ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์มธุรส by จำปีดา (ภาคต่อ...ทัณฑ์น้ำผึ้งรวง) ทำมือ...พร้อมส่งแล้วนะคะ

    ลำดับตอนที่ #45 : หนี (จัดเต็ม 120% ไปเร้ย) ดูเหมือนจะไม่พ้นนะคะ คริ คริ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.39K
      42
      25 ต.ค. 62

    ร้านหนังสือนายอินทร์ ทุกสาขา

    พบ เล่ห์มธุรส โฉมใหม่เปลี่ยนปก

    พร้อม...ตอนพิเศษสุด สุดร้อนแรง!

    หรือ จะสั่งโดยตรงกับ จำปี ก็ได้ค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

     

    20 หนี (100%)

                    เช้าวันนี้มาริษาและศรัณย์ออกไปเรียนหนังสือ ธาราออกไปร้านค้าหน้าปากซอย ทิ้งมธุรสอยู่เฝ้าบ้านตามลำพัง หญิงสาวกำลังใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับอนาคต เธอหยุดงานไปร่วมเดือน แล้วจะกลับไปบอกใครๆว่าอย่างไร จะบอกว่าเธอหายไปไหน แล้วทางบริษัทกับปิรัณจะมีมาตราการอย่างไรกับเธอที่ขาดงานไปอย่างไม่ได้บอกกล่าว ซึ่งมันผิดระเบียบบริษัทกันเห็นๆ เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะคนๆเดียว ที่บ้าระห่ำ ทำอะไรเอาแต่ใจ ทำให้คนอื่นพลอยเดือดร้อนไปด้วย

            ป่านนี้เขาคงรู้แล้วว่าเธอหนี ปรวิตต์เป็นคนฉลาดเขาคงสืบหาได้ไม่ยาก ว่าเธอหนีมาได้อย่างไรกับใคร แล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไป เขาจะอาลัยอาวรณ์หรือคิดถึงเธอบ้างไหม พอคิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจขึ้นมาอีก        

            เสียงโทรศัพท์ดังปลุกมธุรสจากภวังค์

            ฮัลโหล สวัสดีค่ะ

            นั่นมธุรสพูดใช่ไหม เสียงเข้มห้วนดังมาตามสายจนหญิงสาวรู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที นี่หนูชักจะเหลวไหลใหญ่แล้วนะมธุรส อะไรกันกลับจากมัลดีฟส์ ก็ขอพักร้อนไปเป็นเดือน รายงงรายงานก็ส่งมาทางอีเมลแล้วก็หายเงียบไปเลย รู้ไหมว่าที่ออฟฟิศนี่ยุ่งมากขนาดไหน สั่งให้คุณเยาว์โทรติดต่อหา ก็ไม่เคยได้โทรศัพท์มือถือก็ปิด โทรไปที่บ้านก็ไม่มีคนรับสาย วันนี้ถึงต้องโทรมาเอง ปิรัณใส่เป็นชุดไม่มีช่องว่างให้ลูกน้องสาวได้พูดเลย

            กลับมาก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ขอให้รีบมาทำงานแต่เช้าเลยนะ นี่เป็นคำสั่ง ปิรัณออกคำสั่งน้ำเสียงเด็ดขาด อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

            ค่ะคุณน้อย มธุรสได้แต่รับคำสั้นๆ รู้สึกหัวหดตัวเกร็งไปหมด อย่างน้อยวันพรุ่งนี้เธอก็รู้แล้วว่าจะต้องทำอะไรต่อไป หลังจากที่ตัดสินใจไม่ตกอยู่นานกับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น

            มธุรสขับรถญี่ปุ่นคันเล็กไปทำงานที่นภศุภ์ คอนสตรัคชั่นแต่เช้า ออฟฟิศส่วนใหญ่ยังเงียบสงบเพราะยังเช้าตรู่ แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็คงจะคลาคล่ำไปด้วยพนักงานจำนวนมาก ผู้ช่วยสาวเข้าประจำที่โต๊ะทำงานของตนเอง เห็นเอกสารปึกใหญ่วางอยู่หลายกองก็ลอบถอนใจอย่างหนักใจ ก่อนที่จะเริ่มหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นเปิดดู

