คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : GEN 2 LOVES EP 4
ตอนที่ 4 One night
“หะ...หา!!!!” ยามิพึ่งเจอเหตุการณ์ที่ตัวเองไม่คาดคิดที่สุดในโลกร้องออกมา
“อาคาชิ....คนของตระกูลอาคาชิแถมยังพึ่งเจอกันได้ 2ครั้ง ขอเราที่เป็นผู้ชายเต้นรำ....นี่เรากำลังฝันใช่มั้ย.....” ยามิคิดยังไม่ทันไรก็ถูกคนชวนจูงมาไปที่ฟลอร์เต้นรำเสียแล้ว
“หวังว่าคุณจะทำให้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่งดงามสำหรับผมนะครับ...ฮานามิยะคุง..” โคฮาคุยิ้มมุมปากเล็กน้อยทำให้ความหล่อเหลากระชากใจที่มากอยู่แล้วยิ่งพุ่งทะลุเพดาน
“.......คนอะไรยิ้มได้กระชากใจชะมัด....ไม่ได้ๆ ยามิหมอนี่ผู้ชายแถมยังเป็นอาคาชิอีก....ต้องใส่หน้ากากๆ” ยามิคิดก่อนจะยิ้มตอบอีกฝ่ายไปพร้อมกับเพลงที่เริ่มขึ้น
“ผมเองก็หวังเช่นนั่นครับ...อาคาชิคุง” ยามิยิ้มหวานออกมาแล้วทั้งสองก็เริ่มเต้นรำตามจังหวะเพลงที่เปิด
“เต้นเก่งเหมือนกันนี่ครับ” โคฮาคุยิ้มหลังเต้นไปได้สักพักแล้วแต่กลับไม่พบข้อผิดพลาดเลย
“นายเองก็เป๊ะนะแล้วไม่น่าเชื่อว่านายจะเป็นลูกของนักธุรกิจระดับสุดยอดคนนั้นนะ.....ฟุริฮาตะไม่สิอาคาชิคุง” ยามิยิ้มออกมา
“นายเองก็ใช่ย่อยนี่....ตระกูลฮานามิยะเองตอนนี้ก็มีอิทธิพลอยู่พอสมควรนี่ครับ” โคฮาคุยิ้ม
“ลูกของนายเนี่ยดูเหมือนนายเมื่อก่อนจริงๆน๊า ฮานามิยะแถมยังได้ความฉลาดของอิมาโยชิไปด้วยสิน๊า” คิโยชิมองแล้วยิ้มออกมา
“ฮึ เด็กคนนั้นเองก็ร้ายไม่ต่างกันหรอกที่สามารถเดินเกมเหนือกว่าลูกชายฉันได้น่ะ...” ฮานามิยะบอกแล้วหรี่ตามองดวงตาสีแดงที่ยากจะคาดเดาความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อแล้วถอนใจออกมาอย่างแผ่วเบา
“ไอซาวะคุงก้าวเท้าผิดข้างแล้วนะ” ชิโระยิ้มพลางก้าวเท้าหลบเพื่อไม่ให้ถูกเหยียบเท้า
“ก็ไม่ค่อยได้ออกงานแบบนี้นี่หว่า ไม่ใช่นายแบบ แบบชิโระนี่ฝ่า” ไอซาวะบอกใบหน้าขึ้นสีอ่อนๆด้วยความอาย
“เอาน่าๆ พลาดกันได้นะฮะๆ” ชิโระหัวเราะร่าเหมือนเทวดาตัวน้อยแทนที่จะโกรธไอซาวะกลับรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำที่ได้เห็นรอยยิ้มของชิโระ
“ถ้าพลาดแล้วมันทำให้รู้สึกดีขนาดนี้จะยอมพลาดมันทุกวันเลยโว้ยยยย” ไอซาวะคิดในใจ
“เอาล่ะๆรีบเต้นต่อก่อนจะมีใครสังเกตเถอะนะ...” ชิโระยิ้มก่อนจะเริ่มเต้นต่อ
