ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chu~ Baby

    ลำดับตอนที่ #7 : Baby : First

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 56





     

               แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาภายในห้องทางช่องว่างระหว่างผ้าม่าน ผมค่อยๆลืมตาก่อนจะลุกขึ้นนั่งบิดไปมายืดเส้นยืดสาย ก่อนจะลุกไปเปิดผ้าม่านรับแสงแดดยามเช้าและเดินออกไปสูดอากาศตรงระเบียงที่หันหน้าเข้าสู่ทะเลช่างเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ


     

               แต่น้ันเป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมคาดว่ามันควรจะเกิด ซึ่งในความจริงแล้วสิ่งนั้นเป็นเพียงแค่จินตนาการของผมเท่านั้นเพราะว่าตอนนี้ผมถูกไอ้ฝรั่งมันลากมารับลมตรงโขดหินริ่มทะเลไกลจากบ้านพักตากอากาศของต้นพอสมควร(แค่เดินข้ามเนินเขาเล็กๆที่บ้านพักตั้งอยู่ไปอีกฝากเท่านั้นเอง)


     

               “ นี่เต้ย อย่ามัวแต่หลับสิ นี่พระอาทิตย์ใกล้ขึ้นแล้วนะ ” แมคมันหันมากปลุกผมที่ตอนนี้เหมือนจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่อยู่แล้วนั้น

     


               “ กูเห็นมึงพูดแบบนี้มาจะชั่วโมงแล้วนะ ”

     


               “​ เอาน่ะ นี่ฟ้าก็เริ่มสว่างแล้วอีกแปบเดียวก็ขึ้น ”

     

               “ ขึ้นแล้วปลุกด้วยแล้วกัน ” ผมทำท่าจะนอนลงไปอีกรอบแต่ไอ้ฝรั่งมันไม่ยอม ดันผมกลับมานั่งในท่าเดิม

     


               “ นี้เป็นครั้งแรกเลยนะที่พวกเรามานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน ช่วยทำให้มันโรแมนติกหน่อยได้ไหมคุณตัวเล็ก ” คือถ้าเป็นคนอื่นเรียกผมแบบนี้ผมคงต่อยกลับหน้าหงายไปแล้ว(ยกเว้นผู้หญิงผมไม่ต่อยนะ) แต่ทำไมพอแมคเรียกผมกลับรู้สึกร้อนวูบๆที่สองข้างแก้มก็ไม่รู้ แถมยังรู้สึกใจสั่นๆอีก อาการง่วงนอนเมื่อกี้หายไปทันตาเห็นเลยทีเดียว

     

     



               นั่งรอกันอีกไม่นานพระอาทิตย์สีส้มสดใสก็ค่อยๆโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา ตรงเส้นขอบฟ้าเริ่มมีเส้นสีเหลืองอร่ามแต่งแต้มอย่างลงตัว ช่างเป็นภาพที่สวยงามเกินจะบรรยา ไม่รู้ว่าถ้าเมื่อกี้ผมมัวแต่หลับอยู่มันจะน่าเสียดายเพียงใด 

     


               ผมลุกขึ้นเดินลงไปริ่มทะเลเท้าสองข้างของผมสัมผัสกับน้ำทะเลที่ซัดเข้าฝั่ง ผมหลับตาลงช้าๆแล้วค่อยๆเงยหน้าสูดหายใจเข้าให้เต็มปอด รู้สึกดีจังเลยถ้าได้ทำแบบนี้บ่อยๆคงจะดี

     


               “ ชอบล่ะสิ ” แมคถามก่อนค่อยๆเดินมาหาผมก่อนดึงผมเข้าไปในอ้อมกอด ผมไม่ดิ้นออกมาจากอ้อมกอดนั้น ก็อุ่นแบบนี้ผมจะออกไปทำไหมล่ะ? จริงไหม? 

     


               “ ก็ชอบนะ ถ้าได้ทำบ่อยๆคงดีอ่ะ ” ผมหันไปบอกมัน

     


               “ งั้นไว้ว่างเมื่อไหร่จะพามาดูบ่อยๆนะ ”

     

     










               พวกผมสองคนยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นไปจนเกือบแปดโมงก็กลับมาหาอะไรกินที่บ้านพัก แบบไม่ใช่อะไรหรอกครับพอดีท้องของไอ้ฝรั่งมันร้องเสียงดังมากกกกก ทำลายบรรยากาศดีๆหมด ผมก็เลยตัดสินใจกลับมาที่บ้านพักเนี่ยแหละครับ

     

     



               “ แมค.. กูอยากเล่นน้ำอ่ะ ” ผมพูดขึ้นในระหว่างที่เรากำลังทานอาหารที่ป้าน้อม ป้าแม่บ้านของต้นที่นี้ทำให้ทาน ไม่อยากจะคุย อาหารฝีมือป้าน้อมเนี่ยอร่อยอย่างกับเชฟร้านดังมาทำให้ทานเลย

