คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
Chapter 4
เสียงเคาะประตูห้องพักพิเศษดังขึ้นสองสามครั้งให้คนสามสี่คนที่กำลังเม้าส์แตกภายในห้องต้องเงียบเสียงลงก่อนจะพร้อมใจกันมองไปที่ประตูห้องที่กำลังเปิดออกเบาๆ ทันทีที่ประตูเปิดร่างบางของหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับส่งยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
เจสสิก้าเพ่งมองคนที่กำลังเดินส่งยิ้มเข้ามาอย่างใช้ความคิดก่อนดวงตาสวยหวานจะเบิกกว้างขึ้นพร้อมกับเอ่ยออกมาเสียงดังให้คนสามคนที่นั่งงงๆอยู่ต้องสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ
“ย….ย๊าส์ คุณนั่นเอง คุณ…..คุณ”
อิมยุนอายิ้มรับอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นหญิงสาวที่ตนเองตั้งใจเข้ามาหามีท่าทีจำเธอได้ หากแต่ใบหน้าสวยๆของบอดีการ์ดมือซ้ายคนสนิทของมาเฟียกลับยิ้มได้เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอ้าปากค้างด้วยความรู้สึกทึ่งและอึ้งในใจ เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของนักร้องสาวคนสวย
“คุณ…..คุณ ชื่ออะไรน๊ะหน้าคุ้นๆ เหมือนเราจะเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึป่าว”
อ้าว!! เห็นชี้ไม้ชี้มือทำท่าทำทางเหมือนจะจำได้แล้วนี่ยังไง ตกลงนักร้องสาวคนสวยคนนี้จำเธอได้หรือไม่ได้กันแน่เนี่ย ยุนอาได้แต่คิดกับตัวเองในใจเบาๆ
“ชั้นยุนอาค่ะ อิมยุนอา เราเคยเจอกันที่นิวยอร์กเมื่อเดือนที่แล้ว”
คำว่านิวยอร์กและเมื่อเดือนที่แล้วทำให้นักร้องสาวนึกถึงเรื่องราวบางอย่างได้ทันที ผู้หญิงคนนี้คนที่ส่งยิ้มและเข้ามาคุยกับเธอตอนที่เธอถูกจับตัวไปไม่ใช่สิต้องเรียกว่าบังเอิญได้ไปด้วยกันมากกว่า คนที่เรียกไอ้มาเฟียนั่นว่าพี่แทๆ
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนของไอ้มาเฟียเตี้ย คิมแทยอน
“ค…..คุณ คนที่อยู่กับไอ้มาเฟียบ้าลามกนั่น!!” นิ้วเรียวสวยชี้หน้าคนที่ยืนยิ้มฉีกยิ้มกว้างอยู่ด้วยท่าทางสั่นๆ
อะไร ผู้หญิงคนนี้เข้ามาหาเธอถึงที่นี่ทำไม? แค่เมื่อกี๊ที่เธอถูกไอ้บ้านั่นกอดบนเวทีก็แทบจะเป็นลมอยู่แล้ว และนี่มันอะไรกันอีก คงไม่ใช่ส่งลูกน้องเข้ามาเก็บเธอข้อหาแอบจิกด่าในใจหรอกนะ?
“โอ๊วววว คุณเป็นผู้หญิงคนแรกเลยนะเนี่ยที่เรียกพี่แทว่า ไอ้มาเฟียบ้าลามกสุดยอดจริงๆ”
คนถูกชี้หน้ายังคงทำหน้าตาอารมณ์ดีไม่ทุกข์ร้อนกับคำเรียกขานที่ได้รับ ตรงกันข้ามกลับยังมีหน้ามาชื่นชมกับสรรพนามใหม่ของเจ้านายตัวเองอีกต่างหาก
“ว……ว่าแต่ เธอรู้จักผู้หญิงคนนี้หรอ สิก้า”
น้ำเสียงสั่นๆของเพื่อนสนิทตัวเล็กเอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้นมา ความจริงเธอจำผู้หญิงสวยๆคนนี้ได้เธอรู้ว่าเค้าคงจะเป็นหนึ่งในคนสนิทของมาเฟียชื่อดังคนนั้น เพราะตอนที่มาเฟียคนนั้นเดินขึ้นมาบนเวทีเธอเห็นผู้หญิงคนนี้และผู้หญิงอีกคนก็เดินตามขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“ไม่รู้จักหรอก รู้แต่ว่าเป็นพวกเดียวกับไอ้มาเฟียบ้านั่น”
คำตอบของนักร้องสาวทำให้คนที่ถูกเอ่ยหัวเราะขึ้นมาด้วยความขบขัน ก่อนจะหันไปแนะนำตัวกับคนสามคนที่เหลือด้วยท่าทีที่เป็นทางการขึ้นแต่ยังไม่วายเอ่ยแซวนักร้องสาวอย่างอารมณ์ดี
“อย่างที่เพื่อนคุณบอกนั่นแหละ ชั้นชื่อ อิมยุนอา เป็นคนสนิทของคุณ คิมแทยอน คนที่เพื่อนคุณเรียกว่าไอ้มาเฟียบ้านั่นแหละค่ะ”
“ล…..แล้วคุณยุนอามีธุระอะไรกับเราหรือคะ” ทันทีที่ผู้จัดการสาวร่างท้วมถามจบคนถูกถามก็ส่ายหัวรัวๆปฏิเสธทันที
“ชั้นไม่ได้มีธุระอะไรกับพวกคุณหรอกค่ะ ชั้นมีธุระแค่กับคุณเจสสิก้าคนเดียว^^ ”
คำตอบของหญิงสาวร่างสูงทำให้ผู้ถูกพาดพิงถึงกับสะดุ้งขึ้นมาทันที ใบหน้าหวานๆส่ายไปมาอย่างไม่อยากยอมรับธุระที่จู่ๆก็ถูกยัดเยียดให้โดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวผู้ได้ชื่อว่าเป็นมือซ้ายคนสนิทของมาเฟียชื่อดังหัวเราะด้วยความขบขันกับท่าที่ตื่นๆของนักร้องสาว ก่อนมือเรียวจะหยิบบางสิ่งบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทตัวหรูแล้วยื่นมันให้กับหญิงสาวตรงหน้า