“..ตอนแรกอาจจะไม่ชิน แต่จริงๆฉันอยากให้นายชินเร็วๆนะ....จะได้มาเป็นเพื่อนฉันออกงานแบบนี้น่ะ” ชิโระบอกพร้อมยิ้ม
“งั้นถ้ามีนายก็มาลากชั้นไปได้เลย..” ไอซาวะตอบรับไปโดยไม่รู้ตัวเรียกรอยยิ้มจากนิจิมูระกับคุโรโกะที่ดูอยู่ได้ทันที
“ได้คิเสะมาเยอะเลยนะ แต่ว่าดวงตานี่ได้นายมาเต็มๆเลยนะ คุโรโกะ” นิจิมูระยิ้มอย่างพอใจ
“เขาเองก็ได้มาเยอะนะครับนิสัยอ่อนโยนแบบแปลกๆกับความซึนเดเระของคุณกับไฮซากิคุงน่ะครับ” คุโรโกะยิ้มออกมาก่อนจะมองเด็กหนุ่มทั้งสองเต้นรำต่อไป
“เกือบจะพลาดแต่ไม่พลาดนี่มันคืออะไรล่ะเนี่ย โยชิจัง” มิไรยิ้มขบขันกับท่าทางที่เหมือนจะพลาดแต่พยายามฝืนไม่ให้พลาดของคนตรงหน้าแถมยังสีหน้าประหม่าตลอดเวลา
“ก็มันพึ่งเคยเต้นต่อหน้าคนเยอะแบบนี้ครั้งแรกนี่หว่าแถมทุกคนก็ดูให้ความสนใจกับพวกเราด้วย...” โยชิสึนะบอกเพราะไม่เคยออกงานแบนี้มาก่อน
“ผมเองก็ครั้งแรกเหมือนกันนะ โยชิจังเรามาพยายามกันเถอะนะ” มิไรยิ้มกว้าง
“แต่ท่าทางนายดูไม่ประหม่าเลยนะมิไร” โยชิสึนะบอกพร้อมมุ่ยหน้า
“ฮะๆ ก็ผมเก็บอาการน่ะสิในงานสังคมน่ะ การยิ้มแย้มตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถือเป็นสิ่งสำคัญนา” มิไรยิ้มบอก
“งั้นจะลองดูนะ” โยชิสึนะพยายามปรับสีหน้าจนเป็นปกติระหว่างเต้น
“นั่นแหละๆ ค่อยๆนะ ไม่ต้องรีบน๊า” มิไรยิ้ม
“.....นายเนี่ยเหมือนน๊าคาซึนาริมากกว่าคุณอาชินทาโร่นะ...” โยชิสึนะบอกออกมา
“ฮะๆ ใครก็ว่าแบบนั้นนะ...ว่าแต่...” มิไรทำท่าจะถามต่อแต่ทว่า
“เปรี้ยงงงงงงงงงง” เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นพร้อมกับเสียงของพายุรอบๆดังขึ้นมา
“....เกิดอะไรขึ้น” อาคาชิถามขึ้นซึ่งมายุสุมิก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“เกิดพายุเข้ากะทันหันครับท่าน” มายุสุมิบอกหลังรับทราบข้อมูลแล้วตอนนี้แขกทั้งงานเริ่มอยู่ในความตื่นตระหนก
“ทุกท่านได้โปรดอยู่ในความสงบด้วย”
เสียงของอาคาชิ โคฮาคุดังขึ้นมาจากเครื่องขยายเสียงทำให้ทุกคนมองไปทางเจ้าของงานเลี้ยงที่ตอนนี้กลับไปทำหน้าเรียบเฉยเหมือนกับจักรพรรดิที่รอตัดสินลงโทษคน
