ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์มธุรส by จำปีดา (ภาคต่อ...ทัณฑ์น้ำผึ้งรวง) ทำมือ...พร้อมส่งแล้วนะคะ

    ลำดับตอนที่ #4 : Turn Left, Turn Right ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 62




    ชยุทธ์ สุวรรณาลัย

    หนุ่มใหญ่เจ้าของโรงแรมในเครือ สุวรรณาลัย รามาด้า 


    ตอนที่ 

    Turn left, Turn right 

    ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา (100%)

              

              ชยุทธ์พามธุรสมารับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมบุษราซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น

              คุณชยุทธ์มีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับรสเหรอคะ มธุรสทวงถามหลังเสร็จจากรับประทานอาหาร  เดือนหน้าผมจะต้องไปประชุมที่มัลดีฟส์ เลยถือโอกาสไปสำรวจโลเกชั่นอีกครั้ง ผมอยากจะชวนคุณรสไปด้วยกัน น้ำเสียงของนักธุรกิจหนุ่มนุ่มนวลดวงตาเป็นประกายมีความหวัง 

              ชยุทธ์รู้สึกถูกตาต้องใจมธุรสตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน อันที่จริงโพรเจกต์รีสอร์ตหรูที่มัลดีฟส์นี้ เขาเกือบจะตกลงใจเลือกอีกบริษัทเป็นผู้ก่อสร้างไปแล้ว เพราะบริษัทนั้นให้ข้อเสนอที่ดีและตัดราคานภศุภ์ คอนสตรัคชั่น ค่อนข้างมาก 

              แต่นภศุภ์ คอนสตรัคชั่น ก็แก้เกมโดยส่งมธุรสเข้ามาพบเขาและยื่นข้อเสนอใหม่ที่น่าสนใจมากกว่า และสนนราคาก็ลดลงกว่าเดิม ทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจในโค้งสุดท้าย ตัดสินใจเลือกนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ก่อสร้างรีสอร์ตบนเกาะมัลดีฟส์ นักธุรกิจหนุ่มยอมรับว่านอกจากข้อเสนอดีๆที่นภศุภ์ คอนสตรัคชั่นยื่นให้ มธุรสก็เป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนใจครั้งนี้

              ให้รสไปมัลดีฟส์ด้วย มธุรสทวนคำอย่างไม่เชื่อหู

              ผมอยากจะชวนคุณรสไปดูสถานที่ก่อสร้างรีสอร์ต แล้วถือโอกาสพักผ่อนไปด้วยในตัว                                                      

              เออ...คือว่า รส...รสไม่แน่ใจว่าจะไปได้หรือเปล่า เพราะช่วงนี้งานก็ยุ่งมาก 

              ผมถึงได้บอกตั้งแต่เนิ่นๆ คุณรสจะได้เคลียร์งานหรือจัดตารางงานได้ถูกต้อง

              เอ่อ...ค่ะ เรื่องนี้รสต้องเรียนคุณปิรัณให้ทราบก่อนด้วยค่ะ ผู้ช่วยสาวแบ่งรับแบ่งสู้  

              ครับ ผมจะเรียนขออนุญาตคุณปิรัณเอง

              เอ่อ...ค่ะ มธุรสอ้ำอึ้ง เธอพอจะทราบความนัยว่าชยุทธ์รู้สึกอย่างไรกับตน เขาเป็นสุภาพบุรุษ
    ที่น่ารักและอ่อนโยน
    อีกทั้งยังพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและที่สำคัญเขาโสดไม่มีพันธะใดๆ เพราะเพิ่งหย่าขาดจากภรรยาสาวชาวต่างชาติ แต่ก็แปลกที่เธอกลับไม่ได้สนใจชยุทธ์เกินไปกว่าลูกค้าคนสำคัญของบริษัทหรือคนที่ต้องทำงานร่วมกัน

              คุณรสครับ แล้วอย่าลืมคืนวันเสาร์นี้งานแสดงบัลเลต์การกุศล หวังว่าคุณรสจะให้เกียรติไปเป็นเพื่อนผม ชยุทธ์มองหญิงสาวด้วยนัตน์ตาเชื่อมหวานจริงใจจนมธุรสไม่กล้าที่จะปฏิเสธ ผู้ช่วยสาวยิ้มบางๆ และพยักหน้ารับแต่โดยดี 

