คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความสงสัยของสาวๆ 2(จบ) (NL)
“....อรุณสวัสดิ์ทุกคน ” เสียงทักทายที่ร่าเริงของแอมเบอร์ดังขึ้นที่ใจกลางปราสาทที่เหล่าสาวๆคนอื่นมารวมตักันตั้งแต่เช้ามืดแล้ว
“....ZZZZZZ” คลอริก้าก็ยังคงเหงาหลับเช่นเดิม
“..อรุณสวัสดิ์.......” เวนทัสวิลทักทายด้วยท่าทางเหมือนจะนอนไม่พอเหมือนกับมาร์กาเร็ตที่ยืนอยู่ข้างๆ
“....เลออนมารับคีลด้วย....” ฟอร์เต้พึมพำด้วยสายตาว่างเปล่าสุดจะบรรยาย
“เอาล่ะตอนนี้ทุกคนทานข้าวเช้ากันก่อนเถอะค่ะ” เฟรย์เดินเข้ามาพร้อมอาหารเช้าตามความชอบของแต่ละคน
“เย้ อาหารจีนสุดยอดดดดด” เสี่ยวป๋ายร้องก่อนจะพุ่งไปทางอาหารจีนฝีมือเฟรย์ทันที
“ไม่มีองุ่น” คลอริก้าตื่นขึ้นมาแล้วยิ้มออกมาทันทีที่ไม่เห็นองุ่นในจานผลไม้
“แพนเค้ก....” เวนทัสวิลเปลี่ยนร่างเป็นเด็กสาวแล้วตรงเข้าจานแพนเค้กฝีมือเฟรย์ทันที
“ว่าแต่เวนตี้ทำไมท่าทางเหมือนนอนไม่พอเลยล่ะ” เฟรย์ถาม
“...หา...ถามได้ก็ซ้ายขวาข้าดันมีแต่พวกทำเสียงดังพอเลสต์เงียบวิชนาลดัง พอวิชนาลเงียบเลสต์ก็ดังอีกใครมันจะไปหลับได้ล่ะ” เวนทัสวิลบ่นออกมา
“....ดีที่เรายังได้นอนอยู่ตอนเลสต์เงียบ” เฟรย์คิดพร้อมยิ้มแห้งๆให้
“แล้วมาร์กาเร็ตล่ะ? ทำไมถึงนอนไม่พอล่ะ” เสี่ยวป๋ายถาม
“เอ่อ...ก็...เพราะหูดีเกินไปทำให้ได้ยินเสียงพวกผู้ชายจัดของจนนอนไม่หลับเลยน่ะ....” มาร์กาเร็ตบอก
“แย่จังเลยนะ เอาเถอะกินข้าวเช้ากับน้ำผลไม้จะได้สดชื่น” เฟรย์บอกพร้อมยิ้มเป็นสัญญาณให้เหล่าสาวๆ(และไม่สาว)ลงมือจัดการอาหารทันทีพร้อมกับที่เครื่องฉายก็ฉายภาพสองจอซึ่งจอแรกเป็นภาพภายในเกวียนของเลสต์ส่วนอีกภาพเป็นเกวียนของเลออน
เกวียนของเลสต์
“นี่เป็นการไปแคมป์ครั้งแรกหลังเสียความทรงจำใช่มั้ย เลสต์คุง” อาร์เธอร์ถามพร้อมรอยยิ้มใจดีในมือยังคงนั่งแปลงานเอกสารอยู่
“กะ..ก็ครับ...ว่าแต่คุณอาร์เธอร์ผมว่าพักงานก่อนดีกว่านะครับ มาเที่ยว(ทำภารกิจ)ทั้งที”เลสต์บอกเพราะดูจากท่าทางอีกฝ่ายเดาได้เลยว่าคงจะทำงานตลอดคืนแน่ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกงานนิดเดียวเอง” อาร์เธอร์บอกพร้อมยิ้ม
“แต่อย่างน้อยก็ควรจะพักบ้างนะครับ..แม้จะงานนิดเดียวก็เถอะ” เลสต์บอกพร้อมมองอาร์เธอร์ด้วยท่าทางเหมือนลูกหมาหิวนม
“อะ...เอ่อ...ก็ได้เลิกทำท่าทางแบบนั้นเถอะนะ..” อาร์เธอร์รีบเก็บงานทันทีที่เห็นท่าทางของเลสต์
“....แพ้ไอ้ท่าทางลูกหมาหิวนมแบบนี้ตลอดเลยเรา” อาร์เธอร์คิด
“ขอบคุณครับ....ที่ผมทำเพราะเป็นห่วงอาเธอร์ซังนะครับ” เลสต์บอกพร้อมยิ้มกว้าง
“พรวดดดดดดดด” มาร์กาเร็ต เวนทัสวิลสำลักน้ำผลไม้ที่ดื่มไปเมื่อครู่ทันทีเพราะภาพและบทสนทนามันส่อไปทางสีม่วงซะขนาดนั้นส่วนดอลเช่นั่งช็อคค้างในท่ากัดแอปเปิ้ล
“ดอลลี่สติหลุดไปแล้วววววววว” พิโก้ร้องออกมา
“......บทสนทนาขงสองคนนั้นก็แค่ดูเป็นห่วงกันธรรมดานี่?” แอมเบอร์ที่ใสซื่อสุดเอียงคออย่างสงสัย