     


               “ แดดยังแรงอยู่เลย ไว้เย็นๆค่อยเล่น ” 

     


               “ โหยยยย เย็นเล่นหรอ?? กินเสร็จแล้วเล่นเลยไม่ได้หรอ? นะนะนะ ” ผมอ้อนมันเผื่อจะใจอ่อนเหมือนทุกๆครั้ง ก็คนมันอยากเล่นอ่ะผมมาทะเลครั้งสุดท้ายก็เมื่อตอนเด็กๆนู่นเลยนะ 

     


                “ ไม่ต้องมาอ้อนเลย ยังไงก็ไม่ ถ้าไม่สบายขึ้นมาอดเที่ยวเลยนะ ” แมคมันขู่ครับ

     


               “ ก็ได้... แต่ระหว่างรอมึงต้องพากูเที่ยวนะสัญญาป่ะ??? ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงเหมือนเวลาเด็กอดได้ของเล่นชิ้นโปรดอย่างไงอย่างงั้นเลย แต่มันก็ยอมตกลงกับคำขอที่ออกจะดูเด็กๆของผมนะ

     

     







               พอเราทานข้าวเสร็จแมคก็พาผมไปเที่ยวตามที่ตกลงกันไว้จริงๆ มันขับรถพาผมเที่ยวรอบเกาะเลยครับ ที่ไหนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดังๆของที่นี้นะ มันก็พาผมไปหมดเลย

     



               อย่างครับพาไปที่ดูหินตาหินยายสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าดังที่สุดของที่นี้เลยก็ว่าได้ มันก็พาผมไป แถวยังมาเฝ้าผมที่วันนี้ขอกลายร่างเป็นเด็กชายน้องเต้ยหนึ่งวัน วิ่งเล่นถ่ายรูปไปทั่วลานเลย จนเกือบลื่นตกทะเลตายดีนะที่แมคมันเข้ามาช่วยผมไว้ได้ทัน ไม่งั้นคงอดได้รับปริญญาแน่อ่ะ

     

               หลังจากที่ผมได้โชว์ซ่าไปคุณผู้ปกครองแมคก็ไม่ยอมให้ผมห่างตัวเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าผมจะเดินไปไหน ทำอะไร คุณผู้ปกครองหัวทองก็ตามติดทุกเหตุการณ์อย่างกับรายการเรียลริตี้โชว์เลยล่ะ

     



               และแล้ว ก็มาถึงเวลาที่ผมรอคอยใจจดใจจ่อมาทั้งวันก็มาถึงสักที เวลาเล่นน้ำของผม!!! แต่กว่าจะได้เล่นก็ปาเข้าสี่โมงนู่น ถามว่าทำไมน่ะหรอ? หันไปถามไอ้ฝรั่งข้างๆดีกว่าไหม? ตอนแรกผมก็เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปเล่นน้ำอย่างด่วนจี้ แต่กลับโดนฝรั่งหัวทองเบรคเสียก่อนจะได้ทำอะไรอีก

     



               “ ไปเปลี่ยนชุดนะ ” มันเบรคผมที่กำลังจะวิ่งออกประตูไปกระโจนลงทะเลให้หายอยาก

     


               “ ทำไมอ่ะ? ชุดนี้ดีแล้ว ” ผมก้มลงมองชุดตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ผมใส่กางเกงบ๊อกเซอร์กับเสื้อสีขาวที่ออกจะบางๆหน่อยเล่นน้ำ มันทำไมอ่ะ?

     


               “ มันโป๊ ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้ ” ผมก้มลงมองชุดอีกครั้ง

     


               “​ โป๊ตรงไหน? แล้วอีกอย่างกูเป็นผู้ชายนะครับ สาวๆมองบ้างมันก็ดีแล้วนิ? แปลว่ากูมีดีให้มอง ” ผมเถียงฝรั่งหัวทองครับ

     


               “ ไม่ให้มอง ของกู... กูหวง ” คิดว่าจะทำไงล่ะครับ ก็ยอมไปเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อสีน้ำน้ำเข้มแทนนะครับ แต่ขอใส่บ๊อกเซอร์เล่นเหอะเพราะผมเอาแต่กางเกงยีนมาสองตัว มันคงไม่คิดจะให้ผมใส่กางเกงยีนเล่นน้ำหรอกนะ

     


               “ ทำไมใส่บ๊อกเซอร์อยู่อีก ” มันถามทันทีที่ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ

     


               “ ก็เอามาแค่บ๊อกเซอร์กับกางเกงยีน มึงคงไม่คิดจะให้กูใส่กางเกงยีนเล่นน้ำหรอกใช่ม่ะ? ” ผมถามมันกลับ

