คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 92 - Adorable Collector (70%)
Park CY is a Collector.
พัค ซีวายเป็นนักสะสม
He is Adorable.
เขาน่ารัก
And
และ
He is a Adorable Collector.
เขาเป็นนักสะสมของน่ารัก
---
Byun BH is an Adorable.
พยอน บีเอชเป็นคนน่ารัก
Human can be a stuff?
มนุษย์ถือเป็นสิ่งของไหม
If that is,
ถ้าใช่
then Park CY will collect him.
พัค ซีวายก็จะเป็นคนสะสมเขาเอง
...
ชานยอลคิดว่าแบคฮยอนเป็น ‘ไอ้ตัวน่ารัก’
ถ้ามีใครถามเขาว่าอะไรน่ารักกว่าแบคฮยอน เขาคงบอกให้มันไปตายซะ
บนโลกนี้ไม่มีอะไรน่ารักกว่าพยอนแบคฮยอนอีกแล้ว
เขาเก็บแบคฮยอนได้จากถังขยะ คุณฟังไม่ผิดหรอก จากถังขยะจริงๆ นั่นแหละ
เจ้าตัวเล็กนั่นไปนั่งกองอยู่ข้างถังขยะในตอนที่เขาถือถุงขยะมาทิ้งหน้าคอนโด ตอนแรกเขาใช้เท้าเขี่ยดูด้วยซ้ำว่านี่คนหรือศพเพราะสภาพที่ดูอิดโรย ผอมกะหร่อง แล้วไหนจะหน้าตาเปรอะเปื้อน เสื้อก็ขาด เขาเกือบจะโทรเรียกตำรวจอยู่แล้วถ้าเจ้าตัวเล็กไม่ผุดลุกขึ้นยืนเสียตรงแด่วเพราะเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงตัวเอง สาบานเลยว่านักลงทุนอย่างเขายังไม่เคยคิดจะซื้อมือถือแพงขนาดนั้นมาใช้เลยด้วยซ้ำ
เจ้าคนมอมแมมยืนโงนเงนคุยโทรศัพท์เสียจนเขากลัวว่าหัวยุ่งๆ นั่นจะกระแทกกับขอบเสาไฟฟ้าจนต้องเอามือไปรองไว้กันพลาด แต่ที่ไหนได้เจ้าตัวเล็กกลับล้มเอียงมาทับเขาทั้งตัว คนมันยังไม่ทันได้ตั้งตัวน่ะนะเลยลงไปนั่งกองกับพื้นมีหัวยุ่งๆ เป็นรังนกพิงอยู่ตรงอก ตอนนั้นแหละที่ชานยอลสบถเสียดังราวกับไม่เคยสบถมาก่อนในชีวิต
เขาจัดการดันเจ้าตัวสกปรกออกจากตัว ตัวเล็กๆ นั่นกองอยู่กับพื้นเหมือนกิมจิต้นหอมเหี่ยวๆ เขาโยนถุงขยะลงในถังแล้วยืนขึ้นเต็มความสูง เสื้อผ้าเขาก็ไม่ใช่ว่าจะสะอาดเท่าไรหรอกในเมื่อเขาก็ยังไม่ได้อาบน้ำมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไอ้คนที่นอนสลบอยู่บนพื้นนี่ตัวสกปรกยิ่งกว่าแมลงสาบในท่อน้ำทิ้ง จะให้เขายอมปล่อยให้ตัวมอมแมมนั่นพิงตัวอยู่ก็ใช่เรื่อง
เขานั่งยองๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ร่างที่สลบอยู่บนพื้น ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอกับเสียงหงิงๆ เหมือนลูกหมานั่นทำให้เขาสบายใจได้เปราะหนึ่งว่าไอ้ตัวมอมแมมนี่ยังไม่ตาย เขาหันซ้ายหันขวาอย่างจะขอความช่วยเหลือจากใครสักคน แต่ก็นะ นี่มันตีสอง เวลานี้คงไม่มีไอ้บ้าที่หน้าตาหล่อๆ แบบเขาออกมาทิ้งขยะกลางดึกแบบนี้หรอก ส่วนยามประจำคอนโด นั่นก็หลับ เขาคงต้องช่วยเจ้ามอมแมมนี่ด้วยตัวเอง
ชานยอลตัดสินใจแบกเจ้าตัวมอมแมมขึ้นขี่หลัง แขนง่อยๆ นั่นยื่นผ่านไหล่เขามาด้านหน้า เขาสังเกตเห็นนิ้วมือที่ออกจะเรียวสวยกว่าของผู้ชายทั่วไปต่างจากมือเขาอย่างสิ้นเชิง เขาโดนพี่สาวล้อตั้งแต่เด็กจนโตว่าไอ้มือกรรมกร
เขาไม่อยากให้เบาะโซฟาต้องสกปรกเลยจัดการโยนร่างอ่อนปวกเปียกลงบนพื้นห้อง วิ่งเอามือไปรองน้ำเย็นแล้วมาตบแปะๆ ข้างแก้มที่พอสัมผัสแล้วนิ่มเสียยิ่งกว่าแป้งต็อก เจ้าตัวมอมแมมไม่ได้มีปฏิกิริยาอย่างที่ควรเป็น เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เจ้าเด็กนี่คงไม่ได้เป็นมิจฉาชีพหรอกมั้ง เพราะจากที่เขาได้ยินตอนคุยโทรศัพท์ ตัวมอมแมมนี่เป็นนักเขียนและกำลังอยู่ในช่วงทำความเข้าใจตัวละคร ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าสนใจอยู่พอสมควรกับคนที่ลงทุนทำอะไรขนาดนี้
เขาลากถุงนอนแบบที่ใช้เวลาเข้าค่ายออกมาแล้วยัดตัวมอมแมมลงไปในถุง ปิดไฟห้องโถงกลางแล้วเข้าห้องนอนไปอาบน้ำนอนบ้าง แต่ก็ไม่ลืมแปะโพสต์อิทสีสันสดใสลงบนหน้าผากแป้นๆ นั่น
“อย่าทำห้องรก ผมขี้เกียจเก็บ จาก คนที่ใจดีเก็บคุณมาเลี้ยง”
ชานยอลตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเที่ยงวัน มันเป็นเรื่องปกติของนักลงทุนอย่างเขาที่วันๆ นั่งเล่นหุ้นอยู่แต่ในห้อง(ถ้าไม่ต้องตื่นเช้ามาในบางวันน่ะนะ) บางวันเขาก็ไปนั่งเล่นที่ห้างเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จออกมานอกห้องนอนก็ได้ยินเสียงขลุกขลักอยู่แถวห้องครัว แล้วไหนจะถุงนอนที่กองอยู่บนพื้นกับเสื้อเชิ้ตมอๆ ขาดๆ ตัวหนึ่ง ขายาวก้าวไปทางห้องครัวด้วยความเงียบเชียบ จะปล่อยให้ไอ้หัวขโมยรู้ตัวไม่ได้หรอกนะ
คว้าไม้เบสบอลที่แอบไว้ข้างผนังได้ก็ยกเหนือหัวเตรียมตะครุบเหยื่อทันที แต่พอที่โผล่หน้าเข้าไปในห้องครัวเห็นมนุษย์หัวยุ่งหน้าขาวแต่ตัวมอมแมมกำลังยัดกล้วยหอมเข้าปากทั้งที่ยังกัดหลอดจากกล่องนมแล้วก็ต้องชะงัก สมองวิ่งปรู๊ดปร๊าดทันทีที่เห็นความมอมแมมตรงหน้า แล้วก็ระลึกได้ว่าเมื่อคืนลากคนจรจัดกลับห้องมาด้วย 1ea
“เป็นขโมยหรือ” เขาโผล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ เจ้าตัวมอมแมม(แต่หน้าขาว)นั่นตกใจซะสะดุ้ง เปลือกกล้วยหล่นจากมือ(เพราะเจ้าตัวรีบยัดกล้วยเข้าปากไปหมดลูก) ดวงตาที่ดูแล้วไม่ได้โตซะเท่าไหร่ก็เบิกกว้างจนเขาขำ มันเหมือนกับเจ้าหนูแฮมสเตอร์ในหนังตลกที่ทำท่าตกใจทั้งที่ยังถืออาหารอยู่ในมือ
“อ่ะ... แค่กๆๆ” เจ้าของห้องส่ายหัว เดินเอื่อยเฉื่อยไปหยิบแก้วเทน้ำมาให้คนที่ไอค่อกแค่กจากการสำลัก มือใหญ่ตบหลังคนที่กลืนน้ำไปเกือบหมดแก้ว หลังมือมอมแมมยกเช็ดปากตัวเองลวกๆ ก่อนจะผุดลุกจากเก้าอี้
ชานยอลปรายตามองคนที่ถอดเชิ้ตแขนยาวขาดๆ เหลือแต่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงผ้าฝ้ายที่เปื้อนรอยดิน มองคนที่กำลังทำตาโตมองเขาอย่างเอ็นดู นี่ถ้าเปรียบเทียบกับสัตว์เขาก็เห็นแค่ลูกหมาตัวเล็กที่กลัวจนวิ่งเข้าไปหลบตรงมุมห้อง
อา... นี่ไม่ใช่แฮมสเตอร์แล้วสิ นี่มันลูกหมา
“คะ... คุณเป็นใคร” ชานยอลไม่แน่ใจว่าเสียงที่เขาได้ยินเป็นของคนมอมแมมเลยยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคนมอมแมมต้องถอยหลังไปติดกำแพง
เขาทำเลิกคิ้วใส่อีกครั้ง ไม่ได้เอ่ยอะไรแต่เจ้าตัวคงรู้ว่าต้องทำอะไร ริมฝีปากที่แดงระเรื่อนั่นขยับพูดอีกครั้งตามที่ชานยอลต้องการ “คุณเป็นใคร”
น้ำเสียงที่ติดจะหวาดกลัวแกมแข็งกร้าวเล็กๆ นั่นทำเขาต้องยกยิ้มมุมปาก เขายืดตัวเต็มความสูงตามเดิมแล้วเริ่มหันไปหยิบอุปกรณ์ทำอาหารออกมา
“ทำอาหารเป็นไหม” เขาหันไปมองคนมอมแมมที่ยังยืนตัวลีบอยู่ข้างฝาผนัง เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยอมตอบเขาด้วยการส่ายหน้า เขาเลยคว้าแครอทกับมีดสำหรับปอกเปลือกไปวางบนโต๊ะอีกฝั่ง ดึงข้อมือที่เล็กกว่าของเขาเยอะนั่นให้เดินตามมานั่งลงบนเก้าอี้ คนมอมแมมเงยหน้ามองอย่างสงสัย
“แค่ปอกเปลือกน่าจะทำเป็นใช่ไหม”
“อื้อ”
“ดี งั้นปอกเปลือกไปนะ แล้วพี่จะทำของอร่อยให้กินนะครับ” เขาอมยิ้มหลังจากมองเจ้าตัวมอมแมมนั่นกระพริบตาปริบ ไม่ได้หันไปดูหรอกว่าจะปอกเปลือกตามที่บอกไหม เพราะเขาก็แค่หาอะไรให้อีกคนทำระหว่างรอเขาทำอาหารเท่านั้น
ยิ่งมองใกล้ๆ ชานยอลยิ่งคิดว่าเจ้าตัวมอมแมมตรงหน้านี่ช่างน่าเอ็นดูซะเหลือเกิน
เจ้าตัวมอมแมมนั่นชื่อพยอนแบคฮยอน เป็นนักเขียนนิยายสมัยใหม่ที่ชานยอลไม่รู้จัก เขารู้เท่าที่อีกคนบอกมา คือมันเริ่มดังจากในอินเทอร์เน็ตแล้วสำนักพิมพ์มาเห็นเข้าเลยได้เซ็นต์สัญญากับสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ต่อมามันก็ผุดภาคต่อจนตอนนี้ปาเข้าไปเล่มที่สาม และในฐานะนักเขียนเลยต้องศึกษาตัวละครให้ถ่องแท้จึงต้องมาทดลองเป็นคนจรจัดอย่างที่เป็นอยู่
“จริงๆ ตัวนี้มันโผล่มาแค่แป๊บเดียวหรอกฮะ” แก้มยุ้ยๆ นั่นขยับขึ้นลงตอนที่เจ้าตัวอ้าปากพูด ถึงเม็ดข้าวจะเต็มปากแต่ชานยอลก็คิดว่ามันน่ารักดี
