คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Don't rude 8:การเยี่ยมไข้(ที่สายไปไหมมึง!?)
ซม นอนซม ไม่สบาย หวัดแดก เป็นไข้
นี่คืออาการของนายวิทยกรตอนนี้ครับพี่น้อง!! T^T
ซวยซ้ำซวยซ้อน ใครจะไปนึกว่าคนที่สุขภาพดีโคตรอย่างผมที่แม้จะเดินตากฝนทั้งวันก็ยังไม่เป็นไรจะมาไม่สบายกับอีแค่เพราะจูบนั่นได้!! ตั้งแต่เมื่อวันนั้นที่ผมกับไอ้ไวน์จูบกัน
หมายถึงมันจูบผม! เออ ประมาณนั้นล่ะ =_=;; กลางดึกคืนนั้นผมก็ไข้ขึ้นทันที พึ่งจะรู้ว่าหวัดมันออสโมซิสกันทางจูบได้ด้วย พระเจ้าช่วย!! มันเป็นตัวแพร่เชื้อใส่ผมชัดๆ แต่ผมไม่เข้าใจเลยว่าตลอดสองวันที่ผมนอนป่วยหยุดเรียนอยู่บ้านมันหายหัวไปไหน พวกเพื่อนๆที่โรงเรียนก็พากันมาเยี่ยมผมกันตอนเย็น
เฮ้ย!! แต่ผมไม่ได้อยากให้มันมาเยี่ยมนะเว้ย แต่มันก็ทำให้ผมเป็นแบบนี้นี่หว่า โอ๊ยให้ตาย! หงุดหงิดอีกแล้วกู
ผมตื่นมาได้สักพักแล้ว แต่ขี้เกียจลงไปกินข้าวแล้วนอนเล่นอยู่บนเตียงก่อนจนเมื่อไอ้พี่ไฟมันมาเคาะเรียกจนประตูสั่นนั่นละผมจึงยอมขยับตัวได้ ที่จริงผมก็ดีขึ้นมากแล้วนะ เหลือแค่เจ็บคอนิดหน่อย สมควรจะไปเรียนได้แล้ววันนี้ แต่
ขี้เกียจว่ะ!! อู้สักวันคงไม่เสียหายเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ
ผมเดินลั้ลลาลงมาจากบันไดอย่างแช่มชื่นเมื่อคิดถึงโรงเรียนที่ไม่ต้องไปวันนี้ ผมชอบเพื่อนที่โรงเรียนนะ แต่ผมไม่ชอบโรงเรียนว่ะ ทั้งบทเรียนทั้งเหล่าอาจาร์ยทั้งหลายแหล่ คิดแล้วเพลี๊ย เพลีย ก๊าก! (เลว =_=)
ไอ้คนหน้าแปลกที่นั่งกินข้าวร่วมกับพ่อแม่อยู่มันคุ้นจังเว้ยเฮ้ย
“ไอ้ไวน์ มึงมาไงเนี่ย!!?” ผมชะงักอยู่กับที่แล้วร้องเสียงหลง เรียกความสนใจจากคนทั้งโต๊ะได้ทั้งหมด ไอ้ไวน์พอเห็นหน้าผมก็ฉีกยิ้มกว้างให้ทันที แต่ครอบครัวผมนี่สิ ไม่ได้ฉีกยิ้มรับผมเหมือนมันเลย พี่ไฟนั่งหน้าถมึงทึงอยู่ที่โซฟา ไม่แม้แต้จะหันมาทักน้องตัวเอง เอาแต่นั่งดูทีวีซะตาแทบถลน เออ เพิ่งรู้ว่าคนเถื่อนๆอย่างมันชอบดูรายการสัตว์โลกน่ารัก =_=^ ส่วนพ่อกับแม่น่ะเหรอ เหอ สองคนนั้นน่ะชอบอยู่ในโลกส่วนตัว หันมามองผมแป็บเดียวแล้วหันไปคุยกันต่อ ประเสริฐแท้
ผมเดินไปนั่งลงตรงข้ามไอ้ไวน์แล้วย้ำคำถามเดินอีกรอบ “ตกลงมึงมาไงอะไรยังไง”
“ขับรถมา”ร่างสูงตรงข้ามผมตอบพร้อมยักคิ้วกวนๆ พอเห็นผมเริ่มกลอกตาไปมาอย่างเซ็งๆ มันจึงรีบแก้ตัว “ที่จริงจะมาเยี่ยมน่ะ กูได้ข่าวว่ามึงป่วย ดีขึ้นรึยัง”