     


               “ มึงนี่นะ จริงๆเลย งั้นมาทาครีมกันแดก่อน ” มันยังไม่ยอมให้ผมเล่นครับ

     


               “ โหยยย ไม่ต้องทาก็ได้ ” 

     


               “​ เดี๋ยวผิวเสีย มาทาเลย ” มันเดินเข้ามาลากผมไปนั่งตักมันก่อนจะบรรจงทาครีมกันแดดให้ผมทั้งตัวตั้งแต่แขนจนถึงขา สายตาของมันตอนทาครีมให้ผมดูตั้งใจมากจนส่งผลกระทบต่อหัวใจดวงน้อยๆของผมให้สั่นเล่นๆ เลือดเริ่มสูบฉีดดีเกินไปโดยเฉพาะบริเวณแก้มทั้งสองข้าง ในที่สุดผมก็ต้องชวนมันคุยเพื่อไม่นึกถึงเหตุการณ์ใจเต้นแรงนั้น

     


               “ ถ้ากูผิวเสียมึงจะไม่รักกูช่ะ? ”

     


               “ เอาไรมาคิด ต่อให้มึงโดนรถชนหน้าพังยับกูก็ยังรัก กูไม่ได้รักมึงที่หน้าตามึงนะ แต่กูรักในตัวตนของมึง แต่ที่ให้มาทาเนี่ยเพราะถ้ามึงผิวเสียขึ้นมามันรักษาอยากกว่ากันนะ ” 

     


               “ กูควรซึ้งใช่ไหมวะ? ” ผมถามไอ้ฝรั่ง จากที่มันพูดมาเมื่อกี้มันแปลว่ารักผมที่ผมเป็นผมไม่ได้รักที่หน้าตามันเป็นประโยคที่ผมควรซึ้ง แต่ทำไมผมรู้สึกซึ้งไม่ลงวะ?


     


                “ อ่ะเสร็จล่ะ เชิญเด็กชายน้องเต้ยไปเล่นน้ำได้แล้วครับ ” ผมหันไปส่งค้อนวงใหญ่ให้ไอ้ฝรั่งหัวทองก่อนจะรีบวิ่งกระโจนลงน้ำทะเล จนเด็กน้อยที่เล่นน้ำอยู่แถวนั้นตกใจเลยทีเดียว พี่ขอโทษนะจ๊ธหนูน้อย

     


               ผมจำแทบไม่ได้แล้วว่าผมมาทะเลครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ น่าจะตอนประมาณ 5 ขวบเลยมั้ง หูยยยนานมากแล้วอ่ะ ถ้างั้นวันนี้ต้องเล่นให้คุ้ม แต่จะเล่นน้ำอย่างเดียวมันก็คงไม่สนุกเพราะฉะนั้นผมเลยเตรียมอุปกรณ์ก่อปราสาททราย ห่วงยางแล้วก็ตุ๊กตาฝรั่งยักษ์หัวทองมาเป็นพร๊อบด้วย หึหึ

     

     
             ผมเล่นน้ำจนเหนื่อยมากเลยขอขึ้นมาพักเล่นปราสาททรายกับสาวน้อยแก้มป่อง คงจะเป็นลูกของนักท่องเที่ยวแถวนี้แหละ พ่อแม่เขากล้าปล่อยลูกมาเล่นคนเดียวเนอะ นี้ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นคนดีนะจะขอเอาน้องพกกลับบ้านด้วยเลย ส่วนแมคพอผมขึ้นมาเล่นกับน้องมันก็ตามผมมาติดๆเลยครับ เชื่อเค้าเลยขี้หวงไม่มีใครเกิน แค่ผมหันไปยิ้มให้คนอื่นหน่อยก็งอนหาว่าผมนอกใจมัน - - เอากับมันเหอะครับ ทีมันถอดเสื้อโชว์หกห่อ เรียกเลือดสาวๆเกือบทั้งหาดผมยังไม่ออกอาการเลย

     



               “ ให้พี่ช่วยได้ไหมครับ? ” ผมเดินเข้าไปถามน้อง

     


               “ พี่เป็นผู้หญิงต้องพูด 'คะ' สิค่ะ งั้นพี่สาวช่วยหนูฐานนะคะ ”  เจอน้องพูดแบบนี้ถึงกับไปไม่ถูกเลยครับ นี้หน้ากูมันเหมือนผู้หญิงขนาดนั้นเลยหรอว่ะ?เด็กยังเข้าใจผิดอ่ะ แมคที่ได้ยินน้องพูดกลับหัวเราะผมอีก 

     


               “ เออพี่เป็นผู้ชายครับ ว่าแต่หนูน้อยที่น่ารักของพี่ชื่ออะไรหรอคะ? ” ผมชวนน้องเปลี่ยนเรื่อง

