คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : First Impression ลึกๆในใจ (100%)
ตอนที่ 1
First Impression ลึกๆในใจ
(100%)
“สวัสดีค่ะคุณพินิจมาแต่เช้าเลย” มธุรสทักเพื่อนร่วมงานที่เป็นทั้งหัวหน้าและพี่เลี้ยงที่คอยสอนงานให้กับเธอมาตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา
“อ้าว! รสมาแล้วเหรอ ผมมาถึงได้สักพักแล้วล่ะ” ศุพินิจก้มหน้าก้มตากับเอกสารตรงหน้าต่อไป
“รสขอโทษ ที่ทำให้ต้องวุ่นวายไปกันหมด”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มันเรื่องสุดวิสัย แล้วคุณแม่เป็นอย่างไรบ้างล่ะ”
“โรคเดิมค่ะ โรคความดันโลหิตสูงถึงได้หน้ามืดเป็นลมไป” ขณะที่พูดผู้ช่วยสาวก็ไม่รอช้าเข้าประจำที่หน้าคอมพิวเตอร์
มธุรสเป็นผู้รับผิดชอบเอกสารที่ปิรัณจะต้องนำเข้าที่ประชุมในบ่ายวันนี้ แต่เนื่องจากมารดาของเธอเกิดหน้ามืดเป็นลมล้มลงหัวคิ้วกระแทกกับมุมโต๊ะ จนต้องเย็บถึงหกเข็มแล้วนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน ทำให้มธุรสต้องลางานไปหนึ่งวัน
“อ้าว! มธุรส มาทำงานแล้วเหรอ” ปิรัณเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของผู้ช่วยที่มีประตูเชื่อมต่อกับห้องทำงานของตัวเอง ก็เห็นผู้ช่วยทั้งสองคนกำลังทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง
“ค่ะคุณน้อย สวัสดีค่ะ”
“คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง” ปิรัณถามถึงอย่างมีน้ำใจ
“ดีขึ้นแล้วค่ะ หมอบอกว่าบ่ายนี้ก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ”
“ฉันดีใจด้วย เดี๋ยวถ้าเคลียร์เอกสารเรียบร้อยแล้ว ช่วงบ่ายไปรับคุณแม่ออกจากโรงพยาบาลได้เลยนะ” ปิรัณปรานีกับลูกน้องที่เป็นลูกสาวของเพื่อนเก่าเสมอ
“เออ...แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่...ไปเถอะ” ปิรัณเสียงเข้มจนผู้ช่วยสาวไม่กล้าขัด
ผลงานที่ทำให้ปิรัณเริ่มเห็นแววความสามารถของมธุรส เห็นจะเป็นแคมเปญที่เธอคิดให้กับโครงการคอนโดมิเนียมขนาดกลางของนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นที่พักอาศัยสำหรับคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานกำลังทรัพย์ยังน้อย แต่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองประสบความสำเร็จ คอนโดมิเนียมถูกจองและขายหมดในระยะเวลาอันรวดเร็วด้วยแคมเปญที่โดนใจคนรุ่นใหม่ของมธุรส
อีกทั้งสามารถเสนอแผนงานโน้มน้าวให้สุวรรณาลัย รามาด้า ตกลงใจที่จะเลือกนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ก่อสร้างรีสอร์ทสุดหรูที่มัลดีฟส์ได้อีก ทั้งๆที่สุวรรณาลัย รามาด้า กำลังจะเลือกบริษัทคู่แข่งเป็นผู้ก่อสร้างดำเนินงานอยู่แล้ว แต่มธุรสสามารถทำให้ชยุทธ์ สุวรรณาลัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของสุวรรณาลัย รามาด้า เปลี่ยนใจหันกลับมาเลือกนภศุภ์ คอนสทรัคชั่น ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอจริงๆ จนเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจของปิรัญอย่างรวดเร็ว
