ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic RF4 :รวมฟิคRF4

    ลำดับตอนที่ #2 : ความสงสัยของสาวๆ 1(NL)

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 57


    “ข้าพาเหล่าหญิงสาวในเมืองมาพบแล้วขอรับท่านเวนทัสวิล” โวลคานอนพ่อบ้านใหญ่ประจำปราสาทกล่าวกับมังกรร่างยักษ์ซึ่งมังกรสาวก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะกล่าวกับโวลคานอนว่า

    “อืม..เจ้าออกไปก่อนถ้าให้ดีเช็คด้วยว่าพวกผู้ชายแอบฟังอยู่หรือเปล่าถ้าเจ้าเห็น.....ชกให้ปลิวแต่อย่าให้ตาย..” มังกรสาวกล่าวซึ่งชายวัยกลางคนก็พยักหน้าก่อนจะเดินออกไปจากใจกลางปราสาท

    “มีอะไรรึท่านเวนทัสวิล” อัศวินสาวนามฟอร์เต้เริ่มเปิดการสนทนาขึ้นเพราะความสงสัยที่จู่ๆเธอก็ถูกเรียกมา

    “อืม...ก่อนอื่นเจ้าปลุกคลอริก้าก่อนเถอะ...” มังกรสาวกล่าวพร้อมเปลี่ยนร่างเป็นร่างของเด็กสาวก่อนจะมองไปยังหญิงสาวผมสีลาเวนเดอร์ที่เหมือนจะหลับอีกแล้ว

    “ฮิๆ คลอริก้าหลับอีกแล้วล่ะ...” แอมเบอร์หัวเราะออกมา

    “....ใครจะปลุก” ดอลเช่หญิงสาวผู้ขึ้นชื่อเรื่องนิสัยพูดน้อยกล่าว

    “งั้นชั้นเอง คลอริก้าจ๊ะ...จะคุยแล้วตื่นได้แล้วจ่ะ...” เอล์ฟสาวนักดนตรีประจำเมืองสะกิดเบาๆซึ่งก็เพียงพอที่จะปลุกคนที่หลับให้ตื่นขึ้นมาได้

    “อะ...ขอโทษค่ะท่านเวนทัสวิล” คลอริก้าโงให้มังกรในร่างเด็กสาวทันที

    “เอาเถอะ..ข้าไม่ใส่ใจหรอก....ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาเพราะว่า...ข้าสงสัยความสัมพันธ์ของพวกผู้ชายในเมืองน่ะ” มังกรสาวบอกออกมา

    “.....นั่นสินะ....เลออนชอบออกไปข้างนอกตลอดพอถามก็บอกว่าจะไปคุยกับคีลเสมอๆ...” เสี่ยวป๋ายบอกพร้อมเอามือจับคางครุ่นคิดแต่ฟอร์เต้เริ่มใจไม่ดีแล้ว

    “อืม....ส่วนเลสต์ช่วงนี้ไปดื่มน้ำชากับอาร์เธอร์บ่อยๆจนผิดสังเกตุด้วย” เฟรย์พูดออกมาด้วยความรู้สึกสงสัยไม่แพ้กันแน่นอนว่าคำพูดของเฟรย์ทำให้คนทั้ง แอมเบอร์ ดอลเช่และเวนทัสวิลมีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที

    “วิชนาลเองก็หายออกจากปราสาทไปยามกลางดึกด้วยนะช่วงนี้ด้วยน่ะ....” คลอริก้าบอก

    “...ส่วนชั้นเห็นดั๊กกับดีลาสออกไปเดินเลือกบางอย่างด้วยกันบ่อยๆด้วยนะ...” แอมเบอร์บอกทำเอา เฟรย์ชะงักไปทันที

