คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Turn Left, Turn Right ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา (1)
จิลดา พิมพ์สวัสดิ์
ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
ตอนที่
2
Turn Left, Turn Right
ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา (50%)
ที่บ้านของปิรัณและชมัยพร
“หลังกลับจากโรงพยาบาลจอยจะแวะไปหาวิตต์ที่บริษัทนะคะ” จารุลักษณ์บอกกับสามีหนุ่มบนโต๊ะรับประทานอาหารเช้า
“ตกลงครับ ผมขอโทษที่ไม่ได้ไปหาหมอกับจอยวันนี้ เพราะมีประชุมช่วงเช้าพอดี” ปรวิตต์ทำหน้ามุ่ย
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิค่ะ วิตต์มีงานก็ต้องทำก่อน ไว้คราวหน้าเราค่อยไปด้วยกันก็ได้” จารุลักษณ์ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่อยากให้สามีเป็นห่วงหรือเป็นกังวลใจเนื่องมาจากสุขภาพของเธอ หมอเตือนเรื่องการตั้งครรภ์เป็นภาวะเสี่ยงเพราะเธอมีอายุที่มากขึ้นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงมีโรคหอบหืดเป็นโรคประจำตัว
“ดูแลตัวเองด้วยนะครับ” ปรวิตต์ลุกเดินเข้ามาโอบกอดภรรยาสาวทางด้านหลังขณะที่เธอยังนั่งอยู่บนเก้าอี้รับประทานอาหารด้วยกิริยารักใคร่ห่วงใย
“ผมเป็นห่วง” ปรวิตต์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับหอมแก้มนุ่มๆของภรรยา เธอก็เบี่ยงริมฝีปากแตะที่แก้มสากๆของสามีด้วยความรักใคร่ไม่แพ้กัน
“มอนิ่งค่ะ หวานกันแต่เช้าเลยนะคะ คุณพี่เขยคุณพี่สาว” เสียงแหลมหวานดังขึ้นที่หน้าห้องรับประทานอาหาร ทำให้สองสามีภรรยาหันมามองที่ต้นเสียง ปรวิตต์ค่อยๆผละออกจากร่างของภรรยาสาวอย่างนุ่มนวล เมื่อมีอาคันตุกะมาเยือนแต่เช้า...จิลดา พิมพ์สวัสดิ์
“อ้าว! จิล พี่กลับมาจากตะวันออกกลางได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว ยังไม่ได้เจอจิลเลยนะจ้ะ” จารุลักษณ์ทักพร้อมกับลุกเดินเข้ามาจับไม้จับมือน้องสาวที่ไม่ได้เจอกันมานาน
“พอดีจิลไปอเมริกา เพิ่งกลับมาถึงกรุงเทพเมื่อคืนนี้เอง สวัสดีค่ะพี่วิตต์” จิลดาตอบพี่สาว แล้วหันไปทักทายพี่เขยด้วยน้ำเสียงแว่วหวาน นัตน์ตาเต้นระริกด้วยความปรีดาจนเกือบจะเก็บไว้ไม่อยู่ เธอกลับมาถึงกรุงเทพเมื่อคืน แล้วมารดาบอกว่าพี่สาวกับพี่เขยกลับมาจากตะวันออกกลางแล้ว ทำให้เธอต้องแล่นมาหาแต่เช้าเช่นนี้
“พี่จอยดูสดใสนะคะ กำลังจะมีข่าวดีหรือเปล่า”
“ตอนนี้ยังไม่ใช่จ้ะ แต่ในอนาคตไม่แน่” จารุลักษณ์ยิ้มพราย แต่ตอบได้ตรงคำถาม เพราะพอจะเดาได้ถูกว่าน้องสาวหมายความถึงเรื่องอะไร ปรวิตต์โอบเอวและมองภรรยาสาวอย่างรักใคร่ เขารู้ดีว่าภรรยาหมายถึงอะไรเช่นกัน
