั่งอ้าปากค้างเพราะรอยยิ้มน้อยนั้นไปกระแทกหน้าของตนเต็มๆ ก่อนที่จะร้องโวยวายขึ้นมาด้วยเสียงอู้อี้เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรยัดเข้ามาในปากตนเองอย่างรวดเร็วความรู้ว่าไม่ใช่แค่เพียงอันเดียวที่ถูกยัดเข้ามาแต่เป็นทั้งกำมือ  และการกระนั้นได้เรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งโต๊ะให้ดังขึ้นทันที

     

    “ย๊า!!!  ยี่ยูลทำไยเนี่ย ยัดเยรนช์ยรายส์เย้ายาใยยากยุนยำไยยะ”  ยุนอาพูดพร้อมกับควานหากระดาษทิชชู่เพื่อที่จะรีบคายของในปากออกให้หมดก่อนที่มันจะติดคอตนเอง

     

    “เอ๊า ก็เห็นแกอ้าปากค้างอยู่นานแล้วนี่กลัวแมงวันจะบินเข้าปากไปซะก่อนเลยสงเคราะห์หาอะไรยัดเข้าไปให้แทนไง”   ยูริพูดทั้งๆที่ยังหัวเราะไม่หยุด

     

    “ยัดมาอันเดียวก็ได้ ไม่เห็นต้องยัดทั้งกำเลย ถ้ามันติดคอยุนหายใจไม่ออกตายไปจะทำไงอะ…..น้องซอดูสิพี่ยูลแกล้งพี่อ่า”    ผู้น้องยังคงพูดตัดพ้อด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดก่อนที่จะหันไปทำน้ำเสียงออดอ้อนใส่คนตรงข้ามให้ผู้ร่วมโต๊ะคนอื่นได้หมั่นไส้

     

    “แกอยากกินมันฝรั่งอีกซักกำมั๊ยยุนอา”   เสียงเรียบๆที่ถามขึ้นทำให้คุณหมอยุนอาต้องหยุดชะงักแล้วกลืนน้ำลายลงคอทันทีก่อนที่รีบปฏิเสธเสียงรัวแล้วหัวเราะแห้งๆออกไป

     

    “มไม่ แล้วคะพี่ฮโย  พอดียุนอิ่มแล้ว  แหะๆ”   

    บ้านนี้หวงน้องสาวทั้งบ้านเลยแห๊ะ….คุณหมอหัวเหม่งได้แต่คิดในใจเบาๆ

     

    “ว่าแต่ ที่พวกแกโทรตามชั้นกับน้องซอมานี่มีธุระอะไร หรือจะชวนมากินข้าวเย็นด้วยเฉยๆ”   ผู้เป็นพี่ใหญ่สุดในร้านถามขึ้นทันทีเมื่อครบองค์ประชุม

     

    “กก็ ไม่มีไรอะพี่ฮโย  ยูลเห็นว่าเราไม่ค่อยได้เจอกันก็เลยคิดถึงแค่นั้นเอง”

     

    “แล้วทำไมพวกแกต้องโทรนัดในวันที่แทยอนไม่อยู่ด้วย”  

    ฮโยยอนถามออกไปพร้อมกับหรี่ตาอย่างจับผิดทำให้สามแสบต้องสะดุ้งเฮือก….ทำไมเธอจะไม่รู้ด้วยความที่สนิทกันมากแม้เธอและสามแสบนี้จะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนักแต่ถ้าโทรนัดกันมาโดยที่คนใดคนหนึ่งไม่อยู่นั่นก็แปลว่าตอนนี้คนที่เหลือกำลังต้องการรู้เรื่องอะไรบางอย่างของคนๆนั้นแน่นอน

     

    “ว่าไงหละ มีอะไรอยากเล่ารึป่าว”  

     

    “กก็ ไม่มีไรอะพี่ฮโยแค่….เมื่อเช้านางเอกสาวทิฟฟานี่ฮวัง ไปหาไอ้แทที่ห้องพักแพทย์เท่านั้นเอง”  

     

    คำตอบที่ออกมาจากปากยูริทำให้ทั้งฮโยยอนและซอฮยอนต้องรีบหันไปสบตากันทันทีก่อนที่ทั้งสองสายตาจะแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว และการกระทำนั้นก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของคนทั้งสามไปได้

     

