ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคKNB

    ลำดับตอนที่ #6 : GEN 2 LOVES EP 1

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 57


    ตอนที่ 1 Son likes his parents

    “โคฮาคุ โคฮาคุ...” ฟุริฮาตะ โคคิร้องเรียกหาลูกชายของตัวเองไปทั่วบ้านหลังโตที่ที่อาคาชิให้เข้าย้ายมาอยู่ด้วยกันหลังแต่งงานกันส่วนเรื่องที่ทำไมเขามีลูกได้นั้นต้องยกความดีความชอบให้กับการแพทย์ที่พัฒนาไปถึงขั้นที่ทำให้เขามีลูกกับอาคาชิได้แต่ค่าใช้จ่ายในการทำนั้นแพงจนทำให้เขาสลบไปทันทีที่เห็นบิลค่าใช้จ่าย

    “มีอะไรเหรอครับ คุณแม่” อาคาชิ โคฮาคุลูกชายของฟุริฮาตะกับอาคาชิที่ตอนนี้อายุได้ 16 ปีเงยหน้าขึ้นจากหนังสือทฤษฎีหมากรุกที่กำลังตั้งใจยืนอ่านอยู่ที่ทางเดินเด็กหนุ่มมีผมสีน้ำตาลดวงตาเป็นสีแดงทั้งสองข้างสูง 175 เซนติเมตรซึ่งก็สูงกว่าพ่อแม่เมื่อก่อนเสียอีกใบหน้าหล่อเข้มเหมือนอาคาชิไม่มีผิด(//กรรไกรเข้าหน้า)

    “แม่จะออกไปเล่นบาสลูกจะไปกับแม่ได้มั้ย” ฟุริฮาตะหน้าเจื่อนหน่อยๆตอนถูกเรียกว่าแม่เขายังเป็นผู้ชายนะยังไม่ได้มีหน้าอกนะถูกเรียกกว่าแม่แบบนี้มันรู้สึกดีและแย่ในเวลาเดียวกันเลยจริงๆ

     “ได้ครับแม่ ถือว่าไปผ่อนคลายแล้วกันครับ”  โคฮาคุลุกขึ้นก่อนจะไปเปลี่ยนชุดจากชุดยูกาตะสีดำเป็นชุดไปรเวทที่เหมาะสำหรับเล่นสตรีทบาส

    “งั้นไปกันเลย” ฟุริฮาตะวิ่งนำออกไปทันที

    “..อะ....แม่นะแม่ลืมปิ่นโตอีกแล้วเหรอเนี่ย” โคฮาคุถอนใจก่อนจะเตรียมของไปเพิ่มหลายอย่างเช่น กล่องปฐมพยาบาลผ้าเย็น เกลือแร่

    “หอบอะไรมาเยอะแยะเนี่ย ลูกชั้น” ฟุริฮาตะหันไปมองลูกชายแล้วก็อดแขวะออกมาไม่ได้

    “ก็ต้องเพื่อไว้ก่อนนะครับจะได้ไม่ต้องวิ่งไปซื้อ” โคฮาคุบอกเหมือนจะได้นิสัยเข้มงวดกับตัวเองมาจากอาคาชิมากพอสมควร

    “งั้นเดี๋ยว แม่โทรไปบอกเพื่อนแม่ก่อนนะว่าแม่ออกจากบ้านแล้ว” ฟุริฮาตะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรออกทันที

     

     

    บ้าน คิเสะ

    “ฮัลโหลครับ ฟุริฮาตะคุง” คุโรโกะรับสายของฟุริฮาตะ

    “เฮ้ คุโรโกะ ชั้นออกจากบ้านแล้วนะ นายก็ออกจากบ้านได้เลยนะ จะได้มาเล่นบาสด้วยกันอีก” ฟุริฮาตะบอกผ่านปลายสายกระตุ้นให้ลูกชายของเขาที่นอนกอดนิตยสารบาสตื่นขึ้นมาทันที