    เราจะกลับกันเลยไหมคะ รสขอตัวเข้าห้องน้ำสักครู่ มธุรสมองนาฬิกาข้อมือ ผู้บริหารหนุ่มพยักหน้ายิ้มๆ เธอจึงขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำ

     

     อ้าว! คุณปรวิตต์ คุณจารุลักษณ์ สวัสดีครับ มาทานอาหารกลางวันที่นี่เหมือนกันเหรอครับ ชยุทธ์หันมาเห็นคู่สามีภรรยาที่กำลังจะกลับเดินผ่านโต๊ะอาหารของตน 

    ครับคุณชยุทธ์ สวัสดีครับ ทั้งสองหนุ่มสัมผัสมือกันตามวัฒนธรรมตะวันตก 

    ได้ยินว่ากลับมาจากตะวันออกกลางแล้ว ชยุทธ์หันมาน้อมศีรษะและยิ้มอย่างสุภาพกับจารุลักษณ์ 

    ครับ กลับมาได้สองสัปดาห์แล้ว คุณชยุทธ์สบายดีนะครับ       

             สบายดีครับ 

    โพรเจกต์ที่มัลดีฟส์ของสุวรรณาลัย รามาด้า ใหญ่มากเลยนะครับ ปรวิตต์กล่าวขึ้นก่อน

     ครับ โชคดีมากที่ผมได้รับสัมปทานสร้างรีสอร์ตที่นั่น หวังว่านภศุภ์ คอนสตรัคชั่น และสุวรรณาลัย รามาด้า จะได้ร่วมงานกันด้วยดีนะครับ 

     ผมก็หวังเช่นนั้นครับคุณชยุทธ์ สองหนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สัมผัสมือกันอีกครั้งผมกับภรรยาเห็นจะต้องขอตัวก่อน แล้วพบกันใหม่ครับ 

    ครับ ชยุทธ์ยิ้มให้กับปรวิตต์อย่างเป็นมิตรและหันมาน้อมศีรษะให้กับสุภาพสตรี แล้วสองสามีภรรยาก็เดินจากไป 


    คุณชยุทธ์คุยกับใครคะ มธุรสเห็นชยุทธ์ยืนคุยกับใครอยู่ไกลๆ ซึ่งเธอเห็นไม่ถนัด 

    อ๋อ! คุณปรวิตต์กับภรรยาครับ เขามาทานอาหารกลางวันที่นี่เหมือนกัน ชื่อของปรวิตต์ทำเอาหญิงสาวนิ่งอึ้งนึกไม่ถึงว่า วงโครจรของเธอและเขาขยับเข้ามาใกล้กันทุกทีๆ

     

              ชยุทธ์มาส่งมธุรสที่นภศุภ์ คอนสตรัคชั่นเมื่อเวลาบ่ายโมงตรง มธุรสกลับมาที่ห้องทำงานที่อยู่ติดกับออฟฟิศของกรรมการ

    ผู้อำนวยการใหญ่ และมีประตูเชื่อมติดถึงกันโดยผ่านโต๊ะเลขานุการ โดยไม่ต้องเดินอ้อมออกไปข้างนอกให้เสียเวลา  

    อ้าว! รสกลับมาแล้ว คุณน้อยสั่งให้เข้าไปพบด้วย ศุพินิจบอกเธอ ขณะที่เขากำลังคร่ำเคร่งอยู่กับคอมพิวเตอร์ตรงหน้า 

     ค่ะ มธุรสรับคำสั้นๆ ผู้ช่วยสาวคว้าสมุดโน๊ตติดมือไปด้วยโดยอัตโนมัติ เยาวรินเลขานุการส่วนตัวของปิรัณไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ เธอจึงถือวิสาสะตรงเข้าเคาะประตูห้องของผู้เป็นเจ้านาย แล้วเปิดเข้าไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงขานอนุญาต

              คุณน้อยเรียกรสเหรอคะ

              นั่งก่อนสิ เรามีงานใหม่ ปิรัณส่งแฟ้มใหญ่หนาให้ผู้ช่วยสาวสองแฟ้มเป็นงานของกรมพัฒนาเศรษฐกิจ ตอนนี้ทางกรมฯมีงานต่อเติมขยายอาคาร ซึ่งก็เป็นงานเก่าของนภศุภ์ฯเอง เราน่าจะมีภาษีดีกว่าใครที่จะได้งานนี้ เพราะเป็นบริษัทวิศวกรก่อสร้างเดิม มธุรสหนูไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานและข้อมูลการเข้าร่วมประมูล ส่วนปรวิตต์จะเป็นวิศวกรควบคุม ชื่อของรองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม ทำให้เธออึ้งไป

              อีกเรื่องนะมธุรส เย็นนี้หนูช่วยไปที่ห้องเสื้อคุณสโรชาให้ที คำสั่งของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทำเอาผู้ช่วยสาวทำหน้างงๆ ไม่ต้องทำหน้างง อันนี้เป็นธุระส่วนตัว ฉันอยากจะขอความช่วยเหลือ ช่วยไปรับชุดราตรีที่ฉันสั่งตัดไว้ที่ห้องเสื้อคุณสโรชาให้หน่อย นัดไว้ห้าโมงเย็น หลังเลิกงานแล้วช่วยไปให้หน่อยนะ อ้อ! ฝากแฟ้มนี้ให้คุณเยาว์ด้วย ปิรัณตัดบทด้วยการยื่นแฟ้มเอกสารให้

              ขากลับออกมามธุรสเห็นเยาวรินเลขานุการกำลังคร่ำเคร่งกับกองจดหมายตรงหน้า จนไม่ได้ยินเสียงเธอเปิดประตูออกมา 

              พี่เยาว์คะ คุณน้อยฝากให้เอามาให้ค่ะ  

    ขอบใจจ้ะ รสวางไว้ตรงนั้นเลยจ้ะ เยาวรินเงยหน้าขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนที่จะสนใจจดหมายตรงหน้าต่อ มธุรสไม่อยากจะทำลายสมาธิ เธอจึงผลุบเข้าห้องทำงานที่มีบานประตูเชื่อมกัน แต่ยังไม่ทันที่จะปิดประตูให้สนิท เธอก็ได้ยินเสียงของเยาวรินดังขึ้นมาก่อน         

              สวัสดีค่ะคุณวิตต์ คุณน้อยกำลังรอคุณอยู่ค่ะ เยาวรินรายงานเสียงอ่อนหวาน        

              ขอบคุณครับคุณเยาวริน มธุรสได้ยินเสียงตอบขรึมๆของรองผู้อำนวยกายฝ่ายวิศวกรรม ก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องทำงานของบิดา หญิงสาวยืนพิงบานประตูผ่อนลมหายใจ พลางคิดว่าเธอกับเขาจะคลาดกันอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่

             

              เย็นวันนั้นมธุรสขับรถญี่ปุ่นคันเล็กๆเก่าๆของตนไปที่ห้องเสื้อสโรชา เธอเคยมาที่ห้องเสื้อแห่งนี้สองสามครั้ง เพื่อมาตัดและรับชุดสูททำงานของตัวเองตามคำสั่งของปิรัณ เมื่อครั้งที่ต้องไปร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารที่สิงคโปร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ปิรัณไม่ได้สั่งอะไร นอกจากให้มารับชุดราตรีก็อาจจะเป็นของชมัยพรผู้เป็นภรรยาหรือไม่ก็ปริมาผู้เป็นลูกสาว ซึ่งอาจจะติดธุระไม่มีเวลามารับได้
    จึงขอให้เธอช่วยมารับแทน

              สวัสดีค่ะคุณสโรชา มธุรสกล่าวทักทายเจ้าของห้องเสื้อ เมื่อผลักบานประตูกระจกเข้ามา

              สวัสดีค่ะคุณมธุรส สโรชาเดินออกมาต้อนรับมาได้เวลาพอดี เชิญที่ห้องลองชุดเลยค่ะ เจ้าของห้องเสื้อดึงร่างสมส่วนในชุดกระโปรงทำงานเข้าไปในห้องลองที่อยู่ด้านหลัง

              เดี๋ยวค่ะคุณสโรชา เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ รสมารับชุดราตรีให้กับคุณน้อย แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นของคุณชมัยพรหรือคุณปริมา 

