ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chu~ Baby

    ลำดับตอนที่ #6 : Baby : On The Beach

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 56












    บทที่ 4

     

               “ ป๊าดดดด เป็นไงล่ะ ฉันบอกแล้วว่ามันต้องได้กัน เอาตังค์มาเลยนะปาล์ม ” เสียงที่ท่านกำลังได้ยินไม่ใช่เสียงใครที่ไหน เสียงของ มะลิ ผู้หญิงเพียงคนเดียวของกลุ่มผม ตอนนี้คุณผู้หญิงเขากำลังทวงเงินที่พนันกับปาล์มไว้ว่า ‘ผมกับไอ้แมคต้องได้กันเองเท่านั้น’ 



     

               “ ตะโกนทำไมเนี่ยมะลิ! แล้วอีกอย่างเรายังไม่ได้กับไอ้แมคเว้ย แค่คบกันเฉยๆ! ” ผมรีบแก้ครับ นักศึกษาที่หน้าตึกคณะผม ตอนนี้มีน้อยสะที่ไหน ถึงอีกไม่กี่วันก็จะจบแล้ว มันก็ยังต้องมามหาลัยไงครับ ผมก็อายนะ T^T


     

               “ ฉันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกนายอะจึ๊กอะจึ๊กกันสักหน่อย ตัวเล็กคิดเยอะนะเรา ”



     

               “ โว๊ย! เมื่อไหร่เธอจะเลิกเรียกเราว่า ตัวเล็ก เนี่ย!!! ” ผมโคตรไม่ชอบฉายานี้ที่มะลิเรียกผมเลยอ่ะ



     

               “ ก็จนกว่านายจะโตนั้นแหละ นี่!! แค่ 2000 มันหยิบยากเย็นไรขนาดนั้นห๊ะ! ” 



     

               “ เออหน่ะ! ไม่เบี้ยวหรอกนะ ทวงเป็นเจ้าหนี้นอกระบบไปได้ ” ปาล์มบ่นงึมงำๆก่อนจะยอมควักแบงค์สีเทาๆไปให้มะลิสองใบอย่างจำยอม ก่อนจะส่งสายตาอาฆาตแค้นมาใหผม



     

               “ มึงนะ ไปยอมเป็นแฟนไอ้แมคง่ายๆได้ไงวะ อย่างน้อยก็น่าจะเล่นตัวให้กูได้เงินมะลิก่อน คอยยอมก็ได้ โว้ย!!! เซ็ง!! ” อ้าว~~~ ผมผิดอีกที่ไม่เล่นตัว??

     



     

               “ บ่นเชี่ยไรแฟนกูครับ คุณหนูปาล์ม ” 

     



               นั้นไงครับนินทาปุ๊บโผล่มาปั๊บ มันเลี้ยงลูกกรอกป่ะเนี่ย? เวลานินทาทีไรโผล่มาได้เวลาทุกที มันต้องมีลูกกรอกไปคอยกระซิบแน่ๆ เดี๋ยวไว้อยู่กันสองคนเมื่อไหร่ต้องถามให้รู้เรื่องแล้ว



     

               “ แหมๆ ปกป้องกันเข้าไป จะไม่ให้เตะ เอ๊ยแตะเลยใช่ไหม?? ” 



     

               “ เออ.. จะทำไม? ” 



     

               “ แม่ง! น่าหมั่นไส้เว้ย! ” ผมนั่งดูพวกมันสองตัวทะเลาะกันเป็นเด็กๆเลยครับ ถึงพวกผมจะชอบเถียงกันบ่อยๆ แต่พวกผมก็รักกันมากนะครับตายแทนกันได้เลย(มั้ง)

     



               เอาเป็นว่าระหว่างที่พวกมันสองคนยังทะเลาะอยู่ผมจะแนะนำเพื่อนๆในกลุ่มของผมให้ได้รู้จักกันก่อนนะครับ จะได้ไม่ต้องทนฟังเรื่องไร้สาระที่สองคนนั้นเถียงอ่ะนะ

     



               คนแรกเลยครับ มะลิ สาวน้อยเพียงคนเดียวของกลุ่ม แสบซ่ากว่าใครทั่วล้า แต่เห็นแสบๆซ่าๆแบบเนี่ยก็เป็นที่รักของทั้งกลุ่มนะครับ พวกเรารักเธอเหมือนน้องสาวแท้ๆของพวกเราเองเลย ใครกล้าเข้ามายุ่งวุ่นวายล่ะก็เจอพวกผมทั้งกลุ่มแน่ครับ อ๋อ! กระซิบๆที่สำคัญเธอเป็นสาววายครับผม