     “จะออกไปเล่นบาสเหรอฮะ คุณแม่” คิเสะ ชิโระ ลูกชายของคิเสะ เรียวตะ กับ คุโรโกะเท็ตสึยะ วัย 17 ปีแต่กลับดูเหมือนเด็กๆซึ่งนิสัยส่วนใหญ่ก็มาจากพ่อล้วนๆมีแต่หน้าตาที่ได้แม่มาเยอะเพราะคำจำกัดความเรื่องหน้าตาของชิโระจากผู้จัดการของคิเสะก็คือ คำว่า “สวย” ผิวขาวเนียนละเอียด ผมสีฟ้าและดวงตาสีเหลืองกลมโตดูสดใสทำให้ได้เป็นนายแบบตั้งแต่เด็กแต่มักโดนคนอื่นเข้าใจผิดเรื่องเพศบ่อยๆ

    “อืม ถ้าชิโระจะไปด้วยต้องใส่หมวกกับแว่นนะครับ” คุโรโกะบอกก่อนจะวางสายไป

    “แม่ก็ใช้โอเวอร์โฟลว์ให้ผมก็ได้นี่ฮะ” เด็กหนุ่มหน้าสวยแก้มป่องด้วยท่าทางเอาแต่ใจ

    “เหมือนมีคิเสะคุงสองคนเลยหะ” คุโรโกะคิดก่อนจะยกมือขึ้นดีดหน้าผากลูกชายตัวเอง

    “โอ้ย แม่อะ” ชิโระลงไปเอามือกุมหน้าผากป้อยๆเหมือนจะเจ็บเอาเรื่อง

    “จะไปก็รีบแต่งตัวครับ.....ถ้าดื้อผมจะไม่ให้มานอนด้วยนะครับ” คุโรโกะยกเรื่องการนอนขึ้นมาขู่ทำให้ลูกชายของเขาว่าง่ายขึ้นในพริบตา

    “คุณแม่ใจร้าย” ชิโระทำแก้มป่องหลังแต่งตัวเสร็จแล้ว

    “รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวจะคนอื่นจะรอนาน” คุโรโกะนำออกไปทันที

     

    บ้านอาโอมิเนะ

    “ไดกิ ตื่นได้แล้ว ต้องรีบทานข้าวเช้าแล้วไปสมทบกับฟุริฮาตะไม่ใช่รึไง” คางามิ ไทกะตะโกนปลุกคนตัวดำที่ยังไม่ตื่นซะที

    “พ่อไดกิยังไม่ตื่นอีกเหรอฮะ แด๊ดดี้ ผมอยากไปเล่นบาสแล้วอ่า” อาโอมิเนะ โยชิสึนะ ลูกชายของคางามิ ไทกะ กับ อาโอมิเนะ ไดกิ เป็นสปอร์ทบอย ที่ตัวสูงกว่าเด็กวัยเดียวกัน ผมสีแดงดำดวงตาสีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและซุกซนดูมีเสน่ห์กระชากใจแถมชอบแต่งตัวเซอร์ๆยิ่งเข้ากับหน้าตาที่ลอกแบบมาจากทั้งอาโอมิเนะและคางามิ

    “ยังไม่ตื่นเลยลูกออกไปก่อนเลยก็ได้นะ เดี๋ยวแดดดี้จะตามไป” คางามิบอกก่อนจะไปพยายามปลุกอาโอมิเนะต่อ

    “งั้นผมไปนะคร้าบบบบบ” โยชิสึนะวิ่งออกบ้านไปพร้อมกระโดดตัวลอย

    “กลับญี่ปุ่นมาทั้งทีต้องเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปสนามบาสสิ” โยชิสึนะยิ้มก่อนจะเปิดGPSในโทรศัพท์มือถือก่อนจะเดินตรงไปทางสถานที่ท่องเที่ยวทันที(นิสัยแม่มโฮ่จริงๆ)

     