มาเยี่ยม!? กูป่วยตั้งแต่สองวันที่แล้วโว้ย!! พึ่งจะมาเยี่ยมวันนี้เนี่ยนะ!? ผมคิดอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่กูแอบเคืองได้ป่ะเนี่ย! หงุดหงิดอีกแล้วอ่ะ -_-^
“มาเสียเที่ยวแล้วล่ะ เสียใจด้วยเพราะกูหายแล้ว แค่กๆ”ไอ้ไวน์เลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นผมไอค่อกแค่กออกมา ไอถูกเวลามากกู
“หมายถึงใกล้หายแล้ว ไม่ต้องการคนเยี่ยม ไสหัวกลับไปซะ”
“เทียน
”
ผมเริ่มก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่สนใจมันอีก ถึงแม้มันจะเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงอ่อนซะจนใจผมแอบเขวไปนิดนึงก็เถอะ แต่เทียนไขต้องเข้มแข็ง ต้องเข้มแข็ง!
“เทียน ทำไมไม่พูดกับพี่เขาดีๆฮะลูก”การที่แม่ยอมออกจากโลกส่วนตัวมาพูดกับผมนี่ควรจะดีใจใช่ไหมเนี่ย แต่ทำไมผมกลับรู้สึกหงุดงหงิดกว่าเดิมฟะ เห็นได้ชัดว่าแม่เข้าข้างมัน! T^T
“มันไม่ใช่พี่ชายเทียนซะหน่อย” ผมเบ้ปาก “เทียนมีพี่ชายอยู่คนเดียว แล้วตอนนี้เทียนก็ไม่ต้องการพูดดีๆกับมันด้วย!”ผมชี้นิ้วไปตรงหน้าไอ้ไวน์ ถ้าทำได้พ่ออยากจะจิ้มตามันให้บอกไปเลย ฮึ่ย!
“เทียน!”แม่ทำหน้ายักษ์ใส่ผม พ่อกับแม่น่ะรู้มาตั้งนานแล้วว่าไอ้ไวน์มันตามจีบผมอยู่ ถึงจะรู้ว่าทั้งผมแล้วก็มันต่างเป็นผู้ชายทั้งคู่แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมแม่ยังเคยเชียร์มันเลยว่าให้ผมคบกับมันซะ คนนึงหล่อกับอีกคนน่ารักเหมาะสมกันดี นี่แม่รู้รึเปล่าว่าผมเป็นผู้ชายน่ะ ก็น่าจะรู้แล้วว่าแม่เป็นสาววายพวกเดียวกับยัยเกมส์แล้วก็ยัยไหมน่ะ ให้ตาย สาววายจงเจริญ
.=_=;;;
ส่วนพ่อก็ตามแม่น่ะแหละ แม่ว่าอะไรพ่อก็เลยไม่ว่าอะไรไปด้วย ถึงแม้ผมจะเห็นบางครั้งที่พ่อมองไอ้ไวน์กับผมด้วยสายตาแปลกๆน่ะ เฮ้อ เอาเถอะ
“โอเคๆ เทียนจะคุยกับมันดีๆแล้วแม่ แม่เลิกแยกเขี้ยวได้แล้ว เดี๋ยวพ่อก็กลัวตายกันพอดี”ก่อนที่ชามข้าวต้มบนโต๊ะจะถูกเขวี้ยงใส่หน้าผม ผมรีบคว้าแขนไอ้ไวน์วิ่งออกมาหน้าบ้านโดยมีสายตาเชือดเฉือนของพี่ไฟไล่หลังมา
ผมปล่อยมือมันออกแล้วเดินไปพิงรั้วบ้าน ยกมือกอดอกเต๊ะท่าทำหน้าตากวนตีนเหมือนจิ๋กโก๋หน้าปากซอย ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงเรียบๆ
“ทีนี้มึงก็กลับไปได้แล้ว”
“ไหนเมื่อกี้มึงบอกจะคุยดีๆกับกูไง”
“แล้วนี่ไม่ดีเหรอไง ที่กูยอมพูดกับมึงก็ดีเท่าไหร่แล้ว กลับไปซะ!”