     



               คนต่อมาพ่อรูปหล่อมาดทะเล้นที่ตอนนี้กำลังตั้งใจฟังสองคนนั้นทะเลาะกันอยู่อ่ะนะชื่อ เบ็น ครับผม เห็นมันขี้เล่นแบบเนี่ยนะครับแต่เวลาขอความช่วยเหลือมันเนี่ยถึงไหนถึงกันเลยนะครับ บ้านมันเปิดบริษัทนำเข้ารถสปอร์ท พวกผมก็หวังพึ่งใบบุญมันสักหน่อย แต่เจ้าตัวมันดันชอบบิ๊กไบท์มันเลยไม่เคยเอารถของที่บ้านมาขับเลย พวกผมก็เลยอดครับ - -" 

              



               เหยื่อรายต่อมาคือหนุ่มหน้าหวานที่นั่งกินไอติมอยู่ข้างผมเนี่ยชื่อ ต้น มันมีดีกรีถึงเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองของคณะบริหารเชียวนะครับไม่ใช่เล่นๆ แต่เห็นมันเก่งมากอย่างเนี่ยจริงๆแล้วมันไม่ได้อยากเรียนบริหารหรอกครับ ท่ีมันเข้าคณะเนี่ยเพราะว่ามันเอาใบแอดมิดชั่นไปกางไว้ที่ผนังบ้าน แล้วพอปาลูกดอกใส่มันดันมาโดนคณะนี้พอดี มันก็เลยเข้ามาเรียนครับ ง่ายดีป่ะล่ะ??

     



               ต่อมาถึงตาคนที่กำลังเถียงแมคอยู่คนนั้นชื่อ ปาล์ม อาจจะเคยเห็นมันมาโผล่แล้วบ้างแต่วันเนี่ยจะแนะนำอย่างจริงจัง นายณัฐพนธ์ มาลัยทอง กำลังจะจบการคณะวิทยาศาสตร์เหมือนผม ที่บ้านทำธุระกิจร้านกาแฟและร้านเค้ก(ดูแนะนำจริงจังเนอะ) มันเป็นเพื่อนที่สนิทมากของคนเลยครับ รักมันสุดๆถ้าไม่นับอาการปากเสียกับนิสัยแรงๆของมันอ่ะนะ^^




     
    --------- 20% ----------

     

               คนสุดท้ายผมคงไม่ต้องแนะนำมั้งทุกคนก็ดูจะรู้จักดีอยู่แล้วนิเนอะ อ๊ะๆแนะนำให้นิดหน่อยแล้วกันนะครับ แมคที่ตอนนี้กลายเป็นแฟนผมไปแล้ว มันมีเชื้อชาวอังกฤษอยู่ในสายเลือดถึง75%เลยทีเดียว เพราะแม่ของมันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษส่วนพ่อเป็นคนอังกฤษแท้ๆเลยครับ ดังนั้นหน้าตามันถึงฝรั่งจ้าจนใช้ทำมาหากินเป็นนายแบบชื่อดังขนาดนี้ไงครับ ผมล่ะอิจฉาจริงๆเลย

     

               “ ว่าแต่พวกบริหารมาทำอะไรที่คณะวิทยาศาสตร์ไม่ทราบ?? ” ปาล์มถามพวกที่เรียนบริหารในกลุ่ม หลังจากสงบศึกกับแมคเรียบร้อยแล้ว

     

               “ อันนี้ต้องถามไอ้แมค มันเป็นคนชวนพวกกูมา ” พอเบ็นพูดจบทุกสายตาก็ส่งรังสีความสงสัยไปให้แมคในทันที

     

               “ ก็ไม่มีอะไร แค่จะมาชวนแฟนไปเที่ยวทะเลหลังเรียนจบ ก็เลยจะมาถามพวกคุณว่าจะไปด้วยกันไหม? ”

     

               “ อือหือ~~ ฮันนีมูนหรอจ๊ะ?? ” เสียงยัยมะลิแซวแมคครับ

               “ ก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่ แต่ไม่รู้เจ้าตัวจะไปด้วยไหม? ” 

     

               ปั๊ก!

