ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลัดฟ้ามาเสี่ยงรัก (สนพ.ทัช) FLY FOR LOVE

    ลำดับตอนที่ #8 : ภูมิแพ้กรุงเทพ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 60



    ตอนที่ 3 ภูมิแพ้กรุงเทพ (100%)
     

         รถมินิหัวทิ่มปักลงไปในโคลนควันโขมงขึ้นมาจากฝากระโปรงหน้า สาวหลังพวงมาลัยจุกเนื่องจากการทำงานของแอร์แบ็คถุงลมนิรภัย พอตั้งสติได้ก็รีบปลดเข็ดขัดนิรภัย ประตูหน้าด้านคนขับเปิดไม่ได้เพราะติดโคลน จนเธอต้องปีนข้ามมาเบาะหลัง และเปิดประตูท้ายออกมาอย่างทุลักทุเล
     

            บ้า บ้าที่สุด ทำไมถึงได้ซวยอย่างนี้นะ ฟ้าอุษาหัวเสียสบถยืดยาว เธอหันไปมองสภาพรถมินิตัวเองอย่างอารมณ์เสียสุดๆ น้ำตาแทบไหลเมื่อลูกรักสีเหลืองสดที่สู้อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบอยู่ในสภาพที่ยับเยินขนาดนี้ ร่างบางเดินลุยขี้โคลนครึ่งหน้าแข้งปีนขึ้นมายืนบนไหล่ถนน รู้สึกเซ็งกับเรื่องบ้าๆที่ไม่น่าเกิดขึ้น แล้วทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง

             

            เอ๊า! ลงไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้นล่ะคุณ ว่างมากนักหรือไง เสียงตะโกนโหวกเหวกอยู่ด้านหลัง ทำให้หญิงสาวที่นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ข้างทางหันขวับ ก็เห็นร่างสูงคุ้นตายืนอยู่บนหลังเกวียนที่กำลังแล่นเข้ามาใกล้อย่างช้าๆฮาๆๆๆๆๆ
     

    คนบนหลังเกวียนหัวเราะลั่น เมื่อเห็นสภาพมอมแมมของหญิงสาวได้ถนัด
     

    “มอมพอๆกับนังแต้มที่วัด ฮาๆๆๆๆ”
     

            นาย...ฟ้าอุษาตาโต เมื่อเห็นคู่ปรับ
     

            อ้าวเฮ้ย! แล้วทำไมรถคุณถึงได้หัวทิ่มปักลงไปในโคลนอย่างนั้นล่ะ หนุ่มคู่ปรับเพิ่งสังเกตเห็นสภาพรถมินิสีเหลืองสด เขาหยุดหัวเราะฉับ แล้วกระโดดลงจากเกวียนวิ่งมายืนข้างๆ
     

            ก็ไอ้บ้าควายของนายน่ะสิ วิ่งตัดหน้ารถฉัน เจ้าของรถหรูเดือดปุดๆ
     

            เอานี่! พูดให้มันดีๆนะ คุณขับรถไม่ระวังเองหรือเปล่า แล้วมาโทษวัวโทษควาย นอกจากไม่รู้จักบุญคุณควาย แล้วยัง...
     

            หุบปากทุเรศๆของนายเลยนะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนหญิงสาวฉุนจัดหันมาประจันหน้า
     

            แล้วจะเอาขึ้นมาได้ยังไงล่ะพ่อหมอก ลุงแก่คนขับเกวียนเดินเข้ามาสมทบเหมือนกรรมการหย่าศึกชั่วคราว
     

            ลุงจั่นว่าไงล่ะ หนุ่มลูกทุ่งหน้าตาดีคมสัน เรียกได้ว่าเป็นพระเอกยี่เกได้สบายๆ นาม พ่อหมอก ย้อนถาม...
     

    แล้วก็ตอบเอง...เออเอง เมื่อเห็นลุงแกทำหน้ายุ่งๆจนด้วยเกล้า คงจะต้องกู้วันพรุ่งนี้ วันนี้คงไม่ทัน
     

            ไม่ได้นะ ต้องกู้ขึ้นมาวันนี้ สาวเจ้าของรถไม่ยอม แหวออกคำสั่ง
     

            งั้นก็เชิญสิคุณ ใครไปห้าม
     

            จะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้หญิงนะ จะกู้คนเดียวขึ้นมาได้ไง หรือว่านายจะยืนเฉยแล้งน้ำใจอยู่อย่างนี้นี่นะ
     

            คุณล่ะบ้า นี่มันจะมืดค่ำอยู่แล้ว จะหาอะไรมาลากมันขึ้นมา อย่าบอกนะว่าจะใช้เกวียนลาก หนุ่มลูกทุ่งประชด ทำเอาสาวเจ้าของรถอึ้ง
     

            ถ้าจะใช้เกวียนลาก คงไม่ไหวล่ะมั้งนังหนู สู้คอยพรุ่งนี้เช้าหารถเครื่องมาลาก น่าจะดีกว่า แล้วนี่กำลังจะไปไหน ดูท่าทางแล้วไม่ใช่คนแถวนี้แน่ลุงจั่นมองหญิงสาวรุ่นลูกรุ่นหลานตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
     

