ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF,OS] Story of FanHan [Krislu,Krishan]

    ลำดับตอนที่ #6 : SF ::Connotation (Valentine's Day)::

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 58




    ::Connotation::

    SF @ Valentine’s Day

     

     

     
     

    เป็นที่เข้าใจกันทั่วโลก  ว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี  คือ วันวาเลนไทน์

    หรืออีกชื่อ คือ วันแห่งความรัก

    .

    .

    วันที่ให้โอกาสให้ทุกคนบนโลกใบนี้สามารถแสดงความรู้สึกแก่คนพิเศษของตนเองได้อย่างเต็มที่

     

     

                    ดวงตากลมโตใสสุกสกาวดุจดั่งลูกกวางกวาดสายตาไปตามตัวหนังสือบรรทัดแล้ว บรรทัดเล่าของหนังสือเล่มเล็กในมือของตน  พลางแอบเถียงประโยคๆ หนึ่งในหนังสือกับตัวเองเบาๆ

    “ไม่ใช่ ทุกคนสักหน่อย” เสียงหวานถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากบางที่กำลังขยับไปมาเพื่อเถียงกับข้อความในหนังสือ  ก่อนที่มือสวยคู่เดิมที่เคยถือหนังสือก่อนหน้าได้โยนหนังสือเล่มนั้นลงบนโต๊ะตรงหน้า

    “ถ้าทำได้ ทุกคนจริงๆ .. แล้วฉันจะสามารถแสดงความรู้สึกของฉันให้กับนายได้บ้างรึเปล่านะ”

     

                    พูดจบร่างบางเจ้าของดวงตากลมโตกับเสียงหวานนี้ก็ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ก่อนหน้า  เพื่อเดินข้ามไปยังอีกห้อง  ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงยังโซฟายาวแสนนุ่มที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องนี้

    “อยากซื้อดอกไม้จัง”  ร่างหวานพึมพำกับตัวเอง  ก่อนที่จะเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาราวกลับคิดอะไรได้

    “เหลาเกา!!” ว่าแล้วก็ตะโกนเรียกชื่อเพื่อนสนิทลั่น  ซึ่งนั่นทำเอาเจ้าของชื่อต้องรีบวิ่งหน้าตาตื่นมาหาเจ้าของเสียงหวานในทันที  เพราะกลัวว่าอีกคนอาจจะเกิดอุบัติเหตูหรืออะไรก็ตาม

    “มีอะไร.. หรือนายเป็นอะไรไปเปล่า?” เจ้าของชื่อเหลาเกาที่เพิ่งมาถึงรีบเอ่ยถามคนเป็นเพื่อนด้วยเสียงตื่นๆ

    “เปล่า”

    “อ้าว  ไม่มีแล้วตะโกนเรียกฉันเพื่อ?”

    “ฉันอยากได้ดอกไม้” เจ้าของตากลมโตรีบแถลงไขคำตอบให้เพื่อนร่างโตของตนฟังทันที  เพราะหากชักช้าเขาอาจโดนอีกคนฆ่าทิ้งโทษฐานไร้สาระก็เป็นได้

    “ห๊า?”

    “เตรียมดอกไม้ให้หน่อย  ฉันจะเอาไปให้คน”

     

     

     

     

                    ร่างสูงโปร่งเจ้าของความสูงเกือบ 190 ซม. กำลังยืนหมุนไปมาอยู่หน้ากระจก  เพื่อเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าที่ทางคอสตูมจัดให้เขาในวันนี้  ปลายนิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาขยับเสื้อคลุมตัวนอกให้เข้าที่เข้าทาง 

                    ดวงหน้าหล่อเหลาที่ผ่านการแต่งหน้าอ่อนๆ สำหรับการซ้อมการแสดงในวันนี้ที่สตูดิโอของทางช่อง CCTV  ยื่นเข้าไปจนแทบชินกับกระจกตรงหน้า  ดวงตาเรียวคมมองพิจารณาใบหน้าตัวเองให้เรียบร้อยอีกครั้ง   และเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว  ริมฝีปากหนาจึงได้คลี่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ

