ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคKNB

    ลำดับตอนที่ #2 : [MayuAka]Escape

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 57


    Escape

    ยามเช้าหลังผลการแข่งวินเทอร์คัพออกมาว่าทั้งเซย์รินและราคุซันเป็นแชมป์ร่วมกัน
    “หืม จดหมายนี่....” เรโอะหยิบขึ้นมาอ่านสักพักก็ถึงกับชะงักไป

    “เรโอะ เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงตกใจแบบนั้น” อาคาชิถามพลางเดินเข้ามาหา

    “คะ..คือว่าเซย์จัง..” เรโอะกล่าวขึ้นมาทำให้อาคาชิยิ่งสงสัยกว่าเก่า

    “มีอะไรเรโอะ รีบๆพูดมา” อาคาชิบอกเสียงเข้มพร้อมกรรไกรสีแดงถูกหยิบออกมา

    “จิฮิโระจังหนีไปแล้ว!!” เรโอะร้องออกมาสุดเสียงทำให้กรรไกรในมืออาคาชิหล่นกระทบพื้นเสียงดัง

    “จริงเหรอเรโอเน่นี่มันเรื่องมหญ่เลยนะ” โคทาโร่ร้องออกมา

    “ว่าไงนะ!!” อาคาชิเบิกตากลว้างขึ้นก่อนจะเดินไปฉวยจดหมายในมือเรโอะมาอ่านสักพักก่อนที่แววตาสองสีจะเปลี่ยนไปจนทำให้อุณหภูมิในโรงยิมลดต่ำลงมาทันที

    “ผมจะไปหาเขาเอง...” อาคาชิกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ

    “วะ...ว่าไงนะเซย์จัง...” เรโอะถามแมม้ตอนนี้จะเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ก็ตามแต่ว่าการซ้อมก็สำคัญกับราคุซันเหมือนกันแถมสำหรับคนที่ยึดบทบาทและหน้าที่ของตัวเองอย่างอาคาชิไม่น่าจะทิ้งการฝึกซ้อมไปง่ายๆแบบนี้

    “ผมจะไป...พาเขากลับมาเอง..ระหว่างนั้นถ้าใครอู้...ผมเอาตาย” สิ้นคำอาคาชิก็เดินออกไปทันที

    “อาคาชิเหมือนนางเอกที่ออกไปตามพระเอกกลับมาเลยล่ะ”โคทาโร่พูดออกมายังไม่ทันไรกรรไกรสีแดงก็บินกลับมาปักที่ผนังข้างๆทันที

    “ขอโทษครับ...มัน”หลุดมือ” “ อาคาชิร้องบอกมาก่อนจะขึ้นรถสีดำออกไป

     

    “คางามิคุงพอเลยครับ มีคนมานะครับ” คุโรโกะยกแขนขึ้นทุบแขนของคางามิที่ทำท่าจะฟัดเขาอีกรอบอย่างแรงเพื่อให้ปล่อยเขา

    “ชิ.....” คางามิเดาะลิ้นอย่างขัดใจก่อนจะยอมปล่อยคนตัวเล็กเป็นอิสระอย่างไมเต็มใจนัก

    “มาแล้วครับ” คุโรโกะออกไปเปิดประตูก็พบเด็กหนุ่มอายุห่างจากเขา 2 ปีผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้เล่นมายาเหมือนกับเขา

    “รุ่นพี่มายุสุมิ.....?” คุโรโกะมองใบหน้าของรุ่นพี่ต่างโรงเรียนด้วยความสงสัย

    “.......เงาของราคุซันมาทำอะไรที่นี่น่ะ” คางามิที่เดินตามออกมาถาม

    “รุ่นเก่า.......ไม่สิ...คุโรโกะ ฉันมีเรื่องจะขอร้อง” มายุสุมิกล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนรนผิดวิสัย

    “เรื่องอะไรเหรอครับ รุ่นพี่” คุโรโกะถามออกมา

    “นั่นสินายไม่ถูกกับคุโรโกะจะตายทำไมถึงมาขอความช่วยเหลือกับคุโรโกะล่ะ” คางามิถามด้วยเสียงห้วนๆ

