ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์มธุรส by จำปีดา (ภาคต่อ...ทัณฑ์น้ำผึ้งรวง) ทำมือ...พร้อมส่งแล้วนะคะ

    ลำดับตอนที่ #2 : First Impression ลึกๆในใจ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 62




    ตอนที่ 1 

    First Impression ลึกๆในใจ 

    (100%)

     

                สวัสดีค่ะคุณพินิจมาแต่เช้าเลย มธุรสทักเพื่อนร่วมงานที่เป็นทั้งหัวหน้าและพี่เลี้ยงที่คอยสอนงานให้กับเธอมาตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา

     

                อ้าว! รสมาแล้วเหรอ ผมมาถึงได้สักพักแล้วล่ะศุพินิจก้มหน้าก้มตากับเอกสารตรงหน้าต่อไป

     

                รสขอโทษ ที่ทำให้ต้องวุ่นวายไปกันหมด

     

                ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มันเรื่องสุดวิสัย แล้วคุณแม่เป็นอย่างไรบ้างล่ะ                           

     

                โรคเดิมค่ะ โรคความดันโลหิตสูงถึงได้หน้ามืดเป็นลมไปขณะที่พูดผู้ช่วยสาวก็ไม่รอช้าเข้าประจำที่หน้าคอมพิวเตอร์

     

                มธุรสเป็นผู้รับผิดชอบเอกสารที่ปิรัณจะต้องนำเข้าที่ประชุมในบ่ายวันนี้ แต่เนื่องจากมารดาของเธอเกิดหน้ามืดเป็นลมล้มลงหัวคิ้วกระแทกกับมุมโต๊ะ จนต้องเย็บถึงหกเข็มแล้วนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน ทำให้มธุรสต้องลางานไปหนึ่งวัน

     

                อ้าว! มธุรส มาทำงานแล้วเหรอ ปิรัณเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของผู้ช่วยที่มีประตูเชื่อมต่อกับห้องทำงานของตัวเอง ก็เห็นผู้ช่วยทั้งสองคนกำลังทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง

     

                ค่ะคุณน้อย สวัสดีค่ะ

     

                คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง ปิรัณถามถึงอย่างมีน้ำใจ

     

                ดีขึ้นแล้วค่ะ หมอบอกว่าบ่ายนี้ก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ

                                                               

                ฉันดีใจด้วย เดี๋ยวถ้าเคลียร์เอกสารเรียบร้อยแล้ว ช่วงบ่ายไปรับคุณแม่ออกจากโรงพยาบาลได้เลยนะปิรัณปรานีกับลูกน้องที่เป็นลูกสาวของเพื่อนเก่าเสมอ

     

                เออ...แต่ว่า...”

     

                ไม่มีแต่...ไปเถอะปิรัณเสียงเข้มจนผู้ช่วยสาวไม่กล้าขัด

     

                ผลงานที่ทำให้ปิรัณเริ่มเห็นแววความสามารถของมธุรส เห็นจะเป็นแคมเปญที่เธอคิดให้กับโครงการคอนโดมิเนียมขนาดกลางของนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นที่พักอาศัยสำหรับคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานกำลังทรัพย์ยังน้อย แต่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองประสบความสำเร็จ คอนโดมิเนียมถูกจองและขายหมดในระยะเวลาอันรวดเร็วด้วยแคมเปญที่โดนใจคนรุ่นใหม่ของมธุรส

     

                อีกทั้งสามารถเสนอแผนงานโน้มน้าวให้สุวรรณาลัย รามาด้า ตกลงใจที่จะเลือกนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ก่อสร้างรีสอร์ทสุดหรูที่มัลดีฟส์ได้อีก  ทั้งๆที่สุวรรณาลัย รามาด้า กำลังจะเลือกบริษัทคู่แข่งเป็นผู้ก่อสร้างดำเนินงานอยู่แล้ว แต่มธุรสสามารถทำให้ชยุทธ์ สุวรรณาลัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของสุวรรณาลัย รามาด้า เปลี่ยนใจหันกลับมาเลือกนภศุภ์ คอนสทรัคชั่น ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอจริงๆ จนเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจของปิรัญอย่างรวดเร็ว

