คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : #06 แนะนำตัวละคร + สุสานราชินีไร้นาม 1 [ครบ 100% แล้วจ้า]
ขอแนะนำตัวละครก่อนน้า ^^
อ๊อฟ เพื่อนของพายและไนท์
เนฟธิส นักบวชหญิงแห่งมหาวิหารวิหารอามุน - รา ,หนึ่งในนักบวชหญิงผู้พิทักษ์ดวงไฟแห่งอามุน, ผู้ดูแลเจ้าหญิงเนเฟรเซนามุน
"ไนท์ นีธรา (แม่ทัพราโฮรัส)"
(เอิ่ม...อิมเมจแอบเยอะเบาๆ 55+ นีธรา แปลว่า แสงอาทิตย์ค่ะ)
ต่อตรงนี้จ้า ~ ..........................................................................................................................
แสงอาทิตย์ยามเช้ายังไม่ร้อนมาก แม้ว่าเปลวแดดจะยังร้อนระอุแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตื่นเต้นของทุกคนลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไนท์ พระราชินีนี่ชื่ออะไรนะ ?” พายหันไปถามไนท์ที่กำลังสาละวนกับการมองทิวทัศน์รอบกาย
“ไม่รู้เหมือนกัน เห็นอาจารย์จูเลียนเล่าให้ฟังว่าที่โลงหินชั้นนอกมีคาร์ทูชจารึกพระนาม แต่ไม่มีชื่อของราชินีสลักเอาไว้เลย” คาร์ทูช ก็คือกรอบรูปยาวรีที่ใช้บรรจุพระนามของฟาโรห์ ราชินี และพระราชวงศ์ชั้นสูงนั่นเอง
“เอ แปลกดีแฮะ” พายพยักหน้าหงึกๆ ...ราชินีลับแลนี่หว่า
“นั่นอะไรเหรอคะอาจารย์ ?” ฝน เพื่อนคนหนึ่งในคณะชี้ตรงไปยังอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนเป็นภูเขาหินสูงใหญ่รูปเกือกม้า เห็นอยู่ลิบๆปลายขอบฟ้า
“นั่นไง หน้าผาที่ห้องฝังพระศพถูกเจาะลึกเข้าไปในนั้น” อาจารย์จูเลียนตอบ ซึ่งสามารถเรียกความกระตือรือร้นจากทุกคนได้มากทีเดียว เพราะแสดงว่าใกล้จุดหมายปลายทางเข้ามาแล้ว ที่สำคัญจะได้พักเหนื่อยซะที
แต่หน้าผาหินที่เคยคิดว่าใกล้กลับไกลกว่าที่คาด กว่าทุกคนจะมาถึงก็เล่นเอาหอบแฮ่กๆ
‘ หน้าผาหิน’ ของดร.จูเลียน คือภูเขาหินสีน้ำตาลลูกเดี่ยวๆโดดๆ ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นรูปเกือกม้ากลางทะเลทราย ด้านหนึ่งเป็นหน้าผาสูงชันละลิบลิ่วทำมุมเกือบเก้าสิบองศากับพื้นดิน และอีกด้านเป็นทางลาดชันขรุขระระเกะระกะด้วยกองหิน ทั้งสองด้านบรรจบกันบนยอดเขาที่คาดคะเนจากพื้นด้านล่างมองขึ้นไปน่าจะเป็นยอดตัดพื้นราบ วิวทิวทัศน์บนนั้นคงจะสวยงามอย่างหาที่ไหนเทียบเท่าไม่ได้ แต่ก็คงไม่มีใครต้องการจะเล่นของสูงปีนขึ้นไปบนยอดเขามากนัก ไม่ว่าจะเลือกขึ้นทางไหนก็ลำบากลำบนพอๆกัน
“โหววว O.o ” พายเบิกตากว้างมองหน้าผาที่ตั้งตระหง่านโอบล้อมตัวเป็นรูปคล้ายครึ่งวงกลมอย่างตื่นตาตื่นใจ เงื้อมเงาที่ทอดยาวของมันดูน่าเกรงขามสำหรับมนุษย์ตัวเล็กๆ “คนโบราณนี่เจ๋งสุดๆเลยเนอะ ขุดหน้าผาหินแข็งเป๊กขนาดนี้ได้เนี่ย เนอะ ไนท์ ”