จิลดาลอบมองพี่เขยและพี่สาวของตัวเองด้วยแววตาริษยา ปรวิตต์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกของเธอ รูปร่างสูงสมาร์ตสมชายชาตรี บุคลิกออกจะขรึมๆพูดน้อย ยิ้มน้อย แต่อ่อนโยนนุ่มลึกอยู่ในที ริมฝีปากหยักสวยได้รูปบ่งบอกถึงอารมณ์ร้อนแรงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาและบุคลิกที่เคร่งขรึม
“คุณป้าชมัยล่ะคะ” จิลดาเปลี่ยนไปถามถึงมารดาของพี่เขยแทน
“คุณแม่ออกไปกับคุณพ่อตั้งแต่เช้า จิลมีธุระอะไรกับคุณแม่หรือเปล่า”
“จอย ผมเห็นจะต้องออกไปทำงานก่อนแล้วล่ะครับ” ปรวิตต์ขัดจังหวะ
“ค่ะวิตต์ หลังกลับจากโรงพยาบาลแล้ว จอยจะแวะไปทานข้าวกลางวันด้วยนะคะ” จารุลักษณ์เดินออกไปส่งสามีที่รถ จิลดาแอบมองภาพของคนทั้งคู่ผ่านทางช่องหน้าต่างด้วยหัวใจที่รุ่มร้อนยากที่จะบรรยายถึงความรู้สึก
จิลดาแอบชอบปรวิตต์ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นปีที่หนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง เธอเป็นตัวแทนของนักศึกษาไปร่วมทำกิจกรรมกับมหาวิทยาลัยที่ปรวิตต์ศึกษาอยู่ เธอตกหลุมรักรุ่นพี่ต่างมหาวิทยาลัยทันทีที่ได้เจอกัน ปรวิตต์เป็นนักกิจกรรมและนักกีฬาของมหาวิทยาลัย ทำให้เป็นที่รู้จักและกรี๊ดกร๊าดในหมู่สาวๆทั้งในและต่างมหาวิทยาลัย และจิลดายังเป็นผู้แนะนำให้พี่สาวได้รู้จักกับปรวิตต์
แล้วก็เหมือนสายฟ้าฟาดกลางดวงใจ เมื่อจิลดามารู้ในภายหลังว่าปรวิตต์กับจารุลักษณ์คบหากันเงียบๆในฐานะแฟนหลังจากนั้นโดยที่เธอไม่ระแคะระคายมาก่อน ทั้งคู่รักกันและตกลงที่จะแต่งงานกันหลังจากที่ปรวิตต์จบการศึกษาปริญญาโทจากอเมริกา
ปรวิตต์เป็นสุภาพบุรุษที่สมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะทางครอบครัวเป็นปึกแผ่นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียง การศึกษาความสามารถหน้าที่การงาน จิลดาโกรธฝังใจว่าพี่สาวเป็นคนแย่งผู้ชายที่ตนรักไป เธอพยายามซ้อนความเจ็บแค้นไว้ภายในที่ร้อนรุ่มรอวันระเบิด
“จิลทานอะไรมาหรือยังจ้ะ”
“จิลทานมาเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ขอกาแฟสักถ้วยก็ดี” จารุลักษณ์จัดแจงรินกาแฟให้น้องสาว “ท่าทางพี่จอยมีความสุขดีนะคะ” จิลดาถามและมองพี่สาวด้วยสายตาที่เคลือบแฝงไปด้วยแววริษยา
“คือ...พี่กับวิตต์ตกลงกันว่า เราจะไปปรึกษาคุณหมอเรื่องมีลูก”
“ทำกิฟต์หรือคะ” น้องสาวถามเสียงสูง
“ใช่จ้ะ พี่อยากมีลูกให้วิตต์ วิตต์ชอบเด็ก ถ้าเรามีลูกชายหรือลูกสาวสักคน ครอบครัวของเราก็จะสมบูรณ์ขึ้น” จารุลักษณ์พูดพร้อมกับระบายยิ้มน้อยๆด้วยความหวัง ผิดกับน้องสาวที่มีสีหน้าเผื่อนลง
“ว่าแต่จิลเถอะ เห็นคุณแม่บอกว่ามีหนุ่มๆมาติดพันหลายคน แต่จิลยังไม่ตัดสินใจคบใครจริงจังสักที”