“ทางเราต้องขออภัยกับสภาพตอนนี้ด้วย.....เพราะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นงานเลี้ยงครั้งนี้ผมคงต้องขอยกเลิกไป....แต่ว่าเพื่อเป็นการขอโทษทุกท่านทางอาคาชิจะขอมอบตั๋วอันเป็นสิทธิ์ในการใช้บริการโรงแรมในครืออาคาชิฟรี 1 ครั้งนะครับ...ขอภัยในความไม่สะดวกครั้งนี้ด้วยครับ” โคฮาคุบอกออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงแต่ยังแฝงไว้ด้วยอำนาจ ก่อนที่เขาจะหันไปมองพ่อของตัวเองซึ่งบุรุษตาสองสีก็ยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วพยักหน้าอันมีความหมายว่าทำได้ดีแล้ว
“ฮานามิยะคุง มากับผมสักเดี๋ยวนะครับ” โคฮาคุบอกก่อนจะดึงมือคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ไม่ห่างแล้วเดินออกไปอีกทางหนึ่ง
“ขอโทษพวกนายจริงๆนะ พายุแบบนี้คงออกไปไหนลำบากแน่เลย....ยังไงก็พักที่นี่ก่อนแล้วกันนะ” ฟุริฮาตะก้มหัวขอโทษพวกคุโรโกะที่มาร่วมงานหลังแขกส่วนใหญ่ออกไปหมดแล้ว
“เอ่อ เอางั้นก็ได้นะ...แต่ว่าแล้วพวกเด็กๆจะให้นอนรวมกับพ่อแม่หรือนอนแยกดีล่ะ” นิจิมูระถาม
“เอาแบบนี้มั้ย นอนกับสองคนต่อห้อง พวกเด้กๆก็มห้นอนห้องเดียวกัน พวกเขาจะได้สนิทกันด้วย” ทาคาโอะเสนอซึ่งทุกคนยกเว้นมิโดริมะกับคิเสะก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ไม่ได้!!! ถ้าเกิดเจ้าเด็กนั่น/ลูกของนิจิมูระเซมไปทำอะไรมิไร/ชิโระล่ะ” มิโดริมะกับคิเสะพุดออกมาพร้อมกันพลางหันไปมองเด็กหนุ่มทั้งสี่ที่กำลังคุยกันอย่างออกรส
“ลูกของฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกน่าพวกแกหวงลูกมากไปแล้ว” คุรพ่อของเด็กหนุ่มที่ถุกพาดพิงทั้งสองว่าออกมาเสียงแข็ง
“เอาเป็นว่า....เอาตามที่นายพูดแล้วกันเดี๋ยวผมจะไปบอกพวกเด็กๆเองเชิญพวกคุณตามสบาย” อาคาชิบอกเรียบๆแล้วเดินแยกออกไป
“นี่ๆ ตอนที่โคฮาคุพูดน่ะผมเห็นคนที่หน้าเหมือนพ่อของโคฮาคุในชุดยูกาตะแบบทางการยืนอยู่ข้างๆโคฮาคุด้วยล่ะ” ชิโระบอกในสิ่งที่ตนเห็นให้เพื่อนใหม่ทั้ง 3 ฟัง
“อะ....เอ๋ทะ...ทั้งที่พ่อของโคฮาคุคุงเขาอยู่อีกมุมของงานเลยเนี่ยนะ...” โยชิสึนะถามเสียงสั่นๆ
“หรือว่าจะเป็น.......” ไอซาวะที่เริ่มจะคิดไปเองหน้าซีดลง
“ผี!!!!” มิไรโพล่งขึ้นมา
“แว้กกกกกกกก” โยชิสึนะและไอซาวะร้องออกมาพร้อมกันก่อนจะกระโดดกอดกันด้วยความกลัว
“ฮะๆๆๆๆๆๆๆ โอยไม่ไหวพวกนายนี่มันฮะๆๆๆๆๆ” มิไรลงไปนั่งทุบพื้นหัวเราะกับท่าทางกลัวจนโอเวอร์ของคนตัวโตสองคน