                    หลังจากที่เช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าตาเรียบร้อย  ร่างสูงโปร่งจึงค่อยๆ ทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ที่อยู่หน้ากระจก  ก่อนที่จะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะแต่งหน้า  เพื่อหยิบไอโฟน 6 ของตนเองออกมา  นิ้วเรียวยาวใส่รหัสปลดเครื่องของตนเองอย่างคล่องแคล่วจนเผยให้เห็นหน้าจอที่เรียกรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลานี้ได้  ซึ่งรูปหน้าจอนี้ก็ไม่ใช่อะไรนอกเสียจากเป็นรูปของ คนสำคัญ ของเขาก็เท่านั้น

                    หลังจากมัวแต่มองหน้าจอของตนเพลินๆ จนกินเวลาไปหลายนาที  เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็เพิ่งได้สติและรีบกดเข้ายังการโทร  และเลือกกดโทรออกเบอร์ที่ถูกเมมชื่อไว้ว่า  ร้านดอกไม้

    (ร้านดอกไม้ปิงฮัว  มีอะไรให้รับใช้คะ?) เสียงหวานจากทางปลายสายเอ่ยทักทายคนโทรไปทันทีที่ต่อสายติด

    “เอ่อ.. คือ  ผมสนใจจะสั่งดอกไม้น่ะครับ”

    (ได้คะ  ว่าแต่เป็นดอกไม้เนื่องในโอกาสอะไรคะ)

    “ในโอกาสหรอครับ เอ๋?”

    พอถูกซักรายละเอียดมาถึงตรงนี้  ตอนนี้เจ้าของเสียงทุ้มก็เริ่มคิดไม่ออกแล้วว่าควรจะตอบอะไรดี  ก็ในเมื่อดอกไม้ที่เขาจะสั่งในวันนี้ก็แค่เพราะเขาอยากจะให้อีกคนเฉยๆ .. แต่ว่าวันนี้มันเป็นวันวาเลนไทน์นี่หน่า? หรือว่าจะตอบว่าเนื่องในวันาเลนไทน์งั้นหรอ

     

    (หรือว่าเป็นดอกไม้ที่คุณจะมอบให้คนพิเศษในวันวาเลนไทน์นี่คะ) เสียงหวานของพนักงานร้านดอกไม้เอ่ยเสนอคำตอบที่น่าเป็นไปได้ที่สุด  หลังจากที่ดูท่าแล้วลูกค้าหนุ่มที่หล่อนคุยด้วยตอนนี้คงกำลังงงเป็นแน่

    “อ่ะ ใช่แล้วครับ.. ใช่แล้ว”

    (ค่ะ  งั้นคุณลูกค้าสนใจเป็นดอกไม้อะไรดีคะ)

    “ครับ?”

    ( แต่ถ้าหากเป็นโอกาสในวันนี้  ทางร้านขอแนะนำให้เป็นดอกกุหลาบจะเหมาะที่สุดนะคะ)

    “อ่อ ครับ  ดอกกุหลาบครับ” เสียงทุ้มขานตอบรับคำแนะนำของพนักงานสาวพลางพยักหน้าไปด้วย  โดยที่เขาคงลืมคิดไปว่าต่อให้พยักหน้าไปเจ้าหล่อนก็คงไม่เห็นหรอก

    (ค่ะ ดอกกุหลาบนะคะ .. แล้วคุณลูกค้าต้องการให้ทางเราจัดให้กี่ดอกดีคะ)

    “กี่ดอกหรอครับ  เอ่อ.. แปปนึงนะครับ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาทวนคำถามของทางปลายสาย  ก่อนที่จะบอกขอเวลาปลายทางเพื่อที่เขาจะรื้อกระเป๋าเพื่อหยิบกระดาษที่เขาจดข้อมูลเอาไว้ล่วงหน้าออกมา

    “ได้แล้วครับๆ   ผมต้องการให้จัดทั้งหมดเป็นช่อ 8 ดอกครับ”

    (ค่ะ ช่อ 8 ดอกนะคะ  แล้วสิหล่ะคะ  จะรับแดงล้วนเลยหรือผสมคะ)

    “ผสมครับ.. ผสม  เอาเป็นสีแดง 5 ดอกกับสีขาว 3 ดอกครับ” เสียงทุ้มตอบคำถามจากคำตอบที่เขาเขียนไว้ในกระดาษแผ่นเดิม

