คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : (sf) It's Our Business - Your Order
แรงบันดาลใจมาจากแท็ก #บอสจางเลขาคริส
ขอบคุณ คุณ เลขา ♛ บอสจาง @kawaii_watashi ที่คิดแท็กสุดฟินมาให้เล่นครับ
Your Order
Paring : Kris x Lay (krislay)
Author : HARA.
Note : เพิ่งแต่งจบเมื่อกี้ มีคำผิดต้องขออภัย
เจ้านายของผม เขาเป็นคนที่ค่อนข้างรับมือได้ยาก
ใครๆต่างพากันหน่ายในความดื้อรั้น และเอาแต่ใจของเขากันทั้งนั้น แม้ว่ารายละเอียดของงานนั้นจะยิบย่อยแล้วแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นไปก็ยังได้ แถมไม่มีผลต่อการที่จะทำให้แผนกการตลาดของเราเสียหายเลยด้วยซ้ำ
แต่เจ้านายของผมไม่มีวันปล่อยให้มันรอดพ้นสายตาไวดุจเยี่ยวของเขาไปได้หรอก
"คุณคังโฮดง ถ้าคุณทำงานออกมาได้ห่วยขนาดนี้ ผมว่าคุณไปลาออกเสียวันนี้ยังจะดูมีประโยชน์มากกว่า" นอกจากบอสจะทั้งดื้อและเอาแต่ใจแล้ว ปากของเขายังร้ายติดอันดับต้นๆของประเทศอีกด้วย
"ต..แต่บอสจางครับ ผมแค่ลืมย่อหน้าเนื้อหาไปหนึ่งวรรคเองนะครับบอส" ชายร่างกายกำยำกำลังตัวสั่นสะท้าน เขาพยายามสะกัดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้ แม้คังโฮดงจะพยายามอธิบายเหตุผลอย่างใจเย็น แต่สายตาเขากลับแสดงออกหมดทุกอย่าง
และผมดูออกมาตั้งแต่ต้น เดาได้เลยว่าเขาค่อนข้างจะเกลียดขี้หน้าบอสของผมมาก
ดังนั้น ผมจึงเลือกที่จะยืนอยู่ใกล้ๆบอส แทนที่จะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองตรงหน้าประตูห้อง เพราะรายนั้นเองก็ชอบพูดอะไรไม่ยั้งปากเอาไว้เลยเช่นกัน
"ผมบอกว่ามันห่วยก็คือห่วย คุณกลับไปเถอะครับ เย็นนี้ผมจะรอซองขาวจากคุณนะ คังโฮดง" ใบหน้าหวานส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้คนตรงหน้า ผมถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นี่บอสกำลังจงใจกวนประสาทเขาชัดๆ
คนตัวเล็กโยนแฟ้มเอกสารทิ้งต่อหน้าพนักงานประจำอย่างคังโฮดง
แล้วส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมแอบเห็นใจเล็กน้อย บอสเองก็เคยทำกับผมแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน
แต่ต่างกันแค่เขาวางไม่ใช่โยน
"ไอ้เด็กเวร!" คังโฮดง ผู้มีประวัตินักมวยปล้ำมืออาชีพของเกาหลีกำลังจะพุ่งเข้าใส่บอสของผมด้วยความโมโห และผมส่งแขนหนึ่งข้างไปผลักไหล่ของเขาเอาไว้ได้ทันท่วงที
"บอสไล่แล้วก็ออกไปสิครับ หรือคุณอยากให้เรื่องนี้ถึงหูท่านประธานบริษัท"
ผมชื่อคริส เป็นเลขาส่วนตัวของบอสจาง หรือ จางอี้ชิง และสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้คือการทำหน้าที่ที่เลขาส่วนตัวของบอสจางจะต้องทำมันออกมาได้ดีเสียยิ่งกว่าใคร
นั่นคือการปกป้องเขา จากภัยที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง
โชคดีที่คังโฮดงยอมเดินออกไปดีๆ ถึงแม้เขาจะมีอาการฮึดฮัดขัดใจบ้างก็ตาม ผมเหลือบมองบอสที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้หนังสุดหรู เขาเงยหน้ามองผมก่อนจะเลิกคิ้ว
