ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (OS/SF) 9294 - CHANBAEK & KAIHUN

    ลำดับตอนที่ #1 : 92 - Adorable Collector (70%)

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 58


     

     

     

    Park CY is a Collector.

    พัค ซีวายเป็นนักสะสม

     

    He is Adorable.

    เขาน่ารัก

     

    And

    และ

     

    He is a Adorable Collector.

    เขาเป็นนักสะสมของน่ารัก

     

    ---

     

    Byun BH is an Adorable.

    พยอน บีเอชเป็นคนน่ารัก

     

    Human can be a stuff?

    มนุษย์ถือเป็นสิ่งของไหม

     

    If that is,

    ถ้าใช่

     

    then Park CY will collect him.

    พัค ซีวายก็จะเป็นคนสะสมเขาเอง

     

     

     


    ...




    ชานยอลคิดว่าแบคฮยอนเป็น ไอ้ตัวน่ารัก

    ถ้ามีใครถามเขาว่าอะไรน่ารักกว่าแบคฮยอน  เขาคงบอกให้มันไปตายซะ  

    บนโลกนี้ไม่มีอะไรน่ารักกว่าพยอนแบคฮยอนอีกแล้ว

    เขาเก็บแบคฮยอนได้จากถังขยะ  คุณฟังไม่ผิดหรอก  จากถังขยะจริงๆ นั่นแหละ

    เจ้าตัวเล็กนั่นไปนั่งกองอยู่ข้างถังขยะในตอนที่เขาถือถุงขยะมาทิ้งหน้าคอนโด  ตอนแรกเขาใช้เท้าเขี่ยดูด้วยซ้ำว่านี่คนหรือศพเพราะสภาพที่ดูอิดโรย  ผอมกะหร่อง  แล้วไหนจะหน้าตาเปรอะเปื้อน  เสื้อก็ขาด  เขาเกือบจะโทรเรียกตำรวจอยู่แล้วถ้าเจ้าตัวเล็กไม่ผุดลุกขึ้นยืนเสียตรงแด่วเพราะเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงตัวเอง  สาบานเลยว่านักลงทุนอย่างเขายังไม่เคยคิดจะซื้อมือถือแพงขนาดนั้นมาใช้เลยด้วยซ้ำ

    เจ้าคนมอมแมมยืนโงนเงนคุยโทรศัพท์เสียจนเขากลัวว่าหัวยุ่งๆ นั่นจะกระแทกกับขอบเสาไฟฟ้าจนต้องเอามือไปรองไว้กันพลาด  แต่ที่ไหนได้เจ้าตัวเล็กกลับล้มเอียงมาทับเขาทั้งตัว  คนมันยังไม่ทันได้ตั้งตัวน่ะนะเลยลงไปนั่งกองกับพื้นมีหัวยุ่งๆ เป็นรังนกพิงอยู่ตรงอก  ตอนนั้นแหละที่ชานยอลสบถเสียดังราวกับไม่เคยสบถมาก่อนในชีวิต

    เขาจัดการดันเจ้าตัวสกปรกออกจากตัว  ตัวเล็กๆ นั่นกองอยู่กับพื้นเหมือนกิมจิต้นหอมเหี่ยวๆ  เขาโยนถุงขยะลงในถังแล้วยืนขึ้นเต็มความสูง  เสื้อผ้าเขาก็ไม่ใช่ว่าจะสะอาดเท่าไรหรอกในเมื่อเขาก็ยังไม่ได้อาบน้ำมาตั้งแต่เมื่อวาน  แต่ไอ้คนที่นอนสลบอยู่บนพื้นนี่ตัวสกปรกยิ่งกว่าแมลงสาบในท่อน้ำทิ้ง จะให้เขายอมปล่อยให้ตัวมอมแมมนั่นพิงตัวอยู่ก็ใช่เรื่อง

    เขานั่งยองๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ร่างที่สลบอยู่บนพื้น  ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอกับเสียงหงิงๆ เหมือนลูกหมานั่นทำให้เขาสบายใจได้เปราะหนึ่งว่าไอ้ตัวมอมแมมนี่ยังไม่ตาย  เขาหันซ้ายหันขวาอย่างจะขอความช่วยเหลือจากใครสักคน  แต่ก็นะ  นี่มันตีสอง  เวลานี้คงไม่มีไอ้บ้าที่หน้าตาหล่อๆ แบบเขาออกมาทิ้งขยะกลางดึกแบบนี้หรอก  ส่วนยามประจำคอนโด  นั่นก็หลับ  เขาคงต้องช่วยเจ้ามอมแมมนี่ด้วยตัวเอง

    ชานยอลตัดสินใจแบกเจ้าตัวมอมแมมขึ้นขี่หลัง  แขนง่อยๆ นั่นยื่นผ่านไหล่เขามาด้านหน้า  เขาสังเกตเห็นนิ้วมือที่ออกจะเรียวสวยกว่าของผู้ชายทั่วไปต่างจากมือเขาอย่างสิ้นเชิง  เขาโดนพี่สาวล้อตั้งแต่เด็กจนโตว่าไอ้มือกรรมกร

    เขาไม่อยากให้เบาะโซฟาต้องสกปรกเลยจัดการโยนร่างอ่อนปวกเปียกลงบนพื้นห้อง  วิ่งเอามือไปรองน้ำเย็นแล้วมาตบแปะๆ ข้างแก้มที่พอสัมผัสแล้วนิ่มเสียยิ่งกว่าแป้งต็อก  เจ้าตัวมอมแมมไม่ได้มีปฏิกิริยาอย่างที่ควรเป็น  เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่  เจ้าเด็กนี่คงไม่ได้เป็นมิจฉาชีพหรอกมั้ง  เพราะจากที่เขาได้ยินตอนคุยโทรศัพท์  ตัวมอมแมมนี่เป็นนักเขียนและกำลังอยู่ในช่วงทำความเข้าใจตัวละคร  ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าสนใจอยู่พอสมควรกับคนที่ลงทุนทำอะไรขนาดนี้

    เขาลากถุงนอนแบบที่ใช้เวลาเข้าค่ายออกมาแล้วยัดตัวมอมแมมลงไปในถุง  ปิดไฟห้องโถงกลางแล้วเข้าห้องนอนไปอาบน้ำนอนบ้าง  แต่ก็ไม่ลืมแปะโพสต์อิทสีสันสดใสลงบนหน้าผากแป้นๆ นั่น

    อย่าทำห้องรก ผมขี้เกียจเก็บ จาก คนที่ใจดีเก็บคุณมาเลี้ยง

     

     

     

     

     

     

     

    ชานยอลตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเที่ยงวัน  มันเป็นเรื่องปกติของนักลงทุนอย่างเขาที่วันๆ นั่งเล่นหุ้นอยู่แต่ในห้อง(ถ้าไม่ต้องตื่นเช้ามาในบางวันน่ะนะ)  บางวันเขาก็ไปนั่งเล่นที่ห้างเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

                อาบน้ำแต่งตัวเสร็จออกมานอกห้องนอนก็ได้ยินเสียงขลุกขลักอยู่แถวห้องครัว  แล้วไหนจะถุงนอนที่กองอยู่บนพื้นกับเสื้อเชิ้ตมอๆ ขาดๆ ตัวหนึ่ง ขายาวก้าวไปทางห้องครัวด้วยความเงียบเชียบ  จะปล่อยให้ไอ้หัวขโมยรู้ตัวไม่ได้หรอกนะ

                คว้าไม้เบสบอลที่แอบไว้ข้างผนังได้ก็ยกเหนือหัวเตรียมตะครุบเหยื่อทันที  แต่พอที่โผล่หน้าเข้าไปในห้องครัวเห็นมนุษย์หัวยุ่งหน้าขาวแต่ตัวมอมแมมกำลังยัดกล้วยหอมเข้าปากทั้งที่ยังกัดหลอดจากกล่องนมแล้วก็ต้องชะงัก  สมองวิ่งปรู๊ดปร๊าดทันทีที่เห็นความมอมแมมตรงหน้า  แล้วก็ระลึกได้ว่าเมื่อคืนลากคนจรจัดกลับห้องมาด้วย 1ea

                “เป็นขโมยหรือ”  เขาโผล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ  เจ้าตัวมอมแมม(แต่หน้าขาว)นั่นตกใจซะสะดุ้ง  เปลือกกล้วยหล่นจากมือ(เพราะเจ้าตัวรีบยัดกล้วยเข้าปากไปหมดลูก)  ดวงตาที่ดูแล้วไม่ได้โตซะเท่าไหร่ก็เบิกกว้างจนเขาขำ  มันเหมือนกับเจ้าหนูแฮมสเตอร์ในหนังตลกที่ทำท่าตกใจทั้งที่ยังถืออาหารอยู่ในมือ

                อ่ะ... แค่กๆๆ เจ้าของห้องส่ายหัว  เดินเอื่อยเฉื่อยไปหยิบแก้วเทน้ำมาให้คนที่ไอค่อกแค่กจากการสำลัก มือใหญ่ตบหลังคนที่กลืนน้ำไปเกือบหมดแก้ว  หลังมือมอมแมมยกเช็ดปากตัวเองลวกๆ ก่อนจะผุดลุกจากเก้าอี้

                ชานยอลปรายตามองคนที่ถอดเชิ้ตแขนยาวขาดๆ เหลือแต่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงผ้าฝ้ายที่เปื้อนรอยดิน   มองคนที่กำลังทำตาโตมองเขาอย่างเอ็นดู  นี่ถ้าเปรียบเทียบกับสัตว์เขาก็เห็นแค่ลูกหมาตัวเล็กที่กลัวจนวิ่งเข้าไปหลบตรงมุมห้อง 

                อา... นี่ไม่ใช่แฮมสเตอร์แล้วสิ นี่มันลูกหมา

                คะ... คุณเป็นใคร ชานยอลไม่แน่ใจว่าเสียงที่เขาได้ยินเป็นของคนมอมแมมเลยยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคนมอมแมมต้องถอยหลังไปติดกำแพง

                เขาทำเลิกคิ้วใส่อีกครั้ง ไม่ได้เอ่ยอะไรแต่เจ้าตัวคงรู้ว่าต้องทำอะไร ริมฝีปากที่แดงระเรื่อนั่นขยับพูดอีกครั้งตามที่ชานยอลต้องการ คุณเป็นใคร

                น้ำเสียงที่ติดจะหวาดกลัวแกมแข็งกร้าวเล็กๆ นั่นทำเขาต้องยกยิ้มมุมปาก  เขายืดตัวเต็มความสูงตามเดิมแล้วเริ่มหันไปหยิบอุปกรณ์ทำอาหารออกมา

                ทำอาหารเป็นไหม เขาหันไปมองคนมอมแมมที่ยังยืนตัวลีบอยู่ข้างฝาผนัง  เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยอมตอบเขาด้วยการส่ายหน้า  เขาเลยคว้าแครอทกับมีดสำหรับปอกเปลือกไปวางบนโต๊ะอีกฝั่ง  ดึงข้อมือที่เล็กกว่าของเขาเยอะนั่นให้เดินตามมานั่งลงบนเก้าอี้ คนมอมแมมเงยหน้ามองอย่างสงสัย

                แค่ปอกเปลือกน่าจะทำเป็นใช่ไหม

                อื้อ

                ดี งั้นปอกเปลือกไปนะ แล้วพี่จะทำของอร่อยให้กินนะครับ เขาอมยิ้มหลังจากมองเจ้าตัวมอมแมมนั่นกระพริบตาปริบ  ไม่ได้หันไปดูหรอกว่าจะปอกเปลือกตามที่บอกไหม  เพราะเขาก็แค่หาอะไรให้อีกคนทำระหว่างรอเขาทำอาหารเท่านั้น

                ยิ่งมองใกล้ๆ ชานยอลยิ่งคิดว่าเจ้าตัวมอมแมมตรงหน้านี่ช่างน่าเอ็นดูซะเหลือเกิน 

     

     

     

     

     

                เจ้าตัวมอมแมมนั่นชื่อพยอนแบคฮยอน  เป็นนักเขียนนิยายสมัยใหม่ที่ชานยอลไม่รู้จัก  เขารู้เท่าที่อีกคนบอกมา  คือมันเริ่มดังจากในอินเทอร์เน็ตแล้วสำนักพิมพ์มาเห็นเข้าเลยได้เซ็นต์สัญญากับสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่  ต่อมามันก็ผุดภาคต่อจนตอนนี้ปาเข้าไปเล่มที่สาม  และในฐานะนักเขียนเลยต้องศึกษาตัวละครให้ถ่องแท้จึงต้องมาทดลองเป็นคนจรจัดอย่างที่เป็นอยู่

                “จริงๆ ตัวนี้มันโผล่มาแค่แป๊บเดียวหรอกฮะ”  แก้มยุ้ยๆ นั่นขยับขึ้นลงตอนที่เจ้าตัวอ้าปากพูด  ถึงเม็ดข้าวจะเต็มปากแต่ชานยอลก็คิดว่ามันน่ารักดี

