คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro....
มันนานเท่าไหร่แล้วนะจากวันนั้น เกือบแปดปีแล้วสินะ….
“พี่แทคะ…. มัวเหม่ออะไรอยู่ไปดูทางนั้นกันเถอะคะ ดูเหมือนเค้าจะมีการถ่ายละครกันอยู่ด้วยหละ” เสียงน้องสาวตัวสูงกว่าทำให้คุณหมอสาวร่างเล็กแต่มีใบหน้าเด็กกว่าวัยต้องละจากภวังค์แล้วหันมาส่งยิ้มให้น้องสาวของตนเอง
“เป็นไรหละเรา โตจนจะเป็นสัตว์แพทย์อยู่แล้วนะ ยังบ้าดาราเหมือนเด็กๆอยู่ได้” คุณหมอร่างเล็กเอ่ยแซวน้องสาวอย่างใจดี ก็ดูสิมีอย่างที่ไหนโตจนสูงกว่าพี่แล้วยังจะลากพี่ไปร่วมเป็นเกาหลีมุงดูกองถ่ายละครอยู่ได้ แทยอนคิดพลางส่ายหัวช้าๆ จริงอยู่ที่เค้ากลับมาอยู่เกาหลีได้ปีกว่าแล้วแต่เค้าก็ไม่ใช่คนที่จะดูละครหรือรู้จักดาราคนไหนหรอกนะ เพราะงานที่ทำและความรับผิดชอบที่มีจึงทำให้เค้าไม่มีเวลาที่จะไปดูละครก่อนข่าวหรือหลังข่าวหรอก ก็งานศัลยแพทย์รวมไปถึงตำแหน่งรองผู้อำนวยการบริหารงานโรงพยาบาลของครอบครัวทำให้เค้าเองแทบจะไม่มีเวลาว่างเลยหนะสิ นอกจากห้องผ่าตัด ห้องพักแพทย์ คอนโด และโรงพยาบาลแล้ว ก็แทบจะไม่ได้ไปไหนเลย
“แหม… พี่แทคะ นานๆทีจะมีเวลาว่างออกมาเดินเล่นกับน้องสาว ตามใจน้องบ้างสิคะ” น้องสาวคนเล็กแต่ตัวโตกว่าเอ่ยแซวพี่สาวกลับ
“ซอก็แค่อยากเห็นดาราบ้างแหละคะ ว่าจะสวย หรือหล่อขนาดไหน ไม่ได้บ้าดาราซักหน่อย” พูดพลางดึงกึ่งลากพี่สาวเข้าไปเป็นเกาหลีมุงดูกองถ่ายละครซักเรื่องที่มาถ่ายทำที่สวนสาธารณะใจกลางเมืองคนน้องหนะไม่เท่าไหร่หรอกเพราะตัวสูงอยู่แล้ว แต่คนพี่นี่สิ ความสูงแค่ 162 163 ไม่ทำให้เห็นอะไรได้หรอกนะนอกจากแผ่นหลังกับหัวคนที่กำลังมุงดูอยู่
.”นั่นทิฟฟานี่ นิ ทิฟฟานี่ จริงๆด้วย ตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีกเนอะ ดูสิๆเธอ” เสียงพูดคุยด้วยความตื่นเต้นดังไปทั่วบริเวณ “ทิฟฟานี่”งั้นหรอคุณหมอร่างเล็กคิดในใจ อา…ทิฟฟานี่ นานแล้วสินะที่ไม่ได้ยินชื่อนี้ คงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น หรือ ถึงแม้ว่าจะโลกกลมบังเอิญเป็นคนเดียวกัน ก็คงไม่เป็นไรหรอก มันนานมาแล้วนี่ แล้วอีกอย่างมันก็ผ่านมาแล้ว ไม่ได้เจอหรือเกี่ยวข้องกันแล้วนับจากวันนั้น และที่สำคัญ
….ชั้นเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป ไม่ใช่คิมแทยอน คนนั้นอีกแล้ว….และอีกอย่างเธอคงลืมชั้นไปแล้วหละ……
“ว๊ายยยยยโครมมมมมกรี๊ดดดดดดน้องทิฟฟานี่” เสียงดังเหมือนอะไรซักอย่างล้มพร้อมทั้งเสียงกรี๊ดดด เสียงคนร้อง แสดงความวุ่นวายและเสียงเอะอะโวยวายทั้งในกองถ่ายและบริเวณเกาหลีมุง ทำเค้าให้ตื่นจากภวังค์ คงเกิดอะไรซักอย่างขึ้นในกองถ่ายนั่นแหละเค้าคิด แต่ยังไม่ทันได้รูถึงต้นสายปลายเหตุดีก็มีมือหนึ่งมาดึงกึ่งลากเค้าให้เดินไปในบริเวณกองถ่ายอย่างรวดเร็ว ยังจับใจความสำคัญไม่ได้ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“มีอะไรให้ช่วยมั๊ยคะ พี่สาวของชั้นเป็นหมอ….” เป็นน้องสาวตัวดีของเค้านั่นเองที่ลากเค้าเข้ามา แต่ก็อย่างว่าหละนะ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก คนเป็นหมอก็ต้องช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้วนี่นะ