    “ เค้าไปหาพี่แททำไมคะ”     ซอฮยอนเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสะบัดเล็กน้อย สร้างความแปลกให้ให้กับผู้ฟังเป็นอย่างมากเพราะโดยปกติแล้วน้องเล็กคนนี้จะมีนิสัยเรียบร้อยอ่อนโยนและอ่อนหวานแทบจะไม่เคยหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียกับผู้ใดเลย

     

    “อ่าเอ่อ  พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พอถาม พี่แทก็บอกแค่ว่าแวะมาหาเพราะพี่แทเค้าเคยรักษาข้อเท้าให้ วันนี้เธอว่างเลยมาให้พี่แทเช็คซ้ำอีกครั้ง…..แหะๆ”    ยุนอาตอบพร้อมกับหัวเราะแห้งๆออกไปเมื่อเห็นสีหน้านิ่งๆของคนตรงหน้า

     

    “เราสามคนคิดว่าต้องมีซัมติงอะไรกันแน่เลย  พี่ฮโยกับน้องซอลองคิดดูนะ ไอ้แทพึ่งกลับมาได้ปีกว่าๆ พอกลับมามันก็ทำงานตลอดพอถึงเวลาว่างถ้ามันไม่อยู่กับเราก็ไปอยู่กับคุณเจสสิก้าตลอดไม่เคยมีข่าวคราวหรือท่าทีที่มันกับคุณทิฟฟานี่จะรู้จักกันเลย  แล้วร้อยวันพันปีก็ไม่เคยเห็นคุณทิฟฟานี่ไปที่โรงพยาบาลแต่พอโผล่ไปเท่านั้นกลับถามหาไอ้แททันทีแล้วนี่ยังไม่พอนะเค้าพูดกันว่าพอเธอเจอไอ้แทเท่านั้นแหละรีบเดินเข้าไปหาโดยไม่สนใจว่าใครจะมองใครจะจำเธอได้เลย”   ยูริพูดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีสองแสบที่เหลือคอยพยักหน้าอย่างสนับสนุน

     

    “แล้วยังไงหละชั้นยังไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน ก็แทเคยรักษาข้อเท้าให้เค้าแล้วเค้ากลับมาเช็คซ้ำเค้าก็ต้องถามหาแทสิเพราะแทเป็นคนรักษาให้เค้านี่”     ฮโยยอนพูดพร้อมกับยักไหล่เล็กๆอย่างไม่สนใจแล้วคว้าลาเต้เย็นขึ้นมาดูด

     

    “แหมพี่ถ้าแค่มาเช็คข้อเท้าอะ หมอคนไหนเช็คให้ก็ได้แล้วอีกอย่างอะไอ้แทไปรักษาให้เค้าจริงรึป่าวก็ไม่………

     

    “แต่ซอว่าพวกพี่คิดมากจนเกินไปนะคะ ก็อย่างที่พี่ฮโยว่าไม่แปลกหรอกค่ะที่เค้าจะถามหาพี่แท แล้วอีกอย่างวันที่พี่แทรักษาข้อเท้าให้เค้าซอก็อยู่ด้วย”  

    ซอฮยอนขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทำให้สามแสบต้องเงียบกริบ

     

    “นั่นสิชั้นว่าเราสามคนเอาเวลาไปทำงานของตัวเองให้เต็มที่ก่อนดีกว่า หรือ….ถ้าแกสองคนว่างมากก็บอกได้นะชั้นจะได้ให้พวกแกรับผิดชอบห้องฉุกเฉินด้วยจะได้ไม่ว่างมานั่งจับผิดใคร”

     

    น้ำเสียงที่ออกมาแม้จะดูสบายๆแต่ก็ทำให้ผู้ฟังต้องสะดุ้งเฮือกก่อนที่จะรีบส่ายหน้าปฏิเสธโดยเร็ว….ถึงแม้พวกเค้าจะสนิทกับฮโยยอนมากแค่ไหนแต่ก็ยังไม่ลืมว่าฮโยยอนเป็นถึงผู้บริหารโรงพยาบาลที่ตนเองทำงานอยู่และมีอำนาจหน้าที่สั่งงานพวกเค้าได้โดยตรง….แค่งานห้องตรวจโรคทั่วไปก็หนักหนาสาหัสแล้วถ้ายังต้องมารับผิดชอบห้องฉุกเฉินอีกงานนี้ยูลยุนต้องตายแน่ แค่คิดก็สยองแล้ว บรึ๋ยยยยยย

