คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปะทะ ปะทุ
ปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิดปะทะ-ปะทุ
ณ พระราชวังในดินแดนกลางทะเลทรายอันมั่งคั่งไปด้วยบ่อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศจากีร์ การปกครองที่มีกษัตริย์เป็นประมุข โมฮัมหมัด อัล ยัสซาร์ ราชินีอาลีญา นายกรัฐมนตรีนัสเซอร์ อัล ยัสซาร์ในฐานะเจ้าชาย ท่านหญิงฮันนาห์ซึ่งเป็นพระนัดดา ฮันนาห์เป็นลูกครึ่งที่มีบิดาเป็นคนไทย พระมารดาของท่านหญิงสิ้นพระชนม์พร้อมกับสามีเมื่อสิบห้าที่แล้ว เดิมทีท่านหญิงไม่มียศฐานันดรศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ความแค้นจากภายในวังได้แปรเปลี่ยนเป็นความสงสารเมื่อพระนัดดาองค์เดียวที่มีอยู่เป็นเด็กกำพร้า สุดท้ายสายเลือดก็ย่อมเข้มกว่าน้ำ ท่านหญิงได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของวังอีกครั้ง และเพราะเป็นเด็กกำพร้ากษัตริย์และราชินีก็ทรงฟูมฟักและตามใจเหลือร้าย จนเด็กน้อยกลายมาเป็นท่านหญิงที่ทรงเอาแต่พระทัยตัวเองอย่างร้ายกาจและยิ่งเมื่อเจ้าชายนัสเซอร์กำลังจะทรงอภิเษกกับลูกสาวอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังในอีกเร็ววันข้างหน้า ท่านหญิงฮันนาห์ก็เลยต้องจับตาดูว่าที่ราชินีในอนาคตอย่างไม่คาดสายตา
“ท่านหญิงจะเสด็จไหนเพคะ”พี่เลี้ยงคนดีของท่านหญิงฮันนาห์ถามขึ้นอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าท่านหญิงของราชวงศ์ อัล ยัสซาร์กำลังสอดส่องสายตาไปมาที่หน้าต่าง รอยยิ้มเจ้าเลห่ห์ฉายออกมาทางแววตาโดยที่ไม่อาจจะปิดบังได้เลย แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนทุกครั้งไป แต่สำหรับอานีดาแล้วที่เลี้ยงดูท่านหญิงมานานกว่าสิบปี ย่อมรู้จักนิสัยว่าท่านหญิงนั้นแสบทรวงมากเพียงใด ทั้งๆที่ชันษายี่สิบสี่แล้วแต่ก็มิวายทำตัวเป็นเด็กน้อย คอยประจบท่านป้าท่านลุงและพี่ชายเหมือนแมวน้อย ความซุกซนที่ไม่เคยยอมใคร แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหนุ่มเท่านั้นที่ท่านหญิงไม่ชอบหน้าอย่างแรง เหตุผลนั้นคนภายในทราบดีว่า ท่านหญิงไม่เคยชนะท่านวัสมันที่ทั้งเงียบ ขรึม ท่านหญิงมักเรียกว่า จอมเผด็จการ
“ไปขี่ม้ากัน”ท่านหญิงฮันนาห์บอกพี่เลี้ยงที่มีนามว่า อานีดา
“แดดแรงนะเพค่ะ เดี๋ยวผิวจะหยาบไม่งามนะเพค่ะ”อานีดาเป็นโรคกลัวว่าท่านหญิงซารีนจะไม่งาม มักจะชอบท้วงติงเสมอ