ชานยอลได้รู้จักชื่อและประวัติคร่าวๆ ของเจ้าตัวก็หลังจากทำข้าวผัดกิมจิให้กินนั่นแหละ กินไปเล่าไปทั้งที่ตาเป็นประกาย เขาเดาไม่ออกว่านั่นเป็นเพราะแบคฮยอนได้เล่าถึงนิยายที่เจ้าตัวภูมิใจหรือเพราะได้กินข้าวกันแน่
“มีแปรงฟันใหม่อยู่ในตู้เก็บข้างกระจกนะ” เขายื่นผ้าขนหนูกับชุดลำลองให้แบคฮยอนคนมอมแมม เด็กน้อยที่อ่อนกว่าเขาสี่ปีพยักหน้าหงึกหงักทั้งที่ยังมองสำรวจไปทั่วห้องนอนของเขา มือใหญ่เลยผลักหัวทุยๆ นั่นให้รีบเข้าห้องน้ำไปซักทีเพราะเขาเริ่มจะทนความสกปรกของร่างตรงหน้าไม่ไหวอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่เกรงใจเด็กอายุยี่สิบสี่นะเขาจะลากเข้าห้องน้ำไปขัดตัวสกปรกนั่นด้วยตัวเองซะเลย
แบคฮยอนเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย นั่นเป็นสิ่งที่เขารู้หลังจากละลายพฤติกรรมคนจรจัด(ปลอมๆ)ด้วยข้าวผัดกิมจิไปแล้ว นอกจากจะเข้ากับคนอื่นง่ายยังเป็นพวกอยากรู้อยากเห็น สนใจไปทั่ว แถมยังเป็นคนที่ยิ้มพร่ำเพรื่อจนชานยอลตาลาย รอยยิ้มรูปสี่เหลี่ยมนั่นเล่นซะเขาตาพร่า ทั้งที่มอมแมมขนาดนั้นยังน่ารัก
น่ารักนะ
และชานยอลแพ้ของน่ารัก
“พี่เป็นนักสะสมตุ๊กตาหรือ” แบคฮยอนถามเขาในบ่ายวันหนึ่ง นั่นมันหลังจากวันที่เขาเก็บเจ้าตัวมอมแมมนั่นมาที่ห้องไปหลายวันอยู่
แบคฮยอนคนใหม่ที่สะอาดสะอ้านในแบบที่เขาพอใจยืนโชว์ยิ้มรูปสี่เหลี่ยมให้เขาจากอินเตอร์คอมหน้าห้องพัก เจ้าตัวชูเครื่องดื่มชูกำลังให้ดูก่อนจะกดออดเล่นอีกสองสามครั้งแล้วส่งเสียงสดใสผ่านมาว่า
“ผมเอาของมาเยี่ยมค้าบบบ”
แบคฮยอนคนสะอาดวิ่งเข้ามาทันทีที่เขาเปิดประตูให้ เขี่ยรองเท้าผ้าใบออกจากเท้าได้ก็วิ่งทักๆ พุ่งเข้าใส่โซฟาเขาแบบไม่กลัวว่าหน้าจะขูด เขาส่ายหัวกับท่าทางเอาหัวถูโซฟาแล้วส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมาของเด็กอายุยี่สิบสี่ นี่แบคฮยอนหลอกเขาหรือเปล่า ชานยอลคิดว่าแบคฮยอนอายุสักสิบขวบซะอีก
หลังจากฝากความคิดถึง(?)กับโซฟาเรียบร้อย คนที่ตัวสะอาดกว่าครั้งแรกที่มาก็เงยหน้ามายิ้มแฉ่งใส่อีกรอบ
ชานยอลก็คิดว่าแบคฮยอนนี่ยิ้มพร่ำเพรื่อเกินไปจริงๆ
“พี่ ปวดฉิ้งฉ่องอ่ะ”
ยิ้มหน้าหมา ชานยอลเรียกมันว่าอย่างนั้น
“นี่ใช่ไหมเหตุผลที่แวะมาน่ะ” เขาส่ายหน้าให้คนที่ยิ้มแล้วส่งเสียงแหะ จับข้อมือบางแล้วลากเข้าไปในห้องนอนเหมือนเดิม ห้องน้ำข้างนอกนี่เพิ่งเสียไปเมื่อเดือนที่แล้วแต่ห้องเขาไม่ได้มีคนมาเยี่ยมบ่อยเลยไม่คิดจะซ่อม เหลือแค่ห้องน้ำในห้องนอนที่ครั้งก่อนเจ้าคน(เคย)มอมแมมนี่เข้าไปอาบน้ำเท่านั้น
เขาเดินออกมาหยิบน้ำผลไม้มาเทไว้ต้อนรับแขก(?) แต่เจ้าตัวไม่โผล่หน้าออกมาจากห้องเขาเสียทีจนต้องเดินเข้าไปตาม คิดว่าหาทางออกไม่เจอซะอีกแต่ที่ไหนได้คนยิ้มพร่ำเพรื่อกลับกำลังยืนจ้องคอลเล็กชั่นของสะสมของเขาด้วยความสงสัยก่อนจะหันมาถามด้วยหน้าตาบ๊องๆ ว่า “พี่เป็นนักสะสมตุ๊กตาหรือ”
จริงอยู่ที่ของสะสมส่วนใหญ่ของเขามันเป็นตุ๊กตา แต่จะเรียกว่าเป็นนักสะสมตุ๊กตามันก็ไม่ถูกซะทีเดียวเขาจึงส่ายหน้าตอบกลับไป
พอได้คำตอบเด็กน้อยยิ่งเอียงคอสงสัยเข้าไปใหญ่
“สะสมของน่ารักน่ะ”
“อะโห มุ้งมิ้งอ่ะพี่” แบคฮยอนทำหน้าล้อเลียนเขาเหมือนเขาเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กถักผมเปีย ใส่ชุดกระโปรงฟูฟ่องแล้วต้องมีพี่กระต่ายอยู่ในอ้อมแขนซะอย่างนั้นแหละ
“เดี๋ยวเถอะ” เขาแกล้งยกกำปั้นจะเขกลงบนหัวทุยๆ นั่น แบคฮยอนเลยหลับตาปี๋แถมหดคอซะน่ารัก
โอเค เขาชมแบคฮยอนว่าน่ารักมากี่รอบแล้วล่ะ
มือใหญ่คลายหมัดออกแล้วเปลี่ยนเป็นขยี้ผมนุ่มนั่นจนยุ่ง เจ้าตัวร้องโวยวายก่อนจะคว้ามือที่ทำร้ายหัวตัวเองมาทำท่าจะกัด
“เป็นหมาหรือไงฮะเรา” ชานยอลว่าตอนที่เจ้าเด็กนั่นงับเข้าที่ข้อมือ
“ใช่!”