“....ไม่มีทางแม้แต่ชั้นไปบอกอาร์เธอร์ยังไม่ยอมหยุดทำงานเลยนะแต่เลสต์พูดแค่สองประโยคถึงกับยอมหยุดในทันทีเนี่ยมันคืออะไร” มาร์กาเร็ตบอก
“....แต่เรายังสรุปไม่ได้....” เวนทัสวิลบอกแต่ท่าทางของเธอเหมือนจะใกล้สติแตกเต็มทีแล้ว
“.....นั่นสิ.....อาจจะยังไม่ใช่ก็ได้......” ดอลเช่พึมพำแม้จะยังช็อคๆอยู่ก็ตามที
“.เอาเถอะลองไปดูฝั่งเลออนบ้างดีกว่า” ฟอร์เต้เสนอขึ้นมาทำให้ทุกคนกลับไปจัดการอาหารและมองภาพอีกจอแทน
เกวียนของเลออน(ดีลาสขับ)
“เลออนซังอ่านให้ฟังหน่อยสิครับ” คีลยื่นหนังสือที่เขียนด้วยภาษาเก่าให้กับเลออนวึ่งชายหนุ่ม(?)ก็รับมาแล้วเริร่มเปิดอ่าน
“การใช้เวทย์นั้นต้องใช้พลังจากธรรมชาติต้องนอบน้อมต่อธรรมชาติเพื่อที่จะได้ยืมพลังมาใช้ได้โดยสะดวกและปราศจากอันตราย วรรคแรกแปลได้แบบนี้” เลออนบอก
“ว้าวเป็นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องเวทย์มนต์เหรอครับเนี่ย” คีลร้องออกมาท่าทางดูตื่นเต้นทำให้คนที่แปลขยับรอยยิ้มเอ็นดูก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กทันที
“เลออนซัง ลูบหัวผมทำไมครับ?” คีลมุ่ยหน้าออกมา
“ก็เพราะเจ้าน่ารักยังไงล่ะ” เลออนบอกพร้อมยิ้ม
“อะ....เอ่อ.....ปะ...เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะครับ” คีลหน้าขึ้นสีอ่อนๆแล้วพูดจาตะกุกตะกัก
“....เลออน...แก....” ฟอร์เต้ชักดาบออกมาก่อนจะเดินนำด้วยท่าทางเหมือนคุณเธอจะออกเดินทางไปเชือดเลออนจริงๆ
“ว้ายฟอร์เต้จังหยุดก่อน!!” เฟรย์รีบคว้าแขนอัศวินสาวไว้ก่อนคุณเธอจะด้ฆ่าคนจริงๆ
“นั่นสิๆอาจจะแค่พี่ชายกับน้องชายก็ได้อย่าคิดมากสิ” แอมเบอร์เกาะขาฟอร์เต้ไว้อีกแรง
“ปล่อยขั้น..ชั้นจะไปฆ่าเจ้านั่นก่อนมันจะล่อลวงน้องชายชั้น” ฟอร์เต้พูดออกมาพร้อมเดินไปข้างหน้าได้เพียงเล็กน้อยเพราะถูกทั้งเฟรย์และแอมเบอร์จับไว้
“ทุกคนมาช่วยกันหน่อยสิแค่ชั้นกับแอมเบอร์สู้แรงฟอร์เต้ไม่ไหวหรอกนะ” เฟรย์ร้องออกมา
“อะ..อื้อ....ฮึบ” เสี่ยวป๋ายโดดไปล็อคแขนอีกข้างของฟอร์เต้ไว้ทันที
“ฟอร์เต้ใจเย็นๆก่อน...ถ้าเจ้าจะทำข้าแนะนำให้หาหลักฐานที่มันชัดเจนกว่านี้นะ......ไม่งั้นเลออนคงจะแถสีข้างหนีจากความผิด(?)ได้ไม่ยาก” เวนทัสวิลเข้าไปบอกทำให้ฟอร์เต้สงบลงได้ในที่สุด
“..เอาล่ะไปดูทางดั๊กกับดีลาสกันต่อดีกว่า” เฟรย์บอกแล้วทุกคนก็หันกลับไปมองจออีกครั้ง
“ใกล้ถึงรึยังเจ้าหน้าม้า” หนุ่มน้อยผมแดงโผล่หน้าออกมาหาคนขับพร้อมกับวาจากวนประสาท
“....ยังถ้าฉลาดก็น่าจะรู้ว่าต้องใช้เวลานะไอ้คนแคระโง่...” ดีลาสหันมาว้ากใส่ทันที
“ว่าใครโง่นะ เจ้าหน้าม้า” ดั๊กออกมานั่งข้างๆแล้วมองด้วยสายตาเอาเรื่อง
“โง่เลยมองไม่ออกน่ะสิ” ดีลาสยิ้มเยาะ
“ว่าไงนะ!!!!” ดั๊กทำท่าจะเข้าไปเอาเรื่องอีกฝ่ายพอดีกับที่เกวียนกระเด้งพอดีทำให้เขาเสียหลักแล้วล้มลงบนตักของดีลาสพอทำให้ดีลาสก็ชะงักตัวแข็งทื่อ
