คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Don't rude 4 : คิดผิด(แน่ๆ)
3 คิดผิด(ผิดแน่ๆ)
กูพูดแล้วไม่มีทางคืนคำ
กูพูดแล้วไม่มีทางคืนคำ
“
”
“ไอ้เทียน! นั่นมึงหันหลังจะเดินไปไหน ประตูบ้านกูทางนี้!”
“รู้แล้วไม่ต้องย้ำน่า!”ผมเบ้ปากแล้วหันตัวกลับมายืนตระหง่านอยู่หน้าประตูบ้านตระกูลโชคนัยพานิชอีกครั้งหลังจากที่ยืนทะเลาะกับตัวเองได้สักพัก ไอ้เทียนไขก็รู้สึกว่าตัวเองควรจะค่อยๆย่องหนีไปดีกว่า ณ ตอนนี้
แต่ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เพื่อนกูจะตาดีไปไหน -____-
“แน่ใจว่าพี่มึงอยู่บ้าน?”ผมถามเพื่อนความแน่ใจครับ เหอๆ ใครจะคิดล่ะ ไม่แน่มันอาจจะแกล้งป่วยแล้วแรดออกไปเที่ยวข้างนอกแล้วก็ได้นะ?
“เอ้า ไอ้ควาย พี่กูป่วยอยู่จะให้ไปไหนได้”
“ป่วยจริงอ่ะ?”ถามย้ำอีกครั้ง
“ไอ้เทียน!มึงถามกูเป็นร้อยรอบแล้วนะ ถ้าไม่อยากมาจริงก็กลับไปเหอะ เชอะ!กูขี้เกียจง้อมึงแล้ว กลับไปเลยๆ” มันหันมาแว้ดใส่ผม ผมยิ้มกว้างออกมาทันที
“ดีเลย งั้นกูกลับ
แอ้ก! ไรมึงเนี่ย อย่ารัดคอ อากาศ เชี่ย กูจะตายแล้ว”ผมไอค่อกแค่ก ตีผัวะไปที่แขนไอ้เบียร์อย่างไม่ออมแรง รัดคอกูมาได้ แค่กๆ
“ขอโทษ ก็ไม่นึกว่ามึงจะกลับจริงๆนี่นา”ไอ้เบียร์ลูบแขนตัวเอง ว่าเสียงอ่อย
ผมส่ายหัวแล้วเดินอาดๆเข้ามาใน้บานอย่างวางท่าและตรงดิ่งขึ้นไปที่ชั้นสอง กระชากประตูห้องที่เคยถูกลากมาบ่อยๆ(อย่าคิดลึกเชียว!) ให้เปิดออกอย่างแรงอย่างไม่ปรานี แล้วไง? ไม่ใช่ประตูบ้านผมนี่
“ไอ้ไวน์นี่มึงคิดจะ
”แต่เสียงผมก็ค่อยๆเงียบลงเมื่อเดินเข้ามาเห็นภาพตรงหน้าจะๆตา!
ไอ้เออร์ไวน์ที่เปลือยท่อนบนที่นั่งพิงหัวเตียงกำลังหัวเราะต่อกระซิกกับใครก็ไม่รู้อยู่!
“เอ๋ ใครน่ะ?” สองคนนั้นชะงักและหันมามองผมทันที บุคคลปริศนาที่ผมยืนจ้องอยู่หันมามองแล้วทำหน้างงต่างจากไอ้เออร์ไวน์ที่ทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผมเป็นผี -*-
เออ กูก็อยากถามเหมือนกันว่ามึงเป็นใคร!?