            นั่นสิ คุณจะไปไหน หมอกถามบ้าง
     

            ฉันจะไปบ้านครูระพิน ฟ้าอุษาบอกชื่อลุงเขยที่รับราชการเป็นครูใหญ่อยู่ที่โรงเรียนบ้านคลองลัดข้าว
     

          อ๋อ! บ้านครูระพิน ลุงแก่เจ้าของเกวียนรู้จัก
     

            ลุงรู้จักหรือจ๊ะ
     

            รู้จักสิครูระพินผัวแม่เทียน ว่าแต่เป็นญาติกันรึ
     

            หนูเป็นหลานสาวป้าเทียนหยดมาจากกรุงเทพจ้ะ
     

            อ๋อ! หลานสาวแม่เทียน ถ้าอย่างนั้นเราแวะส่งนังหนูนี่ที่บ้านครูระพินก่อนแล้วกันนะพ่อหมอก
     

         อ้าว! แล้วรถหนูล่ะคะ สาวเจ้าของรถยังไม่วายห่วง
     

            ไว้ค่อยเอาไอ้แดงมาลากขึ้นวันพรุ่งนี้หมอกตอบแทน
     

            ว่าไงนะ! คุณจะเอาควายมาลากรถฉันนี่นะแม่สาวชาวกรุงขึ้นเสียงแหลมเฟี้ยว
     

            อ๊ะ! แล้วมันผิดตรงไหน คุณนี่นอกจากไม่รู้จักบุญคุณควายแล้ว ยังดูถูกควายอีก ปล่อยเขาทิ้งไว้ตรงนี้ล่ะลุง เรากลับกันเถอะจะค่ำแล้ว
     

            ว๊าย! อย่านะ อย่าทิ้งฉันไว้ตรงนี้นะ หญิงสาวเลิ่กลั่กมองรอบๆตัวที่เริ่มมืดอย่างหวาดๆ
     

            ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องตามผมกับลุงจั่นกลับไป เรื่องรถค่อยว่ากันพรุ่งนี้
     

            แต่... ฟ้าอุษามีสีหน้ายุ่งยาก
     

         อยากอยู่เฝ้ารถ ก็เชิญ ไป๊!ลุงจั่น เรากลับกันเถอะ หมอกหันไปชวนลุงแก่ แล้วออกเดินนำไปที่เกวียน
     

            เดี๋ยวๆๆ ฉันไปด้วย แม่สาวชาวกรุงร้องเรียก น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้
     

            งั้นก็ไป มัวโอ้เอ้ มืดกันพอดีร่างสูงในชุดเสื้อและกางเกงที่เลอะขี้โคลนเริ่มแห้งจับตัวแข็งทำท่าจะเดินต่อ
     

            เดี๋ยวก่อน!”
     

            อะไรอีกล่ะคุณ
     

            ฉันมีกระเป๋าเงินกับกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่ในรถ
     

         งั้นก็ไปเอาสิคุณ พูดจบหมอกก็ก้มลงมองขากางเกงยีนสีซีดของเธอ ที่ขณะนี้เลอะขี้โคลนขึ้นมาถึงต้นขา เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวมีรอยขี้โคลนกระเซ็นเลอะเทอะเป็นดอกเป็นดวงไปทั่วทั้งตัว ก่อนที่จะตัดความรำคาญ เอ๊าๆๆ ผมไปเอาให้ก็ได้
     

            ถึงจะกวนโอ๊ย แต่ก็ยังพอมีน้ำใจ อดีตแอร์โฮสเตสสาวแอบคิดในใจ

            ร่างสูงลุยลงไปในโคลน ตรงเข้าเปิดประตูท้าย เพราะเห็นแล้วว่าประตูหน้าเปิดไม่ได้ เพราะจมขี้โคลนไปกว่าครึ่ง เขามุดเข้าไปในรถสักพัก ก็กลับออกมาพร้อมกระเป๋าสะพายสีครีมใบสวย
     

            ว้าย! ถือกระเป๋าฉันให้ดีๆหน่อย นั่นปราด้าเชียวนะ ใบนี้เกือบแสนนายรู้ไหม แม่สาวชาวกรุงกรี๊ดกร๊าดอยู่บนไหล่ถนนด้วยเกรงว่ากระเป๋าใบสวยราคามากกว่าเงินเดือนเธอหลายเดือนจะเลอะขี้โคลน
     

            จะป้าดา ป้าหลุยส์ ป้าแม้น ยายเมี้ยนกี่หมื่น กี่แสน ผมก็ไม่อยากรู้หรอก พูดจบหมอกก็โยนกระเป๋าใบที่เจ้าของหวงนักหวงหนาลอยหวือส่งให้ อดีตแอร์โฮสเตสสาวหัวใจแทบวายรีบกระโดดตะครุบแทบไม่ทัน
     