“ทำบ้าอะไรของแกหา!!ไอ้คนแคระบ้า” ดีลาสถามท่าทางตกใจ
“ก็เกวียนกระเด้งทำให้เสียหลักนี่หว่าไม่ได้อยากจะหนุนตักแกนักหรอก” ดั๊กกำลังจะลุกขึ้นแต่ก็โดนแรงกระเด้งทำให้กลับลงไปหนุนตักคนตัวโตอีกรอบทันที
“แกนี่มัน...ช่วงนี้ทางไม่ค่อยดีทนอย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน....ไอ้คนแคระโง่” ดีลาสถอนหายใจแบบปลงๆแล้วขับเกวียนต่อไปตามทางที่ขรุขระพอสมควร
“......ยอมให้หนุนตักด้วย......” เฟรย์พึมพำด้วยท่าทางใกล้เคียงคนจิตหลุดเต็มทีแล้วเพราะการที่ดีลาสผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความขี้รำคาญและขี้หงุดหงิดจะให้คู่กัดอย่างดั๊กนอนหนุนตักนอกจากทั้งสองคนจะเป็น....
“บอกแล้วว่าสองคนนี้ใช่” เสียงของปอร์โค่ดังแทรกเข้ามาทำเอาทุกคนนอกจากเฟรย์หันขวับแทบไม่ทัน
“ปอร์โคลีน!!” ทุกคนยกเว้นเฟรย์ร้องออกมาพร้อมกัน
“สองคนนี้น่ะแค่ปากแข็งใส่กันแต่จริงๆรักกันนะไม่รู้เหรอ....ท่าทางหลายๆอย่างมันบอกชัดเจนเลยนะไม่ได้สังเกตสินะ....” ปอร์โคลีนเริ่มทำให้เหล่าสาวๆเริ่มไขว้เขว
“ไม่ๆๆๆๆๆๆ” เฟรย์ส่ายหน้ารัวๆเหมือนจะพยายามไล่ความคิดของตัวเองออกไปทันที
ตัดกลับมาทางหนุ่มๆที่มาถึงที่หมายแล้ว
“ว้าว....สวยจัง....” คีลกับเลสต์ร้องออกมาทันทีที่เห็นทิวทัศน์รบทะเลสาบ
“สวยจริงๆแหะ...” ดั๊กมองไปรอบๆโดยหลบตาดีลาสใบหน้าของหนุ่มน้อยขึ้นสีอ่อนๆ
“ให้ตาย..ดันไปนึกถึงตอนหนุนตักเฟรย์ซะได้...โว้ย.....” ดั๊กคิดในใจ
“.....นึกถึงตอนที่ยัยเด็กนั่นมาอ้อนขอหนุนตักจนได้......หัวใจเรามัน...โว้ย...” ดีลาสก็เป็นอีกคนที่หน้าแดงเพราะนึกไปถึงเรื่องราวในอดีตกับคนที่เขาชอบ
“ชั่งเหมาะการทำงาน....” อาร์เธอร์ยังพูดไม่ทันจบก็เจอสายตาจากเลสต์ คีล และดั๊กเข้าไปจนต้องรีบเปลี่ยนคำพูดอย่างไว
“เอ้ย เหมาะกับการพักผ่อนน่ะเมื่อกี้ผมพูดผิดไป” อาร์เธอร์เหงื่อตกกับความรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อกี้
“งั้นผมจะตั้งอุปกรณ์ทำอาหารเลยนะขอรับ ตอนนี้พวกท่านเลสต์รบกวนช่วยไปหาฟืนหน่อยนะครับ” วิชนาลบอก
“...อืม...เลออน ดั๊ก วิชนาลแล้วก็ผมไปหาฟืนดีกว่า ส่วนที่เหลือฝากเตรียมวัตถุดิบด้วยนะ” อาร์เธอร์บอกออกมาซึ่งคนทำอาหารไม่เป็นก็พยักหน้าออกมาพร้อมกับพ่อบ้านที่เดินนำออกไปอย่างเจ็บใจในฝีมือในการทำอาหารของตัวเอง
“ให้ตาย....มา 7 คนมีคนทำอาหารเป็นแค่สามคนเนี่ยนะ....” ดีลาสบ่นระหว่างชำแหละปลาที่เตรียมมาด้วยอยู่
“....ฮะๆ...แต่ก็สนุกดีไม่ใช่เหรอ ดีลาส” เลสต์บอกยิ้มๆในระหว่างที่กำลังปั้นข้าวปั้น
“นั่นสิครับ... น่าสนุกดีออก” คีลยิ้มร่าออกมาระหว่างกำลังล้างผักอย่างชำนาญ
“ฮึ..จะดีกว่านี้ถ้าแอมเบอร์มาด้วยได้น่ะนะ...” ดีลาสบอกออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีอ่อนๆ
“อืม.....เป็นห่วงดอลเช่กับฟอร์เต้จัง.....” คีลบอกด้วยท่าทางกังวลเล็กๆกับคนที่เขาชอบและพี่สาว