    บ้าน นิจิมูระ

    “พ่อ มาซ้อมคาราเต้กัน” นิจิมูระ ไอซาวะร้องบอกผู้เป็นบิดาของตนที่เพิ่มออกมาจากห้องน้ำซึ่งก็ทำให้นิจิมูระ ชูโซ ยิ้มบางๆออกมาก่อนจะยกมือขึ้นขยี้หัวลุกชายของตัวเองจนยุ่งไปหมด

    “วันนี้พ่อมีธุระต้องไปหารุ่นน้องของพ่อคงเป็นคู่ซ้อมให้ไม่ได้หรอกนะ ลองไปถามแม่ดูสิ” นิจิมูระบอก
    “ได้ข่าวแม่พึ่งได้นอนตอนตีสามไม่ใช่เหรอ..พ่อ” ไอซาวะมองพ่อของตัวเอง

    “แต่ว่าพ่อต้องไปจริงๆนะ คงเป็นคู่ซ้อมให้ลูกวันนี้ไม่ได้หรอก” นิจิมูระพยายามบอกลูกชายของตัวเอง

    “......ชั่งมันสิ ซ้อมกับผมก่อนก็ได้นี่ พ่อ” ไอซาวะมองด้วยท่าทางหงุดหงิดเหมือนจะไม่ชอบที่โดนขัดใจ

    “เอางี้ ไปกับพ่อแล้วกันถือว่าพาลูกมาเปิดหูเปิดตา ไปอยู่อเมริกากับพ่อกับแม่ตั้ง 10 กว่าปีนี่”  นิจิมูระบอกพร้อมแต่งตัวเป็นชุดไปรเวท

    “เอางั้นก็ได้ ที่ไปนี่ไม่ใช่เพราะพ่อบอกให้ไปนะบอกไว้ก่อนเลย” ไอซาวะมองพ่อของตนก่อนจะไปแต่งตัวเป็นชุดไปรเวทผมของเขาเป็นสีเทาเหมือนกับแม่แต่มีดวงตาสีนิฬคมกริบเหมือนผู้เป็นพ่อจึงดูเหมือนหัวหน้ามาเฟียพาลูกน้องออกไปเลยมากกว่า

    “.....ฮึ.....” นิจิมูระ ชูโซยิ้มอ่อนใจกับนิสัยปากไม่ตรงกับใจของลูกชายก่อนจะเดินนำออกไป  

     

    บ้านฮานามิยะ
    “วันนี้ก็ไม่มีอะไรให้ดูเลย...”ฮานามิยะนอนกลิ้งไปมาบนโซฟา

    “ไม่น่าเชื่อลุกไหวแล้วเหรอ” อิมะโยชิยิ้มหวานทำให้ได้รับหมอนจากฮานามิยะเป็นไปของกำนัลในยามเช้า

    “ไอ้โรคจิต” ฮานามิยะว่าไปเสร็จก็มองทีวีแล้วเปลี่ยนช่องไปมาต่อ

    “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อ” เสียงที่ดูสนุกสนานกับชีวิตก็ดังขึ้นมาทำให้ทั้งสองหยุดเถียงกันชั่วคราวหันมองไปทางบันไดที่มีเด็กหนุ่มผมดำตาดำดวงตาที่แฝงไปด้วยแววตาของความไม่ซื่อตรงเปี่ยมด้วยเล่ห์เหลี่ยมหลังแว่นตาที่ทำให้ดูน่ากลัวขึ้นไปอีกประกอบกับรอยยิ้มมุมปากที่ดูน่ากลัวชื่อของเด็กหนุ่มคือ ฮานามิยะ(ใช้นามสกุลแม่) ยามิ

    “อ้าวไง...ตื่นเช้าดีนี่” อิมะโยชิทักลุกชายของตัวเองด้วยรอยยิ้มที่ไม่ต่างกัน

    “เฟอร์เรโร่ของผมหายไปไหนครับ คุณแม่...” ยามิถามขึ้นหลังเปิดประตูเขาก็พบว่าช็อกโกแล็ตของโปรดของเขาน่าจะถูกคุณแม่สุดที่รักเอาไปกินแหงๆ

