ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Do you remember me ? จำข้าได้มั้ยคนที่เจ้ารักที่สุดไง

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 การประชุมครั้งใหญ่ของสวรรค์และนรก

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 56


     

    ในกลางดึกคืนนั้นได้ปรากฏแสงสว่างนับร้อยดวง พุ่งขึ้นไปบนฟ้าและมุ่งสู่สถานที่อันเป็นวิหารสีทองงดงาม
    “มากันครบแล้วเตรียมเปิดการประชุมได้...” เสียงของทูตสวรรค์ที่ถือหอกกางเขนสีทองกล่าวขึ้นนิ่งๆ
    “หัวข้ออยู่ที่การตามหาร่างที่มาเกิดใหม่ของเทวดาแห่งความหวัง โฮป....เจ้าฟ้าชายวาสซาโก....และกำจัดปิศาจซิมิเนียร์..” ทูตสวรรค์ผู้ถือหอกกล่าวออกมา
    “แต่ว่าตอนนี้ก็ได้ข่าวว่า เจ้าชายแห่งนรก เลเธ ได้ออกมาจากนรกแล้วนี่นา เรื่องมันจะยากขึ้นสินะ” ทูตสวรรค์อีกองค์ออกความเห็น
    “นั่นสินะ ตอนนี้เราต้องรีบพาเทวดาแห่งความหวังกลับมาให้เร็วที่สุด ขอให้นำกำลังทูตสรรค์ลงไปตามหาให้มากที่สุด เลยแล้วกัน กาเบรียล เจ้าช่วยลงไปกับพวกเขาด้วยนะ” ทูตสวรรค์ผู้ถือหอกทองกล่าวกับทูตสวรรค์ผู้ถือสาสน์ทองไว้ในมือซึ่งก็ได้คำตอบเป็นรอยยิ้มกลับมา
    “รับทราบ มิคาเอลก็ดูแลทางนี้ดีๆแล้วกัน” กาเบรียลกล่าวสั้นๆพร้อมกับหายออกไปพร้อมทูตสวรรค์จำนวนหนึ่ง
    “จงระวังอย่าให้ใครปล่อยซิมิเนียร์ออกมาจากภาชนะที่สะกดของมนุษย์ที่ชื่อโซโลมอนเด็ดขาด...ให้รีบทำลายภาชนะไปพร้อมกับวิญญาณของซิมิเนียร์ซะ” มิคาเอลเตือนผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบินออกไปเช่นกัน

    ในวังนรกชั้นในอันเป็นที่อยู่ของเจ้าชายแห่งนรกทั้ง  6ซึ่งตอนนี้เจ้าชายอีก 4 พระองค์ได้จัดประชุมลับขึ้นในห้องลับภายในห้องของเลเธ
    “จะเอายังไงต่อ อโลน เลเธแอบหนีออกไปแล้ว ถ้าสวรรค์รู้เรื่องนี้ล่ะก็คงแย่แน่ๆ”  เฟียร์ เจ้าชายลำดับที่ 2 ถามน้องชายของตนอย่างร้อนรน
    “อย่าว่าแต่สวรรค์เลย ถ้าสลีปรู้เข้าคงแย่ยิ่งกว่าแน่” ซอโรว์ออกความเห็นด้วยหน้านิ่งๆอันเป็นเอกลักษณ์ยิ่งทำให้คิ้วบนหน้าของเฟียร์ขมวดกันเป็นปมแน่นกว่าเดิมอีก
    “แหงแซะ คงจะร่ามนต์ให้คนหลับทั้งปราสาทแล้วแอบหนีไปแหงๆ.............”เฮทกล่าวยังไม่ทันจบก็รู้สึกง่วงแล้วสิ้นสติไปพร้อมกับพี่ๆทั้ง 3 ด้วย
    “พี่เลเธ...สลีปจะไปช่วยพี่เลเธเอง” ร่างของเด็กน้อยที่อายุประมาณ 9 ขวบก็เดินออกมาจากหลังประตูแล้ววิ่งออกไป