    (ได้คะ  ไว้ทางเราจะเตรียมไว้ให้นะคะ .. แล้วไม่ทราบว่าคุณลูกค้าสะดวกมารับเมื่อไหร่คะ)

                    สิ้นคำถามจากพนักงานสาวของร้านดอกไม้  ก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับต้องยกข้อมือของตนขึ้นมาเพื่อดูนาฬิกา  พลางนึกคำนวณไปถึงว่าวันนี้การซ้อมน่าจะเสร็จประมาณกี่โมง  และเขาจะนัดเจออีกคนตอนไหนดี 

    “อีกสักประมาณครึ่งชั่วโมงได้ไหมครับ” แต่จนแล้วจนรอดเสียงทุ้มก็สามารถให้คำตอบทางร้านไปจนได้  ซึ่งกว่าจะคิดออกนั่นก็แทบเอาเขาต้องปาดเหงื่อเลยทีเดียว

    (ได้ค่ะ  ขอบคุณที่ใช้บริการร้านเรานะคะ)

    “ครับ  ขอบคุณครับ”  เสียงทุ้มพูดปิดการสนทนาเป็นการทิ้งท้าย  ก่อนที่เขาจะตัดสายไปในที่สุด

     

    หลังจากเสร็จสิ้นการตระเตรียมดอกไม้แล้ว  ไอโฟน 6 เครื่องเดิมที่ถูกใช้เมื่อครู่ก็ถูกยัดกลับลงกระเป๋าตามเดิม  ก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาจะอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี 

    ดวงตาเรียวคมคู่เดิมบนใบหน้าหล่อเหลานี้เหลือบมองตัวหนังสือไก่เขี่ยของตนเองในกระดาษยับๆ แผ่นเดียวกับที่ช่วยให้เขาผ่านพ้นการสั่งดอกไม้ไปได้ด้วยดี  ว่าไปแล้วพอเหลือบมองผ่านไปแบบนั้นเขาก็อดที่จะเอามันขึ้นมาอ่านทวนข้อมูลทั้งหลายที่เขาหาจากเน็ตเมื่อวันก่อนที่จะเอามาในการนี้โดยเฉพาะอีกครั้ง

    สำหรับช่อดอกไม้ที่เขาสั่งจัดไปในครั้งนี้คือใช้ดอกกุหลาบทั้งหมด 8 ดอก แทน ข้อความที่เขาอยากจะชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไป โดยเป็นดอกสีขาว 3 ดอก คือ ฉันรักเธอ และสีแดง 5 ดอก คือการให้ที่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ  ซึ่งจะมีความหมายว่ารวมๆ ว่า..

    ช่อดอกกุหลาบนี้เขาอยากจะให้เพื่อเป็นสิ่งชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไปสำหรับเขากับลู่หาน ซึ่งการที่เขาเลือกรักลู่หานนั่น  มันจะทำให้เขาจะไม่ต้องเสียใจเลยที่ให้หัวใจตัวเองแก่ลูกกวางน้อยนั่น

    แค่เพียงนึกถึงใบหน้าของคนคนนั้นยามที่เขายื่นช่อดอกกุหลาบที่สั่งไว้ให้ไป  ว่าคงจะต้องน่ารักอย่างแน่นอนแบบนี้มันก็ทำเอาเขาไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย 

     

    “อี้ฝานเสร็จรึยัง  ใกล้ถึงเวลาแล้วนะ” ชายหนุ่มตัวใหญ่ที่มีฐานะเป็นผู้จัดการของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคนที่นั่งอยู่หน้ากระจก หรือ อู๋อี้ฝานชะโงกหน้าเข้ามาในห้อง  เพื่อเรียกเด็กในปกครองของตนให้ไปขึ้นรถ

    “เสร็จแล้วครับ  ไปแล้วครับ” อู๋อี้ฝานขานรับผู้จัดการของตน  พลางมองอีกคนจากทางกระจก

    “งั้นพี่ไปสตาร์ทรถรอนะ”