    ชานยอลได้รู้จักชื่อและประวัติคร่าวๆ ของเจ้าตัวก็หลังจากทำข้าวผัดกิมจิให้กินนั่นแหละ  กินไปเล่าไปทั้งที่ตาเป็นประกาย  เขาเดาไม่ออกว่านั่นเป็นเพราะแบคฮยอนได้เล่าถึงนิยายที่เจ้าตัวภูมิใจหรือเพราะได้กินข้าวกันแน่

     “มีแปรงฟันใหม่อยู่ในตู้เก็บข้างกระจกนะ”  เขายื่นผ้าขนหนูกับชุดลำลองให้แบคฮยอนคนมอมแมม  เด็กน้อยที่อ่อนกว่าเขาสี่ปีพยักหน้าหงึกหงักทั้งที่ยังมองสำรวจไปทั่วห้องนอนของเขา  มือใหญ่เลยผลักหัวทุยๆ นั่นให้รีบเข้าห้องน้ำไปซักทีเพราะเขาเริ่มจะทนความสกปรกของร่างตรงหน้าไม่ไหวอยู่แล้ว  นี่ถ้าไม่เกรงใจเด็กอายุยี่สิบสี่นะเขาจะลากเข้าห้องน้ำไปขัดตัวสกปรกนั่นด้วยตัวเองซะเลย

    แบคฮยอนเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย นั่นเป็นสิ่งที่เขารู้หลังจากละลายพฤติกรรมคนจรจัด(ปลอมๆ)ด้วยข้าวผัดกิมจิไปแล้ว  นอกจากจะเข้ากับคนอื่นง่ายยังเป็นพวกอยากรู้อยากเห็น  สนใจไปทั่ว  แถมยังเป็นคนที่ยิ้มพร่ำเพรื่อจนชานยอลตาลาย  รอยยิ้มรูปสี่เหลี่ยมนั่นเล่นซะเขาตาพร่า  ทั้งที่มอมแมมขนาดนั้นยังน่ารัก

    น่ารักนะ

    และชานยอลแพ้ของน่ารัก

     

     

     

     

    พี่เป็นนักสะสมตุ๊กตาหรือ”  แบคฮยอนถามเขาในบ่ายวันหนึ่ง  นั่นมันหลังจากวันที่เขาเก็บเจ้าตัวมอมแมมนั่นมาที่ห้องไปหลายวันอยู่ 

    แบคฮยอนคนใหม่ที่สะอาดสะอ้านในแบบที่เขาพอใจยืนโชว์ยิ้มรูปสี่เหลี่ยมให้เขาจากอินเตอร์คอมหน้าห้องพัก  เจ้าตัวชูเครื่องดื่มชูกำลังให้ดูก่อนจะกดออดเล่นอีกสองสามครั้งแล้วส่งเสียงสดใสผ่านมาว่า

    ผมเอาของมาเยี่ยมค้าบบบ

    แบคฮยอนคนสะอาดวิ่งเข้ามาทันทีที่เขาเปิดประตูให้  เขี่ยรองเท้าผ้าใบออกจากเท้าได้ก็วิ่งทักๆ พุ่งเข้าใส่โซฟาเขาแบบไม่กลัวว่าหน้าจะขูด  เขาส่ายหัวกับท่าทางเอาหัวถูโซฟาแล้วส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมาของเด็กอายุยี่สิบสี่  นี่แบคฮยอนหลอกเขาหรือเปล่า  ชานยอลคิดว่าแบคฮยอนอายุสักสิบขวบซะอีก

    หลังจากฝากความคิดถึง(?)กับโซฟาเรียบร้อย  คนที่ตัวสะอาดกว่าครั้งแรกที่มาก็เงยหน้ามายิ้มแฉ่งใส่อีกรอบ 

    ชานยอลก็คิดว่าแบคฮยอนนี่ยิ้มพร่ำเพรื่อเกินไปจริงๆ

    พี่  ปวดฉิ้งฉ่องอ่ะ

    ยิ้มหน้าหมา  ชานยอลเรียกมันว่าอย่างนั้น

    นี่ใช่ไหมเหตุผลที่แวะมาน่ะ”  เขาส่ายหน้าให้คนที่ยิ้มแล้วส่งเสียงแหะ จับข้อมือบางแล้วลากเข้าไปในห้องนอนเหมือนเดิม  ห้องน้ำข้างนอกนี่เพิ่งเสียไปเมื่อเดือนที่แล้วแต่ห้องเขาไม่ได้มีคนมาเยี่ยมบ่อยเลยไม่คิดจะซ่อม  เหลือแค่ห้องน้ำในห้องนอนที่ครั้งก่อนเจ้าคน(เคย)มอมแมมนี่เข้าไปอาบน้ำเท่านั้น

    เขาเดินออกมาหยิบน้ำผลไม้มาเทไว้ต้อนรับแขก(?) แต่เจ้าตัวไม่โผล่หน้าออกมาจากห้องเขาเสียทีจนต้องเดินเข้าไปตาม  คิดว่าหาทางออกไม่เจอซะอีกแต่ที่ไหนได้คนยิ้มพร่ำเพรื่อกลับกำลังยืนจ้องคอลเล็กชั่นของสะสมของเขาด้วยความสงสัยก่อนจะหันมาถามด้วยหน้าตาบ๊องๆ ว่า พี่เป็นนักสะสมตุ๊กตาหรือ” 

    จริงอยู่ที่ของสะสมส่วนใหญ่ของเขามันเป็นตุ๊กตา  แต่จะเรียกว่าเป็นนักสะสมตุ๊กตามันก็ไม่ถูกซะทีเดียวเขาจึงส่ายหน้าตอบกลับไป

    พอได้คำตอบเด็กน้อยยิ่งเอียงคอสงสัยเข้าไปใหญ่

    สะสมของน่ารักน่ะ

    อะโห  มุ้งมิ้งอ่ะพี่”  แบคฮยอนทำหน้าล้อเลียนเขาเหมือนเขาเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กถักผมเปีย ใส่ชุดกระโปรงฟูฟ่องแล้วต้องมีพี่กระต่ายอยู่ในอ้อมแขนซะอย่างนั้นแหละ

    เดี๋ยวเถอะ”  เขาแกล้งยกกำปั้นจะเขกลงบนหัวทุยๆ นั่น  แบคฮยอนเลยหลับตาปี๋แถมหดคอซะน่ารัก

    โอเค  เขาชมแบคฮยอนว่าน่ารักมากี่รอบแล้วล่ะ

    มือใหญ่คลายหมัดออกแล้วเปลี่ยนเป็นขยี้ผมนุ่มนั่นจนยุ่ง  เจ้าตัวร้องโวยวายก่อนจะคว้ามือที่ทำร้ายหัวตัวเองมาทำท่าจะกัด

                “เป็นหมาหรือไงฮะเรา ชานยอลว่าตอนที่เจ้าเด็กนั่นงับเข้าที่ข้อมือ

                “ใช่!