    “คางามิคุงครับ เขาเป็นรุ่นพี่นะครับปฏิบัติปฏิบัติกับเขาดีๆหน่อยสิครับ” คุโรโกะปรามคนรักของตนไว้

    “ทำไมล่ะ ทีเขายังเคยปฏิบัติแย่ๆกับนายนะถึงนายจะไม่ว่าอะไรแต่ฉันก็เคืองนะ” คางามิบอกด้วยท่าทางหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

    ”ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือเรื่องนี้หรอก...ตอนนี้จะช่วยฉันหน่อยได้มั้ย” มายุสุมิถามด้วยหน้านิ่งๆแต่แววตาเต็มไปด้วยความร้อนรน

    “แล้วจะให้ผมช่วยอะไรเหรอครับรุ่นพี่มายุสุมิ” คุโรโกะถามออกไป

    “..........พอจะรู้ที่ๆฉันจะใช้หลบจากอาคาชิรึเปล่า...” มายุสุมิถามออกไป

    “ พอจะรู้ครับแต่ว่าต้องอาศัยการช่วยเหลือจากเพื่อนของผมครับ รุ่นพี่ชินกับการไปค้างบ้านคนอื่นนานๆมั้ยครับ” คุโรโกะถามขึ้นมา

    “อืม...ก็พอได้.....” มายุสุมิตอบ

    “งั้นรอสักครู่นะครับ...” คุโรโกะหายเข้าไปคุยโทรศัพท์ในห้องสักพักก็ออกมา

    “เรียบร้อยแล้วครับ เก็บของแล้วย้ายไปที่อยู่นี้เลยครับ รุ่นพี่รีบไปก่อนที่อาคาชิคุงจะรู้เถอะครับ” คุโรโกะบอก

    “อื้ม ฉันจะไปวันนี้เลยขอบคุณมากนะฉันจะหาทางตอบแทนทีหลังแล้วกัน” มายุสุมิรับที่อยู่แล้วจากไปอย่างเร่งร้อน

    “ที่อื่นก็มีตั้งเยอะทำไมถึงต้องให้เขาไปโอกินาว่าด้วยล่ะแถมไปอยู่บ้านของโองิวาระอีก” คางามิถามพลางนึกถึงเพื่อนสมัยเด็กของคุโรโกะผู้มีความเฟอะฟะในระดับที่หาตัวจับยาก(?)

    “ที่นั่นเป็นที่ๆอาคาชิคุงไม่น่าจะนึกถึงได้ง่ายนักอีกอย่างที่รุ่นพี่เขาถูกทำร้ายจิตใจมาผมคิดว่าให้ไปอยู่กับโองิวาระคุงน่ะดีที่สุดแล้วล่ะครับเพราะโองิวาระคุงเป็นคนที่อบอุ่นมากเลยล่ะครับ” คุโรโกะยิ้มออกมา

     

    “โอกินาว่าทำไมไกลชะมัดแต่เอาเถอะรีบเก็บของแล้วรีบไปดีกว่า” มายุสุมิคิดระหว่างเก็บของเขาก้ไปเห็นบางอย่างเข้า

    “.....อาคาชิ.....” มายุสุมิมองไปยังรุปตอนถ่ายรับรางวัลวินเทอร์คัพมองไปใบหน้าของคนที่ทำให้เขาต้องพยายามหนี...ใบหน้าของคนที่เขารักสุดหัวใจ

    “ฉัน......จะต้องไป....ไม่งั้นคนที่จะเจ็บจะเป็นทั้งฉันและนายอาคาชิ....ฉันยอมให้ตัวเองเจ็บคนเดียวเสียยังจะดีกว่า....ฉันน่ะ...เป็นเงาของคุโรโกะให้กับนายไม่ได้....” มายุสุมิพึมพำกับรูปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างเงียบงัน