“อะไรอะ?” คำถามสั้นๆหากแต่ไม่ได้รับคำตอบ เจสสิก้านิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจ จู่ๆผู้หญิงคนนี้ก็ยื่นกล่องอะไรไม่รู้ให้กับเธอ
ระเบิดรึป่าวก็ไม่รู้? นี่กะว่าเปิดปุ๊บระเบิดบั๊บกะเอาให้ไม่เหลือซากเลยใช่มั๊ย แล้วเรื่องอะไรเธอจะไปรับกันหละ
นักร้องสาวคนสวยส่ายหัวไปมาอย่างปฏิเสธไม่ยอมรับของที่คนตรงหน้ายื่นมาให้ แต่มีหรือที่คนถูกสั่งมาแล้วจะยอม มือบางของอิมยุนอาคว้าหมับเข้าที่มือนุ่มๆของนักร้องสาวโดยไม่ทันให้เจ้าของมันได้ตั้งตัว ก่อนจะยัดเยียดกล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมจัตุรัสสีน้ำเงินเข้มใส่มือหญิงสาวทันที
คนถูกยัดเยียดอ้าปากค้างอย่างตกใจก่อนจะสะบัดมือเร่าๆราวกับโดนของร้อน หากแต่เพียงออกฤทธิ์ออกเดชได้ไม่นานนักร้องสาวคนสวยก็นิ่งเงียบทันที เมื่อจู่ๆคนที่เคยอารมณ์ดีตรงหน้ากลับเลิกส่งยิ้มแล้วจ้องหน้าเธอเขม็งพร้อมกับเอ่ยคำพูดที่ทำให้คนฟังต้องขนตั้งชันด้วยความกลัว
“รับไปซะดีๆคุณเจสสิก้า ถ้าคุณ ไม่-อยาก-ตาย”
นิ่งสนิทแค่คำพูดเพียงคำเดียว……ไม่ใช่แค่เพียงนักร้องสาวคนสวยที่นิ่งคนอีกสามคนที่พยายามนั่งตัวลีบเงียบสงบปากสงบคำๆติดมุมห้องก็นิ่งไปเช่นเดียวกัน อิมยุนอายกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นคนตรงหน้าสิ้นฤทธิ์เดชคงต้องขอบคุณวิธีรับมือและคำแนะนำของคนที่สั่งเธอมา
เจ้านายของเค้าเดาไม่ผิดจริงๆ……….เจสสิก้าเป็นแบบที่แทยอนบอกไว้ทุกประการ
“โอ๊ะเกือบห้าทุ่มแล้วหรือนี่ คงต้องรีบกลับแล้วไม่งั้นเดี๋ยวพี่แทกับพี่ยูลจะรอนาน”
จู่ๆคนที่ทำหน้าเหี้ยมก็เปลี่ยนโหมดกะทันหันเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ติดอยู่ที่ผนังห้อง ใบหน้าเรียวสวยหันมาส่งยิ้มกว้างให้คนทั้งสี่ในห้องได้สะดุ้งอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขอตัวกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆเช่นเดิม
ไอดอลสาวและผู้จัดการวงมองตากันก่อนที่จะพร้อมใจกันอ้าปากค้างด้วยความงุนงงอย่างปรับอารมณ์ตามไม่ทัน
อะไรของมันเนี่ย!! เดี๋ยวโหดเดี๋ยวใจดีไอดอลตามไม่ทัน
หากแต่คนทั้งห้าภายในห้องยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาก็ต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้งเมื่อจู่ๆคนที่เดินไปถึงประตูแล้วก็หันหลังกลับมาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
“ม……..มีอะไรอีกหละ” เจสสิก้ากลั้นใจถามออกไปถึงแม้ในใจจะนึกกลัว
คงไม่ได้หันกลับมาแล้วชักปืนยิงเรียงคนหรอกนะ แค่ระเบิดก็ตายเรียบแล้วไม่ต้องมาใจดียิงซ้ำหรอก
“ไม่มีอะไรค่ะชั้นแค่จะบอกคุณว่าไอ้ที่พูดไปเมื่อกี๊ชั้นแค่ขู่คุณตามที่พี่แทบอกเท่านั้น หวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะคะคุณเจสสิก้า ^^ ”
ประตูห้องปิดลงพร้อมกับหน้าเหวอๆของคนทั้งห้า เจสสิก้าก้มลงมองกล่องกำมะหยี่ในมือตนเองอีกครั้งอย่างงงๆ หัวสมองกำลังคิดตรึกตรองถึงสิ่งที่คนที่พึ่งออกไปพูดถึง
แค่ขู่? อย่างที่พี่แทบอก? พี่แทบอก? พี่แทบอก? อ๊ะ!! งั้นผู้หญิงคนนั้นก็มาตามคำสั่งของไอ้มาเฟียบ้านั่นสิ ถ้าอย่างนั้น…….ไอ้กล่องนี่ อย่าบอกนะว่า…..
เร็วเท่าความคิดมือเรียวสวยเปิดกล่องที่ถืออยู่ทันทีก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อพบบางสิ่งบางอย่างอยู่ข้างในพร้อมกับการ์ดใบเล็กๆใบหนึ่ง ที่ปรากฏข้อความภาษาเกาหลีเขียนด้วยลายมือดูเป็นระเบียบลงชื่อผู้ส่งอย่างชัดเจน
พอดีชั้นเป็นคนไม่ชอบเพชร แล้วอีกอย่างได้มาแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปให้ใคร
ไหนๆเธอก็เคยใส่มันแล้วนี่ เธอก็รับผิดชอบมันไปแล้วกัน
K. Taeyeon
“โหหหหหห อะไรเนี่ย!!!”