“ฮะๆ...อุ๊บขอโทษนะ...แต่ว่ามัน...ฮะๆ” ชิโระพยายามกลั้นหัวเราะจนใบหน้าขาวเนียนเปลี่ยนเป็นสีแดง
“....คนหนึ่งก็เหมือนเทวดาตัวน้อย....อีกคนเป็นปิศาจน้อย....ถ้าจะจีบก็ซวยหน่อยนะ....” บุรุษตาสองสีคิดหลังมองเหตุการณ์เบื้องหน้าอยู่สักพักจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา
“..อะแฮ่ม....” อาคาชิตัดสินใจกระแอมเพื่อเรียกความสนใจซึ่งก็ได้ผลอย่างชะงัด
“มีอะไรเหรอครับ/ฮะ” ทั้งสี่ถามออกมาด้วยท่าทางที่พยายามให้สุภาพที่สุดด้วยความกลัวต่อผู้ทรงอำนาจและดูน่ากลัวอยู่แล้ว
“พวกคุณจะได้ค้างที่นี่เดี๋ยวจะมีคนนำทางไปที่ห้องพวกคุณต้องนอนห้องละ 2 คน...มีคำถามอะไรมั้ย” อาคาชิถามเสียงเรียบเฉย
“....นอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอฮะ...” ชิโระถามเขาพอจะเข้าใจนะว่าพายุทำให้ไปไหนไม่ได้แต่ว่าทำไมเขานอนกับพ่อแม่ไม่ได้ล่ะ
“...พ่อแม่ของพวกเธอมีงานหนักที่ต้องทำต่อจากนี้น่ะ....คงจะไปนอนกับพวกเธอไม่ได้ พวกเขาฝากให้ผมบอกคุณแบบนี้” อาคาชิยังคงใช้วิธีที่เห็นผลมากที่สุดเสมอถ้าเป็นคำสั่งของเขาเด็กหนุ่มเหล่านี้อาจจะต่อต้านแต่ถ้าบอกว่ามาจากพ่อแม่ คงจะไม่ต่อต้านเป็นแน่แท้
“.....งั้นเหรอฮะ....” ชิโระคอตกอาคาชิจึงเดินผ่านไปทางไอซาวะแล้วกล่าวออกมาว่า
“เปิดทางให้แล้วนะ....” พูดจบร่างของอาคาชิก็เดินออกไปทันที
“เอาไงต่อดีล่ะ....” โยชิสึนะถามเหมือนจะลืมเรื่องที่โดนมิไรแกล้งเมื่อกี้ไปแล้ว
“..ก็คงต้องรอคนนำทางน่ะนะ....” ไอซาวะบอกก่อนที่เขาจะถูกจับที่ไหล่โดยมือของใครสักคนที่ไม่ใช่เพื่อนใหม่ทั้งสาม
“สวัสดี....” เสียงทักทายที่เรียบเฉยทำเอาไอซาวะกระโดดถอยหลังมาอย่างว่องไวทันที
“นะ...น่ากลัวโว้ยย ทำไมมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงวะ” ไอซาวะร้องออกมา
“คุณ...เป็นคนที่อยู่กับโคฮาคุนี่ฮะ” ชิโระทักขึ้นมา
“เอ๋ ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นเขาเลยล่ะ” โยชิสึนะถาม
“เห็นแต่ของกินนั่นแหละนายน่ะ” มิไรแขวะโยชิสึนะ
“....ผมเป็นพี่เลี้ยงของท่านโคฮาคุครับ.....ผมได้รับคำสั่งให้มานำทางพวกคุณขึ้นไปที่ห้องพิเศษสำหรับเพื่อนของท่านโคฮาคุขอรับ” มายุสุมิบอก
“งั้นก็นำทางเลยครับ...เอ่อ....” ไอซาวะบอกพร้อมทำท่าจะถามแต่ไม่กล้า
“ถามมาได้ครับผมไม่กัด..” มายุสุมิบอกหน้านิ่งระหว่างเดินนำไป