     

     
             “​ หนูชื่อ ฮันน่า คะ แต่หนูไม่ได้เป็นของพี่นะ หนูเป็นของพี่ผู้ชายสุดหล่อคนนั้นต่างหาก ” น้องฮันน่าที่แสนน่ารักชี้ไปทางด้านหลัง ผมมองตามที่น้องชี้ก็หันไปเจอกับแมค อะไรว่ะ!ขนาดเด็กมันยังแย่งความสนใจไปจากผมเลยอ่ะ 

     


               “ สวัสดีจ๊ะ สาวน้อยพี่ชื่อแมคนะ พี่ขอเล่นด้วยอีกคนนะ ” แมคมันเข้ามาโปรยเสน่ห์ใส่น้องฮันน่าอย่างกับจะยั่วโมโหผมงั้นแหละ ชิ! ผมเลยไม่สนใจมันหันไปช่วยน้องฮันน่าก่อประสาททรายอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่สนใจคนข้างๆจนได้ประสาททรายอันสวยงามเท่าที่ควรจะเป็นอ่ะนะ

     


               “ เย้ๆ เสร็จแล้ว ” น้องฮันน่ากระโดดดีใจวิ่งไปรอบๆพวกผมสองคนก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าแมค

     


               “ แต่ประสาทนี้ยังไม่มีคนมาอยู่เลย ” น้องฮันน่าเจื่อยแจ้วตามประสาเด็ก



               “ งั้นประสาทนี้เป็นของครอบครัวสุขสันต์ดีไหม? มีพี่เป็นพ่อ มีพี่เต้ยเป็นแม่ แล้วก็น้องฮันน่าเป็นลูก ดีไหมค่ะ? ” มันบอกน้องฮันน่าแต่ตอนพูดครอบครัวทำไมมันต้องมาทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่ผมด้วยก็ไม่รู้ เรียกอาการร้อนๆที่ข้างแก้มของผมและอาการใจเต้นรัวได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

     



               “ ไม่ดีคะ ” น้องฮันน่าไม่เห็นด้วยกับความคิดมัน เจ้าตัวเงิบหันไปถามหนูน้อยที่น่ารักในทันที

     


               “ ทำไมล่ะคะ? ”

     



               “​ ก็พี่เต้ยเป็นผู้ชายจะเป็นแม่ได้ยังไง? หนูต้องเป็นแม่เพราะหนูเป็นผู้หญิง แล้วพี่แมคก็ต้องเป็นพ่อ ส่วนพี่เต้ยก็เป็นลูกชายของหนู แบบนี้ดีที่สุดเลย ” หนูน้อยฮันน่าชี้แจ้งแถลงไขให้คุณฝรั่งหัวทองได้ฟัง พวกผมสองคนถึงกับหัวเราะออกมากับความคิดของน้อง อะไรมันจะน่ารักขนาดนนี้เนี่ย

     



               เราสามคนนั่งเล่นกันอีกสักพักจนพระอาทิตย์เริ่มจะตกดิน คุณแม่ของน้องฮันน่าก็มาตามน้องกลับไปอาบน้ำทานข้าว ขอกระซิบหน่อยเหอะว่าคุณแม่น้องฮันน่าสวยมากกกกก พวกผมสองคนถึงกับมองค้างเลยทีเดียว  ตอนนี้เลยเหลือแค่เราสองคนแล้ว แมคเลยชวนเดินเลาะชายหาดดูพระอาทิตย์ตกกลับบ้านพักของเรา แต่ก็ดันได้เจอของดีเสียก่อน

     



               “ แมคคะ!! ”
     

     

     



               เราสองคนหันไปตามเสียงเรียกนั้น ก็พบกับหญิงสาวที่มีเครื่องหน้าเฟอร์เฟ็คสมบูรณ์ทุกอย่างดูลงตัวเมื่ออยู่บนใบหน้านั้น อีกทั้งผมสีแอลม่อนยังช่วยขับให้หน้านั้นอยู่น่าหลงใหลยิ่งขึ้น ส่วนหุ่นของคุณเธอไม่ต้องพูดถึงอย่างกับหลุดออกมาจากนิตยาสารแฟชั่นเลยทีเดียว    

     


               “ อลิส!... ” 

     


               ว่าแต่...เธอรู้จักแมค แล้วแมคก็รู้จักเธอด้วย  ผมหันไปจ้องมองมันอย่างสงสัย บนหน้าของมันตอนนี้กำลังแสดงสีหน้าตกใจไม่น้อยที่เห็นเธอที่นี้ เธอเป็นอะไรกับมันนะ? มันถึงได้แสดงอาการแบบนี้ออกมา

     