“อืม..นั่นสิ.....เวนตี้จะเหงารึเปล่านะ....” เลสต์พึมพำระหว่างปั้นข้าวปั้นเป็นอันที่ 5 แล้ว
แต่น่าเสียดายที่พวกสาวๆคุยกับปอร์โคลีนอยู่เลยไม่ได้ยินบทสนทนาที่แสดงถึงความคิดถึงของหนุ่มๆทั้งสามคนเลยแม้แต่น้อย
“....ไม่จริงระ..เรารีบตามไปดูพวกที่แยกไปทางป่าดีกว่า” เฟรย์ยังคงพยายามหนีความจริง(???)จากปากของปอร์โคลีน บอกออกมาทำให้ทุกคนหันกลับไปดูภาพของพวกดั๊กที่เข้าไปในป่า
“อืม......เห็ดนี่น่าสนใจ” เลออนย่อตัวลงเก็บเห็ดหลายชนิดมาด้วย
“เอ่อ..ท่านเลออนเรามาเก็บฟืนนะขอรับ” วิชนาลบอกในมือมีฟืนเต็มอ้อมแขน
“เอาน่าๆ เก็บไปด้วยก็ไม่เสียหายนี่” เลออนยิ้มก่อนจะเรียกหอกออกมา
“เฮ้ย เรียกหอกออกมาทำไมน่ะ เลออน!!” ดั๊กถามด้วยท่าทางแตกตื่น
“.....เราถูกล้อมแล้ว....” อาร์เธอร์กล่าวออกมาก่อนจะยกคทาของเขาขึ้นมาพร้อมกับที่มีเห็ดยักษ์เดินออกมารอบๆพวกเขา
“...วิชนาลถือฟืนไว้ให้มั่นเราจะเผ่นกันแล้ว” ดั๊กบอกพร้อมยิ้มเจื่อนๆแล้วชักดาบที่เหน็บไว้ออกมาทันที
“อะ..เอ๋!!!” วิชนาลดูเหมือนจะลนลานสติแตกก่อนใครเพื่อน
“.......ถ้าทำฟืนหล่นวิชนาลคุงต้องมาเก็บคนเดียวนะ....” อาร์เธอร์บอกหน้านิ่งๆพร้อมดันกรอบแว่นเหมือนมีออร่าทะมึนแผ่ออกมาจากชายหนุ่มด้วยทำเอาวิชนาลรีบเรียกสติกลับมาก่อนจะตายด้วยมือของอาร์เธอร์แทน
“ท่าทางว่าเราตีฝ่าแล้วแผ่นกลับน่าจะไวกว่าเพราะงั้น....ถอย!!” อาร์เธอร์กล่าวก่อนจะยิงกระสุนไฟสามลูกใส่เห็นยักษ์เบื้องจนพวกมันไหม้เกรียมไปทันที
“รับทราบ..”ดั๊กวิ่งน้ำหน้าไปตามด้วยวิชนาล อาร์เธอร์และเลออนเป็นคนสุดท้าย
“แย่ล่ะพวกเขาจะเป็นอะไรรึเปล่านะรีบออกไปช่วยกันเถอะ” เฟรย์บอกออกมา
“เดี๋ยวก่อนเฟรย์นี่มันเริ่มเย็นแล้ว...เดินทางตอนกลางคืนมันอันตราย” มาร์กาเร็ตร้องเตือน
“นั่นสิ รอเช้าแล้วค่อยไปหาดีกว่าสถานการณ์นี้พวกเขาน่าจะเอาอยู่นะ” เสี่ยวป๋ายบอก
“แหมพวกเขานี่เจาะจงเฉพาะเลออนรึเปล่าจ๊ะ” ได้โอกาสแซวเอล์ฟสาวไม่มีพลาดเลยจัดแจงแซวไปหนึ่งดอกทันที
“ปะ..เปล่านะ..ถะ..ถึงคุณเลออนจะพึ่งพาได้ก็เถอะ” เสี่ยวป๋ายหน้าแดงแล้วเริ่มลนลาน
“..แต่คุณมาร์กาเร็ตเถอะค่ะ ไม่เป็นห่วงอาร์เธอร์ซังเหรอคะ” คลอริก้ายิ้มถาม
“คะ..ใครจะไปห่วงตาคนบ้างานนั่นกันเล่า” มาร์กาเร็ตร้องออกมาพร้อมกับที่ใบหน้าขึ้นสีอ่อนๆ
“เฮ้ย ท่านเวนทัสวิล ใจเย็นๆ!!!” สาวๆทีเหลืออุทานออกมาหลังเห็นมังกรลมคืนร่างแล้วทำท่าจะบินออกไป
“เลสต์จะเป็นอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้ข้ารอไม่ได้หรอก” เวนทัสวิลบอกพร้อมทำท่าจะทยานออกไปทันที
“...คีล....อันตราย” ดอลเช่กล่าวหน้านิ่งๆพร้อมโดดไปบนหลังเวนทัสวิล
“ไม่นะดอลลี่ตั้งสติก่อนสิ!!” พิโก้ร้องบอก
และแล้วสาวๆก็กลับเข้าสู่ความวุ่นวายกันอีกรอบ
“วอเทอร์เรย์” อาร์เธอร์กล่าวออกมาก่อนจะเกิดลำแสงสร้างจากน้ำอัดเห็นหลายตัวกระเด็นออกไปส่วนเลออนคอยแทงหอกสะกัดไม่ให้พวกเห็ดเข้ามาทำร้ายอาร์เธอร์ได้