    “.....แต่ฉันก็คงลืมนายไม่ได้....นายเป็นคนแรก.....ที่ยื่นมือเข้ามาหาฉัน.....นายเป็นคนที่เห็นคุณค่าของฉัน......แม้ว่านายจะมองฉันแบบไหน..แต่ว่า....เวลาที่ใช้ร่วมกันของฉันกับนาย.....ฉันจะจำไว้ตลอดไป.....” มายุสุมิพึมพำทั้งน้ำตาก่อนจะเก็บรูปใบนั้นไว้ในกระเป๋าสตางค์อย่างห่วงแหนก่อนจะเช็ดน้ำตา

    “ลาก่อนนะ....อาคาชิ....” มายุสุมิกล่าวออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกจากห้องทีว่างเปล่าของเขาไป

     

    “รีบไปผมต้องไปหาเขาให้เร็วที่สุด” อาคาชิบอกคนขับรถด้วยใบหน้าเรียบเฉย

    “จะไปที่ไหนเหรอขอรับนายน้อย” คนขับรถถาม

    “ไปที่คอนโดที่ใกล้ๆนี่รีบไปเร็วเข้า” อาคาชิออกคำสั่งพอรถจอดเขาก็รีบวิ่งลงมาแล้วเข้าไปถามพนักงานต้อนรับทันที

    “อ๋อ...มายุสุมิคุงเหรอย้ายออกไปชั่วคราวน่ะเขาบอกว่าจะให้คนอื่นเช่าไปก่อนก็ได้น่ะ” พนักงานบอกทำให้อาคาชิต้องกัดฟันกรอด

    “ขอบคุณครับ..” อาคาชิรีบออกมาแต่ก็มีคนๆหนึ่งคว้าแขนของเขาไว้ซะก่อน

    “นิจิมูระซัง......” อาคาชิหันกลับไปมองชายที่คว้ามือเขาไว้

    “...อาคาชิไม่ได้เจอกันนานเลยนะ..” นิจิมูระยิ้มหวานแต่ออร่าทมึนข้างหลังนั้นไม่ได้เข้ากันเลยแม้แต่น้อย

    “ชู อย่าทำแบบนั้นสิ” เสียงของฮิมูโระดังขึ้นพร้อมมือขาวปรากฏขึ้นมาตีแขนนิจิมูระไว้

    “นิจิมูระซังมาทำอะไรที่นี่ครับ” อาคาชิถามออกมา

    “มาทำไมน่ะเหรอ ก็มาให้คำแนะนำเด็กนิสัยเสียบางคนน่ะสิ” นิจิมูระดูท่าทางหงุดหงิดพอดูจนทำให้ฮิมูโระต้องคอยห้าม

    “คำแนะนำ จะพูดว่าสิ่งที่ผมทำมันผิดเหรอครับ” อาคาชิถามด้วยความไม่พอใจ

    “ก็ใช่น่ะสิ ไอ้บ้า...แกน่ะทำร้ายจิตใจเขาแบบสุดๆเลยรู้มั้ย...ฉันจะไม่ห้ามให้แกไปตามเขาแต่ว่าถ้านายคิดจะไปตามเขานายควรจะจะคำนึงว่านายตามเขาในฐานะไหนถ้าคิดจะไปตามในฐานะเงาของราคุซันฉันว่านายก้กลับราคุวันไปซ้อมแล้วหาคนใหม่ดีกว่าแต่ถ้านายจะไปเพื่อตามมายุสุมิ จิฮิโระแห่งราคุซันฉันก็เห็นควรไปล่ะอย่างนายคงจะไม่โง่ขนาดไม่เข้าใจที่ฉันพูดนะ” นิจิมูระจูงมือคนรักของตนจากไปทันทีทิ้งกัปตันแห่งราคุซันให้นั่งคิดอะไรหลายๆอย่างคนเดียว

     

    ด้านมายุสุมิที่ไปถึงโอกินาว่าในยามบ่ายของวัน

    “....ร้อน.....” มายุสุมิบ่นหลังเดินมานานจนมาถึงหน้าบ้านตามที่อยู่

    “...ทำไม..บ้านมีหลายหลังซ้อน...” มายุสุมิคิดพลางเซเซมาเพราะการตากแดดร้อนๆนานเกินไปส่งผลให้เด็กหนุ่มใกล้จะเป็นลมเต็มทีตอนนี้ขนาดกดออดหน้าบ้านอีกฝ่ายยังยากเลย

