ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Next station America !! :: สถานีถัดไป...สหรัฐอเมริกา

    ลำดับตอนที่ #10 : chapter 10 :: how American high school looks like?

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 58


    หายสาบสูญไปนานหกเดือน5555

     

    เกิดเรื่องขึ้นเยอะแยะในช่วงที่ไม่ได้อัพ เพราะโฮสไม่อยากให้ใช้ภาษาไทย

     

    แต่เอาเป็นว่ากำลังจะเปลี่ยนโฮสล้ะน้า อะไรหลายๆอย่างเราไปกันไม่ได้ บวกกับลูกเขาชอบกรี๊ด ชอบทะเลาะ จนพิมไมเกรนขึ้น แบบไม่เคยขึ้นมาก่อนเลยในชีวิต เจอบ้านนี้เข้าไป ไมเกรนมาเลย

     

    ช่วงนี้ก็หาโฮสใหม่อยู่ เฮ้อ นี่เลย ตรงนี้เลย แนะนำสำหรับน้องที่จะมา ใครได้โฮสไม่ดีให้รีบเปลี่ยน อย่าทนแบบพี่ ตอนนี้อีกสามเดือนกลับไทย มานั่งเสียดายโอกาสดีๆที่ทิ้งไปเพราะโฮส โอกาสทำกิจกรรม โอกาสได้พูด ได้ฝีกภาษา แถมพอจะย้ายก็หาโฮสยากอีกเพราะเขาคิดกันว่าไหนๆจะกลับแล้ว จะย้ายทำไม?

     

    คงจะเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิต ที่สอนให้เราเลิกลังเล ไม่งั้นจะพลาดอะไรดีๆไปเยอะมากเหมือนที่ผ่านมา

     

    เรื่องโรงเรียน อืม...

    จะว่าไงดีล่ะ เอาเรื่องเรียนก่อนล้ะกัน

    พิมแอบช็อกมากนะ เพราะที่ผ่านมาจะได้ยินว่าโรงเรียนที่นี่สอนให้คิดวิเคราะห์เยอะ แต่พอมาอยู่จริงๆ บางวิชาเมืองไทยยังให้วิเคราะห์เยอะกว่าอีก55จริงๆก็ขึ้นอยู่กับโรงเรียนด้วยละมั้ง โรงเรียนพิม วิชาที่ยากๆนี่จะให้วิเคราะห์เยอะ พวก AP physics (ฟิสิกส์ระดับปีหนึ่งของมหาลัย ที่เขาเอามาเป็นวิชาเลือกให้พวกหัวดีๆเรียน) หรืออะไรที่มีคำว่า AP นำหน้า และเขาจะเน้นการเรียนแบบ Self-reliance อะค่ะ คือเราต้องอ่าน ทบทวนเองก่อนเข้าห้องเรียน

     

    และใครว่าเด็กเมกาเลือกวิชาเรียนเองได้แบบอิสระ ขอบอกว่าผิดมหันต์ค่ะ จริงๆพิมเองก็เคยคิดงั้นเหมือนกันนะ555มาคุยกับมัมก็เพิ่งถึงบางอ้อ

     

    โรงเรียน high school ที่นี่จะแบ่งเป็น 4 ปีค่ะ ตามนี้เลย

     

    Freshman year à ม.3 ของไทย

    Sophomore year (ซอฟมอร์ ไม่ใช่โซโฟมอร์นะ) à ม.4

    Junior year à ม.5

    Senior year à ม.6

     

    เค้าลงทะเบียนเรียนกันยังไง? แรกสุดเลย ตอนเราไปสมัครเรียน เราจะได้รู้จักคนคนนึง เรียกว่า “Counselor” ซึ่งอาจารย์คนนี้จะเป็นที่ปรึกษาด้านการเรียนของเราตลอดสี่ปีในไฮสคูล (สำหรับนร.แลกเปลี่ยนก็ปีเดียวฮะ) การแบ่งก็ขึ้นอยู่กับระบบแต่ละรร. อย่างโรงเรียนพิมมีอาจารย์คอนซีลเลอร์สี่คน เขาก็จะแบ่งไปว่า เด็กที่นามสกุลขึ้นต้นด้วย a-g จะได้อาจารย์คนแรกเป็นคอนซีลเลอร์นะ ไล่ไปจนครบ