    หลังจากนั้นประมาณ 15 นาทีทุกคนในห้องก็ได้สติ
    “สลีป ไม่อยู่แล้ววววววว” เสียงร้องอย่างสติแตกของเฮทดังขึ้นหลังผ่พลังสัมผัสไปรอบๆแล้วไม่พบน้องชายของตน
    “ใจเย็นๆก่อนเฮท นายจะร้องปลุกท่านพ่อขึ้นมาฟังด้วยรึไง” คนที่มีสติยังคงเป็นซอโรว์ที่บอกด้วยหน้านิ่งๆอยู่
    “ปัญหาเราตอนนี้เพิ่มขึ้นอีกอย่างแล้วสิ....พอรู้มั้ยว่าพี่เลเธขึ้นไปหาอะไรบนโลกมนุษย์น่ะ” อโลนเริ่มเปิดประเด็น
    “น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเมื่อ 20 ปีก่อน เทวดาที่ตายไปตนนั้นและวาสซาโกคงมาเกิดใหม่แล้วเป็นแน่แท้” เฟียร์ตอบ
    “มีข่าวลือมากอีกว่าภาชนะของปิศาจซิมิเนียร์ ก็อยู่ที่โลกมนุษย์ด้วยเช่นกัน หากมีผู้เรียกออกมาได้วุ่นวายครั้งใหญ่อีกแน่” ซอโรว์กล่าวนิ่งๆแล้วเอามอก่ายหน้าผากของตัวเองอย่างเหนื่อยใจสุดๆ

    “แล้วจะเอาไงดีล่ะ ออกไปตามพี่เลเธกันทั้งหมดมั้ย” เฮทออกความเห็นซึ่งทำให้ที่ประชุมถึงกับเงียบไปชั่วครู่พร้อมกับการพยักหน้าของแต่ล่ะคน
    “พี่เฟียร์ รีบเปิดประตูเร็วก่อนที่ตาแก่จะตื่น” เฮทกล่าวแน่นอนว่าตาแก่ที่ว่าหมายถึงบิดาบังเกิดเกล้าของพวกเขาเอง
    “อืม.........” เจ้าชายแห่งความกลัวรับคำก่อนจะสะบัดแส้ในมือไปมาสองสามครั้งก็เกิดประตูมิติพร้อมแรงดูขุมหนึ่งดูดเจ้าชายทั้งหมดเข้าไปทันที
    “แว้กกกกกกกกกกกกก” เฮทร้องออกมาก่อนประตูมิติจะปิดลง