    “....อ๊ะ...พี่ชายคือคนที่คุโรโกะพูดถึงสินะ เชิญเลยครับผมยินดีต้อนรับ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลดวงตากลมโตเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความอาทร

    “นาย....โองิวาระ ชิเงะฮิโระสินะ...” มายุสุมิถามพลางเดินเซๆไปเข้าไป

    “ครับ ผมโองิวาระ ชิเงะฮิโระ ยินดีที่ได้รู้จัก” โองิวาระแนะนำตัวก่อนจะช่วยอีกคนถือของเข้ามาภายในบ้านของเขา

    “อืม...” มายุสุมิเดินไปแล้วก็ไปทรุดตัวนั่งบนโซฟาที่ห้องรับแขกทันทีด้วยความเพลียจากความร้อน

    “อ่า..งั้นรอเดี๋ยวนะครับ” โองิวาระหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมเกลือแร่ขวดหนึ่ง

    “อะ....ขอบคุณ” มายุสุมิรับมาก่อนจะกระดกดื่มทันที

    “ผมรู้เรื่องจากคุโรโกะแล้วนะครับ ยินดีต้อนรับนะครับ รุ่นพี่มายุสุมิ” โองิวาระยิ้มตาตาหยีท่าทางร่าเริงและเป็นมิตรของเขาทำให้มายุสุมิรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด

    “อือ....ว่าแต่ฉันนอนที่ไหน” มายุสุมิถามออกมา

    “ใช่ๆ ลืมบอกเสียสนิทเลยแหะๆ งั้นตามมาเลยครับ” โองิวาระนำมายุสุมิมาจนถึงห้องใกล้ๆกับห้องของตัวเองแล้วเปิดประตูให้

    “ผมทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วรุ่นพี่มายุสุมิก็จัดของตามสบายนะครับ” โองิวาระบอก

    “อืม.....” มายุสุมิรับกุญแจมาก่อนจะยกของเข้าไปจัด

    “เจ้าเด็กนี่ให้ความรู้สึกต่างจากฮายามะ.......แถมยังดูเฟอะฟะยังไงก้ไม่รู้” มายุสุมิคิดขณะจัดไลท์โนเวลเข้าตู้

    “แต่ทำไมเราถึงมีความสุขเวลาอยู่กับเจ้าเด็กนั่นนะ” มายุสุมิคิดพลางจัดของไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขากลับมานั่งบนเตียงอีกครั้งก็เป็นเวลาเย็นแล้ว

    “เราจะต้องไม่เป็นภาระเขามากเกินไป....” มายุสุมิคิดเปิดกระเป๋าสตางค์ก็พบกับรูปที่เขาเอาติดตัวมาด้วยพอเขามองไปที่รูปนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนถุกทำร้ายจิตใจอีกครั้ง

    “ทำไมนะ....ทั้งที่รู้ว่ายิ่งจำได้ยิ่งเจ็บแต่ทำไมเรายังจำได้อยู่นะ....ทำไม....เราถึงลืมไม่ได้.....ทั้งที่เขาก็แค่...หลอกใช้เรา....” มายุสุมิมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดใจน้ำตาที่กลั้นไว้เริ่มจะไหลออกมาพอดีกับที่มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

    “รุ่นพี่มายุสุมิคร้าบ จัดของเสร็จรึยังคร้าบบบ” โองิวาระส่งเสียงเรียกเขา

    “สะ...เสร็จแล้วมีอะไร...” เขาถามด้วยเสียงที่สั่นๆเพราะอารมณ์ที่ไม่คงที่ของเขา

    “คือ ผมจะมาชวนรุ่นพี่มายุสุมิออกไปกินอะไรด้วยกันน่ะครับ” โองิวาระบอก

    “เดี๋ยวตามไป” มายุสุมิบอกไปด้วยเสียงที่สั่นๆเหมือนเดิม

    “เอ่อ....รุ่นพี่มายุสุมิ ผมขอพูดอะไรสักหน่อยได้มั้ยครับ” โองิวาระถามออกมา

    “ว่ามา” มายุสุมิตอนนี้เช้ดน้ำตาของตัวเองออกไป

    “เป็นคำที่พ่อของผมเคยบอกผมไว้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครเห็นค่าในตัวเรา ขอแค่เราเห็นค่าในตัวเองก็พอ เพราะงั้นห้ามคิดว่ารุ่นพี่เป็นคนไร้ค่านะครับ อย่างน้อยผมเองก็ไม่คิดแบบนั้นนะครับ งั้นผมไปรอข้างหน้าบ้านนะครับ” โองิวาระบอกก่อนออกไป

