คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter 4 :: สอบสัมภาษณ์ช่วงเช้า
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง...
อุตส่าห์เผื่อเวลาไว้แล้วนะ แต่ปรากฏดันทำขลุ่ยหาย วิ่งหาทั่วบ้าน !! คือมีคนบอกว่าให้หาอะไรที่ดูเป็นไทยๆไปแสดงเป็นความสามารถพิเศษตอนสัมภาษณ์ด้วย เราก็ เอ่อ...อะไรดีล่ะ รำก็อย่างกับละครลิง เพลงไทยก็ร้องไม่เป็น ขลุ่ยล้ะกันฟระ ง่ายดี
พอหาเจอ ออกเดินทาง รถดันติดอีก โอ้บร๊ะเจ้าจ๊อด
สรุปไปถึงศูนย์สอบก่อนเวลาสอบห้านาที ฮ่าๆ
น้ำตาแทบพราก คิดว่าจะไปไม่ทันซะแล้ว TwT
พอไปถึงเค้าก็จะให้เราลงทะเบียน แล้วก็เขียนป้ายห้อยคอค่ะ ด้านหน้าเขียนชื่อเล่นเรา ด้านหลังเดี๋ยวจะให้เขียนรหัสประจำตัวที่จะแตกต่างไปในแต่ละศูนย์
จากนั้นก็เดินแถวขึ้นไปนั่งที่ห้องกว้างๆ เหมือนจะเป็นทั้งห้องพระและห้องประชุมของโรงเรียน เด็กเจ็ดสิบกว่าคน แอร์เสียด้วยครับ !! โชคดีที่โรงเรียนติดทะเลเลยไม่ร้อนจนเกินไป
ระหว่างรอผู้อำนวยการเดินทางมากล่าวเปิด พวกเราก็ได้คุยกัน ทำความรู้จักกันไป ได้เพื่อนใหม่เยอะแยะ บางคนก็ยังติดต่อกันอยู่จนถึงทุกวันนี้เลย (:
กิจกรรมในช่วงเช้าก็จะเริ่มด้วยการละลายพฤติกรรมค่ะ ให้ทุกคนลดความเขินและความประหม่า (หรือเปล่า ?) กิจกรรมแรกสุดที่ทำในวันนั้นเลย คือครูคุมสอบจะแจกป้ายชื่อของใครไม่รู้ให้เรา แล้วให้เราวิ่งหาเจ้าของให้เจอ 55+ ต่อมาก็จะเป็นการเต้น ลืมบอกไปว่าเค้าจะให้คะแนนกันตั้งแต่ผู้อำนวยการกล่าวเปิดการสอบเลยนะคะ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนเต็มที่กับทุกกิจกรรม บ้าแค่ไหนอย่าได้แคร์ 555+
เต้นแร้งเต้นกากันเสร็จ ก็จะเริ่มเข้าสู่โหมดเครียด
“กิจกรรมการแสดงละคร”
ศูนย์สอบพิมเค้าจะให้เด็กจับกลุ่มกัน แล้วนั่งกันเป็นแถว แล้วเค้าก็จะเรียงให้ว่าแถวแรกเป็นแถว A แถวที่สองเป็นแถว B ไล่ไปเรื่อยๆครบทุกแถว พิมได้อยู่แถว E นั่งคนที่ 2 ก็เลยได้รหัสประจำตัวเป็น E2 ค่ะ อารมณ์ประมาณว่าเด็กเยอะ กรรมการจำชื่อไม่ได้ ดูเอาจากรหัสดีกว่ามันง่ายดี 555
เสร็จแล้วเค้าก็จะให้แต่ละแถวจับฉลากหัวข้อเพื่อเอาไปคิดละคร ให้เวลาซ้อมและคิดบทรวมสิบห้านาที !
แถวของพิมรู้สึกจะได้หัวข้อ “ถ้าเพื่อนติดยาจะทำยังไง” และวิธีแก้ต้องแสดงถึงเอกลักษณ์ไทยด้วยค่ะ !