    “....คีล...อย่าบอกนะว่าเธอกับเลออน.....” ฟอร์เต้พึมพำด้วยความช็อค

    “...เลสต์....ทำไม.....”ดอลเช่พึมพำเหมือนจะช็อค

    “อาร์เธอร์....เป็นพวกแบบนั้น...เหรอ.... .” แอมเบอร์พึมพำคล้ายพวกสติหลุด

    “...ดั๊ก...อย่าบอกนะว่า...คบกับดีลาสแล้ว....” เฟรย์พึมพำ

    ZZZZZZ” คลอริก้าหลับไปอีกครั้งโดยไม่สนใจสภาพความวุ่นวายรอบตัวเลยสักนิด

    “ เดี๋ยว!!! พวกเจ้าหยุดจินตนาการของพวกเจ้าไว้ก่อนนนนนน” เวนทัสวิลที่ตั้งสติได้ก่อนใครเพื่อนร้องออกมาซึ่งแม้แต่ตัวเธอเอง.ก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าพวกหนุ่มๆในเมืองอาจจะ”ซัมติง”จริงๆก็เป็นได้

    “................” เหล่าหญิงสาวชะงักก่อนจะหันมามองที่เวนทัสวิลพร้อมกัน

    “เอาล่ะ....ตอนนี้....เราต้องหาทางสืบไม่ใช่มานั่งสติแตกเข้าใจมั้ย....” มังกรในร่างเด็กสาวบอก

    “....จะสืบยังไง” ดอลเช่ถามออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยเหมือนปกติ

    “...อืม....ไม่ลองสอบถามคนใก้ตัวคนอื่นดูล่ะ....” คลอริก้าเสนอความเห็นออกมา

    “...อืม....ถ้าดีลาสกับอาร์เธอร์ก็ไปถามปอร์โค่ ดั๊กก็ไปถามคุณยายบลอสซั่ม คีลก็ไปถามบาโด เลออนก็ไปถามคุณลินฟา  วิชนาลก็ลองไปถามคุณโวคานอนสินะ” มาร์กาเร็ตถามซึ่งคลอริก้าก็พยักหน้าแทนคำตอบ

    “อืม...ถ้าวิธีนี้ยังไม่สามารถสืบชัดเจน...ข้ามีแผนสองไว้แล้วพวกเจ้าตอนนี้กระจายกันออกสืบได้แล้ว....เพื่อความชัดเจน” เวนทัสวิลร้องบอก

    “รับทราบค่ะ!!” ทุกคนรับคำพร้อมกระจายตัวกันออกไป

    “...หวังว่ามันคงจะไม่ใช่นะ......ไม่ช่ายยยยย” คล้อยหลังเหล่าสาวๆมังกรในร่างเด็กสาวก็กลับมาสติแตกต่อทันที

     

    ทางด้านคลอริก้า

    “ท่านโวคานอนคะ....เอ่อคือว่าท่านรู้เรื่องที่วิชนาลหายไปกลางดึกเกือบทุกคืนรึเปล่าคะ” คลอริก้าถามซึ่งชายวัยกลางคนก็เอามือจับคางอย่างครุ่นคิดก่อนจะตอบ

    “อืม...ก็รู้นะเหมือนจะออกไปยังที่พักของท่านอาร์เทอร์แล้วก็ไปไหนต่อไม่รู้น่ะถามทำไมรึ?” ชายวัยกลางคนเลิกคิ้วถาม

    “อา.....ไม่มีอะไรค่ะ” คลอริก้ายิ้มเจื่อนๆให้ก่อนจะรีบปลีกตัวกลับมา

     

    ทางด้านฟอร์เต้

    “นี่บาโดช่วงนี้คีลไปไหนบ้าง...” อัศวินสาวถามออกมาซึ่งเจ้าของร้านขายอาวุธก็ครุ่นคิดก่อนจะตอบไปว่า

    “อืม....ก็เห็นไปเดินคุยกับเลออนไปทางทุ่งหญ้าบ้างหรือไม่ก็กลับเข้าบ้านโดยมีเลออนตามมาด้วยน่ะว่าแต่ถามทำไมเหรอ?” บาโดตอบทำเอาฟอร์เต้เริ่มกลับไปจินตนาการภาพทำร้ายจิตใจตัวเองอีกครั้ง