               “ ไม่ได้เจอกันตั้งนานยังหล่อไม่เปลี่ยนเลยนะ ” หญิงสาวเดินเข้ามาคุยกับแมค

     


               “ อลิสก็สวยขึ้นมากเลยนะ^^ ” มันพูดไปยิ้มไป เห้ย!!!คุณแมคครับกระผมแฟนคุณยื่นอยู่ตรงนี้นะ ยังมีหน้าไปพูดจาหวานๆส่งสายตาหวานฉ่ำใส่หญิงอื่นอีกหรอ?? เดี๋ยวพี่จะให้สักดอกหรอก คดีที่ไปหว่านเสน่ห์ใส่สาวๆทั้งหาดยังไม่ได้เคลียเลยนะ

     


               “ ปากหวานจริง ว่าแต่มาเที่ยวหรอ? ”



               “ อื้ม เรามาเที่ยวกับแฟนอ่ะ... นี่แฟนเราเองชื่อ เต้ย ” แมคหันมาแนะนำผมให้กับคุณอลิส ผมก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงทักทายก่อนจะส่งยิ้มไปให้ เธอก็ทำเช่นกัน

     


               “ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ^^ ” 

     


               “ เช่นกันครับ^^ ”

     


               “ เปลี่ยนรสนิยมแล้วหรอ แต่แฟนน่ารักดีนะ ” เธอหันกลับไปคุยกับแมคอีกครั้ง

     


               “​ แหมก็นะ ” แล้วสองคนนั้นก็เข้าสู่โหมดส่วนตัว ดั่งกับว่าโลกนี้มีเพียงเราสอง ทั้งคู่ระลึกความหลังกันตั้งแต่สมัยเป็นเด็กอนุบาลนู่น เขาสองคนคุยกันดูมีความสุขมากจนผมกลายเป็นส่วนเกิน กลายเป็นของประกอบฉากกันเลยทีเดียว เมื่อผมมองทีท่าว่าสองคนนั้นคงจะเลิกคุยกันยาก ส่วนผมก็เริ่มหนาวแล้วสิ ถ้าจะขอตัวกลับก่อนคงไม่เป็นไร

     



               “ เออ... ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับ คือผมขอตัวไปอาบน้ำก่อน เชิญพวกคุณตามสบายนะครับ ” 

     



               พูดเสร็จผมก็รีบเดินออกมาไม่ได้หันกลับไปสนใจข้างหลังอีกเลย ว่าอาการของแมคกับคุณอลิสเป็นอย่างไร ตอนนี้ผมรู้แค่อย่างเดียวว่าผมต้องออกไปจากท่ีนี่ให้เร็วที่สุด ผมแค่อยากไปให้พ้นจากตรงนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

     

     


     




             เมื่อผมกลับมาถึงผมเข้าไปจัดการอาบน้ำสระผมในห้องจนเรียบร้อยกำลังเดินออกมา ก็ชนเข้ากับอกของใครบางคนที่เข้ามาขวางไว้ ก่อนจะถูกรวบเข้าไปในอ้อมกอดของใครบางคน

     



               “ เป็นอะไรหืม? ทำไมถึงเดินหนีกลับมาก่อน พอเรียกก็ไม่ยอมหันกลับมา ” มันก้มลงกระซิบถามที่ข้างใบหูผม

     



               “ เปล่านิ ไม่ได้เป็นไรก็แค่หนาวเลยอยากรีบมาอาบน้ำเฉยๆ ” ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับว่าที่พูดมาเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทั้งๆที่มันมันบางอย่างซ่อนอยู่

     


               “ ไม่เชื่อ เราเป็นแฟนเต้ยนะ ทำไมจะไม่รู้ว่าเต้ยหึงเราอ่ะ ” 

     


               “ เอาไรมาพูด? อ่านความคิดกูได้หรือไง? ”

     


               “ ใจเราสื่อถึงกันไง ” แมคพูดไปหอมแก้มผมไป แม่ง!!!ฉวยโอกาสเป็นที่สุด

     


               “ เฮ้ยๆๆ!! พูดอย่างดียวก็ได้ทำไมชอบฉวยโอกาสจังว่ะ? ชาติก่อนเกิดเป็นโจรหรือไงวะ? ” ผมหันไปด่ามันแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสะทกสะท้อนต่อมันเท่าไหร่ เพราะมันยังยิ้มหน้าระรื่นอยู่ได้

     


               “ อ่ะๆ ไม่ฉวยโอกาสก็ได้ แต่เต้ยต้องยอมไปกลับเราที่หนึ่งนะ ” 

     