เสียงตะโกนด้วยความตกใจทำให้คนที่สติหลุดไปแล้วสะดุ้งสุดตัวทันที ดวงตาหวานกวาดมองหน้าคนสี่คนที่ยืนรุมล้อมอยู่ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆด้วยความงุนงง
เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆคิมแทยอนก็ให้คนเอาเพชรที่ตัวเองประมูลได้ด้วยราคาสูงลิ่วมาให้เธอ ไอ้มาเฟียบ้านั่นคิดจะทำอะไร? คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเล็กน้อยก่อนที่เจ้าของร่างบางจะก้าวฉับๆไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย!! เดี๋ยวสิก้าจะไปไหน” หญิงสาวสี่คนร้องประสานเสียงกันทันทีก่อนที่มือยาวๆของซูยองจะคว้าต้นแขนของเพื่อนสาวไว้ได้ทัน
“ก็เอาเพชรนี่ไปคืนไอ้บ้านั่นหนะสิ ถามได้” คนถูกดึงตอบด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆอย่างคนที่กำลังโมโห
“ใจเย็นก่อนเจสสิก้า ป่านนี้ไอ้บ้าที่เธอว่านั้นกลับไปแล้วหละมั๊ง ชั้นว่าเค้าคงอยู่รอให้เธอเอาไปคืนอยู่หรอก”
เสียงเตือนของผู้จัดการทำให้คนที่อารมณ์ขุ่นมัวค่อยใจเย็นขึ้นหากแต่ก็ยังคงมีท่าทีฮึดฮัดอย่างขัดใจไม่หาย
“ว่าแต่………เธอไปรู้จักเค้าได้ยังไง คุณคิมแทยอนคนนั้นหนะ” คำถามสั้นๆจากแดนซ์ซิ่งควีนของวงดึงความสนใจให้กับคนที่เหลือได้คิดตามทันที
……..นั่นสินะเจสสิก้าไปรู้จักมาฟียชื่อดังคนนั้นได้ยังไงความจริงพวกเธอก็รู้สึกแปลกใจที่คิมแทยอนคนนั้นเลือกที่จะประมูลเครื่องเพชรที่เจสสิก้าสวมด้วยราคาสูงลิบลิ่ว ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเค้าไม่มีท่าทีสนใจที่จะประมูลเครื่องเพชรจากนางแบบคนใดเลย แล้วไหนจะท่าทีของทั้งสองคนตอนที่อยู่บนเวทีอีก
คนหนึ่งก็ทำท่าอย่างกับจะโอบกอดเพื่อนเธอทั้งๆที่เดินอ้อมไปปลดตะขอสร้อยคอจากทางด้านหลังก็ได้
ส่วนเพื่อนของเธอยิ่งไม่ต้องพูดถึง อย่าคิดว่าพวกเธอทุกคนไม่เห็นนะยืนตัวแข็งแต่ทำหน้าเคลิ้มยอมให้เค้าโอบกอดซะขนาดนั้น……..”
“เอ้าว่าไงหละย๊ะ” แล้วก็เป็นผู้อาวุโสที่สุดในห้องที่ขึ้นเสียงเร่งถามเมื่อเห็นคนถูกถามยังคงนิ่งเงียบ
“ก……ก็”
“ก็อะไร!!” เสียงสี่เสียงที่ดังมาจากคนสี่คนทำให้นักร้องสาวสะดุ้งด้วยความตกใจก่อนริมฝีปากเรียวสวยจะส่งยิ้มแหยๆ แล้วตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ
“ก็……..ไอ้คุณคิมแทยอนนั่นคือคนที่ลากชั้นไปด้วยเมื่อเดือนก่อนหนะสิ”
ห๊า!!!!!!!!!!!! ทั้งสี่คนที่เหลือพร้อมใจกันร้องลั่นด้วยความตกใจ
.
.
.
.
.
.
“พี่แทยุนถามอะไรหน่อยสิ ทำไมพี่แทต้องให้เพชรราคาแพงขนาดนั้นกับคุณเจสสิก้าด้วยยุนไม่เข้าใจ”
ทันทีที่ขึ้นมาบนรถยุนอาก็เอ่ยถามรุ่นพี่คนสนิทถึงสิ่งที่ตนไม่เข้าใจทันที
“นั่นสิแทยอน ชั้นก็ว่าจะถามคุณเหมือนกัน”
คำถามเดียวกันจากคนสนิทสองคนทำให้คนที่นั่งเหม่อมองไปนอกตัวรถอยู่ต้องหันหน้ากลับมาสบตาคนสนิททั้งสองทันที ริมฝีปากบางสวยของคนที่ถูกเอ่ยถามกระตุกยิ้มนิดๆก่อนจะเอ่ยตอบคำถามของคนสนิทด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“ก็ไม่ทำไมนี่ ชั้นไม่ได้อยากได้สร้อยเพชรพวกนั้นอยู่แล้วพวกแกก็รู้”
“เรื่องนั้นพวกเรารู้แทยอน แต่ที่พวกเราไม่รู้คือ ทำไมคุณถึงเลือกที่จะเอาเพชรนั่นไปให้กับผู้หญิงคนนั้น”
คนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยคำถามที่ทำให้คนที่มีหน้าที่ขับรถอยู่ต้องพยักหน้ารัวๆ อย่างเห็นด้วยเช่นกัน
คำถามสั้นๆหากแต่สื่อความหมายตรงตัวอยู่แล้วทำให้คนถูกถามต้องนิ่งไปทันที นั่นสินะทำไมเค้าต้องเอาสร้อยเพชรที่ต้องเสียเงินไปในราคาสูงลิ่วไปให้กับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้อย่างเจสสิก้า เครื่องเพชรราคาแพงระยับขนาดนั้นเค้าควรจะเก็บไว้เองหรือไม่ก็เก็บไว้เพื่อรอมอบให้คนที่คู่ควรกับมัน
แล้วใครหละคนที่คู่ควร?