“เทียนไข มึงเป็นอะไรวะ เมื่อสองวันก่อน
”ไอ้ไวน์ชะงักกับสายตาคุกกรุ่นของผม ก่อนจะร้อง’อ๋อ’ออกมาเบาๆ “มึงโกรธกูเรื่องนี้ใช่ไหม”
“เรื่องไหน กูโกรธมึงหลายเรื่องเลยเหอะ!”
“เรื่องไหนบ้าง”
“ก็เรื่องที่มึงไม่ยอมกินข้าวไง! หน๊อยแน่ บอกจะกินข้าวแล้วดันมาจูบกูซะงั้น แถมมึงยังมาแพร่เชื้อใส่กูจนนอนป่วยตั้งหลายวันโดยที่มึงไม่ได้มาเยี่ยมกูเลยอีก หายหัวไปไหนมา!!”
“
”
“=[]=” เวร! ลืมตัว!! บอกที เมื่อกี้ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปใช่ม้ายยยย
“หึๆ”
“
”มึงไม่ยินอะไรเลยใช่ไหมถึงหัวเราะออกมาแบบนั้นน่ะ T^T
“เพื่อให้มึงหายโกรธ กูจะไขข้อข้องใจมึงให้หมดทั้งสามข้อ”
“
”
“ข้อแรก ที่มึงบอกกูไม่กินข้าว มึงผิด”มันเดินล้วงกระเป๋าท่าทางสบายๆเข้ามายืนตรงหน้าผมแล้วเผยรอยยิ้มบางๆ “กูกินหลังจากที่มึงวิ่งกระเจิดกระเจิงออกไปจากบ้านกูต่างหาก”
“
” กระเจิดกระเจิง!? บ้าเหรอ ผมไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย พูดอย่างกับผมถูกปล้ำงั้นล่ะ ก็แค่เกือบ
“แต่เพราะก่อนหน้านั้นกูอยากกินมึงมากกว่าข้าวแค่นั้น”
“หา!?”
“ส่วนเรื่องจูบ แน่นอนว่าไม่ได้คิดจะแพร่หวัดให้มึงเลยสักนิด แค่คิดอยากจะจูบ” ร่างสูงกว่าโน้มหน้าเข้ามาใกล้แล้วเน้นคำว่าจูบเสียงดังจนผมอ้าปากเหวอ
“อะ
”
“ข้อสุดท้าย เพราะกูติดโปรเจ็กต์งานกระทันหันเลยมาเยี่ยมไม่ได้ แต่กูฝากไอ้เบียร์มาบอกแล้วนิว่าจะรีบเคลียร์งานแล้วมาเยี่ยมให้เร็วที่สุด”
“
” ไอ้เบียร์!! มึง! -_-*
“ฉะนั้น” มันยื่นนิ้วก้อยมากระดิกๆตรงหน้าผมแล้วยิ้มเผล่ “ดีกันนะครับ”
ผมกระพริบตางงๆแล้วรีบเรียกสติกลับมาโดยการยกมือตะปบหน้าตัวเองทีนึง ผมเงยหน้ามองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มนั่นแล้วเม้มริมฝีปากกลั้นยิ้มกับท่าทีเหมือนเด็กของคนที่แก่กว่าผมตั้งสองปีกว่า
“ทำอะไรปัญญาอ่อน”
“เกี่ยวก้อยกันเร็ว” มันเร่ง “หายโกรธกูเถอะนะ นะๆ น้าครับ เทียนไข กูขอโทษ”
หึๆๆ คึๆๆ ฮ่าๆๆๆ บ้าเอ๊ย ทำไมมันชอบทำแบบนี้กับผมอยู่เรื่อยเลยนะ แล้วแน่นอนว่าผมก็ใจอ่อนกับมันอยู่ เรื่อย
“เออๆ แต่ที่จริงกูก็ไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้นนะ”ผมยื่นนิ้วไปเกี่ยวก้อยด้วยอาการเขินนิดๆ “ก็แค่หงุดหงิดนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“ฮ่ะๆๆ เข้าใจครับ”เออร์ไวน์พยักหน้ายิ้มๆ
“มันหายโกรธ แต่กูไม่หาย”
“
!!” ผมรีบดึงนิ้วออกจากมือไอ้ไวน์แล้วอุทานเสียงดัง “พี่ไฟ!”
