ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - It's XING'S story ; Yixing/Lay ft.exo l sf,oneshot

    ลำดับตอนที่ #6 : (sf) It's Our Business - Your Order

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 58


    @SQWEEZ















    แรงบันดาลใจมาจากแท็ก #บอสจางเลขาคริส

    ขอบคุณ คุณ เลขา บอสจาง @kawaii_watashi ที่คิดแท็กสุดฟินมาให้เล่นครับ

     

     


     

    Your Order

    Paring : Kris x Lay (krislay)

    Author : HARA.

    Note : เพิ่งแต่งจบเมื่อกี้ มีคำผิดต้องขออภัย

     

     

     

     









     

     

    เจ้านายของผม เขาเป็นคนที่ค่อนข้างรับมือได้ยาก

     

     

    ใครๆต่างพากันหน่ายในความดื้อรั้น และเอาแต่ใจของเขากันทั้งนั้น แม้ว่ารายละเอียดของงานนั้นจะยิบย่อยแล้วแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นไปก็ยังได้ แถมไม่มีผลต่อการที่จะทำให้แผนกการตลาดของเราเสียหายเลยด้วยซ้ำ

     

     

    แต่เจ้านายของผมไม่มีวันปล่อยให้มันรอดพ้นสายตาไวดุจเยี่ยวของเขาไปได้หรอก

     

     

    "คุณคังโฮดง ถ้าคุณทำงานออกมาได้ห่วยขนาดนี้ ผมว่าคุณไปลาออกเสียวันนี้ยังจะดูมีประโยชน์มากกว่า" นอกจากบอสจะทั้งดื้อและเอาแต่ใจแล้ว ปากของเขายังร้ายติดอันดับต้นๆของประเทศอีกด้วย

     

    "ต..แต่บอสจางครับ ผมแค่ลืมย่อหน้าเนื้อหาไปหนึ่งวรรคเองนะครับบอส" ชายร่างกายกำยำกำลังตัวสั่นสะท้าน เขาพยายามสะกัดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้ แม้คังโฮดงจะพยายามอธิบายเหตุผลอย่างใจเย็น แต่สายตาเขากลับแสดงออกหมดทุกอย่าง

     

     

    และผมดูออกมาตั้งแต่ต้น เดาได้เลยว่าเขาค่อนข้างจะเกลียดขี้หน้าบอสของผมมาก

     

     

    ดังนั้น ผมจึงเลือกที่จะยืนอยู่ใกล้ๆบอส แทนที่จะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองตรงหน้าประตูห้อง เพราะรายนั้นเองก็ชอบพูดอะไรไม่ยั้งปากเอาไว้เลยเช่นกัน

     

     

    "ผมบอกว่ามันห่วยก็คือห่วย คุณกลับไปเถอะครับ เย็นนี้ผมจะรอซองขาวจากคุณนะ คังโฮดง" ใบหน้าหวานส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้คนตรงหน้า ผมถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นี่บอสกำลังจงใจกวนประสาทเขาชัดๆ

     

     

    คนตัวเล็กโยนแฟ้มเอกสารทิ้งต่อหน้าพนักงานประจำอย่างคังโฮดง

     

     

    แล้วส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

     

    ผมแอบเห็นใจเล็กน้อย บอสเองก็เคยทำกับผมแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน

     

     

    แต่ต่างกันแค่เขาวางไม่ใช่โยน

     

     

    "ไอ้เด็กเวร!" คังโฮดง ผู้มีประวัตินักมวยปล้ำมืออาชีพของเกาหลีกำลังจะพุ่งเข้าใส่บอสของผมด้วยความโมโห และผมส่งแขนหนึ่งข้างไปผลักไหล่ของเขาเอาไว้ได้ทันท่วงที

     

    "บอสไล่แล้วก็ออกไปสิครับ หรือคุณอยากให้เรื่องนี้ถึงหูท่านประธานบริษัท"

     

     

    ผมชื่อคริส เป็นเลขาส่วนตัวของบอสจาง หรือ จางอี้ชิง และสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้คือการทำหน้าที่ที่เลขาส่วนตัวของบอสจางจะต้องทำมันออกมาได้ดีเสียยิ่งกว่าใคร

     

     

    นั่นคือการปกป้องเขา จากภัยที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง

     

     

    โชคดีที่คังโฮดงยอมเดินออกไปดีๆ ถึงแม้เขาจะมีอาการฮึดฮัดขัดใจบ้างก็ตาม ผมเหลือบมองบอสที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้หนังสุดหรู เขาเงยหน้ามองผมก่อนจะเลิกคิ้ว