    “ครับ” เสียงทุ้มตอบรับผู้จัดการที่เพิ่งเดินออกไปอีกครั้ง  ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและหยิบกระเป๋าของตนขึ้นมาสะพายเอาไว้  แต่ก่อนหน้าที่จะเดินออกจากห้องไป  ใบหน้าหล่อเหลาใบเดิมก็หันกลับมามองที่กระจกอีกครั้ง

     

    “นายจะรู้สึกยังไงตอนที่เห็นช่อดอกไม้นั้นนะ” เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเองในกระจกด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนที่เขาจะเดินตามผู้จัดการที่เดินไปรอเขาล่วงหน้าที่รถแล้ว

     

     

     

     

                    ดวงตากลมโตลุกลี้ลุกล้นพลางกวาดตามองไปทั่วบริเวณห้องพักของบรรดาผู้เข้าร่วมงานตั้งแต่มาถึงจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่หยุด  ร้อนถึงเพื่อนสนิทที่พ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวที่รู้สึกเหนื่อยใจกับท่าทีแปลกๆ แบบนี้ของเพื่อนหน้าหวาน  จนอดไม่ได้ที่จะต้องเรียกสติของอีกคนให้กลับมา  ก่อนที่คนอื่นๆ เขาจะตกใจว่ามี ลูกกวางหลงฝูงหลุดเข้างานมาเป็นได้

    “ลู่หาน” เสียงทุ้มจากผู้จัดการร่างโตของคนหน้าหวานเอ่ยเรียกศิลปินในปกครองของตน

    “...” แต่ทว่าดูท่าเหมือนกวางน้อยตัวนี้ยังคงไม่สนใจเขา

    “ลู่หาน!

    เนื่องจากเรียกดีๆ แล้วไม่ยอมหันในครั้งแรก  คราวนี้ผู้จัดการหนุ่มจึงเลือกที่จะไม่เรียกเปล่าหากแต่พาดมือเข้าไปที่แผ่นหลังบางด้วยแรงที่ไม่เบานัก  ซึ่งนั่นทำเอากวางน้อยที่ลุกลี้ลุกลนถึงกลับร้องโอดครวญขึ้นมาทันที

    “ทำอะไรของนายเนี่ย เหลาเกา!!” เสียงหวานตะโกนใส่เพื่อนมือหนักด้วยเสียงไม่ดังนัก

    “ก็นายเอาแต่ทำตัวลุกลี้ลุกล้นแบบนี้  เดี๊ยวคนอื่นก็คิดว่ามีกวางป่าหลุดเข้ามาหรอก”

    “ตลกแหละ” ลู่หานตอกครับคนเป็นเพื่อนพร้อมเบ้ปากอย่างน่ารัก

    “ก็มันจริง”

    “เปล่าเถอะ”

    “จริง! อ้าว.. นั่น อู๋อี้ฝานนิ”

     

                    เพียงสิ้นเสียงทุ้มของเกาซูเหยา  ลู่หานก็รีบหันตามไปในทางเดียวกับที่อีกคนมองอยู่ในทันที  และนั่นทำให้เขาได้เห็นอีกคนอย่างชัดเจน  เจ้าของร่างสูงโปร่งกับใบหน้าแสนหล่อเหลาที่มาในชุดสูทสีขาวที่ถูกคลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำแบรนด์โปรดของเจ้าตัว  ที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังห้องพักที่อยู่ถัดจากห้องของเขาไป 

                    ทั้งๆ ที่ลู่หานคิดว่ามันคงจะเหมือนกับทุกทีที่ร่างสูงนั้นจะต้องเดินผ่านเขาไปราวกลับว่าพวกเขาทั้งคู่มองไม่เห็นกัน  แต่วันนี้มันกลับแปลกไปเมื่อเขาไม่อาจละสายตาจากร่างสูงได้เลย  หรือว่านี้จะเป็นเพราะเขากำลังตื่นเต้นเรื่องช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ที่อยู่หลังรถกัน 

                    ก็นะ  ต่อให้คิดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก  ในเมื่อตอนนี้เขาสามารถยืนมองและยิ้มอยู่คนเดียวได้ตรงนี้  .. ลู่หานคิดแบบนี้จริงๆ จนกระทั่งเมื่อร่างสูงนั้นดันหันหน้ามาทางเขา  ทำให้สายตาของพวกเขาทั้งสองเผลอประสานกับพอดี  แต่ไม่พอแค่นั้นเพราะถ้าหากร่างสูงนั้นหันกลับเหมือนไม่เห็นอะไรก็คงดีกว่านี้

                    ..ไม่ใช่แค่ไม่หันกลับ  แต่กลับยิ่งจ้องมาทางเขาแถมยังยิ้มออกมาอีกแบบนี้

     

    ให้ตายสิ! อู๋อี้ฝาน  นี่ฉันจะฆ่าฉันให้ตายให้ตายเลยใช่ไหม?!’