เมื่อเกิดคำถามในใจภาพของหญิงสาวคนหนึ่งก็เข้ามาในความคิด คนที่เค้าเองก็ตกใจไม่เคยคิดว่าตัวเองจะนึกถึงคนที่คู่ควรกับเพชรน้ำงามเม็ดนั้น
หญิงสาวร่างบางในชุดเกาะอกสีขาวคนนั้น คนที่กำลังเยื้องย่างกายด้วยท่าทีงดงามอยู่บนเวที
คน…….ที่เป็นคนสวมใส่มันออกมา
อาการเงียบผิดปกติของผู้เป็นนายทำให้คนสนิททั้งสองคนมองสบตากันทันที เค้าทั้งคู่รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของผู้เป็นนายตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาจากหลังเวที คิมแทยอนผู้ไม่เคยจะสนใจร่วมประมูลเครื่องเพชรใดๆ กลับเลือกที่จะประมูลสร้อยเพชรน้ำงามด้วยราคาที่สูงลิ่วที่ถูกสวมใส่โดยนักร้องสาวคนสวยที่เค้าทั้งสองคนจำได้ทันที ไม่เพียงแค่เท่านั้นแทยอนยังทำในสิ่งที่ทำให้เค้าทั้งสองแปลกใจที่สุด คือการมอบเพชรราคาแพงเม็ดนั้นให้กับคนที่สวมใส่มันออกมาโดยไม่บอกเหตุผลใดๆ
หรือว่า………นี่กำลังจะบ่งบอกถึงสัญญาณที่ดี
“หรือว่าพี่แทสนใจเธอ?” เร็วเท่าความคิดคนที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่เอ่ยถามรุ่นพี่คนสนิทพร้อมกับส่งยิ้มกว้าง
“พูดอะไรของแกหนะยุน”
ถึงแม้จะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเช่นเคย หากแต่คิมแทยอนก็อดที่จะปฏิเสธไม่ได้ว่าคำถามสั้นๆ นั่นทำให้เค้าต้องนิ่งค้างไปอีกครั้ง
สนใจหรือ? ยัยผู้หญิงบ้าอย่างเจสสิก้าจองนี่นะ?
มาเฟียผู้ที่เคยเคร่งขรึมส่ายหน้าเบาๆ
เป็นไปไม่ได้หรอกที่เค้าจะสนใจยัยบ้านั่น
เค้าก็แค่……..เห็นว่าสร้อยเส้นนั้นเหมาะสมกับเธอ….เท่านั้นเอง
“ชั้นก็แค่ไม่อยากได้ แล้วก็ไม่รู้จะเก็บไว้ให้ใครก็เท่านั้น”
“คุณเลยยกสร้อยเส้นนั้นให้เธอสินะ แทยอน”
น้ำเสียงเรียบๆหากแต่เจือแววล้อเลียนอยู่ในทีของเพื่อนสนิททำให้คนถูกแซวต้องขมวดคิ้วบางๆอีกครั้ง ก่อนจะตอบกลับเพื่อนสนิทที่นั่งอมยิ้มอยู่ด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ หากแต่ฟังดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนักให้คนฟังทั้งสองต้องแอบอมยิ้ม
“ก็ใช่ แค่นั้น พวกแกมีปัญหาอะไรอีกมั๊ย!!”
.
.
.
.
.
.
.
กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มถูกหยิบขึ้นมาดูก่อนที่จะถูกวางลงอีกครั้งเป็นรอบที่ห้า เจสสิก้าจ้องมองกล่องสี่เหลี่ยมจตุรัสกล่องนั้นก่อนจะเบะหน้าด้วยความหมั่นไส้คนให้มา ถึงจะแอบเคลิ้มแอบหัวใจเต้นแรงกับเจ้าของใบหน้าขาวๆใสๆนั่นก็เถอะ แต่เธอก็นึกไม่ออกเลยว่าคนๆนั้นทำแบบนี้ทำไม
จะว่าให้เพราะความพิศวาสก็ไม่น่าจะใช่ เพราะขนาดหน้าเธอแค่ก็ยังแทบจะไม่อยากมองเลย หรือว่าเค้าจะตกหลุมรักเธอ? หญิงสาวส่ายหน้าทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ไม่มีทางหรอกที่คนขี้เก๊กถือตัวอย่างไอ้บ้านั่นจะตกหลุมรักเธอ แล้วเท่าที่เธอจำได้ก็คือไม่เคยมีสักครั้งที่เค้าและเธอจะอยู่ในบรรยากาศที่พาให้ตกหลุมรักกัน เพราะแค่เจอกันครั้งแรกก็พากันวิ่งหลบกระสุนหัวซุกหัวซุนซะแล้ว อ่อถ้าไม่นับรวมตอนอยู่ในตรอกแคบๆนั่นอะนะถึงแม้ว่าเธอจะแอบใจเต้นแรงก็เถอะ
มือบางหยิบกล่องกำมะหยี่ขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจวางมันลงที่เดิมแล้วล้มตัวลงนอนอย่างไม่อยากจะสนใจกล่องเจ้าปัญหานั่นอีก ถึงแม้ว่าของข้างในจะมีราคาแพงแต่เธอก็ไม่เคยอยากจะได้หรือเต็มใจที่จะได้มันเลย
หญิงสาวตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะคืนของสิ่งนี้ให้กับคนให้เธอมาถ้าเธอหากเธอและเค้าได้พบกันอีกครั้ง……….
.
.
.
.
.
.
.
วันหยุด!! วันพัก!! วันว่าง!! ไม่ต้องทำงาน!!