ชายหนุ่มที่ยื่นจ้องมองหน้าผาเพียงแต่พยักหน้าให้ ราวกับต้องการใช้สมาธิเพื่อที่จะประทับภาพเบื้องหน้านี้ไว้ในใจให้แสนนาน
ไม่ใช่หรอก...ไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ของหน้าผาที่ทำให้ไนท์ต้องจ้องมอง
แต่เป็นความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดในใจของเขาต่างหาก ที่ดึงดูดจนเขาไม่อาจละสายตาไปจากภาพตรงหน้าได้
เจ้าความรู้สึกนี้มันมาจากไหนกันนะ...ทั้งๆที่ก็ไม่เคยมาที่นี่เลย ไม่เคยแม้แต่จะเห็นรูปด้วยซ้ำ
แล้วเสียงเรียกของ ดร.จูเลียนก็ดึงไนท์ออกจากภวังค์
“ทุกคนตามอาจารย์มาทางนี้ “
อาจารย์จูเลียนและไกด์นำทางเดินตรงไปยังมุมหนึ่งของหน้าผาที่มีกองหินก้อนใหญ่ร่วงเกะกะ แต่ถ้าหากอ้อมไปหลังกองหินจะเห็นว่ามีช่องให้หย่อนตัวลงสู่ใต้พื้นดินเบื้องล่างได้
“สองเดือนก่อนตอนที่กองคาราวานเดินทางมาพักที่นี่” ดร.จูเลียนเริ่มเล่า “อูฐซนตัวหนึ่งแอบเดินออกจากกลุ่มมาเดินสำรวจหน้าผา จนเดินมาถึงตรงนี้ มันคงจะเหยียบพื้นดินตรงจุดพอดี พื้นดินก็เลยยุบตัวลงไป ทำให้ช่องทางลับลงไปสู่ห้องฝังพระศพโบราณถูกเปิดเผยออกสู่โลกภายนอก เราไม่รู้หรอกว่าข้างล่างจะมีอะไรบ้าง ดังนั้นอย่าเดินออกนอกเส้นทางที่กำหนดเด็ดขาด”
แล้วร่างในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสามส่วนสีทรายแบบลุยๆของดร.จูเลียนก็ปีนบันไดเชือกนำลงไปเบื้องล่างเป็นคนแรก
“เอาละ ทุกคนค่อยๆปีนลงมานะ ลึกนิดหน่อย แต่ไม่มีอันตรายแน่นอน” เสียงที่ตะโกนขึ้นมาจากด้านล่างสะท้อนก้องกับผนังหินไปเรื่อยๆ จนฟังดูแปลกประหลาด...อดคิดไม่ได้ว่าคล้ายเสียงเพรียกจากอดีตกาลที่ผ่านล่วงเลยมาแสนนาน
นักศึกษาค่อยๆปีนลงไปทีละคน จนเหลือไนท์และพายเป็นคนสุดท้าย
“พายลงไปก่อนเถอะ” ไนท์บอก
พายตั้งท่าเตรียมจะไต่บันไดเชือก แต่อาการแปลกๆของไนท์กลับทำให้พายยังรั้งตัวอยู่ก่อน
“ไนท์ ทำไมวันนี้นายดูแปลกๆ”
“หืม ?” เขาเลิกคิ้ว
“ก็...ไนท์ดูเหมือนมองรอบๆตัวแบบอาลัยอาวรณ์ยังไม่รู้น่ะ กลัวจะไม่ได้กลับขึ้นมารึไงยะนายขี้กลัว แบร้”
“บ้าเหรอยัยพาย ขี้กลัวน่ะเธอต่างหาก เราก็แค่เห็นมันสวยดีน่ะ เลยอยากมองนานๆหน่อย”ไนท์ตอบเลี่ยงๆไป แม้ลึกๆในใจ...เขาจะแอบรู้สึกแบบนั้นจริงก็ตาม
ชายหนุ่มแหงนมองผืนฟ้าสีครามสวยเบื้องบน สายลมเย็นชื่นใจวูบนึงพัดมาต้องตัว
'กงล้อแห่งกาลเวลา...เริ่มต้นการเดินทาง' เสียงแผ่วเบากระซิบฝากมากับสายลม
ต่อตรงนี้จ้า ^^ ............................................................................................................................................
...ตึก...ตึก...ตึก...
