คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : โลกกว้าง...พรหมลิขิต (1)
3. โลกกว้าง...พรหมลิขิต (1)
“คุณภาครับ ผมจะฉีดวัคซีนให้กับวัวล็อตแรกของเราในอีกสองสามวันนี้ เพราะวัคซีนที่สั่งจากกรุงเทพจะได้วันมะรืน” ชวินสัตวแพทย์วัยกลางคนเดินนำผู้ช่วยคนใหม่เข้ามาในฟาร์มเลี้ยงวัว
“ดีค่ะหมอวิน เพราะว่าช่วงนี้มีเห็บมาเกาะกินเลือดวัวมากเป็นพิเศษ ภากลัวว่าเห็บจะเป็นพาหะของโรคไข้เห็บกับวัวได้ แล้วภาคิดจะล้อมรั้วไฟฟ้าในแปลงหญ้าเลี้ยงวัว เพื่อป้องกันอีกชั้นหนึ่ง หมอวินคิดว่ายังไงคะ” ปริวิภาเสนอความคิดเห็น
“ดีครับ ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นภาเริ่มดำเนินการเลยนะคะ” ผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวไฟแรงบอกอย่างมุ่งมั่น ซึ่งชวินก็พยักหน้าเห็นด้วย และรู้สึกเอ็นดูในความตั้งอกตั้งใจของสาวน้อยรูปร่างบอบบางหลานสาวเจ้าของไร่
ชีวิตของปริวิภาราบรื่น และเรียบง่ายมาโดยตลอด ไม่เคยมีปัญหาเลยสักครั้ง อยู่ๆโชคชะตาก็มาเล่นตลกกับเธอเพียงชั่วข้ามคืน แบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัว
หญิงสาวจำได้ว่า...เธอเล่าเรื่องราวในคืนนั้นให้ป้าฉวีฟังไปร้องไห้ไป
“ภาไม่ทราบว่า...ตัวเองไปอยู่ที่นั่นกับผู้ชายคนนั้นได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่จำได้ ภาก็อยู่กับพวกเพื่อนๆในผับ ภาไม่ทราบจริงๆ แล้วภาจะทำยังไงต่อไปดีคะ ป้าหวีอย่า...เล่า หรือบอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้นนะคะ ภาขอตั้งหลักสักพักก่อน”
แล้วเรื่องที่ทำให้เธอเหมือนตกนรกทั้งเป็น ก็คือประจำเดือนของเธอขาดไป
“ป้าหวีคะ” ปริวิภาเรียกด้วยน้ำเสียง และสีหน้าเป็นกังวล
“มีอะไรคะ คุณภา” ป้าฉวีพอจะเดาออกว่า...เจ้านายสาวกำลังไม่สบายใจเรื่องอะไร
“ประจำ...ประจำเดือนของภายังไม่มาเลยคะ นี่ก็เลยมาอาทิตย์กว่าเกือบสองอาทิตย์แล้วนะคะ ภา...ภาจะท้องไหมคะ” เธอกลั้นใจถามป้าแม่บ้านที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่
“คุณภาใจเย็นๆ ไว้ก่อนค่ะ มันอาจจะคลาดเคลื่อนก็ได้นะคะ”
“แต่ปกติภาตรงเวลาทุกเดือนนะคะ นี่ก็เกือบสองอาทิตย์แล้ว ภา...ภากลุ้มใจจังเลย” สาวน้อยมีสีหน้าอยากจะร้องไห้เต็มแก่
“เอาอย่างนี้ ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลยค่ะ คุณภา...รอป้าแป๊บเดียวนะคะ” ป้าฉวีหายออกไปจากบ้านครู่ใหญ่ แล้วกลับมาพร้อมถุงกระดาษเล็กๆ ในมือ ก่อนที่จะดันหลังเธอเข้าไปในห้องน้ำ
“เทสเลยค่ะ...คุณภา เราจะได้หมดข้อสงสัยสักที ผลออกมาเป็นอย่างไร จะได้แก้ไขกันต่อไป” ป้าแม่บ้านพูดพร้อมกับยัดถุงกระดาษเล็กๆนั้นใส่มือเธอ แล้วปิดประตูห้องน้ำให้
เมื่อเปิดถุงกระดาษในมือออกดูถึงรู้ว่าเป็นแผ่นเทสเตอร์สำหรับทดสอบการตั้งครรภ์ เธอเหงื่อซึม อีกใจก็อยากลองให้รู้แล้วรู้รอด อีกใจก็กลัวคำตอบ เธอลังเล แต่ก็ตัดสินใจทำการทดสอบตามวิธีที่อธิบายไว้ข้างกล่อง ที่เหลือคือรอเวลา
ปริวิภายืนหลับตา ไม่กล้าที่จะลืมตาขึ้นมาดูผล ฝ่ามือชื้นเหงื่อรู้สึกตื่นเต้นหัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นดู พอเห็นผลก็รีบเปิดประตูห้องน้ำกระโดดเข้ากอดป้าฉวีจนแทบจะหงายหลัง