     

     

    "ขอบคุณนะคุณคริส" บอสจางส่งยิ้มให้อีกครั้ง "ช่วยเอาแฟ้มนี้ไปคืนเขาทีสิ หรือจะเอามันไปเผาทิ้งก็ได้ แล้วผมจะเพิ่มเงินเดือนให้คุณ"

     

     

    ผมถอนหายใจทันทีที่ได้ยินคำสั่งจากเขา และแน่นอนว่าผมเลือกที่จะเอาแฟ้มเอกสารที่นอนแผ่อยู่บนพื้นไปเผาทิ้งซะ

     

     

    สำหรับผมเรื่องเงินน่ะเรื่องใหญ่ครับ

     

     

    "คุณคริส" เสียงหวานเอ่ยขึ้น เขาจงใจลากเสียงยาวแถมยังเน้นที่ตัว S ด้านหลังชื่อเล่น จนผมจำต้องละมือออกจากเอกสารที่อยู่ในมือ

     

    "ครับ บอส" พอเงยหน้ามองคนที่นั่งทำงานอยู่ตรงกลางห้อง บอสจางกำลังยกมือขึ้นมาประสานกัน เขาเท้าแขนลงบนโต๊ะ พร้อมกับจ้องมองมาที่ผม

     

     

    สายตาดูแปลกไป

     

     

    คงจะหาเรื่องใช้งานผมอีก

     

     

    "เก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่ มันนั่งไม่ค่อยสบายเหมือนเมื่อก่อนเลย"

     

     

    การทำงานกับเจ้านายคนนี้มีแต่เรื่องสนุก

     

     

    เขาชอบหาภารกิจมาให้ผมทำเสมอ

     

     

    "งั้นโทรฯสั่งตัวใหม่ดีไหมครับ เดี๋ยวผมจะส่งแบบไปให้ดูทางอีเมลนะครับบอส" ผมมีหน้าที่แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเขาในทุกเรื่อง จึงรีบเข้าเว็ปไซต์ขายเฟอร์นิเจอร์สุดหรูเพื่อหาเก้าอี้ตัวใหม่ให้บอสทันที

     

    "คุณคริส" เขาลากเสียงยาวอีกแล้ว "ถ้าคุณมานั่งเป็นเก้าอี้ให้ผม มันก็คงจะนุ่มดีนะครับ"

     

     

    บอสจางเขาไม่เคยดื้อกับผมเลยซักครั้ง

     

     

    แต่เขาชอบเต๊าะผม..

     

     

    "บอส พอเถอะครับ ทำงานไปเลย" ผมยกมือขึ้นมานวดขมับ

     

    "คึคึ" เสียงหัวเราะที่แสนน่าหมั่นไส้ดังขึ้น บอสจางกระชับเสื้อสูทให้เข้าที่เมื่อเขาลุกขึ้นยืน

     

     

    แรกๆผมเองขนลุกแทบตายที่ได้เจอเจ้านายพิลึกพิลันแบบนี้ และกังวลว่าตัวเองอาจจะต้องย้ายงานอีกครั้ง เนื่องจากปัญหาจากบริษัทเก่าก็ค่อนไปทางด้านเรื่องชู้สาว

     

     

    เจ้านายคนเก่าของผม เธอหลงใหลผมมาก เรียกได้ว่าอยากได้จนตัวสั่น แม้เธอจะมีสามีอยู่แล้วก็ตาม แต่ผมรีบชิ่งลาออกเสียตั้งแต่แรกๆ เนื่องจากไม่อยากมีปัญหากับสามีเธอทีหลัง

     

     

    บอสจางเองมีพฤติกรรมเข้าข่ายก็จริง แต่จากที่ผมศึกษานิสัยใจคอเขามาหลายเดือน คงจะเป็นเพราะบอสขี้เล่น และชอบแกล้งคนอื่นไปเรื่อยมากกว่า

     

     

    "คุณคริส ผมไม่มีงานแล้วนะ" ผมเงยหน้าจากเอกสารอีกครั้ง ร่างโปร่งของบอสกำลังมองออกไปนอกกระจกใสที่ล้อมรอบห้องทำงานของเรา

     

     

    ยอมรับว่ามันเป็นห้องทำงานที่หรูเกินความจำเป็น แต่เพื่อให้สมกับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาดอย่างจางอี้ชิง ผู้ทำเงินให้กับบริษัทเดือนละหลายสิบล้าน

