คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ชาตินี้เห็นทีจะญาติดีกัน...ไม่ได้ (50%)
ตอนที่ 8. ชาตินี้เห็นที่จะญาติดีกัน...ไม่ได้ (50%)
“แก้วขวัญเอ๋ย แก้วขวัญ” เทียนหยดตะโกนเรียกหลานสาวคนเล็ก ขณะที่มือพลิกกลับข้าวต้มผัดในกระทะใบบัวให้สุกเสมอกัน
“จ๋ายาย” เด็กหญิงวิ่งตื๋อเข้ามาทันใจ
“เดี๋ยวเอาข้าวต้มผัดนี่ไปให้คุณนายทองอุไรที่บ้านนู้นด้วย”
“จ้ะยาย พี่ฟ้าไปด้วยกันนะจ้ะ” แก้วขวัญหันมาชวนน้าสาวที่กำลังพยายามห่อข้าวต้มผัดอย่างขะมักเขม้น แต่ก็ไม่สวยดังใจสักที จากห่อข้าวต้มผัดกลับเหมือนห่อแหนมเป็นปล่องๆมากกว่า จนอดที่จะถอนหายใจไม่ได้
“คุณยายที่ท่าทางใจดีๆ ที่ฟ้าเจอวันนั้นใช่ไหมคะ”
“นั่นล่ะคุณนายทองอุไร ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ชาวบ้านคลองลัดข้าวเคารพนับถือ ฟ้าเป็นเด็กเพิ่งมาใหม่ควรจะไปทำความเคารพท่าน”
“ได้ค่ะป้าเทียน” หญิงสาวจึงรามือจากการห่อข้าวต้มผัดที่เห็นจะไม่รุ่งอย่างเซ็งๆ
“ใครได้กินข้าวต้มผัดห่อนี้ของพี่ฟ้าคงจะจุกนะจ๊ะ” แก้วขวัญชะโงกเข้ามาดูข้าวต้มฝีมือการห่อของน้าสาวที่วางเรียงกันอยู่ พร้อมกับอดแซวไม่ได้ ทำเอาน้าสาวกับคนเป็นยายอดหัวเราะไม่ได้
“กินตัวเดียวก็อิ่มแล้วไงเจ้าแก้ว จะได้ไม่ต้องแกะบ่อยๆ เสียเวลา” เทียนหยดพูดติดตลก ทำเอาหลานสาวทั้งสองคนหัวเราะคิก
บ้านของคุณนายทองอุไรเป็นเรือน ไทยหมู่หลังใหญ่ติดริมคลองอยู่ถัดไปจากบ้านของเทียนหยดที่สามารถไปมาหาสู่กันได้ด้วยทางเรือ หรือไม่ก็เดินลัดเลาะไปทางสวนส้มโอ ซึ่งฟ้าอุษาและแก้วขวัญเลือกทางหลังไปบ้านของคุณนาย
“พี่ฟ้า!” แก้วขวัญเรียกน้าสาวเสียงหลง ทำเอาร่างบางที่เดินตามหลังสะดุ้ง
“อะไรแก้วขวัญ เรียกเสียตกอกตกใจ”
“แก้ว แก้วลืมต้อนไก่ฟ้าของตาเขาเล้า ตายแล้ว เดี๋ยวตัวเงินตัวทองมันคาบไก่ฟ้าของตาไปกิน แก้วซวยแน่” เด็กหญิงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“แล้วจะเอาไงล่ะ เรากลับไปต้อนไก่เข้าเล้ากันก่อนดีไหม” ฟ้าอุษาออกความคิด
“ไม่ต้องจ้ะ ไม่ต้อง พี่ฟ้าเอาข้าวต้มผัดไปให้คุณนายนะจ๊ะ นั่นจ้ะเรือนหลังนั้นจะถึงแล้ว” แก้วขวัญชี้นิ้วไปที่กลุ่มเรือนไทยหมู่ข้างหน้า “ส่วนแก้วจะกลับไปต้อนไก่เอง เสร็จแล้วแก้วจะรีบตามมา” ว่าแล้วร่างเล็กๆก็วิ่งตื๋อกลับไปทันที
ฟ้าอุษาเดินมาหยุดยืนที่หน้าเรือนไทยหมู่ห้าหลังที่มีระเบียงและเรือนชานเชื่อมต่อหากัน เรือนทั้งห้าหลังตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของแมกไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นและร่มเย็น