     

                ขอบพระคุณคุณน้อยมากค่ะ มธุรสรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของผู้เป็นเจ้านายที่ให้ความช่วยเหลือเธอและครอบครัวเป็นอย่างดี

                      

     

                พินิจ...เอาเอกสารการขอกู้เงินจากธนาคารแปซิฟิค ชาร์เตอร์ ด้วยนะ อ้าว!มธุรส นี่มันจะบ่ายโมงแล้วนะ ยังไม่กลับอีกเหรอปิรัณเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของผู้ช่วยและเอ่ยปากถามเมื่อเห็นมธุรสยังอยู่ในห้อง

     

                เอ่อ...ค่ะ กำลังจะกลับอยู่เดี๋ยวนี้ค่ะผู้ช่วยสาวอ้ำอึ้งด้วยความเกรงใจ

     

                ฝากเยี่ยมคุณแม่ด้วยนะ ขอให้หายเร็วๆ

     

                ขอบพระคุณมากค่ะ ผู้ช่วยสาวรู้สึกซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก

     

                อ้อ! พินิจ ถ้าปรวิตต์เข้ามาทางนี้ให้เข้ามาพบฉันได้เลยนะคำสั่งของปิรัณ ก่อนที่จะกลับเข้าห้องทำงานของตัวเอง ทำให้มธุรสที่กำลังเก็บของอยู่ชะงักไปเล็กน้อย แล้วแอบถอนหายใจเบาๆเพียงแค่ได้ยินชื่อเขา

     

                คุณพินิจคะ รสกลับก่อนนะคะหญิงสาวกล่าวเมื่อเก็บของเรียบร้อย

     

                จ้ะ ขับรถดีๆนะศุพินิจยิ้มให้

     

                มธุรสออกมาจากห้องทำงาน เดินตรงเข้าไปในลิฟท์ที่จอดรออยู่พอดี ประตูลิฟท์กำลังเลื่อนปิด ก็เป็นจังหวะเดียวกับประตูลิฟท์ของผู้บริหารตัวข้างๆเปิดออก และรองผู้อำนวยการหนุ่มฝ่ายวิศวกรรมก็ก้าวเท้ายาวๆออกมาจากลิฟท์ ทำให้ทั้งสองหนุ่มสาวคลาดกันไปเพียงนิดเดียว

     

                สวัสดีคุณศุพินิจ ปรวิตต์แวะทักทายผู้ช่วยคนสนิทของบิดาก่อน

     

                สวัสดีครับคุณวิตต์ ศุพินิจลุกขึ้นทำความเคารพรองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมหรือบุตรชายคนโตของผู้เป็นเจ้านายที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ

                สบายดีนะครับ ปรวิตต์ให้ความเป็นกันเองกับผู้ช่วยของบิดา เพราะเขากับศุพินิจรู้จักกันมานานและเคยทำงานร่วมกันมาหลายครั้ง

     

                ผมสบายดีครับ แล้วคุณวิตต์ล่ะครับสบายดีหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆแดดที่ตะวันออกกลางคงจะแรง เพราะดูคุณวิตต์คล้ำไปมากเลย

     

                ครับ ปรวิตต์ตอบสั้นๆด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอารมณ์ดี เขารู้สึกสบายใจมากที่งานในตะวันออกกลางที่ตนเป็นผู้รับผิดชอบประสบความสำเร็จและเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี และได้เดินทางกลับบ้านเสียทีหลังจากที่ไปอยู่ตะวันออกกลางเกือบสี่ปี

     

                คุณน้อยเชิญคุณวิตต์ด้านในเลยครับ

     

                ขอบคุณครับ ปรวิตต์เดินตรงเข้าห้องทำงานของบิดา

     

              อ้าว! วิตต์มาแล้วเหรอ เป็นอย่างไรบ้างลูก เข้ามาทำงานวันแรก

     