“มึงโกรธอะไรกู”ดูเหมือนไอ้ไวน์จะงงเหมือนกัน มันหันกลับไปเผชิญหน้ากับพี่ไฟแล้วเอ่ยถามงงๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดๆ “แต่กูก็ไม่เคยทำให้มึงโกรธสักหน่อย”
“มึงผิดแล้วไอ้คุณชาย J”พี่ไฟแสยะยิ้มน่ากลัว ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่ได้ตั้งใจ รอยยิ้มแบบนั้น
มันเป็นรอยยิ้มที่กำลังโกรธ “มึงไม่ได้ทำอะไรกูหรอก แต่มึงน่ะ
ทำน้องกูไอ้สัด!”
ผัวะ!
“เฮ้ย! พี่ไฟ! หยุดนะเว้ย!”ผมรีบกระโจนไปขวางทางพี่ไฟเอาไว้ทันที กันเอาไว้ไม่ให้มันตามไปซัดไอ้ไวน์ได้อีกเป็นครั้งที่สอง พี่ไฟมันเป็นอะไรของมันวะ! “มึงเป็นอะไรของมึง!”
“ไอ้เออร์ไวน์! มึงกับน้องกูยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ถ้ากูรู้ว่ามึงทำอะไรน้องกูอีกนะ!!”พี่ไฟเลือดขึ้นหน้าสุดๆ ผมดันตัวมันไว้สุดแรง ไอ้ห่านี่ก็แรงควายเกิน T^T “กูฆ่ามึงแน่!!”
“มึงพอเถอะน่า!!! มันไม่ได้ทำอะไรกูสักหน่อย” โป้ปดมดเท็จไม่ใช่สิ่งที่เทียนไขชอบทำนะ!
“ยังไงมึงก็ปิดกูไม่มิดหรอกเทียน!! รอยพวกนั้นน่ะ ยัยขีดมันบอกกูหมดแล้ว!!” พี่ไฟหันมาตะคอกใส่ผม “แปลว่ามึงเสร็จมันแล้ว กูจะฆ่ามัน!!”
“บ้าไปแล้ว! กูยังไม่เสร็จมันซะหน่อย!!”คราวนี้เป็นผมที่ตะคอกกลับบ้าง และคำพูดผมก็เป็นผลเมื่อพี่ไฟมันชะงักไป ไอ้พี่ชายตัวดีหันมามองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ยังเหรอ?”
“เออ!! ยัง!!” สรุปที่มันโกรธไอ้ไวน์ก็เพราะนึกว่าผมเสร็จมันแล้ว จะบ้าเหรอ คิดได้ไง! ผมยังไม่เสร็จมันสักหน่อย “มึงก็คิดอะไรเว่อร์ไป แล้วที่คอกูนี่น่ะ” ผมชี้มือไปที่รอยแดงจางๆตรงคอ “กูยอมมันเอง ฉะนั้นมึงมีปัญหาอะไรไหม!!?”
ผมถลึงตามองพี่ชายตัวเองอย่างไม่พอใจ เป็นอย่างนี้ตลอดเลย เลือดร้อนและไม่ยอมใครแถมยังหวงน้องแบบสุดๆ แต่ก็โทษมันไม่ได้เพราะถ้าเป็นผม ผมก็คงจะไม่คิดหน้าคิดหลังทำแบบพี่ไฟเนี่ยแหละ =_=
“หึ แรดนักนะมึง!”พี่ไฟยกยิ้มมุมปาก ยังดีที่ดูเหมือนอุณหภูมิในร่างกายมันจะลดลงแล้ว ฮู่ว พี่ไฟหันมองไอ้ไวน์ที่ยืนซับเลือดที่ปากอยู่แล้วเอ่ยปากขอโทษด้วยหน้าตากวนตีนยิ่งนัก
“ส่วนมึง กูขอโทษก็แล้วกัน หวังว่ามึงคงจะไม่ถือ”
ไม่ถือก็บ้าแล้ว ชกไปแรงซะขนาดนั้น เป็นใครใครก็โกรธล่ะวะ -_-^
“เออ ที่จริงหมัดมึงก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่”โอเค ไอ้นี่เป็นกรณียกเว้น!!