     

               เสียงผมทุบหลังแมคมันเอง หน้าไม่อายไปรับมุขมะลิอีก ถึงมันจะเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเหอะครับ แต่กระผมหน้าบางนะครับก็อายเป็นเหมือนกัน ดูมันครับดูมันไม่สะทกสะท้านแล้วยังจะมาทำตากรุ่มกริ่มใส่อีก ผมเลยจัดไปให้อีกที โทษฐานทำให้หมั่นไส้

     

               “ ตกลงตามนี้นะ อีก 2 สัปดาห์ไปทะเลกัน ”

     

     

     

     

     

     

               2 สัปดาห์ผ่านไป

     

               หลังจากที่พวกเราโดนคุณชายแมคมัดมือชกให้ไปทะเลกับมันแล้ว ตอนนี้ก็ผ่านไป 2 สัปดาห์แล้วครับ เร็วเนอะ 

     

               “ เสร็จยังเต้ย?? ” เสียงแมคตะโกนมาจากหน้าห้องครับสงสัยมันมารับผมแล้ว

     

               “ เสร็จแล้วๆ เข้ามาช่วยยกกระเป๋าหน่อย! ” 

     

               แมคเดินเข้ามาในห้องทำผมถึงกับตะลึง! อือหือ~~ มันจะไปเดินแบบที่ไหนครับเนี่ยแต่งด้วยสะ อย่างกับหลุดออกมาจากนิตยสารฉบับหน้าร้อนเลย มันใส่กางเกงยีนสีขาวขาสั้นเท่าเข่า กับเสื้อกล้ามสีเทาสวมเสื้อลายสก๊อตแขนสั้นทับอีกที หล่อไปไหนพ่อคุณ

     

               “ หล่อจนอึ้งเลยหรอ?? ” ยังจะมาทำหน้ากรุ่มกริ่มล้อผมอีก ทำไมนะพระเจ้าไม่ยุติธรรมเลยอ่ะ สร้างผมมาเป็นผู้ชายไซด์มินิแบบเนี่ย หาเสื้อผ้าใส่ก็ยากแถมบางชุดใส่แล้วเหมือนไปขโมยชุดพ่อมาใส่เลย เซ็ง!

     

               แมคมันเดินมายกกระเป๋าของผมไปเก็บไว้ที่รถ ส่วนผมก็ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ตอนแรกก็จะใส่ชุดอยู่บ้านไปเนี่ยแหละ ไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ต้องหล่อมาก แต่พอเห็นแมคเท่านั้นแหละ ผมว่าผมควรเปลี่ยนอ่ะ 

     

               ใส่ชุดไหนดีนะ?? ผมรื้อตู้เสื้อผ้าออกมาเกือบครึ่งตู้ครับ ต้องใช้คำว่ารื้อเลยครับเพราะผมไม่ค่อยได้ไปทะเลเท่าไหร่เสื้อไปทะเลเลยมีไม่ค่อยเยอะ ผมเลือกๆเสื้อผ้าจากที่รื้อออกมา เอาชุดนี้ก็ได้วะ ถ้าแต่งแบบแมคมีหวังได้ดับ

     

               ชุดที่ผมเลือกเป็นชุดเสื้อแขนกุดสีดำตัวใหญ่กว่าผมไซด์หนึ่งกับกางเกงสีขาวขาสั้นจากเข่ามาประมาณคืบหนึ่งได้ แต่งตัวดูกระชากวัยกลับไปเป็นเด็กม.ปลายอีกครั้ง หึหึ แบบนี้แหละเลตติ้งดีกว่าแมคชัวร์

     

     

     

     

     

               “ ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้! ”

     

               “ ไม่! กลัวกูหล่อกว่าหรือไง? ” ตอนนี้ผมกับมันยืนเถียงกันอยู่หน้าหอครับ คือเรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า พอผมแต่งตัวเสร็จเดินลงลงเตรียมจะขึ้นลง แต่พอแมคมันเห็นมันไล่ผมให้ไปเปลี่ยนชุดครับ อะไรวะ กลัวหล่อกว่าหรือไง แม่งนิสัยไม่ดี น้องเต้ยเคือง!

     

               “ ก็ดูมึงแต่งตัวดิ แม่งอย่างกับจะไปอ่อยใครอ่ะ กางเกงเนี่ยจะสั้นไปไหนห๊ะ!? แล้วไหนจะเสื้ออีกเป็นแขนกุดแล้วแย่แล้วนี้แขนมันจะเว้าไปไหน! ” แม่งโวยมาเป็นชุด แล้วยังจะมาหาว่าผมจะไปอ่อยใครอีก แม่งเป็นแฟนผมจริงป่ะเนี่ย? ว่าสะไม่ให้เกียรติกันเลย

     

               “ ประสาท! จะไปได้ยังไอ้พวกนั้นมันโทรมาตามกูแล้ว ” แล้วเปิดประตูมินิคูเปอร์เปิดประทุนของมันเข้าไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเรียบร้อยแล้วครับ

     