    แบคฮยอนนี่มันหมาจริงๆ

    อา... ตอนเด็กๆ ชานยอลอยากเลี้ยงหมาซะด้วยสิแต่ว่าแพ้ขนสัตว์

     

     

     

     

    “วันนี้ไม่ต้องไปเขียนนิยายหรือไง” ชานยอลเงยหน้าจากโน๊ตบุ๊คบนตัก  มองเด็กอ่อนกว่าสี่ปีที่กำลังเล่นฟิกเกอร์ของเขาอยู่บนพื้นพรมตรงหน้า

    “หื้อ” เด็กน้อยส่ายหัวยิก  ชานยอลเลยส่ายหัวตาม 

    แบคฮยอนไม่ยอมกลับห้องเพราะแอบหยิบฟิกเกอร์ที่เขาสะสมออกมาเล่น  บอกว่าไม่ค่อยได้เล่นเพราะมัวแต่อ่านหนังสือเขียนนิยาย  ซึ่งถึงชานยอลจะเป็นคนหวงของแต่กับเด็กคนนี้เขากลับยอมหยิบตัวที่แพงที่สุดออกมาให้เด็กน้อยวัยยี่สิบสี่เล่นได้ตามใจ

    แบคฮยอนเดินเข้าเดินออกห้องนอนเขาหลายรอบจนตอนนี้รอบตัวเด็กนั่นมีทั้งฟิกเกอร์และตุ๊กตานุ่มนิ่มล้อมรอบเต็มไปหมด  เจ้าตัวยิ้มแฉ่งกับอาณาเขตที่สร้างขึ้นมาจากของสะสมของเจ้าของห้อง  คว้าตุ๊กตาหมีใกล้ตัวมาได้ก็ฟัดหอมใหญ่  ดีที่ว่าชานยอลคอยเก็บและดูแลอย่างดีถึงไม่มีฝุ่นไรจับตามของสะสมพวกนี้

    “พี่”

    แรงสะกิดตรงต้นขากับเสียงเรียกทำให้คนที่กำลังคุยธุรกิจอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง  เด็กน้อยกำลังนอนหงายและสิ่งที่ใช้สะกิดขาเขาเมื่อกี้ก็คือปลายเท้าที่หุ้มด้วยถุงเท้าแถบสีรุ้ง  เขามองตามจนไปจบที่รอยยิ้มรูปสี่เหลี่ยมคุ้นตา

    “ถ่ายรูปให้หน่อย” ว่าจบเจ้าของรอยยิ้มรูปสี่เหลี่ยมก็ยิ้มยิงฟันตามแบบฉบับแถมยังชูสองนิ้วไว้ข้างใบหน้า  เจ้าของห้องมองค้างอยู่ครู่ใหญ่จนนายแบบต้องบ่นว่าเกร็งหน้าจนเมื่อยแล้วเขาถึงได้เปิดกล้องในไอแพดถ่ายให้ตามที่อีกคนต้องการ

    เปลี่ยนท่าไปเยอะ ถ่ายไปหลายช็อต นายแบบตัวน้อยถึงได้ลุกก้าวข้ามกองตุ๊กตาแล้วมาเบียดคนตัวใหญ่อยู่บนโซฟา

    “ไหนๆ พี่ถ่ายผมหล่อหรือเปล่าเนี่ย” ยื่นหน้าเขามาใกล้เพื่อขอดูรูปในไอแพด ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามันอาจจะใกล้เกินไป  และในหัวของเจ้าของห้องตอนนี้มีแต่ประโยคค่อนขอดเจ้าตัวเล็กว่า จะไปหล่อได้ยังไง น่ารักซะมากกว่าน่ะสิ 

    ภาพของเจ้าตัวที่นอนแผ่อยู่ท่ามกลางภูเขาของน่ารักทำให้เด็กน้อยหัวเราะเอิ้กอ้าก  นิ้วเรียวจิ้มขยายไปบนหน้าจอไอแพด  ชี้ชวนให้เจ้าของห้องดูความหล่อของตัวเอง(ที่ชานยอลขอเถียงอีกทีว่าน่ารัก)  เลือกรูปที่ถูกใจแล้วก็บอกอีกคนให้ส่งให้ผ่านโปรแกรมแชท

    “ส่งมาในคาทกให้ผมด้วยนะพี่”

    “พี่มีคาทกเราที่ไหนล่ะ”

    “เอ้อจริงด้วย  ทำไงดีอ่ะ”  คนอายุน้อยกว่าช้อนตาขึ้นมอง  ชานยอลบอกเลยว่ามันเหมือนลูกหมาน่าสงสารตัวหนึ่งเท่านั้น

    “ก็เอาไอดีเรามาสิ”  เจ้าของห้องเปิดเข้าโปรแกรมแชทที่ว่าแล้วยื่นให้อีกคนกด  เจ้าตัวทำพยักหน้าเห็นด้วยแล้วจิ้มให้  เพียงครู่เดียวมือถือของคนตัวเล็กก็แจ้งเตือนเสียงดังว่ามีข้อความเข้าจากผู้ติดต่อใหม่  เจ้าตัวยิ้มตาหยีก่อนจะหันมาขอบอกขอบใจเจ้าของห้องแล้วก็นั่งกดมือถือยิกๆ  ไม่ได้สนใจใครอีกคนที่กำลังจ้องไอแพดอยู่เลย

    ชานยอลแพ้ของน่ารัก  ภาพกองภูเขาของสะสมของเขามันทำให้ใจเต้นไม่น้อย  แต่สิ่งที่ทำให้เขาใจเต้นหนักกว่าเดิมแถมยังรู้สึกว่ากล้ามเนื้อตรงแก้มมันยกขึ้นอัตโนมัตินั่นอีก  ทั้งหมดทั้งมวลคงหนีไม่พ้นของน่ารักชิ้นใหญ่สุดตรงกลางที่กำลังส่งยิ้มแฉ่งผ่านรูปถ่ายมาให้

    ใจเต้นไม่พอมันยังมีอาการเหมือนจะเป็นลมให้ได้  ตาพร่าลายกับรอยยิ้มของคนในรูปซะเหลือเกิน 