“ขอบพระคุณคุณน้อยมากค่ะ” มธุรสรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของผู้เป็นเจ้านายที่ให้ความช่วยเหลือเธอและครอบครัวเป็นอย่างดี
“พินิจ...เอาเอกสารการขอกู้เงินจากธนาคารแปซิฟิค ชาร์เตอร์ ด้วยนะ อ้าว!มธุรส นี่มันจะบ่ายโมงแล้วนะ ยังไม่กลับอีกเหรอ” ปิรัณเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของผู้ช่วยและเอ่ยปากถามเมื่อเห็นมธุรสยังอยู่ในห้อง
“เอ่อ...ค่ะ กำลังจะกลับอยู่เดี๋ยวนี้ค่ะ” ผู้ช่วยสาวอ้ำอึ้งด้วยความเกรงใจ
“ฝากเยี่ยมคุณแม่ด้วยนะ ขอให้หายเร็วๆ”
“ขอบพระคุณมากค่ะ” ผู้ช่วยสาวรู้สึกซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก
“อ้อ! พินิจ ถ้าปรวิตต์เข้ามาทางนี้ให้เข้ามาพบฉันได้เลยนะ” คำสั่งของปิรัณ ก่อนที่จะกลับเข้าห้องทำงานของตัวเอง ทำให้มธุรสที่กำลังเก็บของอยู่ชะงักไปเล็กน้อย แล้วแอบถอนหายใจเบาๆเพียงแค่ได้ยินชื่อเขา
“คุณพินิจคะ รสกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวกล่าวเมื่อเก็บของเรียบร้อย
“จ้ะ ขับรถดีๆนะ” ศุพินิจยิ้มให้
มธุรสออกมาจากห้องทำงาน เดินตรงเข้าไปในลิฟท์ที่จอดรออยู่พอดี ประตูลิฟท์กำลังเลื่อนปิด ก็เป็นจังหวะเดียวกับประตูลิฟท์ของผู้บริหารตัวข้างๆเปิดออก และรองผู้อำนวยการหนุ่มฝ่ายวิศวกรรมก็ก้าวเท้ายาวๆออกมาจากลิฟท์ ทำให้ทั้งสองหนุ่มสาวคลาดกันไปเพียงนิดเดียว
“สวัสดีคุณศุพินิจ” ปรวิตต์แวะทักทายผู้ช่วยคนสนิทของบิดาก่อน
“สวัสดีครับคุณวิตต์” ศุพินิจลุกขึ้นทำความเคารพรองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมหรือบุตรชายคนโตของผู้เป็นเจ้านายที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ
“สบายดีนะครับ” ปรวิตต์ให้ความเป็นกันเองกับผู้ช่วยของบิดา เพราะเขากับศุพินิจรู้จักกันมานานและเคยทำงานร่วมกันมาหลายครั้ง
“ผมสบายดีครับ แล้วคุณวิตต์ล่ะครับสบายดีหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆแดดที่ตะวันออกกลางคงจะแรง เพราะดูคุณวิตต์คล้ำไปมากเลย”
“ครับ” ปรวิตต์ตอบสั้นๆด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอารมณ์ดี เขารู้สึกสบายใจมากที่งานในตะวันออกกลางที่ตนเป็นผู้รับผิดชอบประสบความสำเร็จและเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี และได้เดินทางกลับบ้านเสียทีหลังจากที่ไปอยู่ตะวันออกกลางเกือบสี่ปี
“คุณน้อยเชิญคุณวิตต์ด้านในเลยครับ”
“ขอบคุณครับ” ปรวิตต์เดินตรงเข้าห้องทำงานของบิดา
“อ้าว! วิตต์มาแล้วเหรอ เป็นอย่างไรบ้างลูก เข้ามาทำงานวันแรก”
“เรียบร้อยดีครับ ไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากเมื่อสามสี่ปีก่อน ที่เปลี่ยนแปลงก็เห็นจะเป็นงานที่มากขึ้น เพราะนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น ของเราเจริญก้าวหน้าไปมาก เรามีโพรเจกต์ใหญ่ๆหลายโพรเจกต์อยู่ในมือ”
“ใช่ เรามีหลายโพรเจกต์ที่ร่วมกับภาครัฐในประเทศกลุ่มประเทศอาเซียน และโพรเจกต์รีสอร์ทของสุวรรณาลัย รามาด้า ที่มัลดีฟส์ แล้วยังโพรเจกต์รีสอร์ทบนเกาะช้องนางของเราอีก”
