คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : คู่กัด (40%)
ตอนที่ 5. คู่กัด (40%)
แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องสว่างเข้ามาภายในห้องนอน เสียงนกกระจิบกระจาบบนกิ่งไม้ส่งเสียงจุ๊บจิ๊บๆสลับกับเสียงไก่ขัน หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นลุกขึ้นบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้านบนฟูกที่นอน เด็กหญิงแก้วขวัญไม่ได้นอนอยู่ข้างๆแล้ว
“ป้าเทียนค้า แก้วขวัญ” ฟ้าอุษาส่งเสียงเรียกเดินหาทั่วเรือน แต่ไม่พบใคร “เอ...นี่เขาไปไหนกันหมดนะ”
บนเรือนเงียบเชียบหญิงสาวเดินลงจากเรือน ก็ไม่พบใครอีกเช่นกัน จึงถือโอกาสเดินสำรวจบ้าน บ้านทรงไทยอายุหลายสิบปีปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ร่มรื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้ผลพวก มะม่วง ชมพู่ ฝรั่ง ส้มโอ จะมีไม้ดอกส่งกลิ่นหอมบ้างก็เช่น มะลิ ราตรี ดอกแก้ว ทางด้านหลังบ้านก็ปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้นานาชนิด
เจ้าตูบสองตัวลุกขึ้นหูตั้งทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามา แต่พอเห็นว่าเป็นใคร มันก็หมอบลงกับพื้นหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้อย่างเกียจคร้านเหมือนเดิม
“เอก อิ เอ้ก เอ้ก” ไก่แจ้กำลังโก่งคอขันอยู่ในสุ่ม แล้วยังมีไก่ฟ้าสีสวยอีกหลายตัวเดินหาข้าวเปลือกตามพื้น
“หิวเหรอ” สาวชาวกรุงคว้ากระบอกข้าวเปลือกที่วางอยู่บนแคร่ขึ้นมาโปรยให้ไก่กิน “กู๊ก กุ๊กๆๆๆๆ กินซะนะ จะได้โตเร็วๆ” เสร็จจากการให้อาหารไก่ เธอก็เร่ไปยังเล้าเป็ด
“อุ้ย! น่ารักจัง” หญิงสาวเผลออุทานออกมา เมื่อเห็นลูกเป็ดสีมอมๆตัวน้อยเดินกันขวักไขว่ส่งเสียงก๊าบๆอยู่ในเล้า เธออยากเข้าไปอุ้ม แต่ในเล้าก็ไม่ใคร่จะโสภานัก
ออกจากเล้าเป็ดฟ้าอุษาก็เดินไปยืนอยู่บนท่าไม้เล็กๆที่ยื่นออกไปในลำคลองหลังบ้านที่ขณะนี้มีน้ำอยู่เต็มปริ่มเพราะเป็นหน้าน้ำฤดูทำนา อีกฝั่งของลำคลองเป็นนาข้าวสีเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา อดีตแอร์โฮสเตสสาวอมยิ้มให้กับความสดชื่นที่เธอไม่เคยพบเห็นมาก่อนในกรุงเทพมหานคร แล้วก็สำนึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดที่กลับมาที่นี่...บ้านของแม่ ที่ๆให้ทั้งความอบอุ่นและร่มเย็นไปในเวลาเดียวกัน ขณะที่กำลังชื่นชมกับบรรยากาศรอบตัว แต่แล้วอารมณ์ดื่มด่ำก็ต้องสะดุดหยุดลงด้วยเสียงผิวปากเพลงลูกทุ่งยอดนิยมตลอดกาล เธอสอดส่ายสายตาหาที่มาของเสียง ก็เห็นเรือแจวลอยลำอยู่ในดงโสนริมคลอง