            อ้าว! รสกลับมาแล้วเหรอ ดีใจจัง ศุพินิจโผล่เข้ามาในออฟฟิศคนแรกด้วยท่าทีรีบร้อน

            สวัสดีค่ะคุณพินิจ เธอพยายามยิ้มหวานทำไมดูรีบร้อนจังค่ะ

            ผมเข้ามาเอาเอกสาร แล้วเดี๋ยวจะต้องไปประชุมกับคุณน้อยที่ชวัลกร กรุ๊ป รสกลับมาก็ดีแล้ว มีแผนงานของสุวรรณาลัย รามาด้ากับกรมพัฒนาเศรษฐกิจอยู่บนโต๊ะ รสจัดการต่อไปเลยนะ ช่วงบ่ายคุณน้อยกับผมถึงจะเข้าออฟฟิศ เดี๋ยวค่อยคุยกันช่วงบ่าย ผมต้องรีบไปก่อนแล้ว ศุพินิจรีบร้อนออกไป จนมธุรสพูดอะไรต่อไม่ทัน

            ผู้ช่วยสาวลงมือจัดการกับเอกสารบนโต๊ะอย่างจริงจัง ซึ่งมันมิได้มีแต่เอกสารของสุวรรณาลัย รามาด้า กับกรมพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ยังมีเอกสารของอีกหลายโพรโจกต์วางรวมกันอยู่

            อุ้ย! รสกลับมาแล้ว ดีใจจังเลย เสียงวี๊ดว้ายเบาๆ หลังจากที่ประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้ามา ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้น

            สวัสดีค่ะพี่เยาว์ มธุรสขยับตัวลุกขึ้นยืน ร่างท้วมของเยาวรินก็ปราดเข้ามาถึงหน้าโต๊ะทำงานแล้ว

            ดีใจจังที่รสกลับมาทำงานเสียที น้ำเสียงของเยาวรินดีอกดีใจจนเกินเหตุ

            จะดีใจอะไรขนาดนั้นคะพี่เยาว์ เมื่อเช้าคุณพินิจก็คนหนึ่งแล้ว

            แหม! จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไรล่ะจ้ะรส ก็ช่วงที่รสไม่อยู่เดือนหนึ่ง ที่ออฟฟิศนี่ยุ่งวุ่นวายมาก พวกเรานี้หัวปั่นกันทุกคนเลย โดยเฉพาะคุณน้อยหัวเสีย อารมณ์ไม่ดีเอาเลย เยาวรินแอบทำหน้าย่นเล็กน้อย

            มันอย่างไรกันคะพี่เยาว์ มธุรสสงสัย เพราะโดยปกติปิรัณเป็นเจ้านายที่อารมณ์ดี อัธยาศัยน่ารัก

    ตลอดระยะเวลาสามปีที่ทำงานร่วมกันมา ทำให้นึกไม่ออกจริงๆ เวลาที่ปิรัณอารมณ์เสีย

            โธ่! ก็ตอนที่รสไม่อยู่ นภศุภ์ฯของเรา ชนะการประมูลพร้อมๆกันหลายโพรเจกต์ คุณปณพลก็ไม่อยู่ถูกเชิญให้ไปโร้ดโชว์ที่ยุโรปกับกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างกะทันหัน คุณวิตต์ก็ไปคุมงานรีสอร์ทที่เกาะช้องนาง เหลือคุณอสิตหัวหมุนกับคุณน้อย ไหนคุณชมัยก็ไม่ค่อยสบาย นี่คุณใหญ่ถึงกับต้องลงมาจากบ้านไร่นภศุภ์เพื่อมาช่วยเลยนะ พี่กับคุณพินิจนะทำงานกันจนไม่ได้โง่หัวขึ้นมาเลย กลับบ้านสองสามทุ่มกันทุกวัน  รสน่ะโชคดีเลยรู้ไหมที่ได้ลาพักร้อนไปเยี่ยมญาติที่ภาคเหนือเป็นเดือน ปล่อยให้พวกพี่หัวปั่นกัน คุณน้อยล่ะนะบ่นคุณวิตต์ซะไม่มี ที่อนุมัติให้รสลาพักร้อนได้หนึ่งเดือน ให้พี่โทรตามรสตั้งหลายครั้ง แต่รสก็ไม่เคยเปิดโทรศัพท์มือถือเลย โทรไปที่บ้านก็ไม่มีคนรับ คงจะไปกันทั้งบ้านล่ะสิ ใช่ไหมจ้ะ

