คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบทแห่งสงคราม
ทุกอาณาจักรทั่วโลก ต่างไว้อาลัยให้กับการจากไปของกษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียนผู้ปกครองอาณาจักรโรเซ็ตต้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พระองค์จากไปอย่างสงบในตอนหัวรุ่งด้วยพระชนมายุแปดสิบเก้าพรรษาด้วยโรคชราภาพ ราชวงศ์ทิล ทราเวียนและข้าราชบริพารทุกคน ต่างโศกเศร้าเสียใจกับการสิ้นพระชมน์ของพระองค์ และพิธีพระศพของพระองค์จะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้า ข่าวการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ทุกอาณาจักรทั่วโลกต่างไว้อาลัยให้กับการจากไปของพระองค์ ผู้นำทางศาสนาท่องบทสวดมนต์เพื่อช่วยกันชำระล้างดวงวิญญาณของพระองค์ให้สะอาดบริสุทธิ์ เพื่อที่ดวงวิญญาณของพระองค์จะได้ขึ้นสู่สรวงสรรค์ อันเป็นสถานที่พักผ่อนของดวงวิญญาณบริสุทธิ์ ในตอนที่กษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน ยังทรงมีชีวิตอยู่ พระองค์ทรงปกครองอาณาจักรโรเซ็ตต้าได้อย่างดีเยี่ยม พระองค์ได้นำกองทัพอัศวินที่แข็งแกร่งบุกทำลายกลุ่มก่อการร้ายทั่วโลก และสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่ทุกอาณาจักร สงครามที่เกิดขึ้นทั่วโลกก็ลดน้อยลง นอกจากนี้พระองค์ยังได้รับตำแหน่งทางศาสนาอีกอย่างหนึ่งก็คือ กษัตริย์แห่งศาสนา พระองค์ได้ใช้หลักคำสอนของเทพเจ้าเป็นพื้นฐานในการปกครองอาณาจักรโรเซ็ตต้า และหยุดยั้งการทำชั่วทุกประการ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ประชาชนทั่วโลกจะรักและโศกเศร้าในวันที่พระองค์จากไป แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่ม ที่ไม่ได้รู้สึกเศร้าโศกเสียใจแบบนั้น พวกเค้าเหล่านั้นดีใจเสียมากกว่า ที่กษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน สิ้นพระชนม์ หนึ่งในนั้นก็คือกลุ่มอัลลาบัสต้า กลุ่มคนที่ได้ชื่อว่า โหดเหี้ยมและอำมหิตที่สุด! กลุ่มอัลลาบัสต้า เป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจมืดอยู่มากมาย ทั้งในเรื่องของการก่อสงคราม การค้าขายอาวุธเถื่อน การปล้นและฆ่าผู้บริสุทธิ์เพื่อทรัพย์สินของผู้ตาย คนพวกนั้นสามารถใช้เวทมนต์และพลังที่เหนือธรรมชาติได้ และพวกมันยังมีอาวุธทำลายล้างที่ทรงอานุภาพอีกด้วย กลุ่มอัลลาบัสต้าจึงเป็นเป้าหมายหลักของหลายอาณาจักร ที่ต้องการจะจัดการกับคนกลุ่มนี้ให้ราบคาบ ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์พอลลุกซ์ เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการทำพิธีพระศพของราชวงศ์ทิล ทราเวียนพระศพของกษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน ถูกนำมาไว้ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของราชวงศ์ทิล ทราเวียนทุกคน นอกจากนี้ก็ยังมีอัศวินระดับสูงและคนใกล้ชิดของพระองค์อีกมากมายที่มาร่วมไว้อาลัยแด่พระองค์ด้วย “ท่านพ่อ...” ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยขึ้นเสียงสั่น ในขณะที่เหล่าอัศวินยกร่างอันไร้วิญญาณของกษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน ขึ้นใส่ในโลกศพทองคำ หญิงสาวผมยาวสีเงินเดินเข้ามายืนข้าง ๆ พี่ชายของเธอด้วยอาการโศกเศร้า น้ำตาไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอด้วยความเสียใจ “พี่คะ...” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าพี่ชายของเธอราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ทรงเก็บคำพูดนั้นไว้อยู่ในใจต่อไป “ปล่อยให้ท่านพักผ่อนเถอะโอวิเลีย ท่านเหนื่อยมามากแล้ว...” องค์ชายวินเทอร์ ทิล ทราเวียนเอ่ยขึ้นพลางเช็ดน้ำตาให้กับโอวิเลีย น้องสาวของเขาอย่างนุ่มนวล ทันใดนั้นเอง ได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาภายในวิหาร ทุกคนหันไปมองการมาถึงของคนกลุ่มนั้นด้วยความสงสัย และทุกคนก็ต้องตกใจที่เห็นกลุ่มคนที่ไม่คิดว่าจะมาที่นี่ได้ แม้แต่วินเทอร์ ทิล ทราเวียน “คาออส วอร์ส!” เสียงของอัศวินระดับสูงหลายคนเอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจ กลุ่มคนจำนวนหกคนที่อยู่ในชุดเกราะเหล็กสีเทา และใส่หมวกเหล็กปกปิดใบหน้าไว้ เดินผ่านหน้าองค์ชายวินเทอร์และองค์หญิงโอวิเลียไป อัศวินทั้งหกคนนั่งลงต่อหน้าพระศพของกษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน อัศวินแห่งคาออส วอร์ส คืออัศวินที่ถูกเลือกจากกษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน คาออส วอร์สมีสมาชิกทั้งหมดหกคนด้วยกัน หัวหน้าของพวกเขาก็คือ ลอร์ด ลาซาร์ โซดิลอร์ อัศวินที่มีสมญานามว่า อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์ ทีผ่านมา ลอร์ดลาซาร์มีผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายมากมาย การจับพวกกบฏหลายร้อยคนเมื่อสองปีก่อน การทลายแหล่งคาอาวุธเถื่อน และการทำสงครามประกาศอิสรภาพให้อีกหลาย ๆ อาณาจักร ผลงานที่ผ่านมา ทำให้อัศวินแห่งคาออส วอร์ส มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่กลุ่มอัลลาบัสต้า ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่มีอิทธิพลมืดมากที่สุดในโลกยังต้องเกรงขาม “ข้าและกลุ่มคาออส วอร์สทุกคนเสียใจยิ่งกับการจากไปของพระองค์ ขอให้ดวงวิญญาณของพระองค์พักผ่อนอยู่ในสุสานแห่งกษัตริย์ชั่วนิรันดร์เถิด” หัวหน้าอัศวินคาออส วอร์สเอ่ยคำไว้อาลัยแก่กษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน แต่ไม่มีใครเห็นใบหน้าที่อยู่ภายใต้หมวกเหล็กรูปทรงนกอินทรีย์แม้แต่คนเดียว