    เขาว่าเขาชักจะเป็นหนักแล้วสิ

    มองดูเด็กน้อยคนข้างๆ ที่ยกขาขึ้นมานั่งขดบนโซฟา  แผ่นหลังบางกับสะโพกอวบๆ  นั่นแนบอยู่ข้างลำตัวเขาเสียสนิท  เด็กน้อยนั่งหันหลังให้เขาแต่ทว่าก็พิงลงมาซะเต็มตัว  เขายกแขนข้างที่ถูกพิงขึ้นเพียงเล็กน้อย  ตัวเล็กๆ  นั่นก็เอียงลงมาพิงตรงอกเขาซะแล้ว  เด็กน้อยเงยหน้าสบตาเขาอย่างสงสัยก่อนจะหลับตาปี๋ตอนมือหนาเข้ามาขยี้หัวอีกครั้ง

    แบคฮยอนไม่ได้ทำหน้าบู้บี้หรือบ่นอะไรกับการกระทำครั้งนี้  แต่เจ้าตัวเล็กกับดึงแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั่นให้โอบรอบไหล่ก่อนจะเอนซบหัวพิงอีกคนเต็มตัว  ไม่ได้สนใจคนที่ให้พิงหรอกนะแต่กำลังสนใจคลิปตลกในมือถือซะมากกว่า  หัวเราะเอิ้กอ้ากได้ไม่นานก็ต้องเป็นเงียบกริบเมื่อมือถือของเจ้าของห้องถูกยื่นมาในกรอบสายตา 

    เพียงแค่เห็นว่ากล้องหน้าเปิดอยู่พร้อมกับเสียงทุ้มเหนือศีรษะนับถอยหลังสามสองหนึ่งเจ้าตัวเล็กก็ส่งยิ้มสี่เหลี่ยมตาหยีให้กล้องโดยไม่ต้องบอก  ถ่ายไปหลายรูปจนเจ้าของห้องพอใจเจ้าตัวเล็กถึงได้กลับไปสนใจคลิปตลกต่อ

    ส่วนเจ้าของห้องตัวสูงกลับทำหน้าเคร่งเครียดอยู่กับมือถือของตนแทน

    แอพพลิเคชั่นยอดนิยมอย่างอินสตาแกรมถูกเปิดค้างไว้  แต่นิ้วหนากลับเลื่อนรูปที่เพิ่งถ่ายไปมาอย่าคิดไม่ตก  กัดปากทำใจจะอัพรูปที่เห็นกันทั้งสองคนก็ขัดใจ  จะอัพรูปเด็กน้อยกับกองของน่ารักก็ไม่ชอบ  สุดท้ายเลยกดตรงกล้องอีกครั้งแล้วรวบเด็กน้อยในอ้อมแขนเข้ามาใกล้อีกรอบ  วางคางลงบนหัวทุยนั่นแล้วฉีกยิ้มเลียนแบบเด็กน้อยก่อนจะกดถ่ายโดยที่คนในอ้อมกอดไม่ได้สนใจอะไรเขาด้วยซ้ำ

    รูปนี้แหละที่เขาอัพให้ชาวโลกเห็นได้

    เขามองรูปนั้นอย่างพอใจอีกครั้งก่อนจะกดล็อกหน้าจอมือถือซะแล้วหันมาสนใจเด็กน้อยที่หัวเราะเอิ้กอ้ากกับคลิปตลก  เบียดคางเข้าไปวางตรงไหล่เล็กแล้วขอดูคลิปตลกด้วยกัน  หัวเราะไปพร้อมกับเสียงใสข้างหูที่ฟังกี่ครั้งเขาก็คิดว่ามันช่างน่ารักน่าเอ็นดูซะเหลือเกิน

    มือถือเครื่องหรูที่ถูกวางทิ้งสั่นครืดคราดเพราะแจ้งเตือน  ระเบิดลูกใหญ่ที่เขาวางไว้กำลังทำงาน

     

    ถูกใจ 192 คน
    real__pcy       ลูกหมา

    oohsehun  พี่แพ้ขนหมาไม่ใช่เหรอ  แล้วนั่นมันหัวคน  อย่ามาโม้!
    kimkaaaaaa  ง่ออออว์ แอบซุกสาวไว้ที่ห้องเหรอพี่!

     

    ภาพใบหน้าของเจ้าของแอคเคาน์เพียงครึ่งเดียวกับคางได้รูปที่วางอยู่บนผมหนานุ่มของใครบางคนที่เขาถ่ายให้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าที่กำลังก้มจ้องคลิปในมือถือกับวงแขนแกร่งที่โอบอยู่รอบไหล่เล็กนั่นเป็นเพียงระเบิดลูกเล็กที่เขาตั้งใจทิ้งไว้ให้คนอื่นอิจฉาก็เท่านั้น

     

     

     

     

     

     

    ชานยอลล้มตัวลงนอนตอนตีหนึ่ง  เด็กนั่นเพิ่งกลับไปตอนที่เขาเตือนว่าใกล้เวลาที่รถไฟใต้ดินจะหมดแล้วเด็กน้อยถึงได้พรวดพราดออกจากห้องเขาไป  แถมยังคว้าตุ๊กตาเขาติดมือไปอีก  เขาส่ายหัวให้กับตัวเองที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้มรูปสี่เหลี่ยมนั่นลอยเต็มไปหมด  แล้วไหนจะเอาตุ๊กตาที่เด็กนั่นไปกอดเล่นไว้ทั้งวันมาวางไว้ข้างกาย  คว้ามากอดมาหอมเพราะกลิ่นแป้งเด็กที่ไม่ค่อยคุ้นชินแต่กลับชอบจนต้องจับตุ๊กตาทุกตัวมาดม

    เขาโยนตัวที่ไม่มีกลิ่นลงบนพื้นห้องก่อนจะคว้าตัวใหญ่สุดมากอดแนบกาย จำได้ว่าแบคฮยอนเอนหลังพิงตัวนี้ทั้งวันแล้วไหนจะฟัดเล่นจนเหนื่อยหลับไปอีก  เพราะฉะนั้นตัวนี้จะได้รับสิทธิพิเศษนอนบนเตียงเขาในคืนนี้

    ชานยอลก็คิดอยู่แวบหนึ่งว่าเขาอาการหนักแล้วล่ะ

    ครืดดด ครืดดด

    เสียงมือถือเครื่องหรูสั่นครืดคราดเพราะเจ้าของไม่ชอบเสียงที่ดังรบกวน  เขาเห็นหน้าจอสว่างวาบสองทีแต่ก็ไม่ได้สนใจ  จนตอนมันสั่นเป็นครั้งที่สี่ ห้า หก และอีกหลายครั้งเขาถึงได้ลุกนั่งพิงหัวเตียงแล้วหยิบมือถือมาดูอย่างเสียไม่ได้