     

    “อเอ่อ ยูลว่าเราอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้  มันอาจไม่มีอะไรจริงๆก็ได้เน๊อะ ว่ามั๊ยๆ   แหะๆ”  

     

    พูดแล้วรีบหันพยักเพยิดให้สองแสบที่เหลือสนับสนุนความคิดของตัวเองซึ่งทั้งสองก็รีบพยักหน้ารับทันทีพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆกลับมา…….แล้วการสนทนาหลังจากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องไปทันทีตลอดการรับประทานอาหารมีเสียงหัวเราะเฮฮาอยู่ตลอดเวลาเมื่อยุนอายังกล้าหยอดซอ ฮยอนให้ฮโยยอนต้องทำหน้าดุใส่อย่างไม่จริงจังนักเป็นระยะๆ จนสองพี่น้องขอตัวกลับไปก่อนเพราะซอฮยอนต้องรีบกลับไปพักผ่อนตอนสี่ทุ่มซึ่งเป็นเวลาพักผ่อนตามปกติของเธอ

     

    “ชั้นว่ามันต้องมีซัมติงชัวร์  แล้วทั้งสองคนนั้นต้องรู้อะไรด้วยแต่ไม่ยอมบอกเรา”    

     

    ซูยองพูดขึ้นมาเมื่อเหลือเพียงแค่สามคนซึ่งสองพี่น้องก็พยักหน้ารับทันทีอย่างเห็นด้วยก่อนที่ทั้งสามจะมองตาอย่างรู้กันแล้วตะโกนขึ้นพร้อมกันทันที

     

    “อย่างนี้มันต้องสืบ!!!!!!!!

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    “ว่าไงนะ มีถ่ายฉากในโรงพยาบาลสองสามวันหรอ กองถ่ายเลือกโรงพยาบาลไหน Kim Hospital รึป่าว”  

     

    ทิฟฟานี่ร้องถามเพื่อนสาวอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าจะมีถ่ายละครในโรงพยาบาลในอีกสองวันข้างหน้า เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นโรงพยาบาลที่คุณหมอตัวเล็กทำงานอยู่ เพราะตั้งแต่วันที่เธอไปพบเค้าที่โรงพยาบาลก็ผ่านมาสองสามวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอเค้าอีกเลยเพราะเธอติดถ่ายละครตลอดกว่าจะเลิกกองก็ดึกดื่น จะไปหาเค้าก็คงกลับบ้านไปแล้วจะรอว่าเค้ามีเข้าเวรดึกวันไหนก็ไม่รู้วันจึงต้องนับวันรอให้ตนเองมีเวลาว่างจะได้เดินหน้าเข้าให้คุณหมอตัวเล็กอีกครั้ง

     

    “ว่าไงหละซันนี่ โรงพยาบาลไหน”    นางเอกสาวถามอย่างใจร้อนเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวตัวเล็กของเธอยังคงนั่งก้มหน้าก้มตาดูตารางงานของเธออยู่โดยไม่มีท่าทีสนใจจะตอบเธอ

     

    “อะไรย๊ะ ทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้นด้วย เผื่อใจไว้บ้างนะยะโรงพยาบาลในโซลมีเป็นร้อย ผิดหวังขึ้นมาจะได้ทำใจรับทัน”    ซันนี่อดจิกกัดไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางน่าหมั่นไส้นั้นของเพื่อนสาว

     

    “แล้วตกลงโรงพยาบาลไหนหละ”    นางเอกสาวถามกลับด้วยน้ำเสียงอ่อยๆและใบหน้าที่งอง้ำ

     

    Kim Hospital”       ซันนี่ตอบพร้อมกับยังไหล่น้อยๆอย่างไม่สนใจ แต่คำตอบนั้นกลับเรียกรอยยิ้มกว้างจนตาปิดของนางเอกสาวสวย

     

    “จริงหรอ  เธอไม่หลอกชั้นแน่นะ จริงๆนะซันนี่”

     

    “ย่ะ อะนี่รายละเอียดเอาไปดูเลย ทางกองถ่ายพึ่งส่งมาให้ชั้นเมื่อเช้า”   ซันนี่พูดพร้อมกับส่งปึกกระดาษให้นางเอกสาวได้อ่านทำความเข้าใจ