“สวัสดีค่ะ มีใครอยู่ไหมค้า” หญิงสาวตะโกนเรียกอยู่ที่เชิงบันไดหน้าบ้าน สักครู่ก็มีคนออกมา
“พี่สาวนั่นเอง” คนที่เพิ่งออกมาจำได้ เพราะเคยเห็นหน้ากันวันที่ฟ้าอุษาเดินมาส่งคุณนาย “มาหาคุณนายเหรอจ๊ะ”
“ป้าเทียนหยดให้ฉันเอาข้าวต้มผัดมาให้คุณนายทองอุไรจ้ะ”
“ถ้าอย่างนั้นขึ้นเรือนก่อนจ้ะ”
ฟ้าอุษาเดินตามเด็กสาวขึ้นไปบนเรือน เจอคุณนายเจ้าของบ้านกำลังนั่งร้อยมาลัยดอกมะลิถวายพระอยู่บนเรือน
คุณนายทองอุไรสง่างามด้วยวัยเกือบเจ็ดสิบปี เส้นผมบนศีรษะขาวโพลน แต่ใบหน้ายังเต่งตึงและมีรอยยิ้มที่มุมปากอยู่ตลอดเวลาเหมือนผู้ใหญ่ใจดี
“อ้าว! หนูนั่นเอง”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ” ฟ้าอุษาคลานเข้ามานั่งพับเพียบกับพื้นประสานมือไหว้อย่างแช่มช้อย ไม่เสียชื่ออดีตแอร์โฮสเตสเก่าจริงๆ
“มาเหนื่อยๆ กินน้ำกินท่าก่อน สร้อยเอ้ย! หาน้ำมาเลี้ยงแขกหน่อย” คุณนายหันไปสั่งเด็ก
“ขอบคุณค่ะ ป้าเทียนให้หนูเอาข้าวต้มผัดมาให้คุณนายค่ะ”
“ฝากขอบใจแม่เทียนด้วยนะ แม่เทียนทำข้าวต้มผัดหวานมันอร่อยที่สุด ฉันกับหลานชายล่ะชอบกินจริงๆ แล้วหนูชื่ออะไรนะ หนูเคยบอกฉันทีแล้ว แต่คนแก่จำไม่ได้”
“ฟ้า ฟ้าอุษาค่ะ”
“ชื่อเพราะจริง แสงเงินแสงทองจับท้องฟ้ายามรุ่งเช้า เอา! กินน้ำเสียก่อน” คุณนายชวน เมื่อเด็กยกขันเงินใส่น้ำลอยดอกมะลิมาให้ ฟ้าอุษารับไปดื่มชื่นใจ
“เห็นแม่เทียนบอกว่าหนูเป็นแอร์โฮสเตสเหรอ ลูกสาวฉันเพียงนภาก็เคยเป็นแอร์โฮสเตสมาก่อน”
เป็นความรู้ใหม่ชวนให้อึ้งสำหรับฟ้าอุษา
“แต่พอแต่งงานก็เลิกเป็นแอร์ เพราะสามีเขาขอให้เป็นแม่บ้านอย่างเดียว”
“แล้วตอนนี้ลูกสาวคุณนายอยู่กรุงเทพเหรอคะ”
“เปล่าหรอก นภาเสียไปนานแปดปีที่แล้ว”
“เอ่อ...หนูเสียใจด้วยค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เรื่องมันนานมาแล้ว เราจะมาพูดถึงคนที่ตายไปแล้วทำไม” ใบหน้าของคุณนายยังเศร้าหมอง แม้ว่าจะพยายามฝืนยิ้มแล้วก็ตาม
“นี่คุณนายกำลังร้อยมะลิถวายพระเหรอคะ” ฟ้าอุษาเปลี่ยนเรื่องคุย
“ใช่ หนูน่ะร้อยเป็นไหม” คุณนายถาม หญิงสาวได้แต่ส่ายศีรษะ “มันไม่ยากหรอกนะ จะลองร้อยไหมล่ะ ฉันจะสอนให้”
“ค่ะ” ฟ้าอุษาลองร้อยมาลัยโดยมีคุณนายทองอุไรคอยบอก คอยจับ และทำให้ดู ซึ่งเธอก็ทำได้ไม่เลวนักสำหรับครั้งแรก มีเสียงคนเดินขึ้นบันไดเรือนมา ฟ้าอุษาคาดว่าต้องเป็นแก้วขวัญแน่ๆ แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินขึ้นมาบนเรือน “เอ๊ะนาย!”