               “ มึงจะไม่ไปเปลี่ยนจริงๆใช่ไหม?! ” ผมยักไหล่ไม่สนใจมัน ก่อนจะไลน์ไปหาปาล์มว่าผมกับแมคกำลังจะออกจากหอ ไอ้แมคเมื่อเห็นผมไม่สนใจที่มันพูด ก็เดินกระฟัดกระเฟียดมาประจำตำแหน่งคนขับ ตลอดทางไปหัวหินเราสองคนแทบไม่พูกกันสักคำ ผมชวนมันคุยแล้วนะ แต่แม่งงอนเป็นเด็กๆไง แล้วคิดว่าผมจะง้อหรอ ได้~ จะไม่คุยกับกูใช่ไหม?? งั้นกูก็ไม่คุยด้วย ชิ!





     
    --------------- 50% ---------------




     

               “ เป็นไรว่ะเต้ย? หน้ายุ่งมาเชียว ” ปาล์มเดินเข้ามาถามผม ตอนนี้พวกเราทั้ง 6 ชีวิตเดินทางมาจนถึงหัวหินเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้เข้าเช็คอินที่พักเลยครับ เพราะต้นมันดันโอดครวญว่าหิวข้าวขึ้นมาเสียก่อน พวกเราเลยต้องหาข้าวเช้าทานก่อนค่อยเขาที่พัก

     

               “ ก็ไอ้แมคอ่ะดิ แม่งหาว่ากูแรดหาว่ากูจะไปอ่อยผู้ชาย กูแต่งตัวแบบเนี่ยผิดตรงไหนว่ะ? มึงก็แต่ง ”

     

               “ ใจเย็นเว้ยใจเย็น ” 

     

               “ ช่างมันเหอะ กูไปถ่ายรูปริ่มทะเลนะ ” 

              

               ผมบอกกับปาล์มก่อนสะพายกล้องออกมาถ่ายเล่นที่ริ่มทะเล เพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเองลงหน่อย ผมรู้ครับว่ามันหวงผมไม่อยากให้มองผมมากมาย ถ้ามันบอกผมดีๆผมอาจจะยอมมันไปแล้ว แต่นี้อะไรพูดแบบนี้มันดูถูกกันชัดๆ หาว่าผมจะไปอ่อยผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ? 

     

               ที่ผมตกลงเป็นแฟนกับมันยังไม่ชัดเจนอีกหรอว่าผมไม่ได้สนใจคนอื่นน่ะ มันน่าน้อยใจไหมล่ะ? ผมหงุดหงิดจนไประบายลงกับน้องกระป๋องน้ำอัดลมผู้น่าสงสารที่โดนคนนิสัยไม่ดีทิ้งไว้ ผมเตะกระป๋องนั้นอย่างแรงจนกระเด็นออกไปไกลพอสมควร

     

     

               “ โอ๊ย!!

     

               ชิบหายแล้วผมเตะกระป๋องนั้นลอยไปโดนหัวคนแถวนั้นเข้าอย่างจัง ตายๆเขาจะมาฆ่าผมไหมเนี่ย? ซวยจริงๆเลย ผมรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาผู้คนนั้น ที่ตอนนี้เอามือกุมหัวอยู่ท่าทางเจ็บน่าดู

     

               “ ขอโทษจริงๆนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ คุณไม่เป็นไรนะ? ”

     

               “ ไม่เป็นไรครับ ผมคิดว่าผมโอเคนะ...   อ้าว! เต้ย! ”

     

               “ อ้าวณะ! มาทำไรที่หัวหินเนี่ย? มาคนเดียวหรอ? ” คนที่ดวงซวยโดนกระป๋องมหาภัยคือ ณะ เองครับ ดวงซวยจริงๆเลยเพื่อนยาก

     

               “ มาถ่ายแบบนะ มากับทีมงานพวกพี่เขาเตรียมสถานที่อยู่เลยออกมาเดินเล่น ”

     

               “ อ้อออ หัวไม่เป็นไรแน่นะ? ” ผมถามย้ำอีกครั้งเพื่อความสบายใจของผมเอง

     

               “ ไม่เป็นไรหรอก ไม่คิดว่าจะเจอเต้ยที่นี้นะเนี่ย ว่าแต่มากับใครหรอ? ” 

               “​ เรามากับพวกเพื่อนๆแล้วก็แฟนเราน่ะ ” ผมพูดออกไป เรื่องที่ผมมีแฟนไม่ได้มีความจำเป็นต้องผิดใครอยู่แล้ว แต่เรื่องที่มีแฟนเป็นผู้ชายเนี่ย หลายคนรับไม่ได้ก็ของเก็บไว้ก่อนแล้วกันเนอะ