    “วางไว้ตรงที่มันเห็นง่ายเองโดนแย่งกินก็สมควร” ฮานามิยะยิ้มเกรียนให้กับลุกชายของตนเอง

    “....ฮึ...อย่าให้ถึงตาผมบ้างแล้วกัน” ยามิยิ้มเย็นๆหากมองแล้วดูคล้ายๆกับรอยยิ้มของอิมะโยชิ

    “เอ่อ...เย็นนี้แกว่างรึเปล่า” ฮานามิยะถามออกมา

    “ก็ว่างทำไมเหรอ ครับ” ยามิเลิกคิ้วขึ้นเพราะเหมือนจะสงสัยที่จู่ๆแม่ของตนเปลี่ยนเรื่อง

    “เย็นนี้ที่โรงแรมกลางเมืองจะมีงานเลี้ยงเปิดตัวทายาทคนใหม่ของตระกูลอาคาชิ ชั้นอยากให้เธอไปกับชั้น” ฮานามิยะตอนนี้รับตำแหน่งประธานบริษัทที่เป็นหุ่นส่วนในโรงแรมนั้นด้วยจึงไม่แปลกที่เขาจะไปร่วม

    “ทายาทของอาคาชิ.....เอางั้นก็ได้ครับ ไว้เจอกันที่งานครับ” ยามิแสยะยิ้มก่อนจะก้าวออกจากบ้านไป

    “เขาเหมือนนายมากเลยนะ” สองสามีภรรยาพูดออกมาพร้อมกับก่อนจะหลุดยิ้มให้กันโดยไม่รู้ตัว

    บ้างมิโดริมะ
    “ชินจางงงงง เค้าอยากไปเล่นบาสด้วยอ่า” ทาคาโอะส่งเสียงอ้อนทำเอามิโดริมะได้แต่ดันกรอบแว่นแล้วทำใจแข็ง

    “ไม่ได้(นาโนะดาโยะ )” มิโดริมะบอก

    “ผมเองก็อยากไปเล่นนะครับ ป๊ะป๋า” มิโดริมะ มิไร ลูกชายของมิโดริมะส่งเสียงอ้อนพร้อมกอดผู้เป็นพ่อไว้ทำเอาคุณพ่อสุดซึนใจอ่อนยวบ

    “...อึก......ไม่ได้..(นาโนะดาโยะ)” มิโดริมะบอกด้วยเสียงที่อ่อนลงไปกว่าครึ่ง

    “น๊า ชินจังนะสัญญาจะไม่ดื้อไม่ซนปั่นซาเล้งไปส่งให้เลยน๊า” ทาคาโอะเข้าไปกอดมิโดริมะด้วยอีกคน

    “หะ....เห็นแก่ที่นายจะขับรถซาเล้งไปส่งให้นะทาคาโอะ...ชั้นถึงยอมให้นายไปส่วนมิไร...จะไปก็ตามสบายแต่ไม่ส่งนะ” มิโดริมะบอกด้วยท่าทางแสร้งทำเป็นเย็นชาตามประสาคนซึน

    “ คร้าบๆ ผมจะระวังตัวครับ งั้นผมไปก่อนเลยนะครับ”  มิโดริมะ มิไร เป็นเด็กหนุ่มผมดำที่ได้จากผู้เป็นแม่และไว้ทรงเดียวกันอีกด้วยดวงตาสีมรกตที่ได้มาจากพ่อแต่ก็ยังคงความสามารถในการมองไปทั่วสนามบาสได้เหมือนแม่ร่างกายบอบบางหากเทียบกับเพื่อนวัยเดียวกันวิ่งออกจากบ้านไปท่ามกลางรอยยิ้มล้อๆของผู้เป็นภรรยาที่ส่งให้สามี

    “ฮะๆ มิไรเขารู้อยู่แล้วว่าชินจางซึนน่ะ” ทาคาโอะหัวเราะออกมา

    “ไม่ได้ซึนนะ(นาโนะดาโยะ)” มิโดริมะร้องออกมา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×