“อานีดา หญิงจะไป ถ้าเธอกลัวดำก็ไม่ต้องไป”ท่านหญิงซารีนเดินออกจากพระตำหนักเล็กทันที พระพี่เลี้ยงถึงกับตาค้าง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งตามไป หน้าที่ของเธอคือติดตามท่านหญิงองค์อย่างแนบสนิท ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอันใดที่ท่านหญิงจะทำความเดือดร้อนแล้วละก็ เธอจะต้องรายงานราชินี แต่คนที่กำราบหาได้เป็นราชินีแต่เป็นเจ้าชายนัสเซอร์หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่คิดถึงหน้าหล่อเหลาของรัฐมนตรีที่มีนามว่าวัสมัน อานีดาก็แทบจะขาอ่อนเป็นลมเป็นแล้ง ท่านหญิงมักจะทำตัวเป็นคู่อริกับวัสมันเสมอ ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่านหญิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นท่านหญิงเสด็จไปที่ใดมักจะหลบ ไม่ใช่เพราะว่ากลัวท่านหญิงจอมวายร้ายแต่ไม่อยากมีเรื่องราวมากกว่า แต่นั้นมันมักจะทำให้ท่านหญิงคิดเข้าข้างตัวเองว่า เขากลัว อานีดาส่ายหน้าสลัดความคิดออกไปก่อนจะเร่งเท้าให้ทันท่านหญิงที่กำลังสั่งให้พลขับพาไปที่สนามขี่ม้า
ท่านหญิงซารีนกำลังจูงม้าอาหรับสีขาวตัวโปรดออกมากคอกแต่สายตาหวานกลับมองผ่านไปเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังที่กำลังคุยกันอยู่ข้างๆเสาหินอ่อน ความเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาคู่หวาน คนที่กำลังจับผิดคนอื่นอยูย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆแบบนี้หลุดลอยไปได้แน่ๆ
“อานีดา พาเจ้าหวานแหววไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวหญิงกลับมา”ท่านหญิงบอกพี่เลี้ยงด้วยสายตายิ้มแย้ม แต่อานีดารู้ทันคนที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อ
“อย่าทรงก่อเรื่องนะเพคะ หม่อมฉันรู้นะว่า ทรงคิดเล่ห์เหลี่ยม”อานีดาปรามส่ายหน้าน้อยๆ
“อย่ามาปลักปลำหญิงนะ ก็แค่จะไปทักทายก็แค่นั้น”คนเจ้าเล่ห์แก้ตัววุ่นวาย ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์แต่สายตาของท่านหญิงมักจะโกหกไม่เก่งเท่าคำพูด คนทั้งวังก็มักจะให้อภัยได้เสมอเนื่องจากท่านหญิงเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อย เรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากมายอะไร แต่ถ้าทรงก่อเรื่องละก็ อานีดาก็เชื่อว่าท่านหญิงก็ต้องรับโทษอาญาเช่นกัน
“ท่านหญิง”อานีดาทำเสียงเข้มปรามอีกครั้ง แต่ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของอานีดามำให้ท่านหญิงไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่จะทรงเกรงใจมากกว่า และนั้นมันทำให้อานีดากล้าที่จะอบรมสั่งสอน แต่ท่านหญิงเป็นสาวน้อยจำพวก สอนได้สอนไปแต่ไม่ทรงทำตามได้เลยสักเรื่อง ถ้าลูกท่านหลานเธอคนใดได้อภิเษกกับท่านหญิงแล้วละก็ อานีดาเชื่อว่าความปวดเศียรเวียนเกล้าจะมาเยือนและหาความสงบไม่ได้ตลอดชีวิตแน่ๆ ท่านหญิงบอกเธอว่าเป็นความลับและมันก็เป็นตามความประสงค์ทั้งๆที่ท่านหญิงทรงมีชันษายี่สิบสี่แล้ว แต่ยังทรงทำตัวล่องลอยไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาสู่ขอ และตอนนี้ราชินีก็ทรงวุ่นวายบุคคลที่จะมาดูแลพระนัดดาเหลือเกิน พอท่านหญิงทรงรู้ก็ยิ่งทำตัวเหลวไหล ราชินีก็เลยต้องพับเก็บเรื่องอภิเษกลงเสีย