     

               “ มีแฟนแล้วหรอ? ” แมคถามผมเสียงแผ่ว

     

               “ อื้ม ทำไมหรอ? ”

     

               “ เปล่าหรอก แค่เต้ยมีแฟนแล้วเหมือนคนที่เราแอบชอบเลย ”

     

               “ โอ๋ๆ ไม่ต้องเศร้าไป มีไรก็ปรึกษาเราได้นะ ” ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ว่าคนที่หน้าตาหล่อเหลา อย่างมันจะมีโมเม้นแอบรักคนมีเจ้าของแบบนี้ด้วย ชักอยากเห็นหน้าคนนั้นแล้วสิ

     

               “ งั้น... ถ้าเป็นเต้ยจะทำยังไง? จะแย่งเขามาจากแฟนไหม? หรือจะปล่อยเขาไว้อย่างนั้น? ”

     

               “ อืม... แย่งสิในเมื่อเราชอบเขา เราก็ต้องทำทุกอย่างให้เขามาเป็นของเราสิ ”

     

               “ มันจะดีหรอ? แล้วถ้านั้นทำให้เขาเสียใจล่ะ? ”

     

               “ เขาไม่เสียใจหรอก เพราะถ้าเขาเสียใจเขาจะไม่แยกจากกัน ถ้าพวกเขารักกันมากจริงๆ ต่อให้มีกี่ร้อยกี่พันคนพยายามแยกพวกเขาออกจากกัน ก็ไม่มีทางสำเร็จหรอก ”

     

               “ อื้ม ขอบใจนะ^^ ” อ่า~~~ มันยิ้มได้แล้วดีจัง เวลามันยิ้มนะโคตรหล่อเลยอ่ะ 

     

               “ ไม่เป็นไร แล้วหัวน่ะไม่เป็นไรจริงๆนะ? ”

     

               “ จริงๆ ไม่เจ็บแล้ว ”

     

               “ ไม่ไว้ใจๆ ไหนก้มหัวมันให้ดูหน่อยสิ ” ถึงมันจะบอกไม่เป็นไรก็เหอะ แต่ผมเห็นตอนโดนมันดูเจ็บมากเลยนะ ขอดีกับตาหน่อยแล้วกันว่ามันไม่เป็นไรจริงๆ 

     

               ผมเเอื่อมมือไปจับที่ทายทอยของณะก่อนออกแรงกดเล็กน้อบให้มันก้มลงมา ก่อนผมลองเอามือลูบๆดู อ่า..ไม่มีเลือด มีแค่หัวโนนิดหน่อย ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่จะว่าไปเราสองคนอยู่ในท่าล่อแหลมไปไหมเนี่ย? เหมือนผมกับมันกำลังกอดกันอยู่เลย

     

     

               “ เต้ย!!















               “ อ้าวมะลิ มีไรหรือเปล่า? ” ผมหันไปทางเสียงเรียกชื่อผม

     

               “ เราจะมาบอกว่าอาหารมาแล้ว แล้วนั้น...? ” มะลิหันไปชี้ที่ณะ 

     

               “ อ้อใช่่! ณะนี่มะลินะ แล้วก็มะลินี่ณะ เพื่อนเก่าเราเอง ”

     

               ผมแนะนำสองคนให้รู้จักกัน ณะก็ทักทายอย่างสุภาพ ก่อนที่ผมจะชวนณะไปทานอาหารด้วยกัน เราสามคนก็เดินตามชายหาดจนมาถึงร้านที่พวกเพื่อนๆผมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว และก็มียักษ์นั่งอยู่รวมกับพวกนั้นด้วย

     

               “ มะลิ เรานั่งข้างเธอนะ ”

     

               “ ห๊ะ? อะ..เออๆ ” มะลิทำหน้างงๆเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้นั่งแต่โดยดี

     

               “ ส่วนณะ นั่งข้างเราแล้วกัน ” ผมจัดแจงให้ณะนั่งลงข้างๆผมอีกด้านหนึ่ง ทำเป็นไม่สนใจสายตาน่ากลัวที่แมคมันส่งมาเลยสักนิด หึ ว่ากูชอบอ่อยดีนักเดี๋ยวอ่อยให้ดูเลยนิ

     

               “ ใครว่ะ? ” เบ็นมากระซิบข้างหูผม หึหึ อาการอยากรู้อยากเห็นออกทันทีเลยนะ

     

               “ อ๋อ... ทุกคนนี่ณะเพื่อนสมัยมัธยมเราเอง ” ผมหันไปพูดกับเพื่อนๆ

     