     

    “แล้วไม่ต้องมายิ้มดีใจขนาดนั้นเลย ไปเจอเค้าพยายามทำคะแนนให้เป็นบวกหละย๊ะ ไม่ใช่หาเรื่องให้ตัวเองติดลบ เธอเข้าใจที่ชั้นพูดใช่มั๊ยฟานี่”

     

    คำพูดของเพื่อนสาวตัวเล็กทำให้ทิฟฟานี่ต้องคิดตามทันที  แต่เธอจะทำยังไงได้หละในเมื่อนิชคุณเป็นผู้สนับสนุนทุนและเค้าก็มีสิทธิ์ที่จะมากองถ่ายได้ตลอดเวลาแล้วถ้าเค้ามาเธอคงจะเลี่ยงเค้าได้ยากแล้วถ้าแทยอนมาเห็นความสนิทสนมระหว่าเธอกับเค้าคะแนนเธอต้องติดลบลงไปอีกแน่ๆ…..เฮ้อ…..คิดแล้วก็ปวดหัว แต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีนี่ถ้าให้เลี่ยงคงเลี่ยงยากงั้นใช้วิธีนี้แล้วกันนางเอกสาวคิดริมฝีปากสวยค่อยแย้มยิ้มออกมา

     

    “ยิ้มออกมาหนะ คิดได้แล้วหรอ”

     

    “แน่นอนย่ะ”     ริมฝีปากบางสวยยังคงแย้มยิ้มเมื่อตอบเพื่อนสนิท

     

    “อะไรหละ แต่เธอคงเลี่ยงเค้ายากอยู่หรอกนะ ถ้าเค้าจะไปหาเธอหนะ”

     

    “เลี่ยงไม่ได้ก็ไม่ต้องเลี่ยงสิ ก็เจอกันไปเลย”

     

    “เธอจะบ้ารึป่าวฟานี่ ข่าวของเธอกับนิชคุณก็ออกจะดังแล้วยังไปเห็นแบบนั้นอีก ชั้นว่าเค้าคงคิดว่าเธอกับคุณนี่ของเธอเป็นแฟนกันแน่ๆ  แล้วเธอยังจะไปทำให้เค้าเห็นเต็มตาอีกรึไง!!!

     

    “ก็ในเมื่อมันเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็คงต้องเจอ  แต่ก็ใช่ว่าชั้นจะอยู่กับเค้าสองต่อสองเมื่อไหร่กัน….เธอ ซันนี่…..เธอต้องเป็นไม้กันหมาให้ชั้น”    ริมฝีปากบางสวยส่งรอยยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาน้อยเมื่อเห็นหน้าเพื่อนสนิท

     

    “ชั้นเนี่ยนะ!!!  โอ๊ยอยากจะบ้าตายจริงๆ”

    …………หวังว่ามันคงจะไม่ผิดแผนที่เธอคิดไว้หรอกนะฟานี่…………

    .

    .

    .

    .

    .

    “ มีถ่ายละครที่โรงพยาบาลเรานี่นะ!!!

     

    “ใช่แล้ว….แล้วแกจะเสียงดังไปทำไม”   ยูริเอ่ยขึ้นหลังจากที่เล่าเรื่องราวที่ได้ยินจากพยาบาลสาวๆที่พูดกันอย่างตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าอีกสองวันข้างหน้าจะมีกองถ่ายละครมาถ่ายทำที่โรงพยาบาลที่พวกเค้าทำงานอยู่…..หลังจากที่ได้ฟังรายละเอียดคร่าวๆและมีเวลาว่างพอก็รีบวิ่งแจ้นมาชวนญาติผู้น้องและเพื่อนสนิทมานั่งดื่มกาแฟในร้านกาแฟของโรงพยาบาลทันที

     

    “เรื่องอะไร แล้วใครเป็นนางเอกอะพี่ยูล”    คุณหมอยุนอาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นที่ปิดไม่มิด

     

    “เรื่องอะไรไม่รู้ รู้แต่……ทิฟฟานี่ฮวัง เป็นนางเอก”    พูดเน้นเสียงแล้วแกล้งส่งสายตาล้อเลียนไปยังคุณหมอตัวเล็กที่กำลังนั่งจิบกาแฟฟังอย่างเงียบๆ