จิลดามีใบหน้าสวยโฉบเฉี่ยวรูปร่างสูงโปร่งเหมือนนางแบบ เป็นสาวสังคมแต่งตัวทันสมัยบุคลิกแคล้วคล่องมีความมั่นใจในตัวเองสูง ผิดกับพี่สาวจารุลักษณ์ที่เป็นผู้หญิงร่างเล็กแบบบาง กิริยานุ่มนวลเรียบร้อย หน้าตาสวยเรียบๆเป็นธรรมชาติ และออกจะจืดชืดตามความรู้สึกของผู้เป็นน้องสาว จนบางครั้งจิลดายังคิดว่าผู้ชายอย่างปรวิตต์ชอบผู้หญิงที่มีบุคลิกภาพแบบนี้ได้อย่างไร ช่างเชื่องช้าน่าเบื่อหน่าย
“ก็คบๆไปอย่างนั้นแหละค่ะ แก้เซ็ง จิลยังไม่เจอใครที่ถูกใจจริงๆ มังคะ แต่พอเจอเข้าก็...” เธอปล่อยคำพูดที่เหลือกลืนหายไปในลำคอ ก่อนที่จะยักไหล่เหมือนไม่แคร์ “เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ คุณป้าชมัยบอกพี่จอยหรือยังคะว่า จิลอยากจะไปทำงานที่นภศุภ์ฯ”
“เพิ่งบอกจ้ะ แต่พี่ยังไม่ได้คุยกับวิตต์เลย พี่สงสัยจังทำไมจิลไม่ไปทำงานที่บริษัทกับคุณพ่อ ตอนนี้ก็มีพี่เจตต์ช่วยคุณพ่อทำงานอยู่คนเดียว” ครอบครัวพิมพ์สวัสดิ์เป็นเจ้าของธุรกิจประกันภัยที่มีชื่อเสียงและได้รับความเชื่อถือมาอย่างยาวนาน
“พี่จอยก็รู้ว่าจิลไม่ชอบเรื่องตัวเลขหรือบัญชีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้าพี่เจตต์เขาชอบก็ให้เขาทำไปเถอะ พวกบ้างานชอบตัวเลข จิลไม่เอาด้วยหรอกปวดหัวแก่เร็ว แต่ถ้าเรื่องใช้เงินก็ว่าไปอย่าง เรื่องนั้นจิลชอบ” เธอแสดงสีหน้าเบื่อหน่าย
จิลดาเป็นลูกสาวคนสุดท้องจึงถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองและชอบเอาชนะ
“ก็เป็นซะอย่างนี้” จารุลักษณ์ส่ายศีรษะกึ่งระอากึ่งเอ็นดูน้องสาว
“วันนี้พี่จอยจะไปหาหมอเหรอคะ”
“จ้ะ คุณหมอนัด”
“ให้จิลไปเป็นเพื่อนไหม” เธอถามเสียงห้วน
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เพราะพี่ให้นายสงวนขับรถไปส่ง”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ เพราะจิลมีนัดกับเพื่อนตอนเที่ยง ถ้าอย่างนั้นจิลขอตัวเลยแล้วกันนะคะ อ้อ! แล้วพี่จอย อย่าลืมคุยกับพี่วิตต์เรื่องจิลจะขอไปทำงานที่นภศุภ์ฯด้วยนะคะ” จิลดายังไม่หายหน้างอพูดเหมือนสั่งพี่สาวอยู่กลายๆ ก่อนที่จะกลับไป
จารุลักษณ์ไปโรงพยาบาลโดยมีคนขับรถของที่บ้านเป็นสารถี หลังเสร็จจากการไปพบแพทย์ จารุลักษณ์สั่งให้นายสงวนขับรถมาส่งเธอที่นภศุภ์ คอนสตรัคชั่น
“นายสงวนจ้ะ เดี๋ยวส่งฉันเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปได้เลยนะไม่ต้องรอ เพราะฉันจะกลับพร้อมคุณวิตต์” จารุลักษณ์สั่งคนขับรถ แล้วก้าวลงจากรถเดินเข้าไปในตึกสูงยี่สิบห้าชั้น อันเป็นที่ตั้งของนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น เพื่อไปพบกับสามีตามที่ได้นัดกันไว้
จารุลักษณ์เดินไปตามทางเดินของชั้นล่างที่จัดล็อบบี้เป็นแบบการ์เด้นโอเพ่นแอร์ตรงกลางปล่อยโล่งไม่มีหลังคา แสงแดดจ้าก่อนเที่ยงส่องลงมากระทบผิวน้ำในสระเลี้ยงปลาคาร์ฟเป็นประกายระยิบ อีกทั้งไม้น้ำสีเขียวชอุ่มสร้างความสดชื่นสบายตาระหว่างทางเดินไปที่ลิฟท์