     

     

                    และแล้วการซ้อมงานในวันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี  นี่เหมือนกับทุกๆ วันที่เขาได้แต่แอบมองลอบร่างสูงในตอนที่พวกเขาไม่ได้เข้ากล้องด้วยกัน  แต่ทว่าวันธรรมดาๆ นี่กำลังจะเปลี่ยนไป  เมื่อในวันนี้เขามีช่อดอกไม้มาสำหรับร่างสูงนั่นด้วย 

                    ว่าแต่เอ๊ะ? มันหายไปไหนล่ะเนี่ย  เจ้าของดวงตากลมโตคิดในใจ  พลางก้มๆ เงยๆ ค้นบริเวณที่แต่งหน้าของตัวเอง  เมื่อจู่ๆ ช่อดอกกุหลาบที่วางเอาไว้ก็กลับหายไป .. รึว่าจะมีคนเอาไป

    “นายทำอะไรของนายหน่ะ  ลู่หาน” แม้ว่าเกาซูเหยาจะรู้ว่าเพื่อนดวงโตของตนไฮเปอร์แค่ไหน  แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เข้าใจสภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาอยู่ดี

    “เหลาเกา  มันหายไป” ลู่หานรีบถลามาหาเพื่อนของตนทันที  ก่อนที่จะชี้มือไปมาแล้วค่อยฟ้องเรื่องที่เกิดขึ้น

    “ห๊ะ?”

    “มันหายไป.. มันหายไปแล้ว”

    “อะไรหายลู่หาน”

    “ช่อดอกกุหลาบของฉัน  มันหายไปแล้ว  หายไปแล้วอ่ะ” เสียงหวานโวยวายไม่หยุดก่อนที่จะเบะปากเป็นการทิ้งท้าย 

     

                    ตอนนี้ลู่หานกำลังรู้สึกแย่สุดๆ ในเมื่อช่อดอกไม้ที่เขาพยายามจัดและเลือกเองกับมือ  เพื่อที่จะเอามาให้ คนสำคัญ  ของเขามันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย  และพอคิดได้แบบนั้นหัวใจที่เคยพองโตมาทั้งวันของเขาก็กลับห่อเหี่ยวไปในทันที

     

    “ที่ว่าหายเนี่ย  ช่อดอกกุหลาบที่นายจะเอามาให้อู๋อี้ฝานใช่ไหม”

    “อืมม”

    “อ่อ  ถ้าไอ้นั่นมันไม่ได้หายไปไหนหรอก  .. แต่ฉันเอาไปให้ทางนู้นแทนนายแล้วต่างหาก”

    เมื่อรับรู้ว่าอะไรคือสิ่งทำให้กวางน้อยแสนร่างเริ่งนี้กลายเป็นกวางที่ซึมเศร้าอย่างกับรอกำลังรอเข้าเตาอบแบบนี้  เกาซูเหยาจึงต้องรีบอธิบายเรื่องทั้งหมดให้กวางน้อยตัวนี้ฟังในทันที

     

    “ก็ฉันได้ยินมาจากผู้จัดการของทางนู้นว่า  อู๋อี้ฝานมีงานเปิดตัวหนังต่อแล้วก็เลยจะกลับไปก่อน  ฉันเลยรีบเอาช่อดอกกุหลาบที่นายเตรียมมาไว้ไปฝากให้ทางนู้นเขาก่อน”

    “อ่อ แบบนี้นี่เอง” พอได้ฟังคำอธิบายเรื่องทั้งหมดแล้วสีหน้าของลู่หานก็ดีขึ้นมาบ้าง  แม้ว่ามันยังเจือไปด้วยความผิดหวังเล็กๆ ก็ตาม

    “เฮ้! อย่าซึมดิ  นี่รู้ไหมเนี่ยว่า อู๋อี้ฝาน หมอนั่นก็ฝากอะไรมาให้เหมือนกัน”

    “ให้ฉัน.. หรอ?”