เสียงรองเท้ากระทบพื้นหินสีน้ำตาลค่อนข้างขรุขระดังสะท้อนไปยังผนังก่อด้วยหินสีน้ำตาลอ่อน บางช่วงวาดภาพเขียนสีโบราณ และดังสะท้อนต่อไปเรื่อยๆยังทางเดินที่ทอดตัวยาวไกล ขุดลึกซอกซอนเข้าไปในหน้าผาหิน เพดานโค้งสูงทำให้ความรู้สึกเวิ้งว้างโหวงเหวงยิ่งเพิ่มมากขึ้น แสงจากคบไฟที่ปักเรียงอยู่ข้างผนังหิน และแสงจากไฟฉายของแต่ละคนก่อให้เกิดเงารูปร่างประหลาดแปลกตา ในบรรยากาศเงียบงันที่เป็นใจ...จึงคล้ายๆกับว่าจิตวิญญาณอายุนับสี่พันปีกำลังกระซิบกระซาบกันแผ่วเบาถึงผู้มาใหม่ที่กำลังย่างกรายเข้ามาในเส้นทางอันลึกลับนี้
“บรึ๊ย~ หนาว ขนลุก ><” แคทกอดอกเพื่อให้ความอบอุ่นกับตัวเอง ทางเดินที่ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ขึ้นๆลงๆบ้าง ทำให้อุณหภูมิเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อว่าข้างนอกคือทะเลทรายอันร้อนระอุไปด้วยเปลวแดดแผดเผา
“มันดู...ดูขลังๆไงไม่รู้เนอะ น่ากลัวพิลึกแฮะ” พายเองก็อดกลัวกับบรรยากาศรอบตัวไม่ได้ แล้วทางเดินก็นำทุกคนมาสู่ห้องค่อนข้างกว้างห้องหนึ่ง เพดานสูงทรงโค้งคือสิ่งที่บ่งบอกว่า ‘เจ้าของ’ ห้องฝังศพนี้เป็นผู้หญิง
ผนังห้องถูกตกแต่งด้วยภาพเขียนสี เป็นรูปภาพที่ชาวอียิปต์โบราณใช้แทนตัวอักษรและภาพวาดอันงดงาม แม้ฝุ่นจะจับตามธรรมชาติหากน่าแปลกที่กาลเวลาดูเหมือนจะไร้ความสามารถที่จะทำให้สีสันของภาพเขียนในห้องฝังพระศพซีดจางลงแม้แต่น้อย..กลางห้องคือโลงหินที่สลักเสลาลวดลายวิจิตรบรรจงสวยสดงดงาม ผนังด้านหนึ่งมีช่องหินคล้ายหน้าต่างสองช่องที่คงเกิดจากฝีมือการกะเทาะหินของช่างโบราณ ถ้าหากมองออกไปจะพบว่าห้องนี้อยู่สูงมากจากระดับพื้นดินข้างล่าง
“ขอต้อนรับสู่ห้องฝังพระศพของราชินีแห่งฟาโรห์อเมนโฮรัส ฟาโรห์ผู้เฉลียวฉลาดและกล้าหาญแห่งราชวงศ์ที่ 13 ...ราชินีผู้ไร้ชื่อในหน้าประวัติศาสตร์ ห้องที่ถูกซุกซ่อนปิดตายจากสายตาของโลกภายนอกมานานนับสี่พันปี” ดร.จูเลียนพูดด้วยน้ำเสียงลึกลับ
“ราชินีไร้นาม ?” อ๊อฟทวนประโยคอย่างงงๆ
ดร.จูเลียนผายมือไปยังโลงหินของราชินี ทุกคนมองตามเป็นตาเดียว
กรอบยาวทรงรีที่ควรสลักพระนามของพระราชินีว่างเปล่า
“และนั่นทำให้เราไม่สามารถระบุได้ว่าราชินีองค์นี้คือใคร ทั้งๆที่พระนางคือผู้ที่สร้างความเจริญให้แก่อียิปต์ในยุคอาณาจักรกลางเป็นอย่างมาก” น้ำเสียงของดอกเตอร์อียิปต์วิทยาแฝงแววเสียดาย “จากหลักฐานเดียวที่ค้นพบ ก็คือจารึกโบราณของดอกเตอร์โมฮัมเหม็ดแผ่นที่พวกเราได้เห็นก็บันทึกเอาไว้เพียงว่าพระนางเป็น 'ราชินีผู้เป็นธิดาแห่งอามุน - รา' ...เอาล่ะ อาจารย์จะให้ทุกคนสำรวจทั่วๆห้องฝังพระศพ จดจำรายละเอียดพวกภาพวาดบนฝาผนังอะไรพวกนี้ไปนะ พอกลับเมืองไทยอาจารย์จะให้ทำเป็นสรุปส่ง พวกเราโชคดีมากเลยนะที่ได้เข้ามาที่นี่ เพราะนอกจากนักโบราณคดีอียิปต์กับอังกฤษที่เข้ามาสำรวจเป็นชุดแรก ก็ยังไม่มีใครได้เข้ามาอีกเลย”