"ขอบคุณนะคุณคริส" บอสจางส่งยิ้มให้อีกครั้ง "ช่วยเอาแฟ้มนี้ไปคืนเขาทีสิ หรือจะเอามันไปเผาทิ้งก็ได้ แล้วผมจะเพิ่มเงินเดือนให้คุณ"
ผมถอนหายใจทันทีที่ได้ยินคำสั่งจากเขา และแน่นอนว่าผมเลือกที่จะเอาแฟ้มเอกสารที่นอนแผ่อยู่บนพื้นไปเผาทิ้งซะ
สำหรับผมเรื่องเงินน่ะเรื่องใหญ่ครับ
"คุณคริส" เสียงหวานเอ่ยขึ้น เขาจงใจลากเสียงยาวแถมยังเน้นที่ตัว S ด้านหลังชื่อเล่น จนผมจำต้องละมือออกจากเอกสารที่อยู่ในมือ
"ครับ บอส" พอเงยหน้ามองคนที่นั่งทำงานอยู่ตรงกลางห้อง บอสจางกำลังยกมือขึ้นมาประสานกัน เขาเท้าแขนลงบนโต๊ะ พร้อมกับจ้องมองมาที่ผม
สายตาดูแปลกไป
คงจะหาเรื่องใช้งานผมอีก
"เก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่ มันนั่งไม่ค่อยสบายเหมือนเมื่อก่อนเลย"
การทำงานกับเจ้านายคนนี้มีแต่เรื่องสนุก
เขาชอบหาภารกิจมาให้ผมทำเสมอ
"งั้นโทรฯสั่งตัวใหม่ดีไหมครับ เดี๋ยวผมจะส่งแบบไปให้ดูทางอีเมลนะครับบอส" ผมมีหน้าที่แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเขาในทุกเรื่อง จึงรีบเข้าเว็ปไซต์ขายเฟอร์นิเจอร์สุดหรูเพื่อหาเก้าอี้ตัวใหม่ให้บอสทันที
"คุณคริส" เขาลากเสียงยาวอีกแล้ว "ถ้าคุณมานั่งเป็นเก้าอี้ให้ผม มันก็คงจะนุ่มดีนะครับ"
บอสจางเขาไม่เคยดื้อกับผมเลยซักครั้ง
แต่เขาชอบเต๊าะผม..
"บอส พอเถอะครับ ทำงานไปเลย" ผมยกมือขึ้นมานวดขมับ
"คึคึ" เสียงหัวเราะที่แสนน่าหมั่นไส้ดังขึ้น บอสจางกระชับเสื้อสูทให้เข้าที่เมื่อเขาลุกขึ้นยืน
แรกๆผมเองขนลุกแทบตายที่ได้เจอเจ้านายพิลึกพิลันแบบนี้ และกังวลว่าตัวเองอาจจะต้องย้ายงานอีกครั้ง เนื่องจากปัญหาจากบริษัทเก่าก็ค่อนไปทางด้านเรื่องชู้สาว
เจ้านายคนเก่าของผม เธอหลงใหลผมมาก เรียกได้ว่าอยากได้จนตัวสั่น แม้เธอจะมีสามีอยู่แล้วก็ตาม แต่ผมรีบชิ่งลาออกเสียตั้งแต่แรกๆ เนื่องจากไม่อยากมีปัญหากับสามีเธอทีหลัง
บอสจางเองมีพฤติกรรมเข้าข่ายก็จริง แต่จากที่ผมศึกษานิสัยใจคอเขามาหลายเดือน คงจะเป็นเพราะบอสขี้เล่น และชอบแกล้งคนอื่นไปเรื่อยมากกว่า
"คุณคริส ผมไม่มีงานแล้วนะ" ผมเงยหน้าจากเอกสารอีกครั้ง ร่างโปร่งของบอสกำลังมองออกไปนอกกระจกใสที่ล้อมรอบห้องทำงานของเรา
ยอมรับว่ามันเป็นห้องทำงานที่หรูเกินความจำเป็น แต่เพื่อให้สมกับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาดอย่างจางอี้ชิง ผู้ทำเงินให้กับบริษัทเดือนละหลายสิบล้าน
แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ
"ผมเพิ่งจะยกแฟ้มมาให้บอสตั้งสิบเล่ม บอสจะไม่มีงานได้ยังไงครับ" ถึงจะไม่เคยถามอายุ หรืออ่านประวัติของเจ้านายคนนี้มาก่อน ดูจากนิสัยและความคิดในตอนที่ไม่ได้ทำงาน เขาน่าจะอายุน้อยกว่าผมสองสามปี เพียงแต่ประสบการณ์การทำงานนั้นมากโข
"ก็เก้าอี้มันนั่งไม่สบายเลยนี่นา" เขาละสายตาออกจากวิวทิวทัศน์ด้านนอก แล้วหันมาทำตาปริบๆ แต่ริมฝีปากกลับกระตุกยิ้ม
คิดว่าหล่อมากใช่ไหม ?