ถึงจะแค่สองวันก็เถอะ คงจะไม่มีอะไรที่เป็นสุขไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับหญิงสาวสี่คนที่ทำงานหนักทุกวันหลังจากที่คัมแบคอัลบัมใหม่ กลับบ้าน นอน กิน คงจะเป็นกิจกรรมที่พวกเธอทำได้ในขณะนี้และเธอเองก็เช่นกัน
ดวงตาหวานปรือขึ้นด้วยความงัวเงียเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์ส่องผ่านผ้าม่านเข้ามา ริมฝีปากบางอ้าปากหาวน้อยๆก่อจะลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาทำธุระส่วนตัวของตัวเอง
“อ้าวเจสซี่ตื่นแล้วหรอ ชั้นคิดว่าพี่จะตื่นสายกว่านี้นะเนี่ย” เสียงทักจากน้องสาวคนเดียวดังขึ้นหลังจากที่เห็นพี่สาวของเธอก้าวลงบันไดมา
จองคริสตัล หญิงสาววัย 19 ปี ที่มีหน้าตาสวยสดงดงามไม่ต่างผู้เป็นพี่สาวเลยแม้แต่น้อยและตอนนี้ก็กำลังเจริญรอยตามพี่สาวไปติดๆ เมื่อเจ้าตัวกำลังเป็นเด็กฝึกของบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีบริษัทเดียวกับพี่สาวและอีกไม่นานก็จะได้เดบิวส์
เจสสิก้ายิ้มให้น้องสาวคนเดียวก่อนจะเดินเข้าไปกอดและขยี้หัวน้องสาวเบาๆอย่างรักใคร่โดยมีสายตาของจองจินโมและจองกาอินเจ้าของบริษัทยักใหญ่อย่าง จอง กรุ๊ป มองตามลูกสาวทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอยู่ไม่ไกล
.
.
.
.
จองกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ที่รับขนส่งสินค้าทางเรือจากต่างประเทศงั้น?
คิมแทยอนยกยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นข้อมูลของบริษัทที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อขอเข้าร่วมทุนกับธุรกิจในเครือของตระกูลคิมที่เกาหลี ผู้บริหารสูงสุดของทุกธุรกิจในเครือคิมกรุ๊ปเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ ในห้องทำงานสุดหรูบนชั้นสูงสุดของตึกแฝด K เอนเตอร์ไพส์ตึกที่สูงที่สุดและหรูหราที่สุดในเกาหลีใต้
ความจริงเรื่องที่ทำให้คิมแทยอนต้องเดินมายังประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของผู้เป็นย่าและผู้เป็นมารดาไม่ใช่เพียงแค่ร่วมงานประมูลเพชรของ I.J กรุ๊ปเพียงอย่างเดียว หากแต่เค้ามีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นต้องจัดการ
“คุณจะอยู่จัดการเรื่องยุ่งๆที่เกาหลีอีกนานเท่าไหร่ แทยอน” คำถามนิ่งๆของเพื่อนสนิททำให้คนที่นั่งเอนหลังพักสายตาอยู่ต้องยกยิ้ม
“ก็สองสามเดือน” คำตอบเรียบๆ หากแต่คนฟังพยักหน้าน้อยๆอย่างเข้าใจก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“จริงสิแทยอนวันนี้คุณจะกลับเข้าไปพักที่บ้านรึป่าว?”
“อืม”
คำตอบคำเดียวสั้นๆหากแต่รอคอยคำตอบอยู่ก็เข้าใจ จริงอยู่ที่ตระกูลคิมมีบ้านพักอยู่เกือบทุกประเทศแต่บ้านหลังนี้ที่เกาหลีกลับเป็นบ้านที่คิมแทยอนรักที่สุด คฤหาสน์สไตล์เกาหลีโบราณบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ถึงแม้จะไม่ใหญ่โตกว้างขวางเทียบเท่าคฤหาสน์ที่ฮ่องกง หากแต่มันก็ยังคงใหญ่โตและกว้างขวางกว่าบ้านคนปกติทั่วไปอยู่ดี
ถึงแม้จะบอกว่าแทยอนรักบ้านหลังนี้มากแต่ก็ไม่บ่อยนักที่เจ้านายของเค้าจะพักที่บ้านหลังนี้โดยเฉพาะช่วงสองปีให้หลังมานี้ หากไม่จำเป็นจริงๆหรือหากไม่ใช่เพราะว่าต้องมาดูแลกิจการที่เกาหลีคิมแทยอนก็แทบจะไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้เลย แต่ถึงกระนั้นแทยอนก็ไม่ได้ปล่อยให้มันทรุดโทรมคฤหาสน์หลังนั้นยังคงได้รับการดูแลอยู่เสมอแม้ผู้เป็นเจ้าของแทบจะไม่ได้กลับเข้าไปอีกเลยหลังจากเรื่องราวคราวนั้น
.
.
.
.
“พี่แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ชั้นไปเป็นเพื่อน” คริสตัลมองหน้าพี่สาวที่แต่งกายอย่างมิดชิดด้วยเสื้อโค๊ดตัวโตมีฮูดคลุมศีรษะอยู่อย่างไม่สบายใจ
“โอ๊ยแน่ใจสิ พี่แค่ไปเดินห้างนะไม่ได้ไปรบสักหน่อยแค่นี้เองน่า แต่งตัวมิดชิดซะขนาดนี้ไม่มีใครจำได้หรอกน่า แล้วอีกอย่างวันนี้เธอต้องเข้าบริษัทไม่ใช่รึไง”
เจสสิก้าตอบน้องสาวด้วยรอยยิ้มก่อนจะยกแมสขึ้นมาปิดหน้าอีกชั้นหนึ่ง ความจริงเธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนักที่คริสตัลจะเป็นห่วงเธอขนาดนี้ นักร้องสาวชื่อดังของประเทศไปเดินห้างเพียงคนเดียวโดยไม่ผู้จัดการถึงแม้จะพรางตัวแค่ไหน แต่ถ้าเกิดมีคนจำได้ก็คงจะวุ่นวายเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน มือบางของนักร้องสาวคนสวยโบกให้น้องสาวที่ยืนทำหน้าไม่สบายใจอยู่หน้าบ้านน้อยๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะส่งยิ้มหวานให้อีกครั้งแล้วขับรถออกไป
ดวงตาหวานไม่แตกต่างจากพี่สาวนักมองตามรถ BMW สีขาวคันหรูที่พึ่งขับออกไปจนลับตาด้วยความเป็นห่วง ความรู้สึกลึกๆบางอย่างในใจกำลังทำให้เธอรู้สึกไม่ดี
หวังว่าพี่สิก้าของเธอคงจะไม่เป็นอะไรนะ……..