    “.......เด็กบ้า........” มายุสุมิพึมพำเสียงเบาพร้อมยิ้มบางๆออกมา

    “....การมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนักสินะ” มายุสุมิคิดพร้อมเปลี่ยนชุดตามออกไป

     

     

    2 อาทิตย์ต่อมา

    “เซย์จัง...ไม่เจอเลยทำไงดีดูท่าจะไม่ได้อยู่ที่เกียวโตแล้วล่ะนะ” เรโอะวิ่งกลับมาหาอาคาชิที่โรงยิมพร้อมบอก

    “ทางนี้ก็ไม่เจอเลยหายไปไหนกันนะ จะติดต่อก็ไม่ยอมรับสายด้วยน่ะ” โคทาโร่บ่น

    “นั่นสิ อาคาชิ นายจะทำยังไงต่อล่ะ..” เนบุยะถาม

    “....ผมได้ข้อมูลอีกอย่างนึงมาเรโอะ โคทาโร่มากับฉันส่วนเนบุยะไปบอกโค้ชตามกระดาษนี้”  อาคาชิบอกเรียบๆก่อนจะโยนกระดาให้เนบุยะแล้วเดินนำออกไปทันที

    “รอด้วยสิอาคาชิ” โคทาโร่ตัดสินใจวิ่งตามไปทันที

    “เซยจังรอเดี๋ยว” เรโอะวิ่งตามไปอีกคน

    “เราจะโตเกียวกัน ไม่มีเวลาแล้วเราต้องรู้เบาะแสของเขาให้เร็วที่สุด” อาคาชิบอกพลางเดินไปแล้วซื้อตั๋วพร้อมขึ้นรถไฟชินคันเซ็นไปพร้อมกับเรโอะและโคทาโร่ทันที

    “เซย์จังเราจะจะไปไหนกัน...” เรโอะถามออกมาหลังตามขึ้นมาได้ทันแล้ว

    “โตเกียวห้องคางามิ ไทกะ พวกเขาน่าจะรู้ว่ารุ่นพี่มายุสุมิไปไหน” อาคาชิบอกเสียงเข้ม

    “เอ๋ เซย์จังรู้มาจากไหนล่ะ” เรโอะถามออกมาด้วยความสงสัย

    “เท็ตสึยะ” อาคาชิกกล่าวบอกเสียงเรียบ

     

    “นายคิดว่าอาคาชิจะมาถึงเมื่อไหร่” คางามิถามคนรักของตนที่อยู่ในสภาพสวมเสื้อของเขาตัวเดียวสภาพเหมือนพึ่งเสร็จเรื่องอย่างว่ามาหมาดๆ

    “น่าจะไม่นาน” คุโรโกะบอกเสียงเบาพลางเดินไปแต่งตัวให้เรียบร้อย

    “งั้นก็แปลว่ามายุสุมิสำคัญกับเขามากสินะ” คางามิถาม

    “คนเราเวลาเสียอะไรไปจะเริ่มรู้ค่าของสิ่งที่เสียไปครับ” คุโรโกะบอกเสียงเรียบๆ

    “งั้นเหรอ...” คางามิมองร่างบางตรงหน้ากด้วยท่าทางอยากดึงไปฟัดอีกรอบแต่ว่ามีเสียงดังแทรกเข้ามาวะก่อน

    “เขาอยู่ที่ไหน เท็ตสึยะ” อาคาชิที่ตอนนี้เหมือนจะโกรธจนสะกดคำว่ามารยาทไม่เป็นอีกต่อไปเลยพุ่งเข้ามาหาทั้งสองคนพร้อมกรรไกรสีแดงในมือ