“นายหมอกนี่นายมาทำอะไรแถวท่าน้ำบ้านฉัน” แค่เห็นว่าเป็นใครอารมณ์สุนทรีกับธรรมชาติรอบตัวก็กลายเป็นมลพิษขึ้นมาทันที
“ที่นี่คลองสาธารณะ อย่าขี้ตู่”
“นายหมอก!” หลานสาวเจ้าของบ้านโกรธที่ถูกย้อน เลยหาเรื่องเขาหน้าตาเฉย “อ๋อ! ฉันรู้แล้วที่นายมาจอดเรือแอบซุ่มอยู่แถวนี้ ถ้าไม่มาขโมยปลา ก็เป็นพวกโรคจิตถ้ำมอง”
“โห! โห! โห! ผู้หญิงกรุงเทพหน้าตาก็ดี ไม่น่าปากเสียอย่างนี้เลย”
“กรี๊ดดด! นายหมอก นายด่าฉัน ไอ้คนหยาบคาย ไอ้คนไม่เป็นสุภาพบุรุษ”
“ก็อยู่ดีๆ มากล่าวหาคนอื่นว่าเป็นขโมย เป็นพวกโรคจิต ไม่เรียกว่าปากเสีย แล้วจะให้เรียกว่าอะไร”
“นายหมอก!” อดีตแอร์โฮสเตสสาวเต้นเร่าๆ ไม่รู้จะจัดการกับเขายังไง
“ผมไม่ได้เป็นพวกโรคจิตถ้ำมอง แล้วผมก็ไม่ได้เป็นขโมย ผมมาเหวี่ยงแหจับปลาในคลองสาธารณะ ผมผิดตรงไหน มีกฎหมายข้อไหนห้ามไม่ให้ประชาชนจับปลาในคลองสาธารณะ” หมอกพายเรือออกมาจากดงโสนเข้ามาใกล้ “เอาๆ เต้นเข้า ทำอย่างกับเป็นพวกปาราสิตถูกน้ำร้อนลวก”
“นี่นายหาว่าฉันเป็นพวกเชื้อโรคเหรอ ไอ้บ้า...”
“เอ้าคุณ! คุณ! ผ้าๆ” หมอกตะโกนหน้าตื่นนิดๆ
“ผ้าบ้า ผ้าบออะไร” หญิงสาวสวนกลับหน้าแดง แล้วก็ต้องชะงักรู้สึกผิดปกติ
“ผ้าถุงหลุด” หมอกเอามือปิดตา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เห็นไปแล้วเต็มสองลูกตา ฟ้าอุษาเย็บวาบๆ แล้วก้มลงมองส่วนล่างของตัวเอง แล้วก็ต้องร้องเสียงหลง เมื่อเห็นผ้าถุงสีชมพูบานเย็นที่ตัวเองนุ่งหลุดลงไปกองอยู่กับพื้น เธอรีบคว้าขึ้นนุ่ง
หมอกปล่อยก๊ากอย่างอดไม่อยู่ หญิงสาวทั้งโกรธและอับอายเป็นกำลัง
“ไอ้บ้า! หัวเราะอะไรนักหนา แล้ว...แล้วนายไม่เห็นอะไรเลยใช่ไหม” หมอกหัวเราะพรืดออกมา
“แหมคุณ! ถ้าบอกว่าไม่เห็น ผมก็จะกลายเป็นคนมุสา วันนี้วันพระด้วย บาป! เอาเป็นว่าไอ้ที่เห็นผมจะไม่บอกใครแล้วกัน”
“แต่อันที่จริงฉันอยู่กรุงเทพก็ใส่บิกินีว่ายน้ำอยู่บ่อยๆ” แม่สาวชาวกรุงแก้เกี้ยว
“อ๋อเหรออ!” หนุ่มลูกทุ่งลากเสียงกวนประสาท “จริงๆแล้วผมก็เห็นในคลิปในยูทูบบ่อยๆ ได้อารมณ์กว่าเยอะ สำหรับคุณผมก็ว่างั้นๆ เห็นแล้วเฉยๆนะ ไร้ความรู้สึก!”