     

    พอเรารู้คอนซีลเลอร์ เราจะไปหาเค้าเพื่อลงวิชาเรียนค่ะ

     

    เด็กที่นี่ เขาจะมีสิ่งที่เรียกว่า “Four-year plan” หรือแผนสำหรับการลงวิชาเรียนสำหรับสี่ปีในไฮสคูล เพื่อให้ได้หน่วยกิตแต่ละรายวิชา (credit) จำนวนเท่าที่มหาลัย (ที่เราอยากเข้า) เขาต้องการ

     

    เพราะฉะนั้นใช่ว่าทุกคนจะลงอะไรมั่วๆเล่นๆตามใจได้น้า

     

    ส่วนใหญ่ทุกคนจะวางแผนมาจากที่บ้านมาเรียบร้อยแล้ว ว่าสมมติเราอยากเป็นวิศวะ เราก็จะลงวิชา welding, calculus บลาๆไรงี้นะ คอนซีลเลอร์ก็จะมีหน้าที่ช่วยดูอีกที ว่าแผนของเรานี่มันโอเคมั้ย ควรเพิ่มหรือตัดอะไร เราลงได้มากที่สุดคือ 8 วิชา

     

    พอลงวิชาเสร็จ คอนซีล (จากนี้ไปขอย่อเหลือแค่นี้นะฮะ หาตัวการันต์ไม่เจอ555) ก็จะปรินท์ใบตารางเรียนออกมาให้เราค่ะ ใบก็จะประกอบด้วยชื่อวิชา ชื่ออาจารย์ที่สอน เลขห้อง (เพราะเราต้องเดินเรียน) และถ้าเราอยากเปลี่ยนวิชา เราก็ต้องมาบอกคอนซีลให้เขาช่วยเปลี่ยน แต่ก็ใช่จะเปลี่ยนกันง่ายๆตามใจได้นะ เดี๋ยวพิมจะเล่าทีหลัง เพราะเจอมากับตัวเอง ร้องไห้หนักมาก555

     

    เคยได้ยินกันมั้ยเรื่องระบบ a day - b day หรือ pink day – blue day ? แต่ละรร.จะมีระบบตารางสอนต่างกันค่ะ บางที่ก็เรียนแปดคาบต่อวันแบบที่ไทยเลย แต่อย่างรร.พิม จะเป็นระบบ a-b day คือจะเรียนสี่คาบต่อวัน วัน a day จะเรียนคาบที่ 1-4 ในตารางสอน ส่วน b day จะเรียนคาบที่ 5-8

     

    ข้อดีก็คือมีวันให้ปั่นการบ้านได้555แต่ข้อเสียคือคาบนึงนานม้ากกก 90 นาที ช่วงแรกพิมแอบหลับบ่อยเวอร์5555

     

    เชื่อมั้ย พิมเปลี่ยนตารางสอนไป 6 รอบ จนตอนนี้คอนซีลพิมแบบ ถ้าพิมไปขอพบล้ะเขาเห็นว่าเป็นพิม เขาจะถามเลยว่าคราวนี้วิชาไรอีกล่ะ555เปลี่ยนจนพอเอาตารางสอนแรกกับตารางสอนสุดท้ายมาเทียบกัน มีแค่สามวิชาจากแปดที่ยังไม่โดนแตะต้อง555

     

    นี่คือวิชาของพิมตอนนี้กั๊บ >>

    A day

    AP physics (ดับอนาถเพราะโง่ฟิ แต่ต้องกลับไปใช้สอบที่ไทย)