               “ ณะนี่เพื่อนๆที่มหาลัยเรา คนที่นั่งริ่มโต๊ะทางขวาชื่อ ปาล์ม ถัดมาชื่อ ต้น ตรงข้ามเราชื่อ แมค คงเคยเจอแล้ว ส่วนถัดจากแมคชื่อ เบ็น แล้วนี้ก็มะลิ^^ ”

     

               “ ยินดีที่ได้จักครับ^^ ” ณะหันไปส่งยิ้มผูกมิตรกับทุกคน

     

               “ ยินดีๆ^^ กินกันได้ล่ะ ท้องกูจะทะลุแล้วเนี่ย ”

     

               พวกเราก็ลงมือทานกันทันที อาหารมื้อนี้ถือว่าอร่อยเลยครับ อาหารทะเลสดสุดๆ แต่คือผมอารมณ์ไม่ดีอยูไงเลยไม่อารมณ์จะมาฟินกับอาหารเท่าไหร่ ตลอดทั้งมื้อผมคุยแต่กับมะลิแล้วก็ณะ คนอื่นๆมันสนใจแต่อาหารนานๆทีจะเงยหน้าขึ้นมาคุยครับ ส่วนไอ้หน้าบึ้งที่ตอนนี้กลายเป็นยักษ์วัดแจ้งไปแล้วตั้งแต่ผมเดินมากับณะแล้วก็มะลิ ก็มีตักอาหารให้ผมบาง ผมก็กินนะแต่แค่ไม่สนใจคนตักให้เลยก็เท่านั้นเอง

     

               หลังจากพวกเราทานอาหารกันเสร็จณะก็ขอตัวไปทำงาน ก่อนมันจะไปผมไม่ลืมที่จะให้มันติดต่อกลับมาครั้บ โพสเฟสก็ยังดีครั้งที่แล้วมัวแต่เกรงใจกันไปมาเลยอดคุยกันเลย พอณะกลับไปปุ๊บ ไอ้แมคมันก็ฉุดกระชากลากถูผมออกมา ก่อนจับยัดใส่รถแล้ว เหยียบออกมาอย่างรวดเร็ว ผมหันไปมองพวกที่เหลือผ่านทางกระจกหลัง พวกมันทำท่างงๆเหมือนจะเรียกผม2คนแต่ไม่ทันแล้ว

     

               “ มึงเป็นบ้าไรของมึงเนี่ย จอดเดี๋ยวนี้นะ!! ” ผมจัดเข็มขัดนิรภัยแน่น แอบชำเลืองมองที่หน้าปัดรถ ตอนนี้มันขึ้นว่า ไอ้แมคมันเหยียบปาเข้าไปร้อยหกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วครับ

     

               “ ... ” มันไม่ตอบผมเอาแต่เหยียบท่าเดียวเลยครับ ไม่แม้แต่ปลายตามองผมเลย มันเป็นอะไรของมันอีกเนี่ย 

     

               “ กูบอกให้จอดไง!! ”

     

               ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก.. มันใช่เวลาไหมเนี่ย! ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรรอให้อารมณ์เย็นกว่านี้ก่อนแล้วกัน ผมหันไปมองวิวข้างทางแทนตอนนี้รถของเราขับออกมาใกล้จากร้านนั้นไกลพอสมควร มันจะขับพาผมไปไหนนะ  หวังว่าผมนอนแล้วพอลืมตาขึ้นมารถของเราจะไปจอดที่โรงแรมที่พวกเราพักนะ

       

     

     

     

     

     

     

     

     

     

      

               “ เต้ยๆ ตื่นได้แล้ว ลงมากินข้าวก่อนเร็ว ”

     

               อือ~~ ผมค่อยๆขยี้ตาลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย ผมมองไปทางด้านหลังของแมคเหมือนจะเป็นร้านอาหารอะไรสักอย่าง ว่าแต่ตอนนี้แมคมันยอมพูดกับผมแล้วหรอ?? แสดงว่าอารมณ์เย็นลงแล้ว

     

               “ ยอมคุยกับกูแล้วหรอ? ”

     

               “ โหยยยย ก็ตอนนั้นมันโมโหอยู่นิ เลยพยายามระงับอารมณ์อยู่ไม่อยากหงุดหงิดใส่เดี๋ยวตะหวาดหรือพูดไรไม่ดีกับมึงอีก ก็กูมันพวกขี้หึงนี่หว่า ก็เลยหงุดหงิดที่มึงอี๋อ๋อกับไอ้ฟันเหล็กนั้น ”

     

               “ มึงนี่นะ.. ”

     

               “ ขอโทษนะๆ ไม่โกรธกันนะ ” มันง้อได้เหมือนเด็กๆอ้อนมากเลยอ่ะ

     

               “ เออๆ ว่าแต่เราอยู่ไหนกัน? ”

     

               “ ตอนนี้เราอยู่สุราษฎร์ธานีครับผม ”

     

               !!!!!!!