“เหอะ! กูเข้าบ้านละ เชิญพวกมึงพลอดรักกันต่อไปเหอะ”แล้วมันก็เดินหันหัวเข้าบ้านไปจริง โดยที่ผมมองตามด้วยสายตาอยากจะฆ่ามัน
ไอ้เหี้ย!! =[]=!! พลอดรักบ้านมึงสิ (
แต่บ้านมึงก็บ้านกูนี่หว่า
) ชึ่ย สักวันผมคงจะฆ่าพี่ตัวเองให้ดู
“ปากแตกเลยว่ะ เข้าไปทำแผลก่อนป่ะ”
“ไม่เป็นไร จะกลับแล้วล่ะ มีเรียนตอนเก้าโมง”
“อ่อ” ผมพยักหน้าน้อยๆ “บ๊ายบาย”
“อืม เดี๋ยวตอนเย็นจะมาใหม่นะ” หา! จะมาอีกเรอะ ผมกำลังจะส่ายหน้าปฎิเสธแต่มันกลับพูดขัดผมซะก่อน “มาชดเชยให้ไง คนป่วยอุตส่าห์นอนเหงามาตั้งสองวัน แย่เลยนะ”
อะไรนะ? บ้าดิ “ไม่ได้เหงาโว้ยยยยย”
ผมตะโกนไล่หลังไปด้วยใบหน้าร้อนผ่าว พลางมองรถแลมโบกินีสีเงินสะดุดตานั้นขับจนลับสายตา ผมจึงเข้าบ้านมาแล้วมานั่งเผละตรงโซฟาข้างๆพี่ไฟ ยังดีที่ไอ้รายการสัตว์โลกน่ารักนั่นจบแล้ว อ้าว? ไม่ได้เปิดทีวีนี่หว่า แล้วมันมองอะไรอยู่
“มึง
โกรธกูเหรอ”เมื่อเห็นบรรยากาศมันเงียบแปลกๆ(พ่อกับแม่ขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน)ผมจึงถามออกมาทำลายความเงียบ
พี่ไฟหันมามองผมแล้วถอนหายใจหนักๆ ฝ่ามือหนาถูกยื่นมาลูบหัวผมไปมา “เปล่า”
“เหรอ”ผมพึมพำเสียงเบาแล้วเอนหัวซบกับไหล่กว้างนั้น “มึงไม่คิดจะถามเหรอว่าทำไมกูยังไม่เสร็จมัน”
“รอมึงบอก”
“จริงๆเลยพี่กู”ผมส่ายหัวยิ้มๆ แต่รอยยิ้มผมก็พลันหมองลงเมื่อคิดถึงเรื่องวันนั้น “วันนั้นกูเห็นภาพซ้อน”
“ภาพซ้อน?”