     

    Baekhyunee_ ฮาลเหลลลลล (สติกเกอร์หน้ายิ้ม)

    Baekhyunee_ พี่~~~~

    Baekhyunee_ ผมถึงบ้านละน๊าาาาาา

    Baekhyunee_ เพิ่งเห็นว่าเจ้านี่มันแอบเกาะกระเป๋าผมมา

    Baekhyunee_ *แนปรูปตุ๊กตาของชานยอลที่ถูกหยิบไป*

    Baekhyunee_ ไม่ว่ากันโน๊ะะะะะ

    Baekhyunee_ เฮหลูวววว พี่หลับแล้วเหย๋ออออ

    Baekhyunee_ พี่ชานโยลลล พี่ตัวสูงงงง พี่หูกางงงง

    Baekhyunee_ งั้นฝันดีก้ะด้ะ

    Baekhyunee_ (สติกเกอร์โบกมือ)

     

    ชานยอลไม่เคยคิดว่าเขาจะมีโมเมนต์เอากำปั้นยัดปากแบบที่ทำอยู่  เขาอ้าปากร้องไม่มีเสียงแถมยกกำปั้นขึ้นมาอุดปากอย่างไม่เคยมาก่อน 

    น่ารัก  น่ารักเกินไปแล้วจริงๆ

     

    Baekhyunee_ ทำไมอ่านแล้วไม่ตอบ!!

    Baekhyunee_ (สติกเกอร์หน้าโมโห) 

     

    เขาหายใจเข้าลึกๆ อยู่สามที ยิ้มมีความสุขอยู่คนเดียวก่อนจะพิมพ์ตอบกลับเด็กน้อยไป

     

    Real__pcy คับ

     

    แค่กดส่งไปมันก็ขึ้นว่าอีกฝ่ายนั้นอ่านข้อความของเขาแล้ว  เพียงชั่วอึดใจเดียวฝั่งนั้นก็รัวข้อความกลับมาเหมือนตอนแรกไม่มีผิด

     

    Baekhyunee_ โห ผมพิมพ์ไปตั้งเยอะพี่ตอบว่าคับคำเดียวได้ไง

    Baekhyunee_ อย่างน้อยก็ต้องพูดอะไรเยอะกว่านี้บ้างสิ

    Baekhyunee_ บอกฝันดีก็ได้

    Baekhyunee_ จะด่าที่ผมเอาตุ๊กตาพี่มาก็ได้

    Baekhyunee_ (สติกเกอร์สะบัดหน้า)

    Baekhyunee_ ง้อผมโหน่ยยยยย

     

    อา.. ชานยอลจะทำยังไงกับเด็กคนนี้ดีนะ

     

    Real__pcy ไม่ง้อหรอกนะ

     

    Baekhyunee_ พี่นี่!!

     

    Real__pcy พี่ไม่ชอบง้อผ่านข้อความแบบนี้หรอกนะ

    Real__pcy มาเจอกันก่อนแล้วพี่จะง้อ

    Real__pcy ตอนนี้อาบน้ำนอนได้แล้วครับ

    Real__pcy นอนดึกมันไม่ดีนะรู้ใช่ไหม

    Real__pcy งานเอาไว้ค่อยทำพรุ่งนี้เช้านะครับ

    Real__pcy นอนเถอะคนดี

     

    ทุกข้อความที่ชานยอลส่งไปขึ้นว่าอีกคนอ่านมันหมดแล้วแต่ก็ไร้ข้อความตอบกลับจากอีกคน  ชานยอลมองหน้าจออยู่อย่างนั้นจนกระทั่งหน้าจอดับไปแล้วอีกคนถึงได้ตอบกลับมา

     

    Baekhyunee_ พี่แม่ง... (สติกเกอร์หน้ายุ่ง)

    Baekhyunee_ 010xxxxxxxxxx เบอร์ผม

    Baekhyunee_ (สติกเกอร์โทรศัพท์)

     

    Real__pcy โทรไปได้ไหม

     

    ชานยอลยิ้มชอบใจอยู่คนเดียว  พิมพ์ตอบกลับไปแล้วก็เซฟเบอร์นั้นลงเครื่องทันที  ไม่นานข้อความตอบกลับจากอีกคนก็ถูกส่งมา

     

    Baekhyunee_ ให้เบอร์มือถือไปแบบนี้โทรไม่ได้มั้งพี่!

     

    Real__pcy หมายถึงตอนนี้

    Real__pcy โทรไปได้ไหม

     

    ชานยอลไม่ได้คาดหวังกับคำตอบของแบคฮยอน แต่สิ่งที่อีกฝ่ายตอบมากลับทำเขายิ้มกว้างยิ่งกว่าเก่า

     

    Baekhyunee_ อื้อ

     

    พอได้รับคำตอบจากอีกคนเขาก็กดโทรออกทันที  ไม่ต้องรอให้เสียงตู้ดดังเป็นครั้งที่สองอีกคนก็กดรับสาย

    เขาไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกไปเพียงแต่รอดูท่าทีว่าแบคฮยอนจะพูดว่ายังไงบ้าง

    “ฮัลโหล”

    “...”

    “โหลหนึ่ง”

    “...”

    “โหลสอง”

    “...”

    “โหลสาม  ...ไม่พูดจะวางแล้วนะ!

    “เดี๋ยวสิ” ชานยอลยอมพูดออกไปในที่สุด  เสียงแจ้วๆ นั่นทำเขายิ้มอีกแล้ว

    “โทรมาแล้วก็ไม่พูดนะ  พี่รวยมากหรือไง”

    “ครับ”

    อีกฝ่ายทำเสียงฮึดฮัดใส่แต่เขาไม่ได้สนใจเท่าไรกลับพูดต่อ

    “อาบน้ำหรือยัง”

    “อาบแล้ว  พี่ล่ะ”

    “เรียบร้อยแล้วครับ  นอนอยู่บนเตียงแล้วเรียบร้อย”

    “แง่ะ  ผมยังนอนไม่ได้เลย หัวยังไม่แห้ง”

    ชานยอลนึกภาพปากบางๆ นั่นยู่เข้าได้เลย

    “งั้นรีบเช็ดผมรีบนอนซะนะครับ” เขาเอ่ยบอก  กลัวว่าเด็กน้อยจะนอนทั้งที่ผมยังไม่แห้งแล้วเดี๋ยวจะพานไม่สบายขึ้นมา

    “อื้อ”

    “พรุ่งนี้ให้พี่โทรไปปลุกไหมครับ”