“อ้าว! หมอกกลับมาแล้วเหรอ”
“ครับคุณนาย” ร่างสูงในชุดผ้าขาวม้าคาดพุงเดินยิ้มแฉ่งเข้ามานั่งข้างๆผู้เป็นยาย แล้วมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกว่าหล่อนก็ดูน่ารักดีเหมือนกันในชุดเสื้อแขนกระบอกผ้าซิ่นนั่งพับเพียบร้อยมาลัยดอกมะลิอยู่กับพื้น
“แม่เทียนให้หนูฟ้าเอาข้าวต้มผัดมาให้ คงรู้จักกันแล้วใช่ไหม เห็นหมอกเล่าว่าเคยไปช่วยกู้รถหลานสาวแม่เทียนที่ตกโคลนข้างทางขึ้นมานี่”
“ครับคุณนาย เราเคยเจอกันมาหลายครั้งแล้ว แสบมากด้วย” ประโยคหลังชายหนุ่ม ก้มหน้าลงพูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคน หญิงสาวเลยแอบแยกเขี้ยวใส่
“หมอกว่าไงนะลูก” คุณนายทองอุไรได้ยินไม่ถนัด
“เอ่อ...ผมเจอฟ้าอุษาตั้งแต่เขามาถึงบ้านคลองลัดข้าววันแรกเลยครับ”
“ดีๆ รู้จักกันไว้ คนบ้านใกล้เรือนเคียง หมอกเป็นหลานชายของฉันเอง” คำแนะนำของคุณนาย ทำให้ฟ้าอุษาสิ้นสงสัย “เดี๋ยวหนูฟ้าอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันนะ หมอกไปอาบน้ำสิลูก แล้วออกมากินข้าวกัน วันนี้ยายทำสะเดาน้ำปลาหวานให้หมอกด้วยนะ”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวอาบน้ำก่อน เดี๋ยวจะได้ออกมากินแกงสะเดาน้ำปลาหวานกับข้าวต้มผัดฝีมือน้าเทียนเป็นของหวานล้างปาก ขอบคุณคุณนางฟ้าที่อุตส่าห์มีน้ำใจเดินเอามาให้ถึงบ้าน” พูดจบหมอกก็ลุกขึ้นเดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี
“เป็นไง ขอฉันดูมาลัยหน่อยสิ” ฟ้าอุษาส่งให้ “ก็ใช้ได้สำหรับครั้งแรก ถึงแม้จะโย้เย้ไปหน่อย หนูจะเอากลับไปไหว้พระที่บ้านก็ได้นะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วนี่หนูฟ้ามายังไง”
“ฟ้าเดินลัดสวนมากับแก้วขวัญค่ะ แต่เผอิญว่าแก้วขวัญนึกขึ้นได้ว่าลืมต้อนไก่ฟ้าของตาเข้าเล้า เลยรีบกลับไปต้อน เพราะกลัวพวกตัวเงินตัวทองหรือนกกลางคืนคาบไปกิน เสร็จแล้วจะตามมาค่ะ”
“สงสัยป่านนี้เจ้าแก้วไปวิ่งเล่นอยู่แถวไหนแล้วก็ไม่รู้” คุณนายพูดขึ้น เมื่อไม่เห็นวี่แววของแก้วขวัญ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฟ้าเดินกลับเองได้”
“เดี๋ยวกินข้าวด้วยกันก่อน แล้วให้หมอกเดินไปส่ง”
“ขอบคุณค่ะ แต่ฟ้าไม่ได้บอกป้าเทียนไว้ ป่านนี้คงจะรอทานข้าวอยู่เหมือนกัน คราวหน้าฟ้าคงได้มีโอกาสทานแกงหอยขมฝีมือคุณนาย”