               แหมจะสงสัยว่ามันจะทำอะไรให้ผมอีก แต่ผมก็ยอมเดินตามมันไปนะ ก่อนจะเดินไปถึงโต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่ริ่มทะเลพร้อมทั้งอาหารมากมายวางอยู่บนนั้น มีแจกันดอกไม้แลัเทียนวางประดับบนโต๊ะอย่างสวยงาม บนเก้าอี้มีช่อดอกกุหลาบสามสีวางอยู่ แมคเดินเข้าไปหยิบมาก่อนจะเดินเอามาให้ผม 

     


               “ ขอโทษนะ รู้ว่าทำให้หึง สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เรากับอลิสเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กกันเฉยๆ อย่าคิดมากนะ ยังไงเราก็รักเต้ยแค่คนเดียวเท่านั้น ”

     


               ตอนแรกก็โกรธอยู่หรอกแต่พอเจอมันง้อแบบนี้ก็ไปต่อไม่ถูกเลยสิครับ ถ้าเป็นพวกคุณเจอแบบนี้ไม่ตายราบคาบแบบผม คุณก็เมพไปล่ะนะ แต่ถ้าจะให้ยอมยกโทษตอนนี้มันก็เสียฟอร์มแย่สิ ก็เนียนๆไปก่อนล่ะกันเนอะ

     


               “ อือๆ กินเหอะหิวล่ะ ” ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ช่อดอกไม้เคยวางอยู่ โดยมีฝรั่งร่างยักษ์ค่อยบริการอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย ทั้งตักอาหารให้ ป้อนบ้างบางครั้ง สร้างเสียงหัวเราะให้กับผม ดูโรแมนติกริ่มทะเลก่อนนอนนะครับอิอิ
     



               อาหารมื้อนี้เป็นมื้อที่ไม่ได้จัดหนักมากเพราะผมเหนื่อยเกินกว่าจะทานมากไปกว่านี้แล้ว พวกผมสองคนนี้อพยพตัวเองมาที่โซฟาในห้องนอนนั่งดูทีวีไปจิบไวน์ไป อ่า~สวรรค์ของน้องเต้ยจริงๆเลย

     


               บนหน้าจอที่ทีวีกำลังฉาย ‘โรมิโอ แอนด์ จูเลียต’ บทละครโศกนาฏกรรม เรื่องราวของรักต้องห้ามระหว่างชายหญิงที่เกิดในตระกูลที่เป็นคู่อริกันแต่ดันมารักเสียได้ จริงๆรักต้องห้ามมันมีหลายรูปแบบ อย่างรักระหว่างชายชาย เมืองไทยก็ยังมองเป็นรักต้องห้ามเช่นกัน

     


               “ ความรักของเราเป็นรักต้องห้ามเหมือนในเรื่องเลยเนอะ ” จู่ๆผมก็พูดขึ้น ท่ามกลางความเงียบระหว่างเราสองคน

     


               “ ยังไงอ่ะ? ” แมคหันมาถามผมอย่างสงสัย

     


               “ ก็เป็นรักระหว่างชายชายที่ใครหลายคนไม่ยอมรับไง ”

     


               “ คนอื่นจะยังไงไม่รู้ แต่ที่แน่ๆกูไม่สนใจ กูสนใจแค่ความรู้สึกมึงมากกว่า ” น้ำเสียงที่มันพูดเต็มไปด้วยความมั่นใจและหนักแน่น

     


               “ อย่าพูดแบบนี้เลย เราสองคนอาจจะถูกสังคมกดดัน ดูถูกจนต้องเลิกกันก็ได้ ”

     

               “ มันจะไม่มีวันนั้นกูสัญญา ”

     


               “ อย่าสัญญาในสิ่งที่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่าเลย ” ผมแย้งขึ้น ไม่อะไรที่่ทำให้ผมพูดออกไปแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะคำพูดของคุณอลิสเมื่อเย็นก็เป็นได้ที่ทำให้ความกังวลของผมเริ่มไหลล้นออกมา

     


               “ เพราะกูมั่นใจไง กูถึงสัญญา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกูจะยังอยู่กับมึง จับมือมึงไว้แบบนี้ ” มันจับมือผมขึ้นมากอบกุมไว้ด้วยสองมือของมัน

     


               “ ... ” ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป ทำเพียงจ้องมองใบหน้าที่แสดงถึงความจริงจังในสิ่งที่พูดออกเมื่อกี้ แววตามันไม่มีการสั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเป็นิส่งยืนยันได้ว่าสิ่งที่พูกว่านั้นตั้งใจจะทำจริงๆ

     


               “ ทำไมถึงพูดออกมาแบบนี้ ไม่เชื่อใจกันบ้างเลยหรอ? หรือกูไม่ดีพอจะเป็นที่พึ่งให้มึงได้? ” น้ำเสียงตัดพ้อ ถูกส่งมาพร้อมสายตาที่เจ็บปวด ผมแค่กังวลใจมากไปเท่านั้น ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันปวดกับสิ่งที่ผมพูดออกไปอย่างนั้น