“เทียน
”
“คือ
”ผมยืนอึ้งอยู่กับที่ สมองเบลอคิดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่
มึงเศร้า มึงเจ็บ มึงอกหักงั้นเหรอ? เฮอะ! มีคนปลอบใจแล้วล่ะสิ แล้วผมล่ะ? จะถ่อมาทำซากอะไร มายืนดูคนมีความสุขแล้วเหรอ? ควรจะดีใจสินะ มันจะได้หายๆไปจากชีวิตผมสักที แต่ทำไม
เจ็บแฮะ
“อ๊ะ!มึงเดินไม่รอกูเลยไอ้เทียน อ้าว!พี่ปายก็มาด้วยเหรอครับเนี่ย”
“อะ
”
“เทียน ระวัง”
ไอ้เบียร์ที่อยู่ดีๆก็หายไปแล้วอยู่ๆก็โผล่มาวิ่งพรวดเข้าห้องมาชนผมที่ยืนคาประตูอยู่จนเซแซดๆ จะล้มแต่กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด คนที่กระโจนมาประคองผมไว้คือไอ้เออร์ไวน์ พอรู้ว่าใครช่วย ผมเงยหน้าส่งสายตาเย็นชาให้แล้วสะบัดตัวออกทันที มันนิ่งค้างไปแป็บนึงแล้วหันไปดุไอ้เบียร์เบาๆ
“คราวหลังอย่าพรวดพราดเข้ามาแบบนี้อีกนะ”
เหมือนจะกระทบผมเบาๆป่ะวะ? คงไม่อยากให้ใครขัดเวลาสวีทสินะ คราวหลังก็ล็อคประตูสิวะ
“คร้าบๆ”ไอ้เบียร์รับคำยิ้มๆแล้วหันมาทำหน้าทะเล้นขอโทษผม
ผมทำหน้าบึ้งแล้วเดินหนีออกมาทันที เกิดอาการหงุดหงิดประหลาดแบบประสาทบอกไม่ถูก -*- ชึ่ย!อารมณ์เสียแบบไม่มีเหตุผล อยากเหวี่ยงโว้ยยยยยยย
“ไอ้เทียน! เทียน มึงเป็นอะไรวะ!”ไอ้เบียร์มันเดินตามผมออกมาทันที ผมหันไปตวัดตาใส่
“หงุดหงิด ไม่พอใจ จบป่ะ!”
ฟองเบียร์กระพริบตาปริบๆ มองอาการของเพื่อนรักตัวเองงงๆ
“ไม่จบ มึงเป็นอะไรอ่ะ เมนส์มาเหรอ?” เอียงคอถามพลางทำหน้างงๆสุดฤทธิ์
“บ้านมึงสิ!!!”
โว้ย! เพื่อนกู ปัญญาอ่อน! ถามมาได้ เมนส์กูมา!? บ้าสิ! นี่มันเห็นผมเป็นผู้หญิงหรือไง แหกตาดู เพื่อนมึงอ่ะ ผู้ชายโว้ย มี
เหมือนมึงนะโว้ย แสรดดดด
“อ้าว แล้วสรุปมึงเป็นอะไร”
“เป็นคนที่คิดถึงบ้านมาก ตอนนี้! กูกลับล่ะ!”ผมโบกมือสองสามทีแล้วหันหลังออกเดิน แต่ต้องร้องเสียงดังลั่น เพราะไอ้เบียร์มันวิ่งตามมาล็อคคอผมแล้วหยิกผมด้วย อ้าก! เจ็บบบบบ
“มึงไปไหนไม่ได้ มึงยังไม่ได้นั่นเลย!”
ผมดิ้น แต่ไอ้เบียร์ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน มันล็อคคอผมซะแน่นแล้วลากๆผมให้กลับไปที่ห้องนั้นช้า แม้จะทุลักทุเลเต็มที
“ไม่!กูเปลี่ยนใจ กูไม่นั่นแล้ว!!”
“ไอ้เพื่อนบ้า!มึงต้องกลับไปนั่นเดี๋ยวนี้!”
งงใช่ไหมว่าเราตะโกนนั่นๆทำไมกัน ผมก็ยังงงตัวเองอยู่เหมือนกัน =_= นั่นที่เราพูดกันคือคำว่าขอโทษนั่นล่ะ อย่างงกันไป
“ไม่!พี่มึงมีคนปลอบใจแล้วนี่!กูไม่อยากไปเป็นกขค ปล่อยกูเลยไอ้เบียร์!!”
กึก
“อยู่ดีๆก็หยุดเดิน คิดอะไรมึงเนี่ย!”ผมแว้ดใส่ อยู่ดีก็หยุดเดินโดยไม่บอก ทำเอาผมเกือบสะดุดขาตัวเอง
“มึงหงุดหงิดเพราะเรื่องนี้เหรอ”
“ระ
เรื่องอะไร!”