“ย้ากกกก” ดั๊กย่อตัวลงตัดร่างของเห็ดที่พุ่งเขาหาวิชนาลออกเป็นสองซีกทันที
“........” วิชนาลนี่เหมือนจะสติแตกจนพุดไม่ออกไปแล้ว
“รีบวิ่งสิวิชนาลถ้าฟืนหายดีลาสเอานายตายแน่” เลออนหันมาบอกทำให้คณะของทั้งสี่เดินทางต่อไปทันที
“พวกนั้นนี่ช้าจริงๆ” ดีลาสบ่น
“เอาน่าๆ พวกเขาอาจจะเจอพวกมอนเตอร์ระหว่างทางก็ได้นี่นา” เลสต์บอก
“จะเป็นอะไรรึเปล่านะ...” คีลมองไปในทิศทางที่พวกอาร์เธอร์หายไปด้วยท่าทางเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงนะคีล พวกเขาต้องไม่เป็นไรแน่ๆ” เลสต์บอกเพื่อให้คนขี้กังวลสบายใจขึ้น
“ใช่.....พวกเขาแข็งแกร่งไม่ต้องห่วงหรอก” ดีลาสบอก
“อืม...” คีลพยักหน้าแต่ก็ยังคงมองไปทางที่พวกอาร์เธอร์ออกไป
“แฮ่กๆ....กว่าจะ..สงบ...” เสี่ยวป๋ายนอนหอบหลังจากที่สถานการณ์สงบลงได้เสียที
“.....นั่น...สิ......” มาร์กาเร็ตก็นอนแผ่หลาไม่ต่างกันภายในห้องใจกลางตอนนี้สภาพเละตุ้มเป๊ะ เวนทัสวิลในร่างมังกรสลบอยู่กับดอลเช่โดยข้างๆมาฟอร์เต้กับคลอริก้าที่นั่งหมดแรงอยู่โดยมีแอมเบอร์กับเฟรย์คอยพัดให้อยู่
“....ไหวมั้ย...คลอริก้า” แอมเบอร์ถามด้วยท่าทางเป็นห่วง
“.....” เหมือนคนถูกถามจะเหงาหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไรมั้ยคะ ฟอร์เต้” เฟรย์ถาม
“...พอ..ไหว...ให้ตายสิ.....สองคนนั้น....แข็งแกร่งเป็นบ้า” ฟอร์เต้บ่น
“.....นั่นสิคะ.....” เฟรย์ยิ้มแห้งๆ
“แต่ยังไงก็ต้องไปดูพวกนั้น..พรุ่งนี้นะ...” ฟอร์เต้บอก
“เฮ้อ......นึกว่าจะไม่รอดแล้วซะอีก” ดั๊กบอกระหว่างเดินกลับมาที่แค้มป์
“นั่นสินะ เกือบไปแล้วนึกถึงตอนทีเรือบินถูกโจมตีตอนนั้นจริงๆ” อาร์เธอร์บอกพลางดันกรอบแว่นให้เข้าที่
“ตอนนั้นท่านดีลาสดูจะกังวลกว่าใครเลยนี่ขอรับ” วิชนาลบอกยิ้มๆระหว่างขนฟืนเต็มอ้อมแขน
“นั่นสินะตอนดั๊กโดนทำร้ายดีลาสก็มีปฏิกิริยามากกว่าคนอื่นเลยนี่นะ..” เลออนกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมมองไปคนตัวเตี้ยอย่างมีเลศนัย
“ก็แค่เพื่อนๆกัน แหละน่าตอนนี้เจ้านั่นมันชอบแอมเบอร์อยู่” ดั๊กบอกพร้อมหันมามองวิชนาลกับเลออนตาขวาง
“แย่จังนะแบบนี้ดั๊กของเราก็อดน่ะสิ” เลออนยังคงแซวไม่เลิก
“ชั้นชอบเฟรย์โว้ย ใครจะไปสนเจ้านั่นกันล่ะ” ดั๊กร้องออกมา
“ยอมรับออกมาจนได้สินะ...” เลออนยิ้ม
“อืม...เป็นอย่างที่ท่านเลออนว่าจริงๆ...” วิชนาลบอกยิ้มๆ
“มองจากการกระทำก็รู้แล้ว....” อาร์เธอร์ยิ้ม
“ยะ...อย่าบอกนะว่าพวกนายรู้0////////0” ดั๊กหน้าขึ้นสีจัดจ้านก่อนจะถามออกมา
“ในหมู่คนที่มานี่..........คนที่ไม่รู้คงจะมีแต่คีลกับเลสต์เท่านั้นแหละซื่อพอกันเลย...” เลออนบอกยิ้มๆ
“ขอรับดูท่าทางตอนอยู่ท่านเฟรย์ก็รู้แล้วล่ะขอรับ” วิชนาลตอบยิ้มๆ
“....ส่วนผมได้ยินมาจากมาร์กาเร็ตน่ะ...” อาร์เธอร์บอก
“...................” ดั๊กได้แต่เงียบแต่ใบหน้ายังคงแดงอยู่