วิจารณ์เสร็จพ่อหนุ่มลูกทุ่งก็ผิวปากเพลงนกเขาคูรักพายเรือหนีไปอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยให้สาวที่ถูกวิพากษ์สั่นเป็นเจ้าด้วยความคับแค้นแสนสาหัส ขอสัญญากับตัวเองว่าจะต้องเอาคืนให้สาสม
ฟ้าอุษากลับขึ้นบ้านมาอาบน้ำอาบท่ากำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินอยู่ข้างนอกและเสียงดังก๊อกแก๊กๆในครัว
“สงสัยจะกลับมากันแล้ว” หญิงสาวรีบแต่งตัว ซึ่งก็หนีไม่พ้นเสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงผืนใหม่ แล้วเดินออกมาจากห้อง ก็ไม่เห็นใคร แต่ได้ยินเสียงดังมาจากในครัว เธอตรงรี่เข้าไป
แต่ฟ้าอุษาก็ต้องใช้มืออุดปากตัวเองไว้ เมื่อเห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ใช้ผ้าขาวม้าคลุมศีรษะกำลังก้มๆเงยๆเหมือนกำลังรื้อค้นหาอะไรอยู่ในครัว “ตายแล้วขโมย”
หลานสาวเจ้าของบ้านหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก ก็พอดีเหลือบไปเห็นฝาโอ่งน้ำฝน เธอไม่รอช้าที่จะคว้ามันขึ้นมาเป็นอาวุธ ก่อนที่จะย่องเข้าไปทางด้านหลังของเจ้าหัวขโมย แล้วใช้ฝาโอ่งฟาดลงบนหัวของมันอย่างไม่ยั้ง
“โอ๊ย! โอ๊ยยยยย!” เจ้าหัวขโมยร้องลั่นพร้อมกับปัดป้องเป็นพัลวัน
“นี่แหนะ! นี่แหนะ! ไอ้หัวขโมย ตายยยย…” ปากก็ร้อง มือก็ฟาดไม่หยุด
“เฮ้ย! เฮ้ย! นี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย หยุด หยุดนะ!” คนถูกฟาดหัวร้องห้าม แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมหยุด มันจึงเข้าแย่งดึงฝาโอ่ง ก่อนที่จะโยนทิ้งลงพื้น แล้วขึ้นเสียงอย่างฉุนเฉียว “นี่คุณทำบ้าอะไร ฟ้าอุษา”
หญิงสาวทั้งงงทั้งประหลาดใจที่เจ้าหัวขโมยรู้จักชื่อเธอ แล้วก็ต้องหายงงเป็นปลิดทิ้ง เมื่อผ้าขาวม้าที่คลุมศีรษะอยู่ถูกกระชากออก
“นายหมอก!”
“นี่คุณเอาฝาโอ่งมาตีหัวผมทำไม” หมอกฉุนจัดจนแทบจะจับตัวเธอมาเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอน
“ก็...ก็ฉันคิดว่าเป็นขโมย”
“ขโมยบ้าที่ไหน จะเข้ามาในครัว”
“ก็ใครจะไปรู้ นึกว่าเป็นพวกขโมยหิวโซตายอดตายอยาก”
“ถ้าจะหิวโซ ตายอดตายอยากละก็ ก็น่าจะหิวอย่างอื่นมากกว่า” หมอกแกล้งส่งสายตาโลมลูบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทำเอาสาวในชุดเสื้อคอกระเช้าหนาวๆร้อนๆ
To be continue...
พรุ่งนี้จะมาครบ 100% เลยค่า
ขอบคุณที่ติดตามนะค้า
ร้ายรักพยัคฆ์ร้าย Shooting Love
เรื่องนี้เป็นอะไรที่น่ารักมากกกกกก
เมื่อนายทหารหนุ่มแห่งกองทัพสหรัฐ ร้อยโทชุษณะ (ผู้อาจหาญ แกล้วกล้า เจ้าเสน่ห์แพรวพราว)
หนีคู่หมั้นของตัวเองที่ถูกผู้ใหญ่หมั้นหมายไว้ให้ตั้งแต่เด็ก
ไปถึงกระท่อมบนภูเขาไฟเมาท์เรเนียร์ เมืองซีแอทเทิล
ส่วนเธอ...ขจรรำไพคู่หมั้นสาว ก็พยศไม่แพ้กัน
อุตส่าห์ดั่นด้นหนีไปเจอกันจนได้ในกระท่อมหลังน้อยบนขุนเขาท่ามกลางธรรมชาติ
หิมะสีขาวรายรอบ สภาพอากาศหนาวเย็นชวนให้หวิวๆ ใจสั่น
แล้วยังต้องตื่นเต้นกับการไล่ล่าจากพวกมาเฟียข้ามชาติ และเจ้าหมียักษ์กริซลี่
แล้วคุณจะต้องหลงเสน่ห์ร้อยโทหนุ่มกับคู่หมั้นสาว และเจ้าหมีกริซลี่อย่างไม่อาจถอนตัว
จริงๆ จำปี ยืนยันจร้า
|
ความคิดเห็น