เมื่อหัวหน้าอัศวินกล่าวคำไว้อาลัยแก่กษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียนเสร็จแล้ว เขาก็เดินตรงเข้ามาหาองค์ชายวินเทอร์ ทิล ทราเวียนด้วยท่าทางเคารพ ทุกคนภายในวิหารรวมไปถึงวินเทอร์ ทิล ทราเวียนรู้สึกแปลกใจไม่น้อยกับท่าทางของลอร์ดลาซาร์ โซดิลอร์หัวหน้าอัศวินแห่งคาออส วอร์ส “องค์ชายวินเทอร์...” ลอร์ดลาซาร์เอ่ยขึ้นเสียงรียบ “ถึงเวลาแล้วที่รัชทายาทอันดับหนึ่งอย่างพระองค์จะขึ้นครองตำแหน่งกษัตริย์แห่งราชวงศ์ ทิล ทราเวียนต่อไป” คำพูดของลอร์ด ลาซาร์เป็นที่น่าตกใจต่อทุกคนภายในวิหารไม่น้อย เพราะไม่บ่อยครั้งนัก ที่กลุ่มคาออส วอร์สจะเข้ามามีบทบาทในเรื่องของราชวงศ์ทิล ทราเวียนแบบนี้ และเป้าหมายครั้งนี้ของกลุ่มคาออส วอร์ส คืออะไรกันแน่ “ท่านลาซาร์ โปรดระวังคำพูดของท่านหน่อย” อัลเฟโด้ มัวลิส อัศวินระดับสูงเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “นี่ไม่ใช่เวลาจะมาพูดเรื่องแบบนี้” และทุกคนในวิหารก็เห็นด้วย “อาณาจักรโรเซ็ตต้า ขึ้นชื่อว่าเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่งที่สุด...” ลอร์ดลาซาร์เอ่ยขึ้นเสียงเข้ม “ข้าเข้าใจความรู้สึกของพวกท่านดี แต่การขาดกษัตริย์ปกครองเมืองถือว่าเป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นที่สุด พวกท่านทุกคนก็รู้ดีว่า คนบางกลุ่มอย่างเช่นกลุ่มอัลลาบัสต้าที่นับวันเริ่มแข็งกล้าขึ้นทุกที กำลังจับตามองพวกเราอยู่ และเมื่อพวกมันสบโอกาส อาณาจักรของเราคงจะต้องเดือดร้อนเป็นแน่ และอีกอย่างพวกอัศวินทุกคนตอนนี้ต้องการกำลังใจจากกษัตริย์องค์ใหม่เป็นอย่างมาก” ทุกคนในวิหารไม่มีใครพูดอะไรออกมา เพราะเหตุผลที่ลอร์ดลาซาร์ยกขึ้นมาเป็นความจริงทั้งหมด ถ้าไม่มีกษัตริย์ปกครองเมือง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ “พวกท่านลองคิดดูสิ ถ้าหากกลุ่มอัลลาบัสต้านำกองกำลังที่โหดเหี้ยมบุกโจมตีอาณาจักรของเราตอนนี้ อะไรจะเกิดขึ้น! อาณาจักรที่ไม่มีกษัตริย์ปกครองก็เหมือนกับเมืองที่ไม่มีประชาชน” ลอร์ดลาซาร์พูดต่อ “อันที่จริงเรื่องนี้มันควรจะเป็นหน้าที่ของท่าน ดิแลนด์ โรซานเบิร์ก!” ลอร์ดลาซาร์ชี้นิ้วไปทางอัศวินอาวุโสที่สุดแห่งอาณาจักรโรเซ็ตต้า คนที่ถูกเอ่ยชื่อถึงกับมีท่าทางตกใจไม่น้อย แต่ก็กลับมามีท่าทีนิ่งสงบเหมือนเดิม “ท่านคือหัวหน้าสูงสุดของอัศวิน” ลอร์ดลาซาร์เดินเข้ามาหาดิแลนด์ด้วยท่าทีราบเรียบ “และที่สำคัญท่านคือคน ๆ เดียวที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ การที่ท่านนิ่งนอนใจแบบนี้ ถือว่าเป็นโทษที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับอัศวิน!” “ข้าไม่ได้นิ่งนอนใจ” ดิแลนด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง นัยน์ตาคู่คมจ้องมองลอร์ดลาซาร์อย่างครุ่นคิด “แต่การแต่งตั้งกษัตริย์พระองค์ใหม่จะเกิดขึ้นหลังจากเสร็จพิธีพระศพของกษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียนแล้วต่างหากล่ะ” “ข้าเกรงว่า จะไม่ทันการณ์...” ลอร์ดลาซาร์กล่าวเสียงเครียดพลางส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “ตอนที่ข้าออกไปทำภารกิจปราบผู้ก่อการร้ายที่เกาะลอยฟ้าดาซิลวา ข้าได้ข่าวจากคนในเกาะมาว่า จักรพรรดิลีออนเน่แห่งอาณาจักรดรากูนมีเป้าหมายทำลายอาณาจักรของเรา และตอนที่ข้ามาถึงเมืองหลวง ข้าได้พบกับคนของอาณาจักรดรากูนอีกด้วย แต่ข้าจัดการพวกมันทั้งหมดไปแล้ว” “เป็นไปไม่ได้!” อัศวินอาวุโสพูดสวนขึ้นมาทันควัน “จักรพรรดิลีออนเน่กับกษัตริย์วอสเลอร์เป็นพระสหายกัน และอาณาจักรโรเซ็ตต้ากับอาณาจักรดรากูนก็เป็นพันธมิตรกัน ไม่มีทางที่จักรพรรดิลีออนเน่จะยกกำลังมาโจมตีอาณาจักรของเรา” “นั่นคืออดีต...” ลอร์ดลาซาร์เอ่ยขึ้นเสียงดังลั่นก่อนจะลดเสียงลงจนแทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ “สิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมดมันคืออดีต แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว อัศวินที่ไม่ได้ออกไปเผชิญกับโลกภายนอกเป็นเวลานานอย่างท่าน จะรู้อะไร....” ดิแลนด์ถึงกับพูดไม่ออก เขาได้แต่ยอมรับสภาพความเป็นจริงกับสิ่งที่ลอร์ดลาซาร์พูด และตัวเขาก็รู้ดีว่าลอร์ดลาซาร์ไม่ได้พูดเท็จอย่างแน่นอน “ถึงเวลาแล้วที่อาณาจักรโรเซ็ตต้าของเรา ไม่ใช่สิ...” ลอร์ดลาซาร์เดินตรงเข้าไปหาองค์ชายวินเทอร์ ทิล ทราเวียนพร้อมกับคุกเข่าลงต่อหน้าองค์ชายที่ยืนแน่นิ่งด้วยท่าทางสงบ “อาณาจักรของพระองค์ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว ไม่ใช่แค่กำลังพลและเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำลง แต่รวมไปถึงอำนาจ ศาสนา และความเป็นที่หนึ่งยิ่งกว่าอาณาจักรใดในโลก สิ่งนั้นจะต้องตกมาอยู่ในมือของพระองค์ทั้งหมด” “ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่ ลอร์ด ลาซาร์” ดิแลนด์เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “ก็เพื่อ... ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรเซ็ตต้า เหมือนเช่นอดีตก็เท่านั้น” กลุ่มคาออส วอร์สทั้งหมดคุกเข่าต่อพระพักตร์ขององค์ชาวินเทอร์ ทิล ทราเวียนด้วยความเคารพยิ่ง ในขณะที่องค์ชายวินเทอร์ทรงมีพระพักตร์ที่นิ่งสงบ ไม่ทรงแสดงอาการใด ๆ ออกมาให้ใครเห็น แต่พระองค์กำลังนึกถึงบางสิ่ง... สิ่งที่จะทำให้พระองค์อยู่เหนือกษัตริย์ทุกพระองค์และอาณาจักรทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกเอสคาวาลิชใบนี้ตามคำพูดของลอร์ดลาซาร์ สิ่งนั้นก็คือ...