            มธุรสฟังแล้วก็ได้แต่อึ้ง ทำได้แค่พยักหน้าเออ...ออ เธอเพิ่งรู้ว่าปรวิตต์บอกกับใครๆว่าเขาอนุมัติใบลาให้เธอไปเยี่ยมญาติต่างจังหวัดเป็นเวลาหนึ่งเดือน และกลับบอกกับที่บ้านของเธอว่า เธอยังติดงานอยู่ที่มัลดีฟส์ นี่แปลว่าปรวิตต์วางแผนล่วงหน้าไว้เป็นอย่างดีในการพาตัวเธอไปอยู่ที่เกาะช้องนาง ช่างร้ายกาจนัก

            พี่ล่ะนะ ดีไจ๋ดีใจที่เห็นรสกลับมาทำงานวันนี้ คุณน้อยก็จะได้อารมณ์ดีขึ้นสักทีที่จะได้รสกลับมาช่วยทำงานอีกแรง อุ้ยตายแล้ว! มัวแต่คุยกับรสเสียเพลิน งานพี่ยังมีอีกเต็มโต๊ะเลย งานด่วนทั้งนั้น เดี๋ยวคุณน้อยจะขอบ่ายนี่ด้วย พี่ต้องรีบกลับไปทำงานต่อแล้วจ้ะ เดี๋ยวว่างๆค่อยคุยกันใหม่นะจ้ะรส เยาวรินพูดเองเออเอง แล้วก็รีบจ้ำออกไปทิ้งให้มธุรสยังนั่งนิ่งอึ้งอยู่นานกับเรื่องที่เพิ่งได้รับฟังมา

      

    ช่วยอุดหนุนด้วยนะค้า ร้านหนังสือนายอินทร์ ทุกสาขาค่ะ

            ช่วงบ่ายหลังจากที่ปิรัณกลับเข้าออฟฟิศ ก็เรียกหาผู้ช่วยสาวให้เข้าไปพบในห้องทำงาน มธุรสเดินตัวลีบเข้าไปในห้องกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

            เป็นไงหนีไปเที่ยวเสียหนึ่งเดือน สนุกมากไหม คำทักทายยิ้มๆของปิรัณ ทำให้ผู้ช่วยสาวคลายอาการเกร็งไปได้มาก

            เอ่อ...ค่ะ มธุรสอึกอักมีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะรู้สึกผิดกับการกระทำที่ตัวไม่ได้เป็นผู้ก่อ

            เอาล่ะๆ ฉันล้อเล่น รสกลับมาก็ดีแล้ว ช่วงที่หนูไม่อยู่ งานยุ่งและก็เยอะมาก ปณพลก็ไม่อยู่ ไปโร้ดโชว์ที่ยุโรป ปรวิตต์ก็ไปคุมงานที่เกาะช้องนาง ได้หนูกลับมาทำงานก็คงผ่อนแรงไปได้เยอะ หนูรับผิดชอบโพรเจคมัลดีฟส์ของสุวรรณา รามาด้าและรีสอร์ทเกาะช้องนางเหมือนเดิม แล้วเตรียมศึกษาแผนงานของกรมพัฒนาเศรษฐกิจต่อ ผู้ช่วยสาวยิ้มออกที่ยังได้รับความไว้วางใจ

            ตอนนี้เราได้งานใหญ่เพิ่มเข้ามาอีกก็คือโพรเจกต์ร่วมกับชวัลกร กรุ๊ป และโพรเจกต์ของมิสเตอร์ยูมิตะเพื่อนของฉัน ที่มีโครงการจะสร้างโรงแรมที่จังหวัดพังงา นี่ก็วานให้ปรวิตต์เทคแคร์ดูแลอยู่ คำบอกเล่าของปิรัณ ทำให้มธุรสนึกถึงเรื่องที่ปรวิตต์เคยบอกกับจิลดาที่ว่า เขาต้องไปดูแลแขกชาวต่างชาติเพื่อนของบิดา แล้วพานที่จะอดนึกถึงเขาไม่ได้