"แล้วบอสจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ จะสั่งตัวใหม่ให้บอสก็เอาแต่เล่น" เผลอพลั้งปากตำหนิบอสตัวเองไปจนได้ ผมรีบก้มหัวเป็นการขอโทษเขาในฐานะที่ล่วงเกิน
"ผมพูดจริงๆเรื่องที่เก้าอี้มันนั่งไม่สบาย แต่ผมไม่ได้ต้องการตัวใหม่หรอกนะ" บอสจางมีแววตาแข็งกร้าวขึ้น คงเพราะกำลังเคืองที่ผมพูดตำหนิเขาแน่ๆ
"ผมขอโทษจริงๆครับที่พูดล่วงเกิน"
"งั้นคุณช่วยมานั่งเป็นเก้าอี้ให้ผมทีสิ" ริมฝีปากอวบอิ่มกระตุกยิ้มร้าย ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่รู้จะหลบจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ได้อย่างไร
เขาชอบแกล้ง ชอบพูดอะไรบางอย่างที่ตอนแรกทำให้ผมขนลุก จนตอนนี้มันเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นอาการใจเต้นแทนเสียแล้ว
"บอส.. อย่าเล่นสิครับ"
"ผมพูดจริง" บอสจางเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง มือเล็กเอื้อมไปตบเบาะเก้าอี้สองสามที "คุณเป็นเลขาของผม ใช่มั้ย"
เอาอีกแล้ว บอสจางชอบยกอำนาจของตัวเองมาข่มขู่ให้ผมทำตามอยู่เรื่อย ผมจำต้องลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปหาเขาที่ยืนรออยู่อย่างผู้ชนะ แถมยังส่งสายตาหวานให้ผมและสลับไปที่เก้าอี้หนังสีดำ
หัวใจผมเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง
ผมไม่ชอบเลยที่บอสชอบเล่นอะไรพิเรนทร์ๆแบบนี้
ผมเหนื่อยที่จะอดทนกับความต้องการของตัวเองจริงๆ
ร่างกายสูงใหญ่ของผมนั่งลงบนเบาะนุ่มนิ่มของเก้าอี้ราคาแพงอย่างจำยอม ผมรู้ได้ทันทีว่าบอสโกหกเรื่องเก้าอี้ว่ามันนั่งไม่สบาย แค่ทิ้งตัวนั่งลงเพียงเสี้ยววิ ผมกลับสัมผัสได้ว่ามันคุณภาพดีเสียยิ่งกว่าเก้าอี้ไม้ที่ผมนั่งทำงานอยู่กับมันเป็นประจำเสียอีก
"โดนหลอกแล้วล่ะคุณคริส คึคึ" เขาหัวเราะคิกคัก ดวงตากลมหรี่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ก่อนที่ร่างโปร่งจะทิ้งตัวตามลงมานั่งบนตักผมทันที "แต่ตักคุณคริสนิ่มกว่าเบาะเยอะเลย ผมไม่ได้หลอกนะ"
"ผมยอมนั่งให้แล้ว รีบหยิบแฟ้มมาเซ็นเถอะครับบอส ตอนเย็นผมจะต้องเอาไปส่งให้ท่านประธานนะครับ" ผมจำเป็นต้องนั่งตัวเกร็ง เพราะตั้งแต่ที่บอสนั่งลงบนหน้าตัก เขายังไม่ยอมอยู่นิ่งๆเลยสักครั้ง
มันทำให้ใจผมสั่นมากขึ้น และเหมือนจะมีบางส่วนเริ่มตอบสนองความต้องการที่อยู่ในใจ
"ครับๆ สั่งเป็นบอสเลยนะคุณคริส" คนตัวเล็กหยิบแฟ้มที่วางกองอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาเปิดอ่าน เขามองหาปากกาแต่ก็พบว่ามันวางอยู่เกือบสุดมุมโต๊ะ จึงต้องยืนขึ้นเพื่อเอื้อมไปหยิบมันให้ถึง และทิ้งตัวนั่งลงบนตักผมอีกครั้ง
ให้ตายสิ..