    “อืม  ฉันเก็บไว้ในรถหน่ะ  ฉะนั้นนายรีบๆ หายซึมแล้วไปดูของขวัญสำหรับนายได้แล้ว”

    “สำหรับฉันหรอ  หมอนั่นฝากเอาไว้ให้ฉันหรอ” ลู่หานเผลอพูดออกมาเสียงดังโดยที่ไม่ได้เก็บซ่อนความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความดีใจของตนไว้เลยสักนิด  ก่อนที่จะวิ่งนำลิ่วไปโดยที่ไม่รอผู้จัดการของตนที่เดินถือข้าวของพะรุงพะรังเลยสักนิด

                   

    ก็ทำไงได้หล่ะ  ก็แทบจะอดใจที่จะเห็นของที่ฝานฝานฝากมาให้เขาไม่ได้แล้วนี่หน่า

     

     

     

     

    “ยิ้มไม่หุบเลยนะ อี้ฝาน” ผู้จัดการหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวเด็กในปกครองของตน  เมื่อเด็กหนุ่มตัวสูงนี้นั่งยิ้มเหมือนคนสนติไม่เต็มเต็งตั้งแต่ได้รับช่อกดอกุหลาบนี้มาจากผู้จัดการของ ลู่หาน แล้ว

     

    รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นมาประดับบนใบหน้าแสนหล่อเหลาของเจ้าของร่างสูงโปร่งตั้งแต่ขึ้นรถมายันตอนนี้ก็ยังไม่แม้จะหุบยิ้มเลยสักนิด  เขายิ้ม.. ยิ้มให้กับช่อกุกลาบบิดๆ เบี้ยวๆ ในมือของตน

    ช่อดอกกุหลาบที่มีทั้งหมด 11 ดอก เป็นดอกสีแดง 2 ดอกและดอกสีขาว 9 ดอก  เอาจริงๆ เขาไม่คิดเลยว่าลู่หานเองก็เลือกที่จะใช้ดอกกุหลาบสีขาว-แดงเช่นเดียวกับเขา  หากแต่ความหมายที่แฝงมาของช่อดอกไม้ของอีกคนกลับเถรตรงยิ่งกว่าเขา  ความหมายที่เล่นเอาหุบยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ  เมื่อ  ดอกกุหลาบ 11 ดอกคือรักเธอที่สุด  ส่วนดอกสีขาว 2 ดอกแปลว่า มีเพียงฉันกับเธอ เมื่อรวมกับดอกสีแดงอีก 9 ดอกที่มีความหมายว่า อยู่ด้วยกันให้ยืนยาวและมั่นคง .. มันจะกลายเป็นข้อความที่แสนโรแมนติกที่สุดเท่าที่เขาเคยได้รับจากใครทั้งหมดมา

    ข้อความที่ว่า “ฉันรักเธอที่สุด, มีเพียงฉันกับเธอ  เราจะอยู่ด้วยกันให้ยืนยาวและมั่นคง (ตลอดไป)”

     

    “ทำไงได้ล่ะครับ  ก็ผมมีความสุขนี้ครับ .. วาเลนไทน์ปีนี้นี่มันเยี่ยมที่สุดเลย” เสียงทุ้มตอบกลับผู้จัดการของตนเองโดยที่ยังไม่คิดจะหุบรอยยิ้มนี้เลยสักนิด

     

    .

    .

     

    “ความหมายสุดท้าย การจัดรวมดอกกุลาบสีแดงและขาวเข้าด้วยกัน  มันแปลว่า สองคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  เหมือนกับพวกเขาสองคนที่มีหัวใจเชื่อมราวกลับเป็นดวงเดียวกัน”




    ....................................................................................................



    แวะมาแต่ง SF ตอนรับวันวาเลนไทน์  โยวันนี้ก็เป็นอีกหนึงวันที่มีซ้อมงานกาลาของ CCTV สินะคะ
    วันนี้จะเป็นวันวาเลนไทน์ที่หวานที่สุดของทุกปีเลย 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×