ภายในเมืองหลวงของอาณาจักรโรเซ็ตต้า ประชาชนทุกคนได้ใส่ชุดสีขาวเพื่อไว้อาลัยให้แก่การจากไปของกษัตริย์วอสเอลร์ ทิล ทราเวียน แม้แต่นักเดินทางที่ผ่านมาถึงเมืองหลวงแห่งนี้ก็ต้องถูกบังคับให้สวมชุดสีขาวด้วย แต่ทว่าภายในเมืองหลวงกลับมีคนบางกลุ่มที่ใส่ชุดสีดำและสีน้ำเงิน คนกลุ่มนั้นมีอยู่ราวห้าคน แต่ละคนใส่ชุดคลุ่มสีดำและสีน้ำเงินปกปิดใบหน้า ซึ่งเป็นที่สงสัยของประชาชนในเมืองและพวกอัศวินรักษาเมืองเป็นอย่างมาก คนกลุ่มนั้นกำลังมุ่งหน้าไปที่บริเวณลานกว้างภายในเมืองหลวง ซึ่งทางพระราชวังได้จัดงานไว้อาลัยให้แก่กษัตริย์วอสเลอร์ ทิล ทราเวียน เพื่อให้ประชาชนและนักเดินทางได้ร่วมไว้อาลัยแก่พระองค์ด้วย เด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งเหม่อลอยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณลานกว้าง นัยน์ตาสีฟ้าคู่คมแหงนมองท้องฟ้าสีครามอย่างครุ่นคิด พลันความคิดทั้งหมดของเด็กหนุ่มก็เตลิดหายไป เมื่อเขาได้ยินเสียงเรียกของหญิงสาวคนหนึ่ง “เฮ้... เทียดัส เจ้าทำอะไรอยู่” หญิงสาวโบกมือให้ชายหนุ่มที่หันมามองเธอด้วยแววตานิ่งเรียบ “ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่มาที่นี่เสียอีก” หญิงสาวที่อยู่ในชุดคลุมสีขาวสะอาดทั้งตัวเดินตรงเข้ามาหาเทียดัสที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยท่าทางรีบเร่ง นัยน์ตาสีมรกตมองหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทางแปลกใจ “ทำไมเจ้าไม่สวมชุดสีขาวล่ะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าอยากถูกอัศวินพวกนั้นจับหรือยังไง” “ข้าไม่ชอบชุดสีขาว” เด็กหนุ่มตอบแบบไม่สนใจเธอ “และข้าก็ไม่คิดจะใส่ด้วย” ชุดที่เทียดัสใส่อยู่นั้น เป็นเสื้อกล้ามสีน้ำตาล ส่วนกางเกงเป็นกางเกงหนังสีดำ ซึ่งเป็นชุดที่เทียดัสชอบใส่เป็นประจำ และเด็กหนุ่มก็ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าที่มันอึดอัดและรัดกุม “เจ้านี่ชอบเอาแต่ใจอยู่เรื่อยเลยนะ” หญิงสาวพูดพลางส่ายหน้า “แต่อย่างน้อยเจ้าน่าจะทำตามคนอื่นเค้าบ้าง บางทีเจ้าน่าจะ...” “หยุดพูดได้แล้ว เพเนโล่” เด็กหนุ่มพูดสวนกลับไปทันควัน ทำให้เด็กสาวต้องนิ่งเงียบไปทันใด “ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดีต่อข้า แต่ข้าชอบของข้าแบบนี้...” “อย่างงั้นก็ตามใจเจ้า” หญิงสาวทำหน้าบึ้งตึงใส่เทียดัส แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเคืองเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะเธอรู้จักนิสัยของเทียดัสดี เด็กทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก เทียดัสสูญเสียครอบครัวไปตั้งแต่ยังเด็กเพราะโรคระบาดที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน แต่เขาก็ได้รับการเลี้ยงดูจากปู่ของเพเลโน่ซึ่งเป็นคนขายของโบราณในย่านการค้า ทุก ๆ วันหลังจากเทียดัสช่วยปู่ของเพเลโน่ขายของเสร็จ เขาก็จะมานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะแห่งนี้ เพราะมันเป็นที่ที่สงบ และทำให้เด็กหนุ่มได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยมากมาย ส่วนเพเลโน่มีหน้าที่คอยหาอาหารมาให้ปู่ของเธอและเทียดัสกิน จากการที่เธอเป็นลูกจ้างในร้านอาหารร้านใหญ่ในย่านธุรกิจ บ่อยครั้งที่เพเลโน่จะได้รับอาหารดี ๆ จากลูกค้าที่กินเหลือ หรือไม่ก็ได้รับอาหารที่ขายไม่หมดจากทางร้านติดไม้ติดมือกลับบ้านมาด้วย ถึงแม้ฐานะความเป็นอยู่ของเด็กทั้งสองจะขัดสนบ้างก็ตาม แต่พวกเขาก็ดูมีความสุขและพอใจดีกับชีวิตที่เป็นอยู่ “เจ้าจะนั่งอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน” เพเลโน่เอ่ยถามเด็กหนุ่มหลังจากที่เธอเงียบอยู่นาน “จนกว่าพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า” เด็กหนุ่มตอบเสียงเรียบ “ถ้าเจ้าเบื่อ เจ้าก็กลับไปก่อนเลย เพเลโน่” “ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!” ทันใดนั้นเสียงตะโกนโหวกเหวกของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดัง ขึ้นจากบริเวณลานกว้าง เสียงของผู้หญิงคนนั้นทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งเหม่อลอยต้องหันไปมอง แต่เขากลับมองอะไรไม่เห็น เพราะมีคนมากมายยืนล้อมอยู่ “เกิดอะไรขึ้น” เพเลโน่อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่เพเลโน่ยังไม่ทันที่จะได้ขยับตัว เทียดัสก็วิ่งกระโดดข้ามรั้วกั้นต้นไม้ใหญ่ไปทางกลุ่มคนพวกนั้นแล้ว “รอข้าด้วยสิ เทียดัส” เทียดัสวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไปข้างในก็พบว่า หญิงสาวร่างบางกำลังถูกชายชุดสีน้ำเงินและสีดำกลุ่มหนึ่งจับอยู่ คนพวกนั้นอยู่ในวงล้อมของกลุ่มอัศวินหลายสิบคน พวกอัศวินพยายามตะโกนบอกให้คนกลุ่มนั้นปล่อยผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด “พวกเจ้าปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะ!” อัศวินคนหนึ่งตะโกนบอกให้คนกลุ่มนั้นปล่อยตัวผู้หญิง แต่คนกลุ่มนั้นก็ไม่มีท่าทีว่าจะทำตามในสิ่งที่อัศวินบอกแม้แต่น้อย ผู้คนมากมายต่างวิ่งเข้ามามุงดูกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันอัศวินร่างสูงใหญ่ก็เดินฝ่าวงล้อมเข้ามา อัศวินคนนั้นคืออัลเฟโด้ มัวลิส อัศวินระดับสูงของอาณาจักรโรเซ็ตต้า ซึ่งอัลเฟโด้ได้รับรายงานจากอัศวินรักษาเมือง “ปล่อยผู้หญิง แล้วบอกข้ามาว่าท่านต้องการอะไร” อัลเฟโด้ตะโกนบอกคนกลุ่มนั้นด้วยท่าทีราบเรียบ “ข้ารู้ว่าเป้าหมายของพวกท่านไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นแน่” “ไปตามลอร์ดลาซาร์ โซดิลอร์มาคุยกับข้า!” เสียงเข้มของชายใส่ชุดคลุมสีดำคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ข้าต้องการพูดกับลอร์ดลาซาร์ คนอื่นไม่เกี่ยว” อัลเฟโด้รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่คนกลุ่มนี้รู้จักกับลอร์ดลาซาร์ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะมาคิดอะไรทั้งนั้น นอกจากการช่วยผู้หญิงคนนั้น “ไปตามลอร์ดลาซาร์มาพบข้า หรือว่าท่านอยากเห็นผู้หญิงคนนี้ต้องตายต่อหน้าพวกท่าน!” ชายใส่ชุดคลุมสีดำยื่นคำขาด เขาบีบมือผู้หญิงคนนั้นอย่างแรงเป็นการข่มขู่ จนเธอต้องร้องเสียงดังออกมาด้วยความเจ็บปวด “ใครมีธุระกับข้า!” เสียงเข้มของอัศวินคนหนึ่งเอ่ยขึ้นจนทุกคนต้องหันไปมอง และทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอัศวินแห่งคาออส วอร์สทั้งหกคนเดินเรียงแถวหน้ากระดานเข้ามา ประชาชนที่มามุงดูเหตุการณ์ทุกคนรวมไปถึงอัศวินทั้งหมดต่างหลีกทางให้อัศวินแห่งคาออส วอร์ส “ลอร์ดลาซาร์ ทำไมท่านถึงต้องฆ่าคนของพวกเราด้วย” ชายใส่ชุดคลุมสีดำตวาดใส่ลอร์ดลาซาร์ด้วยความโกรธแค้น “เจ้าคงเป็นคนของอาณาจักรดรากูนสินะ” ลอร์ดลาซาร์กล่าวเสียงเรียบ “ก็คนของเจ้าคิดจะทำลายอาณาจักรของเรานี่หน่า” “ตายซะเถอะ! ลอร์ดลาซาร์” ทันใดนั้นเองชายใส่ชุดคลุมสีดำอีกคนก็กระโดดเข้ามาหาลอร์ดลาซาร์หมายจะสังหารเขาด้วยมีดสั้น แต่ทว่าชายใส่ชุดคลุมสีดำยังไม่ทันได้เข้าถึงตัวลอร์ดลาซาร์ มือข้างหนึ่งของอัศวินแห่งคาออส วอร์สคนหนึ่ง นามว่า เคลิออส ได้จับใบหน้าของชายใส่ชุดคลุมสีดำคนนั้นไว้ด้วยพละกำลังมหาศาล คลื่นพลังสีแดงที่ออกมาจากฝ่ามือของเคลิออส ทำให้ใบหน้าของชายใส่ชุดคลุมสีดำคนนั้นถูกเผาไหม้จากความร้อนด้วยมนตราแห่งไฟ ความร้อนจากมนตราแห่งไฟได้เผาไหม้ร่างกายคนชายใส่ชุดคลุมสีดำคนนั้น จนเขาต้องกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดทรมาน และเมื่อเคลิออสสะบัดมือเบา ๆ ไฟที่ไหม้อยู่ทั่วร่างของชายใส่ชุดคลุมสีดำก็มลายหายไปอย่างน่าพิศวง “เจ้านั่นทำเกินไปแล้ว” เทียดัสมองภาพที่อยู่เบื้องหน้าราวกับไม่เชื่อสายตาตนเอง เด็กหนุ่มรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เคลิออสทำกับชายคนนั้น “มันจะมากไปแล้วลอร์ดลาซาร์” ชายใส่ชุดคลุมสีดำเงื้อมมือขึ้น หมายจะสังหารหญิงสาวตัวประกันด้วยมีดสั้นที่อยู่ในมือ แต่ทว่ามือข้างนั้นของชายใส่ชุดคลุมสีดำกลับไร้เรี่ยวแรงราวกับถูกมนต์สะกดเอาไว้ และก็เป็นจริงอย่างที่เขาขาดคิดเอาไว้ เวทมนต์แห่งการควบคุม! ผู้ที่ใช้เวทมนต์แห่งการควบคุมก็คืออัศวินแห่งคาออส วอร์สที่มีชื่อว่า อาเคเชีย มิโนคาลอส หรืออัศวินผู้ควบคุมจิตใต้สำนึก อาเคเชียสามารถบังคับร่างกายของมนุษย์ให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ดั่งใจ แม้แต่ธรรมชาติอาเคเชียก็สามารถบังคับได้ “ปล่อยข้านะ!” ชายใส่ชุดคลุมสีดำตวาดใส่ลอร์ดลาซาร์ ใบหน้าที่อยู่ใต้ผ้าคลุมฉายรอยหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด อาเคเชียสะบัดมือข้างซ้ายครั้งหนึ่ง