    “อื้อ”

    “โอเค งั้นนอนซะนะ  ฝันดีครับตัวเล็ก”

    “อื้อ”

    แม้อีกฝ่ายจะวางสายไปแล้วแต่เขายังคงแนบโทรศัพท์ไว้กับใบหู  เสียงตอบสั้นๆ นั่นถ้าเขาเดาไม่ผิดเด็กน้อยคงกำลังเขินอยู่กับการพูดครับของเขา  เขาสังเกตตั้งแต่ตอนที่อีกคนอยู่ในห้องเขา  ถ้าพูดสุภาพๆ ด้วยเมื่อไรแก้มใสนั่นจะแดงปลั่งจนน่าฟัดให้จมเขี้ยวซะจริงๆ

    โทรศัพท์ในมือเขาสั่นครืดคราดอีกครั้ง

     

    Baekhyunee_ ฝันดีนะพี่ชานยอล

     

    ชานยอลยิ้มแก้มแทบปริ  เขาคงฝันดีในคืนนี้แน่นอน

     

     

     

     

     

    “เชิญคร้าบบบบบ”  เจ้าของห้องตัวเล็กเปิดประตูออกกว้างแล้วทำท่าผายมือเหมือนพนักงานตามร้านอาหารหรือโรงแรม  คนตัวสูงที่ถือถุงเสบียงพะรุงพะรังเต็มสองมือเบียดตัวผ่านประตูเข้ามา  กวาดตามองไปรอบห้องเดี่ยวของอีกคนเพียงครู่เดียวเจ้าของห้องก็ดันหลังให้ก้าวเข้าไปภายใน

    ห้องขนาดกว้างแต่แบ่งสัดส่วนชัดเจนว่าเป็นมุมครัว  มุมโต๊ะทำงานหรือมุมโต๊ะรับแขก   กับเตียงนอนคิงส์ไซส์อีกมุมหนึ่ง   ที่ชานยอลพอจะเห็นได้ชัดคือกองหนังสือและกระดาษมากมายที่กองอยู่ตรงปลายเตียงกับที่นอนปิกนิกผืนหนึ่งปูอยู่ตรงพื้น  คงไม่ใช่ว่าเด็กนี่ยกเตียงให้เป็นที่วางของแล้วย้ายตัวเองลงมานอนกับพื้นหรอกนะ

    “โห ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย” เจ้าของห้องเอ่ยทัก เปิดดูของในถุงช็อปปิ้งแล้วต้องร้องว้าวออกมาเพราะล้วนเป็นของชอบของตัวเองทั้งนั้น  ไม่ต้องหวังคำว่า ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาเลยจากเจ้าตัวหรอกเพราะเด็กน้อยคนนี้จะทำเพียงแค่

    หงั่มๆ

    แจ้บๆ

    “อันนี้อาหย่อย  วันหลังซื้อมาให้ผมอีกนะพี่”

    นั่นแหละ  ไม่มีถามหรอกว่ากินด้วยไหม  จับได้ก็ยัดเข้าปากแถมไม่มีความเกรงใจกันซักนิด

                ชานยอลมองหากระดาษเช็ดปากแต่ก็ไม่เห็น  ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไม่เด็กนี่ถึงไม่มีของใช้จำเป็นแบบนี้ติดห้อง  เมื่อไม่มี มือใหญ่จึงทำหน้าที่นั้นแทน 

                นิ้วใหญ่กวาดรอบมุมปากเล็กลามไปถึงบีบแก้มยุ้ยๆ นั่นอย่างหมั่นเขี้ยว  เจ้าตัวมูมมามก็ยิ้มตาหยีกลับมาให้

                ชานยอลคงต้องไปหาหมอ  เขากลัวว่าจะเป็นโรคหัวใจ  หรือบางทีอาจจะต้องทำเพียงแค่สั่งให้แบคฮยอนเลิกยิ้มพร่ำเพรื่อเขาจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะหัวใจวายตายเพราะมันมักจะเต้นแรงเกินทุกครั้งที่เด็กคนนี้ยิ้ม

                “กินเสร็จแล้วก็ไปล้างมือก่อนสิ  เดี๋ยวมดก็ขึ้นคอมหรอก”  เขาเอ็ดคนที่เช็ดมือกับเสื้อยืดตัวเองลวกๆ แล้วทำท่าจะกดแป้นคีย์บอร์ดต่อ

                “แง่ะ  เช็ดให้หน่อยสิ  ทิชชู่เปียกก็ได้  ผมเห็นนะว่าพี่ซื้อมา” เด็กตัวเล็กงอแงจนเขาต้องส่ายหัว  เจ้าตัวเล็กทำเบะปากแล้วยื่นมือออกมาข้างหน้าเหมือนผีจีนรอให้เขาเปิดซองทิชชู่เปียกมาเช็ดมือให้เหมือนคนทำอะไรไม่เป็น 

                แต่จริงๆ  แล้วแบคฮยอนก็ทำอะไรไม่ค่อยจะเป็นจริงๆ นั่นแหละ

                อันนี้ผมต้องกดตรงไหนอ่ะ’ – นั่นตอนที่ไปเล่นซนห้องเขาแล้วเจอเจ้าเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติแล้วอยากเล่น

                พี่โทรสั่งไก่ให้หน่อยดิ ผมอยากกิน’ – นี่ก็ตอนไปนอนเล่นห้องเขาแล้วอยากกินไก่ทอดแต่โทรสั่งไม่เป็น

                โอ๊ะโอ มันบอกว่าพี่อยู่เวลสามอ่ะ’ – นี่ก็ตอนเอามือถือเขาไปเล่นแล้วเปิดเข้าไปในเกมส์แต่ก็กดมั่วจนเลเวลเขาลดฮวบมาอยู่เกือบรั้งท้าย

                ฯลฯ นี่ยังไม่นับอีกหลายวีรกรรมตลอดสองเดือนที่เขาต้องจดลิสต์เข้าไปในบัญชี ความแบคฮยอน

     

     

     

                “พี่จะนอนบนเตียงก็ได้นะ มันพอว่างอยู่ครึ่งหนึ่ง”

                ชานยอลปรายตามองเตียงที่ว่างอยู่ครึ่งหนึ่งอย่างที่เจ้าของห้องบอก  แต่เขาก็ไม่คิดจะไปนอนบนนั้นหรอกนะ