“อานีดานี่ หญิงไปแปบเดียวจริงๆ”ยังไม่ทันที่อานีดาจะอ้าปากเอ่ยคำใดออกมา ท่านหญิงจอมแสบของคนทั้งวังก็ก้าวฉับๆไปยังเป้าหมายทันที รัศมีความยุ่งเกิดขึ้นทันทีที่ท่านหญิงเสด็จไปยังผู้หญิงที่กำลังจะขโมยหัวใจของบุคคลที่เธอรัก คอยดูนะ จะแกล้งเสียให้เข็ดเลย ผู้หญิงบ้าอะไรทนได้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาดูหมิ่นของท่านหญิงเลย ไม่ว่าเธอจะกลั่นแกล้งมากมายเพียงใด มารีนก็ยังนิ่งเฉย ผิดกับพี่นัสเซอร์ที่นิสัยค่อนข้างใจร้อน
“สวัสดี มารีนและท่านวัสมัน”เสียงหวานอาบยาพิษดังขึ้นทักทาย แต่ทั้งสองทราบทันทีว่า ท่านหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะแค่มาทักทายหรอก คงหาเรื่องจับผิดเสียมากกว่า
“สวัสดีค่ะ ท่านหญิง”เสียงมารีนกล่าวทักทายท่านหญิงสูงศักดิ์ของวัง ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายฉายในดวงตาหวาน ซึ่งมารีนดูยังไงก็ไม่มีความหวังดีเหมือนวาจาที่พูดออกมาแม้แต่น้อย วันนี้เธอจะต้องมีเรื่องยุ่งยากอะไรอีกหนอ เจอหน้าท่านหญิงคราวใดเธอต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป แต่เพราะว่านัสเซอร์บอกให้อดทนและพยายามเข้าใจท่านหญิงน้อยให้มากๆ เนื่องจากท่านหญิงขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจมากไป
“พี่นัสเซอร์เรียกหา”ฮันนาห์บอกว่าที่พี่สะใภ้ ผู้หญิงคนนี้จัดการง่ายกว่าผู้ชายอีกคน แต่มันจะดีกว่าถ้าให้มารีนกระเด็นออกไปจากวงโคจรก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการผู้ชายตรงหน้า
“ค่ะ”มารีนยิ้มให้วัสมันก่อนจะเดินออกไปจากบทสนทนา สายตาของมารีนบอกให้วัสมันรับรู้ได้โดยปริยายว่า ระวังตัวด้วย สายตาท่านหญิงจอมมารยามองหน้ารัฐมนตรีหนุ่มกระทรวงกลาโหมอย่างผู้ชนะ เสียงที่บ่งบอกว่าสะใจดังขึ้น
“มารีนกำลังจะเป็นพระชายา ฉะนั้นท่านอย่ามายุ่งกับเธอ จะหาว่าหญิงไม่เตือน”ท่านหญิงขยับเข้ามาใกล้พูดเสียงเย้ย
“แล้วไง”รัฐมนตรีหนุ่มกอดอกมองท่านหญิงอย่างชินๆ วัสมันสังเกตท่านหญิงในกริยาท่าทางที่ไม่เป็นกุลสตรีเลย พูดง่ายๆก็คือ เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่าที่จะทำให้ท่านหญิงกลายเป็นสาวน้อยที่เหมาะจะครองชีวิตคู่ ราชินีเคยหมายมั่นปั่นมือให้เขารับท่านหญิงเป็นภรรยา แต่เขาปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ความคิดก็ยังคงเดิม
“นี่ อย่ามายั่วโมโหหญิงนะ”ฮันนาห์มองคนข้างหน้าอย่างโมโหคนตรงหน้าที่ไม่มีอาการไม่สะทกสะท้าน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เกรงใจเธอ ทั้งๆที่มารีนกลัวเธอจนไม่กล้ามองหน้าเสียด้วยซ้ำ