     

     

    แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ

     

     

    "ผมเพิ่งจะยกแฟ้มมาให้บอสตั้งสิบเล่ม บอสจะไม่มีงานได้ยังไงครับ" ถึงจะไม่เคยถามอายุ หรืออ่านประวัติของเจ้านายคนนี้มาก่อน ดูจากนิสัยและความคิดในตอนที่ไม่ได้ทำงาน เขาน่าจะอายุน้อยกว่าผมสองสามปี เพียงแต่ประสบการณ์การทำงานนั้นมากโข

     

    "ก็เก้าอี้มันนั่งไม่สบายเลยนี่นา" เขาละสายตาออกจากวิวทิวทัศน์ด้านนอก แล้วหันมาทำตาปริบๆ แต่ริมฝีปากกลับกระตุกยิ้ม

     

     

    คิดว่าหล่อมากใช่ไหม ?

     

     

    "แล้วบอสจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ จะสั่งตัวใหม่ให้บอสก็เอาแต่เล่น" เผลอพลั้งปากตำหนิบอสตัวเองไปจนได้ ผมรีบก้มหัวเป็นการขอโทษเขาในฐานะที่ล่วงเกิน

     

    "ผมพูดจริงๆเรื่องที่เก้าอี้มันนั่งไม่สบาย แต่ผมไม่ได้ต้องการตัวใหม่หรอกนะ" บอสจางมีแววตาแข็งกร้าวขึ้น คงเพราะกำลังเคืองที่ผมพูดตำหนิเขาแน่ๆ

     

    "ผมขอโทษจริงๆครับที่พูดล่วงเกิน"

     

    "งั้นคุณช่วยมานั่งเป็นเก้าอี้ให้ผมทีสิ" ริมฝีปากอวบอิ่มกระตุกยิ้มร้าย ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่รู้จะหลบจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ได้อย่างไร

     

     

    เขาชอบแกล้ง ชอบพูดอะไรบางอย่างที่ตอนแรกทำให้ผมขนลุก จนตอนนี้มันเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นอาการใจเต้นแทนเสียแล้ว

     

     

    "บอส.. อย่าเล่นสิครับ"

     

    "ผมพูดจริง" บอสจางเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง มือเล็กเอื้อมไปตบเบาะเก้าอี้สองสามที "คุณเป็นเลขาของผม ใช่มั้ย"

     

     

    เอาอีกแล้ว บอสจางชอบยกอำนาจของตัวเองมาข่มขู่ให้ผมทำตามอยู่เรื่อย ผมจำต้องลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปหาเขาที่ยืนรออยู่อย่างผู้ชนะ แถมยังส่งสายตาหวานให้ผมและสลับไปที่เก้าอี้หนังสีดำ

     

     

    หัวใจผมเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง

     

     

    ผมไม่ชอบเลยที่บอสชอบเล่นอะไรพิเรนทร์ๆแบบนี้

     

     

    ผมเหนื่อยที่จะอดทนกับความต้องการของตัวเองจริงๆ

     

     

    ร่างกายสูงใหญ่ของผมนั่งลงบนเบาะนุ่มนิ่มของเก้าอี้ราคาแพงอย่างจำยอม ผมรู้ได้ทันทีว่าบอสโกหกเรื่องเก้าอี้ว่ามันนั่งไม่สบาย แค่ทิ้งตัวนั่งลงเพียงเสี้ยววิ ผมกลับสัมผัสได้ว่ามันคุณภาพดีเสียยิ่งกว่าเก้าอี้ไม้ที่ผมนั่งทำงานอยู่กับมันเป็นประจำเสียอีก

     

     

    "โดนหลอกแล้วล่ะคุณคริส คึคึ" เขาหัวเราะคิกคัก ดวงตากลมหรี่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ก่อนที่ร่างโปร่งจะทิ้งตัวตามลงมานั่งบนตักผมทันที "แต่ตักคุณคริสนิ่มกว่าเบาะเยอะเลย ผมไม่ได้หลอกนะ"

     

    "ผมยอมนั่งให้แล้ว รีบหยิบแฟ้มมาเซ็นเถอะครับบอส ตอนเย็นผมจะต้องเอาไปส่งให้ท่านประธานนะครับ" ผมจำเป็นต้องนั่งตัวเกร็ง เพราะตั้งแต่ที่บอสนั่งลงบนหน้าตัก เขายังไม่ยอมอยู่นิ่งๆเลยสักครั้ง

     

     