“......อืม....แต่แผนการครั้งนี้น่าจะได้ผลนะ.....ไว้รอดูผลพรุ่งนี้ก็รู้” เลออนคิด
“.....นี่พวกนายไปเก็บฟืนกันที่ไหนหา!! กลับมาซะมืดเลยเนี่ย” ดีลาสว้ากเสียงดัง
“ต้องขออภัยจริงๆ พอดีเจอฝูงมอนเตอร์วิ่งไล่น่ะขอรับท่านดีลาส....” วิชนาลบอกพลังขนฟืนไปจุดไฟ
“งั้นเหรอ...งั้นก็ดีแล้วที่ไม่เป็นไร” ดีลาสบอกแล้วหันไปอีกทาง
“อาหารมาเสิร์ฟแล้วครับ” คีล เดินเข้ามาร่วมวงพร้อมถาดที่ใส่ข้าวปั้นมาเต็มถาด
“ว้าว ข้าวปั้น*-*” ดั๊กมองข้าวปั้นในถาดด้วยตาเป็นประกาย
“มีซาชิมิด้วยนะครับ” เลสต์บอกพร้อมยกจานซาชิมิออกมา
“ดีเลย......” เลออนยิ้มออกมา
“ไม่มีหัวผักกาดก็พอแล้วล่ะ” วิชนาลยิ้ม
“ส่วนของอาเธอร์ซังเป็นหัวผักกาดทรงเครื่องนะครับ” เลสต์บอกพลางยกจานอีกจานมาให้
“ขอบคุณครับเลสต์คุง” อาร์เธอร์ยิ้มออกมมาพร้อมเริ่มลงมือจัดการอาหารของตนเองอย่างเป็นสุข
“ไม่เป็นไรครับ” เลสต์ยิ้มแล้วกลับไปจัดการกับอาหารของตนเอง
“แต่ว่าเลออนซังมันจะได้ผลสินะครับแผนการของเลออนซังน่ะ” เลสต์กระซิบถาม
“แน่นอน.....รอดูพรุ่งนี้สิรับรองได้เลย” เลออนกระซิบตอบไปแล้วทั้ง 7 ก็ทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
“เอาล่ะปัญหาต่อไปคือเรื่องที่นอน....กระโจมมีสาม...แต่คนมี 7” ดั๊กบอกออกมา
“...แก้ไม่ยาก.....ก็ให้คนหนึ่งไปนอนเกวียนที่เหลือก็นอนสองคนต่อหนึ่งกระโจม....” เลออนบอก
“เลออนกับคีล ผมกับเลสต์คุงแล้วก็ดั๊กกับดีลาสแล้วกันนะ..เอาล่ะแยกย้าย” อาร์เธอร์บอกพร้อมกับที่ทุกคนพร้อมใจกันแยกย้ายทันทีทิ้งเพียงกระโจมหลังหนึ่งทำเอาคู่กัดมองหน้ากันแล้วกัดฟันสรรเสริญคนจัดที่พักในใจก่อนจะเดินหายเข้าไปในกระโจมเพื่อพักผ่อน
“...เป็นไปตามแผนตรงตามจินตนาการของสาวๆ...แบบนี้รับรอง.....พรุ่งนี้มีเฮแน่ๆ ฮึๆ” เลออนคิดระหว่างที่แปลหนังสือเอาไว้ให้คีลอ่านส่วนคีลนั้นพล็อยหลับไปได้สักพักแล้ว
“จะได้ชัดกันไปเลยว่าใครชอบใคร” เลออนพึมพำก่อนจะล้มตัวลงนอน
“อีกนิดเดียว เร็วเข้า เว็น...” ดอลเช่บอกตอนนี้เธอยืนอยู่บนหลังของมังกรลมซึ่งมังกรลมก็พยายามเร่งไม่ต่างกัน
“.............” เฟรย์ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆเพราะเหมือนสาวๆแต่ละคนจะพร้อมใจกันเร่งเดินทางทำให้คนที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงใดๆอย่างเธอได้แต่ถูกลากไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้
“ใช่ๆ ป่านนี้น้องชั้นจะโดนเจ้าบ้าเลออนทำอะไรบ้างก็ไม่รู้” ฟอร์เต้ชักดาบด้วยท่าทางเหมือนคุณเธอจะเตรียมพร้อมเชือดเลออนจริงๆ
“..... ...อาร์เธอร์.......” มาร์กาเร็ตตอนนี้ก็พึมพำชื่ออาร์เธอร์เป็นครั้งที่ 50 แล้ว
“....พวกแมลงในป่าบอกว่าพวกเขาไม่เป็นไร...แต่ที่น่าเป็นห่วงคือทางความสัมพันธ์มากกว่า......หวังว่ามันคงไม่ใช่แบบที่ทุกคนคิดนะ” แอมเบอร์บอกนิ่งๆ