              ไม่ใช่ทั้งของคุณชมัยหรือของคุณปริมหรอกค่ะ แต่เป็นชุดของคุณรสเองต่างหากล่ะคะ เข้าไปลองเลยค่ะ มธุรสทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจจนกระทั่งสโรชาหยิบชุดราตรีสั้นผ้าชีฟองสีครีมยัดใส่มือเธอ 

              คุณปิรัณสั่งตัดชุดราตรีให้คุณ เพื่อใส่ไปงานแสดงบัลเลต์การกุศลคืนวันเสาร์นี้ค่ะ พี่ต้องขอโทษคุณรสด้วยซ้ำ เพราะพี่ตัดเสร็จเรียกว่าแทบจะนาทีสุดท้ายเลย พอดีช่วงนี้พี่มีลูกค้าเยอะมากทำแทบไม่ทัน ถึงของคุณรสจะเสร็จช้าไปสักหน่อย แต่พี่ก็ตัดให้สุดฝีมือเลยนะคะ ลองค่ะลองเลย เจ้าของห้องเสื้อสาวใหญ่ดันหลังมธุรสเข้าไปในห้องลอง

              มธุรสนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าเจ้านายจะมีแก่ใจคิดถึงเธอ เมื่อรู้ว่าชยุทธ์ชวนเธอไปชมการแสดงบัลเลต์การกุศล 

              อันที่จริงมธุรสก็พอมีชุดที่จะใส่ไปงานในคืนวันเสาร์นี้แล้ว เป็นชุดเก่งที่ใส่มาแล้วหลายงาน แต่ยังอยู่ในสภาพดีพอจะให้เธอสวมใส่ออกงานได้อีกโดยไม่ขายหน้า ซึ่งงานแสดงบัลเลต์การกุศลนี้เป็นงานใหญ่และหรูมาก มีแขกสังคมชั้นนำของเมืองไทยไปร่วมงาน 

              ตัวมธุรสเองก็ไม่ได้อยากที่จะไปร่วมงานนี้เลย แต่ด้วยความเกรงใจและไม่อยากขัดใจ ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธคำเชิญของชยุทธ์ได้ และยิ่งปิรัณทราบเรื่องก็สนับสนุนให้เธอไป เพราะเป็นการรักษามารยาทกับลูกค้าคนสำคัญและยังเท่ากับเป็นการเปิดหูเปิดตา เพราะบัลเลต์คณะนี้เดินทางมาจากประเทศรัสเซียเป็นคณะที่มีชื่อเสียงมาก คงไม่บ่อยครั้งนักที่จะมาเปิดการแสดงที่เมืองไทย อีกทั้งรายได้
    หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะยกให้การกุศลทั้งหมด
    ซึ่งปิรัณกับชมัยพรก็จะไปชมการแสดงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

     

              มธุรสลองชุดราตรีมือไม้สั่น เพราะไม่เคยมีชุดสวยแบบนี้มาก่อน และให้เดาว่า...ชุดนี้คงจะมีราคาแพงลิบ แล้วผู้ช่วยสาวก็ต้องตะลึงมองตัวเองในกระจกเงา ชุดราตรีสั้นสีครีมเนื้อผ้าชีฟองบางพลิ้วเกาะไปตามเรือนร่างที่มีสัดส่วนโค้งเว้ายวนตา ชุดนี้ช่างสวยงามมากยามเมื่ออยู่บนร่างของเธอ

              คุณรสขา สวยมากค่ะ สโรชากรี๊ดกร๊าดตรงเข้ามาจับร่างอรชรสมส่วนหมุนซ้ายหมุนขวาไปมาคุณรสใส่ได้สวยมากจริงๆ พี่ไม่ได้แกล้งชมนะคะ มธุรสรู้สึกประหม่าขัดเขินกับคำชมของเจ้าของห้องเสื้อสาวใหญ่ 

              แต่เอ...พี่ว่ามันจะคับๆแน่นๆ ไปหน่อยไหมคะช่วงอก

              ค่ะ แน่นไปหน่อย แต่ก็ใส่ได้ค่ะ

              สงสัยเด็กพี่จะเย็บตะเข็บแน่นไป พี่ว่าต้องแก้ออกอีกนิด เพราะว่าคุณรสเป็นคนมีหน้าอก พอตะเข็บแน่นเข้าไป หน้าอกก็ดูจะล้นๆออกมา แต่อันที่จริงก็ดูเซ็กซี่นะคะ 