นั่งมองหน้ากัน แล้วทำตาปริบๆ 555+ ก็ถูๆไถสคริปต์กันไป สรุปว่าแก้ปัญหาโดยการพาเพื่อนเข้าวัด ทำบุญ นั่งสมาธิ (ดำน้ำ ดูปะการัง เรียนแต่งหน้า เสริมสวย...) เห็นมีพระพุทธรูปตั้งอยู่หลังห้องพอดีเลยกะจะใช้เป็นฉากในวัดซะเลย
ตอนแรกพิมโดนวางตัวให้เป็นคนติดยา (สงสัยหน้ามึนจัด)
สคริปต์ยังไม่จบดี ครูเค้าก็บอกว่าหมดเวลา เชิญกลุ่มแรกออกมาได้
เราก็แบบนั่งดูเพื่อนแสดงไป ขนลุกไป ปั่นโพยสคริปต์ไป
ขนลุกเพราะว่าบางคนนะ พูดภาษาอังกฤษแบบ นี่คือเมดอินอเมริกาตั้งแต่นิวเคลียสในเซลล์เลยเปล่าอะ ภาษานี่แบบ รัวไฟแลบ สำเนียงเดิ้นมาก นึกว่าเจ้าของภาษามาเอง =[]=
วินาทีนั้น เหมือนเห็นประเทศอเมริกาลอยจากไปต่อหน้าต่อตา 555+
ปรากฏว่าพอจบกลุ่มแรก ก็มีครูมาเรียกพิมไปสอบสัมภาษณ์ค่ะ เป็นอันว่ารอดจากการแสดงไป (โล่งมากบอกตรง55) เกือบลืมหยิบขลุ่ยไปแน่ะ
ก็มานั่งรอสัมภาษณ์ที่ห้องอีกปีกตึกนึง มีเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมนั่งรออยู่หน้าห้องอีกสี่ห้าคน ทุกคนหน้าเครียดมาก เราก็พยายามชวนคุย ความจริงเราก็เครียดนะ 555+ แต่พิมเป็นพวกที่พอเครียดถึงที่สุด มันจะหายเครียดแล้วเปลี่ยนเป็นลั้นลาโดยอัตโนมัติ
เลยนั่งร้องเพลงหน้าห้องสอบแม่ม 5555+ เพื่อนก็มองแบบ อีนี่คงเครียดจนบ้าไปแล้วว
แล้ววินาทีระทึกก็มาถึง !! เมื่อรุ่นพี่โผล่มาเรียกให้เราเข้าไปได้
แอบไหว้ประตูห้องสอบด้วยแหละ เอาเคล็ด 555
ศูนย์สอบเขตพิมจะให้สัมภาษณ์กับครูฝรั่งก่อน 2 คน แล้วค่อยไปสัมภาษณ์กับครูไทยอีก 3 คนค่ะ
เราเดินเข้าไปแบบมั่นม้ากก มั่นจนสะดุดขาตัวเองอะ 555 แล้วก็ไหว้ครูฝรั่ง เค้าก็รับไหว้ยิ้มๆ ยังไม่ทันนั่ง เค้าก็ถามว่าไอ้ที่ถืออยู่อะคืออะไร
ครูฝรั่ง : “วอท อิส ดิส ?”
พิม : “ขลุ่ย”
ครูฝรั่ง : “คุ้ย ?”
พิม : “โนๆขลุ่ย”
ครูฝรั่ง : “คลุ่ย ?”