“เห็นพี่ปายอยู่กับพี่ไวน์สองคน หงุดหงิดเพราะเรื่องนี้ใช่รึเปล่า?”
“=[]=”
“ฮ่าๆๆๆ เพื่อนกูนี่น่ารักว่ะ! ไปๆ ไปหาพี่กูกัน”มันหัวเราะออกมาเบาๆแล้วลากผมต่อ ผมที่อึ้งไปแป็บนึงได้สติแล้วจึงโวยวายต่อ
“ไม่ไป สาดดดด กูยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ! ห้ามคิดไปเองนะเว้ย เวร!เ#3%G๒$dY^?>&df21v”และอีกสารพัดที่ผมโวยวายไม่ขาดสายจนในที่สุดความพยายามของไอ้เบียร์ก็เป็นผล มันลากผมกลับเข้ามาในห้องนี้อีกจนได้ มันผลักผมให้ถลาไปที่เตียงที่ไอ้ไวน์กลับไปนอนอยู่เหมือนเดิม ผมหน้าทิ่มลงที่ปลายเตียง เหมือนว่าจมูกจะกระแทกอะไรด้วย หน้าแข้งไอ้ไวน์เรอะ!? ช่างเหอะ! ตอนนี้ผมเจ็บและรู้สึกอายมาก ผมกระเด้งตัวขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว พยายามไม่สนใครว่าใครจะอยู่ในห้อง โฟกัสสายตาไปที่ไอ้เบียร์คนเดียว
“ไอ้เบียร์ มึง!!”ผมคำรามเสียงฮึ่มฮ่ำในลำคอ ไอ้เพื่อนรัก มึงตายยยยย
“อ๊ะ! หยุดนะมึง มีพี่ปายอยู่ด้วย ไม่อายรึไง”
กึก
“เออ
จริง”ผมชะงักกึกคาที่ รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบเข้ามากระทันหัน ผมค่อยๆหันไปมองจุดที่พี่คนนั้นยืนอยู่ช้าๆ พี่คนนั้นยิ้มแล้วเดินมาตบไหล่ผมแปะๆ
อ่า
ดูๆแล้วเขาก็ไม่น่าจะสูงกว่าผมสักเท่าไหร่ น่าจะประมาณ 173 นี่แปลว่าผมก็ไม่ได้เตี้ยสินะ 168 เนี่ย
“ไม่เป็นไร พี่กำลังจะกลับแล้วล่ะ พี่ชื่ออิมปายนะ เป็นเพื่อนกับไอ้ไวน์มัน”พี่เขาแนะนำตัวยิ้มๆ เป็นเพื่อน?
“เพื่อน?”เป็นแค่เพื่อนจริงๆน่ะเรอะ? แต่เมื่อกี้ที่ผมเห็นไม่น่าจะ
“เฮ่ย ทำไมทำหน้าสงสัยแบบนั้นล่ะ เป็นแค่เพื่อนจริงๆ”
เฮ้ย ผมยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ทำไมต้องย้ำขนาดนั้นวะ เอ๊ะ หรือผมแสดงอะไรออกไป
“ผมก็ยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย”ยักไหล่น้อยๆเพื่อความกวนตีน?
“ไม่ได้พูด แต่หน้ามึงแสดงออกหมดแล้วไอ้เทียน พี่ปาย นี่เทียนไขเพื่อนผม”ไอ้เบียร์มึงทำหน้าเจ้าเล่ห์มาก
“และก็อนาคตพี่สะใภ้ผมเอง”
กร๊ากกกกกกกกกก กูขำตายล่ะสัด!!! เดี๋ยวมึงจะโดนไอ้เพื่อนตัวดี
“มึงอย่ามาพูดพล่อยๆไอ้สัด”ผมหันไปดุไอ้เบียร์แล้วหันกลับมาอธิบายไอ้พี่อิมปายเข้าใจ
“พี่อย่าเข้าใจผิดนะเว้ย ผมไม่ได้อะไรทั้งนั้นล่ะ!”