แบคฮยอนนี่มันหมาจริงๆ
อา... ตอนเด็กๆ ชานยอลอยากเลี้ยงหมาซะด้วยสิแต่ว่าแพ้ขนสัตว์
“วันนี้ไม่ต้องไปเขียนนิยายหรือไง” ชานยอลเงยหน้าจากโน๊ตบุ๊คบนตัก มองเด็กอ่อนกว่าสี่ปีที่กำลังเล่นฟิกเกอร์ของเขาอยู่บนพื้นพรมตรงหน้า
“หื้อ” เด็กน้อยส่ายหัวยิก ชานยอลเลยส่ายหัวตาม
แบคฮยอนไม่ยอมกลับห้องเพราะแอบหยิบฟิกเกอร์ที่เขาสะสมออกมาเล่น บอกว่าไม่ค่อยได้เล่นเพราะมัวแต่อ่านหนังสือเขียนนิยาย ซึ่งถึงชานยอลจะเป็นคนหวงของแต่กับเด็กคนนี้เขากลับยอมหยิบตัวที่แพงที่สุดออกมาให้เด็กน้อยวัยยี่สิบสี่เล่นได้ตามใจ
แบคฮยอนเดินเข้าเดินออกห้องนอนเขาหลายรอบจนตอนนี้รอบตัวเด็กนั่นมีทั้งฟิกเกอร์และตุ๊กตานุ่มนิ่มล้อมรอบเต็มไปหมด เจ้าตัวยิ้มแฉ่งกับอาณาเขตที่สร้างขึ้นมาจากของสะสมของเจ้าของห้อง คว้าตุ๊กตาหมีใกล้ตัวมาได้ก็ฟัดหอมใหญ่ ดีที่ว่าชานยอลคอยเก็บและดูแลอย่างดีถึงไม่มีฝุ่นไรจับตามของสะสมพวกนี้
“พี่”
แรงสะกิดตรงต้นขากับเสียงเรียกทำให้คนที่กำลังคุยธุรกิจอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง เด็กน้อยกำลังนอนหงายและสิ่งที่ใช้สะกิดขาเขาเมื่อกี้ก็คือปลายเท้าที่หุ้มด้วยถุงเท้าแถบสีรุ้ง เขามองตามจนไปจบที่รอยยิ้มรูปสี่เหลี่ยมคุ้นตา
“ถ่ายรูปให้หน่อย” ว่าจบเจ้าของรอยยิ้มรูปสี่เหลี่ยมก็ยิ้มยิงฟันตามแบบฉบับแถมยังชูสองนิ้วไว้ข้างใบหน้า เจ้าของห้องมองค้างอยู่ครู่ใหญ่จนนายแบบต้องบ่นว่าเกร็งหน้าจนเมื่อยแล้วเขาถึงได้เปิดกล้องในไอแพดถ่ายให้ตามที่อีกคนต้องการ
เปลี่ยนท่าไปเยอะ ถ่ายไปหลายช็อต นายแบบตัวน้อยถึงได้ลุกก้าวข้ามกองตุ๊กตาแล้วมาเบียดคนตัวใหญ่อยู่บนโซฟา
“ไหนๆ พี่ถ่ายผมหล่อหรือเปล่าเนี่ย” ยื่นหน้าเขามาใกล้เพื่อขอดูรูปในไอแพด ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามันอาจจะใกล้เกินไป และในหัวของเจ้าของห้องตอนนี้มีแต่ประโยคค่อนขอดเจ้าตัวเล็กว่า ‘จะไปหล่อได้ยังไง น่ารักซะมากกว่าน่ะสิ’
ภาพของเจ้าตัวที่นอนแผ่อยู่ท่ามกลางภูเขาของน่ารักทำให้เด็กน้อยหัวเราะเอิ้กอ้าก นิ้วเรียวจิ้มขยายไปบนหน้าจอไอแพด ชี้ชวนให้เจ้าของห้องดูความหล่อของตัวเอง(ที่ชานยอลขอเถียงอีกทีว่าน่ารัก) เลือกรูปที่ถูกใจแล้วก็บอกอีกคนให้ส่งให้ผ่านโปรแกรมแชท
“ส่งมาในคาทกให้ผมด้วยนะพี่”
“พี่มีคาทกเราที่ไหนล่ะ”
“เอ้อจริงด้วย ทำไงดีอ่ะ” คนอายุน้อยกว่าช้อนตาขึ้นมอง ชานยอลบอกเลยว่ามันเหมือนลูกหมาน่าสงสารตัวหนึ่งเท่านั้น
“ก็เอาไอดีเรามาสิ” เจ้าของห้องเปิดเข้าโปรแกรมแชทที่ว่าแล้วยื่นให้อีกคนกด เจ้าตัวทำพยักหน้าเห็นด้วยแล้วจิ้มให้ เพียงครู่เดียวมือถือของคนตัวเล็กก็แจ้งเตือนเสียงดังว่ามีข้อความเข้าจากผู้ติดต่อใหม่ เจ้าตัวยิ้มตาหยีก่อนจะหันมาขอบอกขอบใจเจ้าของห้องแล้วก็นั่งกดมือถือยิกๆ ไม่ได้สนใจใครอีกคนที่กำลังจ้องไอแพดอยู่เลย
ชานยอลแพ้ของน่ารัก ภาพกองภูเขาของสะสมของเขามันทำให้ใจเต้นไม่น้อย แต่สิ่งที่ทำให้เขาใจเต้นหนักกว่าเดิมแถมยังรู้สึกว่ากล้ามเนื้อตรงแก้มมันยกขึ้นอัตโนมัตินั่นอีก ทั้งหมดทั้งมวลคงหนีไม่พ้นของน่ารักชิ้นใหญ่สุดตรงกลางที่กำลังส่งยิ้มแฉ่งผ่านรูปถ่ายมาให้
ใจเต้นไม่พอมันยังมีอาการเหมือนจะเป็นลมให้ได้ ตาพร่าลายกับรอยยิ้มของคนในรูปซะเหลือเกิน
เขาว่าเขาชักจะเป็นหนักแล้วสิ
มองดูเด็กน้อยคนข้างๆ ที่ยกขาขึ้นมานั่งขดบนโซฟา แผ่นหลังบางกับสะโพกอวบๆ นั่นแนบอยู่ข้างลำตัวเขาเสียสนิท เด็กน้อยนั่งหันหลังให้เขาแต่ทว่าก็พิงลงมาซะเต็มตัว เขายกแขนข้างที่ถูกพิงขึ้นเพียงเล็กน้อย ตัวเล็กๆ นั่นก็เอียงลงมาพิงตรงอกเขาซะแล้ว เด็กน้อยเงยหน้าสบตาเขาอย่างสงสัยก่อนจะหลับตาปี๋ตอนมือหนาเข้ามาขยี้หัวอีกครั้ง