.
.
.
.
หลังจากที่กระหน่ำช๊อปปิ้งภายในห้างสรรพสินค้าสุดหรูใจกลางกรุงโซลจนหนำใจจนเวลาล่วงเลยไปจนเย็นย่ำโดยที่ไม่มีผู้ใดจำได้ ร่างบางของนักร้องสาวก็พาตัวเองเดินกลับมายังที่จอดรถพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ ริมฝีปากบางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีก่อนจะร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อจู่ๆก็มีผู้ชายสองคนโผล่มาดักอยู่หน้าเธอ
“พ……พวกแกเป็นใครหนะ”
คำถามสั่นๆออกจากริมฝีปากบางด้วยความตกใจและหวาดกลัว หากแต่ว่าผู้ชายหน้ากลัวสองคนนั้นกลับไม่ตอบคำถามใดๆ แต่กลับถามคำถามที่ทำให้เธอต้องแปลกใจคืนกลับมา
“คุณหนูจองสินะ”
“อะไร พวกแกเป็นใคร แล้วทำไมจำชั้นได้ ฟ……แฟนคลับหรือป่าว หละ……หรือว่าแอนตี้ อ๊ะ!! ใช่แน่ๆท่าทางน่ากลัวแบบนี้แอนตี้แฟนชัดๆ ”
นักร้องสาวร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อคิดถึงข้อสันนิษฐานที่คิดว่าถูกต้องของตัวเอง
“แอนตี้ฟงแอนตี้แฟนอะไร เราไม่รู้จักหรอกคุณหนู แต่ในตอนนี้เราขอเชิญคุณหนูไปพบเจ้านายของเราสักหน่อย”
ไม่พูดปล่าวหากแต่พวกมันกลับเดินเข้ามาพร้อมกับเข้ารวบตัวและฉุดกระชากร่างบางของนักร้องสาวเพื่อไปขึ้นรถตู้สีดำที่หนึ่งในสองขับมาจอดรอไว้ทันที
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด ไอ้บ้าทำอะไรหนะ ปล่อยนะปล่อย บอกว่าให้ปล่อยไง!!”
ร่างบางกรีดร้องอย่างตกใจก่อนจะสะบัดมือและดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ว่าแรงของผู้หญิงตัวเล็กๆหรือจะสู้แรงของผู้ชายตัวใหญ่ๆได้ มือบางยังคงกระหน่ำทุบคนที่พยายามจะเข้ามาอุ้มตนเองอยู่อย่างรัวๆ แต่ร่างกายอันใหญ่โตนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนใดๆ
“ช่วยด้วยยยยยยยยยยยย ช่วยชั้นด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“โว๊ย!! หยุดร้องสักทีหูจะดับแล้ว!! ผู้หญิงบ้าอะไรเสียงแหลมชะมัด เฮ้ยฮยอกแกหาอะไรมาปิดปากนังคุณหนูนี่สิ แหกปากแบบนี้เดี๋ยวคนก็แห่มาหรอก”
ชายร่างใหญ่ที่พยายามจะอุ้มหญิงสาวพาดบ่าอยู่ตะโกนขึ้นด้วยความรำคาญและหงุดหงิดใจ ก่อนจะพยายามเอามือข้างหนึ่งของตัวเองปิดปากหญิงสาวที่กำลังดิ้นจนสุดฤทธิ์
“อ่อย!! ออกให้อ่อยไอเอ้า อ้วยอ้วย อ้วยอ้วย”
ถึงแม้จะมีมือใหญ่ปิดปากอยู่แต่นักร้องสาวก็ยังพยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนจะตัดสินใจใช้ฟันคมๆกัดเข้าที่มือหนานั่นเต็มแรงทันที
“โอ๊ย!!!” แรงกัดสุดแรงทำให้คนตัวใหญ่กว่าสะบัดมือเร่าๆด้วยความเจ็บปวด เจสสิก้าฉวยจังหวะที่ชายคนนั้นเผลอสะบัดตัวสุดแรงแล้วออกวิ่งทันที
.
.
.