    “ไม่มีอะไรหรอก...ขอบคุณมากนะ...ไว้จะไปซื้ออาวุธที่ร้านให้เป็นการตอบแทนแล้วกัน....” ฟอร์เต้บอกก่อนจะเดินกลับไปยังใจกลางปราสาทด้วยท่าทางเหมือนร่างไร้วิญญาณ

     

    ทางด้านมาร์กาเร็ต

    “นี่ปอร์โค่ ช่วงนี้ดีลาสทำอะไรแปลกๆบ้างรึเปล่า” เอลฟ์สาวถามซึ่งชายร่างอ้วนก็หันกลับมาตอบ

    “ก้เห็นออกไปข้างนอกๆบ่อยๆน่ะนะ ถามทำไมเหรอ?” ชายร่างอ้วนเลิกคิ้วถาม

    “ไม่มีอะไรแล้ว..ท่านอาร์เธอร์ล่ะ” เอลฟ์สาวถามต่อ

    “อืม..ก็มาซื้อใบชาไปจำนวนมากไปพอถามว่าซื้อไปทำอะไรก็บอกว่า ซื้อไปเพื่อดื่มชากับเลสต์จังน่ะ.....บางทีก็มีเสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังออกมาจากทางออฟฟิของอาร์เธอร์จังด้วยล่ะ....อ้าว...เมกค์เป็นอะไรไปสีหน้าดูไม่ดีเลย!!!” ปอร์โค่ถามออกมาหลังเห็นใบหน้าของเอลฟ์สาวดูสิ้นหวังขึ้นเรื่อยๆ

    “...ไม่มี...อะไร...หรอก.....” เอล์ฟสาวๆค่อยๆเดินคอตกกลับไปทางใจกลางปราสาท

     

    ทางด้านเสี่ยวป๋ายและดอลเช่

    “...เดี๋ยวชั้นจะไปถามนักเดินทางที่พักอยู่ในโรงแรมช่วงนี้ ฝากเธอจัดการทางแม่ด้วยนะ....” เสี่ยวป๋ายบอกก่อนจะแยกออกไป

    “อ้าวดอลเช่จังมาทำอะไรที่นี่เหรอจ๊ะ” คุณแม่ผู้ครองความงดงามได้อย่างปริศนาของเสี่ยวป๋ายเดินมาถาม

    “...เลออน...” ดอลเช่กล่าวออกมา

    “ดอลลี่ถามว่าช่วงนี้มีอะไรแปลกๆเกี่ยวเลออนบ้างรึเปล่าน” พิโก้วิญญาณที่คอยติดตามดอลเช่แปลความหมายให้ฟังซึ่งลินฟาก็คิดสักครู่

    “ก็...ชอบออกไปข้างนอกบ่อยขึ้นพอถามก็บอกว่าไปหาคีลแล้วก็มักจกลับมาดึกๆน่ะจ่ะ” ลินฟาตอบพร้อมรอยยิ้ม

    “.....ขอบคุณ.....” ดอลช่ล่าวก่อนจะหิ้วพิโก้ออกมาทันที

     

    ทางด้านแอมเบอร์

    “...คุณยายคะ..เอ่อ...ช่วงนี้ดั๊กเป็นยังไงบ้างคะ...” แอมเบอร์ถามซึ่งบลอสซั่มก็คิดสักพักก่อนจะตอบ

    “อืม...ก็...ไม่มีอะไรนี่จ๊ะก็ปกติดีนี่จ๊ะ”บลอสซั่มเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย

    “....ขอบคุณค่ะ..” แอมเบอร์โค้งให้ก่อนที่จะกลับมารวมตัวกับสาวๆที่เหลือกันที่ใจกลางปราสาท

     

    “......พวกเจ้าไปรู้อะไรมาบอกข้ามานะ!!!” มังกรในร่างเด็กสาวแทบจะสติแตกทันทีที่เห็นท่าทางของสาวๆแต่ล่ะคนที่เหมือนจะสิ้นหวังขึ้นกว่าเดิม