     


               “ ขอโทษ... กูตั้งใจ... กูแค่กังวลมากไปเท่านั้น.. ขอโทษนะ คือ.. คือ.. คือ กูแค่กลัวว่าเราจะต้อง... ” มันไม่ทันทีจะได้พูดออกมาจนจบประโยค ริ่มฝีปากของผมก็ถูกริ่มฝีปากของร่างหนาข้างๆประกบลงมาเสียก่อน เราสองคนอย่างดูดดื่มอยู่อย่างนั้นเนินนาน จนลมหายใจของผมแทบไม่เหลือ ผมจึงทุบลงบนไหล่แกร่งเป็นสัญญาณ แมคผละริ่มฝีปากออกจากปากผมอย่างอ้อยอิ่งคลอเคลียอยู่บริเวณริ่มฝีปากอยู่อย่างนั้น ก่อนกดจูบลงมาซ้ำๆอย่างนั้นอีกหลายรอบ การกระทำนั้นสามารถเรียกเลือดขึ้นไปรวมกันบนใบหน้าผมได้อย่างดีทีเดียว

     


               “ นายหน้าแดงมากรู้ไหม มันน่ารักมากเลย ” ผมรู้ตัวนะว่าผมคงหน้าแดงมากแน่ๆ แต่มันยิ่งมาแซวผมแบบนี้มันจะไม่ยิ่งแดงเป็นลูกตำลึงเชียวหรอ? ผมเขินจนจะระเบิดอยู่แล้วนะ  ผมได้แค่ก้มหน้ามุดลงบนอกแกร่งของแมค ไม่กล้าพอจะสู้หน้ามัน

     


               “ นายทำเราอดใจไม่ไหวแล้วนะ ” ผมงงกับคำพูดของมัน จนต้องเงยหน้าขึ้นมาด้วยว่ามันอารม์ไหนกันแน่ แต่ผมก็มารู้ที่หลังว่านั้นเป็นความผิดอย่างใหญ่หลวง

     



               “​ คืนนี้เราขอเถอะนะ ”

     


               !!!!!!


               .....

               ...

               ..

               .


     



               




               ผมค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงแสงแดดที่สาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในห้อง ร่างกายของผมตอนนี้สะอาดสะอ้านแถมใส่ชุดนอนซะด้วยสงสัยแมคสวมให้ ผมขยับตัวแต่ด้วยความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาตามกระดูกสันหลัง อาการปวดช่วงเอวอย่างรุนแรงเล่นเอาน้ำซึมออกมาทางหางตากันเลยทีเดียว

               “ ตื่นแล้วหรอ เจ็บมากเลยหรอ ” ผมค่อยๆขยับหันไปหาของที่นอนผมทางด้านหลังช้าๆให้กระทบกระเทือนน้อยที่สุด  


               " ลองมาโดนบ้างไหมล่ะ? " ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ก็ไม่ได้อยากจะเซ็กซี่อะไรหรอนะ แต่เมื่อคืนเพิ่งผ่านกิจกรรมใช้เสียงอย่างหนักมาเลยเป็นอย่างที่ทุกคนเห็น


               " ป่วยแล้วยังจะซ่าอีกนะ อย่างนี้มันต้องซ้ำ "


               " พอเลยไอ้หื่น "  ผมดันหน้าไอ้ฝรั่งหัวทองจอมหื่นที่ก้มลงมาทำท่าจะทำอย่างที่ขู่จริงๆอย่างงั้นแหละ หื่นจริงๆเลย ครั้งแรกของผมเล่นไปซะหกยก อีกหน่อยไม่ทั้งคืนเลยหรือไง


               " หึหึ โอเคไม่แกล้งล่ะ ลุกขึ้นมากินข้าวจะได้กินยาพักผ่อนสะ " 


               แมคพยุงผมขึ้นนั่งพิงหัวเตียงก่อนจะถือชามข้าวต้มปลาไว้ ผมยื่นมือออกไปเพื่อที่จะรับชามข้าวต้มมาถือไว้แต่แมคก็ไม่ยอมส่งมาให้เสียที ผมก็เลยต้องเอ่ยปากขอไป



               " ส่งมาสิจะได้กินสักที "


               " ไม่ต้องอ่ะ นั่งเฉยๆไปเดี๋ยวป้อนให้ " ว่าแล้วแมคก่อนตักข้าวต้มขึ้นเป่าก่อนป้อนผม ในตอนช่วงแรกๆผมก็อิดออดจะทานเองให้ได้แต่แมคมันก็ไม่ยอมจะป้อนอย่างเดียว มันให้เหตุผลว่า ' แมคเป็นคนทำ แมคจะรับผิดชอบสิ ' แหมมมมเพิ่งมาคิดได้ตอนนี้อ่ะนะ สุดท้ายแรงคนป่วยก็แพ้แรงคนปกติไป พอทานข้าวต้มเสร็จผมก็กินยาและนอนพักผ่อนยาวตื่นมาอีกทีก็เที่ยง เพราะแมคปลุกขึ้นมาทานข้าวทานยาแล้วก็นอนต่อ


