ข้อมูลเบื้องต้น
เรียนพิเศษ
เนี่ย ได้ยินว่ามีอาจารย์สอนพิเศษภาษาอังกฤษเก่งๆ เค้าพึ่งกลับมาจากฟิลิปปินส์ด้วย มีคนอยากเรียนมั้ย เป็นประโยคที่แม่งามงอนถามนู๋เมื่อกลับมาจากโรงเรียนพร้อมกันกับน้องชายและพี่ข้างบ้าน
อยากเรียน ป.ปุ๊กับพี่ข้างบ้านตอบเป็นเสียงเดียวกัน เราก็ได้แต่คิดข้างในว่า ทำไมถึงชอบเรียนขนาดนั้นนะ กลับมาก็เหนื่อยจะตายแล้ว แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป และแล้วก็โดนจับให้ไปเรียนพิเศษเป็นเพื่อนพี่ก้อยพี่สาวข้างบ้านที่มีความกระตือรือร้นอยากเรียนมากๆ (มากกว่าชาวบ้าน)
อาจารย์เป็นคนไทยมีอยู่ 2 คนเป็นสามีภรรยา นู๋ใหญ๋กับพี่ก้อยเรียนอยู๋ห้องเดียวกัน (เพราะเด็กเรียนน้อยมากๆ) อาจารย์ผู้หญิงเป็นคนสอน ชื่อ อาจารย์ซัง ส่วนอาจารย์อีกคนชื่อ อาจารย์ติ๊ก เรียกได้ว่าเป็นภารโรงยังอาจารย์สอน อาจารย์ติ๊กสอนผู้ใหญ่ไม่สอนเด็ก แต่บางครั้งก็ลงมาช่วยอาจารย์ซังสอนเด็ก แต่นานๆครั้ง อาจารย์ซังแกกำลังท้องโต (มีน้อง) แต่ก็ขยันสอนมากพอๆกับพี่ก้อยที่ขยันเรียน
นู๋ไม่อยากไปเรียนพิเศษแล้ว อาจารย์แกให้เปิดหาศัพท์แปลหนังสืออย่างเดียวเอง นู๋ใหญ่เริ่มร้องขอความสงสารหลังเรียนไปได้ 1 เดือน
พี่ก้อยเขายังไม่บ่นเลยนะลูก แม่งามงอนกล่าว
ก็พี่ก้อยเขาชอบเรียนนี่แม่ ลูกสาวเถียงขึ้นมา
เด็กๆ ถ้าไม่ขยันเรียนแล้วจะไปทำอะไร แม่งามงอนเริ่มบทสวด
ก็แม่ไม่ได้ไปเรียนนี่ แม่ก็พูดได้นี่ นู๋ใหญ่เราพูดจบพร้อมกับกระทกโต๊ะ วิ่งขึ้นไปนอนข้างบน
เด็กมันไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องให้มันเรียนสิ เราอยากให้เรียนแต่คนเรียนเขาไม่อยากเรียนก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ป๊าติงแม่งามงอนขึ้นมา
เฮียทร ตอนเด็กๆ พวกเราอยากเรียนแต่พ่อแม่ไม่มีปัญญาส่งให้เรียนนะ แต่ตอนนี้เรายังพอมี ถ้าไม่สนับสนุนให้ลูกเรียนเยอะๆแล้ว สมัยนี้จะไปสู้อะไรชาวบ้านได้ล่ะ ลองคิดดูนะว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แม่งามงอนเริ่มเถียงบ้าง ป๊าก็เลยต้องเงียบเพราะขี้เกียจต่อคำด้วย
เวลาเด็กๆทะเลาะกับพ่อแม่มักไม่ชอบอยู่บ้าน วันนั้นนู๋ใหญ่จึงมานอนขลุกที่บ้านพี่ก้อย บ้านพี่ก้อยอยู่ถัดมาอีก1ห้องแถว ที่บ้านพี่เขามีกัน 5 คน คือ เตี่ย, ป้าสาว, พี่ก้อย, ไอ้พี่, ยาย ป้าสาวเป็นคนเสียงดัง พูดทีได้ยิน 2 3 บ้าน ส่วนเตี่ยเป็นคนจีน (แต้จิ๋ว) เหมือนที่บ้านนู๋ใหญ่
ตอนเย็น คุณนู๋ของเราก็ทานข้าวบ้านพี่ก้อย พอท้องอิ่มก็ลืมเรื่องที่ตัวเองโวยวายไว้เมื่อกลางวัน ตกค่ำก็กลับบ้านตัวเองนอน
วันต่อมา คุณหญิงของเราก้อไปโรงเรียนตามระเบียบเหมือนเคย
ความคิดเห็น