    “....คีล....นี่...เธอกับเลออน....” ฟอร์เต้เหมือนจะเพ้อแบบนี้มาตั้งแต่มาถึงแล้ว

    ZZZZZZZZZ” คลอริก้าก็หลับไปตั้งแต่มาถึงเหมือนกัน

    “.............” ดอลเช่ก็เงียบไม่พูดไม่จาอะไรเลยตั้งแต่มาถึง

    “.....เลสต์...ไม่นะ....” มาร์กาเร็ตเพ้อตั้งแต่เดินออกมาจากร้านอาหารแล้ว

    “...พวกนักท่องเที่ยวบอกว่าเห็นเลออนออกไปหาคีลจริงๆ.....แถมยังพูดคุยกันอย่างสนิทสนมด้วย...” เสี่ยวป๋ายบอกยิ่งเหมือนจะทำให้ฟอร์เต้อาการหนักกว่าเก่า

    “คุณยายบลอสวั่มบอกว่าดั๊กก็ปกติเหมือนทุกวันน่ะ เวนตี้” แอมเบอร์บอกยิ้มๆ

    “...เหมือนปกติ!!!...อย่าบอกนะว่าคบกันมานานจนคุณยายบลอสซั่มเห็นจนเป็นปกติแล้ว!!” เฟรย์คิด

    “.......ตั้งสติก่อน!!!!” เวนทัสวิลคำรามเรียกสติของสาวๆส่วนใหญ่ที่เหมือนจะสติหลุดลอยไปเรียร้อยแล้ว

    “เอาล่ะ...เล่ามาทีละคน.....” เวนทัสวิลบอกพร้อมกับที่สาวๆก็เริ่มเล่าเรื่องที่ไปสืบมาให้กับมังกรสาว(???)ฟัง

     

    “สถานการณ์วิกฤติจริงๆท่าทางต้องใช้แผนสอง.....” เวนทัสวิลพึมพำ

    “โวคานอนไปเรียก เลออน คีล เลสต์ วิชนาล ดีลาส ดั๊ก  อาร์เธอร์ มาหาข้า” เวนทัสวิลร้อบอกซึ่งชายวัยกลางคนก็ออกมารับคำสั่ง

    “เอาล่ะพวกเจ้าไปซอนที่ฟาร์มก่อน....” เวนทัสวิลบอกพร้อมคืนสู่ร่างมังกรซึ่งเหล่าสาวๆก็รีบเผ่นไปที่ฟาร์มทันที

     

    “....มีอะไรเหรอ เวนตี้?” เลสต์เป้นตัวแทนของเหล่าชายหนุ่มถามออกมา

    “....ข้ามีเรื่องอยากจะไหว้วานพวกเจ้าทุกคนหน่อยน่ะ....” เวนทัสวิลบอกออกมา

    “...เรื่องอะไรอีกล่ะ..” ดีลาสถามออกมาท่าทางเหมือนจะหงุดหงิดหน่อยๆ

    “..คือข้าเห็นพวกนักเดินทางว่ามีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นทางทะเลสาบมังกรน่ะ...พวกเจ้าทั้งหมดช่วยไปตรวจสอบทีได้มั้ย” เวนทัสวิลบอก

    “หา!ทำไมข้า/ชั้นต้องไปกับไอ้หน้าม้า/สมองถั่วนี่ด้วย” ดั๊กกับดีลาสร้องออกมาพร้อมกันพร้อมหันมาจ้องหน้ากันเหมือนศัตรูกันตั้งแต่ชาติปางก่อน

    “นั่นสิเวนตี้ ให้ผมไปคนเดียวก็พอแล้วมั้ง” เลสต์บอก

    “....ข้าเป็นห่วงเจ้า....ดังนั้นพวกเจ้าไปด้วยกันนั่นแหละถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยๆกันได้....” เวนทัสวิลบอกพร้อมทำท่าทางเหมือนเป็นห่วงมาจริงๆ