“เอ่อ ที่นี่มีผีรึเปล่าครับ” โยชิสึนะตัดสินใจถามก่อนจะพาคนอื่นเดินตามไป
“ผี?...ไม่มีหรอกครับ......จะมีก็แต่ด็อปเปลแกงค์เกอร์ของนายท่านเท่านั้น” มายุสุมิบอกในระหว่างที่เดินนำไปทางลิฟท์แก้วขนาดใหญ่
“คุณมองเห็นเขาสินะครับ” มายุสุมิถามหลังทุกคนขึ้นมาบนลิฟท์แล้ว
“คะ..ครับเป็นคนที่เหมือนกับพ่อของโคฮาคุ....แต่เขาใส่ชุดยูกาตะแบบทางการยืนอยู่ข้างๆโคฮาคุน่ะฮะ” ชิโระบอกทำเอาคนกลัวผีสองคนเกาะกันแน่นราวกับเพื่อนรักกว่า 10 ปี
“พวกนายเนี่ยเวอร์ไปแล้วนะ” มิไรบอก
“.....ก็ทำเป็นมองไม่เห็นไปก็พอ เขาไม่เป็นอันตรายหรอก...ลงลิฟท์แล้วเปิดประตูบานเดียวนั่นแหละห้องพวกเธอ” มายุสุมิบอก
“ครับ” พวกเขารับคำอย่างงๆก่อนจะก้าวไปภายในชั้นมีเพียงทางเดินและประตูบานเดียวโดยติดข้างหน้าว่าห้องVIPสำหรับแขกพิเศษ
“งั้นลองเข้าไปกันเถอะ” มิไรเปิดประตูแล้วเดินนำเข้าไปทันที
“นี่ปล่อยได้รึยังหา!!” ยามิร้องออกมาหลังโดนดึงมามาจนถึงชั้นๆหนึ่งที่มืดมาก
“อื้ม ขอโทษที...” โคฮาคุปล่อยมือพร้อมกับที่ไฟทั้งหมดก็ถูกเปิดขึ้นเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าขนาดใหญ่ภายใต้ท้องฟ้าจำลองที่สวยกว่าท้องฟ้าจริงๆ
“.....สุดยอด.....” ยามิอ้าปากค้างเขาก็ได้ยินนะว่าอาคาชิรวยแต่นึกไม่ถึงว่าจะรวยขนาดสร้างสวนสาธารณะบนโรงแรมที่สูงขนาดนี้ได้
“ผมอยากขอโทษคุณที่มีเรื่องผิดพลาดเลยพามาที่นี่คุณเป็นคนแรกครับที่ได้มาที่ห้องนี้” โคฮาคุยิ้มออกมา
“สวยมากๆ.....แต่ว่าท่าทางแบบนั้นคงมีอะไรแอบแฝงสินะ....” ยามิถามออกมาหลังเหมือนจะเห็นดวงตาของเด็กหนุ่มตรงหน้าทอประกายแปลกๆ
“ครับ...ก้แค่อยากต่อจากเมื่อคราวที่แล้วมห้มันจบๆน่ะครับ....เอาเป็นว่าถ้าผมชนะผมขอสั่งให้คุณทำอะไรก็ได้จนถึงเช้านะครับ” โคฮาคุบอก
“ได้ แต่ว่าถ้าผมชนะ...ผมขอเงินค่าขนม 90 เปอร์เซ็นต์ของนายเป็นเวลา 10 ปี” ยามิบอก
“ได้ครับถ้าคุณชนะล่ะก็นะ” โคฮาคุยิ้มออกมาก่อนจะหยิบกระดานหมากรุกออกมาแล้วทั้งสองก็นั่งลงกับพื้นทันที
“ฮึ เหมือนกันนั่นแหละ” ยามิบอกพลางจัดหมากสีดำของตัวเอง
“ว้าวกว้างชะมัดเลยยยยยยยย” ไอซาวะอ้าปากค้างหลังเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่มีห้องนอนแยกอีก 2 ห้อง
“สุดยอดจริงๆเลย.....งั้นไปจองห้องละน๊า” มิไรวิ่งเข้าห้องๆหนึ่งไปทันที