และสิ่งที่ตามมาก็คือ ชายใส่ชุดคลุมสีดำคนนั้นใช้มีดสั้นแทงเข้าใส่กลางอกของตัวเองอย่างรวดเร็ว เทียดัสต้องหันหน้าไปทางอื่น เพราะเขาไม่อยากเห็นภาพที่โหดร้ายเช่นนั้น หญิงสาวคนนั้นได้โอกาสวิ่งหนีออกมาจากกลุ่มคนใส่ชุดคลุมสีดำและสีน้ำเงิน และวินาทีต่อมา คนใส่ชุดคลุมสีน้ำเงินที่เหลืออีกสามคนก็ถูกความเร็วของใครคนหนึ่งสังหารโดยที่คนพวกนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว ความเร็วของคน ๆ นั้นคือหนึ่งในอัศวินแห่งคาออส วอร์ส นามว่า วากราฟ ทีกัลเทีย อัศวินที่มีความเร็วมากที่สุดในกลุ่ม ดาบเล่มบางแทงใส่จุดตายของคนกลุ่มนั้นอย่างแม่นยำ จนคนพวกนั้นยังไม่ทันแม้แต่จะขยับตัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความหวาดกลัวแก่ฝูงชนที่มามุงดูเป็นอย่างมาก ถึงแม้การกระทำของลอร์ดลาซาร์จะเหี้ยมโหดเกินไป แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องขอบคุณลอร์ดลาซาร์ที่ช่วยหญิงสาวคนนั้นเอาไว้ “นี่คือผลลัพธ์ของคนที่กล้าท้าทายอาณาจักรโรเซ็ตต้า” ลอร์ดลาซาร์เอ่ยขึ้นเสียงเข้ม ก่อนที่ลอร์ดลาซาร์จะหันไปพูดกับฝูงชนที่มีท่าทางหวาดกลัวกันไปตาม ๆ กัน “พวกท่านทุกคนจงระวังตัวกันไว้ให้ดี ในเวลานี้ อาณาจักรของเราขาดกษัตริย์ที่จะมาปกครองอาณาจักรให้เข้มแข็ง ข้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ขอให้พวกท่านจงอยู่อย่างเข้มแข็ง เพราะอาณาจักรของเราตอนนี้ เป็นเป้าหมายของหลายอาณาจักร ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะมีคนของอาณาจักรอื่นแฝงตัวเข้ามาก่อการร้ายแบบนี้อีกก็ได้” “เจ้ามันน่ากลัวยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ายเสียอีก” เทียดัสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพเลโน่รีบสะกิดตัวเทียดัสให้เขาหยุดพูด เพราะเธอกลัวว่าลอร์ดลาซาร์จะได้ยิน “หลังจากนี้ เรามีรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...” ลอร์ดลาซาร์พูดต่อ “จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่ ขอให้พวกท่านโปรดระมัดระวังตัวด้วย” หลังจากที่ลอร์ดลาซาร์พูดจบ เขาก็เดินจากไปพร้อมกับอัศวินแห่งคาออส วอร์สที่เหลือ เหตุการณ์กลับมาสู่ปกติอีกครั้ง ส่วนพวกกลุ่มคนใส่ชุดคลุมสีดำและสีน้ำเงิน ทางอัศวินรักษาเมืองก็ช่วยกันนำศพพวกนั้นไปฝังที่นอกเมือง เทียดัสรู้สึกว่า การกระทำของลอร์ดลาซาร์เหี้ยมโหดเกินไป เกินกว่าที่เขาจะรับไหว ถึงแม้คนพวกนั้นจะประสงค์ร้ายต่ออาณาจักร แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่ลอร์ดลาซาร์จะต้องทำขนาดนั้น วันนั้นทั้งวัน เทียดัสได้แต่นึกถึงภาพเหตุการณ์โหดเหี้ยมเหล่านั้น จนเด็กหนุ่มแทบจะกินข้าวเย็นไม่ลง ถึงแม้อาหารเย็นมือนั้นจะเป็นอาหารจานโปรดของเทียดัสก็ตาม
ความคิดเห็น