คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : SF ::Connotation (Valentine's Day)::
::Connotation::
SF @ Valentine’s Day
‘เป็นที่เข้าใจกันทั่วโลก ว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี คือ วันวาเลนไทน์
หรืออีกชื่อ คือ วันแห่งความรัก’
.
.
วันที่ให้โอกาสให้ทุกคนบนโลกใบนี้สามารถแสดงความรู้สึกแก่คนพิเศษของตนเองได้อย่างเต็มที่
ดวงตากลมโตใสสุกสกาวดุจดั่งลูกกวางกวาดสายตาไปตามตัวหนังสือบรรทัดแล้ว บรรทัดเล่าของหนังสือเล่มเล็กในมือของตน พลางแอบเถียงประโยคๆ หนึ่งในหนังสือกับตัวเองเบาๆ
“ไม่ใช่ ‘ทุกคน’ สักหน่อย” เสียงหวานถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากบางที่กำลังขยับไปมาเพื่อเถียงกับข้อความในหนังสือ ก่อนที่มือสวยคู่เดิมที่เคยถือหนังสือก่อนหน้าได้โยนหนังสือเล่มนั้นลงบนโต๊ะตรงหน้า
“ถ้าทำได้ ‘ทุกคน’ จริงๆ .. แล้วฉันจะสามารถแสดงความรู้สึกของฉันให้กับนายได้บ้างรึเปล่านะ”
พูดจบร่างบางเจ้าของดวงตากลมโตกับเสียงหวานนี้ก็ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ก่อนหน้า เพื่อเดินข้ามไปยังอีกห้อง ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงยังโซฟายาวแสนนุ่มที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องนี้
“อยากซื้อดอกไม้จัง” ร่างหวานพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาราวกลับคิดอะไรได้
“เหลาเกา!!” ว่าแล้วก็ตะโกนเรียกชื่อเพื่อนสนิทลั่น ซึ่งนั่นทำเอาเจ้าของชื่อต้องรีบวิ่งหน้าตาตื่นมาหาเจ้าของเสียงหวานในทันที เพราะกลัวว่าอีกคนอาจจะเกิดอุบัติเหตูหรืออะไรก็ตาม
“มีอะไร.. หรือนายเป็นอะไรไปเปล่า?” เจ้าของชื่อเหลาเกาที่เพิ่งมาถึงรีบเอ่ยถามคนเป็นเพื่อนด้วยเสียงตื่นๆ
“เปล่า”
“อ้าว ไม่มีแล้วตะโกนเรียกฉันเพื่อ?”
“ฉันอยากได้ดอกไม้” เจ้าของตากลมโตรีบแถลงไขคำตอบให้เพื่อนร่างโตของตนฟังทันที เพราะหากชักช้าเขาอาจโดนอีกคนฆ่าทิ้งโทษฐานไร้สาระก็เป็นได้
“ห๊า?”
“เตรียมดอกไม้ให้หน่อย ฉันจะเอาไปให้คน”
ร่างสูงโปร่งเจ้าของความสูงเกือบ 190 ซม. กำลังยืนหมุนไปมาอยู่หน้ากระจก เพื่อเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าที่ทางคอสตูมจัดให้เขาในวันนี้ ปลายนิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาขยับเสื้อคลุมตัวนอกให้เข้าที่เข้าทาง
ดวงหน้าหล่อเหลาที่ผ่านการแต่งหน้าอ่อนๆ สำหรับการซ้อมการแสดงในวันนี้ที่สตูดิโอของทางช่อง CCTV ยื่นเข้าไปจนแทบชินกับกระจกตรงหน้า ดวงตาเรียวคมมองพิจารณาใบหน้าตัวเองให้เรียบร้อยอีกครั้ง และเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ริมฝีปากหนาจึงได้คลี่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
หลังจากที่เช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าตาเรียบร้อย ร่างสูงโปร่งจึงค่อยๆ ทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ที่อยู่หน้ากระจก ก่อนที่จะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะแต่งหน้า เพื่อหยิบไอโฟน 6 ของตนเองออกมา นิ้วเรียวยาวใส่รหัสปลดเครื่องของตนเองอย่างคล่องแคล่วจนเผยให้เห็นหน้าจอที่เรียกรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลานี้ได้ ซึ่งรูปหน้าจอนี้ก็ไม่ใช่อะไรนอกเสียจากเป็นรูปของ ‘คนสำคัญ’ ของเขาก็เท่านั้น
หลังจากมัวแต่มองหน้าจอของตนเพลินๆ จนกินเวลาไปหลายนาที เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็เพิ่งได้สติและรีบกดเข้ายังการโทร และเลือกกดโทรออกเบอร์ที่ถูกเมมชื่อไว้ว่า ‘ร้านดอกไม้’
(ร้านดอกไม้ปิงฮัว มีอะไรให้รับใช้คะ?) เสียงหวานจากทางปลายสายเอ่ยทักทายคนโทรไปทันทีที่ต่อสายติด
“เอ่อ.. คือ ผมสนใจจะสั่งดอกไม้น่ะครับ”
(ได้คะ ว่าแต่เป็นดอกไม้เนื่องในโอกาสอะไรคะ)
“ในโอกาสหรอครับ เอ๋?”