                ร่างสูงเดินลากสลิปเปอร์เปิดตู้เสื้อผ้าอีกคนอย่างถือวิสาวะซึ่งเจ้าของห้องตัวเล็กก็ไม่ได้ว่าอะไร  หรือพูดอีกอย่างคือไม่ได้สนใจอะไรคนตัวสูงเลยด้วยซ้ำ  มือเรียวสวยยังคงกดต๊อกแต๊กบนแป้นพิมพ์อย่างไม่ขาดตอน

                ชานยอลค้นเจอผ้าห่มนวมผืนใหญ่กับฟูกปู  เขาเลือกพื้นที่เหมาะๆ ใกล้กับโต๊ะที่เด็กน้อยนั่งพิมพ์นิยายอยู่  ปูฟูกลงไปก่อนจะล้มตัวลงนอน  ไม่ลืมจะหยิบหมอนกับตุ๊กตาที่จำได้ว่าเด็กน้อยจิ๊กมาจากห้องของตัวเองมากองไว้รอบด้านอย่างที่แบคฮยอนชอบทำตอนไปห้องเขา

                'กำแพงนุ่มนิ่ม' ที่อีกคนเรียกกลายเป็นอาณาเขตล้อมรอบคนตัวสูงไปซะแล้ว

                มันสบายดีออกตอนที่กลิ้งไปทางไหนก็เจอแต่นุ่มนิ่มพวกนี้อ่ะ

                ชานยอลก็เริ่มคิดแล้วว่ามันสบายเพราะเจ้าพวกนุ่มนิ่มรอบตัวนี้  แต่เขาคงรูสึกดีกว่านี้ถ้าได้นุ่มนิ่มอีกตัวมากอด

                “แบคฮยอน”

                “หือ”

                “เสร็จแล้วมานอนนี่นะ”

                เขาเว้นที่ข้างตัวไว้ให้เจ้าของห้องตัวเล็กที่กำลังมองมา  ดวงตารีเรียวเป็นประกายพอเห็นกำแพงนุ่มนิ่มแบบที่ชอบ  ทำกัดปากชั่งใจอยากจะทำงานให้เสร็จแต่กำแพงนุ่มนิ่มพวกนั้นก็กำลังส่งเสียงร้องเรียกเขาอยู่ 

                “งืออ นุ่มนิ่มมม” เบะปากเรียกเสียงอ่อน  ทำหางตาตกใส่คนอายุมากกว่าเพราะเหมือนทำมาล่อกันซะอย่างนั้น  มือเรียวรีบพิมพ์ประโยคสุดท้ายที่อยู่ในหัว กดเซฟและปิดเครื่องก่อนจะกระโจนใส่นุ่มนิ่มตัวยักษ์ที่อ้าแขนรอไว้ก่อนแล้ว

                “ฮือออ นุ่มนิ่มมมม” แบคฮยอนร้องหงิงๆ อยู่ข้างหูคนตัวใหญ่  เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะจับตัวเล็กๆ ให้ลงมานอนข้างกัน  ตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมทั้งสองร่าง  ปล่อยให้เด็กน้อยหยิบตุ๊กตานุ่มนิ่มเข้ามาหอมเข้ามาฟัดให้เต็มที่

                มือหนาคว้าเอวของอีกคนเข้ามาใกล้  พลิกตัวเด็กน้อยที่กำลังกอดนุ่มนิ่มไว้ให้หันมาหากัน 

                เขาเองก็อยากกอด นุ่มนิ่ม นะ

                กดจมูกลงบนแก้มใสดังฟอดก่อนจะเลยไปยังขมับและบนหัวยุ่ง  กระชับอ้อมกอดดึงอีกคนให้แนบชิดอย่างที่อยาก  คนถูกกอดส่งเสียงงุ้งงิ้งจับใจความไม่ได้จนเขาต้องผละออกมาถาม

                แก้มใสแดงระเรื่อกับริมฝีปากที่ถูกกัดไว้ทำเขาต้องฉีกยิ้ม  ตัวเล็กนี่เขินที่ไรหัวใจเขาทำงานหนักทุกทีสิ

                “ว่าไงนะ”

                “ขี้โกง  เอาเปรียบกันชะมัด” ทำปากยู่ประกอบทั้งที่หน้ายังแดงอยู่อย่างนั้นแหละ

                “งั้นให้เอาคืน อ่ะ”  คนตัวสูงทำยิ้มแล้วยื่นแก้มเข้าไปใกล้  คนที่ภูมิต้านทานต่ำกับกลิ่นตัวหอมแป้งเด็กต้องข่มใจไว้รอดูก่อนว่าเด็กน้อยจะทำอะไร  หลังจากนั้นเขาค่อยสูดกลิ่นหอมแป้งเด็กนี่ให้ชื่นปอดก็ยังได้

                “ฮึ! พี่นี่เจ้าเล่ห์จริงๆ!” ถึงจะว่าไปอย่างนั้นแต่ริมฝีปากที่บ่นแจ้วๆ ก็กดลงบนแก้มบุ๋ม  แบคฮยอนชอบตอนคนตัวสูงยิ้มจนขึ้นรอยลักยิ้มชัดเจนจริงๆ

                “ชื่นใจจัง” ทำเสียงหวานตบท้ายหลังจากกดจูบบนแก้มสากทั้งสองข้าง  แม้จะทำใจกล้าแต่แก้มทั้งสองข้างที่แดงแข่งกันก็เป็นหลักฐานชั้นดีว่าอีกคนนั้นเขินแค่ไหน  แต่ก็ไม่ต่างกับคนเริ่มก่อน  แม้หน้าจะไม่แดงอย่างคนตัวเล็กแต่ใบหูกลับแดงชัดเจนจนมือสวยต้องยกมากุมไว้อย่างเอ็นดู

                “พี่นี่น่ารักจังเลยน้า” ทำหน้าหมั่นเขี้ยวใส่ทั้งยังบิดใบหูอีกคนไปมา  ชานยอลไม่ได้ว่าอะไร  เขาทำเพียงยิ้มตามอีกคนที่ทำตัวน่าเอ็นดูอยู่ตรงหน้า

                มือหนายกกุมทับมืออีกคน  ส่งรอยยิ้มหวานให้ทั้งดวงตาและริมฝีปาก  ขยับบอกคำพูดหวานๆ ก่อนจะประทับจูบเบาบางลงบนริมฝีปากสีเชอรี่ตรงหน้าทั้งรอยยิ้ม

                แบคฮยอนเองก็ยิ้มอยู่เหมือนกันล่ะนะ

                “น่ารักขนาดนี้ก็รักซะสิ  เพราะพี่ก็รักแล้วเหมือนกัน”

     

     

     

    70%

    จริงๆ อยากจบเลย แต่มันยังไม่จบป่ะแก ใช่ไหม?




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×