    “.....เฮ้อ.......งั้นเดี๋ยวผมขอกลับไปเตรียมงานที่จะขนไปด้วยก่อนแล้วกัน” อาร์เธอร์ถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปเป็นคนแรก

    “หน้าที่ของพ่อบ้านที่ดีคือการตามรับใช้เจ้านาย......ไม่มีปัญหาขอรับขอผมจัดของก่อนนะขอรับ” วิชนาลโค้งให้ทั้งเลสต์และเวนทัสวิลก่อนจะเดินแยกไปทางห้องของตัวเองทันที

    “.....เห็นแก่ความปลอดภัยของเอิร์ทเมดท์/เพื่อนหรอกนะ” ดีลาสกับดั๊กมองหน้ากันก่อนจะสะบัดหน้าแล้วแยกกันไปคนละทาง

    “....อืม...น่าสนุกดีเหหมือนไปตั้งแคมป์เลย.....งั้นผมไปเตรียมของก่อนแล้วกันนะครับ” คีลบอกพร้อมยิ้มร่าแล้วเดินออกไป

    “....น่าสนุกดีนี่...เวนตี้....งั้นขอไปจัดของก่อนแล้วกัน..” เลออนยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกไปทิ้งเลสต์ยืนอ้าปากค้างอยู่คนเดียว

    “....เลสต์ทำไมเจ้ายังไม่ไปอีก ไปได้แล้วชักช้าเดี๋ยวแม่ก็จับกินซะหรอก” มังกรสายลมกล่าวพร้อมคำรามเสียงดังลั่น

    “หวา!!! ไปแล้วคร้าบบบบ” เลสต์รีบวิ่งกลับห้องไปทันทีด้วยความตกใจ

    “เอาล่ะ....พวกเจ้าออกมาได้แล้ว” เวนทัสวิลบอก

    “....เวนตี้วางแผนอะไรไว้กันแน่ห๊ะ!!!” เฟรยืเป็นคนแรกที่เข้ามาพร้อมกับคำถาม

    “จริงด้วยทำไมต้องให้คีลไปด้วยแบบนี้มันส่งเนื้อติดมันให้สุนัขชัดๆ” ฟอร์เต้ที่ตามเข้ามาร้องถามด้วยสีหน้าที่บอกชัดดๆว่าหงุดหงิด

    “นั่นสิ เว็นทำไมทำแบบนั้นล่ะ ถ้าแบบนี้คนที่ดอลลี่ชอบ อ๋า!!!!” พิโก้ยังพุดไม่ทันจบก็ถูกดอลเช่บีบหัวอย่างแรงทันที

    “....เงียบๆ....” ดอลเช่กล่าวนิ่งๆใบหน้าของหญิงสาวขึ้นสีระเรื่อ

    “....พวกเราจะตามแอบดูพฤติกรรมของพวกเขา........เพื่อจะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นไงมาไงกันแน่!!” เวนทัสวิลประกาศออกมาทำเอาสาวๆอ้าปากค้าง

    “แล้ว..จะทำยังไง” ดอลเช่ถาม

    “ของที่สั่งได้แล้วครับท่านเวนทัสวิล” โวคานอนเดินเข้ามาพร้อมกับสัตว์อสูรคล้ายๆกับลูกตาบินได้กับเครื่องฉายอันหนึ่ง

    “อืม...ขอบคุณมาก...ไปได้แล้ว” เวนทัสวิลบอกก่อนจะคว้าของทั้งหมดมาไว้ใกล้ๆตน

    “รับทราบของรับ” พ่อบ้านวัยกลางคนรับคำก่อนจะแยกตัวออกไป

    “..นี่มัน?....” แอมเบอร์เดินเข้ามาดูใกล้ๆพร้อมกับสาวๆคนอื่นด้วยความสงสัย

    “ข้าให้โวคานอนไปจ้างบาโดทำมันขึ้นมาน่ะอุปกรณ์สำหรับจะช่วยในแผนสองยังไงล่ะ” มังกรสายลมกลับเป็นร่างเด็กสาวอีกครั้งก่อนจะชูอุปกรณ์กับเจ้าสัตว์อสูรตัวนั้นขึ้นให้สาวๆได้เห็นมันชัดๆ

