ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Taeny x Taengsic] Waiting Forขอชั้นรักคุณได้มั๊ย…..

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro....

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 56


    มันนานเท่าไหร่แล้วนะจากวันนั้น  เกือบแปดปีแล้วสินะ….

    พี่แทคะ….  มัวเหม่ออะไรอยู่ไปดูทางนั้นกันเถอะคะ ดูเหมือนเค้าจะมีการถ่ายละครกันอยู่ด้วยหละ  เสียงน้องสาวตัวสูงกว่าทำให้คุณหมอสาวร่างเล็กแต่มีใบหน้าเด็กกว่าวัยต้องละจากภวังค์แล้วหันมาส่งยิ้มให้น้องสาวของตนเอง

    เป็นไรหละเรา โตจนจะเป็นสัตว์แพทย์อยู่แล้วนะ  ยังบ้าดาราเหมือนเด็กๆอยู่ได้คุณหมอร่างเล็กเอ่ยแซวน้องสาวอย่างใจดี  ก็ดูสิมีอย่างที่ไหนโตจนสูงกว่าพี่แล้วยังจะลากพี่ไปร่วมเป็นเกาหลีมุงดูกองถ่ายละครอยู่ได้  แทยอนคิดพลางส่ายหัวช้าๆ  จริงอยู่ที่เค้ากลับมาอยู่เกาหลีได้ปีกว่าแล้วแต่เค้าก็ไม่ใช่คนที่จะดูละครหรือรู้จักดาราคนไหนหรอกนะ  เพราะงานที่ทำและความรับผิดชอบที่มีจึงทำให้เค้าไม่มีเวลาที่จะไปดูละครก่อนข่าวหรือหลังข่าวหรอก  ก็งานศัลยแพทย์รวมไปถึงตำแหน่งรองผู้อำนวยการบริหารงานโรงพยาบาลของครอบครัวทำให้เค้าเองแทบจะไม่มีเวลาว่างเลยหนะสิ   นอกจากห้องผ่าตัด  ห้องพักแพทย์  คอนโด  และโรงพยาบาลแล้ว  ก็แทบจะไม่ได้ไปไหนเลย

    แหมพี่แทคะ  นานๆทีจะมีเวลาว่างออกมาเดินเล่นกับน้องสาว  ตามใจน้องบ้างสิคะ”  น้องสาวคนเล็กแต่ตัวโตกว่าเอ่ยแซวพี่สาวกลับ

    ซอก็แค่อยากเห็นดาราบ้างแหละคะ  ว่าจะสวย หรือหล่อขนาดไหน  ไม่ได้บ้าดาราซักหน่อย”  พูดพลางดึงกึ่งลากพี่สาวเข้าไปเป็นเกาหลีมุงดูกองถ่ายละครซักเรื่องที่มาถ่ายทำที่สวนสาธารณะใจกลางเมืองคนน้องหนะไม่เท่าไหร่หรอกเพราะตัวสูงอยู่แล้ว  แต่คนพี่นี่สิ  ความสูงแค่ 162 163 ไม่ทำให้เห็นอะไรได้หรอกนะนอกจากแผ่นหลังกับหัวคนที่กำลังมุงดูอยู่

    .นั่นทิฟฟานี่ นิ ทิฟฟานี่  จริงๆด้วย  ตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีกเนอะ ดูสิๆเธอ”  เสียงพูดคุยด้วยความตื่นเต้นดังไปทั่วบริเวณ ทิฟฟานี่งั้นหรอคุณหมอร่างเล็กคิดในใจ  อาทิฟฟานี่  นานแล้วสินะที่ไม่ได้ยินชื่อนี้ คงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก  อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น  หรือ  ถึงแม้ว่าจะโลกกลมบังเอิญเป็นคนเดียวกัน  ก็คงไม่เป็นไรหรอก  มันนานมาแล้วนี่ แล้วอีกอย่างมันก็ผ่านมาแล้ว  ไม่ได้เจอหรือเกี่ยวข้องกันแล้วนับจากวันนั้น  และที่สำคัญ 

    ….ชั้นเปลี่ยนไปแล้ว  ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป  ไม่ใช่คิมแทยอน  คนนั้นอีกแล้ว….และอีกอย่างเธอคงลืมชั้นไปแล้วหละ……

    ว๊ายยยยยโครมมมมมกรี๊ดดดดดดน้องทิฟฟานี่เสียงดังเหมือนอะไรซักอย่างล้มพร้อมทั้งเสียงกรี๊ดดด เสียงคนร้อง  แสดงความวุ่นวายและเสียงเอะอะโวยวายทั้งในกองถ่ายและบริเวณเกาหลีมุง ทำเค้าให้ตื่นจากภวังค์  คงเกิดอะไรซักอย่างขึ้นในกองถ่ายนั่นแหละเค้าคิด แต่ยังไม่ทันได้รูถึงต้นสายปลายเหตุดีก็มีมือหนึ่งมาดึงกึ่งลากเค้าให้เดินไปในบริเวณกองถ่ายอย่างรวดเร็ว  ยังจับใจความสำคัญไม่ได้ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