“.........................” เสี่ยวป๋ายก็เหมือนจะเงียบมาตั้งแต่ก่อนออกมาแล้ว
“ZZZZZZZZZZ” คลอริก้าก็เหงาหลับตามนิสัย
“ถึงแล้ว” เวนทัสวิลว่าพร้อมลงจอดใกล้ๆแคมป์พร้อมกับเหล่าสาวๆก็แยกกันไปตามกระโจมที่ได้รับข่าวมาจากแมลงของแอมเบอร์
“.....เปิดเข้าไปดูเลยดีมั้ย....” ดอลเช่หันมาถามฟอร์เต้
“....อืม.....เธอเปิดเลย..” ฟอร์เต้บอกเหมือนเจ้าหล่อนจะไม่กล้าเปิดเข้าไปดูภายในกระโจม
“......รออะไรอยู่เปิดเข้าไปดูเล้ย” พิโก้วิ่งเข้ามาเปิดเข้าไปทันทีซึ่งภาพที่ทั้งสามเห็นทำเอาทั้งสามยืนอ้าปากค้างอยู่หน้ากระโจมเลย
“งืมๆ....” ร่างบางของคีลซุกเข้าหาร่างสูงของเลออนซึ่งเลออนก็โอบร่างเล็กของคนที่ซุกตัวเองไว้อย่างอ่อนโยนได้อย่างชวดเข้าใจผิดสุดๆ
“หืม.......พวกเธอ...มาทำอะไรแต่เช้าล่ะหืม...” เลออนตื่นขึ้นมาพร้อมประคองร่างบางในอ้อมแขนแล้วยิ้มให้สองสาว
“.......อีตาบ้าาาาา” ฟอร์เต้ชักดาบเข้าฟาดใส่เลออนทันที
“ทำอะไรของเธอน่ะหืม?” เลออนที่ยกหแกที่วางไว้ข้างๆขึ้นรับก็วางคีลลงอย่างอ่อนโยนแล้วกระโดดออกไปข้างนอกกระโจมซึ่งฟอร์เต้ก็ตามออกไปทันที
“งืมๆ.....อ้าว...ดอลเช่ อรุณสวัสดิ์” คีลลืมตาก่อนจะลุกขึ้นมามองด้วยท่าทางงัวเงีย
“คีล.......ชอบ...เลออน....จริงๆ.....เหรอ.....” ดอลเช่ถามด้วยท่าทางใกล้จะสติหลุดเต็มทีส่วนพิโก้นอนจมกองกำเดา(?!)ไปตั้งแต่เห็นภาพภายในกระโจมแล้ว
“เอ๋....ชอบเลออนหรือเปล่าเหรอก็ชอบนะ.....ทำไมเหรอ” คีลเอียงคอถามอย่างซื่อๆ
“....งั้น...กลับละ....” ดอลเช่เดินกลับไปด้วยท่าทางเหมือนคนไร้วิญญาณ
“..อ้าว ดอลเช่เดี๋ยวก่อนจะไปไหนล่ะอยู่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิ” คีลคว้าแขนของหญิงสาวไว้แล้วยิ้มเหมือนปกติ
“....นายกินกับเลออนเถอะ.....ชั้นอยากอยู่คนเดียว.....” ดอลเช่บอกเสียงสั่นๆเหมือนจะร้องไห้
“อะ...เป็นอะไรไปดอลเช่.....ร้องไห้ทำไม” คีลมองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความตกใจ
“....ชั้น..........รักนาย....แต่ถ้านายชอบเลออน...ชั้นจะไปเอง....” ดอลเช่บอกทั้งน้ำตาทำท่าจะวิ่งออกไป
“...0/////////0......” ใบหน้าหวานของคีลขึ้นสีจัดก่อนจะดึงร่างของหญิงสาวมากอดแล้วบอกเสียงสั่นๆ
“...ผะ.....ผม.....กะ....ก็.....ระ...รัก.....ดอลเช่นะ” คำพูดนั้นทำเอาหญิงสาวเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจในคำพูดของชายหนุ่มร่างบางตรงหน้า
“นะ...นาย...ไม่ได้ชอบเลออนเหรอ?” ดอลเช่ถามใบหน้าของหญิงสาวขึ้นสีระเรื่อ
“....ผมชอบเลออนเหมือนพี่ชายคนหนึ่งต่างหากล่ะครับ....แต่คนที่ผมรัก...ก็คือเธอ....” คีลบอกพร้อมก้มหน้าเพื่อปิดบังใบหน้าที่ตอนนี้แดงพอๆกับมะเขือเทศแล้ว
“...แล้วทำไม...ไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ...” ดอลเช่ขมวดคิ้วถาม
“กะ...ก็...พี่เลออนบอกว่าหากต้องการจะพิสูจน์ว่าเธอรักชั้นรึเปล่าให้มากับภารกิจเที่ยวนี้น่ะ....” คีลบอก