                เรียบร้อยดีครับ ไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากเมื่อสามสี่ปีก่อน ที่เปลี่ยนแปลงก็เห็นจะเป็นงานที่มากขึ้น เพราะนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น ของเราเจริญก้าวหน้าไปมาก เรามีโพรเจกต์ใหญ่ๆหลายโพรเจกต์อยู่ในมือ

     

                ใช่ เรามีหลายโพรเจกต์ที่ร่วมกับภาครัฐในประเทศกลุ่มประเทศอาเซียน และโพรเจกต์รีสอร์ทของสุวรรณาลัย รามาด้า ที่มัลดีฟส์ แล้วยังโพรเจกต์รีสอร์ทบนเกาะช้องนางของเราอีก

     

                ผมได้ยินว่าโพรเจกต์รีสอร์ทของสุวรรณาลัย รามาด้า ที่มัลดีฟส์ จะหลุดให้กับบริษัท ไทยเอเซีย สปิริต อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับชายหนุ่มเลิกคิ้วถามบิดา

     

                ก็ใช่ แต่งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับมธุรส

     

                มธุรส ปรวิตต์ทวนชื่อ เพราะคิดว่าเขาเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนมาก่อน

     

                ผู้ช่วยของพ่ออีกคน วิตต์คงยังไม่เคยเจอเพราะไปอยู่ตะวันออกกลางเกือบสี่ปี แต่ก็คงจะได้เจอกันในเร็วๆนี้ มธุรสเป็นคนเก่งใช้ได้เลยทีเดียว นี่ขนาดว่าอายุยังน้อยเพิ่งเรียนจบมาได้ไม่กี่ปีกระแสเสียงของผู้เป็นบิดาออกแววชื่นชมแกมเอ็นดู จนปรวิตต์อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะโดยปกติบิดาของเขาไม่เคยเอ่ยปากชมใครง่ายๆ

     

                เอ้อ! เกือบลืม เมื่อเช้าแม่เราบอกกับพ่อว่าน้องเมียของวิตต์ หนูจิล จิลดาอยากจะมาทำงานที่บริษัทของเรา

     

                เหรอครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย จอยก็ไม่ได้บอกอะไรผม

     

                เอ...อันนี้พ่อก็ไม่รู้นะ เห็นแม่เราเขาว่าอย่างนั้น แต่ระยะหลังๆมานี้เห็นแม่เรากับหนูจิลสนิทสนมกันไปมาหาสู่กันบ่อยๆ

     

                แล้วคุณพ่อจะว่าอย่างไรล่ะครับ ถ้าจิลดาจะเข้ามาทำงานในบริษัทของเรา

     

                ก็เอาสิ ถ้าอยากจะมาทำงานก็ แต่หนูจิลยื่นความจำนงมาเลยนะว่าจะมาทำงานกับวิตต์

     

                กับผม ปรวิตต์ขึ้นเสียงสูงเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ

     

                ก็เธอว่าอย่างนั้น แล้วแต่วิตต์ก็แล้วกันนะลูก อย่างไรก็คนกันเอง จะเอาอย่างไรก็ได้...ว่ามา แต่ขอให้ตั้งใจที่จะมาทำงานจริงๆก็แล้วกันปิรัณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังในตอนท้าย ก่อนที่จะชวนลูกชายไปที่ห้องประชุมใหญ่ที่อยู่บนชั้นเดียวกัน

                                                               

    ห้องประชุมใหญ่ชั้นยี่สิบห้า

                สวัสดีผู้ร่วมประชุมทุกท่าน ก่อนที่จะเริ่มเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับรองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมคนใหม่ ปรวิตต์ นภศุภ์ และขอกล่าวคำขอต้อนรับกลับบ้านด้วย..ปัฐณ์ นภศุภ์ ประธานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าว ผู้เข้าร่วมประชุมต่างปรบมือแสดงความยินดี

     

                ขอบคุณครับ ปรวิตต์ลุกขึ้นโค้ง

     

                สำหรับโพรเจกต์ใหญ่ที่ร่วมกับชวัลกร กรุ๊ป ในตะวันออกกลาง ต้องขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกคน โดยเฉพาะปรวิตต์กับอสิตเป็นอย่างมาก ที่ช่วยกันทำให้โพรเจกต์นี้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างดีเยี่ยมประธานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวและประธานที่ประชุมกล่าวต่อ ก่อนที่จะให้ปิรัณ นภศุภ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่พูดถึงแนวโน้มและทิศทางการทำงานของนภศุภฯ ในอนาคต

     

                จากนั้นปณพล นภศุภ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ทหารเสือหมายเลขหนึ่งของนภศุภ์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้นำการประชุมต่อ…………..