"หา" "อาจารย์ใจร้าย" "งอนแล่ว" "ไม่เอาได้มั้ยคะ ?" "โอ๊ะ ปวดหัวกะทันหันอ่ะค่ะ'จารย์" "โหย อาจารย์โหดแท้เหลา"
ทุกคนต่างโอดครวญประท้วงเพราะขี้เกียจทำงานสรุปส่ง แต่ก็กระจายกันไปสำรวจห้องฝังพระศพอย่างตื่นเต้น
พายเดินตรงไปเมียงๆมองๆโลงหินที่สูงราวๆเอวของเธอ...อะไรบางอย่างดึงดูดให้เธอจ้องมองที่คาร์ทูชอันควรจะมีพระนามของพระราชินีสลักไว้
นิ้วเรียวไล้ไปบนผิวหินขัดมันเรียบลื่น ความรู้สึกเหมือนไฟฟ้าอ่อนๆวิ่งไล่จากปลายนิ้วเข้าสู่ร่างกาย
แล้วนิ้วของหญิงสาวก็สะดุดกับอะไรบางอย่างที่มุมล่างขวาของคาร์ทูช
ดวงตากลมโตกวาดมองทันที สิ่งที่เธอเห็นก็คือรอยสลักของตัวหนังสือจิ๋วๆที่มีรูปร่างเป็นหัวกลมๆมีขีดอยู่ข้างบนบ้าง ข้างล่างบ้าง ม้วนตวัดบ้างที่สลักลึกลงไปในเนื้อหินชนิดที่เรียกว่าถ้าไม่มีตาเลเซอร์ก็คงมองไม่เห็น
หญิงสาวชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง!
นี่มัน...
ต่อตรงนี้จ้า มากะปริบประปรอยอีก 10% ^^ .........................................................................................................................
ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะด้านภาษาแต่อย่างใด พายก็สามารถอ่านออกได้ว่ามันสลักเป็นคำว่า ‘เนเฟร’
ไม่นะ...เป็นไปไม่ได้ ภาษาไทยในสุสานอียิปต์เนี่ยนะ ! ตะ...แต่ว่าที่ดอกเตอร์จูเลียนบอก นอกจากนักโบราณดตีอียิปต์กับอังกฤษ ก็ยังไม่มีใครเคยเข้ามาในห้องราชินีอีกเลยนี่นา แล้วมันจะมีภาษาไทยอยู่ในห้องนี้ได้ยังไงกัน ? ยิ่งเนื้อหินที่ถูกแกะลึกลงไปมีร่องรอยสึก บิ่น จากการกระทำของกาลเวลา ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างมีข้อสรุปเพียงหนึ่งเดียวว่ามันถูกสลักขึ้นเมื่อนานแสนนานมาแล้ว แต่โดยใครกันล่ะ ?
“วู้ว ยู้ฮู”
มือเย็นๆวางลงบนบ่า ทำเอาหญิงสาวที่กำลังช็อคสะดุ้งเฮือก
“ไนท์ !”
“เอ่อ เป็นอะไรไปน่ะ หน้าซีดอย่างกับผี” ไนท์มองใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือดของเพื่อนสาวอย่างตกใจ ก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนสายตาไปตามทิศที่นิ้วอันสั่นเทาของพายชี้ไป แล้วมันก็ทำให้ไนท์ต้องอ้าปากค้างตามเช่นกัน
“นี่มัน...ปะ เป็นไปไม่ได้ ลายมือคล้ายพายเลย !”
.................................................................................................
ความคิดเห็น