คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : น้องนางบ้านนา พ่วงด้วยน้องช่อน น้องปลิง มาครบ (100%)
ตอนที่ 6. น้องนางบ้านนา พ่วงด้วยน้องช่อน น้องปลิง มาครบ (100%)
ฟ้าอุษาทั้งเจ็บทั้งจั๊กจี้ดิ้นไม่หยุด เธอแกะกระดุมเสื้อด้านหน้าออก แต่ไอ้ช่อนดันดิ้นไปอยู่ด้านหลัง เธอเลยดึงเสื้อออกจากผ้าถุงและเข็มขัดที่รัดไว้วุ่นวาย ไอ้ช่อนร่วงผล็อยตกลงพื้น หมอกลุยขี้โคลนเข้ามาตะครุบไว้ทัน ก่อนที่จะถาม
“เป็นไงบ้างคุณ”
“ก็เจ็บนะสิ หนามมันตำฉันจนพรุนไปหมดแล้ว” หญิงสาวสำรวจบริเวณหน้าอกหน้าใจและเนื้อตัวของตัวเองที่เลอะไปด้วยขี้โคลน แล้วรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ถูกเงี่ยงปลาตำ
“ใครเขาเรียกหนาม เขาเรียกเงี่ยงปลา” หนุ่มลูกทุ่งส่ายศีรษะนึกระอา ก่อนที่จะร้องลั่น เดี๋ยวคุณ!”
มือที่กำลังจะติดกระดุมเสื้อถึงกับต้องชะงัก เงยหน้าขึ้นมามอง ก็ต้องโกรธผสมอาย เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังมองมาที่หน้าอกของเธอเขม็ง
“อย่าเพิ่งติดกระดุม”
“คนบ้า ลามก” เธอรีบทบสาบเสื้อเข้าหากัน
“ผมไม่ได้ลามก”
“ถ้าไม่ได้ลามก แล้วมาบอกฉันไม่ต้องติดกระดุมทำไม”
“ก็ปลิงมันเกาะอยู่ที่หน้าอกของคุณ”
“ห้ะ! จริงเหรอ ว้ายยยย!” หญิงสาวได้ตาเหลือกอีกรอบ “ไหนๆ ตรงไหน ทำไมฉันไม่เห็นเลย”
ฟ้าอุษาเปิดสาบเสื้อออกจนเกือบจะเป็นถอด เมื่อเห็นปลิงสีดำเหมือนขี้โคลนเกาะอยู่บนเนินอกของตัวเองจริงๆก็เต้นเร่าๆ จนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างยั่วยวน จนหนุ่มลูกทุ่งรู้สึกใจหวิวๆ ลำคอออกจะแห้งๆ
“ช่วยด้วย! ช่วยเอาไอ้ปลิงนี้ออกไปที” หญิงสาวอยากจะร้องไห้เต็มแก่
“จะให้ผมทำยังไง” หมอกกลืนน้ำลาย
“ทำอะไรก็ได้เร็วๆ เข้าซี่ๆๆๆ”
หมอกเอื้อมมือมาแกะปลิงตัวขนาดเท่านิ้วก้อยออกจากเนินอกอวบ ซึ่งมันก็เกาะแน่นดูดเลือดจากอกสาวจนตัวเป่ง
“นมใหญ่ขนาดนี้ เจ้าปลิงมันดูดเสียเพลินเชียว” หนุ่มลูงทุ่งคิดพิเรนนึกอยากจะเป็นปลิงขึ้นมาบ้าง ก่อนที่จะยื่นเจ้าตัวสีดำเข้ามาใกล้หน้าหญิงสาว
“ยี้! คนบ้า” หญิงสาวก่นด่า ปัดมือเขาออกห่างอย่างขยะแขยง แล้วลุยโคลนหนีกลับไปบนคันดิน แล้วหันมาตะโกนบอกหลานสาวกับเพื่อน “แก้ว จ้อย พี่จะกลับบ้านแล้ว”
“อ้าว! ไม่รอกลับพร้อมกันหรือจ๊ะ”
“ไม่แล้ว” พูดจบก็สะบัดหน้ากลับเดินจ้ำอ้าวไม่แยแสคนที่ตะโกนแซวไล่หลังเธอสักนิด
บ่ายวันนี้ฟ้าอุษาตามป้าเทียนหยดเข้าไปในสวนส้มโอหลังบ้านที่กำลังให้ผลดก คนในจังหวัดนี้นอกจากจะทำนาปลูกข้าวเป็นอาชีพหลักแล้ว การปลูกส้มโอก็ถือว่าเป็นอาชีพรองที่ทำรายได้ดีไม่แพ้การปลูกข้าว ส้มโอของจังหวัดนี้ขึ้นชื่อว่าเนื้อหวานกรอบอร่อยนัก
“เดือนหน้าก็น่าจะเก็บได้ทั้งหมด” เทียนหยดพูดพลางใช้มีดปลายแหลมปอกเปลือกส้มโออย่างคล่องแคล่วชำนิชำนาญ ก่อนที่จะแกะเนื้อแล้วส่งให้หลานสาว “ลองชิมดูสิลูก”
“ว้าว! กรอบแล้วก็หวานมากค่ะ” ฟ้าอุษาเคี้ยวตุ้ยๆ