“มาเลย มาเมื่อไหร่ก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้นฟ้าขอตัวกลับเลยนะคะ”
“จะเดินยังไงคนเดียว” คุณนายท้วง
“เดี๋ยวผมเดินไปส่งฟ้าอุษาที่บ้านเองครับคุณนาย” หมอกที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินเข้ามาเสนอตัว
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้” ฟ้าอุษาสะบัดเสียง แล้วรีบปรับให้เป็นปกติเมื่อเห็นคุณนายทองอุไรมองอยู่ “หนูกลับเองได้จริงๆค่ะ”
“แต่ให้หมอกเดินไปส่งก็ดีนะหนู เพราะหนูคงไม่ชินกับการเดินในสวนมืดๆค่ำๆอย่างนี้หรอก เดี๋ยวหกล้มหกลุกไปจะลำบาก”
ฟ้าอุษาจนด้วยเหตุผลของผู้อาวุโส จึงยอมให้หลายชายคุณนายเดินมาส่ง
หมอกเดินนำหน้ามีเพียงกระบอกไฟฉายในมือที่ให้แสงสว่างนำทาง ทางเดินในสวนขรุขระแถมมีท้องร่อง ฟ้าอุษารู้สึกว่าขามาทำไมไม่เห็นลำบากเหมือนตอนขากลับอย่างนี้ นึกเข็นเขี้ยวหลานสาวอยู่ในใจที่เงียบหายไปเลย
“เดินให้มันช้าๆหน่อยสินาย” คนเดินตามหลังประท้วง
“คุณก็อย่าเดินทอดน่องอ้อยอิ่งนักสิ นี่มันในสวนส้มโอนะ ไม่ใช่สวนสาธารณะที่จะได้มาเดินชมนกชมไม้”
“ชมนกชมไม้บ้าอะไร ออกจะมืดตื๊ดตื๋อ”
“ก็ถึงให้รีบเดินไง เดี๋ยวงูเงี้ยวเคี้ยวขอก็ได้ออกมาทักทายจะลำบาก” ไม่ทันจบประโยค ก็มีเสียงสวบสาบดังขึ้นทางด้านหลัง หญิงสาวหันขวับไปมองอย่างระแวง แล้วก็ต้องประสานสายตากับดวงตาเป็นประกายวาววับมากว่าหนึ่งคู่ในความมืด
“กรี๊ดดดดดด!” ฟ้าอุษาร้องสุดเสียงกระโดดขึ้นกอดเขาทั้งตัว
To be continue…
พบกับคู่กัดคู่นี้ต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ
ช่วยเป็นกำลังใจให้จำปีด้วยนะค้า
ขอบคุณค่ะ
+++++++++++++++++++++++
ตั้งแต่เขียนนิยายมาพี่วัฒน์...เป็นพระเอกที่เจ้าเล่ห์เพทุบายที่สุดๆๆๆๆๆๆ
แถมหื่น…ได้น่าตบมากกกกกกกกกก
(เจอนางเอกของเราที่ไหน หาเรื่องปล้ำเขาตลอด) 555
ส่วนน้องภาสัตวแพทย์ก็ใช่ย่อย พยศได้ใจ เปรียบ...ม้าสาวพันธุ์ดี ก็ต้องพยศ
พี่วัฒน์ก็เลยต้องออกทั้งแรง ออกทั้งอุบายปราบ
กว่าจะได้ขึ้นขี่ม้าเปรียวสาวแสนสวยนางนี้
คู่นี้ เรียกว่า...สมน้ำสมเนื้อจริงๆ
ยอมรับว่าจำปีเขียนเรื่องนี้ไป ก็หวาบบบบบ หวิวไป คริ คริ
รับรองว่าสนุก! ไม่ผิดหวัง จริ๊งจริง! จำปีคอนเฟิร์ม!
ความคิดเห็น