            เอ้า! มธุรสใจลอยไปถึงไหน

            ปะ...เปล่าค่ะ รสรู้สึกผิดจังค่ะ ที่ลาพักร้อนไปไม่ถูกจังหวะ ผู้ช่วยสาวสะดุ้ง ตอบอ้อมแอ้มกลับไป

            เอาเถอะ หนูกลับมาก็ดีแล้ว จะได้มาช่วยกัน เอาล่ะกลับไปทำงานได้แล้ว มีอะไรถามพินิจก็แล้วกัน

    รายนั้นแทบจะกินนอนที่ออฟฟิศอยู่แล้ว ปิรัณพูดถึงผู้ช่วยมือหนึ่งด้วยความรู้สึกขอบคุณ

     

            มธุรสกลับมาทำงานที่นภศุภ์ คอนสตรัคชั่นได้หนึ่งสัปดาห์เต็ม ผู้ช่วยสาวกลับสู่วิถีชีวิตปกติเฉกเช่นเดิม ก็จะมีแต่ส่วนลึกภายในกายและใจเท่านั้นที่ไม่เหมือนเดิม และจะไม่มีวันเหมือนเดิมด้วย ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ นอกจากตัวเธอเองเพียงคนเดียว

     ผู้ช่วยสาวพยายามทำงานให้มากๆและหนักเข้าไว้ เพื่อที่จะได้ไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่นรวมทั้งเขา ที่เธอพยายามจะลืม แต่หัวใจเจ้ากรรมไม่รักดี กลับหวนนึกถึงเขามากขึ้น แล้วยังความวาบหวามที่เขาฝากไว้กับเธออย่างมากมาย ไม่สามารถลบออกจากความรู้สึกได้สักที

    แล้วเขาเล่าอยู่ที่เกาะช้องนางจะเป็นอย่างไรบ้าง คงจะสุขชื่นมื่นดีกับน้องสาวของอดีตภรรยา สำหรับตัวเธอคงไม่มีค่าและความหมายใดๆ เธอเป็นได้แค่เพียงผู้หญิงที่ผ่อนคลายอารมณ์เหงาที่ค่อนข้างถูกใจเขาเท่านั้น ผู้หญิงต๊อกต้อย ลูกสาวแม่ค้าเช่นเธอจะไปคู่ควรอะไรกับนักธุรกิจหนุ่มอนาคตก้าวไกล หนึ่งในสามทหารเสือของตระกูลนภศุภ์เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของเมืองไทย หญิงสาวต้องหักห้ามใจและเลิกฝัน เลิกหวังลมๆแล้งๆเสียที มธุรสก่นด่าตัวเองในใจ

            มธุรสสลัดศีรษะเบาๆ รวบรวมสติก่อนที่จะหยิบแฟ้มเอกสารเดินเข้าไปในห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านาย ผู้ช่วยสาวเคาะประตูเบาๆ แล้วผลักประตูเข้าไป เห็นปิรัณกำลังพูดโทรศัพท์มือถืออยู่ที่โต๊ะทำงาน เธอจึงวางเอกสารไว้บนโต๊ะ แล้วจะเดินเลี่ยงออกมา แต่ถูกปิรัณโบกมือให้ยืนรอก่อน และชื่อของผู้ที่อยู่ปลายสายทำเอาผู้ช่วยสาวชะงัก เริ่มฟังประโยคสนทนา

            ดีมาก วิตต์รีบจัดการให้เรียบร้อยเลยนะ พ่อโอเคทุกอย่าง ปิรัณวางโทรศัพท์ไปนานแล้ว แต่มธุรสยังยืนตัวแข็งเนื้อตัวร้อนผ่าวอยู่ นี่ขนาดได้ยินเพียงชื่อ เธอยังรู้สึกลำบากใจ แต่ถ้าต้องกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง แล้วเธอจะทำตัวอย่างไรถูก ผู้ช่วยสาวคิดหนัก