“อุ้ย! จารุลักษณ์อุทานเบาๆ รู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม เธอยืนเกาะผนังตึกไว้แน่น
“คุณคะ...คุณเป็นอะไรไปคะ” มธุรสเดินออกมาจากลิฟท์เห็นเข้าพอดี จึงตรงเข้าไปช่วยประคองร่างที่กำลังโงนเงน “คุณคะ...ไปนั่งพักตรงม้านั่งตรงนั้นก่อนเถอะค่ะ”
มธุรสช่วยพยุงร่างของจารุลักษณ์ไปยังม้านั่งที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งจารุลักษณ์ก็มิได้ปฏิเสธ เธอออกเดินไปตามแรงประคับประคองของหญิงสาวที่เข้ามาช่วยด้วยความหวังดี
“นั่งก่อนค่ะ” คนที่เหมือนจะเป็นลมนั่งลงแต่โดยดี มือเย็นเฉียบยังไม่ยอมปล่อยจากมือของหญิงสาวแปลกหน้า แถมบีบไว้แน่นเหมือนจะยืดไว้เป็นที่พึ่ง จารุลักษณ์หลับตานิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนที่จะค่อยๆผ่อนลมหายใจ
“ขอบคุณมากค่ะ ขอฉันนั่งพักสักครู่ เดี๋ยวคงจะรู้สึกดีขึ้น” จารุลักษณ์ฝีนยิ้ม
“แต่หน้าของคุณยังซีดๆอยู่เลย รอดิฉันสักครู่นะคะ ตรงนั้นมีร้านสะดวกซื้อ ฉันจะไปหาชาอุ่นๆ มาให้คุณดื่ม รอแป๊บเดียวค่ะ” มธุรสไม่รอฟังคำตอบรับหรือปฏิเสธ เธอรีบก้าวเท้ายาวๆตรงไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตรงหัวมุมภายในตึก มธุรสกลับมาอีกครั้งพร้อมกับถ้วยกระดาษไข “ดื่มชาอุ่นๆเสียหน่อยนะคะ อาจจะทำให้คุณดีขึ้น”
“ขอบคุณมากค่ะ” จารุลักษณ์รับถ้วยชามาจิบและยิ้มให้อย่างขอบคุณ “ค่ะ ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วจริงๆ” มธุรสยินดีที่หญิงสาวตรงหน้ามีอาการดีขึ้น
“แล้วนี่คุณกำลังจะไปไหน จะให้ฉันไปส่งไหมคะ” มธุรสถามอย่างเอื้ออาทร
“ฉันมาหาสามีค่ะ สามีของดิฉันทำงานอยู่ที่นี่ แล้วคุณล่ะค่ะทำงานอยู่ที่นี่หรือเปล่า”
“ค่ะฉันทำงานอยู่ที่นี่ ไม่ทราบว่าสามีของคุณทำงานอยู่บริษัทอะไร ตึกนี้หรือเปล่าคะ” แต่ยังไม่ทันที่มธุรสจะได้รับคำตอบ จารุลักษณ์ก็โบกมือให้กับใครคนหนึ่งที่อยู่ทางด้านหลังของเธอ
“วิตต์...วิตต์คะ ทางนี้...” ชื่อที่จารุลักษณ์เรียก ทำให้มธุรสตัวแข็งชาไปชั่วขณะ หล่อนไม่กล้าที่จะหันกลับไปมอง จารุลักษณ์ยกมือร้องเรียกแล้วลุกขึ้นเดินโผลเผลไปหา เป็นโอกาสให้มธุรสค่อยๆลุกจากม้านั่ง แล้วรีบปลีกตัวออกไปจากที่นั่นทันที
“อ้าว! จอยมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ ผมโทรหาคุณอยู่หลายครั้งไม่เห็นรับสาย” ปรวิตต์ถามภรรยาด้วยความเป็นห่วง “โทรถามนายสงวนบอกว่ามาส่งคุณที่นี่ได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมเลยลงมาตาม”
“อ๋อ! ขอโทษค่ะ พอดีจอยกำลังจะขึ้นไปหาวิตต์แหละค่ะ แต่รู้สึกหน้ามืดเหมือนจะเป็นลมขึ้นมา เผอิญว่าคุณผู้หญิงคนนี้เข้ามาช่วย...” จารุลักษณ์เล่า แล้วหันกลับมาทางด้านหลัง หวังที่จะแนะนำให้สามีได้รู้จักกับผู้หญิงที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ แต่ก็ต้องชะงักเพราะไม่มีร่างของหญิงสาวผู้มีน้ำใจคนนั้นเสียแล้ว