“พี่ไม่ออกความเห็นครับ หึหึหึ เทียนนี่น่ารักสมคำล่ำรือจริงๆด้วยนะ”ผมอยากจะบอกว่าพี่ก็น่ารักเหมือนกันครับ เหอๆ แล้วก็อยากบอกว่านี่แก้มคนนะครับไม่ใช่ตุ๊กตา ดึงจัง!
“ใครล่ำรือพี่”
“ก็ใครล่ะ ไอ้ที่นอนอ่อนเปลี้ยเพลียแรงอยู่บนเตียงนั่นไง”
ขวับ
ผมทั้งสามคนหันไปมองไอ้ผู้ป่วยที่นอนตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่บนเตียง
หน๊อย เห็นแล้วอยากบีบคอซะจริงๆ! เอากูไปนินทาเรอะ!
ผมยืนจ้องผู้ชายร่างสูงที่ชื่อเออร์ไวน์ตาเขียวปั๊ด ถ้าไม่ติดที่มันป่วยอยู่นะ ผมจะคว้าอะไรก็ได้ใกล้มือเขวี้ยงใส่มันให้ตายคาที่คอยดู!! ดูเหมือนไอ้ไวน์จะทนแรงกดดันผมไม่ไหวจากที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้มันค่อยๆมุดหัวเข้าไปในผ้าห่มหนีความผิด ไอ้สองคนที่ยืนข้างๆผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ดันหัวเราะก๊ากออกมาซะงั้น
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” เออ เอาเข้าไป หัวเราะไม่ลืมหูลืมตา มันน่าขำอะไรนักหนา?
“หึๆๆ ฮ่าๆๆ โอเคๆ พี่ไม่ขำแล้ว หึๆ ยังไงก็กลับก่อนนะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องเทียน” หลังจากโดนสายตาผมทิ่มแทง ในที่สุด พี่อิมปายก็ยอมแพ้ถึงแม้ว่าไอ้เบียร์มันจะยังหัวเราะอยู่ก็เถอะ หลังจากเดินมาลูบหัวผมเสร็จ พี่เค้าก็เดินออกไปและจะดีกว่านี้ถ้าไอ้เหี้ยเบียร์(เปลี่ยนชื่อชั่วคราว)มันไม่รีบวิ่งแจ้นตามออกไปด้วยแล้วมัน
มัน
มันล็อคประตูขังผมไว้ในห้องนี้น่ะสิ!!!
อ้ากกกกกก ไอ้เทียนไขอยากจะทึ้งหัวตัวเองให้มันล้านรู้แล้วรู้รอดไป!! ประตูก็เหี้ยอะไรไม่รู้ล็อคจากข้างนอกได้ด้วย ฮือออออออ แถมมันยังมีหน้ามาบอกผมอีกนะว่าถ้าไม่รีบคีนดีกับพี่มันมันจะขังผมไว้ในห้องนี่ทั้งคืน สาดดดดดด กูเกลียดมึงงงงงง
หลังจากนั่งคร่ำครวญอยู่กับตัวเองที่หน้าประตูห้องนานสองนาน ไอ้เออร์ไวน์ก็ดูเหมือนจะทนไม่ไหวกับผม มันเลยพยุงตัวเองมานั่งมองผมซะตาไม่กระพริบ ผมที่รู้ถึงรังสีแปลกแผ่ออกมาจากมันจึงค่อยๆหันไปมอง
“มองกูทำไม” ห้วน สั้น ได้ใจความ แสดงถึงอารมณ์นายวิทยกรในตอนนี้ ฮึ่ยยยย
“มองคนใจร้าย”
อึก
สะอึกเลยมึงไอ้เทียนไข ตอบไม่ไว้หน้ากูสักนิด ผมเบ้ปาก
“ได้ข่าวว่าป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอไง ขึ้นมานั่งมองกูทำเหี้ยไร นอนพักผ่อนสิ”
“พักจนเบื่อแล้ว อยากมองหน้าคนบางคนน่ะ”มันว่าจบก็ยักคิ้วให้ นี่ถ้าไม่ติดว่าหน้ามันซีดนะ ดูยังไง๊ยังไงก็ไม่เหมือนคนป่วยเลยสักกะนิด!!