พอถูกซักรายละเอียดมาถึงตรงนี้ ตอนนี้เจ้าของเสียงทุ้มก็เริ่มคิดไม่ออกแล้วว่าควรจะตอบอะไรดี ก็ในเมื่อดอกไม้ที่เขาจะสั่งในวันนี้ก็แค่เพราะเขาอยากจะให้อีกคนเฉยๆ .. แต่ว่าวันนี้มันเป็นวันวาเลนไทน์นี่หน่า? หรือว่าจะตอบว่าเนื่องในวันาเลนไทน์งั้นหรอ
(หรือว่าเป็นดอกไม้ที่คุณจะมอบให้คนพิเศษในวันวาเลนไทน์นี่คะ) เสียงหวานของพนักงานร้านดอกไม้เอ่ยเสนอคำตอบที่น่าเป็นไปได้ที่สุด หลังจากที่ดูท่าแล้วลูกค้าหนุ่มที่หล่อนคุยด้วยตอนนี้คงกำลังงงเป็นแน่
“อ่ะ ใช่แล้วครับ.. ใช่แล้ว”
(ค่ะ งั้นคุณลูกค้าสนใจเป็นดอกไม้อะไรดีคะ)
“ครับ?”
( แต่ถ้าหากเป็นโอกาสในวันนี้ ทางร้านขอแนะนำให้เป็นดอกกุหลาบจะเหมาะที่สุดนะคะ)
“อ่อ ครับ ดอกกุหลาบครับ” เสียงทุ้มขานตอบรับคำแนะนำของพนักงานสาวพลางพยักหน้าไปด้วย โดยที่เขาคงลืมคิดไปว่าต่อให้พยักหน้าไปเจ้าหล่อนก็คงไม่เห็นหรอก
(ค่ะ ดอกกุหลาบนะคะ .. แล้วคุณลูกค้าต้องการให้ทางเราจัดให้กี่ดอกดีคะ)
“กี่ดอกหรอครับ เอ่อ.. แปปนึงนะครับ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาทวนคำถามของทางปลายสาย ก่อนที่จะบอกขอเวลาปลายทางเพื่อที่เขาจะรื้อกระเป๋าเพื่อหยิบกระดาษที่เขาจดข้อมูลเอาไว้ล่วงหน้าออกมา
“ได้แล้วครับๆ ผมต้องการให้จัดทั้งหมดเป็นช่อ 8 ดอกครับ”
(ค่ะ ช่อ 8 ดอกนะคะ แล้วสิหล่ะคะ จะรับแดงล้วนเลยหรือผสมคะ)
“ผสมครับ.. ผสม เอาเป็นสีแดง 5 ดอกกับสีขาว 3 ดอกครับ” เสียงทุ้มตอบคำถามจากคำตอบที่เขาเขียนไว้ในกระดาษแผ่นเดิม
(ได้คะ ไว้ทางเราจะเตรียมไว้ให้นะคะ .. แล้วไม่ทราบว่าคุณลูกค้าสะดวกมารับเมื่อไหร่คะ)
สิ้นคำถามจากพนักงานสาวของร้านดอกไม้ ก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับต้องยกข้อมือของตนขึ้นมาเพื่อดูนาฬิกา พลางนึกคำนวณไปถึงว่าวันนี้การซ้อมน่าจะเสร็จประมาณกี่โมง และเขาจะนัดเจออีกคนตอนไหนดี
“อีกสักประมาณครึ่งชั่วโมงได้ไหมครับ” แต่จนแล้วจนรอดเสียงทุ้มก็สามารถให้คำตอบทางร้านไปจนได้ ซึ่งกว่าจะคิดออกนั่นก็แทบเอาเขาต้องปาดเหงื่อเลยทีเดียว
(ได้ค่ะ ขอบคุณที่ใช้บริการร้านเรานะคะ)
“ครับ ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มพูดปิดการสนทนาเป็นการทิ้งท้าย ก่อนที่เขาจะตัดสายไปในที่สุด
หลังจากเสร็จสิ้นการตระเตรียมดอกไม้แล้ว ไอโฟน 6 เครื่องเดิมที่ถูกใช้เมื่อครู่ก็ถูกยัดกลับลงกระเป๋าตามเดิม ก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาจะอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