    มีอะไรให้ช่วยมั๊ยคะ พี่สาวของชั้นเป็นหมอ….” เป็นน้องสาวตัวดีของเค้านั่นเองที่ลากเค้าเข้ามา แต่ก็อย่างว่าหละนะ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก คนเป็นหมอก็ต้องช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้วนี่นะ

    คุณเป็นหมอหรอคะ  พอดีเลย เหมือนน้องทิฟฟานี่จะมีอาการบาดเจ็บ”  เสียงใครซักคนพูดขึ้นแต่เค้ายังไม่ทันมองก็ถูกดึงเข้าไปในบริเวณที่เหมือนจะเป็นที่ส่วนตัวในกองถ่าย ทางนี้เลยคะคุณหมอ  ทางนี้เลย  โอ๊ยยยยย  เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้ไงเนี่ย ถ้าน้องทิฟฟานี่เป็นอะไรไปจะทำยังไง” 

    คุณซันนี่คะ  น้องทิฟฟานี่คะ คุณคนนี้เค้าว่าเค้าเป็นหมอคะ พี่เลยพาเค้าเข้ามาเผื่อจะช่วยอะไรได้ใครซักคนเอ่ยขี้นใครบอกว่าเค้าบอกว่าตัวเองเป็นหมอ ยัยน้องสาวตัวสูงที่กำลังเดินตามหลังมาต่างหากที่เป็นคนพูด  คุณหมอร่างเล็กคิดในใจแต่…. ไม่ทันได้รู้ตัวก็ถูกดึงมาอยู่หน้าใครบางคนซะแล้ว…..

    คนนั่งอยู่บนเก้าอี้เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนที่ยืนอยู่และกำลังก้มมองมายังเธอพอดีสองสายตาสบประสานกัน  พร้อมกับอาการนิ่งอึ้งของคนทั้งคู่  เหมือน  เหมือนเธอคนนั้นเหลือเกินเสียงภายในใจคุณหมอร่างเล็กคิด  คุ้น คุ้น  เหลือเกินเสียงภายในใจของนางเอกสาวคนสวยคิดแต่จะใช่เค้ารึป่าว เค้าคนนั้น คนที่อยู่ในความทรงจำที่แสนนาน  แต่จะใช่เค้าแน่หรือ ถึงจะคุ้น  แต่คนตรงหน้าที่กำลังก้มมองเธออยู่กลับหน้าตาดีเหลือเกิน

    ….ใบหน้าเรียวใสอ่อนวัย  ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าสวยหรือหล่อกัน ไหนจะริมฝีปากบางได้รูปพร้อมผิวขาวจนแทบจะส่องแสงนั่นอีก แถมยังผมที่ไม่น่าจะยาวเกินไหล่ที่ถูกมัดรวบอย่างไม่ตึงให้ผมด้านหน้าได้ปล่อยลงมารับกับใบหน้าเรียวนั่นอีก แทบจะบอกได้ว่าคนตรงหน้านี้หน้าตาดีและดูดีมากกกก ในสายตาเธอ  ไม่ทันได้คิดอะไรต่อจากนั้นอีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทำให้ดาราสาวถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย

    ดูเหมือนคุณจะบาดเจ็บที่ข้อเท้านะคะ  ชั้นเป็นหมอ ขอชั้นดูข้อเท้าคุณหน่อยนะคะ…” คุณหมอร่างเล็กพูดพร้อมกับนั่งคุกเข่าด้านหนึ่งลงและส่งยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน  รอยยิ้มประจำตัวของเค้าที่เคยได้ยินพยาบาลพูดลับหลังเสมอๆว่า อบอุ่นบ้างหละ  อ่อนโยนบ้างหละ  ทำใจละลายบ้างหละ แต่เค้าก็ไม่ได้สนใจหรือหลงดีใจไปกับคำพูดเหล่านั้น  เค้าแค่ยิ้ม  ยิ้มออกมาจากใจด้วยความจริงใจเท่านั้นเอง  แต่คุณหมอล่างเล็กคงไม่รู้หรอกว่าตอนนี้รอยยิ้มของเค้าได้ทำให้คนตรงหน้าเกิดอาการใจกระตุกพร้อมเต้นโครมคราม และนิ่งค้างไปกับรอยยิ้มของเค้าเข้าให้แล้ว