    Historical period (ประวัติศาสตร์นั่นแล)

    Choir (ร้องเพลง คลายเครียดสุด)

    Architectural design (วิชาถาปัตย์ ตัดโมเดล เลื่อยไม้ ออกแบบบ้านจริงๆ)

     

    B day

    AP calculus (ครูสอนดีมากกก สนุกมาก)

    US government

    German

    English

     

    วิชาดูเครียดป้ะล่ะ5555ตอนแรกเค้าก็ลงวิชาสนุกๆนะ dance, photography, orchestra ไรงี้ สักพักเริ่มแบบ เบื่อว่ะ...คือมันแทบไม่ได้ทำอะไร ล้ะพิมไฮเปอร์ไง เลยออกมาลงคลาสอื่นนู่นนี่นั่นไปเรื่อย ตอนแรกสุดเลย คอนซีลจะไม่ให้เปลี่ยน พิมก็อ้อน555ยิ้มสยามช่วยได้ค่ะ!

     

    การเปลี่ยนครั้งที่เลวร้ายที่สุดคือ อยากเปลี่ยนเยอรมันไปลง interior design เพราะพิมอยากเข้าอินทีเรียร์ ก้เลยไปขอคอนซีล เค้าบอกเค้าไม่ให้เพราะมันเป็นวิชา 1 credit ( 1 credit = ต้องเรียนทั้งปี ทั้งเทอมแรกและเทอมสอง, 0.5 credit = เรียนแค่เทอมเดียว) แล้วตอนพิมขอเปลี่ยน จริงๆมันตอนเทอมแรกนะ แต่เป็นครึ่งหลังของเทอมแรก ช่วงตุลา เค้าเลยบอกว่าพิมมาแทรกกลางเทอมไม่ได้ อินี่ไม่ละความพยายามค่ะ ตอนนั้นคือด้านมากเพื่อวิชานี้555เลยถามเขาว่าขอพิมไปคุยกะอาจารย์วิชานี้ก่อนได้มั้ย ถ้าเขาโอเค พิมจะลงวิชานี้ได้มั้ย

     

    คอนซีลพิมคงเบื่อพิมล้ะ เลยแบบ เออๆงั้นก็ไปคุยเอาเอง5555แต่สุดท้ายพิมก็อดค่ะ เพราะอาจารย์ขี้เกียจมาสอนพิมใหม่ ดราม่านานมากช่วงนั้น T^T

     

    แต่สุดท้ายก็ได้วิชา architectural design มาปลอบใจ นี่ก็หน้าด้านไปขอเขา5555ซึ่งมันก็คุ้มนะ ได้ตัดโมเดลบ้าน เลื่อยไม้ทำกล่องเครื่องมือ วาดแปลนบ้านในคอมจริงๆ ทั้งคลาสมี 6 คนครับ ฟังไม่ผิดหรอก หกคนจริงๆ555+

     

    มีพิมเป็นผู้หญิงคนเดียวในคลาส

     

    ที่พิมโค่ดช็อกก็คือ เพื่อนคนนึงในคลาสชื่อเทรเวอร์ นางออกแบบบ้านส่งบริษัท และได้เงินเดือนจริงๆแล้วด้วย! นางเรียน senior อยู่ ก็คือมอหกเท่าพิมเนี่ยแหละ ล้ะแบบ พิมก็มองตัวเอง ตึ่งตึง...นี่กูยังเล่นเดอะซิมอยู่เลย555

     

    นึกไรไม่ค่อยออกล้ะ มันเยอะจนไม่รู้จะเล่าอันไหนก่อน555+ ใครมีเรื่องอะไรอยากให้เล่าหรืออยากถาม ก็รีเควสมาได้เลยนะฮะ เรียน เพื่อน ภาษา ความรัก555+

    ไว้จะมาอัพต่อน้า จุ้บบบ <3

     

    ( นี่คือโรงเรียนเค้าเอง )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×