“เนกกาทีฟค่ะ ภาไม่ได้ท้อง ไชโยไชโย”
อีกสองวันต่อมาก็เป็นที่แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตั้งครรภ์ เพราะประจำเดือนของเธอมาแล้ว อาจจะเป็นเพราะความกังวล จิตใจอยู่ในภาวะไม่ปกติ ทำให้รอบเดือนคลาดเคลื่อนได้ ความรู้สึกของเธอในตอนนั้นเหมือนตกนรกไปแล้วๆได้เกิดใหม่
ปริวิภาเริ่มต้นชีวิตใหม่ สิ่งที่สูญเสียไปถือว่าทำทาน เธอจะลืมผู้ชายสารเลวคนนั้นให้ได้ โลกออกจะกว้าง โชคชะตาคงไม่เล่นตลกให้เธอต้องมาเจอะเจอกับเขาอีก
“เจ้าประคูณณณณ” หญิงสาวอธิฐานอยู่ในใจ
แต่ใครบอกเล่าว่า...โลกกว้าง และโชคชะตาจะไม่เล่นตลกกับเธอ ในเมื่อเป็นพรหมลิขิตได้ถูกขีดเขียนไว้แล้ว และกำลังรอเธออยู่
ปริวิภากลับมาอยู่บ้านไร่นภศุภ์บ้านเกิด ท่ามกลางความยินดีของปัฐณ์และฤทัย ลุงกับป้าสะใภ้ที่เปรียบเสมือนบิดามารดาผู้ให้กำเนิด และให้การเลี้ยงดู หลังจากที่เธอและพี่ชายอีกสองคนตกที่นั่งกำพร้า ตั้งแต่ตัวเธอเองอายุได้เพียงแปดเดือน
สัตวแพทย์คนใหม่เริ่มต้นทำงานที่ฟาร์มของบ้านไร่ โดยรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยของชวิน สุขอุดม สัตวแพทย์ประจำไร่ ที่ทำงานกับไร่นภศุภ์มานานร่วมสิบปี
หลังเลิกงานปริวิภาเปิดคลินิกเล็กๆ รักษาสัตว์ภายในบริเวณบ้านไร่ โดยมีชาวบ้านในละแวกนั้น พาสัตว์เลี้ยงมาให้รักษา หรือมาตามเธอให้ไปรักษาที่บ้าน ซึ่งคุณหมอคนสวยก็ไปด้วยความเต็มใจ ถ้าชาวบ้านมีสตางค์ก็ให้ ถ้าไม่มีเธอก็รักษาฟรี หรือไม่ก็มีพวกเด็กๆลูกหลานคนงาน หรือชาวบ้าน พากันอุ้มสัตว์เลี้ยงเช่น หมู หมา กา ไก่ นก มาให้รักษา โดยที่คุณหมอไม่ได้คิดราคาค่างวด แถมมีขนมนมเนยฝากเด็กๆ เจ้าของสัตว์เลี้ยงกลับไปทานที่บ้านกันอีกด้วย
ทำให้ตอนเย็นๆ คลินิกของเธอเต็มไปด้วยเด็กๆ ที่พาสัตว์เลี้ยงมารักษา รวมทั้งเด็กที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง แต่อยากทานขนม ก็พากันมาคลินิก สัตวแพทย์สาวมีความสุขมากกับเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย จนทำให้ลืมเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองไปได้บ้าง
“พี่ปริม” ปริวิภาร้องเรียกลูกพี่ลูกน้องพร้อมกับวิ่งเข้าไปสวมกอดด้วยความดีใจเมื่อได้เจอกันที่บ้านในเย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน ซึ่งเธอกับญาติผู้พี่คนนี้ไม่ได้เจอกันมานานกว่าสองปี “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“เมื่อเช้าจ้ะ คุณพ่อกับพี่วิตต์ไปรับที่สนามบิน แล้วก็พามาที่บ้านไร่นี้เลย แล้วภาล่ะจ๊ะเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม ดีใจด้วยนะจ้ะที่เรียนจบ แล้วได้กลับมาทำงานที่บ้านอย่างที่ตั้งใจไว้”
“ขอบคุณค่ะพี่ปริม ภาสบายดี เราไม่ได้เจอกันนานมาก พี่ปริมรู้ตัวไหมคะว่าสวยขึ้นจนภาจำเกือบไม่ได้” ปริวิภาจับตัวลูกพี่ลูกน้องสาวหมุนไปมา “แล้วไปอยู่เมืองนอกเมืองนามาเป็นปีๆ มีหนุ่มๆตาน้ำข้าวมาจีบพี่สาวของภาบ้างหรือเปล่า สวยออกขนาดนี้”