ดวงตาเรียวคมคู่เดิมบนใบหน้าหล่อเหลานี้เหลือบมองตัวหนังสือไก่เขี่ยของตนเองในกระดาษยับๆ แผ่นเดียวกับที่ช่วยให้เขาผ่านพ้นการสั่งดอกไม้ไปได้ด้วยดี ว่าไปแล้วพอเหลือบมองผ่านไปแบบนั้นเขาก็อดที่จะเอามันขึ้นมาอ่านทวนข้อมูลทั้งหลายที่เขาหาจากเน็ตเมื่อวันก่อนที่จะเอามาในการนี้โดยเฉพาะอีกครั้ง
‘สำหรับช่อดอกไม้ที่เขาสั่งจัดไปในครั้งนี้คือใช้ดอกกุหลาบทั้งหมด 8 ดอก แทน ข้อความที่เขาอยากจะชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไป โดยเป็นดอกสีขาว 3 ดอก คือ ฉันรักเธอ และสีแดง 5 ดอก คือการให้ที่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ซึ่งจะมีความหมายว่ารวมๆ ว่า..
ช่อดอกกุหลาบนี้เขาอยากจะให้เพื่อเป็นสิ่งชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไปสำหรับเขากับลู่หาน ซึ่งการที่เขาเลือกรักลู่หานนั่น มันจะทำให้เขาจะไม่ต้องเสียใจเลยที่ให้หัวใจตัวเองแก่ลูกกวางน้อยนั่น’
แค่เพียงนึกถึงใบหน้าของคนคนนั้นยามที่เขายื่นช่อดอกกุหลาบที่สั่งไว้ให้ไป ว่าคงจะต้องน่ารักอย่างแน่นอนแบบนี้มันก็ทำเอาเขาไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย
“อี้ฝานเสร็จรึยัง ใกล้ถึงเวลาแล้วนะ” ชายหนุ่มตัวใหญ่ที่มีฐานะเป็นผู้จัดการของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคนที่นั่งอยู่หน้ากระจก หรือ ‘อู๋อี้ฝาน’ ชะโงกหน้าเข้ามาในห้อง เพื่อเรียกเด็กในปกครองของตนให้ไปขึ้นรถ
“เสร็จแล้วครับ ไปแล้วครับ” อู๋อี้ฝานขานรับผู้จัดการของตน พลางมองอีกคนจากทางกระจก
“งั้นพี่ไปสตาร์ทรถรอนะ”
“ครับ” เสียงทุ้มตอบรับผู้จัดการที่เพิ่งเดินออกไปอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและหยิบกระเป๋าของตนขึ้นมาสะพายเอาไว้ แต่ก่อนหน้าที่จะเดินออกจากห้องไป ใบหน้าหล่อเหลาใบเดิมก็หันกลับมามองที่กระจกอีกครั้ง
“นายจะรู้สึกยังไงตอนที่เห็นช่อดอกไม้นั้นนะ” เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเองในกระจกด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะเดินตามผู้จัดการที่เดินไปรอเขาล่วงหน้าที่รถแล้ว