เอาวะ!ไหนๆมันก็ลุกขึ้นมาคุยกับผมแล้ว เอาแบบรวดเดียวจบเลยก็แล้วกัน! ผมลุกขึ้นเดินไปยืนตรงหน้ามัน สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วรีบพล่ามอย่างรวดเร็ว
“คือเมื่อวันก่อนที่กูตะโกนใส่มึงไปน่ะ กูรู้แล้วว่ามันไม่ถูกต้องและเสียมารยาทมากๆ หลังจากที่กูทบทวนกับตัวเองมาตลอดหลายวันแล้ว กูยิ่งรู้สึกว่าตัวเองผิดเอามากๆ!”
“
!”มันอึ้งเลยครับ รีบเงยหน้าขวับมองผมแบบงงๆ
“กูขอโทษที่ตวาดใส่มึง ขอโทษที่ตะโกนใส่มึง ขอโทษที่แสดงท่าทีใจร้ายกับมึง ขอโทษที่หมดความอดทนกับมึงจนได้และขอโทษที่บอกให้มึงไสหัวไปไกลๆ ทั้งที่ความจริงแล้วกู
”
“
”
“กู
กูพูดไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบและก็กลัวเสียหน้าเพื่อนๆในโรงเรียน ขอโทษนะ!!!”ผมก้มหัวต่ำจนแทบจะติดพื้นและหอบหายใจเล็กน้อย
ไม่กล้าเงยหน้ามองคนตรงหน้า ไม่รู้ว่าเขาจะให้อภัยรึเปล่า ถ้าให้
ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ให้
กูก็ไม่แคร์(อ่าวเฮ้ย!?) เพราะผมถือว่าได้ทำสิ่งที่คิดจะทำเสร็จแล้ว ไม่คิดจะกังวลสิ่งที่จะตามมาให้เหนื่อยสมองหรอก ตอนนี้แค่เรื่องเรียนเรื่องเดียวผมก็จะตายหองอยู่ละ
“เทียน
”
“ฮะ!?
อ๊ะ! มึง
”ผมหลุดร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ดีๆไอ้ไวน์ก็คว้าเอวผมไปกอดแน่น มันเอาหน้าซบช่วงหน้าท้องผม ชวนให้รู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ผมใช้มือสองข้างดันหัวมันออก “มึงทำอะไรเนี่ย
” แต่มันขืนหัวตัวเองไว้ ดื้อจังวุ้ย
“ขออยู่แบบนี้สักพักนะ”
“หายโกรธกูแล้วเหรอ”ยังไงก็อดถามไม่ได้แฮะ แถมประเคนมะเหงกให้แรงๆอีกที มันเงยหน้ามามองผมยิ้มๆ อะไรวะ กูเคาะหัวมึงไปซะแรง ไม่เจ็บแถมยังยิ้มอีก นี่มันซาดิส์มชัดๆ!!
“มึงมัน
บ้า”
“บ้ารักมึงนั่นล่ะ จะบอกให้นะเทียน กู
ไม่เคยโกรธมึงเลยสักครั้ง”
“ก็ดี”ผมยักไหล่
ร่างสูงหัวเราะออกมาน้อยๆกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนผมเริ่มบ่น
“นานไปละมึง กูไม่เคยให้ใครกอดแบบนี้เลยนะเนี่ย ให้ตาย”ประโยคหลังผมบ่นงึมงำกับตัวเอง และแน่นอนว่าต้องเบาพอที่จะไม่ให้ไอ้คนที่นั่งกอดผมอยู่ได้ยิน
“นิ่มจัง”ว่าแล้วมันก็เอาหัวไปมุดๆถูๆไถๆตรงหน้าท้องผม ผมตบหัวมันดังป้าบ
“ไอ้สัด นี่ท้องกูไม่ใช่ตุ๊กตา!! แล้วกูก็ไม่มีพุงด้วยจะเอาเหี้ยอะไรมานิ่ม ประสาท!”