พิม : “โน้วววววว ขลุ่ย (ชี้ให้ดูปาก) ขลุ่ย”
ตลกมากเลยอะ ฮาทั้งเค้าทั้งเรา เพิ่งรู้ว่าสอนฝรั่งพูดไทยมันยากแท้ 5555+ เรื่องที่เค้าสัมภาษณ์ก็แบบ อยากไปประเทศไหน คิดไว้หรือยังว่าอยากไปรัฐไหน ทำไมอยากไปเมกาล่ะ ปิดเทอมหน้าร้อนปีที่แล้วทำอะไร ไปอังกฤษหรอ ไปอังกฤษแล้วคิดว่าเป็นยังไง ได้อะไรจากการไปอังกฤษบ้าง เราก็แบบ เราไปอิ้ง ได้เจอเพื่อนเยอรมันนะ ได้รู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรอีกเยอะที่เราไม่รู้ ที่มันแตกต่างจากประเทศไทย เราก็เลยตัดสินใจอยากไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เราคิดว่ามันสนุกดีเวลาที่ทำให้คนที่เค้าไม่เคยรู้เลยว่าไทยแลนด์คืออะไรได้มารู้จัก ได้มาสัมผัสวัฒนธรรมของเรา บลาๆ แถไปด้วยสกิลภาษาอันน้อยนิด 555
แล้วเราก็ถามเค้าว่า อยากฟังขลุ่ยมั้ย เห็นเค้ามองๆขลุ่ย 555+ เค้าก็ยิ้มๆแบบ อยากฟังนะ แต่เวลาหมดแล้ว แล้วทั้งสองคนเค้าก็จับมือเรา อวยพรให้ ขอให้ยูโชคดีนะ ได้ประเทศที่หวังนะ
เสร็จแล้วด่านต่อไปของเราก็คือครูคนไทยอีกสามคนค่า
เวลาสัมภาษณ์ น้องๆอย่าตื่นเต้นจนลืมไหว้นะคะ 55 เรียกคะแนนความเอ็นดูได้เยอะอยู่
นี่คือคำถามที่พิมโดนถามค่ะ
- - ถ้าไปแล้วหลงทางจะร้องไห้มั้ย
- - ถ้ามึนเส้นทาง จะทำยังไง
- - รู้มั้ยว่าปี 2558 คือปีอะไร
- - คิดว่าข้อดีของตัวเองคืออะไร
- - ตัวเองมีข้อเสีย / จุดด้อยอะไร
- - จะเอาข้อดีของตัวเองมาแก้ไขจุดด้อยได้อย่างไร
- - คิดยังไงกับการเปิด AEC มีข้อดีข้อเสียยังไง
- - โตขึ้นอยากจะทำอาชีพอะไรไม่ให้โดนแรงงาน AEC แย่งงาน
- - พูดภาษาจีนได้หรอ แนะนำตัวเอง แนะนำโรงเรียนให้ฟังหน่อย (ครูเค้าเรียกครูภาษาจีนมาฟังเลยอะ แบบกดดันมาก TT)
พิมสัมภาษณ์กับครูไทยประมาณเกือบสิบนาทีอะค่ะ ตอนสัมภาษณ์เสร็จครูให้เป่าขลุ่ยโชว์ด้วย เค้าบอกขนมาจะได้ไม่เหนื่อยเปล่า 555+ แสดงความสามารถพิเศษนี่แล้วแต่คนนะคะ เพื่อนพิมบางคนเตรียมขลุ่ยเตรียมซอมาไม่โดนให้เล่นก็มี บางคนเค้าก็ให้รำให้ดูเลยค่ะ
สัมภาษณ์เสร็จก็กลับมานั่งที่ห้องต่อ กลุ่มพิมแสดงเสร็จพอดี จากนั้นก็จะมีให้เขียนแบบทดสอบจิตวิทยา คำถามก็จะประมาณแบบ เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณคือใคร คิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง คนอื่นมองคุณเป็นคนยังไง
แต่ทุกๆคำตอบ ขอให้ตอบแบบเป็นตัวของตัวเองที่สุดนะคะ ไม่ต้องถ่อมตัว แต่ก็ไม่เกินจริง
เพราะเค้าจะดูว่าทัศนคติของเรา การเอาตัวรอดของเรา เมื่อไปอยู่ในต่างประเทศจริงๆเราจะอยู่ได้ไหม
เพื่อนจากอีกศูนย์เล่าว่า มีเพื่อนคนนึงพูดอังกฤษเก่งมาก คือเป็นตัวเต็งของศูนย์เลยก็ว่าได้ แต่ปรากฏตอนสัมภาษณ์เจอกรรมการกดดันแล้วเค้าร้องไห้ เลยโดนตัดตกไปอย่างน่าเสียดาย
ดังนั้นในการสอบเอเอฟเอส การคุมสติเป็นเรื่องสำคัญมากเลยนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าผลจะออกมายังไง พยายามทำส่วนของเราให้ดีที่สุดเป็นพอ
ความคิดเห็น