ดวงตากลมโตลุกลี้ลุกล้นพลางกวาดตามองไปทั่วบริเวณห้องพักของบรรดาผู้เข้าร่วมงานตั้งแต่มาถึงจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่หยุด ร้อนถึงเพื่อนสนิทที่พ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวที่รู้สึกเหนื่อยใจกับท่าทีแปลกๆ แบบนี้ของเพื่อนหน้าหวาน จนอดไม่ได้ที่จะต้องเรียกสติของอีกคนให้กลับมา ก่อนที่คนอื่นๆ เขาจะตกใจว่ามี ‘ลูกกวางหลงฝูง’ หลุดเข้างานมาเป็นได้
“ลู่หาน” เสียงทุ้มจากผู้จัดการร่างโตของคนหน้าหวานเอ่ยเรียกศิลปินในปกครองของตน
“...” แต่ทว่าดูท่าเหมือนกวางน้อยตัวนี้ยังคงไม่สนใจเขา
“ลู่หาน!”
เนื่องจากเรียกดีๆ แล้วไม่ยอมหันในครั้งแรก คราวนี้ผู้จัดการหนุ่มจึงเลือกที่จะไม่เรียกเปล่าหากแต่พาดมือเข้าไปที่แผ่นหลังบางด้วยแรงที่ไม่เบานัก ซึ่งนั่นทำเอากวางน้อยที่ลุกลี้ลุกลนถึงกลับร้องโอดครวญขึ้นมาทันที
“ทำอะไรของนายเนี่ย เหลาเกา!!” เสียงหวานตะโกนใส่เพื่อนมือหนักด้วยเสียงไม่ดังนัก
“ก็นายเอาแต่ทำตัวลุกลี้ลุกล้นแบบนี้ เดี๊ยวคนอื่นก็คิดว่ามีกวางป่าหลุดเข้ามาหรอก”
“ตลกแหละ” ลู่หานตอกครับคนเป็นเพื่อนพร้อมเบ้ปากอย่างน่ารัก
“ก็มันจริง”
“เปล่าเถอะ”
“จริง! อ้าว.. นั่น อู๋อี้ฝานนิ”
เพียงสิ้นเสียงทุ้มของเกาซูเหยา ลู่หานก็รีบหันตามไปในทางเดียวกับที่อีกคนมองอยู่ในทันที และนั่นทำให้เขาได้เห็นอีกคนอย่างชัดเจน เจ้าของร่างสูงโปร่งกับใบหน้าแสนหล่อเหลาที่มาในชุดสูทสีขาวที่ถูกคลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำแบรนด์โปรดของเจ้าตัว ที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังห้องพักที่อยู่ถัดจากห้องของเขาไป
ทั้งๆ ที่ลู่หานคิดว่ามันคงจะเหมือนกับทุกทีที่ร่างสูงนั้นจะต้องเดินผ่านเขาไปราวกลับว่าพวกเขาทั้งคู่มองไม่เห็นกัน แต่วันนี้มันกลับแปลกไปเมื่อเขาไม่อาจละสายตาจากร่างสูงได้เลย หรือว่านี้จะเป็นเพราะเขากำลังตื่นเต้นเรื่องช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ที่อยู่หลังรถกัน
ก็นะ ต่อให้คิดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ในเมื่อตอนนี้เขาสามารถยืนมองและยิ้มอยู่คนเดียวได้ตรงนี้ .. ลู่หานคิดแบบนี้จริงๆ จนกระทั่งเมื่อร่างสูงนั้นดันหันหน้ามาทางเขา ทำให้สายตาของพวกเขาทั้งสองเผลอประสานกับพอดี แต่ไม่พอแค่นั้นเพราะถ้าหากร่างสูงนั้นหันกลับเหมือนไม่เห็นอะไรก็คงดีกว่านี้
..ไม่ใช่แค่ไม่หันกลับ แต่กลับยิ่งจ้องมาทางเขาแถมยังยิ้มออกมาอีกแบบนี้
‘ให้ตายสิ! อู๋อี้ฝาน นี่ฉันจะฆ่าฉันให้ตายให้ตายเลยใช่ไหม?!’