    “ทำอะไรได้” ดอลเช่ถามทันที

    “ดอลลี่ถามว่ามันทำอะไรได้มั่งน่ะ” พิโก้ทำหน้าที่แปลให้อีกครั้งเมื่อเห็นดอลเช่พูดสั้นเกิดไป

    “คงจะใช้เจ้าตัวนั้นรับภาพ...แล้วก็..อีกตัวฉายภาพสินะคะ” เสี่ยวป๋ายลองเดาออกมา

    “ใช่เลย! เดาแม่นสมเป็นเสี่ยวป๋ายจริงๆ เราจะใช้เจ้าตัวนี้คอยตามแอบดูพวกนั้นเพื่อที่ว่าเราจะได้รู้ว่าพวกนั้นมีความสัมพันธ์กันยังไงแน่....” มือของมังกรในร่างเด็กสาวสั่นนิดๆเหมือนจะกลัวนิดๆกับความจริงที่อาจจะไม่ได้เป็นแบบที่ตนเองหวัง

    “.......เอาล่ะพรุ่งนี้มารวมตัวที่นี่อีกครั้งแล้วกันเรื่องส่งตัวติดตามข้าจะจัดการเอง” เวนทัสวิลกล่าวซึ่งก็ทำให้สาวๆพากันแยกย้ายออกไป

     

     

    “กลับมาแล้ว....” อัศวินสาวเดินคอตกกลับมาภายในบ้านของตนกับน้องชาย

    “อ้าว ฟอร์เต้กลับมาแล้วเหรอ? ผมเตรียมข้าวเย็นไว้ให้แล้วนะทานให้อร่อยล่ะ” คีลเดินเข้ามาหาพี่สาวพร้อมรอยยิ้มสว่างไสว

    “หืม?....ดูอารมณ์ดีจังนะคีล......ไปทำอะไรมาล่ะ” ฟอร์เต้ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วเพื่อไม่ให้คีลสงสัย

    “ได้รับภารกิจจากท่านเวนทัสวิลมาครับ...แต่ว่าผมรู้สึกเหมือนได้ไปแคมป์กับเพื่อนๆมากกว่าน่ะครับ..ต้องเตรียมหนังสือไป เตรีมอุปกรณ์ทำขนมไป” คีลรีบวิ่งกลับห้องตัวเองไปพร้อมกับรอยยิ้ม

    “....คีล......เฮ้อ....สุดท้ายก็ห้ามไม่ลงจริงๆคงได้แต่ทำตามแผนต่อไป....” อัศวินสาวถอนหายใจก่อนจะเดินไปจัดการอาหารบนโต๊ะ

     

     

    “วิชนาล....ดูแฮ็ปปี้จังนะ..” คลอริก้าทักเพื่อนร่วมงานที่ตอนนี้กำลังวิ่งวุ่นจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆด้วยท่าทางระริกระรี้จนตัวเธอแอบรู้สึกหมั่นไส้

    “ก็ผมจะได้ตามไปรับใช้เจ้าชายในระหว่างทำภารกิจถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่สุดของพ่อบ้านฝึกหัดเลยนะ คลอริก้า” วิชนาลบอกด้วยดวงตาที่เป็นประกายสว่างไสว

    “.....รึว่าจะ....กับท่านอาร์เธอร์จริงๆ” คลอริก้าคิดพร้อมกับใบหน้าของหญิงสาวซีดลงเล็กน้อย

    “อ้าว...ท่าทางดูไม่สบายเลยนะคลอริก้าไปพักก่อนเถอะ...” วิชนาลบอกด้วยท่าทางเป็นห่วง

    “อะ...อืม..ชั้นควรจะไปพักจริงๆ” คลอริก้ารีบสลัดความคิดในหัวตัวเองออกไปทันทีแล้วเดินกลับไปนอนที่ห้องของตน