“คุณเป็นหมอหรอคะ พอดีเลย เหมือนน้องทิฟฟานี่จะมีอาการบาดเจ็บ” เสียงใครซักคนพูดขึ้นแต่เค้ายังไม่ทันมองก็ถูกดึงเข้าไปในบริเวณที่เหมือนจะเป็นที่ส่วนตัวในกองถ่าย “ทางนี้เลยคะคุณหมอ ทางนี้เลย โอ๊ยยยยย เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้ไงเนี่ย ถ้าน้องทิฟฟานี่เป็นอะไรไปจะทำยังไง”
“คุณซันนี่คะ น้องทิฟฟานี่คะ คุณคนนี้เค้าว่าเค้าเป็นหมอคะ พี่เลยพาเค้าเข้ามาเผื่อจะช่วยอะไรได้”ใครซักคนเอ่ยขี้นใครบอกว่าเค้าบอกว่าตัวเองเป็นหมอ ยัยน้องสาวตัวสูงที่กำลังเดินตามหลังมาต่างหากที่เป็นคนพูด คุณหมอร่างเล็กคิดในใจแต่…. ไม่ทันได้รู้ตัวก็ถูกดึงมาอยู่หน้าใครบางคนซะแล้ว…..
คนนั่งอยู่บนเก้าอี้เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนที่ยืนอยู่และกำลังก้มมองมายังเธอพอดี…สองสายตาสบประสานกัน พร้อมกับอาการนิ่งอึ้งของคนทั้งคู่ “เหมือน เหมือนเธอคนนั้นเหลือเกิน” เสียงภายในใจคุณหมอร่างเล็กคิด “คุ้น คุ้น เหลือเกิน” เสียงภายในใจของนางเอกสาวคนสวยคิดแต่จะใช่เค้ารึป่าว เค้าคนนั้น คนที่อยู่ในความทรงจำที่แสนนาน แต่จะใช่เค้าแน่หรือ ถึงจะคุ้น แต่คนตรงหน้าที่กำลังก้มมองเธออยู่กลับหน้าตาดีเหลือเกิน
….ใบหน้าเรียวใสอ่อนวัย ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าสวยหรือหล่อกัน ไหนจะริมฝีปากบางได้รูปพร้อมผิวขาวจนแทบจะส่องแสงนั่นอีก แถมยังผมที่ไม่น่าจะยาวเกินไหล่ที่ถูกมัดรวบอย่างไม่ตึงให้ผมด้านหน้าได้ปล่อยลงมารับกับใบหน้าเรียวนั่นอีก แทบจะบอกได้ว่าคนตรงหน้านี้หน้าตาดีและดูดีมากกกก ในสายตาเธอ ไม่ทันได้คิดอะไรต่อจากนั้นอีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทำให้ดาราสาวถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย
“ดูเหมือนคุณจะบาดเจ็บที่ข้อเท้านะคะ ชั้นเป็นหมอ ขอชั้นดูข้อเท้าคุณหน่อยนะคะ…” คุณหมอร่างเล็กพูดพร้อมกับนั่งคุกเข่าด้านหนึ่งลงและส่งยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มประจำตัวของเค้าที่เคยได้ยินพยาบาลพูดลับหลังเสมอๆว่า อบอุ่นบ้างหละ อ่อนโยนบ้างหละ ทำใจละลายบ้างหละ แต่เค้าก็ไม่ได้สนใจหรือหลงดีใจไปกับคำพูดเหล่านั้น เค้าแค่ยิ้ม ยิ้มออกมาจากใจด้วยความจริงใจเท่านั้นเอง แต่คุณหมอล่างเล็กคงไม่รู้หรอกว่าตอนนี้รอยยิ้มของเค้าได้ทำให้คนตรงหน้าเกิดอาการใจกระตุกพร้อมเต้นโครมคราม และนิ่งค้างไปกับรอยยิ้มของเค้าเข้าให้แล้ว