    กลับมาที่บ้านของอรุณ
    “วันนี้ไม่ไปโรงเรียนหรืออรุณ” เลเธถามทันทีที่เห็นอรุณเดินลงมาในชุดไปรเวทตอนนี้เขากำลังทำอาหารเช้าสำหรับอรุณอยู่
    “วันนี้วันเสาร์ โรงเรียนหยุดครับ “ อรุณตอบไปแล้วเดินลงมาหาที่โต๊ะกินข้าว
    “วันนี้พี่เลเธทำอะไรเป็นข้าวเช้าเหรอครับ...” อรุณถาม
    “สตูว์เนื้อน่ะ พอดียืมจักรยานของอรุณปั่นออกไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาดตั้งแต่เช้ามืดน่ะ” เลเธบอกขณะที่ใช้ตะบวยช้อนฟองออกจากสตูว์เนื้อ
    “ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ครับความจริงมีอาหารแช่แข็งอยู่ในตู้แล้วครับไม่ต้องลำบากพี่เลเธไปซื้อให้หรอกครับ” อรุณบอกอย่างเกรงใจซึ่งเลเธก็จัแจงยกมือขึ้นไปยีหัวเด็กหนุ่มเบาๆ
    “ข้าเต็มใจน่ะ แถมไม่ลำบากอะไรสำหรับข้าด้วย” เลเธบอกพลางคนสตูว์สักพักก็ยกหม้อลงพร้อมกับตักสตูว์ร้อนๆใส่ชามของอรุณ
    “ก็ผมเกรงใจนี่” อรุณหันไปอีกทางใบหน้านวลขึ้นสีระเรื่อพร้อมกับเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ของตนทันทีพร้อมกับที่เลเธยกชามวางให้กับอรุณแล้วเดินกลับไปตักส่วนของตัวเอง
    “แล้ววันนี้อรุณจะไปไหนรึเปล่า” เลเธถามขณะที่กำลังตักสตูว์เข้าปากของตัวเอง
    “ก็จะไปหาพี่ที่รู้จักน่ะครับ พี่เลเธจะไปด้วยกันมั้ยครับ” อรุณถามออกมาซึ่งเลเธก็พยักหน้านิ่งๆแทนคำตอบว่าไปด้วย
    “อิ่มแล้วคร้าบบบ” อรุณบอกออกมาพร้อมกับสตูว์ที่ถูกกินจนหมดหม้ซึ่งเลเธกินเพียง 1ใน4เท่านั้นส่วนที่เหลือลงไปอยู่ในกระเพาะของเด็กหนุ่มเรียบร้อยแล้ว
    “อรุณนี่เจริญอาหารดีนะ” เลเธกล่าวนิ่งๆตามนิสัยแล้วยกหม้อและชามไปล้าง
    “ก็สบายใจแล้วมันหิวนี่.......” อรุณบอกแล้วหันไปอีกทางอย่างเขินอายใบหน้าขึ้นสีกว่าเก่า
    “ฮึๆ “ เลเธหัวเราะเบาๆก่อนจะล้างของเสร็จก็วาดมือแล้วชุดก็กลายเป็นเสื้อเชิ้ตสีดำ กับกางเกงยีนส์สุดน้ำเงิน
    “ว้าว สุดยอดเลยครับพี่เลเธ” อรุณร้องออกมา
    “เรื่องเล็กน่ะ” เลเธบอกนิ่งๆก่อนจะเดินนำออกไปนอกบ้านแล้วเข็นจักรยานที่แม้จะดูเก่าแต่ก็ยังใช้งานได้ดี
    “ขึ้นมาสิ “ เลเธกล่าวพร้อมขึ้นจักรยานแล้วชี้ไปทางที่ซ้อนท้าย
    “คะ.....ครับ” อรุณรับคำเสียงตะกุกตะกักรู้สึกว่าใบหน้าของตนร้อนขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุพร้อมเดินไปนั่งซ้อนท้ายเลเธ
    “จับแน่นๆนะ” เลเธกล่าวนิ่งๆพร้อมกับที่จักรยานออกตัว
    “แต่พี่เลเธ มันจะลำบากรึเปล่าครับ หวา..” อรุณร้องออกมาเมื่อจู่ๆเลเธก็เร่งความเร็วขึ้นมาพร้อมปั่นไปเรื่อยๆจนถึงหน้าค่ายมวยโดยไม่แม้แต่จะหยุดหรือชะลอรถเลยแม้แต่ครั้งเดียว
    “เอาล่ะที่นี่สินะ” เลเธตอนนี้หยุดอยู่หน้าค่ายมวย “มณีวรรณ”โดยที่อรุณกอดเอวเลเธอยู่พอได้สติเด็กหนุ่มก็ผละออกจากเลเธทันทีพร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว
    “คะ....ครับ” อรุณยืนยันพร้อมกับหันหน้าไปอีทางแล้วเดินเข้าไปในค่ายมวยทันทีเพื่อไม่ให้เลเธเห็นใบหน้าของตน
    “นะ...นี่เราทะ..ทำอะไรลงไปเนี่ยชะ...ชั่งเถอะรีบไปหาพี่ไฟท์ดีกว่า” อรุณคิดก่อนจะเดินเข้าไปถึงภายในค่ายก็พบเด็กหนุ่มอายุประมาณ 17 ปี กำลังชกกระสอบทรายอย่างกระชับกระเชงและว่องไว
    “พี่ไฟท์” อรุณร้องเรียกเด็กหนุ่มคนนั้นซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นก็หันกลับมาทักทายตอบ