            มธุรส...มธุรส ปิรัณเรียกชื่อหล่อนอยู่หลายครั้ง

            คะ...ค่ะ คุณน้อย

            ใจลอยอีกแล้ว ช่วงนี้ใจลอยบ่อยๆ มีอะไรหรือเปล่า

            ไม่มีค่ะเธอปฏิเสธทันควัน หน้าแดง แต่หาได้รอดสายตาของผู้มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า แต่ปิรัณเลือกที่จะไม่เซ้าซี้

            แผนงานของสุวรรณาลัย รามาด้าที่จะประชุมวันพรุ่งนี้ เตรียมเรียบร้อยแล้วใช่ไม ผู้เป็นเจ้านายถาม

            เรียบร้อยแล้วค่ะคุณน้อย

            ดี ถ้าอย่างนั้นหนูก็กลับบ้านเถอะ นี่ก็ได้เวลาเลิกงานแล้ว ปิรัณยกนาฬิกาขึ้นดู

            แล้วคุณน้อยล่ะค่ะ

            ก็จะกลับเหมือนกัน ปิรัณถอนหายใจเล็กน้อย และลุกขึ้นยืนอย่างเหนื่อยอ่อน ในความรู้สึกของมธุรสระยะเวลาแค่สองสามเดือนที่ผ่านมา ปิรัณดูแก่ลงไปเยอะ เคร่งเครียดมากขึ้น ยิ้มแย้มแจ่มใสน้อยลงไม่เหมือนเก่า คงอาจจะเป็นเพราะงานที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ปีนี้เรียกว่าเป็นปีทองของนภศุภ์ คอนสตรัคชั่นก็ว่าได้ และการเสีย ชีวิตของลูกสะใภ้ก็บั่นทอนจิตใจผู้เป็นเจ้านายไปไม่น้อย รวมทั้งเรื่องเจ็บป่วยของภรรยา ซึ่งตอนนี้อาการก็ดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติแล้ว แต่แพทย์ก็ห้ามไม่ให้มีเรื่องมากระทบกระเทือนจิตใจ

            มธุรสจัดแจงโทรศัพท์เรียกคนขับรถของปิรัณให้ขึ้นมายกกระเป๋าเอกสารและสัมภาระของผู้เป็นเจ้านายอย่างรู้หน้าที่

            ขอบใจมากมธุรส พรุ่งนี้เจอกัน ปิรัณยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ถึงแม้จะมีสีหน้าเหนื่อยอ่อนอยู่บ้าง

            ค่ะ คุณน้อย

     

            เช้าวันรุ่งขึ้นมธุรสตั้งใจจะไปถึงออฟฟิศให้เร็วกว่าปกติสักหนึ่งชั่วโมง เพื่อเตรียมการประชุมนัดสำคัญกับสุวรรณาลัย รามาด้า  แต่ผู้ช่วยสาวก็ต้องหัวเสียสุดขีดเมื่อรถญี่ปุ่นคันเก่าของเธอเกิดสตาร์ทไม่ติด ทั้งที่พยายามสตาร์ทอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จ ผู้ช่วยสาวจึงกระวีกระวาดออกจากบ้านด้วยการนั่งวินมอเตอร์ไซด์แล้วต่อด้วยแท็กซี่ไปที่ทำงาน แต่เนื่องด้วยการจราจรที่ติดขัดมากเป็นพิเศษ ทำให้เธอต้องรีบโทรศัพทหาศุพินิจ

            มธุรสมาถึงนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น ด้วยเวลาที่เฉียดฉิว เธอไปที่ห้องประชุมใหญ่ทันทีก็เจอกับศุพินิจที่ส่งซิกแนลว่าทุกอย่างเรียบร้อย มธุรสยิ้มอย่างอ่อนหวานที่สุดด้วยความรู้สึกขอบคุณ แต่ผู้ช่วยสาวไม่ทราบหรอกว่าทั้งหมดอยู่ภายใต้สายตาที่คมเข้มจนเกือบจะเป็นดุดันด้วยความรู้สึกที่หึงหวงไม่พอใจของใครคนหนึ่ง