"บอส ผมว่าบอสนั่งทำงานดีๆเถอะครับ" ผมแกล้งขยับตัวให้เขาคิดว่าผมกำลังเมื่อยเต็มที แต่บอสไม่สนใจ เขาเอนหลังมาพิงแผ่นอกของผมไว้ ส่วนสายตายังจดจ่ออยู่ที่ตัวหนังสือในเอกสาร
ตอนนี้บางอย่างที่ผมพยายามสะกดกลั้นมาหลายเดือน กำลังจะตื่นขึ้นมาแล้วจริงๆ
มันไม่ฟังคำสั่งของผมอีกต่อไป เพียงแค่ก้นกบนุ่มๆของคนที่อยู่บนตักเสียดสีและบดเบียดมันเพียงเล็กน้อย
"นั่งแบบนี้ดีที่สุดแล้วล่ะ" เขาเงยหน้ามาสบตากับผม แต่สะโพกดันขยับด้วย นั่นยิ่งทำให้ผมเกร็งมากขึ้นจนต้องปิดเปลือกตาแน่น "ทำไมคุณถึงเกร็งแบบนี้ ทำตัวให้สบายๆสิครับ"
ยังจะมาถามอีก
"..ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะครับ" ผมพยายามสะกดอารมณ์ที่แปลกประหลาดของตัวเอง "ให้ผมลุกเถอะครับ"
"ผมไม่เคยสั่งให้คุณอดทน คุณคริส" บอสจางวางแฟ้มลงบนโต๊ะ เชยตามองผมอย่างยั่วยวน ส่วนสะโพกเล็กนั้นบดเบียดลงมาให้ร่างกายเราแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิม
"ผมต้องการคุณมาตลอด เหมือนที่คุณต้องการผมในตอนนี้" เสียงของบอสราวกับมนต์สะกดที่ทำให้สติผมล่องลอย และเคลิบเคลิ้มไปกับใบหน้าอันงดงามของเขา
"เดินไปล็อคประตูสิครับ"
ผมจำได้ว่าเขาปลดเนคไทของตัวเองออก ส่วนตัวผมนั้นเดินไปล็อคประตูตามคำสั่งที่แสนหวานของเขา
สิ่งที่บอสจางมอบให้ผมในวันนี้ มันดีเสียยิ่งกว่าการได้รับเงินโบนัสประจำปีเสียอีก
เผลอๆดีกว่าเงินโบนัสที่รวบรวมมานานหลายสิบปีเลยด้วยซ้ำ
"ต่อไปนี้ ผมขอเรียกคุณว่าอี้ชิงได้ไหม" ผมกอดเขาจากทางด้านหลัง แม้ว่าร่างกายของบอสจะมีกล้ามเนื้ออยู่บ้าง แต่เขาก็ยังดูบอบบางและน่าปกป้องอยู่ดี
"อ..ฮ.. ผมอนุญาตแค่เวลาเลิกงาน" บอสจางหายใจติดขัด เขาหอบจนน่าเห็นใจ หยาดเหงื่อเกาะไปตามผิวขาวเนียน แต่ผมไม่คิดที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของตัวเอง "..อ๊ะ..ก..กับตอนนี้เท่านั้น..อื้อ!"
และเลขาส่วนตัวอย่างผม จำเป็นจะต้องเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของเจ้านายตัวเอง
จริงไหมครับ อี้ชิง..
ติดตามตอนต่อไป..
ติดแท็ก #ฟิคของอี้ชิง
ตอนหน้ามี NC
แบบส่งเมลนะจ๊ะ อิ้อิั้ คอมเม้นซะเด็กดี
ความคิดเห็น