     

                                           

               
    เป็นอย่างไรบ้างวิตต์ มาทำงานวันแรกปณพลกับปรวิตต์เดินคุยกันออกมาจากห้องประชุม

     

                เรียบร้อยดีครับ แล้วพี่พลกับอรและหลานๆสบายดีนะครับ

     

                อรกับหลานๆสบายดี ปณพลยิ้มละไมในใบหน้าเมื่อพูดถึงภรรยาสาวกับลูกๆอีกสามคนวิตต์ตอนนี้ไปอยู่ที่บ้านของอาน้อยกับอาชมัยใช่ไหม แล้วคุณจอยล่ะเป็นอย่างไรบ้าง

     

                ครับ ตอนนี้คอนโดของผมติดสัญญาเช่ากับฝรั่งอีกสี่เดือนถึงจะหมด ตอนนี้เลยย้ายมาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านก่อน สำหรับจอยตอนนี้ก็สบายดีครับปรวิตต์มีน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อพูดถึงภรรยา เขายังอุบไม่ได้บอกใคร เรื่องที่เขากับจารุลักษณ์ตกลงกันว่าจะไปปรึกษาหมอเรื่องทำกิฟต์ เพราะจารุลักษณ์ปรารถนาที่จะมีลูกเหลือเกิน หลังจากที่เคยแท้งหกล้มในห้องน้ำเมื่อหลายปีกก่อน

     

                แล้วคุณแม่ก็เหงาด้วย ตั้งแต่ยัยปริมแต่งงานแล้วแยกไปอยู่คอนโดที่คุณพ่อยกให้กับพี่อสิต แล้วพี่ปุริศกับยัยภาเป็นอย่างไรบ้างครับพี่พล ผมเจอกับคุณภสุวัฒน์บ่อยอยู่เหมือนกัน เพราะเขาจะบินไปดูงานที่ตะวันออกกลางทุกๆเดือนปรวิตต์ถามถึงญาติผู้พี่ผู้น้อง อันเป็นน้องชายน้องสาวของปณพล

     

                นายริศกับคุณแพรและหลานชายทั้งสองคนยังอยู่ที่หาดใหญ่ เห็นว่าปีหน้าอาจจะได้ย้ายเข้ากรุงเทพ ส่วนยัยภาตอนนี้อยู่ที่ไร่ชวัลกร เพิ่งคลอดลูกสาวคนเล็กได้ไม่ถึงสามเดือน และกำลังปวดหัวน่าดูกับนายแฝดภูมิวัฒน์กับภีมทัตที่เริ่มโตและซนมากปณพลอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงปริวิภาน้องสาวจอมเฮี้ยวของเขาที่ถูกสามีอย่างภสุวัฒน์ปราบจนอยู่หมัดมีครอบครัวที่น่ารักและมีความสุขไปแล้วอยู่ที่บ้านไร่ชวัลกร

     

                ดีครับถ้าพี่ริศย้ายเข้ากรุงเทพก็คงมีโอกาสได้เจอกันบ่อยขึ้น ผมว่าจะพาจอยไปกราบคุณป้าฤทัยที่บ้านไร่นภศุภ์ แล้วจะแวะเยี่ยมยัยภากับหลานๆที่ไร่ชวัลกรด้วยปรวิตต์กับปณพล และลูกพี่ลูกน้องคนอื่นโตมาด้วยกันและมีความหลังสมัยเด็กร่วมกันที่บ้านไร่นภศุภ์ จึงไม่แปลกที่จะมีความรู้สึกแน่นแฟ้นและรักใคร่สนิทสนมกันไม่ต่างจากพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน

     

      


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×