    “....โอกินาว่าครับ..อาคาชิคุง...อาคาชิคุงรักเขาสินะครับ รักรุ่นพี่มายุสุมิ”  คุโรโกะถามนิ่งๆ

    “....เขาเป็นหมากของผม...ผมจะตามเขากลับมาผมถูกเสมอและไม่มีใครที่จะหนีจากผมไปได้!!!” อาคาชิตวาดกร้าวพร้อมเดินออกไป

     

    “พี่จิฮิโระ ครับฝากเรื่องงานบ้านด้วยนะครับผมขอไปเล่นบาสก่อน” โองิวาระวิ่งออกจากบ้านไปโดยมีมายุสุมิมาส่ง

    “เอาล่ะเริ่มจากการทำความสะอาด” มายุสุมิได้เรียนรู้อะไรมากมายจากงิวาระหลายๆอย่างรวมถึงวิธีการทำงานบ้านแบบละเอียดซึ่งเขาที่อยู่ว่างๆก็รับหน้าที่ในการดูแลบ้าน

    “วันนี้ข้าวเย็นจะทำเป็นอะไรดีที่จะทำให้เจ้าเด็กนั่นดีใจนะ” มายุสุมินั่งคิดพลางเดินไปหยิบกล่องยาลงมา

    “เจ้าเด็กซุ่มซ่ามนั่นคงเจ็บตัวกลับมาแหงๆ....เตรียมไว้ก่อนดีกว่า” มายุสุมิคิดพลางจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้เพื่อตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับโองิวาระดีขึ้นมาจนตอนนี้เขาก็รักโองิวาระเหมือนน้องชายคนหนึ่งแล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะนิสัยที่เข้ากับคนอื่นง่ายและสว่างไสวของโองิวาระรึเปล่าที่ทำให้เขาเปิดใจรับได้ภายในเวลาแค่เพียงสองอาทิตย์

    “....อยากเล่นบาสกับ.....อาคาชิ......อีกครั้ง......” มายุสุมิคิดพลางมองไปยังโองิวาระที่เล่นสตรีทบาสทำให้เขานึกถึงสมัยที่เขายังเล่นบาสกับอาคาชิอยู่อดีตที่ราคุซัน....

     

    นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เขาเหม่ออยู่แบบนี้รู้สึกตัวอีกทีโองิวาระก็มาสะกิดเขา

    “พี่จิฮิโระครับเหม่ออีกแล้วนะครับ ผมว่าเราออกไปเดินเล่นกันมั้ยครับ” โองิวาระถาม

    “อืม..ก็ดี.....” มายุสุมิตอบพร้อมลุกขึ้นมา

    “ไปชายทะเลกันครับ” โองิวาระฉุดมือของมายุสุมิออกไปที่ชายทะเลด้วยรอยยิ้ม

    “อื้ม...” มายุสุมิยิ้มบางๆออกมาเขายิ้มบ่อยขึ้นมากหลังมาอยู่กับโองิวาระ

    “....รุ่นพี่....มายุสุมิ......” อาคาชิที่เดินทางมาไกลก้พบกับภาพที่บาดลึกลงไปในใจของเขาเหมือนต้องการตอกย้ำเขาว่าเขาพลาดพลาดชนิดไม่อาจจะย้อนกลับได้อีก

    “นี่แน่ะๆ “ โองิวาระยกมือขึ้นสาดน้ำทะเลใส่มายุสุมิ

    “อะ....เดี๋ยวเถอะ” มายุสุมิสาดน้ำคืนใส่อีดกคนทันทีพร้อมขยับรอยยิ้มบางๆรอยยิ้มที่เขาไม่เคยได้รับรอยยิ้มที่มีความสุขจากใจของมายุสุมิ

    “....!!!!” มายุสุมิมองเห็นอาคาชิก็ทำหน้าตกใจสุดๆก่อนจะหันหลังและวิ่งจากไปทันที

    “รุ่นพี่” อาคาชิทำท่าจะวิ่งตามไปแต่ถูกโองิวาระขวางเอาไว้

    “ถอยไป โองิวาระ ชิเงะฮิโระ “ อาคาชิตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว

    “ไม่ ฉันไม่ยอมให้นายทำให้ใครต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ นายทำร้ายเขามาครั้งหนึ่งแล้วฉันจะไม่ให้นายทำร้ายเขาอีก” โองิวาระตวาดด้วยแววตาแน่วแน่

    “ได้งั้นผมจะกำจัดคุณ....โองิวาระ ชิเงะฮิโระ” อาคาชิหยิบกรรไกรสีแดงขึ้นมา

    “ลองทำดูสิ พี่จิฮิโระคงไม่มีวันให้อภัยนายแน่” โองิวาระบอกทำให้อาคาชิชะงักไป

    “ตอนนี้พี่จิฮิโระเป็นพี่ชายของฉัน ฉันจะไม่ยอมให้นายทำเขาเสียใจอีกเพราะงั้นกลับไปเถอะ”

     โองิวาระบอกเรียบๆแววตาที่เคยร่าเริงดูแข็งกร้าวเสียจนน่ากลัว

    “ไม่...ผม..ไม่มีวันปล่อยเขา.....” อาคาชิเริ่มเซไปมาเพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เขาทุ่มเทในการหาตัวมายุสุมิจนไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

    “เซย์จัง..อันตราย” เรโอะที่ตามมาทันก็รีบวิ่งไปรับไว้แต่ว่ากลับไม่เร็วเท่าโองิวาระที่พุ่งเข้ามารับตัวอาคาชิไว้ก่อน

    “เดี๋ยว..เรื่องของพี่จิฮิโระกับอาคาชิผมจะจัดการเองรุ่นพี่ไปรอที่โรงแรมเถอะ” โองิวาระบอกพลางแบกอาคาชิขึ้นบ่า

    “ดะ...เดี๋ยวจะให้ฉันเชื่อใจนายได้แน่เหรอ” เรโอะร้องถามด้วยความระแวงเพราะเมื่อกี้โองิวาระแสดงท่าทีเป็นศัตรูกับอาคาชิแบบโจ่งแจ้ง

    “เชื่อใจผม....ตอนนี้พี่จิฮิโระคงไม่อยากเจอพวกรุ่นพี่เหมือนกันแน่นอน” โองิวาระบอกก่อนจะวิ่งกลับไปที่บ้านพร้อมอาคาชิ

     

    ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบดวงตาสองสีก็ลืมขึ้นอีกครั้ง

    “ที่นี่...” อาคาชิมองไปรอบๆก็พบกับโองิวาระที่กำลังนั่งทานของว่างอย่างเอร็ดอร่อย

    “อ้าว ตื่นแล้วเหรอ นายหลับไปตั้ง 2 ชั่วโมงแน่ะ” โองิวาระบอก

    “ที่นี่ที่ไหน โองิวาระ ชิเงะฮิโระ” อาคาชิถามออกมาด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรเลย

    “บ้านฉันแล้วก้เป็นบ้านของพี่จิฮิโระในตอนนี้ด้วย” โองิวาระบอกเรียบๆก่อนจะจ้องมองอาคาชิด้วยสีหน้าจริงจัง

    “นายคิดยังไงกับพี่จิฮิโระกันแน่” โองิวาระถามออกมา

    “..ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องตอบคุณ” อาคาชิบอกพร้อมทำท่าจะลุกออกไป

    “งั้นก็แปลว่าไม่ต้องการให้ผมช่วยเรื่องพี่จิฮิโระสินะ” โองิวาระยิ้มมุมปากออกมา

    “ผมไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ” อาคาชิบอกอย่างเย็นชา

    “งั้นผมก็รุกเข้าหาพี่จิฮิโระได้สินะครับ...” โองิวาระถามยิ้มๆ

    “.......” อาคาชิกัดฟันกรอดก่อนจะที่จะสิ้นสติไปอีกครั้งเพราะเหมือนจะยังไม่หายดี

    “เขาสลบไปอีกรอบแล้วนะครับ พี่จิฮิโระ....ไม่คิดจะเข้ามาดูเหรอครับ” โองิวาระกล่าวออกมาสักพักประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับที่มายุสุมิพุ่งเข้ามาอุ้มร่างของอาคาชิขึ้น