“นี่ล่ะจ้ะ ของดีบ้านเรา ป้ากล้าพูดเลยนะว่าส้มโอบ้านเราอร่อยไม่แพ้จังหวัดอื่น”
“แล้วเราจะเก็บไปไหนคะ” หลานสาวสนใจใคร่รู้
“ก็จะมีพ่อค้าเข้ามารับซื้อถึงบ้าน หรือไม่ก็เอาไปฝากขายที่สหกรณ์จังหวัด”
“ดีจังนะคะ ส้มโอจะเป็นรายได้อีกทางของชาวบ้าน”
“ใช่ลูก ถ้าชาวบ้านมีงานมีรายได้ การเป็นอยู่ก็จะดีขึ้น คนบ้านเราก็จะไม่ทิ้งครอบครัวทิ้งนาทิ้งสวนไปทำงานที่กรุงเทพ หรือไปเมืองนอก” เทียนหยดมีสีหน้าและน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย ซึ่งฟ้าอุษาก็พอจะเข้าใจว่าป้าเทียนหยดน่าจะคิดถึงลูกสาวคนเดียวที่เดินทางตามสามีไปขายแรงงานที่ตะวันออกกลาง
“แล้วนี่ป้าเทียนจะเก็บใบไม้แห้งไปทำอะไรคะ”
“ทำปุ๋ยหมักลูก คุณปลัดเขาแนะนำ เพื่อลดค่าใช่จ่าย แล้วลดการใช้ปุ๋ยที่มีสารเคมีที่จะทำให้มีสารพิษตกค้าง และทำลายดิน”
“ฟ้าช่วยเก็บค่ะ”
“จ้ะ ถ้าอย่างนั้นฟ้าไปเก็บทางด้านโน้นแล้วกันลูก”
“ค่ะ” ฟ้าอุษาคว้าเข่ง แล้วเดินอ้าวไปยังทิศทางที่ป้าเทียนหยดบอก ระหว่างที่กำลังเก็บใบไม้แห้งอย่างขะมักเขม้น
“เจ้าเหมียวอย่า! เจ้าเหมียวอย่านะ...”
ฟ้าอุษาหันขวับไปมองเห็นหมาตัวใหญ่สีน้ำตาลกำลังกระโดดอ้อมหน้าอ้อมหลังอย่างคึกคะนองรอบตัวคุณยายคนหนึ่ง ก่อนที่หญิงชราจะเสียหลักล้มลง ส่วนเจ้าหมาตัวใหญ่ก็วิ่งไล่ตัวอะไรสักอย่างลงไปในท้องร่อง
“คุณยาย...” หญิงสาวทิ้งไม้กวาดทางมะพร้าววิ่งหน้าตั้งเข้าไปหา เธอช่วยพยุงผู้สูงวัยให้ลุกขึ้น “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่...ไม่เป็นอะไรจ้ะ ขอบใจมาก”
ถึงบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ฟ้าอุษาก็ไม่กล้าปล่อยมือออกจากคุณยายที่มีรูปร่างอวบท้วม แต่ยังแข็งแรง และมีบุคลิกสง่างามไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป เส้นผมบนศีรษะขาวโพลน แต่ใบหน้ายังเต่งตึงและมีรอยยิ้มที่มุมปากอยู่ตลอดเวลาเหมือนผู้ใหญ่ใจดี หญิงสาวรอจนคุณยายทรงตัวได้อย่างมั่นคงขึ้นถึงค่อยๆปล่อยมือ
“ดูเถอะเจ้าเหมียวเข้าสวนที่ไรมันคึกทุกที” คุณยายบ่น แต่เมื่อหญิงสาวทำหน้างงๆ ก็อธิบายต่อ “ไม่ต้องทำหน้าสงสัย เจ้ายักษ์นั่นมันชื่อเจ้าเหมียว”
ฟ้าอุษาขำกิ๊กเจ้าหมาไทยตัวใหญ่สีน้ำตาลชื่อน้องเหมียว เจ้าของช่างตั้งชื่อได้ขัดแย้งกันมาก หมาอะไรดันชื่อแมว
“พ่อหลานชายฉันเป็นคนตั้งชื่อให้มัน” ผู้สูงวัยกว่าเดาได้ถูก จึงขยายความต่อ “เมื่อตอนเด็กๆ มันร้องเหมียวๆเหมือนลูกแมว”
“ชื่อมันไม่สมกับตัวเลยนะคะ”
“หนูไม่ใช่คนแถวนี้นี่” คุณยายมองหญิงสาวคราวหลานตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์
“หนูเป็นหลานสาวป้าเทียนหยดค่ะ”
“อ๋อ! ได้ยินอยู่เหมือนกันว่าแม่เทียนมีหลานสาวจากกรุงเทพมาอยู่ด้วย”
“ค่ะ แล้วคุณยายอยู่แถวนี้เหรอคะ”
“บ้านเราติดกัน มีสวนส้มโอแม่เทียนคั่นอยู่”
“ถ้าอย่างนั้นหนูเดินไปส่งนะคะ”