     

               “ มึงหึงโหดไปไหม ขับรถระงับอารมณ์มาจนถึงนี้เลย ”

     

               “ ก็นิดหน่อยน่ะไปๆกินข้าวๆ ”

     

               “ ว่าแต่มึงโทรบอกพวกนั้นหรือยัง? ” ผมถามมัน

     

               “ โทรแล้ว โดนด่าเรียบร้อยแล้ว ”

     

               ผมหันไปสั่งอาหารกับพนักงานที่มารอรับเมนูครับ ผมสั่งสองคนสั่งอะไรที่หากินยากมากครับ ข้าวผัดนั้นเอง เจริญกันทั้งคู่ครับมาถึงสุราษฎร์ทั้งทีสั่งข้าวผัดกินกัน แทนที่จะทานของขึ้นชื่อของที่นี้

     

               “ หรอ? ก็สมควรนะ แล้วมันว่าไงอีก ”

     

               “ มันก็ด่ากูว่าพาพวกมันมาเที่ยวแต่เสือ.กนี้มากับมึงสองคนถึงที่นี้ ”

     

               “ ก็จริงของมันอ่ะนะ แล้วเราจะไปเที่ยวไหนกันอ่ะ? ”

     

               “ ไปเกาะสมุย พอดีไอ้ต้นมันมีรีสอร์ทบนเกาะพอดี ”

     

               “ เย้ๆ ยังไม่เคยไปเลย งั้นมึงรีบๆกินข้าวเลย กูอยากไปเกาะแล้ว ”

     

               หลังจากอาหารมาเสริฟผมก็เร่งให้มันรีบทานเพราะผมอยากไปเที่ยวเกาะเต็มที่แล้ว และนี่มันก็เริ่มเย็นแล้วด้วย เดี๋ยวอดเล่นน้ำทะเลกันพอดี

     

               





     

     

               พวกเรานั่งเรือข้ามมาจนถึงเกาะแล้วครับ แต่โคตรน่าเสียดายเลยที่ตอนนี้ฟ้ามันดันมืดเสียก่อน ผมเลยอดเล่นน้ำทะเลเลยอ่ะ แมคขับรถผมพามาจนถึงรีสอร์ทของต้นพวกเราช่วยกันยกกระเป๋าแล้วก็เช็คอินเข้าพัก แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า..

     

               “ ทำไมมึงจองแค่หลังเดียวว่ะ?? ” ผมเริ่มโวยวาย

     

               “ ก็มันเต็มอ่ะ นอนไปเหอะนะ กูไม่ทำไรมึงหรอกน่ะ ไม่เห็นต้องกลัวอะไรขนาดนั้น ”

     

               ไม่ว่าผมจะโวยวายแค่ไหนมันก็ยังมีแค่หลังเดียวแหละหว่า ผมเลยจำใจยอมๆไปผมยังไม่อยากนอนข้างถนนนะ เข้ามาถึงห้องผมขอตัวไปอาบน้ำก่อน พอเสร็จกิจผมก็มาจัดของเข้าตู้เสื้อผ้าของโรงแรม ผมก็ไม่ได้แล้งน้ำใจถึงขนาดไม่จัดของให้แมคมันหรอกนะครับ

     

               “​ อยากเห็นภาพนี้ที่หน้าตู้เสื้อผ้าตัวเองจัง ” เสียงของแมคดังข้างหูผมทำเอาผมสะดุ้งโหย่ง

     

               “ ตกใจหมด เลิกเพ้อๆ มึงไปนอนก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูตามไปนอน ” มันผยักหน้าก่อนเดินหน้าระรื่นไปที่เตียง

     

               พอผมจัดของเสร็จก็ เดินไปที่เตียงขนาดควีนไซด์ แต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันเล็กจังว่ะ ถ้าผมลงไปนอนคงใกล้กับแมคแปลกๆ

     

               “ นอนไหนดีว่ะ? ”

     

               ผมถามตัวเอง ผมไม่กล้านอนอ่ะจากใจเลย คือมันก็มีเขินอายกันบ้างอ่ะนะ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยนอนด้วยกันแบบนี้เลย เตียงเดียวกันผ้าห่มผื้นเดียวกันมันก็มีประหม่ากันบ้าง ผมว่าผมหนีไปนอนโซฟาดีกว่า ผมค่อยๆเอื่อมมือไปหยิบหมอนอย่างเบามือกลัวคนที่หลับอยู่จะตื่นขึ้นมา

     

               หมับ

     

               ตุบ!