“ข้อเท้าคุณน่าจะเคล็ดและมีอาการบวมเนื่องจากถูกสิ่งของหล่นทับ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงกระดูกไม่หักหรือแตก แค่ประคบ นวดยา แล้วก็พันผ้าไว้ซักสามสี่วันก็น่าจะหาย” คุณหมอตัวเล็กพูดพร้อมกับนำผ้าที่แช่น้ำเย็นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้มาประคบที่ข้อเท้าของเธอ เพราะคนฟังมัวแต่นิ่งค้างจนไม่ได้ฟังอะไรพอรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คนพูดกำลังเอาผ้าเย็นประคบที่ข้อเท้าของเธออย่างเบามือ ตอนนี้คนที่บอกว่าเป็นคุณหมอกำลังประคบข้อเท้าของเธอพร้อมทั้งนวดเบาๆ และพูดอะไรอีกสักสองสามประโยคแต่เธอคงฟังไม่รู้เรื่องหรอกเพราะตอนนี้เธอกำลังก้มมองคุณหมอหน้าตาคนนั้นอยู่ แค่คิดว่าเค้าหน้าตาดี กับรอยยิ้มและการกระทำมี่แสนอ่อนโยนนั่นอีก แค่นี้ก็ทำให้คนเจ็บเกิดใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“น้องฟานี่ไม่สบายรึป่าวคะ หน้าแดงเชียว” เสียงแหลมของผู้กำกับหนุ่มที่มีใจเป็นหญิงดังขึ้นมาทำให้คนที่ถูกเอ่ยชื่อตกใจและคนที่กำลังใช้ผ้าเย็นประคบข้อเท้าเธออยู่เงยหน้าขึ้นมามองเธอเล็กน้อย
“เอ่อ ป่าว ป่าวคะ พี่ฮีชอลฟานี่ไม่ได้เป็นอะไร สงสัยแดดมันคงร้อนอ่ะคะ แล้วฟานี่คงตากแดดนานด้วย หน้าเลยแดง” นางเอกสาวสวยพูดอย่างตะกุกตะกักเล็กน้อย แต่ก็ทำให้คนอื่นๆคลายความแปลกใจลงได้
“พี่ก็ว่างั้นแหละคะ วันนี้ร้อนจริงๆ เฮ้ออออ เอ่อ คุณหมอคะ ข้อเท้าน้องฟานี่ไม่เป็นอันตรายอะไรแน่นะคะ” ผู้กำกับหนุ่มใจสาวถามขึ้นหลังจากบ่นให้ดินฟ้าอากาศครู่หนึ่ง
“ไม่เป็นอันตรายอะไรมากหรอกคะ ตอนนี้ชั้นนวดยาและพันผ้าไว้ให้แล้ว เพียงแค่คุณทิฟฟานี่อย่าเดินหรือใช้ข้อเท้าให้มาก และทางที่ดีควรอยู่นิ่งซักสองสามวัน อีกไม่เกินอาทิตย์ก็หายแน่นอนคะ” คุณหมอร่างเล็กพูดพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้คนตรงหน้าได้ใจกระตุกอีกครั้ง
“ถ้ายังไงคุณทิฟฟานี่ก็ควรพักผ่อนและอย่าเดินมากนะคะถ้าไม่จำเป็น เพราะแทนที่หายกลับจะเป็นหนักกว่าเดิมอีกนะคะ ยังถ้าไม่มีอะไรแล้วชั้นกับน้องสาวขอตัวก่อนนะคะ” คนหมอร่างเล็กพูดพร้อมกับส่งยิ้มแล้วเดินออกไปนั่นทำให้นางเอกสาวต้องรีบเอ่ยขึ้นมา
“เอ่อ ขอบคุณ นะคะ คุณหมอ เอ่อ คุณหมอ……”
“แทยอนค่ะ คิมแทยอน” พูดพร้อมกับส่งยิ้มอบอุ่นอีกครั้งพร้อมกับโค้งให้เล็กน้อยแล้วเดินตามน้องสาวออกไปข้างนอกบริเวณทันที โดยไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ คนถามได้นิ่งค้างไปแล้ว ไม่ใช่เพราะรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน แต่เป็นชื่อต่างหาก ชื่อที่ยังคงจำได้และติดค้างอยู่ภายในใจแม้เวลาผ่านไปนานแสนนานหลายความรู้สึกถาโถมหลังจากได้ยินชื่นนั้น เสียใจ เศร้าใจ ดีใจ และรู้สึกผิดในคราวเดียวกันจนไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรจึงทำได้แต่เพียงนิ่งค้างไว้เท่านั้น
“เป็นคนๆเดียวกันจริงๆด้วย เป็นเธอจริงๆ คนๆเดียวกันจริงๆ คิมแทยอน”
…………………………………………………………………………..
TBC
ความคิดเห็น