“ขอบใจจ้ะ” คุณยายไม่ได้ปฏิเสธ แต่เดินนำหน้าขึ้นไป ฟ้าอุษาเดินตามใกล้อย่างห่วงใย แต่ไม่เข้าประคอง เพราะผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ไม่ชอบแสดงความอ่อนแอต่อหน้าผู้อื่นโดยเฉพาะลูกหลาน และไม่ชอบที่จะได้รับความช่วยเหลือเกินความจำเป็น จากประสบการณ์ที่ต้องเจอคนหลายเพศ หลายวัยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ทำให้เธอทราบดี
“นั่นวัวควายของใครคะ เยอะจัง” ฟ้าอุษาถามเมื่อเห็นวัวควายสิบกว่าตัวกำลังเลาะเล็มหญ้าที่ชายทุ่งอีกด้านหนึ่ง
“อ๋อ...ของหลานชาย เขาขี้สงสารไปซื้อมาจากหน้าโรงงานฆ่าสัตว์” คุณยายพูดถึงหลานชายเป็นครั้งที่สองด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ดูเขาจะเป็นหนุ่มขี้เล่นดูได้จากการตั้งชื่อสุนัข และยังมีใจเมตตากรุณาไถ่ชีวิตโคกระบือหน้าโรงงานฆ่าสัตว์
“แล้วจะทำยังไงกับเจ้าวัวควายพวกนี้คะ”
“ก็เลี้ยงมันไว้ใช้งานและมีโครงการให้ชาวบ้านยืมไปไถนา ซึ่งก็จะประหยัดต้นทุนเรื่องค่าเช่ารถไถและน้ำมัน ในเวลาเดียวกันก็ช่วยชีวิตเจ้าวัวควายพวกนี้ดีกว่าปล่อยให้มันถูกฆ่านำเนื้อมาเป็นอาหารโดยไม่จำเป็น”
ฟ้าอุษารู้สึกชื่นชมในตัวหลานชายของคุณยายทั้งๆที่ยังไม่รู้จักกัน
แต่ก่อนที่จะออกเดินต่อก็มีเด็กสาวอายุประมาณสิบแปดสิบเก้าวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาคุณยายสูงวัย
“คุณนายเจ้าขา...ไปไหนมาคะ”
“ก็อยู่แถวๆนี้ ไม่ได้ไปไหน เจ้าหวานแกอย่ามาทำหน้าตื่นตกใจขนาดนั้น”
“ก็หนูเห็นเจ้าเหมียวมันไปวิ่งไล่ตะครุบหนูอยู่แถวโน้นเลยตกใจว่าคุณนายไปไหน”
“ไม่มีอะไร” คุณยายทำเสียงดุๆ ก่อนที่จะหันมาพูดกับเธอ “ไปกินน้ำกินท่าที่เรือนฉันก่อนไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ ถ้าคุณยายมีหลานมารับแล้ว ฟ้าขอตัวกลับก่อน”
“ขอบใจมาก วันหลังก็แวะมาเยี่ยมเยือนกันบ้างนะ” ‘คุณนาย’ ของเด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงเมตตาเอ็นดูรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวคราวลูกคราวหลานอย่างบอกไม่ถูก
“แล้วฟ้าจะมาเยี่ยมคุณยายนะคะ สวัสดีค่ะ” ฟ้าอุษายิ้มประจบประแจงผู้ใหญ่รู้สึกถูกชะตากับผู้สูงวัยเช่นกัน
*** จบตอนคร่า ***
ช่วยเข้ามาให้กำลังใจ...นายหมอก กับ น้องนางฟ้าด้วยนะค้า
จำปีเริ่มจะท้อแล้วอ่ะ 555
ตั้งแต่เขียนนิยายมาพี่วัฒน์...เป็นพระเอกที่เจ้าเล่ห์เพทุบายที่สุดๆๆๆๆๆๆ
แถมหื่น…ได้น่าตบมากกกกกกกกกก
(เจอนางเอกของเราที่ไหน หาเรื่องปล้ำเขาตลอด) 555
ส่วนน้องภาสัตวแพทย์ก็ใช่ย่อย พยศได้ใจ เปรียบ...ม้าสาวพันธุ์ดี ก็ต้องพยศ
พี่วัฒน์ก็เลยต้องออกทั้งแรง ออกทั้งอุบายปราบ
กว่าจะได้ขึ้นขี่ม้าเปรียวสาวแสนสวยนางนี้
คู่นี้ เรียกว่า...สมน้ำสมเนื้อจริงๆ
ยอมรับว่าจำปีเขียนเรื่องนี้ไป ก็หวาบบบบบ หวิวไป คริ คริ
รับรองว่าสนุก! ไม่ผิดหวัง จริ๊งจริง! จำปีคอนเฟิร์ม!
ความคิดเห็น