    คิมแทยอนเหลือบตาจากถ้วยกาแฟขึ้นมามองเพื่อนเล็กน้อยก่อนที่จะก้มลงจิบกาแฟต่อด้วยใบหน้าเรียบเฉยโดยไม่พูดอะไรออกมา

     

    “กรี๊ดดดด ทิฟฟานี่เป็นนางเอก ขนาดวันนั้นเห็นแค่ไกลๆยังสวยขนาดนั้น แล้วถ้าเห็นใกล้ๆหละ โอ๊ยยยยยุนไม่อยากจะคิด”   คุณหมอยุนอาพูดพร้อมกับทำตาลอยคล้ายคนกำลังเพ้อฝัน

     

    “ชั้นก็ไม่อยากจะคิดว่าถ้าน้องซอรู้ว่าแกเป็นแบบนี้จะว่ายังไง”   น้ำเสียงเรียบๆที่เอ่ยออกมาของคุณหมอตัวเล็กทำให้คนฟังต้องชะงัก….ฝันของคุณหมออิมยุนอาสลายลงทันทีที่ได้ยินชื่ออันทรงอำนาจนั้น ก่อนที่จะรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้ตนเองรอดพ้นวิกฤตที่ (ยังไม่) เกิดขึ้น

     

    “โหย….พี่ฮโยไม่เห็นบอกอะไรเราเลยอะ วันนั้นก็ไม่เห็นพูดอะไร อุ๊บ!!!”   ยุนอาบ่นออกมาก่อนจะนึกได้ว่าหลุดปากเรื่องที่เคยนัดฮโยยอนและซอฮยอนไปถามเรื่องของแทยอนกับทิฟฟานี่โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ เมื่อเห็นสายตาที่ยูริถลึงมองมาจึงรีบเงียบและปิดปากลงทันที…..

    คุณหมอตัวเล็กหรี่มองยังเพื่อนและรุ่นน้องที่กำลังทำท่าลุกลี้ลุกลนอย่างจับผิดแต่ก็ยังคงไม่พูดอะไรออกมาก่อนที่จะถอนหายใจและก้มหน้าลงจิบกาแฟต่อไป

     

    “เอ่อไอ้แท แกรู้เรื่องที่จะมีกองถ่ายละครมาถ่ายทำที่โรงพยาบาลเราป่าว พี่ฮโยได้บอกแกมั๊ย”      ยูริถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กของตนไม่พูดอะไรออกมา

     

    “รู้ พี่ฮโยบอกแล้ว”    น้ำเสียงเรียบนิ่งตอบอย่างไม่ได้สนใจอะไร….เค้ารู้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนแล้ว….สองวันก่อนเมื่อเค้ากลับไปนอนที่บ้านหลังจากนอนที่คอนโดของตนเองมาหลายวัน เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าบ้านฮโยยอนก็เรียกเค้าไว้แล้วบอกเรื่องนี้ให้เค้ารู้คร่าวๆ  เค้าเองก็ได้แต่พยักหน้ารับรู้และถอนหายใจเพียงเบาๆ

           

                    ………เฮ้อ  ยิ่งไม่อยากจะเจอยิ่งได้เจอสินะ………

     

    “รู้แล้ว….แล้วแกก็ไม่บอกพวกชั้นนี่นะ!!!!!”   ยูริโวยวายเสียงดังเมื่อเห็นว่าเรื่องสำคัญขนาดนี้เพื่อนตัวเล็กของเค้ายังปิดปากเงียบไม่บอกไม่กล่าวกันเลย

     

    “ก็ไม่เห็นมีอะไรสำคัญนี่….แล้วแกก็เลิกโวยวายได้แล้ว….แล้วนี่มีอะไรอีกมั๊ย ถ้าไม่มีชั้นจะได้รีบไปทำงาน แกสองคนก็ไปทำงานได้แล้ว อย่าอู้เดี๋ยวชั้นก็สั่งตัดเงินเดือนซะหรอก”    พูดเสร็จก็ลุกขึ้นและเดินออกไปทันทีทิ้งให้สองพี่น้องนั่งอ้าปากค้างก่อนจะนึกได้เรื่องจะโดนตัดเงินเดือนจึงรีบพากันวิ่งตามแทยอนเข้าไปภายในตึกของโรงพยาบาลทันที

     

    “ไอ้แท  /  พี่แท รอด้วยดิ!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×