               ผมตื่นมาอีกรอบพระอาทิตย์ก็เริ่มเตรียมที่จะตกดินแล้ว วันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองนอนเยอะมากๆเลยนะ แต่ทำไมยังเพลียๆอยู่ สงสัยกิจกรรมเมื่อคืนจะกินแรงมากโขล 


               ผมมองไปรอบๆห้องเพื่อหาฝรั่งหัวทองที่ตื่นมารอบนี้ไม่เห็นมานั่งเฝ้า หาไปไหนแล้วเนี่ย ผมค่อยๆพยุงตัวเองลุกจากเตียง แค่เพียงยืนก็ยังขาสั่นเลยความเจ็บช่องทางด้านแล่นปลีดไปถึงสมองเลยแถมด้วยอาการปวดเอวสุดๆ อาการปางตายเลยก็ว่าได้ หายเมื่อไหร่จะเอาคืนตัวการที่ทำให้ผมต้องเดี้ยงแบบนี้อย่างสาสมเลยคอยดู


               หลังจากหายใจเข้าออกผ่อนลมหายใจสกัดลมปานระงับความเจ็บได้แล้ว ผมก็ค่อยๆเดินตามหาแมคอย่างกับคนเปนริดสีดวงไปทั่วบ้าน สุดท้ายก็ไปเจอคุณชายกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ริ่มสระน้ำนอกตัวบ้าน อย่างกับเล่นเอ็มวีอยู่งั้นแหละ หมั่นไส้!


               " อยู่นี่เอง ให้กูตามหาซะทั่ว "


               " เห้ย! เต้ยออกมาทำไม เอานั่งก่อนๆ " พอแมคมันเห็นผมเดินมาก็รีบวิ่งมาพยุงผมไปนั่งทันที ทำอย่างกับผมเป็นคนท้องงั้นแหละ


               " เวอร์แหละมึง กูแค่เจ็บตูดไม่ได้ท้อง " 


               "​ อีกไม่นานหรอก เราน้ำยาดี ฮ่าๆ- " แมคพูดทำเอาผมหน้าแดงด้วยความอาย ก็ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนมันไหลย้อนกลับมาตอนที่แมคพูดเลยอ่ะ 


               " นี่แน่ะ! ท้องได้ก็แปลกล่ะ "


               " เจ็บนะ!... ไม่เห็นแปลกเลย ก็ความรักสร้างสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมาเสมอ " แมคตอบหน้าตาภูมิใจกับสิ่งที่คิดมาก


               " อ๊วก!! เพ้อเจ้อจริงๆ "


               " นั้นไง! แค่ครั้งเดียวก็ท้องแล้วหรอจ๊ะที่รัก


               ป๊าบ!!


               ฝ่ามืออรหันต์มอบให้เป็นรางวัลหนึ่งทีให้กับไอ้ฝรั่งขี้นกไป   พอแมคพูดเรื่องท้องขึ้นมามันก็ทำให้ผมเริ่มกังวลแล้วสิ ถ้าผมท้องขึ้นมาจะทำยังไง ถึงผลตรวจมันจะออกมาว่าผมปกติดีแต่ก็นะอดกังวลไม่ได้ ทำได้เพียงว่าทุกอย่างจะเป็นปกติและผมจะไม่ท้อง นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ผมหวังว่าผลงานของผมจะไม่ประสบความสำเร็จ

               



               
               

     

     



     

     

























     


     




    ขอโทษที่มาคงช้านะคะ เราต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ GAT PAT อ่ะเนอะ อีกไม่กี่วันก็จะสอบล่ะ


     

    ไม่ได้อยากจะบังคับใครให้คอมเม้นท์นะ แต่ว่าเราอยากให้เม้นกันบ้าง ไม่เม้นก็โหวต กดเฟบ อะไรก็ได้ แค่อยากรู้ว่ามีคนอ่านมากเท่าไหร่ และเราเขียนเป็นยังไงบ้างเท่านั้นเอง



    AQUAria. : หวานไป งั้นต่อไปกินมาม่าดีกว่า55 มาอัพช้าขอโทษจริงๆนะคะ ติดสอบเข้ามหาลัยจริงๆ
    August Angle&Devill : ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะคะ ส่วนเอ็นซีมีไม่เยอะเพราะแต่งครั้งแรก เล่นเอาเหงื่อตกเลย

     

     
    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×