“ผมได้ยินว่าโพรเจกต์รีสอร์ทของสุวรรณาลัย รามาด้า ที่มัลดีฟส์ จะหลุดให้กับบริษัท ไทยเอเซีย สปิริต อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามบิดา
“ก็ใช่ แต่งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับมธุรส”
“มธุรส” ปรวิตต์ทวนชื่อ เพราะคิดว่าเขาเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนมาก่อน
“ผู้ช่วยของพ่ออีกคน วิตต์คงยังไม่เคยเจอเพราะไปอยู่ตะวันออกกลางเกือบสี่ปี แต่ก็คงจะได้เจอกันในเร็วๆนี้ มธุรสเป็นคนเก่งใช้ได้เลยทีเดียว นี่ขนาดว่าอายุยังน้อยเพิ่งเรียนจบมาได้ไม่กี่ปี” กระแสเสียงของผู้เป็นบิดาออกแววชื่นชมแกมเอ็นดู จนปรวิตต์อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะโดยปกติบิดาของเขาไม่เคยเอ่ยปากชมใครง่ายๆ
“เอ้อ! เกือบลืม เมื่อเช้าแม่เราบอกกับพ่อว่าน้องเมียของวิตต์ หนูจิล จิลดาอยากจะมาทำงานที่บริษัทของเรา”
“เหรอครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย จอยก็ไม่ได้บอกอะไรผม”
“เอ...อันนี้พ่อก็ไม่รู้นะ เห็นแม่เราเขาว่าอย่างนั้น แต่ระยะหลังๆมานี้เห็นแม่เรากับหนูจิลสนิทสนมกันไปมาหาสู่กันบ่อยๆ”
“แล้วคุณพ่อจะว่าอย่างไรล่ะครับ ถ้าจิลดาจะเข้ามาทำงานในบริษัทของเรา”
“ก็เอาสิ ถ้าอยากจะมาทำงานก็ แต่หนูจิลยื่นความจำนงมาเลยนะว่าจะมาทำงานกับวิตต์”
“กับผม” ปรวิตต์ขึ้นเสียงสูงเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ
“ก็เธอว่าอย่างนั้น แล้วแต่วิตต์ก็แล้วกันนะลูก อย่างไรก็คนกันเอง จะเอาอย่างไรก็ได้...ว่ามา แต่ขอให้ตั้งใจที่จะมาทำงานจริงๆก็แล้วกัน” ปิรัณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังในตอนท้าย ก่อนที่จะชวนลูกชายไปที่ห้องประชุมใหญ่ที่อยู่บนชั้นเดียวกัน
ห้องประชุมใหญ่ชั้นยี่สิบห้า
“สวัสดีผู้ร่วมประชุมทุกท่าน ก่อนที่จะเริ่มเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับรองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมคนใหม่ ปรวิตต์ นภศุภ์ และขอกล่าวคำขอต้อนรับกลับบ้านด้วย” พ.ต.ปัฐณ์ นภศุภ์ ประธานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าว ผู้เข้าร่วมประชุมต่างปรบมือแสดงความยินดี
“ขอบคุณครับ” ปรวิตต์ลุกขึ้นโค้ง
“สำหรับโพรเจกต์ใหญ่ที่ร่วมกับชวัลกร กรุ๊ป ในตะวันออกกลาง ต้องขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกคน โดยเฉพาะปรวิตต์กับอสิตเป็นอย่างมาก ที่ช่วยกันทำให้โพรเจกต์นี้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างดีเยี่ยม” ประธานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวและประธานที่ประชุมกล่าวต่อ ก่อนที่จะให้ปิรัณ นภศุภ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่พูดถึงแนวโน้มและทิศทางการทำงานของนภศุภฯ ในอนาคต
จากนั้นปณพล นภศุภ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ทหารเสือหมายเลขหนึ่งของนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้นำการประชุมต่อ…………..