            คุณรส ชยุทธ์ สุวรรณาลัย เดินยิ้มกว้างมาแต่ไกล สวัสดีครับ ดีใจจังที่ได้พบคุณวันนี้

            สวัสดีค่ะคุณชยุทธ์ ผู้ช่วยสาวยิ้มบางๆ

            ตั้งแต่คุณกลับจากมัลดีฟส์มาก่อน เราก็ไม่เจอกันเลย คิดถึงจังครับ ชยุทธ์พูดด้วยน้ำเสียงแววตาอ่อนโยน ทำเอาผู้ช่วยสาวหน้าแดงกับคำพูดซึ่งๆหน้า ผมกลับกรุงเทพอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา โทรเข้าโทรศัพท์มือถือของคุณรสๆก็ไม่รับ ทราบจากคุณน้อยว่าคุณรสลาพักร้อนหนึ่งเดือนไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด แล้วนี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ

            กลับมาทำงานได้เกือบสองอาทิตย์แล้วค่ะ หญิงสาวหลบตาซ่อนพิรุธ

            นี่ผมก็เพิ่งกลับมาจากนิวยอร์ก เสร็จจากประชุมแล้วทานข้าวกลางวันด้วยกันนะครับ คำพูดน้ำเสียง และแววตา ทำให้ผู้ช่วยสาวไม่สามารถปฏิเสธได้

            คุณชยุทธ์เชิญข้างในห้องประชุมก่อนนะคะ เกือบจะได้เวลาแล้ว เดี๋ยวรสตามเข้าไป

            ครับ คล้อยหลังนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ มธุรสเดินไปสมทบกับศุพินิจและเยาวริน

            ขอบคุณมากค่ะคุณพินิจ พี่เยาว์ รถเจ้ากรรมดันจะมาเสียวันนี้ แย่จริงๆ เธอบ่นกับเพื่อนร่วมงาน

            ก็ไม่มีอะไรนิจ้ะ รสก็เตรียมไว้หมดแล้ว พวกเราก็แค่มาเตรียมเปิดห้องประชุม ดูแลความเรียบร้อย นี่พี่ก็เรียกน้องแผนกมัลติมีเดียมาช่วยอีกคน รสนัดแนะกับเขาอีกทีก็แล้วกัน พี่ขอตัวกลับขึ้นออฟฟิศก่อนล่ะ

            ผมก็ต้องไปทำงานต่อเหมือนกัน โชคดีรส แต่ก่อนที่ศุพินิจและเยาวรินจะผละไปทำงานของตัวเองต่อ อ้าวนั่น! คุณน้อยมาพอดี

            มธุรสเดินเข้าห้องประชุมไปพร้อมกับเจ้านาย  ผู้ช่วยสาวที่กำลังก้าวเข้ามาในห้องประชุมต้องชะงักกึก เมื่อเห็นร่างสมาร์ทคุ้นตาในชุดสูทสีเข้มนั่งไขว่ห้างขมวดคิ้วน้อยๆ ฟังชยุทธ์พูดอย่างตั้งใจ มธุรสตกใจแทบช็อคไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอย่างไม่คาดฝันในวันนี้

    ***** จบตอนค่ะ *****

    อร๊ายยยยยยยย! ร่างสมาร์ทในชุดสูทสีเข้มคุ้นตา นั่งไขว่ห้าง ขมวดคิ้วน้อยๆ คือ...ใคร?

    จริงดิ! มาได้ยังไง ??? งานเข้าอย่างแรงแล้วล่ะมั้งมธุรส คริ คริ

    พรุ่งนี้ตอนใหม่ โรคเก่ากำเริบ ก็ หึ่ง...หึ งั้ย อิอิ

    ร้านหนังสือนายอินทร์ ทุกสาขา

    พบ เล่ห์มธุรส โฉมใหม่เปลี่ยนปก

    พร้อม...ตอนพิเศษสุด สุดร้อนแรง!

    หรือ จะสั่งโดยตรงกับ จำปี ก็ได้ค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×