“เฮ้ย ขี้โกงนี่” โยชิสึนะวิ่งตามมิไรไปทันที
“งั้น ไอซาวะคุงไปนอนด้วยกันนะฮะ” ชิโระดึงมือไอซาวะไปที่ห้องทันที
“นะ...นอนด้วยกัน!!!” ไอซาวะหน้าแดงขึ้นมาด้วยเหมือนเขาจะจิ้นไปไกลกว่าที่คนตัวเล็กต้องการจะสื่อ
“อื้อ นอนกอดกันมันน่าจะอุ่นกว่านอนคนเดียวนี่นา” ชิโระยิ้มร่า
“.........” ไอซาวะตอนนี้หน้าแดงแจ๋เพราะคิดไปไกลมากมาย
“ไม่ๆ ฉันจะไปนอนที่พื้น....” ไอซาวะมองเตียงใหญ่แบบคิงไซส์แล้วเริ่มคิดไปไกลกว่าเก่ามือของเขาถูกยกขึ้นปิดหน้าเอาไว้
“เปรี้ยงงงง” เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นมาทำให้ชิโระพุ่งเข้าไปกอดไอซาวะแน่น
“อะ....ไอ้หน้าสวย.....” ไอซาวะมองร่างเล็กด้วยความตกใจไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะวิ่งเข้ามากอดเขาแบบนี้
“...ขะ..ขอโทษ....คะ..คือ....” ชิโระพูดเสียงสั่นๆร่างบางสั่นเทาด้วยความกลัว
“....นอนกับผมนะ...ไอซาวะ....” ชิโระบอกยังไม่ทันจบก็
“ครืนนนนนน” เสียงฟ้าร้องดังขึ้นทำให้ชิโระกอดเขาแน่นขึ้นกว่าเก่า
“อะ...ตะ...แต่ว่า.....” ไอซาวะยังคงลำบากใจเพราะเขากลัวใจตัวเอง
“....ผมกลัวฟ้าร้อง.....ไอซาวะผมกลัว.....อยู่กับผมนะ...” ชิโระกอดแน่น
“โอเคๆ....แกใจเย็นๆนะ ชั้นจะนอนกับแกก็ได้...” ไอซาวะพยายามปลอบคนตัวเล็กที่กลัวจนใกล้จะร้องไห้อยู่แล้ว
“อืม...ขอบคุณมากนะ...” ชิโระเงยหน้าขึ้นพร้อมยิ้มให้เขาพลางเช็ดน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาสีฟ้าทั้งสองข้าง
“...ไอซาวะเอ้ย....จะรอดคืนนี้ไปมั้ยเนี่ย” ไอซาวะคิดก่อนจะล้มตัวนอนโดยมีชิโระนอนกอดเขาเหมือนหมอนข้าง
“...พ่อครับบลอกผมทีผมควรทำไงดี๊” ไอซาวะกรีดร้องในใจ
“เอ้า มานอนสิ รออะไรอยู่ล่ะ โยชิจัง” มิไรถามขณะที่ตัวเขานอนอยู่บนเตียงนอนคิงไซส์หนานุ่มภายในห้องนอนที่พวกเขาวิ่งมากันก่อน
“.....ฉะ.....ฉันนอนพื้นก็ได้นะ....นายนอนเถอะ...” โยชิสึนะบอกด้วยท่าทางลำบากใจ
“จะไม่ลำบากใจได้ไง คุณอามิโดริมะ.....เล่นหวงซะขนาดนั้น..........” โยชิสึนะคิดถึงใบหน้าของมิโดริมะแล้วเหงื่อตกรัวๆ
“เอางั้นก็ได้ถ้านายนอนพื้น ชั้นก็จะนอนพื้นด้วย” มิไรบอก
“หา!! ทำไมล่ะนายนอนเตียงก็ดีอยู่แล้วนี่” โยชิสึนะถามออกมาพร้อมเหงื่อตกรัวๆเพราะเหมือนเห็นนรกสีเขียว(?)อยู่รำไร