                มธุรสมองตัวเองในกระจกเงาอีกครั้ง คอเสื้อของชุดราตรีค่อนข้างกว้าง ถึงจะไม่ลึกมากแต่ก็เผยให้เห็นผิวเนื้อเนียนกลมกลึงเหนือหัวไหล่และเนินอก โดยเฉพาะส่วนอกจริงดังคำที่สโรชาพูด เธอเป็นคนมีหน้าอก พอตะเข็บช่วงบนแน่นเข้าก็เผยให้เห็นเป็นร่องละมุนสายตาชวนให้มอง

              เอาออกสักหน่อยก็ดีค่ะ ไม่อย่างนั้นมันจะโป๊ไป หญิงสาวกระดาก

              โป๊อะไรกันคะ เซ็กซี่ออก แต่พี่ว่าเอาออกสักนิดก็ดี ไม่อย่างนั้นมันจะอึกอัด แหม...พี่ต้องขอโทษจริงๆ แทนที่คุณรสจะรับชุดกลับไปได้เลย วันพรุ่งนี้เลยจะต้องเสียเวลามารับอีกครั้ง

              ไม่เป็นไรค่ะคุณสโรชาด้วยความเต็มใจกับการได้ใส่ชุดสวยๆฝีมือคุณสโรชาแบบนี้ ต่อให้รสมา
    อีกกี่หนก็ได้ค่ะ
    คำพูดของผู้ช่วยสาว ทำเอาเจ้าของห้องเสื้อยิ้มแก้มแทบปริ

              มธุรสขอตัวกลับไปในที่สุด แล้วนัดว่าจะมารับชุดในตอนเย็นหลังเลิกงานของวันพรุ่งนี้

                                 

              บนโต๊ะอาหารเย็นที่บ้านของปิรัณและชมัยพร สมาชิกในครอบครัวอยู่กันอย่างพร้อมหน้า ปรวิตต์ จารุลักษณ์ ลูกสาวคนเล็กปริมากับอสิต พรประสบ ลูกเขยที่ชมัยพรไม่ค่อยปลื้ม เพราะมีฐานะด้อยกว่าและไม่มีหน้ามีตาทางสังคม รวมถึงจิลดาน้องสาวของลูกสะใภ้ที่แวะมารับประทานอาหารเย็นด้วย                                                           

              อสิตเป็นเพียงลูกจ้างในบริษัท นภศุภ์ คอนสตรัคชั่น ถึงจะดำรงตำแหน่งหัวหน้าวิศวกรก็ตาม อีกทั้งพ่อแม่และครอบครัวของอสิตก็เป็นเพียงข้าเก่าเต่าเลี้ยงของตระกูลนภศุภ์ผู้สามี ซึ่งชมัยพรเห็นว่าไม่คู่ควรกับลูกสาวคนเล็กของนางเลยสักนิด ถึงแม้อสิตจะพยายามพิสูจน์ตัวเองถึงความสามารถในหน้าที่การงานเพียงใด โดยการไปคุมงานที่ตะวันออกกลางร่วมกับปรวิตต์จนประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังไม่สามารถชนะใจคุณแม่ยายได้สนิทนัก ชมัยพรยังมีอาการปั้นปึ่งกับลูกเขยคนยากอยู่ดี 

              หลังแต่งงานปริมากับอสิตขอแยกตัวออกไปอยู่คอนโดที่ปิรัณยกให้เป็นของขวัญแต่งงาน ท่ามกลางความไม่พอใจของชมัยพร ดีแต่ที่ปิรัณนั้นเข้าใจลูกสาวและลูกเขยว่าขืนรังที่จะอยู่ร่วมบ้านกันต่อไป อาจจะนำมาซึ่งความอึดอัดใจให้กับทุกฝ่าย เพราะชมัยพรนั้นไม่ชอบหน้าลูกเขยคนเล็กเอาอย่างจริงๆจังๆ ปิรัณจึงพูดจาหว่านล้อมให้ภรรยาเห็นด้วยที่ปริมากับอสิตจะขอแยกบ้านออกไป