แบคฮยอนไม่ได้ทำหน้าบู้บี้หรือบ่นอะไรกับการกระทำครั้งนี้ แต่เจ้าตัวเล็กกับดึงแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั่นให้โอบรอบไหล่ก่อนจะเอนซบหัวพิงอีกคนเต็มตัว ไม่ได้สนใจคนที่ให้พิงหรอกนะแต่กำลังสนใจคลิปตลกในมือถือซะมากกว่า หัวเราะเอิ้กอ้ากได้ไม่นานก็ต้องเป็นเงียบกริบเมื่อมือถือของเจ้าของห้องถูกยื่นมาในกรอบสายตา
เพียงแค่เห็นว่ากล้องหน้าเปิดอยู่พร้อมกับเสียงทุ้มเหนือศีรษะนับถอยหลังสามสองหนึ่งเจ้าตัวเล็กก็ส่งยิ้มสี่เหลี่ยมตาหยีให้กล้องโดยไม่ต้องบอก ถ่ายไปหลายรูปจนเจ้าของห้องพอใจเจ้าตัวเล็กถึงได้กลับไปสนใจคลิปตลกต่อ
ส่วนเจ้าของห้องตัวสูงกลับทำหน้าเคร่งเครียดอยู่กับมือถือของตนแทน
แอพพลิเคชั่นยอดนิยมอย่างอินสตาแกรมถูกเปิดค้างไว้ แต่นิ้วหนากลับเลื่อนรูปที่เพิ่งถ่ายไปมาอย่าคิดไม่ตก กัดปากทำใจจะอัพรูปที่เห็นกันทั้งสองคนก็ขัดใจ จะอัพรูปเด็กน้อยกับกองของน่ารักก็ไม่ชอบ สุดท้ายเลยกดตรงกล้องอีกครั้งแล้วรวบเด็กน้อยในอ้อมแขนเข้ามาใกล้อีกรอบ วางคางลงบนหัวทุยนั่นแล้วฉีกยิ้มเลียนแบบเด็กน้อยก่อนจะกดถ่ายโดยที่คนในอ้อมกอดไม่ได้สนใจอะไรเขาด้วยซ้ำ
รูปนี้แหละที่เขาอัพให้ชาวโลกเห็นได้
เขามองรูปนั้นอย่างพอใจอีกครั้งก่อนจะกดล็อกหน้าจอมือถือซะแล้วหันมาสนใจเด็กน้อยที่หัวเราะเอิ้กอ้ากกับคลิปตลก เบียดคางเข้าไปวางตรงไหล่เล็กแล้วขอดูคลิปตลกด้วยกัน หัวเราะไปพร้อมกับเสียงใสข้างหูที่ฟังกี่ครั้งเขาก็คิดว่ามันช่างน่ารักน่าเอ็นดูซะเหลือเกิน
มือถือเครื่องหรูที่ถูกวางทิ้งสั่นครืดคราดเพราะแจ้งเตือน ระเบิดลูกใหญ่ที่เขาวางไว้กำลังทำงาน
ถูกใจ 192 คน
real__pcy ลูกหมา
oohsehun พี่แพ้ขนหมาไม่ใช่เหรอ แล้วนั่นมันหัวคน อย่ามาโม้!
kimkaaaaaa ง่ออออว์
แอบซุกสาวไว้ที่ห้องเหรอพี่!
ภาพใบหน้าของเจ้าของแอคเคาน์เพียงครึ่งเดียวกับคางได้รูปที่วางอยู่บนผมหนานุ่มของใครบางคนที่เขาถ่ายให้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าที่กำลังก้มจ้องคลิปในมือถือกับวงแขนแกร่งที่โอบอยู่รอบไหล่เล็กนั่นเป็นเพียงระเบิดลูกเล็กที่เขาตั้งใจทิ้งไว้ให้คนอื่นอิจฉาก็เท่านั้น
ชานยอลล้มตัวลงนอนตอนตีหนึ่ง เด็กนั่นเพิ่งกลับไปตอนที่เขาเตือนว่าใกล้เวลาที่รถไฟใต้ดินจะหมดแล้วเด็กน้อยถึงได้พรวดพราดออกจากห้องเขาไป แถมยังคว้าตุ๊กตาเขาติดมือไปอีก เขาส่ายหัวให้กับตัวเองที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้มรูปสี่เหลี่ยมนั่นลอยเต็มไปหมด แล้วไหนจะเอาตุ๊กตาที่เด็กนั่นไปกอดเล่นไว้ทั้งวันมาวางไว้ข้างกาย คว้ามากอดมาหอมเพราะกลิ่นแป้งเด็กที่ไม่ค่อยคุ้นชินแต่กลับชอบจนต้องจับตุ๊กตาทุกตัวมาดม
เขาโยนตัวที่ไม่มีกลิ่นลงบนพื้นห้องก่อนจะคว้าตัวใหญ่สุดมากอดแนบกาย จำได้ว่าแบคฮยอนเอนหลังพิงตัวนี้ทั้งวันแล้วไหนจะฟัดเล่นจนเหนื่อยหลับไปอีก เพราะฉะนั้นตัวนี้จะได้รับสิทธิพิเศษนอนบนเตียงเขาในคืนนี้
ชานยอลก็คิดอยู่แวบหนึ่งว่าเขาอาการหนักแล้วล่ะ
ครืดดด ครืดดด
เสียงมือถือเครื่องหรูสั่นครืดคราดเพราะเจ้าของไม่ชอบเสียงที่ดังรบกวน เขาเห็นหน้าจอสว่างวาบสองทีแต่ก็ไม่ได้สนใจ จนตอนมันสั่นเป็นครั้งที่สี่ ห้า หก และอีกหลายครั้งเขาถึงได้ลุกนั่งพิงหัวเตียงแล้วหยิบมือถือมาดูอย่างเสียไม่ได้
Baekhyunee_ ฮาลเหลลลลล (สติกเกอร์หน้ายิ้ม)
Baekhyunee_ พี่~~~~
Baekhyunee_ ผมถึงบ้านละน๊าาาาาา
Baekhyunee_ เพิ่งเห็นว่าเจ้านี่มันแอบเกาะกระเป๋าผมมา
Baekhyunee_ *แนปรูปตุ๊กตาของชานยอลที่ถูกหยิบไป*
Baekhyunee_ ไม่ว่ากันโน๊ะะะะะ
Baekhyunee_ เฮหลูวววว พี่หลับแล้วเหย๋ออออ
Baekhyunee_ พี่ชานโยลลล พี่ตัวสูงงงง พี่หูกางงงง
Baekhyunee_ งั้นฝันดีก้ะด้ะ
Baekhyunee_ (สติกเกอร์โบกมือ)
ชานยอลไม่เคยคิดว่าเขาจะมีโมเมนต์เอากำปั้นยัดปากแบบที่ทำอยู่ เขาอ้าปากร้องไม่มีเสียงแถมยกกำปั้นขึ้นมาอุดปากอย่างไม่เคยมาก่อน
น่ารัก น่ารักเกินไปแล้วจริงๆ
Baekhyunee_ ทำไมอ่านแล้วไม่ตอบ!!