    มันทำให้ใจผมสั่นมากขึ้น และเหมือนจะมีบางส่วนเริ่มตอบสนองความต้องการที่อยู่ในใจ

     

     

    "ครับๆ สั่งเป็นบอสเลยนะคุณคริส" คนตัวเล็กหยิบแฟ้มที่วางกองอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาเปิดอ่าน เขามองหาปากกาแต่ก็พบว่ามันวางอยู่เกือบสุดมุมโต๊ะ จึงต้องยืนขึ้นเพื่อเอื้อมไปหยิบมันให้ถึง และทิ้งตัวนั่งลงบนตักผมอีกครั้ง

     

     

    ให้ตายสิ..

     

     

    "บอส ผมว่าบอสนั่งทำงานดีๆเถอะครับ" ผมแกล้งขยับตัวให้เขาคิดว่าผมกำลังเมื่อยเต็มที แต่บอสไม่สนใจ เขาเอนหลังมาพิงแผ่นอกของผมไว้ ส่วนสายตายังจดจ่ออยู่ที่ตัวหนังสือในเอกสาร

     

     

    ตอนนี้บางอย่างที่ผมพยายามสะกดกลั้นมาหลายเดือน กำลังจะตื่นขึ้นมาแล้วจริงๆ

     

     

    มันไม่ฟังคำสั่งของผมอีกต่อไป เพียงแค่ก้นกบนุ่มๆของคนที่อยู่บนตักเสียดสีและบดเบียดมันเพียงเล็กน้อย

     

     

    "นั่งแบบนี้ดีที่สุดแล้วล่ะ" เขาเงยหน้ามาสบตากับผม แต่สะโพกดันขยับด้วย นั่นยิ่งทำให้ผมเกร็งมากขึ้นจนต้องปิดเปลือกตาแน่น "ทำไมคุณถึงเกร็งแบบนี้ ทำตัวให้สบายๆสิครับ"

     

     

    ยังจะมาถามอีก

     

     

    "..ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะครับ" ผมพยายามสะกดอารมณ์ที่แปลกประหลาดของตัวเอง "ให้ผมลุกเถอะครับ"

     

    "ผมไม่เคยสั่งให้คุณอดทน คุณคริส" บอสจางวางแฟ้มลงบนโต๊ะ เชยตามองผมอย่างยั่วยวน ส่วนสะโพกเล็กนั้นบดเบียดลงมาให้ร่างกายเราแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิม

     

    "ผมต้องการคุณมาตลอด เหมือนที่คุณต้องการผมในตอนนี้" เสียงของบอสราวกับมนต์สะกดที่ทำให้สติผมล่องลอย และเคลิบเคลิ้มไปกับใบหน้าอันงดงามของเขา

     

    "เดินไปล็อคประตูสิครับ"

     

     

    ผมจำได้ว่าเขาปลดเนคไทของตัวเองออก ส่วนตัวผมนั้นเดินไปล็อคประตูตามคำสั่งที่แสนหวานของเขา

     

     

    สิ่งที่บอสจางมอบให้ผมในวันนี้ มันดีเสียยิ่งกว่าการได้รับเงินโบนัสประจำปีเสียอีก

     

     

    เผลอๆดีกว่าเงินโบนัสที่รวบรวมมานานหลายสิบปีเลยด้วยซ้ำ

     

     

    "ต่อไปนี้ ผมขอเรียกคุณว่าอี้ชิงได้ไหม" ผมกอดเขาจากทางด้านหลัง แม้ว่าร่างกายของบอสจะมีกล้ามเนื้ออยู่บ้าง แต่เขาก็ยังดูบอบบางและน่าปกป้องอยู่ดี

     

    "อ..ฮ.. ผมอนุญาตแค่เวลาเลิกงาน" บอสจางหายใจติดขัด เขาหอบจนน่าเห็นใจ หยาดเหงื่อเกาะไปตามผิวขาวเนียน แต่ผมไม่คิดที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของตัวเอง "..อ๊ะ..ก..กับตอนนี้เท่านั้น..อื้อ!"

     

     

    และเลขาส่วนตัวอย่างผม จำเป็นจะต้องเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของเจ้านายตัวเอง

     

     

    จริงไหมครับ อี้ชิง..


     



    ติดตามตอนต่อไป..
    ติดแท็ก #ฟิคของอี้ชิง
    ตอนหน้ามี NC 
    แบบส่งเมลนะจ๊ะ อิ้อิั้ คอมเม้นซะเด็กดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×