     

     

    “ดีลาสจะไปไหนเหรอจัดของไปซะเยอะเชียว” ปอร์โค่ถาม

    “อืม...ก็ต้องไปตรวจดูเหตุการณ์ประหลาดที่ทะเลสาบมังกรน่ะท่าทางจะต้องค้างแรมด้วยคงจะต้องหยุดงานไปสัก1-2วันไม่มีปัญหาใช่มั้ย” ดีลาสถามท่าทางดูหงุดหงิดหน่อยๆ

    “เอ อารมณ์เสียแบบนี้อย่าบอกนะว่าดั๊กไปด้วยน่ะ?” พ่อครัวลูกครึ่ง(??)ถาม

    “ก็ใช่น่ะสิ ไอ้เจ้าคนแคระสมองทั่วนั่น...” ดีลาสหันมาบอกด้วยท่าทางหงุดหงิด

    “นี่ดีลาส..รู้มั้ยว่าเห็นหลายๆคู่เขาทะเลาะกันแบบนี้แล้วก็...” ปอร์โค่ยิ้มแบบมีเลศนัยจนดีลาสสงสัย

    “แล้วก็อะไร” คนขี้หงุดหงิดขมวดคิ้วก่อนจะถาม

    “ได้กันทุกรายไง ฮิๆ” พูดจบชายร่างอ้วนก็รีบชิ่งทันทีก่อนจะโดนคนขีร้หงุดหงิดชกเอา

    “..หนอย...ใครมันจะไปชอบไอ้คนงี่เง่าวันๆคิดแต่เรื่องผู้หญิงแบบนั้นกันหา!!!” ดีลาสว้ากก่อนจะกลับไปจัดของต่อ

     

     

    “ ดั๊ก ดูร่าเริงจังนะ” แอมเบอร์ทักคนหัวแดงคนเดียวในเมืองด้วยรอยยิ้มซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มตอบ

    “อื้อ ใช่แล้วล่ะพรุ่งนี้จะได้ออกไปแคมป์จะได้อยู่กับทุกคนเหมือนตอนปาร์ตี้ชุดนอนเมื่อก่อนยังไงล่ะ” ดั๊กยิ้มร่า

    “งั้นเหรอ ท่าทางน่าสนุกจังนะเสียดายจังที่ไม่ได้ไปด้วย” แอมเบอร์ยิ้มแม้จะซื่อแต่เรื่องการแสดงแม้แต่ตัวเวนทัสวิลยังอยากมอบรางวัลให้

    “ไม่ต้องเสียดายไปหรอกน่า เธอจะได้ไม่ต้องไปเจอเจ้าหน้าม้าขี้โมโหนั่นน่ะ” ดั๊กบ่นออกมา

    “ดีลาสก็ไปด้วยสินะ...งั้นแอมเบอร์กลับก่อนนะ...” แอมเบอร์บอกพร้อมวิ่งกลับร้านดอกไม้ที่ตนเองอาศัยอยู่ทันที

    “อื้อ โชคดีนะ” ดั๊กโบกมือลาก่อนจะเดินกลับไปจัดของ

     

     

    “เลสต์เบาๆหน่อยได้มั้ย......ชั้นจะนอน” เฟรยืเดินมาเคาะห้องข้างๆตนก่อนจะว่าไปทันทีที่ประตูเปิด

    “ขอโทษๆ...พอดีมันเป็นการไปแคมป์ครั้งแรกหลังเสียความทรงจำน่ะเลยไม่รู้จะเอาอะไรไปดีๆไปๆมาๆก็รื้อของออกมาเต็มไปหมดเลยน่ะ” เลสต์ยิ้มแห้งๆให้

    “.....งั้นก็เบาๆหน่อยแล้วกัน ชั้น-จะ-นอน”  เฟรย์ย้ำแม้ตัวเธออยากรู้ว่าพวกผู้ชายมีความสัมพันธ์ยังไงเธอก็อยากจะพักผ่อนให้เพียงพอนะ