Baekhyunee_ (สติกเกอร์หน้าโมโห)
เขาหายใจเข้าลึกๆ อยู่สามที ยิ้มมีความสุขอยู่คนเดียวก่อนจะพิมพ์ตอบกลับเด็กน้อยไป
Real__pcy คับ
แค่กดส่งไปมันก็ขึ้นว่าอีกฝ่ายนั้นอ่านข้อความของเขาแล้ว เพียงชั่วอึดใจเดียวฝั่งนั้นก็รัวข้อความกลับมาเหมือนตอนแรกไม่มีผิด
Baekhyunee_ โห ผมพิมพ์ไปตั้งเยอะพี่ตอบว่าคับคำเดียวได้ไง
Baekhyunee_ อย่างน้อยก็ต้องพูดอะไรเยอะกว่านี้บ้างสิ
Baekhyunee_ บอกฝันดีก็ได้
Baekhyunee_ จะด่าที่ผมเอาตุ๊กตาพี่มาก็ได้
Baekhyunee_ (สติกเกอร์สะบัดหน้า)
Baekhyunee_ ง้อผมโหน่ยยยยย
อา.. ชานยอลจะทำยังไงกับเด็กคนนี้ดีนะ
Real__pcy ไม่ง้อหรอกนะ
Baekhyunee_ พี่นี่!!
Real__pcy พี่ไม่ชอบง้อผ่านข้อความแบบนี้หรอกนะ
Real__pcy มาเจอกันก่อนแล้วพี่จะง้อ
Real__pcy ตอนนี้อาบน้ำนอนได้แล้วครับ
Real__pcy นอนดึกมันไม่ดีนะรู้ใช่ไหม
Real__pcy งานเอาไว้ค่อยทำพรุ่งนี้เช้านะครับ
Real__pcy นอนเถอะคนดี
ทุกข้อความที่ชานยอลส่งไปขึ้นว่าอีกคนอ่านมันหมดแล้วแต่ก็ไร้ข้อความตอบกลับจากอีกคน ชานยอลมองหน้าจออยู่อย่างนั้นจนกระทั่งหน้าจอดับไปแล้วอีกคนถึงได้ตอบกลับมา
Baekhyunee_ พี่แม่ง... (สติกเกอร์หน้ายุ่ง)
Baekhyunee_ 010xxxxxxxxxx เบอร์ผม
Baekhyunee_ (สติกเกอร์โทรศัพท์)
Real__pcy โทรไปได้ไหม
ชานยอลยิ้มชอบใจอยู่คนเดียว พิมพ์ตอบกลับไปแล้วก็เซฟเบอร์นั้นลงเครื่องทันที ไม่นานข้อความตอบกลับจากอีกคนก็ถูกส่งมา
Baekhyunee_ ให้เบอร์มือถือไปแบบนี้โทรไม่ได้มั้งพี่!
Real__pcy หมายถึงตอนนี้
Real__pcy โทรไปได้ไหม
ชานยอลไม่ได้คาดหวังกับคำตอบของแบคฮยอน แต่สิ่งที่อีกฝ่ายตอบมากลับทำเขายิ้มกว้างยิ่งกว่าเก่า
Baekhyunee_ อื้อ
พอได้รับคำตอบจากอีกคนเขาก็กดโทรออกทันที ไม่ต้องรอให้เสียงตู้ดดังเป็นครั้งที่สองอีกคนก็กดรับสาย
เขาไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกไปเพียงแต่รอดูท่าทีว่าแบคฮยอนจะพูดว่ายังไงบ้าง
“ฮัลโหล”
“...”
“โหลหนึ่ง”
“...”
“โหลสอง”
“...”
“โหลสาม ...ไม่พูดจะวางแล้วนะ!”