และแล้วการซ้อมงานในวันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี นี่เหมือนกับทุกๆ วันที่เขาได้แต่แอบมองลอบร่างสูงในตอนที่พวกเขาไม่ได้เข้ากล้องด้วยกัน แต่ทว่าวันธรรมดาๆ นี่กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อในวันนี้เขามีช่อดอกไม้มาสำหรับร่างสูงนั่นด้วย
ว่าแต่เอ๊ะ? มันหายไปไหนล่ะเนี่ย เจ้าของดวงตากลมโตคิดในใจ พลางก้มๆ เงยๆ ค้นบริเวณที่แต่งหน้าของตัวเอง เมื่อจู่ๆ ช่อดอกกุหลาบที่วางเอาไว้ก็กลับหายไป .. รึว่าจะมีคนเอาไป
“นายทำอะไรของนายหน่ะ ลู่หาน” แม้ว่าเกาซูเหยาจะรู้ว่าเพื่อนดวงโตของตนไฮเปอร์แค่ไหน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เข้าใจสภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาอยู่ดี
“เหลาเกา มันหายไป” ลู่หานรีบถลามาหาเพื่อนของตนทันที ก่อนที่จะชี้มือไปมาแล้วค่อยฟ้องเรื่องที่เกิดขึ้น
“ห๊ะ?”
“มันหายไป.. มันหายไปแล้ว”
“อะไรหายลู่หาน”
“ช่อดอกกุหลาบของฉัน มันหายไปแล้ว หายไปแล้วอ่ะ” เสียงหวานโวยวายไม่หยุดก่อนที่จะเบะปากเป็นการทิ้งท้าย
ตอนนี้ลู่หานกำลังรู้สึกแย่สุดๆ ในเมื่อช่อดอกไม้ที่เขาพยายามจัดและเลือกเองกับมือ เพื่อที่จะเอามาให้ ‘คนสำคัญ’ ของเขามันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย และพอคิดได้แบบนั้นหัวใจที่เคยพองโตมาทั้งวันของเขาก็กลับห่อเหี่ยวไปในทันที
“ที่ว่าหายเนี่ย ช่อดอกกุหลาบที่นายจะเอามาให้อู๋อี้ฝานใช่ไหม”
“อืมม”
“อ่อ ถ้าไอ้นั่นมันไม่ได้หายไปไหนหรอก .. แต่ฉันเอาไปให้ทางนู้นแทนนายแล้วต่างหาก”
เมื่อรับรู้ว่าอะไรคือสิ่งทำให้กวางน้อยแสนร่างเริ่งนี้กลายเป็นกวางที่ซึมเศร้าอย่างกับรอกำลังรอเข้าเตาอบแบบนี้ เกาซูเหยาจึงต้องรีบอธิบายเรื่องทั้งหมดให้กวางน้อยตัวนี้ฟังในทันที
“ก็ฉันได้ยินมาจากผู้จัดการของทางนู้นว่า อู๋อี้ฝานมีงานเปิดตัวหนังต่อแล้วก็เลยจะกลับไปก่อน ฉันเลยรีบเอาช่อดอกกุหลาบที่นายเตรียมมาไว้ไปฝากให้ทางนู้นเขาก่อน”
“อ่อ แบบนี้นี่เอง” พอได้ฟังคำอธิบายเรื่องทั้งหมดแล้วสีหน้าของลู่หานก็ดีขึ้นมาบ้าง แม้ว่ามันยังเจือไปด้วยความผิดหวังเล็กๆ ก็ตาม
“เฮ้! อย่าซึมดิ นี่รู้ไหมเนี่ยว่า อู๋อี้ฝาน หมอนั่นก็ฝากอะไรมาให้เหมือนกัน”
“ให้ฉัน.. หรอ?”