    “จะพยายามนะ...” เลสต์ปิดประตูแล้วกลับไปจัดของต่อ

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นที่บริเวณทางออกเมือง

    “อืม..ทุกคนยังไม่มาเลยเหรอ หรือว่าเปลี่ยนไปใจกันแล้ว?” เลสต์ยืนรออยู่ข้างหน้าพร้อมมองไปรอบๆ

    “ขอโทษครับที่มาช้าพอดีเสียเวลาขนของนิดหน่อยน่ะครับ” คีลวิ่งมาพร้อมกับชายหนุ่มผิวสีแทนนามเลออนที่แบกสัมภาระมากมายมาด้วย

    “คีล เลออนซัง!” เลสต์หันไปโบกมือให้กับทั้งคนสองคนที่เดินเข้ามา

    “ขอโทษที..ต้องช่วยถือของให้คีลเลยช้าน่ะ....” เลออนบอกนิ่งๆ

    “ไม่เป็นไรผมก็พึ่งมาถึงน่ะ...” เลสต์ยิ้มแห้งๆ

    “ไอ้หน้าม้าเพราะแกนั่นแหละเลยสายน่ะ” เสียงโวยวายของดั๊กดังขึ้น

    “หนวกหูน่าเพราะไอ้สมองถั่วแบบแกไม่มองทางต่างหาก” เสียงโวยวายของดีลาสตามมาพร้อมกับร่างของสองคู่กัดและสัมภาระ

    “ดีลาส ดั๊ก ดีใจจังที่มาด้วยกันได้” เลสต์ยิ้มอย่างสว่างไสวออกมาทำเอาสองคู่กัดหน้าขึ้นสีอ่อนๆก่อนจะหันไปคนละทาง

    “เพราะเป็นคำสั่งของท่านเวนทัสวิลอย่างได้เข้าใจผิดนะ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันด้วยท่าทางซึนเดเระ

    “.เวลายิ้มสว่างไสวแล้วน่ารักชะมัด...ผู้ชายแน่เหรอเนี่ย” ดีลาสคิดก่อนจะขยี้ผมตัวเองจนยุ่งไปหมด

    “...น่ารัก..ไม่ได้ๆนี่เราคิดอะไรอยู่เนี่ย” ดั๊กรับส่ายหน้าไล่ความคิดแปลกๆออกไป

     “ตอนนี้ก็เหลือ อาร์เธอร์กับวิชนาล...สินะ” เลออนถาม

    “เจ้าชายคร้าบบบบ” เสียงร่าเริงของวิชนาลดังขึ้นมาพร้อมกับรถเกวียนเสองคันที่บังคับโดยวิชนาลคันหนึ่ง อาร์เธอร์คันหนึ่ง

    “วิชนาล อาร์เธอร์ซัง!!” เลสต์ร้องออกมาเหมือนจะตกใจพอสมควรเลยทีเดียว

    “ผมสังหรณ์ว่าการเดินทางนี้น่าจะนานผมเลยเตรียมมาด้วยน่ะ...เลสต์ วิชนาล มากับผมส่วนที่เหลือไปอีกคันนะ” อาร์เธอร์บอกพร้อมรอยยิ้ม

    “อะ..อื้อ...” เลสต์รับคำก่อนจะขนของเกวียนอีกคันพร้อมกับวิชนาลที่เข้ามาช่วยเขายกของเป็นระยะๆ

    “เอาล่ะขนของขึ้นเกวียนกันเถอะ คีล...ไปอ่านหนังสือรอในเกวียนก่อนเรื่องขนของให้พวกเราสามคนจัดการเถอะ” เลออน บอกยิ้มๆ

    “อะ..ก็ได้ครับ...” คีลเดินขึ้นไปก่อนทิ้งหน้าที่ขนของเป็นของอีกสามคน

    “เอาล่ะ...ขนของขึ้นเกวียนแล้วก็..อออกเดินทางได้!!” เลสต์ร้องออกมาอย่างร่าเริง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×