              แล้วหนูจิลจะเริ่มมาทำงานที่นภศุภ์ คอนสตรัคชั่น เมื่อไหร่จ้ะ ชมัยพรถามน้องสาวของลูกสะใภ้ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน

              ถ้าพี่วิตต์กับคุณลุงน้อยไม่ขัดข้อง จิลขอไปทำต้นเดือนหน้านะคะ จิลดาตอบ แล้วชม้ายชายตามองไปทางพี่เขย

              คุณลุงน้อยกับพี่วิตต์จะไปขัดข้องอะไรล่ะจ้ะหนูจิล จะดีใจด้วยซ้ำที่ได้คนไปช่วยทำงาน จริงไหมคะคุณน้อย ตาวิตต์ ชมัยพรหันไปถามสามีและบุตรชาย ซึ่งปิรัณก็ได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ

              ผมมีวิมุทร์เป็นทั้งเลขานุการและผู้ช่วยอยู่คนหนึ่งแล้ว แต่ถ้าจิลจะไปทำงานด้วย ผมก็จะให้ทำงานร่วมกับวิมุทร์ ปรวิตต์ตอบเสียงเรียบๆขรึมๆ

              ดีใจจังค่ะ จิลดาหันมาจับต้นแขนพี่เขยอย่างลืมตัว จนปริมาและอสิตอดที่จะมองหน้ากันไม่ได้ ส่วนจารุลักษณ์ก็มองน้องสาวด้วยสายตายิ้มๆ

              คุณแม่คะวันเสาร์อาทิตย์นี้ปริมกับพี่อสิต เราจะไปหัวหินกันค่ะ พอดีพี่อสิตจะต้องไปตรวจไซด์งานที่นั่น ปริมาบอกกับมารดาถึงแผนในวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้

              อ้าว! แล้วจะไม่ไปดูบัลเลต์การกุศลด้วยกันเหรอ

              น่าเสียดายค่ะ คงจะไม่ได้ไปค่ะ เพราะพี่อสิตติดงาน ปริมาอ่อมแอ้มเกรงว่ามารดาจะเคือง 

              แล้วหนูจอยกับตาวิตต์ล่ะ จะไปดูบัลเลต์การกุศลคืนวันเสาร์นี้ด้วยกันใช่ไหม ชมัยพรหันไปถามลูกสะใภ้กับลูกชายบ้าง

              จอยเห็นจะต้องขอตัวค่ะคุณแม่ เพราะจอยจะรู้สึกอึดอัดมากเวลาอยู่ในที่ๆมีคนมากๆ จอยมักจะเวียนศีรษะพาลจะไม่สบายเอา เดี๋ยวคนที่ไปด้วยจะไม่สนุก แต่วิตต์น่ะสิคะดื้อ พอจอยไม่ไป ตัวเองก็จะไม่ไปบ้าง น่าเสียดายการแสดงดีๆ 

              นั่นน่ะสิ การแสดงบัลเลต์ของคณะนี้ไม่ได้หาดูกันได้ง่ายๆนะ ถ้าไม่ได้สถานทูตรัสเซียกับกระทรวงวัฒนธรรมจัดล่ะก็ เห็นทีจะต้องนั่งเครื่องบินไปดูถึงมอสโค และที่สำคัญการแสดงนี้หารายได้เข้าการกุศลด้วย

              จริงด้วยค่ะคุณป้า พอดีจิลมีบัตรแต่ยังไม่มีเพื่อนไปเลยค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่กับพี่เจตต์ขึ้นเชียงใหม่กันหมด จิลดาแกล้งทำเสียงละห้อย

              ถ้าอย่างนั้นวิตต์ก็ไปกับหนูจิลสิลูก คำพูดของชมัยพรทำให้จิลดารู้สึกลิงโลดอยู่ในใจ และคิดไม่ถึงว่ากำลังจะชักศึกเข้าบ้านลูกชายและลูกสะใภ้ของตัวเอง 

              จริงด้วย วิตต์ไปกับจิลสิคะ จารุลักษณ์ใจกว้างสนับสนุนอีกแรง ปรวิตต์ต้องพยักหน้ารับเพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ 

    จิลดาแอบซ่อนความยินดีไว้แทบไม่มิดที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพี่เขยที่เธอแอบมีใจให้มานาน




                                                                                                              จบตอนค่ะ




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×