    ข้อเท้าคุณน่าจะเคล็ดและมีอาการบวมเนื่องจากถูกสิ่งของหล่นทับ  แต่ไม่ต้องเป็นห่วงกระดูกไม่หักหรือแตก  แค่ประคบ นวดยา  แล้วก็พันผ้าไว้ซักสามสี่วันก็น่าจะหายคุณหมอตัวเล็กพูดพร้อมกับนำผ้าที่แช่น้ำเย็นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้มาประคบที่ข้อเท้าของเธอ  เพราะคนฟังมัวแต่นิ่งค้างจนไม่ได้ฟังอะไรพอรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คนพูดกำลังเอาผ้าเย็นประคบที่ข้อเท้าของเธออย่างเบามือ  ตอนนี้คนที่บอกว่าเป็นคุณหมอกำลังประคบข้อเท้าของเธอพร้อมทั้งนวดเบาๆ และพูดอะไรอีกสักสองสามประโยคแต่เธอคงฟังไม่รู้เรื่องหรอกเพราะตอนนี้เธอกำลังก้มมองคุณหมอหน้าตาคนนั้นอยู่  แค่คิดว่าเค้าหน้าตาดี  กับรอยยิ้มและการกระทำมี่แสนอ่อนโยนนั่นอีก แค่นี้ก็ทำให้คนเจ็บเกิดใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    น้องฟานี่ไม่สบายรึป่าวคะ  หน้าแดงเชียวเสียงแหลมของผู้กำกับหนุ่มที่มีใจเป็นหญิงดังขึ้นมาทำให้คนที่ถูกเอ่ยชื่อตกใจและคนที่กำลังใช้ผ้าเย็นประคบข้อเท้าเธออยู่เงยหน้าขึ้นมามองเธอเล็กน้อย

    เอ่อ ป่าว ป่าวคะ  พี่ฮีชอลฟานี่ไม่ได้เป็นอะไร  สงสัยแดดมันคงร้อนอ่ะคะ แล้วฟานี่คงตากแดดนานด้วย หน้าเลยแดง”  นางเอกสาวสวยพูดอย่างตะกุกตะกักเล็กน้อย แต่ก็ทำให้คนอื่นๆคลายความแปลกใจลงได้

    พี่ก็ว่างั้นแหละคะ  วันนี้ร้อนจริงๆ เฮ้ออออ เอ่อ คุณหมอคะ ข้อเท้าน้องฟานี่ไม่เป็นอันตรายอะไรแน่นะคะ”  ผู้กำกับหนุ่มใจสาวถามขึ้นหลังจากบ่นให้ดินฟ้าอากาศครู่หนึ่ง

    ไม่เป็นอันตรายอะไรมากหรอกคะ ตอนนี้ชั้นนวดยาและพันผ้าไว้ให้แล้ว เพียงแค่คุณทิฟฟานี่อย่าเดินหรือใช้ข้อเท้าให้มาก และทางที่ดีควรอยู่นิ่งซักสองสามวัน  อีกไม่เกินอาทิตย์ก็หายแน่นอนคะ”  คุณหมอร่างเล็กพูดพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้คนตรงหน้าได้ใจกระตุกอีกครั้ง

    ถ้ายังไงคุณทิฟฟานี่ก็ควรพักผ่อนและอย่าเดินมากนะคะถ้าไม่จำเป็น เพราะแทนที่หายกลับจะเป็นหนักกว่าเดิมอีกนะคะ  ยังถ้าไม่มีอะไรแล้วชั้นกับน้องสาวขอตัวก่อนนะคะ”  คนหมอร่างเล็กพูดพร้อมกับส่งยิ้มแล้วเดินออกไปนั่นทำให้นางเอกสาวต้องรีบเอ่ยขึ้นมา

    เอ่อ ขอบคุณ นะคะ คุณหมอ เอ่อ  คุณหมอ……”

    แทยอนค่ะ  คิมแทยอน”  พูดพร้อมกับส่งยิ้มอบอุ่นอีกครั้งพร้อมกับโค้งให้เล็กน้อยแล้วเดินตามน้องสาวออกไปข้างนอกบริเวณทันที โดยไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ คนถามได้นิ่งค้างไปแล้ว ไม่ใช่เพราะรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน  แต่เป็นชื่อต่างหาก  ชื่อที่ยังคงจำได้และติดค้างอยู่ภายในใจแม้เวลาผ่านไปนานแสนนานหลายความรู้สึกถาโถมหลังจากได้ยินชื่นนั้น  เสียใจ เศร้าใจ ดีใจ และรู้สึกผิดในคราวเดียวกันจนไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรจึงทำได้แต่เพียงนิ่งค้างไว้เท่านั้น

    เป็นคนๆเดียวกันจริงๆด้วย เป็นเธอจริงๆ คนๆเดียวกันจริงๆ คิมแทยอน

    …………………………………………………………………………..

    TBC


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×