ปึ๊ก!! โอ๊ยยยยยยย
เพราะมัวแต่วิ่งหนีพร้อมกับคอยหันไปดูข้างหลังจนไม่ทันได้ดูว่ามีสิ่งใดอยู่ข้างหน้า ร่างบางของหญิงสาวกระแทกเข้ากับใครบางคนทันที แรงกระแทกทำให้เจสสิก้าแทบจะล้มหงายหลังหากไม่มีเรียวแขนของใครบางคนโอบรั้งเอาไว้ซะก่อน
“เธอเป็นอะไรรึป่าว”
น้ำเสียงนิ่งๆแต่ฟังดูคุ้นเคยจากคนตรงหน้าทำให้หญิงสาวที่กำลังตื่นตกใจเงยหน้าขึ้นมามองคนที่โอบตัวเองไว้ทันที
ใบหน้าขาวๆใสๆที่ไม่ว่าเห็นกี่ครั้งก็จำได้ขึ้นใจ ใบหน้าของคนที่เคยบอกตัวเองว่าหมั่นไส้หนักหนาหากแต่คราวนี้กลับทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นละปลอดภัยอย่างประหลาด มือบางกำปกเสื้อสูทของคนตรงหน้าแน่นอย่างหาที่พึ่งพิง ก่อนน้ำเสียงสั่นๆจะดังออกมาจากริมฝีปากที่สั่นระรัว
“ค….คุณช่วยชั้นด้วยๆ”
ท่าทางหวาดกลัวของหญิงสาวในอ้อมกอดทำให้คิมแทยอนขมวดคิ้วน้อยๆ เค้าจำเธอได้ดีว่าเธอคือใคร หากแต่สิ่งที่ทำให้เค้าแปลกใจคือเจสสิก้าเป็นอะไรกำลังหวาดกลัวอะไร แล้วข้อสงสัยทั้งหมดก็กระจ่างทันทีเมื่อชายรูปร่างใหญ่โตสองคนวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ
“หึ!! เจอจนได้แม่ตัวดี เห็นตัวเล็กๆแบบนี้เสื…..ก วิ่งเร็วชะมัด เฮ้ย!! แล้วแกเป็นใคร ปล่อยผู้หญิงของเรามาเดี๋ยวนี้นะ”
ดวงตาคมเข้มจ้องมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง คำว่า ผู้หญิงของเรา ทำให้มาเฟียผู้เย่อหยิ่งรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ อ้อมแขนแข็งแกร่งกระชับอ้อมกอดของตนเองให้แน่นขึ้นทันทีอย่างลืมตัว
“ผู้หญิงของแกงั้นหรือ”
น้ำเสียงนิ่งๆหากแต่ทำให้คนฟังกลับรู้สึกถึงความน่ากลัวบางอย่างที่ทำให้ร่างกายเย็นยะเยือก ชายสองคนสบตากันด้วยความหวาดกลัวลึกๆ ความรู้สึกบางอย่างบอกให้รู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ไม่ธรรมดา
“ช…..ใช่ ผู้หญิงของเราเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก ถ้าไม่อยากมีเรื่องกับเจ้านายเราก็ปล่อยเธอมาซะ”
“เจ้านายแก……ใคร” น้ำเสียงเย็นๆยังคงถูกส่งออกมาเหมือนกับว่าคนพูดไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายจากคำขู่ของชายตรงหน้า
“หึ!! เจ้านายของเราตระกูล อ๊ค ไง แกรู้จักรึป่าว คุณอ๊คแทคยอน”
ริมฝีปากบางของมาเฟียกระตุกยิ้มทันทีเมื่อได้ยินชื่อของใครบางคน ฮึ!! จุดไต้ตำตอแท้ๆ ช่างบังเอิญเหลือเกินที่เรื่องยุ่งๆที่ทำให้เค้าต้องกลับมาจัดการก็เกี่ยวของกับตระกูลที่พึ่งถูกพูดถึง แล้วถ้าเค้าเดาไม่ผิดที่ ผู้หญิงคนนี้ถูกตามจับตัวคงเกี่ยวกับเรื่องที่เค้าคิดไว้เป็นแน่
“เฮ้ย!! แกจะปล่อยยัยนั่นได้รึยัง อย่าให้เราต้องใช้กำลังนะโว๊ย เห็นว่าเป็นผู้หญิงหรอกนะถึงไม่อยากทำอะไรรุนแรง”
“ฮึ!! อยากได้ก็เข้ามาเอาสิ”
คำตอบสั้นๆแต่ทำให้คนฟังกลับมีน้ำโหผู้หญงผู้หญิงอะไรเค้าไม่สนใจแล้ว ชายร่างใหญ่สองคนพุ่งเข้าหาคนที่ยืนนิ่งๆอยู่ทันที และ…………………..
ไม่ถึง 5 นาที ชายร่างใหญ่สองคนก็ส้มสลบกองลงไปกับพื้นอย่างหมดสภาพ
เจสสิก้าอ้าปากค้างเมื่อจู่ๆคนที่กอดเธออยู่ก็ผลักเธออกเบาๆพร้อมกับทำในสิ่งที่เธอคิดไม่ถึง ตอนแรกเธอเกือบกรีดร้องออกไปแล้วตอนที่ผู้ชายสองคนนั้นพุ่งเข้ามา หากแต่ไม่นานกลับต้องนิ่งอึ้งเมื่อเห็นคนตัวเล็กที่เคยกอดเธออยู่จัดการผู้ชายสองคนด้วยมือเปล่าภายในเวลาอันรวดเร็วโดยที่กำปั้นของชายสองคนนั้นแทบจะไม่โดนตัวของเค้าเลย
.
.
.
“พี่แท/แทยอนเป็นอะไรรึป่าว!!”
เสียงร้องด้วยความตกใจของคนสองคนที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้เจสสิก้าสะดุ้งด้วยความตกใจ
ดวงตาหวานมองจ้องคนสองคนที่กำลังวิ่งมาหาเค้าและเธอด้วยสีหน้าที่ดูตื่นตกใจ เธอจำผู้หญิงสองคนได้ดียุนอาและยูๆ อะไรสักอย่าง สองคนนี้เป็นคนสนิทของคนที่พึ่งจะช่วยเธอไป
“เกิดอะไรขึ้น”
น้ำเสียงร้อนรนของยูริเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง เพียงแค่ 20 นาที ที่แทยอนลงมาก่อนพวกเค้าหลังจากที่เจ้าตัวเข้ามาตรวจเอกสารของห้างสรรพสินค้าในเครือของตระกูล แค่ 20 นาทีก็เกิดเรื่องทันที ยูริยอมรับว่าหัวใจแทบจะวายเมื่อเดินมาถึงยังที่จอดรถแล้วพบว่าเจ้านายของตัวเองกำลังจัดการใครก็ไม่รู้โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอ้าปากค้างด้วยความตกใจอยู่ใกล้ๆ
“ไม่มีอะไร…….แค่คนของ อ๊คแทคยอน” คำบอกเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงเรียบๆทำให้คนมาใหม่สองคนตกใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆอย่างเข้าใจ
“แล้ว…….”
“สองคนนี้ มาจับตัวเจสสิก้าจอง”
ยูริและยุนอานิ่งเงียบทันทีที่เจ้านายของตนพูดจบพร้อมกับดวงตาสามคู่สบกันอย่างเข้าใจความหมาย
แต่ไม่ใช่กับหญิงสาวที่ถูกพาดพิงถึง เจสสิก้าขมวดคิ้วด้วยความมึนงง สามคนนี้พูดถึงอะไร แล้วอ๊คแทคยอนคือใคร?