“คนที่ยั่วโมโหน่ะ ไม่ใช่กระหม่อม แต่เป็นท่านหญิงต่างหากที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น”เสียงเบื่อหน่ายดังขึ้น
“นี่ว่าหญิงสู่รู้หรือ”ฮันนาห์ถามขึ้น
“ท่านหญิงว่าเองนะ กระหม่อมหาได้พูดเช่นนั้นไม่”วัสมันเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ด้วยท่าทีที่ใจเย็น เขาใจเย็นแบบนี้เสมอ แต่ภายใต้ความเย็นมันมักจะร้อนกลายเป็นลาวาได้ง่าย แต่น้อยครั้งเท่านั้นที่มันจะปะทุขึ้นมา เขาเก็บอารมณ์ได้ดีเขาใช้สมองมากกว่าอารมณ์ ไม่เหมือนอีกคนที่มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่เคยมีเหตุผลเลยสำหรับท่านหญิงองค์นี้
“คอยดูนะ ฝากไว้ก่อน”ฮันนาห์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธอไม่เคยเถียงชนะเขาเลยสักครั้งเดียว ขาเรียวยาวซอยถี่ยิบออกมาจากที่ผู้ชายตัวโตยืนอยู่ เธอจะกลับไปตั้งหลักใหม่ คราวหน้าไม่แพ้แน่นอน
“จะทรงมาเอาคืนเมื่อใดก็บอกละกัน กระหม่อมจะรอ”อีกฝ่ายยังเล่นลิ้น
“คนบ้า”ฮันนาห์สะบัดหน้าพรืดด้วยความงอน แต่เขาหาสนใจไม่
“เด็กแสบ”เสียงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมดังขึ้นหลังจากท่านหญิงจอมแสบและดื้อเดินออกไปจากเขา หน้าหล่อคมแบบหนุ่มอาหรับแท้ จมูกโด่ง เขาเป็นคนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจแต่แค่ยิ้มน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทำให้ลูกท่านหลานเธอมักจะไม่กล้ามาโปรยความงาม จะมีก็แต่ท่านหญิงฮันนาห์เท่านั้น และเขารู้ดีว่าท่านหญิงทรงคิดจะทำอะไร วัสมันหัวเราะน้อยๆกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย คนทั้งวังยอม แต่เขาไม่เด็ดขาด
มือบางกำลังบีบแน่นเข้าหากัน เสียงฮึมฮัมในลำคอเรียวทำให้พี่เลี้ยงรับรู้ได้ทันทีว่าท่านหญิงปะทะคารมณ์และพ่ายแพ้อีกตามเคย ท่านหญิงเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ ทั้งๆที่เธอเองก็เตือนแล้วเตือนอีกจนปากจะฉีก สงสัยต้องให้อับอายละมั้ง ท่านหญิงแสนงอนองค์นี้จะเลิกหึงหวงพี่ชายเสียที
“หม่อมฉันเตือนแล้วนะเพค่ะ”อานีดาปลอบท่านหญิงเบาๆ ในขณะที่มือกำลังแปรงผมลอนน้อยๆสีดำอย่างตั้งใจ
“นี่อานีดาเข้าข้างเขาหรือไง”เสียงท่านหญิงงอนขึ้นมาอย่างที่อานีดาชินชาเสียแล้ว
“ท่านหญิงทรงทำพระทัยดีกว่าเพค่ะ มารีนน่าสงสารออก นางสูญเสียพ่อ นางเหมาะที่จะมาเป็นพระชายามากกว่าไลลา หรือว่าท่านหญิงอยากให้ไลลามาเป็น…”