“อืม ฉันเก็บไว้ในรถหน่ะ ฉะนั้นนายรีบๆ หายซึมแล้วไปดูของขวัญสำหรับนายได้แล้ว”
“สำหรับฉันหรอ หมอนั่นฝากเอาไว้ให้ฉันหรอ” ลู่หานเผลอพูดออกมาเสียงดังโดยที่ไม่ได้เก็บซ่อนความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความดีใจของตนไว้เลยสักนิด ก่อนที่จะวิ่งนำลิ่วไปโดยที่ไม่รอผู้จัดการของตนที่เดินถือข้าวของพะรุงพะรังเลยสักนิด
‘ก็ทำไงได้หล่ะ ก็แทบจะอดใจที่จะเห็นของที่ฝานฝานฝากมาให้เขาไม่ได้แล้วนี่หน่า’
“ยิ้มไม่หุบเลยนะ อี้ฝาน” ผู้จัดการหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวเด็กในปกครองของตน เมื่อเด็กหนุ่มตัวสูงนี้นั่งยิ้มเหมือนคนสนติไม่เต็มเต็งตั้งแต่ได้รับช่อกดอกุหลาบนี้มาจากผู้จัดการของ ลู่หาน แล้ว
รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นมาประดับบนใบหน้าแสนหล่อเหลาของเจ้าของร่างสูงโปร่งตั้งแต่ขึ้นรถมายันตอนนี้ก็ยังไม่แม้จะหุบยิ้มเลยสักนิด เขายิ้ม.. ยิ้มให้กับช่อกุกลาบบิดๆ เบี้ยวๆ ในมือของตน
ช่อดอกกุหลาบที่มีทั้งหมด 11 ดอก เป็นดอกสีแดง 2 ดอกและดอกสีขาว 9 ดอก เอาจริงๆ เขาไม่คิดเลยว่าลู่หานเองก็เลือกที่จะใช้ดอกกุหลาบสีขาว-แดงเช่นเดียวกับเขา หากแต่ความหมายที่แฝงมาของช่อดอกไม้ของอีกคนกลับเถรตรงยิ่งกว่าเขา ความหมายที่เล่นเอาหุบยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ เมื่อ ‘ดอกกุหลาบ 11 ดอกคือรักเธอที่สุด ส่วนดอกสีขาว 2 ดอกแปลว่า มีเพียงฉันกับเธอ เมื่อรวมกับดอกสีแดงอีก 9 ดอกที่มีความหมายว่า อยู่ด้วยกันให้ยืนยาวและมั่นคง .. มันจะกลายเป็นข้อความที่แสนโรแมนติกที่สุดเท่าที่เขาเคยได้รับจากใครทั้งหมดมา’
ข้อความที่ว่า “ฉันรักเธอที่สุด, มีเพียงฉันกับเธอ เราจะอยู่ด้วยกันให้ยืนยาวและมั่นคง (ตลอดไป)”
“ทำไงได้ล่ะครับ ก็ผมมีความสุขนี้ครับ .. วาเลนไทน์ปีนี้นี่มันเยี่ยมที่สุดเลย” เสียงทุ้มตอบกลับผู้จัดการของตนเองโดยที่ยังไม่คิดจะหุบรอยยิ้มนี้เลยสักนิด
.
.
“ความหมายสุดท้าย การจัดรวมดอกกุลาบสีแดงและขาวเข้าด้วยกัน มันแปลว่า ‘สองคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน’ เหมือนกับพวกเขาสองคนที่มีหัวใจเชื่อมราวกลับเป็นดวงเดียวกัน”
....................................................................................................
แวะมาแต่ง SF ตอนรับวันวาเลนไทน์ โยวันนี้ก็เป็นอีกหนึงวันที่มีซ้อมงานกาลาของ CCTV สินะคะ
วันนี้จะเป็นวันวาเลนไทน์ที่หวานที่สุดของทุกปีเลย
ความคิดเห็น