นี่ผมคิดผิดใช่ไหมเนี่ยที่มารู้สึกผิดกับไอ้คนอย่างมันเนี่ย มันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาดีถึงดีมาก ชาติตระกูลพ่อแม่ร่ำรวยเป็นเศรษฐี สามารถสอบเข้าคณะวิศวของมหาลัยอันดับหนึ่งของประเทศได้ด้วยคะแนนสูงสุด มีดีกรีเป็นถึงนักบาสของมหาลัย นิสัยโดยรวมแล้วก็ถือว่าดีมากเลยทีเดียว มีน้ำใจ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ ซื่อสัตย์ ขยัน อืม
มันไม่มันดูดีจังวะ!!! ทำไมคนที่ชื่อเออร์ไวน์ในสายตาของผมมันถึงดูดีขนาดนี้วะ!! เหยยยย มึงก็มีดีเหมือนกันแหละน่าเทียนไข
หน้าตาดีถึงดีมาก ไปไหน(ผู้ชาย)ใครก็มอง เกรดเฉลี่ยก็อยู่ที่สองต้นๆเคยเลวสุดก็ประมาณ 1.7 ฐานะทางบ้านก็ธรรมดา พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร นิสัยก็ดีมั้ง ชอบหมกการบ้าน ขี้เกียจ ชอบพูดจากขวานผ่าซากแบบไม่รักษาน้ำใจคนอื่กสักนิด ขี้หงุดหงิด อารมณ์ขึ้นง่าย เลยชอบมีเรื่องกับคนอื่นบ่อยๆ เอ่อ
แล้วทำไมผมดูแย่อย่างงี้วะ!!! โว้ยยยยยยย ใครเป็นคนคิดคาแรคเตอร์ผมขึ้นมาเนี่ย!! สองมาตราฐานสัดๆ ไม่ยุติธรรมเลย!! ผมคิดแล้วเผลอยกมือขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
“เทียน
เป็นอะไร”
ผมก้มลงมอง ใบหน้าที่ได้รูปสลักหล่อเหลาราวกับเทพเจ้าประธานลงมาจุติ ยิ่งเห็นแล้วก็ยิ่งห่อเหี่ยวใจ ทำไมกูไม่เกิดมาหล่อแบบนี้มั้งวะ
กูอุตส่าห์เกิดเป็นผู้ชายทั้งที่ดันหน้าตายังกะผู้หญิง!! ถุย! ให้กับตัวเอง
“ไม่มีอะไร
กูแค่หงุดหงิดนิดหน่อย”
“หงุดหงิดเรื่อง?”
เรื่องมึงไง!!? ทำไมมึงหล่อ ทำไมมึงเก่ง ทำไมมึงฉลาด ทำไมอะไรๆกับมึงมันเพอร์เฟ็กค์ไปหมด
แล้วทำไม
มึงต้องมาชอบคนอย่างกูด้วยวะ
ผมต้องคิดผิดแน่ๆที่ให้เออร์ไวน์ก้าวเข้ามาในชีวิต เพราะว่าถ้าผมถลำลึกลงไปกว่านี้ ทั้งผมและมันก็จะเจ็บด้วยกันทั้งคู่
ผมต้องคิดผิด
..
Writer say: ตึง ตึง ตึง มาอัพแล้วววววววว >w< กว่าจะมาได้ ฮ่าๆๆๆๆ ต้องบอกเลยว่าที่ช้าเนี่ยไม่ใช่เพราะคิดพลอตไม่ออก ไรท์เตอร์อ่ะ คิดจนจบเรื่องแล้วโน้นนน แต่ปัญหามันก็คือ
คือ
ไรท์เตอร์เป็นปะเภทที่เรียบเรียงคำพูดหรือบรรยายอะไรก็ตามได้ ห่วย มาก แบบจินตนาการเต็มสมองแต่ไม่รู้จะถ่ายทอดออกมายังไงแบบเนี้ย ฮ่าๆๆๆ ก็เลยต้องเสียเวลาเยอะ ยังไงก็ฝากติดตาม Don’t rude ต่อไปด้วยนะค่ะ(โค้งงามๆ)
ความคิดเห็น