“พวกคุณพูดถึงเรื่องอะไรกัน ชั้นไม่เข้าใจ?” ความไม่เข้าใจอยู่คนเดียวพาลให้อารมณ์หงุดหงิด นักร้องสาวคนสวยตัดสินใจเอ่ยถามคนที่ยืนนิ่งอยู่ทันที
“ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องอะไร ก็ไปกับชั้นสิแล้วเธอจะรู้”
.
.
.
.
.
.
รถยนต์คันหรูสามคันมาจองสงบนิ่งอยู่ที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลจอง ผู้เป็นเจ้าของบ้านทั้งสองมองรถยนต์ของผู้มาใหม่อย่างแปลกใจ คันหนึ่งเค้าจำได้ BMW สีขาวคันหรูเป็นของลูกสาวคนโตของเค้าเองแต่คนที่ขับมากลับไม่ใช่เจสสิก้า แล้ว Maybach สีดำสุดหรูและMercedes-benz สีเดียวกันนั่นเป็นของใครกัน
ยังไม่ทันได้ซักถามอะไรดวงตาของผู้เป็นเจ้าบ้านก็เบิกกว้างทันทีที่เห็นลูกสาวของตนลงมาจากรถพร้อมกับใครคนหนึ่ง
คนที่ทำให้ท่านประธานแห่ง จองกรุ๊ป ต้องนิ่งค้างด้วยความตกใจ
.
.
.
เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงแล้วที่บิดาของเธอและผู้มาใหม่ทั้งสามคุยกันอยู่ในห้องทำงานที่ปิดประตูเงียบ หญิงสาวร่างบางนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟาพร้อมกับชะเง้อคอมองไปยังประตูบานใหญ่ที่ยังคงปิดเงียบด้วยความไม่สบายใจไม่แตกต่างจากสีหน้าของผู้เป็นมารดาที่นั่งอยู่ใกล้ๆกัน
ตั้งแต่ที่บิดาของเธอเห็นว่าเธอมากับใครเธอสังเกตได้ถึงท่าทีบางอย่างที่ดูแปลกไป บิดาของเธอดูตกใจนอบน้อมกับคิมแทยอนคนนั้นเป็นพิเศษ ก่อนที่คนทั้งสามจะสบตากับบิดาของเธอโดยที่ไม่มีคำพูดใดแล้วเดินหายเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกัน
“แม่คะ แม่รู้จักคนพวกนั้นรึป่าว”
หญิงสาวเอ่ยถามผู้เป็นมารดาด้วยสีหน้าร้อนรน เหตุการณ์ที่พึ่งสักครู่ถูกถ่ายทอดให้ผู้เป็นมารดาฟังจนหมดสิ้น ส่วนบิดาเธอเชื่อว่าคิมแทยอนคงจะเล่ารายละเอียดให้ฟังแล้ว
จองกาอินมองสบตาผู้เป็นลูกสาวด้วยแววตาหนักใจ เรื่องธุรกิจของครอบครัวเธอก็พอรู้มาบ้างว่าใครเป็นใครและยิ่งกับคิมแทยอนทั้งเธอและสามียิ่งรู้จักดี ทำไมเธอจะไม่รู้หละว่าเค้าเป็นใครในเมื่อบริษัทของสามีเธอกำลังของความช่วยเหลือจากเค้าอยู่
ส่วนอีกชื่อที่ลูกสาวของเธอเอ่ยออกมาชื่อที่ทำให้สามีและเธอต้องหนักใจ อ๊คแทคยอน
หากแต่ยังไม่ทันที่กาอินจะตอบคำถามใดประตูห้องที่ปิดเงียบมาเกือบสองชั่วโมงก็เปิดออกพร้อมกับร่างของคนสี่คนที่เดินออกมา เจสสิก้ามองใบหน้าของบิดาที่เคร่งขรึมกว่าปกติด้วยความแปลกใจก่อนจะมองเลยไปยังใบหน้าของอีกคน ใบหน้าขาวใสๆที่ยังคงไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาเช่นเคย
“เจสสิก้า พ่อมีเรื่องบางอย่างที่ต้องคุยกับลูก”
ทันทีที่ทั้งสี่คนนั่งลงบนโซฟา จองจินโมก็เอ่ยปากคุยกับลูกสาวคนโตด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
ดวงตาหวานมองสบตาบิดาด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะมองสบตาคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยแววตาที่แสดงถึงความไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน
“อ……อะไรคะ” น้ำเสี่ยงสั่นๆถูกส่งออกไปให้ผู้เป็นบิดาต้องถอนหายใจยาว
“ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรขนาดนั้นหรอกลูก อย่ากังวลไปเลย”
น้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนของผู้เป็นบิดาทำให้ความหวาดกลัวในใจของหญิงสาวค่อยผ่อนคลายลง หากแต่เพียงไม่นานหญิงสาวก็ต้องนิ่งอึ้งและช๊อคไปทันทีเมื่อผู้เป็นบิดาเอ่ยคำพูดบางอย่างออกมา
คำพูดที่ทำให้หญิงสาวตกใจสุดขีด……….
“เพื่อความปลอดภัยของลูก และเพื่อความสบายใจของพ่อ……..พ่อขอให้ลูก…..ไปอยู่ในความคุ้มครองของ…….คุณ คิมแทยอน”
TBC.
มาลงตอนที่สี่ให้แล้วนะคะ ใครที่มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ ชอบ ไม่ชอบ แทนี่ หรือแทงสิก พี่ยูลกับยุนอาคู่ใคร หรือมีคำถามยังไงก็เม้นบอกกันได้นะคะ (ไรท์เตอร์ยังคงรอคอยคอมเม้นของรีดเดอร์เสมอนะคะ) อ่อ ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง (waiting for ขอชั้นรักคุณได้มั๊ย) ไรท์ไม่ได้ทิ้งนะคะ ตอนนี้กำลังเร่งปั่นตอนต่อไปอยู่ อีกไม่นานจะลงให้อ่านนะคะ
ความคิดเห็น