    “ไง อรุณ” เด็กหนุ่มนามไฟท์กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มพร้อมเลิกคิ้วเมื่อเห็นเลเธไฟท์เป็นเด็กหนุ่มที่มีผมดำและผิวขาวคล้ายผุ้หญิงแม้จะเป็นนักมวยก็ตาม
    “นี่พี่เลเธเป็นพี่ชายของผมเองครับพี่ไฟท์” อรุณบอกซึ่งไฟท์ก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะหันกลับไปชกกระสอบทรายต่อ
    “พลังวิญญาณ...ไม่ธรรมดาเลย......” เลเธพึมพำออกมาในวินาทีทีมองไฟท์แล้วขมวดคิ้ว
    “เอ๋?” อรุณที่ได้ยินก็เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหันไปมองเลเธด้วยความสงสัย
    “เพื่อนต่างวัยของเจ้าคนนี้....มีพลังวิญญาณพอๆกับนักบวชเลยหายากนะคนที่พลังวิญญาณมหาศาลตั้งแต่กำเนิดแบบนี้น่ะ” เจ้าชายแห่งการลืมเลือนตอบข้อสงสัยของอรุณด้วยใบหน้านิ่งเฉยแต่แววตาเต็มไปด้วยความสนใจ
    “งั้นเหรอครับ” อรุณยิ้มเจื่อนๆพร้อมคิดว่า
    ”เพื่อนๆเรานี่จะมีคนปกติบ้างมั้ยเนี่ย วายุก็มีพลังที่มองเห็นวิญญาณและร่างที่แท้จริงของปิศาจได้ พี่ไฟท์ก็มีพลังวิญญาณในระดับสูง” หลังคิดเสร็จอรุณก็วิ่งไปคุยอะไรสักอย่างกับไฟท์โดยมีเลเธนั่งรออยู่ห่างๆเหมือนจะไม่อยากไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของอรุณสักพักเด็กหนุ่มก็เดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง
    “ขอบคุณนะครับพี่แลเธที่มาเป็นเพื่อนผม” อรุณบอกพร้อมหันหน้าไปอีกทางแล้ววิ่งออกไปที่ๆจักรยานจอดอยู่ทันที
    “ฮึ.....” เลเธยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะเดินตามออกไปเงียบๆ
    “.....มันไม่น่าจะใช่แค่พี่น้องแล้วนะ....” ไฟท์ที่มองอยู่ห่างพึมพำออกมาก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องพักนักมวยเนื่องจากเขากำลังจมอยู่ในห้วงความคิดจึงเดินไปชนตู้ที่ใส่ถ้วยรางวัลเข้าอย่างจังจนมีถ้วยๆหนึ่งตกลงมา

    “หวา.....แย่ล่ะถ้าพ่อกลับมาเห็นโดนด่ายับแน่ๆ” ไฟท์ร้องออกมาพลางสำรวจตู้ว่าถ้วยไหนที่ตกลงมาแต่ปรากฏว่าถ้วยรางวัลในตู้ดันอยู่ครบจึงก้มลงมองถ้วยที่เหมือนจะตกลงมาจากบนตู้มากกว่าภายในตู้

    “ที่ค่ายเราเคยมีถ้วยแบบนี้ด้วยเหรอ?” ไฟท์พึมพำออกมาหลังมองถ้วยตรงหน้าชัดๆ ถ้วยนั้นเป็นถ้วยที่เหมือนจะทำจากเพชรสีดำและทองแน่นอนว่าค่ายที่มีความเป็นอยู่แบบพออยู่พออกินแบบค่ายของพ่อเขาไม่น่าจะมีของที่ดูก็รู้ว่าแพงแบบนี้อยู่

    “เอ......มันเหมือนเรืองแสงอยู่อ่อนๆรึเปล่าหว่า...” เขาเอามือขึ้นไปหยิบถ้วยนั้นขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าถ้วยใบนี้จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล


    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     กลับมาแล้ว หลังจากหายไปนานมากเนื่องจากเจอพายุงาน+ตัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×