     

               ตัวของผมลอยลงไปหล่นตุบอยู่บนเตียงก่อนที่จะมือของคนที่ที่คิดว่าหลับไปแล้วคว้าเอวของผมเข้าไปกอดแน่น

     

               “ นอนตรงเนี่ยแหละดีที่สุด ” แมคพูดด้วยเสียงงัวเงีย

     

               “ มึงยังไม่นอนหรอ? ” 

     

               “ จะนอนได้ไงเมียยังไม่เข้านอนเลย ”

     

               “ กูยังไม่ได้เป็นเมียมึงเลยนะ ” ผมเถียง

     

               “ อีกไม่นานหรอก หึหึ ” มันหัวเราะได้ชั่วร้ายมากครับ

     

               “ เพ้อเจ้อๆ รีบๆนอนไปเลยมึง ”

     

               “ หึหึ ฝันดีครับ ” มันจูบลงมาบนกลุ่มผมของผม

     

              

     

     

               “ อืม... ฝันดีเหมือนกันนะ ”

     

               ผมว่าคืนนี้ผมคงฝันดีมากแน่ๆเลยล่ะ หวังว่ามันจะฝันดีเหมือนผมนะ











    มาต่อสะดึกเลยยังมีรออ่านไหมหน่อ?? พรุ่งนี้ไอ้พวกลิงๆเนี่ยจะไปทะเลกันแล้วนะ แม่ยกก็เตรียมตัวเก็บข้าวเก็บของขนเสื้อผ้าตามเด็กๆไปด้วยนะ (บิกินี่ยิ่งดีเลย)

    จะมาบอกว่าตอนนี้จะยาวเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไมแต่งๆแล้วมันยาวอย่างงี้อ่ะนะ 20% ที่เพิ่งลงเพิ่มยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะ
    เห็นตัวละครทุกตัวแล้วใช่ไหม?ชอบป่ะ?? ตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะ 



    เราจะมาบอกว่าเราต้องไปงานศพคุณปู่ที่เกาะพงัน 3 วัน กลับวันจันทร์เช้าถึงกรุงเทพฯคงดึกเลย ไม่รู้ว่าไปที่นู่นจะได้อัพหรือเปล่า ถ้าเน็ตดีๆก็จะมาอัพให้นะ ถ้าไม่ดียังไงจะแจ้งในเฟสบุ๊คเนอะ อย่าโกรธกันนะที่หายไปบ่อยๆ เราจะพยายามอัพทุกวันนะ ที่สำคัญจะมากระซิบว่าใกล้ถึงฉากสำคัญแล้วเน้อ



    กลับมาแล้วใครคิดถึงกันบ้างเนี่ย??? ตอนนี้เหมือนจะยาวหน่อย เจอกันตอนหน้านะ อาจจะสักสองสามวันอัพทีนะ เพราะโรงเรียนเปิดแล้ว ใกล้เอ็นท์แล้วด้วย ไว้จะอัพให้อ่านบ่อยเน้อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
     


    AQUAria. : แสบแล้วรักป่ะล่ะ?
    Iceland'ST : มาต่อแล้วนะมาอ่านเร็ว

    AQUAria. {2} : ลึกนิดหน่อยเอง555 มาต่อแล้วคะ
    Thai Sub : เราลงดึกๆทุกคืนแหละขึ้นอยู่กับกว่าจะดึกแค่ไหนอ่ะ เลิฟๆทู อิอิ เต้ยฝากบอกว่า เลิฟด้วยคน
    August Angel&Devill : ท้องไหม...ท้องแน่นอน แต่ขอให้สองคนนี้มันรักกันก่อน แมคแอบกระซิบว่า ไปทะเลคราวเนี่ยไม่ปล่อยให้รอดแน่ ส่วนเรื่องคลอดยังไงต้องถามพี่หมอ เดี๋ยวตอนสองคนนี้ไปหาพี่หมอจะบอกอีกทีจ้า
    AQUAria. {3} : หวงแบบเด็กๆ เราก็ชอบเมจมะลิ ตัวนิดเดียวเอง 55
     HANHYUK...FOREVER : ใจเย็นๆนะ แมคมันเป็นคนโรแมนติคแบบนี้แหละ แต่มันไม่ได้หึงแรงนะ มันนะหึงเด็กน้อยมาก

    Minor!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×