“.....เลออนสินะ....” ดอลเช่พึมพำด้วยท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าคนเต็มแก่
“อีต้าบ้าๆๆๆๆ” ฟอร์เต้ยังคงฟาดดาบใส่เลออนด้วยความเร็วที่มากขึ้นเรื่อยๆ
“.....เป็นอะไรของเธอหืม....” เลออนฟาดหอกปัดดาบของหญิงสาวออกพร้อมดึงหญิงสาวเข้ามากอด
“ปล่อยชั้นนะนายมัน....เลวที่สุด....ใช้ชั้นเป็นสะพานไปหาคีล...นายมัน....” ฟอร์เต้ร้องบอกน้ำตาคลอพร้อมทุบแผ่นอกแกร่งของอีกฝ่ายไปหลายที
“.....ท่าทาแบบนั้น...เธอชอบชั้นจริงๆงั้นเหรอ” เลออนถาม
“...ก็จริงน่ะสิ.....อีตาบ้า.....” ฟอร์เต้ร้องออกมาก่อนจะทุบแรงขึ้น
“...อึก...........ในที่สุดก็ยอมรับสินะ.......” เลออนยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกอดร่างของหญิงสาวเอาไว้แน่น
“เอ๋....ยะ...อย่าบอกนะว่า.....” ฟอร์เต้เริ่มจับทางคนตรงหน้าได้ร้องออกมา
“นี่เป็นแผนการของผมเอง….เพื่อให้ผมรู้ว่าเธอชอบผมจริงมั้ย.....คนอื่นก็ด้วย....” เลออนยิ้มบอกทำเอาฟอร์เต้กัดฟันกรอดที่หลงกลชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ตรงหน้า
“เลสต์ไม่อยู่ในกระโจม...ทำไงดี....” เวนทัสวิลในร่างเด็กสาวหันมาถามมาร์กาเร็ต
“.....น่าจะเป็นที่ทะเลสาบ....อาร์เธอร์ก็ไม่อยู่.....” มาร์กาเร็ตกล่าวพร้อมวิ่งไปที่ทะเลสาบทันทีซึ่งพอเวนทัสวิลตามไปทันก็ชะงักกับภาพตรงหน้า
“ชาอร่อยมากเลยครับ อาเธอร์ซัง...” เลสต์ยิ้มกว้างพร้อมจิบชา
“ดีใจนะ...ที่เลสต์คุงชอบ......” อาร์เธอร์ยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวเลสต์เบาๆ
“...........................................................” เวนทัสวิลได้แต่ใบ้รับประทานพูดอะไรไม่ออกไปเลยทีเดียว
“........อาร์เธอร์.............” มาร์กาเร็ตช็อคสติหลุดไปเรียบร้อยแล้ว
“....ไม่นึกนะว่ามันจะได้ผลขนาดนี้” อาร์เธอร์ดันกรอบแว่นแล้วหันมาทางสาวๆเหมือนกับรู้อยู่แล้ว
“....นั่นสิ......เวนตี้ก็เอากับเค้าด้วย.....” เลสต์หันกลับมาแล้วยิ้ม
“นี่มันหมายความว่ายังไง!!!!” สองสาวร้องถามเสียงดังลั่น
“สรุปก็คือเป้ฯแผนของเลออนที่ใช้พิสูจน์ว่าพวกฉันรักพวกนายจริงๆรึเปล่าสินะ....” เฟรย์ยิ้มถามดั๊กหลังจากที่เธอกับแอมเบอร์ฟังดีลาสกับดั๊กทะเลาะกันจนรู้ว่าทริ๊ปนี้ไม่ชอบมาพากล
“อืม...เป็นแผนของเขาตั้งแต่แรกเริ่มที่ให้พวกเราเข้ามาอยู่ใกล้กันกว่าปกติจนพวกเธอสงสัยน่ะ” ดีลาสอธิบาย
“แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำตอบนะเฟรย์.....” ดั๊กหันไปอีกทางพร้อมกับใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ
“..........เดี๋ยวเรื่องของเราค่อยกลับมาคุยทีหลังนะ.....เดี๋ยวพวกชั้นขอเวลาสักครู่..” สิ้นคำเหล่าสาวๆก็พร้อมใจกันวิ่งออหกไปในทิศทางที่เลออนอยู่
“อย่าอยู่เลยเลออนนนนนนนนนนนนน” เสียงของสาวๆทั้ง 7 ดังลั่นท่ามกลางรอยยิ้มของหนุ่มๆที่เหลือ
ความคิดเห็น