“เดี๋ยวสิ” ชานยอลยอมพูดออกไปในที่สุด เสียงแจ้วๆ นั่นทำเขายิ้มอีกแล้ว
“โทรมาแล้วก็ไม่พูดนะ พี่รวยมากหรือไง”
“ครับ”
อีกฝ่ายทำเสียงฮึดฮัดใส่แต่เขาไม่ได้สนใจเท่าไรกลับพูดต่อ
“อาบน้ำหรือยัง”
“อาบแล้ว พี่ล่ะ”
“เรียบร้อยแล้วครับ นอนอยู่บนเตียงแล้วเรียบร้อย”
“แง่ะ ผมยังนอนไม่ได้เลย หัวยังไม่แห้ง”
ชานยอลนึกภาพปากบางๆ นั่นยู่เข้าได้เลย
“งั้นรีบเช็ดผมรีบนอนซะนะครับ” เขาเอ่ยบอก กลัวว่าเด็กน้อยจะนอนทั้งที่ผมยังไม่แห้งแล้วเดี๋ยวจะพานไม่สบายขึ้นมา
“อื้อ”
“พรุ่งนี้ให้พี่โทรไปปลุกไหมครับ”
“อื้อ”
“โอเค งั้นนอนซะนะ ฝันดีครับตัวเล็ก”
“อื้อ”
แม้อีกฝ่ายจะวางสายไปแล้วแต่เขายังคงแนบโทรศัพท์ไว้กับใบหู เสียงตอบสั้นๆ นั่นถ้าเขาเดาไม่ผิดเด็กน้อยคงกำลังเขินอยู่กับการพูดครับของเขา เขาสังเกตตั้งแต่ตอนที่อีกคนอยู่ในห้องเขา ถ้าพูดสุภาพๆ ด้วยเมื่อไรแก้มใสนั่นจะแดงปลั่งจนน่าฟัดให้จมเขี้ยวซะจริงๆ
โทรศัพท์ในมือเขาสั่นครืดคราดอีกครั้ง
Baekhyunee_ ฝันดีนะพี่ชานยอล
ชานยอลยิ้มแก้มแทบปริ เขาคงฝันดีในคืนนี้แน่นอน
“เชิญคร้าบบบบบ” เจ้าของห้องตัวเล็กเปิดประตูออกกว้างแล้วทำท่าผายมือเหมือนพนักงานตามร้านอาหารหรือโรงแรม คนตัวสูงที่ถือถุงเสบียงพะรุงพะรังเต็มสองมือเบียดตัวผ่านประตูเข้ามา กวาดตามองไปรอบห้องเดี่ยวของอีกคนเพียงครู่เดียวเจ้าของห้องก็ดันหลังให้ก้าวเข้าไปภายใน
ห้องขนาดกว้างแต่แบ่งสัดส่วนชัดเจนว่าเป็นมุมครัว มุมโต๊ะทำงานหรือมุมโต๊ะรับแขก กับเตียงนอนคิงส์ไซส์อีกมุมหนึ่ง ที่ชานยอลพอจะเห็นได้ชัดคือกองหนังสือและกระดาษมากมายที่กองอยู่ตรงปลายเตียงกับที่นอนปิกนิกผืนหนึ่งปูอยู่ตรงพื้น คงไม่ใช่ว่าเด็กนี่ยกเตียงให้เป็นที่วางของแล้วย้ายตัวเองลงมานอนกับพื้นหรอกนะ
“โห ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย” เจ้าของห้องเอ่ยทัก เปิดดูของในถุงช็อปปิ้งแล้วต้องร้องว้าวออกมาเพราะล้วนเป็นของชอบของตัวเองทั้งนั้น ไม่ต้องหวังคำว่า ‘ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาเลย’ จากเจ้าตัวหรอกเพราะเด็กน้อยคนนี้จะทำเพียงแค่
หงั่มๆ
แจ้บๆ
“อันนี้อาหย่อย วันหลังซื้อมาให้ผมอีกนะพี่”
นั่นแหละ ไม่มีถามหรอกว่ากินด้วยไหม จับได้ก็ยัดเข้าปากแถมไม่มีความเกรงใจกันซักนิด
ชานยอลมองหากระดาษเช็ดปากแต่ก็ไม่เห็น ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไม่เด็กนี่ถึงไม่มีของใช้จำเป็นแบบนี้ติดห้อง เมื่อไม่มี มือใหญ่จึงทำหน้าที่นั้นแทน
นิ้วใหญ่กวาดรอบมุมปากเล็กลามไปถึงบีบแก้มยุ้ยๆ นั่นอย่างหมั่นเขี้ยว เจ้าตัวมูมมามก็ยิ้มตาหยีกลับมาให้
ชานยอลคงต้องไปหาหมอ เขากลัวว่าจะเป็นโรคหัวใจ หรือบางทีอาจจะต้องทำเพียงแค่สั่งให้แบคฮยอนเลิกยิ้มพร่ำเพรื่อเขาจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะหัวใจวายตายเพราะมันมักจะเต้นแรงเกินทุกครั้งที่เด็กคนนี้ยิ้ม
“กินเสร็จแล้วก็ไปล้างมือก่อนสิ เดี๋ยวมดก็ขึ้นคอมหรอก” เขาเอ็ดคนที่เช็ดมือกับเสื้อยืดตัวเองลวกๆ แล้วทำท่าจะกดแป้นคีย์บอร์ดต่อ
“แง่ะ เช็ดให้หน่อยสิ ทิชชู่เปียกก็ได้ ผมเห็นนะว่าพี่ซื้อมา” เด็กตัวเล็กงอแงจนเขาต้องส่ายหัว เจ้าตัวเล็กทำเบะปากแล้วยื่นมือออกมาข้างหน้าเหมือนผีจีนรอให้เขาเปิดซองทิชชู่เปียกมาเช็ดมือให้เหมือนคนทำอะไรไม่เป็น
แต่จริงๆ แล้วแบคฮยอนก็ทำอะไรไม่ค่อยจะเป็นจริงๆ นั่นแหละ
‘อันนี้ผมต้องกดตรงไหนอ่ะ’ – นั่นตอนที่ไปเล่นซนห้องเขาแล้วเจอเจ้าเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติแล้วอยากเล่น
‘พี่โทรสั่งไก่ให้หน่อยดิ ผมอยากกิน’ – นี่ก็ตอนไปนอนเล่นห้องเขาแล้วอยากกินไก่ทอดแต่โทรสั่งไม่เป็น
‘โอ๊ะโอ มันบอกว่าพี่อยู่เวลสามอ่ะ’ – นี่ก็ตอนเอามือถือเขาไปเล่นแล้วเปิดเข้าไปในเกมส์แต่ก็กดมั่วจนเลเวลเขาลดฮวบมาอยู่เกือบรั้งท้าย