“ไม่ เป็นตายร้ายดียังไงหญิงก็ไม่เอาไลลามาพี่สะใภ้ ผู้หญิงอะไรมั่วไม่เลือก”ท่านหญิงพูดถึงๆไลลา ตอนที่ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ไลลาคบผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอทนกริยาแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็เลยต้องให้อานีดาไปอยู่เป็นเพื่อน ไลลาก็เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ เมื่อคิดถึงไลลาท่านหญิงก็นึกถึงมารีนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ มารีนเป็นน้องสาวต่างแม่กับไลลา แต่นิสัยไม่มีความเหมือนกันเลย พ่อของมารีนและไลลาเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว มารีนน่าสงสารแต่ทำไมเธอต้องกลั่นแกล้งนางด้วย เพราะว่านางจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักเธอไป หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดอีก ก็เพราะว่าใครๆต่างก็รักมารีนไม่ว่าจะเป็นท่านลุงท่านป้า พี่นัสเซอร์ หรือแม้แต่กระทั่งวัสมัน เอ๊ะ แล้วเธอจะพาดพิงถึงเขาทำไม
“คนเผด็จการ”เสียงฮันนาห์พูดเบาๆ แต่อานีดาได้ยินจึงเอ่ยถามว่า
“อะไรกันเพค่ะ เผด็จการ”อานีดาขมวดคิ้ว
“เปล่า หญิงคิดอะไรเพลินๆก็เลยเผลอพูดออกมา อย่ามาจับผิดกันหน่อยเลยน่า”ท่านหญิงแก้ตัวไปน้ำขุ่นเมื่อพี่เลี้ยงจ้องจับผิด
“รู้สึกอึดอัดใช่ไหมที่เห็นคนอื่นมาจับผิดตัวเอง”อานีดากำลังใช้บทเรียนสอนท่านหญิง
“อย่ามาว่าหญิงนะ ”คนเป็นเจ้านายหูตาแดง เธอไม่ได้ร้ายกาจแบบนั้นเสียหน่อย
“มารีนคงรู้สึกเหมือนท่านหญิงในเวลานี้”อานีดาบอกท่านหญิงที่เลี้ยงดูมากับมือ ถ้าเธอไม่สงสารและตามใจท่านหญิงกำพร้ามากเกินไป ท่านหญิงคงมีนิสัยน่ารักไม่เอาแต่พระทัยองค์แบบนี้
“อานีดาไม่รักหญิงใช่ไหม ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย”เสียงกระเง้างอนมารยาชั้นดี ที่ฮันนาห์ใช้กับใครๆก็ได้ผลกำลังถูกงัดมาใช้ เวลาที่คนอื่นดูเหมือนว่าจะสนใจคนอื่น มารยาเรียกร้องความสนใจก็จะออกมาจากสมองน้อยๆอย่างอัตโนมัติ
“ก็เพราะว่ารักไงเพค่ะ ก็เลยต้องห้ามปราม”อานีดาส่ายหน้าอย่างระอา ถ้ามีใครขัดใจท่านหญิงฮันนาห์เข้า กลยุทธ์ไม้นี้จะเอามาใช้ แล้วใครจะไปทนกับความแสนงอนที่แลดูสดใสบริสุทธิ์ได้
“ห้ามรักมารีนมากกว่าหญิงนะ”ท่านหญิงหอมแก้มพี่เลี้ยงอย่างเอาใจ
“สำหรับมารีนหม่อมฉันแค่สงสารที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ท่านหญิงหม่อมฉันรักและห่วงใย”อานีดาลูบเส้นผมยาวของอีกฝ่าย
“จริงๆนะ”ท่านหญิงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทุกคนต้องรักเธอเท่านั้น โดยเฉพาะ…
“เพค่ะ บรรทมได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้มีกำลังไปแกล้งคนอื่น”อานีดารู้ทันท่านหญิงเสมอ
“หญิงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้เสียหน่อย”ท่านหญิงล้มตัวลงเตียง แก้ตัวนิดหน่อย เพราะว่าแผนการณ์ร้ายๆกำลังผุดขึ้นในความคิด
ความคิดเห็น