            คนบ้า ฟ้าอุษาโกรธจนแทบจะเข้าไปตะกุยหน้าเข้มนั้นให้แหกด้วยกรงเล็บสีสวย
     

            ไปได้แล้ว กว่าจะถึงหมู่บ้านมืดกันพอดี
     

            อ้าว! แล้วกระเป๋าเสื้อผ้าของฉันล่ะ
     

            ใครจะเอามาไหว ใบเท่าตู้เสื้อผ้า แบกลุยขี้โคลนนะคุณ ไม่ได้ลากบนถนนช็องเซลีเซ แถมยี่ห้อวิตตอง ถ้าเปรอะขี้โคลน คุณไม่ตะกุยหน้าผมแหกเหรอ
     

         ฟ้าอุษาคล้อยตาม ถ้าขืนเขาแบกมา แล้วร่วงลงโคลน เธอคงหัวใจสลายแน่ ถ้ากระเป๋าใบใหม่แบรนด์ดังที่เพิ่งถอยมาสดๆร้อนๆจะเลอะโคลน จึงเห็นด้วย แล้วอดอมยิ้มนิดหนึ่งไม่ได้ว่า เขาเดาใจเธอได้ถูกเผง เพราะตอนนี้เธออยากจะตะกุยหน้าเขาให้แหกเต็มทนแล้ว จนไม่ได้ฉุกใจคิดว่า...ทำไมหนุ่มบ้านนอกคอกนาถึงรู้จักช้อปปิ้งสตรีทชื่อดัง และกระเป๋าแบรนด์เนมระดับโลก
     

            ยิ้มอะไร คนที่เพิ่งปีนขึ้นมายืนบนไหล่ถนนถามเสียงเข้ม ทำเอาแม่สาวที่กอดกระเป๋าแบรนด์เนมดุจไข่ในหินสะดุ้ง
     

            เปล่า! จะรีบไป ไม่ใช่เหรอ ฟ้าอุษายักไหล่อย่างกวนๆ ก่อนที่จะเดินนำลิ่วไปที่เกวียน แต่เกวียนสูงทำให้เธอขึ้นไม่ไหว หมอกที่เดินตามมาจึงกระโดดขึ้นเกวียนไปก่อน แล้วส่งมือให้ สาวที่อยู่ด้านล่างไม่มีทางเลือกจำต้องยื่นมือออกไปจับมือใหญ่ ยอมให้เขาฉุดขึ้นไป
     

            “อุ๊ยๆๆ” ร่างมอมแมมเซถลาปะทะเข้าซบอกแกร่งเข้าอย่างจัง จนเผลอสูดเอากลิ่นโคลนสาบควายและเหงื่อไคลเข้าเต็มลัก แต่พอรู้สึกตัวก็ผลักเขาแทบกระเด็นด้วยความรังเกียจผสมขวยอาย
     

            “ผู้หญิงเมืองกรุงนี่เขาไม่ค่อยมีมารยาทกันเนอะ จะขอบอกขอบใจสักคำก็ไม่มี” พูดจบหมอกก็ทรุดตัวลงนั่งที่ท้ายเกวียน
     

    “ขอบใจ” ฟ้าอุษางึมงำหน้างอ แล้วแยกตัวลงนั่งอีกมุม
     
     

         ลุงจั่นใช้ไม้หวดบั้นท้ายวัวแก่เบาๆ สองหนุ่มสาวคู่อริขึ้นนั่งห้อยขาบนกองฟางบนหลังเกวียนที่แล่นไปอย่างช้าๆกระด้งกระเด๊งไปตามถนนดินแดงที่ขรุขระ
     

         พระอาทิตย์ยามเย็นเริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ แดดร่มลมตกบรรยากาศสองข้างทางที่เกวียนแล่นผ่าน ทำให้หญิงสาวลืมเรื่องขุ่นเคืองหนุ่มลูกทุ่งที่นั่งอยู่ข้างๆไปได้ เลยไม่ทันได้สังเกตว่าคนข้างๆแอบลอบมองเธออย่างพิจารณาเต็มไปด้วยคำถาม และข้อสงสัยว่า สาวชาวกรุงรูปร่างสะโอดสะองท่าทางกรีดกรายบ้าแบรนด์เนม จะมาทำอะไรที่บ้านนอกคอกนาอย่างบ้านคลองลัดข้าว
     

            เพราะดูจากกระเป๋าเสื้อผ้าของหล่อนแล้ว มันใหญ่เกินกว่าที่จะมาอยู่แค่วันสองวันแน่ ผู้หญิงหน้าตาดีที่หนีความศีวิไลซ์จากเมืองหลวงมา ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องอกหักรักคุด หนุ่มลูกทุ่งเดาได้ไม่ผิดนัก

     

     

    The end คร่า..........

     

    แล้วพบกันในตอนหน้านะค้า

    ขอกำลังใจให้จำปีด้วยค่ะ
    ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จคงต้องมาถึงสักวัน
    ถึงแม้จะท้อจัง
    ขอบคุณมากค่า




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×