ฯลฯ นี่ยังไม่นับอีกหลายวีรกรรมตลอดสองเดือนที่เขาต้องจดลิสต์เข้าไปในบัญชี ‘ความแบคฮยอน’
“พี่จะนอนบนเตียงก็ได้นะ มันพอว่างอยู่ครึ่งหนึ่ง”
ชานยอลปรายตามองเตียงที่ว่างอยู่ครึ่งหนึ่งอย่างที่เจ้าของห้องบอก แต่เขาก็ไม่คิดจะไปนอนบนนั้นหรอกนะ
ร่างสูงเดินลากสลิปเปอร์เปิดตู้เสื้อผ้าอีกคนอย่างถือวิสาวะซึ่งเจ้าของห้องตัวเล็กก็ไม่ได้ว่าอะไร หรือพูดอีกอย่างคือไม่ได้สนใจอะไรคนตัวสูงเลยด้วยซ้ำ มือเรียวสวยยังคงกดต๊อกแต๊กบนแป้นพิมพ์อย่างไม่ขาดตอน
ชานยอลค้นเจอผ้าห่มนวมผืนใหญ่กับฟูกปู เขาเลือกพื้นที่เหมาะๆ ใกล้กับโต๊ะที่เด็กน้อยนั่งพิมพ์นิยายอยู่ ปูฟูกลงไปก่อนจะล้มตัวลงนอน ไม่ลืมจะหยิบหมอนกับตุ๊กตาที่จำได้ว่าเด็กน้อยจิ๊กมาจากห้องของตัวเองมากองไว้รอบด้านอย่างที่แบคฮยอนชอบทำตอนไปห้องเขา
'กำแพงนุ่มนิ่ม' ที่อีกคนเรียกกลายเป็นอาณาเขตล้อมรอบคนตัวสูงไปซะแล้ว
‘มันสบายดีออกตอนที่กลิ้งไปทางไหนก็เจอแต่นุ่มนิ่มพวกนี้อ่ะ’
ชานยอลก็เริ่มคิดแล้วว่ามันสบายเพราะเจ้าพวกนุ่มนิ่มรอบตัวนี้ แต่เขาคงรูสึกดีกว่านี้ถ้าได้ ‘นุ่มนิ่ม’ อีกตัวมากอด
“แบคฮยอน”
“หือ”
“เสร็จแล้วมานอนนี่นะ”
เขาเว้นที่ข้างตัวไว้ให้เจ้าของห้องตัวเล็กที่กำลังมองมา ดวงตารีเรียวเป็นประกายพอเห็นกำแพงนุ่มนิ่มแบบที่ชอบ ทำกัดปากชั่งใจอยากจะทำงานให้เสร็จแต่กำแพงนุ่มนิ่มพวกนั้นก็กำลังส่งเสียงร้องเรียกเขาอยู่
“งืออ นุ่มนิ่มมม” เบะปากเรียกเสียงอ่อน ทำหางตาตกใส่คนอายุมากกว่าเพราะเหมือนทำมาล่อกันซะอย่างนั้น มือเรียวรีบพิมพ์ประโยคสุดท้ายที่อยู่ในหัว กดเซฟและปิดเครื่องก่อนจะกระโจนใส่นุ่มนิ่มตัวยักษ์ที่อ้าแขนรอไว้ก่อนแล้ว
“ฮือออ นุ่มนิ่มมมม” แบคฮยอนร้องหงิงๆ อยู่ข้างหูคนตัวใหญ่ เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะจับตัวเล็กๆ ให้ลงมานอนข้างกัน ตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมทั้งสองร่าง ปล่อยให้เด็กน้อยหยิบตุ๊กตานุ่มนิ่มเข้ามาหอมเข้ามาฟัดให้เต็มที่
มือหนาคว้าเอวของอีกคนเข้ามาใกล้ พลิกตัวเด็กน้อยที่กำลังกอดนุ่มนิ่มไว้ให้หันมาหากัน
เขาเองก็อยากกอด ‘นุ่มนิ่ม’ นะ
กดจมูกลงบนแก้มใสดังฟอดก่อนจะเลยไปยังขมับและบนหัวยุ่ง กระชับอ้อมกอดดึงอีกคนให้แนบชิดอย่างที่อยาก คนถูกกอดส่งเสียงงุ้งงิ้งจับใจความไม่ได้จนเขาต้องผละออกมาถาม
แก้มใสแดงระเรื่อกับริมฝีปากที่ถูกกัดไว้ทำเขาต้องฉีกยิ้ม ตัวเล็กนี่เขินที่ไรหัวใจเขาทำงานหนักทุกทีสิ
“ว่าไงนะ”
“ขี้โกง เอาเปรียบกันชะมัด” ทำปากยู่ประกอบทั้งที่หน้ายังแดงอยู่อย่างนั้นแหละ
“งั้นให้เอาคืน อ่ะ” คนตัวสูงทำยิ้มแล้วยื่นแก้มเข้าไปใกล้ คนที่ภูมิต้านทานต่ำกับกลิ่นตัวหอมแป้งเด็กต้องข่มใจไว้รอดูก่อนว่าเด็กน้อยจะทำอะไร หลังจากนั้นเขาค่อยสูดกลิ่นหอมแป้งเด็กนี่ให้ชื่นปอดก็ยังได้
“ฮึ! พี่นี่เจ้าเล่ห์จริงๆ!” ถึงจะว่าไปอย่างนั้นแต่ริมฝีปากที่บ่นแจ้วๆ ก็กดลงบนแก้มบุ๋ม แบคฮยอนชอบตอนคนตัวสูงยิ้มจนขึ้นรอยลักยิ้มชัดเจนจริงๆ
“ชื่นใจจัง” ทำเสียงหวานตบท้ายหลังจากกดจูบบนแก้มสากทั้งสองข้าง แม้จะทำใจกล้าแต่แก้มทั้งสองข้างที่แดงแข่งกันก็เป็นหลักฐานชั้นดีว่าอีกคนนั้นเขินแค่ไหน แต่ก็ไม่ต่างกับคนเริ่มก่อน แม้หน้าจะไม่แดงอย่างคนตัวเล็กแต่ใบหูกลับแดงชัดเจนจนมือสวยต้องยกมากุมไว้อย่างเอ็นดู
“พี่นี่น่ารักจังเลยน้า” ทำหน้าหมั่นเขี้ยวใส่ทั้งยังบิดใบหูอีกคนไปมา ชานยอลไม่ได้ว่าอะไร เขาทำเพียงยิ้มตามอีกคนที่ทำตัวน่าเอ็นดูอยู่ตรงหน้า
มือหนายกกุมทับมืออีกคน ส่งรอยยิ้มหวานให้ทั้งดวงตาและริมฝีปาก ขยับบอกคำพูดหวานๆ ก่อนจะประทับจูบเบาบางลงบนริมฝีปากสีเชอรี่ตรงหน้าทั้งรอยยิ้ม
แบคฮยอนเองก็ยิ้มอยู่เหมือนกันล่ะนะ
“น่ารักขนาดนี้ก็รักซะสิ เพราะพี่ก็รักแล้วเหมือนกัน”
70%
จริงๆ อยากจบเลย แต่มันยังไม่จบป่ะแก ใช่ไหม?
ความคิดเห็น