“อ้าว! ไปไหนเสียแล้วล่ะ เมื่อกี้ยังนั่งอยู่ด้วยกันอยู่เลย” จารุลักษณ์สอดส่ายสายตามองหา
“จอยมองหาใครครับ” ปรวิตต์ถามพร้อมกับมองไปรอบๆ
“ก็ผู้หญิงที่นั่งอยู่กับจอย เธอมาเจอจอยกำลังจะเป็นลม เลยเข้ามาช่วยพยุงพาจอยมานั่งพักที่ม้านั่งตรงนี้ และยังไปหาชาอุ่นๆมาให้จอยดื่มอีกด้วย ก็เมื่อกี้ยังนั่งคุยกันอยู่เลย วิตต์เห็นเธอบ้างไหมคะ” จารุลักษณ์ถามด้วยน้ำเสียร้อนใจ
“ขอโทษครับ ผมไม่ทันสังเกต ผมเห็นแต่จอยคนเดียว” ปรวิตต์สนใจและจับจ้องอยู่กับภรรยาสาวเท่านั้น
“โธ่! ไปไหนเสียแล้ว ยังไม่ได้ถามชื่อเลย” จารุลักษณ์บ่นเสียดาย
“ถ้าเธอทำงานอยู่ที่นี่ ก็คงมีโอกาสได้เจอกันอีกครับ” ปรวิตต์ปลอบใจ
“ค่ะ ไม่รู้เป็นอะไรค่ะวิตต์ จอยรู้สึกถูกชะตากับเธอจัง” สามีพยักหน้ารับทราบอย่างขรึมๆ
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะครับ” ปรวิตต์จูงมือภรรยาออกเดินไปจากบริเวณนั้น แต่จารุลักษณ์ยังไม่วายที่หันซ้ายหันขวามองหา
ส่วนมธุรสได้แต่มองตามสองสามีภรรยาไปด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบๆอยู่ในหัวใจ ไม่น่าเลยที่ไปแอบปลื้มคนที่เขามีเจ้าของ เธอไม่ได้นึกอิจฉาผู้หญิงที่เป็นภรรยาของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่นึกโกรธตัวเองมากกว่าที่ไม่รู้จักหักห้ามใจ ภรรยาของเขาทั้งสวยทั้งอ่อนหวานมารยาทนุ่มนวลเหมาะสมกับเขามาก
“คุณรสครับมาทำอะไรตรงนี้” เสียงห้าวๆที่ดังอยู่ทางด้านหลัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้ง
“คุณชยุทธ์”
“ผมทำให้คุณตกใจหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มที่มาใหม่กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ไม่...ไม่ค่ะ เออ...พอดีรสเห็นว่าจะได้เวลานัดอยู่แล้ว เลยลงมารอคุณชยุทธ์ที่ข้างล่าง ไม่ทราบว่าคุณชยุทธ์มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ ถึงได้โทรมานัด...รส”
“ผมว่าเราไปทานอาหารกลางวันกันก่อน แล้วค่อยคุยกันเถอะครับ”
ชยุทธ์ สุวรรณาลัย ผู้บริหารในเครือโรงแรมสุวรรณาลัย รามาด้า เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทชื่อดังอันดับต้นๆของประเทศไทยและของโลก ที่มีสาขาอยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งขณะนี้มีโพรเจกต์สร้างรีสอร์ทสุดหรูบนเกาะมัลดีฟส์ อีกทั้งชยุทธ์ยังเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอมที่สุดในตอนนี้ เพราะเพิ่งหย่าร้างกับภรรยาสาวนางแบบชาวอิตาเลี่ยน เขาจึงเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวๆมากมาย แต่นักธุรกิจหนุ่มหาได้ให้ความสนใจสาวใดเป็นพิเศษ ยกเว้นสาวที่กำลังอยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้
ความคิดเห็น