    “ตัดสินใจแล้วสินะครับ...ผมขอให้เข้าใจกันได้เร็วๆนะครับ” โองิวาระยิ้มกว้าง

    “...จงใจใช่มั้ยเจ้าเด็กบ้า” มายุสุมิมองโองิวาระก่อนจะถอนใจยาวเขาหนีมาพอแล้ว...เขาจะไม่หนีอีก..

     

    “ตัวร้อนท่าทางจะเป็นไข้..ให้ตายเถอะเป็นกัปตันทีมแท้ๆทำไมถึงไม่ดูแลตัวเองเลยนะ” มายุสุมิมองร่างที่ถูกวางลงบนตียงนอนของตัวเองแล้วถอนใจยาวก่อนจะไปหยิบแผ่นเจลลดไข้พร้อมกะละมังใส่น้ำแล้วผ้าขนหนูมา

    “...ถ้าตื่นเราจะหนีไปเลยดีมั้ยนะ.....” มายุสุมิกลับมาลังเลอีกครั้งในระหว่างที่ปลดกระดุมอาคาชิที่หลับอยู่

    “.....ให้ตาย.....ทำไมเราถึงเอาแต่คิดเรื่องแบบนี้นะไม่สมกับเป็นเราเลย” มายุสุมิรีบส่ายหน้าไล่ความคิดแปลกๆของตัวเองออกไป

    “...รุ่น...พี่.....” เสียงเพ้อเพราะพิษไข้ดังขึ้นมาจากจักรพรรดิแห่งราคุซันพร้อมกับมือข้างหนึ่งคว้าแขนของเขาไว้แน่น

    “...!!!!” มายุสุมิตกใจแล้วทำท่าจะแกะออกถ้าไม่เพราะเสียงของอาคาชิดังตามซะก่อน

    “อย่าไปนะ....ไม่อยาก....อยู่คนเดียว...คุณต้องอยู่กับผม...รุ่นพี่...คุณต้องอยู่กับผม” อาคาชิกล่าวออกมาเหมือนจะไม่ได้เพ้อคำพุดที่ออกมานั้นนอกจากจะทำให้เงาแห่งราคุวันชะงักไปแล้วยังทำให้ใจของเขาอ่อนยวบลงทันทีเพราะดวงตาสองสีที่ลืมขึ้นแล้วจ้องมองเขาแม้จะเป็นการออกคำสั่งแต่สายตานั้นเป็นคำพูดที่แท้จริงว่าคนตรงหน้านั้นขาดตนไม่ได้แล้วจริงๆ

    “.......ทำไมถึงโง่ขนาดนี้นะ.....ทั้งที่เขาทำร้ายเราขนาดนั้นทำไมเรายัง...ชั่งเถอะขี้เกียจคิดแล้ว” มายุสุมิคิดก่อนจะก้มลงไปจูบอาคาชิทันทีทำให้ดวงตาสองสีที่ปรือๆเพราะพิษไข้เบิกกว้างขึ้นมาแต่มายุสุมิก็ยังคงจูบต่อไป

    “แฮ่กๆ....” อาคาชิหอบออกมาหลังจากมายุสุมิถอนจูบออกไปซึ่งมายุสุมิก็นั่งหน้าแดงไม่พูดไม่จาอะไร

    “....นี่คือคำสารภาพจากฉัน...” มายุสุมิบอกเบาๆก่อนจะเริ่มลงมือเช็ดตัวให้คนตัวเล็กกว่าตนเองทันที

    “..........” อาคาชิเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาทีเปี่ยมด้วยความสุขก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอ่อนแรง

    “นอนซะ ฉันจะอยู่ข้างๆนายอง” มายุสุมิพูดก่อนจะล้มตัวนอนด้วยทันทีพร้อมตั้งคำมั่นในใจ

    “ฉันจะไม่หนีนายไปอีก...ฉันสัญญา...” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×