“เป็นอย่างไรบ้างวิตต์ มาทำงานวันแรก” ปณพลกับปรวิตต์เดินคุยกันออกมาจากห้องประชุม
“เรียบร้อยดีครับ แล้วพี่พลกับอรและหลานๆสบายดีนะครับ”
“อรกับหลานๆสบายดี” ปณพลยิ้มละไมในใบหน้าเมื่อพูดถึงภรรยาสาวกับลูกๆอีกสามคน “วิตต์ตอนนี้ไปอยู่ที่บ้านของอาน้อยกับอาชมัยใช่ไหม แล้วคุณจอยล่ะเป็นอย่างไรบ้าง”
“ครับ ตอนนี้คอนโดของผมติดสัญญาเช่ากับฝรั่งอีกสี่เดือนถึงจะหมด ตอนนี้เลยย้ายมาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านก่อน สำหรับจอยตอนนี้ก็สบายดีครับ” ปรวิตต์มีน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อพูดถึงภรรยา เขายังอุบไม่ได้บอกใคร เรื่องที่เขากับจารุลักษณ์ตกลงกันว่าจะไปปรึกษาหมอเรื่องทำกิฟต์ เพราะจารุลักษณ์ปรารถนาที่จะมีลูกเหลือเกิน หลังจากที่เคยแท้งหกล้มในห้องน้ำเมื่อหลายปีกก่อน
“แล้วคุณแม่ก็เหงาด้วย ตั้งแต่ยัยปริมแต่งงานแล้วแยกไปอยู่คอนโดที่คุณพ่อยกให้กับพี่อสิต แล้วพี่ปุริศกับยัยภาเป็นอย่างไรบ้างครับพี่พล ผมเจอกับคุณภสุวัฒน์บ่อยอยู่เหมือนกัน เพราะเขาจะบินไปดูงานที่ตะวันออกกลางทุกๆเดือน” ปรวิตต์ถามถึงญาติผู้พี่ผู้น้อง อันเป็นน้องชายน้องสาวของปณพล
“นายริศกับคุณแพรและหลานชายทั้งสองคนยังอยู่ที่หาดใหญ่ เห็นว่าปีหน้าอาจจะได้ย้ายเข้ากรุงเทพ ส่วนยัยภาตอนนี้อยู่ที่ไร่ชวัลกร เพิ่งคลอดลูกสาวคนเล็กได้ไม่ถึงสามเดือน และกำลังปวดหัวน่าดูกับนายแฝดภูมิวัฒน์กับภีมทัตที่เริ่มโตและซนมาก” ปณพลอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงปริวิภาน้องสาวจอมเฮี้ยวของเขาที่ถูกสามีอย่างภสุวัฒน์ปราบจนอยู่หมัดมีครอบครัวที่น่ารักและมีความสุขไปแล้วอยู่ที่บ้านไร่ชวัลกร
“ดีครับถ้าพี่ริศย้ายเข้ากรุงเทพก็คงมีโอกาสได้เจอกันบ่อยขึ้น ผมว่าจะพาจอยไปกราบคุณป้าฤทัยที่บ้านไร่นภศุภ์ แล้วจะแวะเยี่ยมยัยภากับหลานๆที่ไร่ชวัลกรด้วย” ปรวิตต์กับปณพล และลูกพี่ลูกน้องคนอื่นโตมาด้วยกันและมีความหลังสมัยเด็กร่วมกันที่บ้านไร่นภศุภ์ จึงไม่แปลกที่จะมีความรู้สึกแน่นแฟ้นและรักใคร่สนิทสนมกันไม่ต่างจากพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน
ความคิดเห็น