“อือ กูเห็นภาพซ้อนกับตัวเองเมื่อสี่ปีก่อน กูตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่หน้าบ้านแล้ว เลยได้แต่รอยพวกนี้แหละกลับบ้าน” ผมยกมือลูบต้นคออย่างลืมตัว “น่าสมเพชชะมัด”
“กูถึงบอกให้มึงลืมๆเรื่องพวกนั้นไปไง”
“หึ ใครจะไปลืมได้ง่ายๆวะ ยิ่งอยากลืมกูยิ่งจำได้มากขึ้น”ผมยกยิ้มสมเพชตัวเอง ก่อนจะนึกขึ้นได้ เลยหันหน้าไปถามพี่ไฟ
“แล้วนี่มึงไม่ไปหาพี่ตินเหรอวะ ปกติเห็นออกแต่เช้า”
สายตาอันดีเลิศของผมคงไม่ได้ฝาดไป เพราะสีหน้าของพี่ไฟในตอนนี้นั้นแฝงไว้ด้วยความเคร่งเครียดและเศร้าอย่างชัดเจน
“กูไม่ไปแล้ว”
“ฮะ!?”ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “มันเกิดอะไรขึ้น”
“กูแค่ให้เวลาเค้าได้คิดว่าที่จริงแล้วเค้า
” ผมเห็นพี่ไฟแอบกำหมัดแน่นเมื่อพูดถึงพี่มาร์ตินี พี่ชายของไอ้ไวน์และไอ้เบียร์ “รู้สึกยังไงกับกูกันแน่ กูเหนื่อยแล้วที่ต้องไล่ตามกับคนที่ไม่ได้เห็นกูอยู่ในสายตาเลย”
“เฮ้ย ไหงงี้อ่ะมึง” ผมร้องประท้วง “ถ้ามึงรักพี่เค้าจริงก็ต้องสู้ดิวะ! ไฟแช็คที่กูรู้จักไม่ใช่คนที่ยอมแพ้ง่ายๆนี่ใช่ไหม? ขนาดตอนมึงต้องไปแข่งบาสที่โรงเรียนอื่นตอนม.5 ที่ตอนนั้นมอเตอร์ไซค์มึงเสียกระทันหันไง จำได้ไหม แถมมึงยังไม่สบายอีก มึงยังดั้นด้นไปแข่งจนได้เลย แล้วเสือกชนะด้วย”
“นั้นมันคนละเรื่องกันเลย” พี่ไฟส่ายหัว “เรื่องพี่ตินน่ะ กูพยายามยังไง ในใจเขาก็มีแต่ไอ้เลวไมนัส ถึงแม้กูจะพยายามเปิดโปงความชั่วของมันขนาดไหน แต่พี่ตินก็ยังเชื่อมัน กูเหนื่อยจริงๆว่ะเทียน”
“
”ผมเงียบ เรื่องมันดูเครียดจริงๆวะเฮ้ย ผมจะช่วยอะไรได้มั้งป่ะว้า
ส่งเมลมาบอกผมที -_-?
“เออ! แล้วมึงไม่มีเรียนเหรอ” ปัญหานั้นช่างก่อน ตอนนี้คือกูสงสัยปัญหานี้มากกว่า
“เรียน
”พี่ไฟเหลือบตามองเพดานอย่างครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะค่อยๆหันมามองผมช้าๆ
“เออว่ะ! มีเรียนคลาสเดียวกับไอ้เออร์ไวน์มันนี่หว่า ชิบหายละ! ไอ้เวรนั้นก็ไม่เตือนกูเลย!”พี่ไฟทำหน้าตาเหมือนถูกผีหลอกก่อนจะรีบคว้าเป้แล้วกระโจนออกประตูไป ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงบิดเครื่องดังกระหึ่มบ้านก่อนที่เสียงจะค่อยๆเบาลง
ผมส่ายหน้าระอาใจ
โถ พี่กู เวลามีเรื่องอื่นให้คิดกลับชอบลืมเรื่องเรียนๆไปซะสนิท
ช่างเหมือนกูอะไรซะอย่างนี้ อาเมน ( _ _ )
Writer say: ฮี่ฮ้า >0< พรุ่งนี้ไรท์เตอร์เปิดเทอมแล้ว และขึ้นม.6 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไรท์เตอร์ควรจะขยันในเรื่องการเรียนให้มากที่สุด ไรท์เตอร์จึงอยากจะบอกว่า ถ้านิยายมันได้อัพช้าถึงช้ามาก ไรท์เตอร์ก็ขอโทษไว้ก่อน แฮ่ๆๆ ไรท์เตอร์รู้สึกขอบคุณรีดเดอร์และผู้คอมเม้นท์ทุกคนจริงๆ ถึงจำนวนคนดูหรือเม้นท์จะไม่เยอะ แต่อย่างน้อย...ก็ยังมีคนเข้ามาอ่าน ขอบคุณจริงๆค่ะ T^T
ความคิดเห็น