“ก็มันไม่แฟร์กับนายนี่นา โยชิจัง” มิไรร้องบอก
“แต่ว่า.....” โยชิสึนะทำท่าจะบ่ายเบี่ยง
“โยชิจัง นอนด้วยกันก็ได้น่าคิดอะไรมากล่ะผู้ชายด้วยกันต่อให้นายข่มขืนก็ท้องไม่ได้หรอก” มิไรบอกพร้อมยิ้มตาหยี
“.............” โยชิสึนะรู้สึกหมดปัญญาเถียงก็คราวนี้แหละ
“รุกฆาต...ฮานามิยะคุง...ผมชนะ” โคฮาคุกระตุกยิ้มหลังจัดการรุกฆาตอีกฝ่ายหลังผ่านมา 20 นาที
“นะ..นายมันปิศาจชัดๆอะไรกันเนี่ย....” ยามิช็อคเพราะไม่คิดว่าจะมีใครชนะตนได้ง่ายดายขนาดนี้
“จุดที่เลี่ยงอันตรายได้ก็ควรเลี่ยงจุดไหนรุกได้ก็รุก..นี่เป็นสิ่งที่แม่กับพ่อของผมสอน...เอาล่ะผมชนะแล้ว..งั้นตามผมมาสิ” โคฮาคุลุกขึ้นพร้อมขยับรอยยิ้มมุมปาก
“......” ยามิลุกขึ้นตามไปเงียบๆแต่ก็ยังคงรู้สึกระแวงอยู่
“คนที่สูงส่งอย่างอาคาชิ โคฮาคุต้องการอะไรจากเรานะ “ ยามิคิดระหว่างขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม
“นี่มันห้องนอนของผู้บริหารนี่ อย่าบอกนะว่า...” ยามิถอยหลังไปติดขอบลิฟท์ทันที
“คิดอะไรของนาย...ฮานามิยะ ผมไม่ใช่พวกบังคับฝืนใจใครในเรื่องแบบนั้นหรอกนะ..” โคฮาคุยิ้มขำในท่าทางของอีกฝ่ายก่อนจะเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าภายในห้องทำเป็นเบาะนุ่มนิ่มทั้งหมดยกเว้นห้องน้ำ
“นี่มันห้องอะไรกันเนี่ย..” ยามิอ้าปากค้างกับสิ่งที่ไม่เคยเห็น
“.ห้องทดลองน่ะ นายช่วยไปนั่งพิงผนังนิ่มๆนั่นแล้วนั่งนิ่งๆด้วยนะ” โคฮาคุสั่งด้วยรอยยิ้ม
“ได้.....” ยามิเดินไปแล้วทำตามที่อีกฝ่ายบอก
“นุ่มจริงๆแหะเหมือนหนุนหมอนอยู่เลย....” ยามิคิด
“ผมง่วงแล้วจะขอนอนสักหน่อย...เพราะงั้นอยู่นิ่งๆแล้วเป็นหมอนให้ผมซะ” โคฮาคุสั่งก่อนจะล้มลงนอนหนุนตักของยามิทันที
“เฮ้ย!!” ยามิร้องออกมาแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเสียงของคนที่นอนก็ดังขึ้นมาซะก่อน
“ผมจะนอนเงียบด้วยครับ...” โคฮาคุนอนหนุนตักของยามพลางหลับตาลง
“ทำไมกับการแค่ให้ผู้ชายคนเดียวนอนหนุนตัก แกถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้ฟะ ยามิไม่สมเป็นแกเลยโว้ยยยย” ยามิคิดก่อนจะหลับไปในที่สุด
“กว่าจะหลับได้นะ..”โคฮาคุยิ้มพร้อมลืมตาขึ้นก่อนที่นายน้อยแห่งอาคาชิจะลุกขึ้นแล้วอุ้มร่างของอีกคนขึ้นไปนอนที่เตียงกับตัวเอง
“....ฝันดีนะ...ยามิ...”
ความคิดเห็น