ปริมา นภศุภ์ เป็นลูกสาวของปิรัณกับชมัยพร ผู้เป็นอาและอาสะใภ้ของปริวิภา ทั้งนี้ปริมายังมีพี่ชายอีกคนคือ ปรวิตต์ ซึ่งขณะนี้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว
ปริมาเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยหวานคนหนึ่ง กิริยามารยาทนุ่มนวลละมุนละไม หัวอ่อนเชื่อฟังบิดามารดา โดยเฉพาะกับมารดา คือชมัยพรด้วยแล้ว ปริมาจะเชื่อฟัง และทำตามทุกอย่างที่มารดาบงการ
หญิงสาวขออนุญาตบิดามารดาไปเรียนภาษา และเทคคอร์สวิชาชีพสั้นๆที่ประเทศอังกฤษ เพราะเริ่มเบื่อกับชีวิตที่ไม่มีเป้าหมาย เธออยากจะไปเห็นโลกกว้าง และเรียนภาษาเพิ่มเติมอยู่พอดี แต่ความที่ชมัยพรเป็นห่วงลูกสาวที่ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ทำให้ต้องเดินทางไปๆมาๆ ระหว่างกรุงเทพ - ลอนดอนอยู่เป็นประจำ เพื่อดูแลลูกสาวคนสุดท้อง
“พี่กับคุณแม่คงต้องมาอาศัยอยู่ที่บ้านคุณลุงใหญ่สักพัก เพราะบ้านพี่ยังซ่อมแซมปรับปรุงไม่เสร็จ”
“ว้าววว! ดีใจจังค่ะ พี่ปริมจะมาอยู่ด้วย” ปริวิภากรี๊ดกร๊าด ทั้งเธอและปริมา รวมทั้งอรสุดาอีกคน ทั้งสามสาวมีอายุอานามไล่เลี่ยกันสนิทสนมรักใคร่กันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งตอนนี้อรสุดาก็แต่งงานไปแล้วกับปณพลพี่ชายคนโตของปริวิภานั่นเอง
“พี่คิดถึงบ้าน พอจบคอร์สก็เลยชวนคุณแม่กลับบ้านดีกว่า สงสารคุณแม่ต้องเดินทางไปๆมาๆ กรุงเทพ-ลอนดอน แล้วอีกอย่างเดือนหน้าก็จะถึงงานแต่งงานของพี่ริศกับพี่แพรอยู่แล้ว เลยถือโอกาสกลับเมืองไทยเลยแล้วกัน”
“แล้วไงคะ ตกลงมีฝรั่งหน้าตาหล่อๆ เข้ามาจีบหรือเปล่า” น้องสาวยังไม่หยุดแซว
“อย่ามาถามแต่พี่เลย แล้วภาล่ะโตเป็นสาวเรียนจบแล้วด้วย มีแฟนหรือยังจ๊ะ” คำถามของญาติผู้พี่จี้ใจดำสัตวแพทย์ใหม่ไฟแรง ทำเอานิ่งเงียบ และหน้าตาซีดลงไปอย่างไม่รู้ตัว “ภา...ภาเป็นอะไรไปจ๊ะ”
“ป...เปล่าคะ ภาว่าเราขึ้นบ้านกันดีกว่าคะ ป่านนี้คุณป้าฤทัยคงตั้งโต๊ะอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว” สาวน้อยรีบเปลี่ยนเรื่อง
โต๊ะอาหารที่บ้านไร่นภศุภ์ในเย็นวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีปิรัณ ชมัยพร และปริมาร่วมด้วย
“ชมัยคงต้องรบกวนพี่ใหญ่กับพี่ฤทัยสักระยะหนึ่งนะคะ จนกว่าบ้านเดือนจรัสจะเสร็จ” ชมัยพรพูดกับพี่ชายและพี่สะใภ้ของสามี
“เชิญตามสบายเลยค่ะคุณชมัย ที่นี่ก็เหมือนบ้านของคุณน้อยกับคุณชมัยด้วยเหมือนกัน” ฤทัยพูดอย่างจริงใจและอ่อนหวาน
“คงรบกวนไม่นานหรอกครับพี่ฤทัย สักสองสามเดือน" ปิรัณกล่าวเสริม เพราะตัวเขาเองพักที่นภศุภ์ คอนโด เพลส ระหว่างที่บ้านกำลังซ่อมแซมปรับปรุง แล้วจะกลับบ้านไร่เกือบทุกวันหยุดสุดสัปดาห์
“พี่ปริม พรุ่งนี้เราไปเยี่ยมพี่แพรกันดีกว่า ไม่รู้เตรียมเรื่องแต่งงานกันไปถึงไหนแล้ว” ปริวิภาหันชวนญาติผู้พี่ระหว่างรับประทานอาหาร
“ดีจ้ะ พี่ก็คิดถึงพี่แพร ไม่ได้เจอกันนานแล้ว” ทั้งสองสาวนัดแนะที่จะไปเยี่ยมแพรวาในวันรุ่งขึ้นที่บ้านไร่ชวัลกร
TO BE CONTINUE...
***************************************************
ว้าวๆๆๆๆๆ บ้านไร่ชวัลกร ชื่อคุ้นๆน่า
แล้วใครบอกเล่าว่า...โลกกว้าง ที่แท้แคบแค่รั้วกันเอง อิอิ
แล้วพบกันนะคะ โลกกว้าง...พรหมลิขิต (2)
ความคิดเห็น